-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

ต่อมาประเด็นที่ pmorn สรุปว่าพระที่ด้านหลังมีจารึกว่า จปร ๒๔๑๑ คือพระปลอมนั้น ผมเห็นว่าเป็นการด่วนสรุปโดยมีอติอยู่เบื้องหลัง

ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ คือปีขึ้นครองราชสมบัติของรัชกาลที่ ๕ และเป็นปีสวรรคตของรัชกาลที่ ๔ จึงเป็นปีที่สำคัญ ดังนั้นการจารึกปี ๒๔๑๑ จึงเป็นการจารึกบอกไว้ว่าปีนี้เป็นปีที่เริ่มครองราช ซึ่งอาจจะไม่ใช่เป็นปีที่สร้างพระตามที่ pmorn ผู้ซึ่งมีอคติ ตีความเข้าข้างตนก็ได้

ถ้าผมจะตีความเสียใหม่ว่าพระที่ด้านหลังมีตรา จปร และ ๒๔๑๑ ตามทัศนคติที่ดีแล้วล่ะก็หมายความว่า

พระองค์นี้สร้างสมัยที่พระองค์เฉลิมพระนามย่อ จปร ครองราชแต่สมัย พ.ศ. ๒๔๑๑

และถ้าถามว่าทันสมเด็จโตไหม ผมว่าไม่ทัน เพราะสร้างในสมัยที่พระองค์เฉลิมพระปรมาภิไทยย่อ จปร ซึ่งสมเด็จโตมรณภาพแล้วนั่นเอง

แล้วอย่าลืมข้อมูลเก่าที่ผมนำเสนอตั้งแต่แรกๆว่าพระในกรุวัดพระแก้ววังหลวงนั้นมีหลายพิมพ์หลายวาระตั้งแต่พระเก่าแก่ที่ออกมาจากกรุวัดพระแก้ววังหน้าซึ่งสร้างตั้งแต่สมัย ร.๓ และสร้างมากที่สุดสมัย ร.๔ สมเด็จวังหน้าทั้งสองพระองค์ก็เป็นนักบุญและนักรบเชี่ยวชาญการช่างอยู่แล้วด้วยจึงสร้างพระไว้มาก และสร้างในสมัย ร.๕ เรื่อยมาจนถึงสมัย ร.๗
พระวังหน้านั้นในสายสกุลเก่าๆมีเก็บเอาไว้มาก เจ้านายชั้นสูงก็มีเก็บเอาไว้ ดังนั้นพวกเซียนพุทธพานิชไม่เคยเห็นก็ตีขลุมว่าปลอมไว้ก่อนเพราะว่าาพระมีมากกลัวว่าของในตู้ซึ่งพุทธคุณด้อยกว่าพระกรุนี้มากราคาจะตก ดังจะเห็นว่าเซียนพุทธพานิชปัจจุบันตีพระสมเด็จโตไว้แค่ 5 พิมพ์เองซึ่งขนาดตรียัมปวายซึ่งเป็นปรมาจารย์บอกว่ามีมากกว่า 73 พิมพ์

 

เข้าใจครับ พระชัยวัฒน์หมุดทองของผมซื้อเหมาๆผสมมาตกองค์ละ 50 บาทครับจากคนที่รับซื้อจากนายทหารที่ขนออกมาโดยตรง ถ้าใครหาพระแบบนี้ได้ผมให้องค์ละ 100 บาทรับซื้อไม่อั้นครับ เรื่องทองคำผมดูเป็นครับเพราะว่าอาชีพของพ่อแม่คือทำร้านจิวเวอรี่ มีน้ำยาตรวจทอง และพระบางองค์ผมส่งวิเคราะห์หาโลหะด้วยเครื่อง XRF (รู้จักป่ะ)


เรื่องเชื่อไม่เชื่อเป็นเรื่องของท่านที่จะพิจารณาเอง ผมก็ไม่ได้หวังให้ท่านเชื่อเพราะว่าเป็นปทปรมะ แต่ผมหวังที่คนรุ่นหลังๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้จะเห็นคำโต้แย้งของผมเพื่อจะได้ฉุกยั้งคิดเยี่ยงวัญญูชนที่พึงพิจารณา

 

ผมว่าคนอื่นเขาคิดได้นานแล้วล่ะครับว่าของแท้หรือปลอม แล้วไอ้พวกที่ขนออกมานี่ก็โง่นะขาย 50 บาท เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนออกมาเพื่อมาขาย 50 บาท 555++ แสดงว่าคุณ Peet ยัง Lame logic แก้ไม่หายแล้วล่ะครับ

ปล. เผื่อคนผ่านมาอ่านพิจารณาเอานะครับว่าจะเชื่อแบบใหน แต่ผมมีความเชื่ออย่างนึงนะว่าพวกอ้างพระอ้างเจ้า หลอกขายพระเก๊ หลอกขายความเชื่อ ยมบาลคงจดชื่อไว้แล้วล่ะว่าจะให้ไปอยู่ขุมใหนดี ไม่แน่ชาตินี้อาจกำลังได้รับผลกรรมอยู่ก็เป็นได้

 

คนขายพระให้ผมไม่ได้โง่เพราะว่าแกก็มีต้นทุนประมาณองค์ละ 1 บาท ขายให้ผม 50 บาทคิดว่ากำไรกี่เปอร์เซ็นต์ครับ

คุณอ้างศัพท์เทคนิคตัว Lame Logic มาให้ผมฟังหน่อยว่ามันคืออะไร ถ้าไม่รู้ความหมายก็อย่าใช้มันอายคนที่เขารู้

คนหลอกขายพระปลอมว่าเป็นพระแท้บาปหนักครับ แล้วคนที่บอกพระแท้ว่าพระปลอมก็บาปหนักเช่นเดียวกัน

 

จริงๆว่าจะไม่คุยกับคนชื่อ hemicuda แล้วนะ
เพราะว่าสนทนาด้วยก็ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มขึ้นอยู่ดี
แล้วมีแววว่าจะเข็นไม่ขึ้นด้วย ผมรอ จขกท. pmorn ตอบอยู่

ผมเปิดประเด็นใหม่สองประเด็นคือ

1. พระที่ด้านหลังมีตราครุฑ จขกท. บอกว่าปลอมให้เหตุผลว่าตราครฑพ่าห์มีใช้หลังรัชกาลที่ ๕ ผมแย้งว่าไม่จริง ตราพระครุฑพ่าห์มีใช้มาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ประเด็นนี้ท่านจะว่าอย่างไร?

2. พระที่ด้านหลังมีตรา จปร และ ๒๕๑๑ เป็นพระปลอม ผมบอกว่าเรื่องนี้สามารถตีความหมายได้ว่าพระองค์นี้สร้างเพื่อเฉลิมพระนามาภิไทยย่อ จปร ซึ่งครองราชตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่องนี้ท่าน จขกท. จะว่าอย่างไร?

 

คำว่าเข็ญไม่ขึ้นนี่เอาไปใช้กับพวกสาวกสายฝังเพชรฝังพลอยดีกว่าครับ 555 หลายปีแล้วยังหลอกใครไม่ได้เลย ต้องอวตารไปเรื่อยๆ


lame logic เห็นบอกว่าเป็นนักวิชาการแต่ไม่รู้ความหมายคำนี้ ??? ผมว่าคนที่อายคือคุณนะครับ นักวิชาการ ที่ปรึกษาใหญ่ ไม่แน่อาจจบ ป เอก ด้วย แต่ไม่รู้จัก lame logic ไม่น่าเชื่อเลยครับ ที่ผมยกมาพูดก็นึกว่าคุณจะเข้าใจความหมาย ที่สำคัญพระกริ่งท่านที่ปรึกษาเปิดมาที่ไรตะลึงกันทุกรอบ ทั้งหล่อโบราณแต่งขั้นเทพ (ไม่รู้ใครแต่ง) หลังๆ มาเริ่มมีหมุดทอง ?? ตะลึงกันละครับพี่น้อง

 

มาพูดถึงเรื่อง probability กันหน่อย
คุณบอกว่าต้นทุนองค์ละบาท คนบ้าเท่านั้นที่จะขายพระทองคำองค์ละ 50 บาท เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือนะครับ แต่งมาใหม่ดีกว่าครับ ที่สำคัญถ้ามีจริงคงไม่เกินร้อยองค์ และทำคนเดียวไม่ได้ แบบนี้จะให้เชื่อยังไงครับ เสี่ยงตายขโมยพระทองคำมาขายองค์ล่ะ 50 ได้มาร้อยองค์ได้ตังค์มาแค่ห้าพัน น่าเชื่อดีมั้ยครับ

 

กำ.. กำ... กำ....

ได้มาองค์ละ 50 บาท โม้ซะยังกับว่าได้ของดีหลักล้านมา

กำ.... กำ.... กำ...

เห็นว่ามีร่วม 2 หมื่นกว่าองค์ ผมว่า มันผิดปกตินะครับ

ตอนเช่ามา ไม่รู้ว่า ใช้ไส้ตื่ง คิด แทน หรือ เพราะสมอง รับภาระการงานที่หนักเกินไปรึไม่

เอาแค่คิดง่ายฯ เล่นฯ ถ้ามันใช่ ทำไมเขาปล่อยให้ท่าน..?? แล้วทำไมมีเป็นเข่ง..??

ต้นทุน องค์ละ 1 บาท ท่านรู้ ท่านยังเช่า ในราคา 50 บาท ??

ร่ายยาวมาตั้งนาน..... ลิเกเรื่องนี้.... ตัวตลก ปิดม่านเองซะอย่างนั้น

คนดู คนอ่าน เซ็งเบย.....

 

นิทานเรื่องนี้จบยากจริงๆ

 

ก็แค่นั้น ครับ ท่าน พีท(k)

 

เอาเป็นว่าเรื่องราคาพระได้มาราคาเท่าไรนั้นผมตอบให้รวมๆนะครับ
บางคนสงสัยว่าทำไมได้ราคาถูกจัง ที่ราคาถูกเพราะด้วยเหตุดังนี้ครับ

1. คนรับซื้อเหมาจากนายทหารที่ขนออกมาจากวัดพระแก้วได้พระมาเยอะมากตีเป็นหลักหลายแสนองค์ มีหลากหลายพิมพ์ หลายหลายเนื้อ แกบอกว่าแกไปขายที่นาได้มา 400,000 บาท แล้วเอาเงินไปรับซื้อไว้ทั้งหมด ดังนั้นตกเฉลี่ยๆต้นทุนองค์ละ 1 บาทถูกต้องไหม

2. พระทองคำส่วนใหญ่จะลงรักชาดแล้วปิดทองเอาไว้เช่นพระหล่อทรงพระประธานต่างๆ หรือลงครั่งแล้วปิดทองเอาไว้เหมือนอย่างพระกริ่งที่ผมเอามาโชว์ หรือบางองค์ที่มีทองผสมน้อยก็จะมีสนิมของโลหะอื่นขึ้นปกคลุมจนมองไม่ออกว่าเป็นทอง ส่วนองค์ที่มองภายนอกออกสีทองเลยคนขายก็นึกว่าเป็นแค่กะไหล่ทอง ดังนั้นคนขายจึงไม่รู้ว่าตนเองมีพระทองคำอยู่

3. คนขายพระตั้งราคาแบบขายไปเรื่อยๆคือขายตั้งแต่ราคาองค์ละ 20 บาท จนถึงแพงที่สุดองค์ละประมาณ 5,000 บาทซึ่งเป็นขนาดพระบูชา ผมเป็นคนสนิทของคนขายเวลาจะเอาพระสามารถไปเลือกได้ที่บ้านแก จึงเห็นพระเป็นท้องพระคลังมหาสมบัติ และเห็นรูปและประวัติต่างๆของนายทหารที่เอาพระจากกรุวัดพระแก้วออกมา

4. พระชัยวัฒน์องค์เล็กผมคัดๆซื้อออกมาแล้วโดยเฉพาะพิมพ์พิเศษที่หายาก เช่นทองคำทั้งองค์ หมุดทอง ก้นทอง ผมจะเอาพระมาประมาณครั้งละ 100,000 บาท ก็เก็บสะสมมา 20 กว่าปีแล้ว

5. ผมมีฐานะดี มีการศึกษาดี มีการงานดี ไม่ได้มีอาชีพขายพระหากิน สะสมพระเพราะว่าชอบพลังพุทธคุณ จิตใจจึงบริสุทธิ์

ที่มาโต้ตอบกระทู้นี้เพราะว่า จขกท. เป็นคนไม่รู้จริงแล้วอวดฉลาดมาเอาตรรกะแบบตรรกะวิบัติมาสรุปว่าพระกรุวัดพระแก้วซึ่งประกอบด้วยพระวังหน้า พระวังหลวง และพระจากวัดสำคัญเป็นของปลอม

 

พระที่ผมเอามาโชว์เป็นพระซึ่ง จขกท.ไม่เคยเห็น และคาดไม่ถึงว่าจะมีพระทองคำอยู่ในสารบบของกรุวัดพระแก้วด้วย ถ้าผมเอาพระพิมพ์พื้นๆที่หาดูได้ตามอินเตอร์เนตมันจะมีประโยชน์อะไร และอีกอย่างหนึ่งที่เอาพระทองคำออกมาโชว์เพราะว่าจะได้เป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งว่าถ้าเป็นพระปลอมมันมีหรือที่พระปลอมทำด้วยทองคำแล้วคนขายขายมาในราคาถูกๆ

 

พระที่ผมมีมากกว่า 20,000 องค์นั้นไม่ใช่มีเฉพาะพระกรุวัดพระแก้วอย่างเดียว
ผมมีพระหลักทุกอย่างที่เซียนตามตู้ในห้างบอกว่าเป็นพระดีพระเงินล้านเกือบทั้งหมดครับ
พระชุดเบญจภาคีผมมีมากกว่า 5 ชุด (ผมมีพระผงสุพรรณแค่ 5 องค์ เลยจัดได้แค่ 5 ชุด)
พระเบญจภาคีเนื้อชินก็มีประมาณ 5 ชุด
เหรียญหล่อโบราณผมก็มีหลายองค์ เช่นเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่บุญ มีสององค์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่ามี 20 กว่าองค์
พระเกจิดังๆที่เล่นกันหลักแสนผมมีเป็นกล่อง เช่นหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
รูปหล่อเช่นหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อพรหมก็มีอีกเป็นร้อยองค์

จริงๆแล้วผมสะสมพระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วยซึ่งผมนับถือเป็นอาจารย์องค์แรกของผมก่อน เช่นพระคำข้าว พระหางหมากเมื่อก่อนหลวงพ่อตั้งราคาบูชาที่องค์ละ 10 บาท ผมเลยเก็บมาเยอะมากไมแพ้กัน

แค่บอกไว้ให้ทราบ ไม่ต้องอิจฉา
เล่นพระหลักมาก่อนพระกรุวัดพระแก้ว แต่พอมาเจอพระชุดวังแล้วก็เล่นแต่พระชุดวังเพราะว่า
1. พระสวยกว่า
2. มีพลังพุทธคุณแรงมากๆ
3. มีราคาต่ำมาก เพราะคนส่วนใหญ่ว่าเป็นพระปลอมตามที่พวกเซียนตามตู้ในห้างบอกนั่นแหล่ะ
4. พระบางองค์สมเด็จโตท่านปลุกเสก ซึ่งบางองค์แรงกว่าพระทีเซียนซื้อขายกันในราคาเกินหลักสิบล้านอีก

พวกคุณรู้ไหมในบรรดาพระในชุดเบญจภาคี พระองค์ไหนพลังพุทธคุณอ่อนที่สุด? และองค์ไหนแรงที่สุด?

 

ที่บ้านก็มีนะครับ เป็นพระสมเด็จ หลังเป็นตรา จปร. เซียนพระเขาบอกว่าไม่เล่นกันและปลอมเยอะมาก ที่มาที่ไปบอกยังไม่ชัดเจน มาย้อนบอกอีกว่าท่าพระจันทร์ เยอะ

 

ขยายให้อ่าน ตัวโตๆๆ​

สงสัย ท่านที่ปรึกษาใหญ่ สายตาไม่ดี​

ไม่ใช่การตีความแบบ มีอคติ หรือ แบบ ตามทัศนคติที่ดี อะไรหรอกครับ
เพียงแต่
เป็นการตีความเพื่อให้พระที่ตัวเองถือครองอยู่ เป็นพระแท้

ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร ท่านที่ปรึกษาใหญ่ ได้
เพราะ เป็นพระของท่านที่ปรึกษาใหญ่ เอง


ตามสบายครับ
แต่ พสมช จะเชื่อตามท่านที่ปรึกษาใหญ่ หรือ ไม่
พสมช ทุกคนมีพิจารณญานของตนเองครับ

หรือ จะเชื่อตามผมหรือไม่
ก็เป็นเรื่องพิจารณญานของแต่ละบุคคล เช่นเดียวกัน


ผมก็แค่ คนนำเอาข้อมูลที่มีอยู่ ออกมาเผยแพร่สู่ พสมช เท่านั้น ครับ

 

อยากชมพระหลักครับ

 

อ่อนสุด กับแรงที่สุด

 

จาก

h ttp://www.thairath.co.th/content/155422


โอ้โฮวุ้ย วันก่อน เขียนถึง พระสมเด็จวัดระฆังฯ ว่าไม่มีหรอก ที่ หน้าพระพุทธ หลัง ร.๕ ทรงมีพระมัสสุ (มีหนวด) ปรากฏว่าตลาดพระประเภท ยองๆส่อง ริมฟุตปาทป่วนไปเรยย์ เพราะลูกค้า เลิกซื้อ หลังจากตาสว่าง.....

เหตุผลง่ายๆ ย้ำกันอีกรอบ คือตอน ร.๕ ขึ้นครองราชย์ ปี 2411 พระชนมพรรษา 15 พรรษา เจ้าประคุณสมเด็จฯโต อายุ 80 ปีแล้ว อีก 4 ปีต่อมา ก็มรณภาพเมื่อ พ.ศ.2415 โดยตอนนั้น ร.๕ ก็เพิ่งมีพระชนมพรรษา 19 พรรษา.....

แต่ พระสมเด็จวัดระฆัง ดันมีพระบรมรูป ร.๕ ตอนพระชนมพรรษาราวๆ 40 พรรษา .....

แต่ถ้าจะตะแบงเถียงว่า สมเด็จโต หยั่ง รู้อนาคต ว่า หลังจากที่ตัวท่านมรณภาพไปแล้ว อีก 20 ปีให้หลัง ร.๕ จะต้องมีพระพักตร์อย่างไร เลยสร้างพระ ทิ้งไว้ ก็ขอเชิญเชื่อหัวทิ่มต่อไป.....

แต่อย่าลืมความ เป็นไปไม่ได้ อีกข้อ ว่า เทคนิคการสร้างพระยุค 140 ปีก่อน ยัง ไม่ทันสมัย ที่จะทำให้มี หน้าตาบุคคล ในพระเนื้อผงได้ ดังนั้น พระบรมรูป ร.๕ หลังพระสมเด็จ ที่ คมชัด หูตากะพริบ พระหนวดกระดิกได้ จึง ไม่ใช่ การสร้างใน ยุคสมเด็จโต แน่.....

ก็เลยมีท่านผู้ชมทางบ้าน ถามถึง พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นที่พบตอน รื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว ว่า มีหรือไม่มี เพราะ เกร่อ พอๆกับรุ่น หลัง ร.๕.....


สีกาอ่าง ไม่อยากทำตัวเป็น จอมค้าน แต่ก็ไม่อยากให้แฟนเพลงทางบ้าน เล่นพระผิดทาง จึงขอยืนยันว่า พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่น พบตอนรื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว ก้อ ไม่มี.....

เพราะ วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างในสมัย ร.๑ ราวๆ พ.ศ.2325 ซึ่งตอนนั้น สมเด็จโต ยังเป็น เณรน้อย ตจว.อายุ 6-7 ขวบอยู่เรยย์ เพิ่งเข้าเมืองหลวงสมัย ปลาย ร.๑ และมามีชื่อเสียงโด่งดังในสมัย ร.๒-ร.๓.....

และกว่าจะเริ่มสร้าง พระสมเด็จวัดระฆัง ก็เป็น ยุคปลาย ของท่านแล้ว ในสมัย ร.๕.....

ดูแร้ว โนเวย์ ที่ พระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่ง ถือกำเนิดในสมัย ร.๕ จึงจะ ย้อนเวลา ไปซุกอยู่ในหลังคาโบสถ์วัด พระแก้วในสมัย ร.๑ ได้ เพราะตอนบูรณะวัดพระแก้ว ครั้งแรกในสมัย ร.๓ ตอนนั้น สมเด็จโต ก็ยังไม่สร้างพระสมเด็จฯ จึงย่อมเอาไปใส่ขื่อวัดไว้ไม่ได้ พอบูรณะหนสองในสมัย ร.๕ (ปี 2425) สมเด็จโต ก็มรณภาพไปแล้ว 10 ปี.....

อีกทั้งเป็นวัดของพระมหากษัตริย์ ใครจะเที่ยวเอาโน่นเอานี่ไปซุกไว้ คงไม่ได้ และหากจะซ่อน พระสมเด็จวัดระฆัง กันจริงๆ ก็คงไม่มีใครอุตริปีนเอาไปไว้บนขื่อโบสถ์สูงลิบ เพราะในยุคโน้น นิยมบรรจุพระไว้ใน พระเจดีย์.....

อีกทั้ง สมัยที่ สมเด็จโต สร้าง พระสมเด็จวัดระฆัง ก็สร้างทีละเล็กละน้อยสร้างไปแจกไป ไม่เคยปรากฏว่า มีการ บรรจุ พระสมเด็จวัดระฆัง ไว้ในกรุไหนเจดีย์ไหน เพราะ ของไม่เหลือให้บรรจุ จึงจะไปเจอเป็นเข่งในขื่อวัดได้งัย ไม่เข้าท่า.....

และที่ชัดเจนแจ่มแจ้งคือ เซียนสายสมเด็จทุกคน พิสูจน์แล้ว พระที่อ้างว่าพบบนหลังคาโบสถ์วัดพระแก้วตอน สมเด็จพระเทพฯ ทรงคุมการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อปี 2520-2525 นั้น ผิดทั้งพิมพ์ เพี้ยนทั้งเนื้อ และไม่มีอายุความเก่า จบข่าว.....



ใครอยากเชื่อว่ามี ก็ขอเชิญเชื่อหัวทิ่ม ต่อไป.....

แต่อย่ามาว่าคนอื่นที่ไม่เชื่อว่า โง่กว่าตัวเอง
ตัวเองอยู่เหนือคนอื่น มีบุญญาวาสนาเหนือคนอื่น

 

บทความนี้ผมก็ได้อ่านมา เหมือนกันครับพี่ โอ้ย ปวดหัวๆๆๆ