ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

สัมผัสได้และเข้าใจดีในจิตอันมีเมตตาของคุณเวฬุวันนะคะ...เป็นของธรรมดา เจ้าหนี้เรามิได้มีรายเดียว แต่เขาจะเข้าแถวกันมาตามวาระของเขา หมดรายนี้ก็จะมีรายใหม่ เป็นของธรรมดา...

จิตที่มีอภัยทานของคุณเวฬุวันเป็นใบเบิกทางที่ดีแล้วล่ะค่ะ..เมื่อได้พบกับเจ้ากรรมนายเวรของเรา พึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเมตตา เพราะที่จริงแล้ว เราเป็นผู้กระทำเขามาก่อน จึงมิสมควรปฏิบัติต่อเขาอย่างผู้ร้าย การที่เขามาปรากฏให้เรารับรู้ได้อย่างนี้ ก็คือ เขากำลังจะให้โอกาสเราได้แก้ไขในสิ่งที่เคยผิดพลาดแล้ว...

ณ เวลานี้ไม่มีอีกแล้ว การกระทำต่อเขาเพราะหน้าที่ต่อบ้านเมือง มันมีเหลือเพียง "ผู้กระทำ" กับ "ผู้ทุกข์เพราะถูกกระทำ" เท่านั้น ไม่ว่าเหตุที่เราได้ลงมือทำนั้นจะเพื่อสิ่งใด..ผลก็คือมีผู้รับทุกข์ จิตจึงต้องถอดถอนออกจากเหตุที่เรากระทำนั้นเสียด้วย จิตจึงจะมีความอ่อนน้อมยอมรับต่อความผิดนั้นโดยแท้จริง..เมื่อจิตอ่อนน้อมแล้ว ก็ค่อยๆ คุยกับเขา ให้เขาเห็นโทษของการผูกพยาบาท อาฆาต และเห็นคุณของการให้อภัยทาน...ถ้าหากไม่สามารถคุยเองได้ ก็ควรเข้าพบครูบาอาจารย์ ให้ท่านเทศน์ให้วิญญาณเหล่านั้นได้รับฟัง เพราะลึกๆ แล้ว เชื่อว่า เขาเองก็ได้รับความทุกข์มาแสนนาน เพราะจิตที่ผูกโกรธนั้น และคงไม่ปรารถนาที่จะแบกทุกข์ต่อไปอีกแน่

อย่าวิตกเลยนะคะ เรื่องเขาจะมาขัดขวางหนทางธรรม เพราะเราเองก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว...ที่เหลือนอกนั้นคือการวาง...ขอให้คุณโชคดีค่ะ และขอโมทนาในการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์และจิตอันเป็นกุศลของคุณด้วยนะคะ

 

เสียดายมากครับ ผมก็ไม่มีเบอร์ โทรศัพท์มันหายไปเครื่องนึง ก็คิดคอยว่า เผื่อพวกน้องๆที่มีเบอร์เราเขาจะโทรมา
เตรียมมวลสารพกไปด้วยครับ
ไม่ได้นอนทั้งคืน นั่งรถตู้ไปพิษณุโลก ประชุมทั้งบ่ายเลยครับ
ตกค่ำ เข้าที่พักได้ ก็เจอแต่เบอร์๋พิษณุ ลองโทรไป ก็ไม่มีเบอร์คณะที่พิษณุโลกเลย หาใครที่มีเบอร์ก็ไม่มี
เนตก็ไม่ได้เข้า ว่าจะหาทางฝากมวลสารไว้ก็ไม่สำเร็จ รุ่งขึ้นก็ไปประชุม ดูสถานที่ทั้งวันกลับถึงบ้านกทม.เที่ยงคืนเลย
เสียดายมากครับ

ต้องหาทางส่งมอบมวลสารสร้างพระพุทธรูปกันใหม่ครับ

ตอนนั่งรถไปพิษณุโลก ต้นไม่หลัง ป้ายหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ที่ว่ายินดีต้อนรับสู่พิจิตร เจอพายุล้มระเนนระนาดเป็นแนวยาว รถต้องหลบไปวิ่งอีกฝั่ง

ตอนนั่งหลับๆตื่นๆ ได้ยินเสียงใสๆแหลมๆ ว่า เหลือๆๆๆๆๆ
ฟังแล้วสบายดีครับ

ไปถึงที่พิษณุโลก เจ้าหน้าที่โทรศัพท์จังหวัด พิษณุโลก เขาแนะนำพนักงานขับรถ ไปไหว้หลวงพ่อเหลือ ระหว่างที่ผมประชุม ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้

ได้ฝากปัจจัยไปร่วมทำบุญด้วยครับ

สาธุๆๆ

 

..............ยังขอตามโมทนากุศลที่พี่มุ่งทำอยู่น่ะครับ สาธุ สาธุ สาูธุ .....................

 

คิดถึงพี่ชยา ลูกสาวเป็นอย่างไรบ้างคะ คุณพ่อมือใหม่

 

ฮือฮาเลขมหัศจรรย์ 33 นำโชค


http://palungjit.org/threads/ฮือฮาเลขมหัศจรรย์-33-นำโชค.262205/



ปาฏิหาริย์เลข "33" ภารกิจกู้ชีพครั้งประวัติศาสตร์ของโลกตรงกันหลายจุด ทั้งจำนวนคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดิน 33 คน, เส้นผ่าศูนย์กลางแคปซูลกู้ภัย 66 ซม. คือ 2 เท่า ของ 33, การขุดอุโมงค์แนวตั้งใช้เวลา 33 วันแล้วเสร็จ, วันที่ช่วยชีวิตสำเร็จตรงกับ 13/10/10 บวกกันได้ 33 รวมทั้งจำนวน ตัวอักษรของจดหมายขอความช่วยเหลือนับรวมได้ 33 ตัว ด้านประธานาธิบดีชิลีสุดตื้นตัน ปิดฉากภารกิจกู้ภัยนำคนงานขึ้นสู่ผิวโลกได้ทั้งหมด ถือเป็นความสำเร็จของ “ชิลี” ทั้งมวล ลั่นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ผู้นำทั่วโลกร่วมชื่นชม ส่วนคนงานทั้งหมดส่งตรวจสุขภาพแล้ว คนแข็งแรงได้รับอนุญาตให้กลับบ้านก่อน ผู้ป่วยไม่กี่รายรอดูอาการ ขณะที่คนไทยตื่นเต้นด้วย คอหวยเตรียมหาซื้อลอตเตอรี่เลขท้าย “33” แบบยกแผง ขณะที่เจ้ามือหวยใต้ดินผวาอาจอั้นจ่ายครึ่งหรือไม่รับเลย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเหมือง ซานโฮเซ่ ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ว่า ในที่สุดภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการช่วยเหลือคนงานเหมืองใต้ดินทั้ง 33 คน ที่ติดอยู่ในเหมืองทองคำและทองแดง ยาวนานที่สุดในโลกถึง 69 วัน หรือเกือบ 10 สัปดาห์ หลังเหตุเหมืองถล่มปิดทางเข้าออก ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยท่ามกลางความยินดีของญาติมิตร ประชาชนในประเทศชิลี รวมถึงคนทั่วโลก ซึ่งให้ความสนใจกับภารกิจช่วยเหลือด้วยการขุดเจาะอุโมงค์แนวตั้ง และส่งแคปซูลกู้ชีพลงไปในปล่อง สามารถนำคนงานเหมืองขึ้นมาได้คนแรก เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับคนงานเหมืองคนสุดท้ายคือนายหลุยส์ อูร์ซัว อายุ 54 ปี หัวหน้าคนงาน ก็ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้สำเร็จ เสร็จสิ้นภารกิจ 22 ชั่วโมงของการกู้ภัยและดึงแคปซูลบรรจุคนงานขึ้นมาได้ทีละคน ทิ้งระยะห่างประมาณ 30 นาทีในภารกิจของแต่ละคน หลังต้องเผชิญกับความมืดและอับชื้นอยู่ภายในเหมืองใต้ดิน ซึ่งอยู่ลึกลงไปประมาณ 622 เมตร หรือ 2,041 ฟุต แต่ภารกิจยุติอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 00.35 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 14 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 10.35 น. วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย เมื่อสามารถดึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย 6 คนสุดท้ายขึ้นมาสู่พื้นผิวด้านบนได้เรียบร้อยทั้งหมด หลังพวกเขาถูกส่งลงไปช่วยในการเตรียมการกู้ชีพคนงาน

ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนร่า แห่งชิลี กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ จากเหมืองซานโฮเซ่ แพร่ภาพไปทั่วประเทศ หลังจากคนงานเหมืองทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ด้วยความชื่นชมยินดี ว่า คนงานเหมืองเหล่านี้เหมือนได้ผ่านประสบการณ์ตายแล้วเกิดใหม่ ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้เป็นปฏิบัติการที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั่วโลก พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวยกย่อง คนงานเหมืองคนสุดท้าย คือ นายหลุยส์ อูร์ซัว หัวหน้าคนงานสำหรับการทำหน้าที่ ได้อย่างดีเยี่ยม ที่ส่งลูกน้องทุกคนขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยก่อน คล้ายกับเป็นกัปตันเรือที่จะต้องสละเรือเป็นคนสุดท้าย

ส่วนบรรยากาศทั่วไปในชิลี มีการปล่อยลูกโป่งสีแดง ขาว น้ำเงิน ซึ่งเป็นสี ธงชาติชิลีขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อแสดงความยินดีเมื่อคนงานเหมืองคนสุดท้ายได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้สำเร็จ เช่นเดียวกับผู้คนทั่วโลก ประมาณ 1 พันล้านคนที่เฝ้าติดตามชมภารกิจสำคัญนี้ ผ่านทางรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ และเครือข่ายในระบบอินเทอร์เน็ต แม้แต่ประ ธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ประธานาธิบดีหลุยซ์ อินาซิโอ ลูลาดา ซิลวา แห่งบราซิล ตลอดจนสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิคต์ที่ 16 ต่างก็ส่งสารแสดงความยินดี เช่นเดียวกับ นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์ การสหประชาชาติ กล่าวชื่นชมความกล้าหาญของคนงานเหมืองทั้งหมด

รายงานข่าวแจ้งว่า คนงานเหมืองคนแรกที่ขึ้นมา คือนายฟลอเรนซิโอ อวาลอส อายุ 31 ปี สุขภาพแข็งแรง ได้รับการสวมกอดจากบุตรชายคนโต และภรรยา รวมถึงกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนร่า จากนั้นก็เป็นคิวของนายมาริโอ เซปุล เวดา อายุ 40 ปี ผู้ประกาศชัยชนะแห่งชิลี ก่อนส่งก้อนหินในเหมืองที่พกติดตัวขึ้น มาด้วยให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นของที่ระลึก นอกจากนั้นยังมีคนงานเหมืองที่ไม่ใช่ชาว ชิลี คือนายคาร์ลอส มามานิ อายุ 23 ปี ชาวโบลิเวีย ซึ่งได้ปฏิเสธความปรารถนาดีจาก ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส แห่งโบลิเวีย ที่ขอให้เดินทางกลับกรุงลาปาซ พร้อมกัน แต่เขาเลือกที่จะอยู่ทำงานต่อในชิลี ขณะที่นายยอนนี บาร์ริออส คนงานเหมืองคนที่ 21 ก็ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนหญิงด้วยความอบอุ่น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ขณะนำตัวขึ้นมา คนงานเหมืองทุกคนต้องสวมแว่นกันแดดสีดำที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อถนอมสายตา หลังจากต้องอยู่ในที่มืดมานาน จึงยังไม่คุ้นกับแสงจากธรรม ชาติ จากนั้นพวกเขาทั้งหมด ต้องถูกนำตัวไปโรงพยาบาลสนามเพื่อตรวจร่างกาย หลังจากนั้นคนงานประมาณครึ่งหนึ่งได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดที่เมืองโกปีอาโป โดยนายไจเม่ มานาลิช รมว.สาธารณสุขชิลี กล่าวว่า คนที่สุขภาพแข็งแรงดีแล้ว จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

อย่างไรก็ตาม แพทย์โรงพยาบาลเมืองโกปีอาโป กล่าวว่า คนงานเหมือง 16 คนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมีสุขภาพแข็งแรงดี แม้จะมีนายเซปุลเวดา กับอีกคนหนึ่งที่มีอาการของโรคฝุ่นหินจับปอด ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในเหมือง เมื่อต้องสูดฝุ่นละอองเข้าไปในปอดอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีคนงานอีกคนหนึ่ง ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะชนิดเข้มข้น เพราะมีอาการของโรคปอดบวม และอีก 2 คนต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยต้องให้ยาสลบ เพราะมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงในช่องปาก

ขณะที่นายมิคาอิล โปรเอสตากิส ผู้จัดการบริษัท ขุดเจาะ ดริลเลอร์ ซัพพลาย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขุดเจาะอุโมงค์แนวตั้ง เป็นปล่องทางลงไปถึงชั้นใต้ดินของเหมืองนั้น ได้กล่าวถึงความมหัศจรรย์ หรืออาจจะเป็นความบังเอิญพอดีของตัวเลข 33 กล่าวคือ มีคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินทั้งหมด 33 คน เส้นผ่าศูนย์กลางของปล่องสำหรับส่งแคปซูลกู้ชีพลงไปนั้น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 66 ซม. ซึ่งก็คือสองเท่าของเลข 33 การขุดเจาะอุโมงค์แนวตั้งลงไปใช้เวลา 33 วันกว่าจะถึงจุดที่คนงานเหมืองอยู่ แสดงว่าวันละ 1 คนพอดี และสุดท้ายภารกิจของการกู้ภัยครั้งนี้ ตรงกับวันที่ 13 เดือน 10 ปีค.ศ. (20)10 หรือเขียนได้เป็นตัวเลข 13/10/10 หากนำมาบวกรวมกันจะเท่ากับ 33 พอดี ตรงตามที่ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนร่า ระบุไว้ นอกจากนี้ จดหมายขอความช่วยเหลือฉบับเล็ก ๆ ที่คนงานเหมืองส่งขึ้นมาพร้อมกับหัวเจาะของหน่วยกู้ภัย ที่เขียนว่า “พวกเราทั้ง 33 คนยังมีชีวิตอยู่ และสบายดีกันทุกคน” เมื่อเขียนเป็นภาษาของชาวชิลี นับรวมได้ 33 ตัวอักษรพอดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลข “33” ที่บังเอิญมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มาตรงกันหลายเหตุการณ์นั้น ในประเทศไทยได้มีการวิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเซียนหวย และนักเสี่ยงโชคต่าง ๆ ที่นำเอาเลข 33 ไปตีเป็นเลขเด็ดเลขดัง และ หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องนำไปเสี่ยงโชคในงวดนี้แน่นอน เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัวรางวัลที่ 1 หรือ 2 ตัวบน และเลขท้าย 2 ตัวล่าง ออกเลขเบิ้ล หรือเลขซ้ำกันมาแล้วถึง 5 งวด เริ่มจากงวดวันที่ 16 ม.ค. เลขท้าย 2 ตัวบนออก 77 งวดวันที่ 16 มี.ค. เลขท้าย 2 ตัวบน 22 จากนั้นงวดวันที่ 1 เม.ย. เลขท้าย 2 ตัวล่าง กลับมาออก 22 อีกครั้ง งวดวันที่ 1 ก.ย. เลขท้าย 2 ตัวล่างออก 11 และงวดวันที่ 16 ก.ย. เลขท้าย 2 ตัวบนออก 22 ส่วน 2 ตัวล่างออก 66 อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรดาเจ้ามือหวยใต้ดิน อาจจะอั้นไม่รับซื้อเลข 33 นี้ หรือรับแต่จ่ายเงินครึ่งหนึ่ง เนื่องจากคาดว่าจะมีลูกค้าทุ่มซื้อเลขดังกล่าวจำนวนมากแน่นอน.



Daily News Online > หน้าต่างประเทศ > ฮือฮาเลขมหัศจรรย์ 33 นำโชค

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกับงาน ฌาปนกิจศพ ร่างอันไร้วิญญาณ ของโยมมารดาของอาตมาในครั้งนี้ทุกๆท่าน อาตมาขออนุโมทนาในบุญกุศล และซาบซึ้งในเมตตา ไมตรีที่ได้รับอย่างดียิ่ง จากสหายธรรม ญาติธรรม ในที่แห่งนี้ อาตมาขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย อันศักศิทธิ์ และพระบารมีขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อันศักดิ์ศิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น จงช่วยอำนวยอวยชัยให้ทุกท่านจงบังเกิดสติปัญญาญาณ รู้แจ้งเห็นจริงในพระสัจธรรมคำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ตลอดชาติอย่างยิ่ง จนถึงซึ่งความพ้นทุกข์พระนิพพานเทอญ

 

ภาพสุดท้าย (ลมหายใจสุดท้าย กับกรรมฐานที่โยมมารดา ได้เจริญสติจนหมดลมหายใจ) ของการจากไปแต่สังขารร่างกาย ที่ความดีของท่านยังคงอยู่เป็นตัวอย่างของ บุพการี และ เป็นที่เตือนสติ หรือเตือนจิต สะกิตใจ ลูกๆทุกๆคน ที่อาตมาเองนั้น ขอเป็นตัวอย่างในการที่อาตมานั้น เกือบจะสายไปที่จะได้ทดแทนพระคุณ และแสดง ความกตัญญูต่อ ผู้ให้กำเนิด วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้ เราทำอะไรอยู่ ขอให้ทุกๆท่านจงตอบแทนคุณบุพการี และเพื่อทดแทนคุนผู้ให้กำเนิด และผืนดินที่เราเกิดกันตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ วัน เวลา จะกลืนกินทุกๆสิ่ง หายไป....................ขอทุกท่านเจริญในธรรม

ธ.โชติกะภิกขุ

สังเกตุจุดกลมๆ ที่ภาพ ที่ถ่ายติดมา

 

ตอนนี้มีผู้สมัคร บรรพชาอุปสมบท ๙๙ รูปใน๑ปีครบรอบวันเสียชีวิตของท่าน ทั้งหมด ๑๕ คนแล้วใว้อาตมาจะนำเรื่องราวมาโพสให้ดูจ้ะ

 

อนุโมทนาค่ะหลวงพี่

กรองกมล.. โอนเงินทำบุญที่บัญชีนี้ได้เลยใช่หรือไม่?

 

มาแจ้งกำหนดการห่มผ้าพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์ที่เกาะเกร็ด วัดปรมัยิกาวาส ของคณะเราที่โชคดีมีบุญกุศลกำลังใจได้มีโอกาสครับ วัดนี้เป็นพระอารามหลวงมีชุมชนมอญอยู่มากครับ

คือช่วงประมาณ12.30-13.00น.กว่าๆ วันพฤหัสบดีที่21ตุลาคมครับ พระอาจารย์ท่านเจ้าอาวาส ช่วยกำหนดให้ครับ เตรียมดอกไม้ธูปเทียน บายศรี เครื่องหอม น้ำหอม โอดิโคโลญ มาร่วมด้วยได้ครับ

ผ้าห่มต่วนซาตินสีแดงเพราะสีจะไม่ตกเมื่อตากแดด หน้ากว้าง1.80 เมตร ยาว12เมตรครับ ใครจะร่วมบุญกุศลด้วยก็เชิญติดต่อโอนมาร่วมบุญกับผมได้ มากบ้างน้อยบ้างตามศรัทธาครับ

บัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย บัญชีอชื่อ กุศลมงคล สุวรรณกูฏ
เลขที่0661012069

ท่านใดโอนแล้วกรุณาโทรแจ้งกระผมหรือSMS มาที่ 0893201413 เพราะว่าเป็นบัญชีรวมกับงานอื่น เนื่องจากเปิดรับบริจาคระยะสั้นๆครับ

ขอเชิญอนุโมทนาบุญกันครับ

ผิดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ

 

เชิญร่วมห่มผ้าห่มเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุวัดปรมัยิกาวาสพระอารามหลวงเกาะเกร็ด


http://palungjit.org/threads/เชิญร่...ตุวัดปรมัยิกาวาสพระอารามหลวงเกาะเกร็ด.262694/

 

ขออนุโมทนาจ้ะ

ขอเจริญในธรรมจ้ะ ............... สงสัยช่วงนี้คุณโยมคงงานยุ่งน่าดู

 

เรื่อยๆ น่ะเจ้าค่ะ ยุ่งมากบ้างน้อยบ้างตามอัตภาพ ^^

 

อนุโมทนาในส่วนบุญส่วนกุศลทุกท่านด้วยค่ะ

ช่วงนี้ อากาศเย็นๆ รักษาสุขภาพกกันหน่อยนะคะ

อากาศเย็น หากรู้สึกหนาวเย็น เราสามารถทานอาหารที่ให้ความอบอุ่น หรืออาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยได้ค่ะ เช่น น้ำขิง พริกไทย




คลายหนาวด้วย “ขิง”สมุนไพรฤทธิ์ร้อน / เอมอร คชเสนี

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อรับชมและฟัง ในรูปแบบ Photo Slide Show

หากเรากินอาหารให้เหมาะกับฤดูกาลแล้ว อาหารนั้นก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพนะคะ ตัวอย่างเช่น สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอันที่จริงโดยทั่วไปก็กินกันได้ทุกฤดู แต่ก็เหมาะอย่างยิ่งที่จะกินในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น สมุนไพรฤทธิ์ร้อนมีหลายชนิด เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย กะเพรา โหระพา พริก พริกไทย ฯลฯ แต่ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ ก็คือ “ขิง” ค่ะ

ขิงเป็นสมุนไพรที่เรารู้จักกันดีและใช้กันมานาน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ไก่ผัดขิง ปลานึ่ง ปลาต้มส้ม โจ๊กใส่ขิง เมี่ยงคำ เต้าฮวย บัวลอยน้ำขิง หรือหากใครชอบน้ำผลไม้ปั่น ลองเพิ่มรสชาติด้วยขิงก็หอมอร่อยดีค่ะ

สรรพคุณของขิง
ตำรายาไทยมีการนำขิงมาใช้ประโยชน์แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นต้น ใบ ดอก ราก ผล แต่ส่วนมากที่นำมาใช้กันก็คือ เหง้าขิง ซึ่งนิยมใช้เหง้าแก่สด เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งมีรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม และมีใยอาหารมาก

นอกจากขิงจะช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นแล้ว ยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย บำรุงน้ำนม ช่วยย่อยอาหาร และช่วยเจริญอาหาร นอกจากนี้ผู้ที่เป็นหวัดหรือปวดศีรษะ กินขิงสดๆ จะช่วยได้มาก



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าในเหง้าขิงมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีสารที่ทำให้ขิงมีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีฤทธิ์ขับลม ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ลำไส้เพิ่มการเคลื่อนไหว ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และยังมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า ขิงช่วยลดอาการข้ออักเสบได้ แต่เนื่องจากขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงยากที่จะกินในปริมาณมากเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ

ในประเทศอินเดียใช้ขิงในการบำบัดรักษาสุขภาพมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยอาศัยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
บางตำราก็ระบุว่ามารดาที่ให้นมบุตรหากได้กินขิง สารสำคัญจากขิงสามารถผ่านไปยังน้ำนม ช่วยทำให้ทารกไม่มีอาการปวดท้องได้อีกด้วย


วิธีการนำมาใช้
บรรเทาอาการจุกเสียด ท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ : นำขิงแก่สดประมาณ 2-3 เหง้ามาทุบพอแตก แล้วนำไปต้มกับน้ำ

บรรเทาอาการหวัด : นำขิงแก่ขนาดประมาณหัวแม่มือ ทุบให้แตก ต้มกับน้ำ 1 แก้ว ใช้ไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดนาน 5 นาที แล้วเติมน้ำเล็กน้อย ดื่มขณะยังอุ่น 3 เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น หรือนำขิงแก่มาปอกเปลือก ฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากในที่ร่มประมาณ 2 วันจนแห้ง แล้วนำขิงแห้ง 3 กรัมต้มกับน้ำ 1 แก้วจนเดือดนาน 3 นาที ดื่มบรรเทาอาการหวัด หรือจะใช้ขิงแก่ 2-3 เหง้า นำมาทุบให้ละเอียดต้มกับน้ำอาบเพื่อขับเหงื่อ ลดอาการไข้เนื่องจากหวัด

บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ : นำขิงสดมาตำ คั้นน้ำให้ได้ประมาณครึ่งถ้วย ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 2 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง หรือใช้ขิงสดฝนกับมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อยๆ

บรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง : ใช้ขิงแห้งชงกับน้ำอุ่น ดื่มวันละครั้ง น้ำขิงจะช่วยให้การอักเสบที่เกิดจากพิษของเชื้อโรคลดลง และช่วยขับเชื้อโรค


บรรเทาอาการปวดประจำเดือนในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน : นำขิงแก่แห้งมาต้มกับน้ำ ดื่มบ่อยๆ

รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก : ตำขิงสดให้ละเอียดแล้วนำกากมาพอกที่แผล บรรเทาอาการอักเสบเป็นหนอง

กำจัดกลิ่นรักแร้ : นำเหง้าขิงแก่มาทุบ คั้นเอาแต่น้ำขิง ทารักแร้เป็นประจำจะช่วยกำจัดกลิ่นได้



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=317><TBODY><TR><TD vAlign=top width=317 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ข้อควรระวัง
การใช้น้ำสกัดจากขิงที่เข้มข้นมากๆ จะให้ผลในทางตรงข้าม คือจะไประงับการบีบตัวของลำไส้ ดังนั้นไม่ควรดื่มน้ำสกัดจากขิงที่เข้มข้นมากเกินไป เพราะจะไม่ให้ผลในการรักษาตามที่ต้องการ และเนื่องจากขิงมีฤทธิ์ร้อน หากกินมากเกินไป อาจทำให้แสบคอ เจ็บคอ และร่างกายร้อนจนเกินไป

นอกจากขิงแล้ว ก็อย่าลืมสมุนไพรฤทธิ์ร้อนตัวอื่นๆ ด้วยนะคะ จะช่วยให้ร่างกายของคุณอบอุ่นขึ้น กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต หากป่วยไข้ไม่สบาย ก็จะช่วยบรรเทาอาการให้หายเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ฤดูนี้ยังเหมาะที่จะรับประทานอาหารรสเปรี้ยวและรสขม เช่น ต้มยำ ยำต่างๆ แกงส้มดอกแค แกงขี้เหล็ก สะเดาน้ำปลาหวาน ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการหวัดได้แล้ว ยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วยค่ะ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
Quality of Life - Manager Online -

 

รักษาสมดุลความอบอุ่นของร่า<WBR></WBR>งกายไว้นะคะ อย่าให้ป่วยหรืออ่อนแอ โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีโรคหว<WBR></WBR>ัดระบาดเนืองๆ

การทานน้ำอุ่น ช่วยคลายหนาวได้ระยะสั้นๆ ขณะที่ทาน แต่น้ำเปล่าไม่มีฤทธิ์ร้อนห<WBR></WBR>รือเย็น แต่ถ้าปัสสาวะบ่อยเกินไป ก็สูญเสียความร้อนในร่างกาย<WBR></WBR>ได้เหมือนกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ควรทานน้ำโดยรวมๆ ให้ได้ซัก ๒+ ลิตรต่อวันนะคะ ขึ้นกับน้ำหนักและสภาวะของร<WBR></WBR>่างกายแต่ละคนค่ะ

อาหารบางอย่างมีสรรพคุณในกา<WBR></WBR>รให้ความร้อน หรือลดความร้อนได้

เช่น ขิง มีฤทธิ์ร้อน จับเลี้ยง มีฤทธิ์เย็น

ได้ยินมาว่า การทานชาร้อนๆ หรือน้ำจับเลี้ยงร้อนๆ แม้ขณะทานจะรู้สึกอุ่น แต่ตัวชาหรือน้ำจับเลี้ยงเอ<WBR></WBR>งมีฤทธิ์เย็น อย่างนี้ ก็อาจไม่ช่วยดีเท่าที่ควรนะ<WBR></WBR>คะ หรืออาจจะทำให้แย่ลงไปก็อาจ<WBR></WBR>เป็นได้ค่ะ

เพิ่มเติมอีกนิด กับอาหาร/สมุนไพรที่มีฤทธิ์<WBR></WBR>อุ่นและร้อนค่ะ

http://med.swu.ac.th/ward8<WBR></WBR>1/index.php?option=com_con<WBR></WBR>tent&view=article&id=98&It<WBR></WBR>emid=176


หากเราศึกษาและใช้ในเวลาที่<WBR></WBR>เหมาะสมแล้ว ก็จะช่วยรักษาสุขภาพของเราค<WBR></WBR>่ะ

^____^

 

และร่วมช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่เปี่ยมไปด้วยเมตตาไมตรีที่ดีของญาติธรรม พิษณุ สุริยา เป็นคนบุญที่ขวนขวายในทานบารมีที่ดีจริงๆ .......................ขออนุโมทนาอนุโมทนากับการสร้างสรรค์
หากคุณโยมประสงค์สิ่งใดที่อาตมามีอยู่หรือคิดว่า
น่าจะมีอยู่แล้วไซร้ขอท่านจงเอ่ยหรือให้รับทราบ อาตมาพร้อมเสมอ

ธ.โชติกะภิกขุ

 

มีคนทักดิฉันหลายคน ว่าเคยเป็นทหารพระองค์ดำ จะจริงแค่ไหนนั้นตอนนี้ดิฉันยังปฏิบัติไม่ถึงไหนเลยยังไม่ทราบด้วยตัวเอง แต่ถ้าได้เคยรับใช้พระองค์ท่านจริงๆถือว่าดีที่สุดมากๆแล้ว เคยได้มีโอกาสไปกราบพระองค์ท่านที่พิษณุโลกหลายครั้ง แต่ละครั้งที่ไปมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เคารพเทิดทูนบูชาพระองค์ท่านค่ะ