ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

มวลสารจากพระพุทธรูป และอธิบดีสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ของวัดระฆังครับ


พอดีอัญเชิญพระกริ่งฯท่านไปอธิษฐานจิตที่วัดระฆัง ตอนค่ำ15เมษายน เทศกาลสรงกรานต์ปีใหม่ไทย
พระสงฆ์ทางวัดกำลังเจริญพระพุทธมนตร์เย็นพอดีแล้วท่านนั่งกรรมฐานกันต่อ ผมได้โอกาสนำพระกริ่งพุทธภูมิคะแนนกรรมการไปเข้าร่วมอธิษฐานด้วย พอเสร็จพิธี ผมนำพระเครื่องผงผ้ายันตร์ และพระแก้วมรกตโลหะไปถวายภิกษุสงฆ์ด้วย แล้วโชคดี อธิบดีสงฆ์ในที่นั้นเมตตาอธิษฐานจิตให้อีกนานพอสมควร ได้ถวายพระเครื่องผงพระแก้วมรกตพุทธภูมิท่านประมาณ500องค์ครับ ก่อนออกจากโบสถ์ ผมก็นึกถึงมวลสารการสร้างพระสมเด็จที่วัดระฆังคงศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าได้มาคงจะโชคดีมาก เราจะนำมวลสารกุศลมงคล108ไปถวายท่านเจ้าคุณเที่ยงฯเจ้าอาวาสดีกว่า ถ้ามีโอกาสภายหลัง พอออกมาจากโบสถ์
เจ้าหน้าที่ทางวัดเขาก็กำลังทำความสะอาดประจำปีเตรียมอัญเชิญพระพุทธรูป และรูปหล่ออดีตอธิบดีสงฆ์ของวัดระฆัง3องค์(มีองค์นวโลหะสมเด็จโตที่เขา บอกว่าอายุกว่า120หรือ130ปีแล้วด้วยครับ อีกองค์ท่านสร้างพระสมเด็จหัวค้อน อีกองค์ชื่อท่านเจริญหรือไงกระมังครับ)ก่อนเข้าวิหาร โดยจะมีการขัดลอกเอาทองที่ประชาชนศรัทธาพุทธศาสนิกชนปิดไว้ตลอดปีออกมาจาก รูป เพื่อเตรียมท่านไว้สำหรับการปิดทองในรอบปีใหม่ ปกติไม่เปิดให้สาธารณชนทำหน้าที่นี้ เย็นค่ำนั้นผู้คนน้อยลงแล้ว ผมได้มีโอกาสสรงน้ำท่านทั้ง4องค์และขัดลอกเอาทองที่ปิดไว้ออกมา มีจำนวนอาจจะไม่มากแล้วเข้าใจว่ามีการทำความสะอาดกันมาก่อน เจ้าหน้าที่ท่านอนุญาตเอาเศษทองที่ไหลตามน้ำกำลังลงจากกะบะที่รองพระพุทธรูป และที่ติดอยู่ตามองค์พระพุทธรูป พระสังข์กระจาย สมเด็จโต และสมเด็จองค์อื่นๆ ฯลฯ เก็บเอาไปบูชากัน ผมก็พอได้มาบ้างไม่มีที่เก็บเลยหยิบใส่กระเป๋าเสื้อ พอกลับมาบ้านรวบรวมบางส่วนใส่ถุงพลาสติกเพื่อไปผสมลงเป็นมวลสารกุศลมงคล108ต่อไปบ้าง บางส่วนก็นำมาปิดไว้ที่องค์พระกริ่งดังในรูปที่เห็นครับ เศษทองจะมีความเหนียวเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันที่เขาทาไว้ให้ทองติดรูปได้ง่ายขึ้นครับ มวลสารจากพระพุทธรูป และอธิบดีสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ของวัดระฆังครับ

 

_()_ _()_ _()_

สาธุค่ะพี่มุ่ง

 

​

ความคืบหน้าและเรื่องย่อหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 วันแม่พอดีเลย

ชื่ออื่นๆ :
ชื่อไทย :
ผู้กำกับ : ม. จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล
ผู้แต่ง :
วันเข้าฉาย : 12/08/2010
ประเภท : Action, History, War, Biography
ความยาว :
สถานที่ถ่ายทำ : Thailand
ภาษา : ไทย

เนื้อเรื่องย่อ
การประกาศเอกราชที่เมืองแครง และสังหารสุรกำมาเหนือยุทธภูมิฝั่งน้ำสะโตงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (หรือสมเด็จพระนเรศ) ในปีพุทธศักราช 2127 ได้สร้างความตระหนกแก่พระเจ้านันทบุเรงองค์ราชันหงสาวดีพระองค์ใหม่ ด้วยเกรงว่าการแข็งข้อของอยุธยาในครั้งนี้ จะเป็นเยี่ยงอย่างให้เหล่าเจ้าประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดีอาศัยลอกเลียนตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่จนพระทัยด้วยติดพันศึกอังวะ จึงจำต้องส่งเพียงทัพพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ทางหนึ่งนั้นพระเจ้านันทบุเรงทรงประมาทสมเด็จพระนเรศ ด้วยเห็นว่ายังอ่อน พระชันษา คงมิอาจรับมือจอมทัพผู้ชาญณรงค์ทั้งสองได้ ทางหนึ่งก็สำคัญว่ากรุงศรีอยุธยายัง บอบช้ำแต่คราวสงครามเสียกรุง ไพร่พลเสบียงกรังยังมิบริบูรณ์คงยากจะรักษาพระนคร

ครั้งนั้นพม่ารามัญยกเข้ามาเป็นศึกกระหนาบถึง 2 ทาง ทัพพระยาพะสิมยกเข้ามาทาง ด่านพระเจดีย์สามองค์ เลยล่วงเข้ามาถึงแดนสุพรรณบุรี ส่วนพระเจ้าเชียงใหม่-นรธาเมงสอ มาจากทางเหนือ นำทัพบุกลงมาตั้งค่ายถึงบ้านสระเกศ แขวงเมืองอ่างทอง

กิตติศัพท์การชนะศึกของสมเด็จพระนเรศหลายครั้งหลายคราระบือไกลถึงแผ่นดินละแวก เจ้ากรุงละแวกมิได้ทอดธุระ ได้ลอบส่งจารชนชาวจีนฝีมือกล้านามว่า “จีนจันตุ” มาลอบสืบความ ที่กรุงศรีอยุธยาแต่ถูกจับพิรุธได้จนต้องลอบตีสำเภาหนีกลับกรุงละแวก สมเด็จพระนเรศทรงนำทัพเรือออกตามจนเกิดยุทธนาวี แต่พระยาจีนจันตุหนีรอดได้ เมื่อเจ้ากรุงละแวกได้ทราบกิตติศัพท์การณรงค์ของพระนเรศจึงเปลี่ยนพระทัยหันมาสานไมตรีกับอยุธยา และส่งพระศรีสุพรรณราชาธิราชผู้อนุชามาช่วยอยุธยาทำศึกหงสา หากแต่พระศรีสุพรรณผู้นี้ต่างจากเจ้ากรุงละแวกเพราะหาใคร่พอใจผูกมิตรด้วยอยุธยา การได้พระศรีสุพรรณมาเป็นสหายศึกจึงประหนึ่งอยุธยาได้มาซึ่งหอกข้างแคร่
ข้างสมเด็จพระนเรศเมื่อทรงประกาศเอกราชแล้วก็จัดเตรียมการรับศึกหงสาวดี แต่เพราะกำลังรบข้างอยุธยาเป็นรอง จึงทรงวางยุทธศาสตร์รับศึกโดยมุ่งอาศัยกรุงศรีอยุธยาเป็นที่มั่นเพียงแห่งเดียว ครั้งนั้นได้โปรดให้เทครัวหัวเมืองเหนืออันเป็นแคว้นสุโขทัยเดิมลงมารวมกับครัวที่อยุธยา การณ์ปรากฏว่าเจ้าเมืองพิชัย และสวรรคโลกข้าหลวงเดิมแข็งเมืองไม่เทครัวลงมาสมทบ จึงทรง ยึดเมืองแล้วลงทัณฑ์มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

สมเด็จพระนเรศทรงเห็นว่ากำลังข้างอยุธยายังเป็นรองพม่ารามัญ จึงทรงปรับเปลี่ยน ยุทธศาสตร์การรบเสียใหม่ โดยมิปล่อยให้ทัพพระยาพะสิมและนรธาเมงสอเจ้าเมืองเชียงใหม่ เข้ามารวมกำลังผนึกล้อมร่วมกันตีกรุงศรีอยุธยา ครั้งนั้นทรงจัดทัพออกรับศึกในแขวงหัวเมือง แลด้วยทัพพม่ารามัญแยกสายเข้าตีเป็นสองทางเดินทัพช้าเร็วไม่เสมอกัน จึงทรงเทกำลังเข้ารับศึกพระยาพะสิมที่เมืองสุพรรณบุรี ตั้งพระทัยจะตีทัพเบื้องประจิมทิศก่อน แล้วจึงเทกำลังเข้าตีทัพพระเจ้าเชียงใหม่เบื้องอุดรทิศภายหลัง การทั้งหมดทั้งสิ้นต้องทำแข่งกับเวลา หากพลาดท่า แม้เพียงก้าวอยุธยาก็ไม่พ้นพินาศ ถึงแม้ครั้งนั้นทัพพม่ารามัญจะมิได้ยกมาดั่งทัพกษัตริย์เช่นศึกพระเจ้าช้างเผือกบุเรงนอง แต่ไพร่พลก็มากเหลือประมาณ เพียงพอจะสร้างความย่อยยับให้ เหล่าอาณาประชาราษฎร์เกินคาดเดา

ภายใต้บรรยากาศกลิ่นอายสงครามนับแต่ศึกจีนจันตุ ตลอดถึงศึกพระยาพะสิมและ ศึกพระเจ้าเชียงใหม่ ในพระนครก็เกิดไฟรักโชติขึ้นท่ามกลางไฟสงคราม กลายเป็นเรื่องรักระหว่างรบ ด้วย “เลอขิ่น” ธิดาเจ้าเมืองคัง มีอันมาพบ “เสือหาญฟ้า” คนรักเก่าที่รอดชีวิตมาแต่ศึกเมืองคัง โดยบังเอิญ เกิดขัดข้องเป็นรักสามเส้ากับ “พระราชมนู” คนรักใหม่ทหารเสือพระนเรศ ไฟรักยิ่งลุกลามเมื่อนางพระกำนัลทรงเสน่ห์นาม “รัตนาวดี” มาทอดไมตรีให้พระราชมนู เกิดเป็นปมรัก ซ้อนปมรบ

ทางฝ่ายหงสาวดีนั้น พระเจ้านันทบุเรงกษัตริย์พม่ารามัญพระองค์ใหม่มีใจพิศวาส พระสุพรรณกัลยา-พระพี่นางในสมเด็จพระนเรศ หมายจะได้มาแนบข้าง ซ้ำพระนเรศอนุชา มาประกาศเอกราชท้าทายอำนาจของพระองค์ ทำให้สถานะของพระสุพรรณกัลยาในฐานะ องค์ประกันต้องสุ่มเสี่ยงต่อราชภัย พระสุพรรณกัลยาซึ่งขณะนั้นมีพระราชโอรสด้วยพระเจ้าบุเรงนองแล้ว ทรงถูกพระเจ้านันทบุเรงข่มขู่ บีบบังคับให้ต้องเลือกระหว่างการยอมพลีกายถวายตัวเป็น บาทบริจาริกา หรือยอมจบชีวิตด้วยการถูกย่างสดตามโทษานุโทษของพระอนุชา ชะตากรรมของพระพี่นางสุพรรณกัลยานั้นสุดรันทด

เมื่อพระเจ้าหงสาวดีทรงเสร็จศึกอังวะก็เตรียมการเปิดศึกกับอยุธยา ทรงระดมไพร่พล แต่งเป็นทัพกษัตริย์ กองทัพใหญ่โตเหลือคณากว่าทัพบุเรงนองช้างเผือก เฉพาะไพร่ราบมีกำลัง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 240,000 คน ทัพนี้หมายมุ่งบดขยี้อยุธยาลงเป็นผุยผงหากทัพพระยาพะสิมและทัพพระเจ้าเชียงใหม่ตีกรุงไม่สำเร็จ แต่สมเด็จพระนเรศก็สู้ศึกนันทบุเรงและนำพากรุงศรีอยุธยา ให้รอดจากภัยสงคราม กู้บ้านเมืองมิให้ต้องตกเป็นประเทศราชหงสาซ้ำสองได้ด้วยกุศโลบาย การศึกที่เหนือชั้นด้วยพระอัจฉริยภาพ




ค่ายผู้ผลิต
1. พร้อมมิตรโปรดักชั่น

 

รู้มาว่าตนเองเป็นทหารพระองค์ดำ, พระเจ้าตาก และรัชกาลที่๕ (ซินแส ตาทิพย์ ทั้งหลายเล่าให้ฟัง)
ทั้งสามชาติ เป็นทหารรักษาพระองค์ (ให้กับพระบรมโพธิสัตว์)
มีหน้าที่คอยป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาประชิดถึงตัวพระเจ้าอยู่หัว
ก็เลยมีโอกาสร่วมรบในสงครามหลาย ๆ สงคราม รวมทั้งสงครามยุทธหัตถีด้วย

ถึงว่า เวลาดูหนัง เสียกรุง ก็จะรู้สึก in กับเรื่องราวในท้องเรื่อง
และชอบ อาวุธ โบราณ ในบ้านต้องมีดาบไว้ในครอบครอง สนใจประวัติศาสตร์เรื่องราวในอดีต
มีพฤติกรรม เคลื่อนไหวกับแนวร่วมกู้ชาติ ปกป้องสถาบัน
ใครที่มีพฤติกรรมทำนองนี้ ก็ให้สงสัยได้เลยว่าอดีตชาติ เคยเป็นทหารเก่ามาก่อน
มันเป็นสัญญาเดิม

 

ท่านจำรูปเจดีย์ภูเขาทอง ปิรามิด ที่มีผ้าเหลืองตราธรรมจักรห่มรอบได้ไหม
นั่นแหละที่ข้าไปช่วยงานอาจารย์ห่มผ้า

และอาจารย์ก็มีภาพพระนเรศวร ข้าก็เลยถามว่าเหมือนกี่% อาจารย์ตอบว่าเหมือนพระองค์จริง ๙๐ -๙๕% อาจารย์บอกว่าพระนเรศวร เป็นนักรบหน้านาง ต่อมามีการปลุกเสกผ้ายันต์พระนเรศวร ข้าก็เลยส่งรูปไปให้คณะผู้ออกแบบ ก็ได้ออกมาเป็นผ้ายันต์พระนเรศวรตามรูปที่ข้าได้ส่งไปให้

หลายปีก่อนนู้น อาจารย์เคยบอกว่าประเทศไทย ประชาชนจะแบ่งแยกออกจากกัน เหมือนคนละขั้ว เหมือนขาวกับดำ วันนี้จึงได้ประจักษ์แก่สายตา ท่านบอกให้พวกเราสวดมนต์ให้ในหลวงกันเยอะ ๆ

 

ยินดีด้วยครับ ที่ได้เจอกันอีก

 

"สุวิทย์"เลือกป่าเขาอีโต้1หมื่นไร่ทำพุทธอุทยานโลกปลายปี

"สุวิทย์"เลือกป่าเขาอีโต้1หมื่นไร่ทำพุทธอุทยานโลกปลายปี

รม ว.ทรัยากรฯ เผยเลือก1หมื่นไร่ป่าสงวนเขาอีโต้ปราจีนบุรี สร้างพุทธอุทยานโลก จัดงบ8แสนบาท-รับบริจาค ปลายปี'53เริ่มได้ นโยบายให้สงฆ์อยู่กับป่าวันนี้(21 เม.ย.) ที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เผยระหว่างเป็นประธานลงนามความร่วมมือการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก ระหว่างกรมป่าไม้กับมูลนิธิพุทธอุทยานโลก ว่า หลังจาก ทส.มีนโยบายให้พระสงฆ์อยู่ร่วมกับป่าได้ ตามโครงการธรรมะเพื่อธรรมชาติ พร้อมกับมีการตั้งพุทธอุทยานกว่า 6,000 แห่งไปแล้วทั่วประเทศ
ขณะนี้ยังมอบหมายให้กรมป่าไม้และ มูลนิธิพุทธอุทยานโลก ได้ร่วมกันจัดตั้งพุทธอุทยานโลก บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติน้ำตกเขาอีโต้ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เพื่อเป็นพื้นที่พิทักษ์อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และการเผยแพร่ธรรมะของชาวพุทธระดับโลกหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์ คของชาวพุทธ
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า การจัดตั้งพุทธอุทยานโลกจะเป็นศูนย์กลางของ ชาวพุทธจะเหมือนกับเมกะของศาสนาอิสลามหรือสำนักวาติกันของศาสนาคริสต์ ทั้งนี้รูปแบบของพุทธอุทยานจะไม่เน้นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่จะมีเพียงตัว อาคารที่เป็นศูนย์กลางหนึ่งหลัง เป็นที่ปฎิบัติธรรมและใช้ค้นคว้า ความรู้ทางพระพุทธศาสนา นอก จากนี้ขณะนี้ได้มีผู้แจ้งความจำนงจะขอเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้างสังเวชนีย สถานทั้ง 4 ขนาดเท่าของจริงในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และในเร็วๆ นี้ ตนจะเดินทางเข้ากราบนมัสการ พระธรรมโฆษาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยถึงการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก
เนื่องจากก่อนหน้านี้พระธรรมโฆษาจารย์ ได้แจ้งให้ทราบว่ามีองค์กรชาวพุทธจากประเทศต่างๆ มีความประสงค์ที่จะมาสร้างวัด และสถานที่ปฎิบัติธรรมในพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งเดิมไม่มีพื้นที่รองรับแม้แต่กระทั่งพุทธมณฑล จ. นครปฐม แต่ขณะนี้เรามีพุทธอุทยานโลกแล้ว พร้อมที่จะให้ชาวพุทธจากต่างชาติเข้ามาสร้างวัดและสิ่งสำคัญทางพุทธศาสนาใน พื้นที่ดังกล่าวได้แล้ว
"สำหรับงบประมาณในการดำเนินการขณะนี้มี ทุนประมาณ 8 แสนบาท โดยจะขอรับบริจาคจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในการก่อสร้าง และในช่วงปลายปี 2553 การก่อสร้างน่าจะเริ่มขึ้นได้ ส่วนระยะเวลาที่จะเสร็จเชื่อว่าคงไม่นาน เพราะประชาชนไทยมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจากนี้ก็จะมีการประกวดการออกแบบตัวอาคารปฎิบัติธรรมที่จะใช้ เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาโลก โดยให้ประชาชนส่งแบบมาที่กรมป่าไม้ ทั้งนี้หวังพุทธ อุทยานโลกจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนจะต้องมาสักครั้งหนึ่งก่อนตาย และจะทำให้ทุกคนคิดว่าก่อนตายจะต้องมายังสถานที่แห่งนี้ให้ได้ และไม่ใช่คนไทยเท่านั้น แต่ชาวพุทธทั่วโลกก็จะต้องมา" นายสุวิทย์ กล่าว
ที่มา www.bangkokbiznews.com วันที่22/04/2010

 

รายงานตัวครับ ไช่ป่าวไม่รุ
มีอยู่วันนึง คนบ้า เบ้ามาในบ้าน
เค้าบอกว่า เรา ร่วมรบด้วยกัน
โคตร น่ากลัวเลย ตัวไหญ่มาก
ขนาดผมสูง 180 ยังได้แค่คางเค้าเอง
นั่นและที่มา

 

จำได้ค่ะ ท่านฯ
ขอชมรูปยันต์ได้ไหมคะ
อ่านข่าวบ้านเมืองแล้วก็อ่อนใจ ค่ะ
เหนื่อยใจ ๆๆ อย่างไรไม่รู้ค่ะ

 

ดีจัง ได้เพื่อนใหม่อีก 2 คน

ยินดีต้อนรับครับ

 

พูดถึงเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง มีใครจะไปวัดพระแก้ววันอาทิตย์นี้บ้างครับ ไปสวดคาถาพาหุงฯ 9 จบให้ประเทศ

 

๕๐๐ ปีที่ยังจดจำความได้
ทำไมเกิดมาชาติไหน
บ้านเมืองก็อยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดทุกทีหนอ
แล้วสุดท้าย ก็ต้องตัดสินสินใจ เข้าร่วมกองทัพกู้ชาติ
ประวัติศาสตร์ ซ๊ำรอยอีกแล้ว..
กำราบพวกมารครองเมืองไปเสร็จสรรพ
บ้านเมืองก็ร่มเย็นเป็นสุขมาได้สัก ๑๐๐-๒๐๐ ปี
มารมันก็โผล่มาแผลงฤทธิ์อีกแล้ว..

 

ติดงานบวงสรวงของพระอาจารย์ยุคลธรณ์ ที่สำนักเจโตวิมุติ ตลิ่งชันครับ และไถ่ชีวิตโคกระบือ289ตัวครับ
งานบุญใด ท่านใดไปไม่ได้น้อมอนุโมทนาก็ได้ครับ และขออุทิศให้ผลบุญกุศลคุ้มครอง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยดีงามครับ

 

ดีครับมีอาจารยืท่านบอกมาว่าผมเคยเป็นทหารรักษาพระองค์พระองค์ดำมีศักดินาเป็นพระยาจักรีใครบอกได้ช่วยบอกด้วยนะครับว่าเป็นอย่างนั้นหรือป่าวคืออยากทราบอ่ะครับ

 

มีคนเคยบอกว่าผมเคยเป็นทหารรักษาพระองค์ของพระองค์ดำเป็นพระยาจักรีและมีเพื่อนอีก2คนเป็นออกญา

 

สาธุครับท่านมุ่งฯ

 

ยินดีต้อนรับครับ เรื่องพระยาจักรีนี่ไม่แน่ใจนะครับว่าพี่จะโดนอำรึเปล่า ลองเอาประวัติไปอ่านเล่นๆก่อนแล้วกัน จะได้ไม่อยากเป็นพระยาจักรี

เหตุการณ์ ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1

ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กษัตริย์พระองค์ที่ 15 ของอาณาจักรอยุธยา ได้ทำสงครามกับพระเจ้าบุเรงนองของพม่า คือสงครามช้างเผือก ผลปรากฏว่าอยุธยาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อยุธยาจำต้องเสียช้างเผือกไปถึง 4 เชือก ให้พระราเมศวร พระราชโอรสองค์โตในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระสุริโยทัย, พระสุนทรสงครามและพระยาจักรีไปเป็นตัวประกัน
ต่อมา สมเด็จพระไชยเชษฐาแห่งอาณาจักรล้านช้าง ได้ส่งสาส์นมาสู่ขอพระเทพกษัตรี พระธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิไป สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักร จึงได้พระราชทานไป<sup id="ref_2" class="plainlinks">[2]</sup> แต่ระหว่างทางกลับถูกพม่าชิงตัวไป เพราะพระมหาธรรมราชาได้แจ้งข่าวแก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ในปี พ.ศ. 2111 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสด็จสวรรคต ในช่วงของสงครามครั้งนี้ สมเด็จพระมหินทราธิราชจึงเสด็จขึ้นครอง บ้านเมืองในปกครองของกรุงศรีอยุธยา แม้กระทั่งเมืองพิษณุโลกสองแคว แต่ก็ยังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาให้แตกได้โดยเร็ว สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง ได้เสด็จยกมาช่วย แต่ก็ถูกพม่าตีแตกพ่ายที่สระบุรี พระยาจักรี เป็นผู้เห็นแก่ทรัพย์ที่พระเจ้าบุเรงนองประทานให้ผู้ที่คิดแผนตีกรุง ศรีอยุธยาลงได้ จึงเสนอตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ในพระนคร ทำทีเป็นว่าลอบหนีมาจากกรุงหงสาวดีได้ พระมหินทราธิราชไว้พระทัยต่อพระยาจักรี จึงทรงให้ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ พระยาจักรีจึงวางอุบายให้ทหารที่มีความสามารถไปประจำกองที่ไม่มีความสำคัญ และให้ทหารที่ไร้ฝีมือมาเป็นทัพหน้ารบกับกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง แม่ทัพนายกองที่พอจะมีฝีมือก็หาเรื่องใส่ความให้ต้องโทษขังหรือเฆี่ยน เพียงไม่นานนัก กรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พม่าเป็นครั้งแรก
ต่อมา พระยาจักรีกลับไปเข้าเฝ้าพระเจ้าบุเรงนอง พระองค์ทรงมีพระราชโองการให้ประหารชีวิตพระยาจักรี เนื่องจากการเป็นกบฎ กล่าวคือ พระยาจักรีนั้น ทำได้แม้กระทั่งทรยศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง แล้วต่อไปในภายภาคหน้าก็คงจะสามารถทรยศกรุงหงสาวดีได้เช่นกัน โดยตอกมือไว้กับหีบของรางวัลที่บุเรงนองประทานให้แล้วจับถ่วงน้ำ

 

มารายงานตัวอีกแล้วจ้า หลังจากหายไปพักใหญ่ๆ พอดีไปอ่านเจอเหมือนกันค่ะท่านวิสุทธ์ ก็เลยก๊อปมาฝากจากคอลัมภ์ของคุณเปลว สีเงินค่ะ

วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ นี้ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. จะมีพระอริยสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ที่ "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" หรือวัดพระแก้ว ในพระบรมมหาราชวังนั่นแหละ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมในพิธีด้วย
ท่านใดจะไปก็เตรียมธูป ๙ ดอก เทียนขาว ๑ คู่ ไปด้วย และที่สำคัญแต่งกายให้สุภาพ ในพระบรมมหาราชวังท่านก็คงทราบ สุภาพสตรีห้ามนุ่งกางเกง หรือกระโปรงสั้น พูดง่ายๆ คือ ห้ามแต่งตัวโป๊ไปวัด ควรสวมกระโปรงยาว หรือผ้าถุง เสื้อผ้ามิดชิด ผู้ชายก็ควรสวมเสื้อขาว ไม่ควรใส่รองเท้าแตะไป
ก็มีหลายท่านฟอร์เวิร์ดมาบอก ผมก็นำมาบอกต่อ เพื่อมงคลแก่ตัวเอง และแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ตื่นกันแต่เช้า แล้วไปที่วัดพระแก้วนะครับ อย่าลืม พรุ่งนี้-วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษา เป็นประเพณีดีงามสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล
และวันที่ ๒๕ เมษายน ตรงกับวันสำคัญอะไรอีกอย่างท่านทราบไหมครับ ก็คือเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ ๔๐๕ ปีล่วงมาแล้ว และทุกครั้งที่ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" ทรงออกทำศึก พระองค์จะสวดมนต์บท "พาหุง-มหากา" อย่างที่จะสวดกัน ณ วัดพระแก้วพรุ่งนี้แหละ.

สวดแล้วแต่สวดได้แค่ 3 จบเอง จะพยายามหาเวลาไปสวดต่อคืนนี้ค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ

ที่มา http://www.thaipost.net/news/240410/21233

 

รายงานตัวครับ

 

เมื่อเช้าตื่นไปไม่ไหวเพราะเมื่อวานไปผ้าป่าที่ปากช่อง พอดีทาง กฟผ เขาจัดผ้าป่าเพื่อเอาเงินไปสร้างเสาไฟฟ้าแล้วเดินสายไฟเข้าสำนักปฏิบัติธรรมของหลวงปู่อุทัย ได้ยอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 1,03x,xxx (จำเศษไม่ได้ แต่เขียนเป็น xxx เอาไว้จะได้ไม่มีใครเอาตัวเลขไปแทงหวย 555) ยังไงก็มาร่วมอนุโมทนากันนะครับ

เมื่อเช้าเลยนั่งร่วมพิธีอยู่ที่บ้าน ฟังดูแล้วพิธีนี้เขามีอะไรแอบแฝงอยู่เหมือนกันนะครับ ถ้าฟังคำอธิฐานดีๆ ดูเหมือนเขาจะช่วยกันสวดมนต์เพื่อขออำนาจพุทธคุณไปถอนคุณไสยที่ไอ้พวก...........ทำเอาไว้ ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆครับ ผมเลยช่วยนั่งสมาธิไป สวดไปเต็มที่เลย

มีข่าวรายงานมาว่าการที่ไปตั้งเวทีที่ราชประสงค์ก็มีเรื่องคุณไสยมาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งการตั้งเวที แถมตอนนี้ที่เอาไม้ไผ่มาเหลาปลายให้แหลมแล้วเอามาชี้ขึ้นฟ้าเพื่อตั้งเป็นกำแพง อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกัน

ว่างๆไม่มีอะไรทำก็ช่วยกันท่อง "สัมปจิตฉามิ" นะครับ เป็นคาถาสนองกลับคุณไสยที่เขาทำมา ยิงกลับไปให้หมดทั้งคนทำและคนสั่ง

สาธุ....