ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

ครับท่านมุ่ง นางฟ้า และ Ta WHK
คนไทยได้มีส่วนร่วมไหม แต่ว่าน่าจะได้ ตอนตรวจแนวเชื่อมท่อ ที่สำหรับให้แคปซูล สอดลงไป
ตอนนี้ก็ดีใจ แทนคนไทยที่ได้มีโอกาสสร้างชื่อ แต่น้องเค้าบ่นมาเหมือนกัน ว่ามาอยู่ที่นี่ปีกว่า ทำไมไม่มีใครมาสนใจ ตอนนี้ทำมาสนใจกัน เค้าเองไม่อยากเป็นข่าว
แหมน้อง แล้วพี่อยู่ป่าอเมซอนคนเดียว พูดกับอังกฤษกับใครก็ไม่ได้ และคนเอเชียคนเดียว จบงานเองกับมือ ทำไมไม่มีใครมาสนใจพี่เลย

 

ก่อนผมกลับเมืองไทยคราวแล้ว ช่วงก่อนสงกรานต์
ผมกับเพื่อน ได้พูดเกลี้ยกล่อมเพื่อนคนนึงซึงเป็นบุตรบุญธรรมหลวงปู่แขก (ซึ่งเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยสนใจ เรื่องการปฏิบัติ และการสวดมนต์ ผมเอาพระธาตุไปให้ เพื่อนผมเองได้ไปต้องเอามาคืนพระบอกว่าปวดหัวมาก เจ้าตัวได้บอกว่าสงสัยบารมีรับไม่ไหว ) ผมกับเพื่อนได้ชวนเพื่อนคนนี้ให้ขึ้นไปลองสวดมนต์ดูที่สวนธรรมิกราช ที่เขาพนมสัจจ์ เพื่อนผมอีกคนก็เกรงว่า เพื่อนคนนี้จะไม่ยอมไป ก็โทรไปหาหลวงพี่ที่สวนธรรมิกราช ว่าทำอย่างไรจะให้เพื่อนคนนี้ได้ขึ้นไปสวดมนต์ หลวงพี่ได้ตอบว่าไม่ต้องห่วงเพื่อนผมคนนี้ได้มีรายชื่อที่จะมาสวดมนต์ที่นี่อยู่แล้วยังไงก็ต้องได้มา
แต่เพื่อนผมคนนี้กลัว เพื่อนจะไม่ได้ขึ้นไปเพราะเค้าตั้งใจจะขับรถพาเพื่อนไป ก็ได้บอกให้ผมช่วยโทรกล่อมให้หน่อย ผมก็บอกว่า แกจะกลัวอะไรถ้าแกเชื่อและศรัทธาหลวงพี่ ยังไงมันก็ต้องได้ไปสวดมนต์
และสุดท้ายเพื่อนผมคนนั้นก็ได้ขึ้นไป เหตุที่เค้าไม่ตอบตกลงจะไปทีแรกเพราะเพื่อนผมคนนี้ ประมาณว่าหาเช้ากินค่ำ ต้องคิดแทบทุกวันวันนี้จะไปไหน หาใคร เอาอะไรไปขาย บอลวันนี้คู่ไหน เก็บเงินใคร

 

แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้โทรกลับไปคุยกับเพื่อน เพื่อนผมบอกว่า
ตั้งแต่ขึ้นไปสวดมนต์มาแล้วตอนนี้ ค้าขายดี (ตอนนี้เปิดทำธุรกิจ ส่งข้าวกล่องส่งตามที่
ทำงาน ปั๊มน้ำมัน พนักงานห้าง เพราะร้านอาหารในห้างแพงกว่าข้างนอก ให้พี่สาว เป็นคน
ทำกับข้าว)
เพื่อนคุยกับผมว่า ตอนนี้ว่างไม่ได้เลยเพื่อน
ผมถามว่า ทำไม
เพื่อนตอบมาว่า ว่างเป็นสวดมนต์

ผมเองก็กล่าวคำว่า สาธุ เราดีใจมากเลย เพื่อน

 

ผมเองต้องเลื่อนกำหนดการกลับเมืองไทยเป็นวันที่ 8หรือ9 นี้ครับ
เมื่อวานเจ้านายโทรมาคุยว่าอยากจะให้อยู่ต่อสัก สอง อาทิตย์จะว่าไง
จะให้ไปเปิดงานโปรเจคใหม่ ที่จะขึ้น
เออ ไปกันทำกันเองเหอะ แค่นี้ก็ทำใจขนาดหนัก เกิดมาไม่เคยอยู่ต่างประเทศเกินสามเดือนเลย แล้วตอนนี้มีลูกด้วย

ครอบครัว สรณัง คัจฉามิ
ภรรยา สรณัง คัจฉามิ
บุตร ธิดา สรณัง คัจฉามิ

 

ผมกับเพื่อนก็คิดอยากสร้างพระเหมือนกัน
เพิ่งคุยกันเมื่อวาน อาจจะลองสร้าง หลวงปู่แขกกันก่อน คุยกันเล่นๆ แต่ถ้ามีโอกาส ก็เอาเลย
สาธุ ทุกท่านครับ ที่มีจิตทีีคิดสร้างพระ เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา

 

เพราะเราเป็นคนเดินสารไงเลยเจอกันที่ บขส. ^^

จริงๆ... ก็เกือบจะเป็นกึ่งๆ ทหารล่ะมั๊ง? เพราะสมัยนั้นน่าจะติดทัพลงมากับเขาด้วย สมัยนี้เลยทำงานอย่างทรหดอดทนแต่แอบอู้บ้างพองาม - -

เวลาพวกเรารวมพลกันก็มักจะมีเหตุกันเล็กๆน้อยๆ อย่างนี้แหละ ไม่ได้เหตุเกิดกับตัวก็เกิดกับข้าวของ

ล่าสุด หลังด้องไปเล็กน้อยเมื่อรวมพลเฉพาะกิจที่วัดปทุมฯ (จะเรียกวัดสระประทุมทุกทีเลยสิน่า..) แถมของบางอย่างหายไปด้วย สองเด้ง - -!

ถ้ากิจธุระพอจะซาๆ บ้างจะขึ้นไปหาอีกนะ

 

ผมมาอยู่ที่นี่ ได้ทานอาหารผิดสำแดง เช่นขนมปัง ไส้กรอก ที่ใส่เกลือเข้าไปจนเค็มแสบคอบ่อยๆ จะสังเกตุว่าเกิดกรดไหลย้อน ทำให้แสบหน้าอก ไม่ค่อยมีสมาธิทำงาน
อยู่เมืองไทยเคยเป็นบ้าง ลองซื้อยาที่โฆษณามาทานก็รู้สึกว่าไม่ดี
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เวลาเกิดกรดไหลย้อน ผมลองแก้ด้วยทานแอปเปิล 1 ลูกได้ผล
ครับ หายทันที ลองทำอย่างนี้อยู่หลายครั้งที่เป็น หายทุกทีครับ
ถ้าใครเป็นลองดูนะครับ ถ้าทำให้กรดไหลย้อนหายได้ผมว่าจะได้ไม่ต้องไปซื้อยาทานครับ ได้ผลอย่างไรแล้วลองเล่าสู่กันฟังครับ
สมุนไพรหรือผลไม้พวกนี้ ไม่มีสปอร์นเซอร์โฆษณาสรรพคุณให้พวกเค้า ไม่เหมือนบริษัทยาจากบริษัท

 

ทราบจากสมาชิกในเว็บนี้ ว่าเพื่อนของเค้าชอบมาดูกระทู้ทหารพระองค์ดำบ่อยๆ
เค้าบอกว่าเป็นกระทู้โปรดของเค้าเลย เพราะมีอะไรดีๆที่น่าสนใจเสมอ

อนุโมทนาสาธุครับ

 

แอ๊ปเปิ้ล APPLE



เป็นผลไม้ยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก ต้นแอ๊ปเปิ้ลสูงประมาณ 5-12 เมตร ผลมีเปลือกสีแดง ชมพู เขียว และเหลืองตามสายพันธุ์ เนื้อในเป็นเนื้อทรายละเอียดสีขาวนวล




คุณค่าโภชนาการ เมื่อกินโดยไม่ปอกเปลือก จะมีพลังงาน 80 แคลอรี วิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม วิตามินซี 7.9 มิลลิกรัม เหล็ก 0.2 มิลลิกรัม ทองแดง 0.1 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 158.7 มิลลิกรัม หากปอกเปลือกปริมาณสารสำคัญต่างๆ ก็จะลดลงไปจากที่กล่าวไว้




แอ๊ปเปิ้ลมีสารสำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ คือ
เพคติน มีกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงสรรพคุณ บำรุงหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส




บทความในวารสารการแพทย์สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2470 ยกให้แอ๊ปเปิ้ลเป็นผลไม้เหมาะสำหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรด ไขข้อรูมาติก เกาต์ ดีซ่าน และอื่นๆ




แอ๊ปเปิ้ลยังช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะมีแป้งและน้ำตาลถึง 75% ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทั้งทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดและอ่อนเพลียระหว่างรอเวลาอาหารมื้อใหญ่ แต่แอปเปิ้ลผลสดๆ เท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้ การดื่มน้ำแอปเปิ้ลไม่ทำให้หายหิว แต่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มด้วย

กินแอ๊ปเปิ้ลวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แต่จะได้ผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แอ๊ปเปิ้ลลดคลอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย



คณะวิจัยมหาวิทยาลัยพอลซาบาทิเอร์ เมืองตูลูส ฝรั่งเศส ทดลองในอาสาสมัครวัยกลางคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 30 คน โดยให้กินอาหารเหมือนเดิมทุกประการ แต่กินแอปเปิ้ลด้วยวันละ 3 ผล ทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน พบว่าอาสาสมัคร 24 คน มีปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดลดลง บางคนลดมากกว่า 10% และเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันแยกคลอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพคตินจะคอยดักจับคลอเลสเตอรอลเหล่านั้นนำไปทิ้งก่อนจะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกาย เป็นการขจัดคลอเรสเตอรอลออกไป




แอ๊ปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ปกติเมื่อกินอาหารเข้าไป อาหารแต่ละชนิดจะย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้น เช่น ถ้ากินน้ำผึ้ง น้ำตาลในเลือดจะขึ้นฮวบฮาบทันที แต่สำหรับแอ๊ปเปิ้ล ถึงจะมีน้ำตาลธรรมชาติในเนื้อแอปเปิ้ลมาก แต่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เท่านั้น และยังพบว่าคนที่กินอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ มีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่กินน้อย และสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูงมาก

มาทำความรู้จักกับประโยชน์ของแอ๊ปเปิ้ล โดยแบ่งตามสีดังนี้







1. แอ๊ปเปิ้ลแดง มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมี
อิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย













2. แอ๊ปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอ๊ปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย












3. แอ๊ปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกิน
แอ๊ปเปิ้ลสีเขียวนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิว
แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี











4. แอ๊ปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก







ที่มา APPLE ประโยชน์ของแอ๊ปเปิ้ล

 

one apple a day keeps doctors away . . .

พี่อิน กลับมาเมืองไทย ลองทานกล้วยน้ำว้า ดูนะคะ

กล้วยน้ำว้า และขมิ้นชันนี่ มีสรรพคุณในการช่วยระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ ลำไส้ค่ะ

คุณน้าคนหนึ่ง ทายาพาราฯมากจนลำไส้เป็นแผลมากมาย ถ่ายเป็นเลือดสดๆๆๆๆ จนหมอเรียกให้ไปผ่าตัด ตัดไส้ทิ้ง

พอดีคุณน้าคนนี้ไปเจอพระองค์หนึ่ง ท่านบอกว่า ให้ทานขมิ้นชันสดๆ กินมากเท่าไหร่ยิ่งดี

คุณน้าคนนี้แกเชื่อค่ะ แกคงไม่อยากไปผ่าตัดไส้ทิ้งนะ แกทานขมิ้นชันแบบเคี้ยวกินสดๆ เลยค่ะ

ปรากฏว่า พอถึงเวลาคุณหมอเรียกตรวจอีกที . . . หายแล้วค่ะ

 

เมื่อพูดถึงโรคกระเพาะ ผู้ที่เคยเป็นหรือกำลังเป็นโรคนี้อยู่คงทราบดีว่า อาการเป็นอย่างไร ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับโรคนี้เมื่อประมาณปี 29

เพราะมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง อึดอัดมาก จนฉันอาหารไม่ค่อยได้ ทีแรกตั้งใจว่าจะรักษาด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าคงเป็นอาการของโรคกระเพาะแน่ แต่ก็เพื่อความแน่ใจจึงได้เข้ารับการตรวจจากแพทย์แผนปัจจุบัน และผลก็ออกมาว่าเป็นโรคกระเพาะจริง จึงได้ใช้ยาแผนปัจจุบันรักษาเรื่อยมา อาการก็ทุเลาลงแต่ยังไม่หายเป็นปกติ

เนื่องจากผู้เขียนเคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับการรักษาโรคกระเพาะด้วยขมิ้นชัน จึงได้ทำยานี้รักษาโรคกระเพาะของตัวเอง โดยนำขมิ้นชันหัวแก่ๆสดๆ (ไม่ควรซื้อขมิ้นผงที่มีขายตามท้องตลาด เพราะขมิ้นเหล่านั้นอาจต้มหรือนึ่ง จนน้ำมันในขมิ้นระเหยออกไปหมด ฤทธิ์ทางยาก็จะหมดไปด้วย ทำให้การรักษาไม่ได้ผล) เอาเฉพาะส่วนที่เป็นแง่งหรือแขนง ส่วนหัวหรือตรงไส้กลางไม่ใช้ นำมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นบางๆ จากนั้นก็นำไปตากแดดจัดๆสักสามแดด (ไม่ควรตากนานกว่านี้ เพราะจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ)

เมื่อตากแดดแล้วก็นำมาตำให้ละเอียดเป็นผง ปั้นกับน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเข้มข้นเป็นยาลูกกลอนขนาดปลายนิ้วก้อย ฉันหลังอาหารทุกครั้ง ครั้งละ 2-3 เม็ด โดยงดยาแผนปัจจุบันทุกชนิด

ปรากฏว่าอาการปวดท้องแน่นท้องหายไป แต่ต่อมายาที่ทำไว้หมดลง อาการก็กลับเป็นขึ้นมาอีก ตอนนั้นผู้เขียนกำลังมีงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาที่จะหาขมิ้นชันได้ เพราะถ้าจะซื้อก็ต้องไปถึงในตัวจังหวัด

บังเอิญคืนหนึ่งได้อ่านหนังสือการใช้สมุนไพร ซึ่งบอกสรรพคุณของกล้วยไว้ว่า

“ในเนื้อและเปลือกกล้วยทุกชนิดมีเซอโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลยับยั้งการหลั่งของน้ำย่อยของกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัวมากขึ้น จึงได้บำบัดอาการแผลในกระเพาะอาหารและทำให้ระบายได้”

ด้วยความอยากหายจากโรค ประกอบกับกล้วยน้ำว้า เป็นของที่ผู้เขียนสามารถหาได้ง่ายอยู่แล้ว จึงทดลองทำยาจากกล้วยน้ำว้าใช้ดู

วิธีทำก็คล้ายกับการทำยาจากขมิ้นชัน คือนำกล้วยน้ำว้าดิบที่แก่จัดทั้งลูก (ทั้งเปลือก) นำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นขวางลูกเป็นชิ้นบางๆ เหมือนหั่นแตงกวาใส่ข้าวผัด เสร็จแล้วนำไปเกลี่ยใส่ถาด อย่าให้ชิ้นกล้วยซ้อนกันมากนัก ตากแดดจัดๆ สักสามแดด แล้วจึงนำมาใส่ครกตำให้ละเอียด โดยนำมาตำในขณะเก็บจากแดดใหม่ๆ เพราะกล้วยยังกรอบอยู่จะทำให้ตำละเอียดง่าย เรียบร้อยแล้วก็เก็บใส่ขวดปากกว้างที่มีฝาปิดได้สนิท ใช้ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำค่อนแก้ว ฉันหลังอาหารทุกมื้อ ใช้อยู่ไม่กี่วันอาการก็ดีขึ้น หายปวดท้อง แน่นท้อง และฉันข้าวได้มากขึ้น จึงใช้ยานี้เรื่อยมาจนกระทั่งหมด และก็ทำยาครั้งที่สองขึ้นมาอีก

ใช้ยาขนานนี้อยู่เดือนเศษจึงได้ทดลองหยุดยาดู เพราะคิดว่าอาการคงหายขาดแล้ว และก็ปรากฏว่าอาการไม่กำเริบขึ้นมาอีกเลย จึงมั่นใจว่ากล้วยน้ำว้าดิบสามารถรักษาโรคกระเพาะได้ จึงอยากชวนให้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ได้ทดลองใช้รักษาดูบ้าง เพราะกล้วยน้ำว้าเป็นของที่หาซื้อได้ง่ายโดยทั่วไป และถ้าต้องซื้อก็เป็นของที่มีราคาไม่แพงนัก

แต่อย่าลืมว่าใช้ยานี้รักษาโรคกระเพาะแล้ว เมื่อหายปวดอย่าหยุดยาทันที ควรใช้ต่อไปอีกสัก 1-1 1/2 เดือน เพราะโรคกระเพาะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา ถ้ารีบหยุดยาเพราะคิดว่าหายแล้ว อาการอาจกำเริบขึ้นอีก ทำให้โรคไม่หายขาด และสิ้นเปลืองเวลาในการรักษามากกว่าที่ควร และที่สำคัญที่จะช่วยให้รักษาโรคนี้ได้หายเร็วขึ้น ก็คือผู้ป่วยต้องงดอาหารรสจัดทุกชนิด และกินอาหารให้เป็นเวลา รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟ และน้ำอัดลม


นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม : 104

เดือน-ปี : 12/2530

คอลัมน์ : เล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง



กล้วยน้ำว้า...รักษาโรคกระเพาะ | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน

 

พี่อิน พยายามทานอาหารเป็นเวลานะคะ

อบเอาข้อมูลมาฝากเพิ่มค่ะ

แต่มันยาวนิดนึง เลยไม่ขอก๊อปมาลงกระทู้ดีกว่าค่ะ

โรคกระเพาะอาหาร


อันนี้เว็บของหมอเขียว น่าสนใจมากค่ะ ลองเข้าไปดูนะคะ มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องค่ะ

http://morkeaw.com/blog/?page_id=78

 

เรียนถามสหายนักรบผู้มาจากอโยธยาศรีรามเทพนคร

เรามีปัญหาสักเล็กน้อยในเพลานี้
กล่าวคือ
เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา
เราได้นำผ้าป่าซึ่งประกอบไปด้วยอัฐบริขาร ๘
และอัฐบริขารของเราที่จะก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพักต์เป็นเวลา ๗ วัน
ไปตั้งที่หน้าปรางค์สถูปมหาราชนเรศวรเหนือหัวเจ้า
ระหว่าทำพิธีกล่าวต่อพระองค์ท่าน
เกิดหัศจรรย์หลายอย่าง
เช่น พระองค์ท่านและเหล่าเทพร่วมอนุโมทนาเกิดฝนตอที่เป็นฝอย
เย็นชุ่มใจมิเปียกอันใด เมื่อเสร็จพิธีสัตย์ ฝนฝอยได้หายอย่างไปโดยปริยาย

จุดประสงค์ผ้าป่ากองนี้
เพื่ออุทิศกุศลให้กับเจ้ากรรมแห่งเราครั้งที่เรากระทำต่อชีวิต เลือดเนื้อผู้รุกรานและหมู่ชนชาวอโยธยาศรีรามเทพนครที่หลงผิด และการตัดสินโทษกลุ่มชนชาวอโยธยาศรีรามเทพนครผิดพลาดจากเรา ท่านเหล่านั้นรับรู้และคลายการยึดติดแล้ว

แต่มีเหตุการยึดติดใหม่ขึ้นมา
คือกลุ่มเกิดขึ้นใหม่ที่เรากระทำต่อเขาได้จำเราขึ้นมาได้ ได้เห็นเราที่นั่น
ได้ปลุกจิตจำเราขึ้นมาได้
กระทำการต่อเราด้วยดาบแห่งเขา
กายหยาบเรารับรู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ด้านซ้ายข้างหน้า
ประหนึ่งเราฟันผู้นั้นด้วยการสพายแล่งบนร่างเขาในศึกสงคราม
ทำให้ชีวิตม้วยผูกจิตเป็นเจ้ากรรมเกิดขึ้น
ด้วยจิตที่จำได้ขึ้นใหม่ของชนเหล่านั้นชั่งรุนแรงนัก
เราสงสัยอยู่หลายเพลา
ว่าเยี่ยงใดหนอไหล่เราจึงเจ็บเช่นนี้
เจ็บไม่มีคววามปวด
ไม่รำคราญอันใดนัก
จึงหาเหตุ
จึงพบเหตุดังที่กล่าวมา

ท่านสหายผู้ใดมีประสบการณ์จากการรบเยี่ยงนี้กับเหล่าศึกร่วมกันมาเยี่ยงนี้บ้าง
วานเฉลยกล่าวกับเราเถิด
เพื่อช่วยเหลือเจ้ากรรมเหล่านั้นให้คลายสิ่งยึด
จักได้ไปเสวยในภพภูมิถัดไป

เรารู้ว่า
กรรมนี้หามีความรุนแรงอันใดไม่
เพราะบุญประเทศจักปกป้องเราผู้ทำตามหน้าที่
แต่มารบกวนบ้างเป็นบางครา
สำหรับเจ้ากรรมชุดเก่าท่านเหล่านั้นคลายหมดไป
ความทรมารกายเราจึงหายไป
แต่บัดนี้เกิดขึ้นใหม่กับท่านเจ้ากรรมที่เพิ่งจำเราได้ที่เห็นเรา
ก็มีบ้างเล็กน้อย
แต่เราต้องการแก้ไขให้สิ้นไป
จึงใคร่วานถามท่านสหายนักรบผู้กล้าแห่งกรุงศรีผู้มาจากอโยธยาศรีรามเทพนครแผ่นดินต้นสยามประเทศ
โปรดแถลงต่อเราผู้เขลานี้ด้วยเถิด

เราจักก้าวสู่ร่มกาสาวพักต์เพื่อเพียรในสัญญาเดิม
จึงมิอยากให้ท่านผู้ใดที่เราติดค้างมาสร้างอกุศลกรรมขวางทางธรรมเรา
และจะเป็นอกุศลกรรมของท่านผู้นั้นเสียเอง
อยากชำระให้สิ้นหากรู้ซึ่งวิธี

จริงอยู่
มหาเถรคันฉ่องเจ้า
กล่าวว่า
กรรมนั้นหามีแรงไม่ต่อเราที่กระทำไว้
แต่สำหรับเรามีบ้างเพราะปัญญายังอ่อนด้อย

และเจ้ากรรมชุดใหม่ที่เพิ่งรำลึกได้นี้
พระคุณเจ้าคงยังหาทราบไม่
เราเพิ่งสำรวจพบเมื่อราตรีวานนี้

ขอท่านผู้รู้โปรดแถลงต่อเราผู้เขลานี้ด้วยเถิด

เรา...
เวฬุวัน ว.มุจลินทร์
ข้ารองบาทแห่งองค์เหนือหัวนเรศวรมหาราชเจ้า

 

ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์
แต่มิใช่ในฐานะทหารศึก ฤา นักรบ
แต่ขอแบ่งปันในฐานะผู้เคยรู้สึก เจ็บ ในแบบที่ท่านได้เผชิญอยู่ ณ ขณะนี้

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลที่ท่านเวฬุวันได้สร้างแลกระทำนะเจ้าคะ

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ข้าเจ้าก็ได้ไปที่วัดวรเชษฐ์มาเช่นกัน ไปตอนช่วงเวลาบ่ายโมงแล้วกับคณะญาติพี่น้องผู้เคยผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน

วันนั้นเราทุกคนได้ไปกราบและร่วมกันสวดมนต์แผ่เมตตา ณ โบสถ์ในวัดนั้น
พระประธานปางสมาธิ องค์สีทอง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่กลางโบสถ์
ละอองเม็ดฝนโปรยบางๆราวกับน้ำพระพุทธมนต์ที่ประพรมเพื่อร่วมอนุโมทนา

ข้าเจ้าเคยมีอาการเจ็บอย่างที่ท่านเป็น
ข้าเจ้าเคยเห็นภาพตัวเองถูกชายผู้ถือดาบคู่ไว้ในมือ ฟันข้าเจ้าทั้งหมด 3 ดาบ
ดาบหนึ่งทางด้านหลังพาดจากบ่าขวาลงซ้าย
ดาบสองเบื้องหน้าพาดจาดซ้ายไปขวา
ดาบสามควั่นที่คอจาดขวาไปซ้าย
ตอนนั้นข้าเจ้าเป็นหญิง และไม่มีแม้แต่อาวุธที่อยู่ในมือ

ข้าเจ้าเห็นผู้ถือดาบคู่ยามใดก็รู้สึกกลัวทุกครั้ง
แต่ข้าเจ้าผ่านความรู้สึกตรงนั้นมาได้
โดยการเอ่ยขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่เคยกระทำเช่นนั้นต่อข้าเจ้า
"ไม่ว่าเราจะระลึกได้หรือมิได้ก็ตามว่าท่านคือใคร ไม่ว่าเราจะตายด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่เราขอวางใจไว้ตรงที่ว่านั่นคือการชดใช้เวรกรรมเป็นครั้งสุดท้ายคืนให้แก่ท่าน เราไม่ปรารถนาที่จะทวงคืนหรือผูกเวรผูกกรรมใดๆก็กันอีก แต่หากมีวิบากใดที่เราเคยติดค้าง ทั้งที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี เราขอขมากรรมต่อท่าน ขอได้โปรดงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อให้วิบากเหล่านี้ไม่มาเป็นเหตุขัดขวางความเจริญก้าวหน้าทางธรรมตราบถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตอันใกล้ด้วยเทอญ"

ข้าเจ้าทำเช่นนี้เรื่อยมายามที่พบเห็นสิ่งใดที่อาจเคยเป็นอดีต หรือได้พบเจอใครที่อาจเคยเกี่ยวเนื่องกันมา

ความเจ็บที่เกิดก็คงเป็นสัญญาเดิมที่ฝังไว้ในจิตของท่าน ซึ่งสัญญาเหล่านั้น เราเองก็ไม่ได้มีอำนาจจะไปบังคับให้เกิดขึ้นหรือดับไปได้ ตัวเราทำได้เพียง รับรู้ เฝ้าดู และละวางเท่านั้น

เหล่านี้เป็นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของข้าเจ้า มิได้มีเจตนาจะชี้แนะหรือแนะนำผู้ใด และมิอาจหาญจะพาดพิงถึงผู้ใด
หากใครอาจแล้วอาจก่อให้เกิดมโนกรรมหรือวจีกรรมในกาลข้างหน้า ก็ขอขมากรรมขออโหสิกรรมต่อกันด้วยเถิด

 

แหม... ช่างคิดจริงๆ พี่อิน อ่านแล้วได้ใจมากมาย

 

ขอขอบคุณและยินดียิ่งนักที่แนะนำ
เราไปในวันนั้นเพลาช่วงเพล
จึงมิมีวาสนาพานพบกัน
ก็ได้รับการอโหสิกกรรมจากท่านผู้มาเยือนแล้ว
แต่ก็เกิดเหตุใหม่ขึ้น
อารมณ์ท่านเจ้ากรรมที่เพิ่งจำเราได้ผู้มาใหม่รุนแรงนัก
ก็หาเข้าใจไม่ว่าทำไมเพิ่งมาจำตอนพบกับเรา
ปล่อยเพลาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว
ท่านอื่นทำไมจึงรู้ถึงเราได้
ด้วยเวลาที่ยาวนาน
ท่านเหล่านั้นผ่านการขัดเกลาจิตให้เบาบาง
จึงคลายยึดติดไปได้

ได้ฝากคมดาบจนเจ็บที่กายหยาบต่อเรา
แต่หาทรมานหรือรู้กลัวอันใดไม่
เราสงสัยเมื่อมาถึงบ้าน
ในอาการเจ็บขัดๆ ที่หน้าไหล่ซ้ายบริเวณข้อต่อส่วนแขน
จักรู้สึกในบางครา
สัมผัสได้ด้วยกายหยาบ
มิได้เจ็บมาจากจิต
จิตได้รำลึกถึงคมดาบโดยอัตโนมัติ
แต่มิได้คิดอันใด
ราตรีวานนี้จิตกลับมาเกิดสงสัยที่จังรู้สึกอยู่
จึงได้พบว่าเป็นดังที่กล่าวมาแล

เราคิดว่าจักรักษาได้ด้วยตนเอง
แต่เกรงจักไปเพิ่มแรงโทสะในจิตเขาเสีย

เรามิอาจกระทำดังใจหมาย
เรามิอาจมีเวลามากพอไปยังพม่าเมืองรามัญ
มิอาจไปกราบทำนุบำรุงอารามยังเมืองเขาได้
แต่หากมีผู้ใดไปยังถิ่นพม่าเมืองรามัญ
เราใคร่ขอเมตตากุศลวานไปกระทำถวายแทนเรา
เพื่อให้ท่านเหล่านั้นคลายสิ่งยึดติด
จักมิได้เกิดภพภูมิที่ซ้อนกันนัก

เราต้องกลับไปกราบท่านอาจารย์อีกสักครา
ผิว่าจักขอคำแนะนำลดแรงโทสะท่านเหล่านั้น
เราหาได้กลัวอันใดไม่
สิ่งที่กระทำไว้
เราผู้อยู่ถิ่นฐาน
กระทำหน้าที่ป้องปกขัณฑสีมา
จึงหามีความผิดอันใดไม่
เรากระทำหน้าที่โดยชอบธรรม
ด้วยจิตแห่งการปกป้องมหาชนชาวอโยธยาศรีรามเทพนครแผ่นดินต้นสยาม
เพียงต้องการปลดปล่อยผู้เกี่ยวพัน
จักเป็นการสร้างกุศลอีกทางหนึ่ง
ต่างคนต่างได้เดินทางที่ก้าวไกล

เราคิดว่าจักตั้งกองสังฆทานสู่ท่านเหล่านั้นอีกสักครา
ขอบารมีเหนือหัวเจ้าเฉกเช่นเดิม
ผลิว่าจักลดแรงโทสะผู้ติดยึดได้บ้าง
แต่คงต้องรอจากกลับมาจากร่มกาสาวพักต์

หากท่านไปที่วัดวรเชษฐ์
ก็หาอาหารเลี้ยงอดีตมิตรแลศัตรูผู้มารุกราน
ที่มาเสวยภพเป็นสุนัขในอารามนั้นบ้างนะท่าน
วันนั้นมี ๓-๔ ท่านเหล่านั้นมายืนฟังเราสนทนา
เราจึงอุทิศผลกุศลให้ไป
ผู้อยู่ที่นั่นมีทั้งมิตรและรุกราน
ที่กลับมาอยู่ในโลกแห่งปัจจุบันแล

การอโหสิกรรมทั้งผู้ให้และผู้รับ
เป็นการสร้างธรรมทานอีกแนวทางหนึ่ง
ทั้งผู้ให้และผู้รับ
และจักมิมีผู้ใดให้มิมีผู้ใดรับ
ต่างคนต่างให้ต่างคนต่างรับ
ต่างคนต่างได้

 

ดีใจด้วยค่ะท่านอินฯ ที่ท่านได้มีส่วนช่วยฝึกน้องทั้งสองคนนั้น ให้ได้มีโอกาสช่วยชีวิตเพื่อนร่วมโลก เมื่อกี้ดูข่าวตอนที่เขาจะนำคนแรกขึ้นมา พอดีกำลังจะนั่งสมาธิ แต่นั่งไม่ติดเลยค่ะ หวั่นๆยังไงไม่ทราบ ก็เลยลุ้นจนคนแรกขึ้นมาได้ ภรรยาและญาติเขาที่บ้าน คงดีใจกันมากๆ เลยค่ะ ตอนนี้ข่าวบอกว่า ขึ้นมาได้ 4 คนแล้ว ดีใจด้วยมากๆ ที่คนไทยมีส่วนได้ช่วยเหลือในครั้งนี้ พยายามมองหาค่ะ ว่าคนไทย คนไหน มองหาแบบที่ตัวไม่สูงมาก แต่ไม่ค่อยเจอแฮะ คิดว่าคนไทยอายกล้องค่ะ อิอิ พอเขาช่วยคนแรกขึ้นมาได้ เราก็เลยนั่งสมาธิต่อ ก็สงบดีค่ะ

ส่วนน้องกรอง มาพร้อมซองผ้าป่าไม่เป็นไรค่ะ กลัวเป็นการ์ตแต่งงานซะมากกว่า จะได้ดีใจกับน้องด้วยไง อิอิ พี่ตาอยากได้ซองมั่งอ่ะคะ ไม่ทราบน้องจะแสกนแล้วส่งมาให้พี่ได้ไหมเอ่ย ขอบคุณค่ะ

 

ข่าวที่นี่รายงานติดตลกค่ะ ว่าคนที่ 5 ก่อนที่จะนำขึ้นมาเนี่ย มีผู้หญิงสองคนมารอ ทุกคนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ถามไปถามกันมา ก็ผู้หญิงอีกคนบอกว่าเป็นภรรยา อีกคนเป็นแฟน อ้าว อย่างนี้ต้องมีเคลียร์กัน ว่าเขาจะยอมขึ้นมาเหรอป่าว ภรรยาก็ทั้งดีใจแต๋ก็คงเสียใจเหมือนกัน ที่นี่รายงานข่าวตลอดเวลาเลยค่ะ อ่านแล้วก็ปลื่มใจกับคนที่ไปช่วยจริงๆ แถมนายกฯของเขาก็ใจดี ยกที่ดินให้คนที่ติดอยู่ข้างล่างก็มี

 

เมื่อประมาณต้นปี ที่นีก็มีข่าวเกี่ยวกับแอปเปิ้ลค่ะ ว่ามีน้ำตาลสูงมากอาจะเป็นอันตรายต่อร่างกายถ้ากินบ่อยๆ ทีนี้พวกผู้ปลูกต้นแอลเปิลก็ไม่พอใจค่ะ เพราะกลัวว่าจะขายไม่ได้ เป็นข่าวดังอยู่สองสามวัน แล้วก็หายเงียบไป คนที่นี่กินแอปเปิลกับกล้วย กันทุกวันค่ะ เขาสอนกันมาแบบนั้น บางทีตามร้าน ยังขายกล้วยแบบว่าหั่นครึ่งเลยค่ะ แล้วก็ห่อพลาสติกไว้อีกครึ่งนึงไว้ขายต่อไป แล้วแอปเปิ้ลก็ถูกมากๆ เลยค่ะ โลละห้าสิบกว่าบาทถ้าตามฤดูกาล ถ้าแพงหน่อยก็ ร้อยกว่าบาท ยังถูกกว่าเมืองไทยเยอะ คนไทยที่นี่ส่วนใหญ่ชอบกินแอบเปิ้ลเขียวจิ้มน้ำปลาหวานยี่ห้อตะใคร้ เพราะเปรี้ยวดีแทนมะม่วงได้ค่ะ

อาการที่ท่านอินฯ ไว้ว่ากินเค็มเกินไป อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเรียกอาการนี้ว่าอย่างไร คือมันอึดอัด นอนหลับไปแล้วก็ตื่นขึ้นมากแบบว่า ร้อนก็ไม่ใช่ นอนก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้ กระวนกระวาย อยู่ตรงหน้าอก ตรงท้องเนี่ย จนแฟนบอกว่า สงสัยจะเป็น Heart Burn หลังๆ ชักเป็นบ่อยค่ะ ก็เลยค่อยมากนั่งนึกกันว่ากินอะไรไป ช่วงนั้นกินผลไม้กีวีสีเขียวไปสองสามลูก แล้วก็ซดต้มยำไปด้วย แฟนเขาก็หาข้อมูลทางเน็ต ก็อาจจะเป็นได้ว่า เรากินกีวีที่มีกรด แล้วต้มยำ ก็มีน้ำมะนาวเยอะด้วย ไปผสมกันในท้องเรา ทำให้เกิดอาการแบบนั้น ช่วงนั้นเป็นแทบทุกวัน แต่ไม่ได้กินกีวีกับต้มยำทุกวันนะ กินกีวีทุกวันเลย หลังอาหารเย็น แล้วก็เป็นคนชอบกินก๊วยเตี๋ยวแล้วก็เติมน้ำส้มเยอะหน่อย พอตอนหลังลองกินยา มายแลนต้า ก็หาย แล้วหลังๆ พี่ๆคนไทย เขาคุยกันว่า คนไทย ห้ามกินกีวีเกินวันละสองผล จะมีอาการคล้ายๆแบบนี้ ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่า เขาเรียกว่ากรดไหลย้อนเหรอป่าวค่ะ

โรคกระเพาะเคยเป็นค่ะ ก็เป็นอยู่หลายเดือน ยาฝรั่งไม่หาย ก็หายเพราะกล้วยเนี่ยล่ะค่ะ กินมั้นทุกวัน กินก่อนกินอาหารด้วย ไม่นานค่ะ หายแล้วก็ไม่เป็นอีกเลย

อยู่เมืองไทยโชคดีค่ะ มีผลไม้ให้กินทุกฤดูกาล แตกต่างกัน ที่นี่ไม่ค่อยมีเลยค่ะ กล้วยกับแอปเปิล ตลอดปีก็จริง แต่กินทุกวันก็น่าเบื่อนะคะ กล้วยก็ต้องสั่งมาจากฟิลลิปปินส์ ส้มกับกีวีก็ตามฤดูกาล ช่วงนี้สตรอเบอรี่แต่ก็แพงหน่อย เมืองไทยราคาสบายกระเป๋าค่ะ เดี๋ยวเดือนธันวาก็จะมีแตงโมออกมา สีสวยแต่ไม่หวาน เหมือนบ้านเราค่ะ ราคาก็โห ขายเป็นโลๆ ละไม่ต่ำกว่าร้อยค่ะ ขายเป็นชิ้นๆ ก็มี ถูกๆหน่อยไม่ต่ำกว่า 50 บาท
ว่าแต่ช่วงนี้กินมังสวิรัติ สองวันแล้ว ยังไม่ถ่ายท้องเลยค่ะ หุหุหุ

 

ขอบคุณน้องปราญ และคุณ อบ.
กล้วยที่นี่ จะทานโดยเอากล้วย ทั้งลูกไม่ปอกเปลือกแต่ผ่าครึ่งท่อนนำไปต้ม และทานกับไข่ทอด ที่ลักษณะคล้ายๆ ออมเลท หรือไม่ก็ทานคู่กับไส้กรอกครับ อย่างวันนี้ที่ทำงานเจอเมนูนี้ ผมทานไม่ได้ครับ
นางฟ้าเจอคำขวัญทีเด็ดผมไปแล้ว จริงๆคิดไว้เมื่อเดือนกว่าๆเอง ทำให้เกิดกำลังใจทำงานเยอะดีครับ