ถึงคุณ สับสน

ก็ลอกมาจาก อธิเดชไง..เขาโพสต์มาเอง แยกให้เห็นชัดๆ..คำสอนเอี้ย เอี้ย มันต้องของไอ้โมชโช..พันธบัตร10ล้าน ไม่ออกบิณฑบาต แดกแต่ปลาบู่นึ่งซีอิ้ว..ที่ตนเองชี้ให้จับ เป็นไงพอรึยัง..
เล่าปัง นิวรณ์ ..กรูเห็นมรึงตามเชียร์ เจ้าอธิเดชนี่มาเป็นเดือนๆ จะปีแล้วจะขยายสาขารึ..ดูจิต เตี่ยมึงดิ มรรคไม่มีเลย..มึงอ่านที่มันอธิบายซิ แค่เอาสติตามดูความคิด(ใจ ปรุงแต่ง) .. แจ้งอริยสัจจ์ เลยรึ หากเป็นจริงป่านนี้มันไม่มานั่งจิ้มดีดเหมือนมึงแล้ว..ไอ้เล่าปัง
เดี๋ยวก็..หงายหมา..หลอกแค่ตามความคิด เงาจิตทัน แจ้งอริยสัตว์มั๊ง..เล่าปัง

 

คุณ หลงเข้ามา ครับ คำว่า เจตสิก แปลว่าอะไรครับ ไม่เอากิริยา หรือ อาการ ของเจตสิกนะครับ

สาธุครับ

 

ซ้ำกับเฮียสับสน ขออภัยงั่นปล่อยเป็นทางของเฮียสับสนแล้วกันครับ

 

เมื่อไหร่คุณ สับสน จะอธิบายเรื่อง"จิต"ครับ เป็นแต่ต่อว่าด่าทอคนอื่นอย่างเดียวหรือครับ

ที่ปฎิบัติมานี้เป็นอยู่แค่นี้ใช่ไหมครับ ผมบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ผมเป็นปุถุชน

ผมบอกกล่าวไม่ชัดเจนตรงไหนครับ แค่ดูจิตนี่คุณยังไม่รู้ ไม่เข้าใจเลย

ทีผมถามบ้างไม่กล้าตอบ ไหนว่าเป็นผู้รู้ครับ กลุ่มพวกคุณจะอ้างว่าเป็นผู้รู้

แต่เมื่อไหร่จะตอบครับ นานไปไหมครับที่จะตอบคำถาม

สาธุครับ

 

เจตสิก..ก็คือความคิดทุกชนิด ที่โคจรมาที่จิตบนจิต แล้วเกิดการสัมปยุติ.. ปรุงแต่งกันเรียบร้อย เรียกว่า "สังขาร" นั่นไง
:'( สังขาร ก็จะส่งให้เกิดอาการต่างๆในตัวคุณ เรียกว่าอาการจิต หากคุณ เห็นจิตจริง จิตจะต้องทรงสมาธิ..จิตจะเห็นความคิดที่โคจรมายังจิต..แต่เขาไม่ปรุงแต่งตาม..จนเกิดกลายเป็นสังขาร(ตัดสังขาร) เพราะสมาธิจิตเขารู้จึง ห้าม ตัด ได้ทันที..จึงเกิดการว่างๆๆๆ
..นี่คือว่างแบบ มีมรรค.. เพราะจิตเขารู้ มาก่อนว่าหากปรุงแต่ง ทุกข์..ทันทีเกิด.

 

ธรรมชาติเกิดร่วมกับจิต. ปรุงแต่ง ให้จิตรู้ครับ

 

ที่คุณบอกมาความหมายแตกต่างจากผมตรงไหนครับ

ผมถามว่า คำว่า เจตสิก แปลว่าอะไรครับ กิริยา และ อาการ ของเจตสิกไม่เอาครับ

ผมบอกกล่าวไม่ชัดเจนตรงไหนครับ

สาธุครับ

 

ผมถามว่า คำว่า เจตสิก แปลว่าอะไรครับ กิริยา และ อาการ ของเจตสิกไม่เอาครับ

ผมบอกกล่าวไม่ชัดเจนตรงไหนครับ

สาธุครับ

 

ภาษา และ ความหมาย คุณ สับสน แยกไม่ออกหรือครับ

จึงได้เข้าใจยากขนาดนี้น่ะครับ คุณศึกษาเอาความหมาย หรือ ศึกษาเอาภาษาครับ

สาธุครับ

 

อธิเดช..อย่าทำลึกซึ้งปวดหัว ว่ามาตรงๆ.

 

เจตสิก นั่นผมอธิบายเป็น ปฏิเวธเลยนะนั่น..คุณยังว่าผมอีก ชักจะหนอยใจแล้ว.

 

ผมถามว่า คำว่า เจตสิก แปลว่าอะไรครับ

ชัดเจนนะครับ ไม่ต้องอธิบายครับ เอาเฉพาะคำแปลครับ

สาธุครับ

 

ไม่ได้ลึกซึ้งครับ และ ตรงประเด็นชัดเจนครับ

สาธุครับ

 

เจตสิก (อ่านว่า เจ ตะ สิก) แปลว่า ธรรมที่ประกอบกับจิต

 

แปลว่า ธรรมที่ประกอบกับจิต, สิ่งที่เกิดในใจ, ทางใจ เจตสิกหมายถึงอาการหรือการแสดงออกของจิต จัดเป็นสมรรถนะของจิต ...มาซ้ำกับพี่หลงซะแล้วว..สาธุครับ!

 

ธรรมที่ประกอบกับจิต เป็นอย่างไรครับ มีลักษณะเป็นอย่างไรครับ

มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยไหมครับ ขอแบบที่ชัดเจนกว่านี้ครับ

สาธุครับ

 

สรุปว่าใช่ ใจ ไหมครับ หรือว่าไม่ใช่ครับ

สาธุครับ

 

ตอบไปก่อนหน้านี้แล้วครับ หรืออ่าน โพสที่คุณสับสนอธิบายก่อนหน้าคุณจะถามก็ได้

ส่วนชื่อเรียกเป็นภาษาไทยไม่มีครับ มีแต่ไทยไปยืมบาลีมาใช้ หรือไม่ก็นำมาขยายความ แต่ก็ไม่ตรงความหมายเสียทีเดียว

กรุณาอย่าถามคำถามซ้ำๆครับ ควรอ่านก่อนแล้วถาม จะได้เข้าประเด็น

 

ขออนุญาติตอบ
เจตสิก ธรรมที่ประกอบกับจิต, สิ่งที่เกิดในใจ, ทางใจ

ซึ่งก็แน่นอนแล้วว่า ไม่ใช่ใจอย่างที่คุณเข้าใจ หรือเผยแพร่ออกไปผิดๆ

เจตสิกไม่ใช่ใจ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทางใจ นี่ก็แปลตรงตัวตามที่ตีความครับ

คำว่า จิต ใจ มโน มนัส วิญญาณ หทัย เป็นคำไวพจน์ ความหมายเดียวกัน แสดงหน้าที่ต่างวาระกัน รู้สึกในพระสูตรจะมีระบุไว้

 

ผมอ่านแล้วครับ ที่ถามเพิ่มเติมนี่ เพราะต่างก็รู้กันอยู่ ว่าแปลได้ว่าอะไร

เพียงแต่จะยอมรับหรือไม่เท่านั้นเองครับ การดิ้นรนในทุกวิถีทาง

จะสร้างคาวมลำบากให้แก่ตนเอง ไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ตาม

เพียงแค่หยุดอยู่กับที่ ไม่นึกคิดตามอารมณ์ความรู้สึก จะเห็นหลายๆอย่างได้ชัดเจนครับ

สาธุครับ