ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



ผู้นำทางทหารของเวเนซุเอลาเปลี่ยนไปสนับสนุนนายพล Alberto Mendoza ในการกำจัด Maduro ในฐานะประธานาธิบดี!

 

ปะทะเดือดตาย4ศพในเวเนซุเอลา ก่อนวันชุมนุมใหญ่ของฝ่ายหนุน-ต้านปธน.มาดูโร
เผยแพร่: 24 ม.ค. 2562 01:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายในเหตุปะทะกันเมื่อค่ำคืนวันอังคาร(22ม.ค.) ก่อนหน้าการชุมนุมใหญ่ของทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ในเวเนซุเอลา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธ(23ม.ค.)

กลุ่มสังเกตุการณ์ความขัดแย้งทางสังคม(Social Conflict Observatory) ซึ่งเป็นองค์กรนอกภาครัฐ(เอ็นจีโอ) ระบุว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี หลังจากได้รับบาดเจ็บบาดแผลกระสุนปืนระหว่างการชุมนุมในกรุงการากัส


ด้านตำรวจเผยว่าอีก 3 คนที่เหลือ เสียชีวิตในเหตุปล้นสะดมท่ามกลางการประท้วงในเมืองโบลิวาร์ ในรัฐโบลิวาร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวชายแดนติดกับบราซิล

รายงานข่าวระบุด้วยว่ารูปปั้นของฮูโก ชาเวซ อดีตผู้นำการต่อสู้เพื่อปฏิวัติและอดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลาคนก่อนหน้า มาดูโร ถูกพวกผู้ประท้วงหลายสิบคนจุดไฟเผาในเมืองซานเฟลิกซ์ ในรัฐโบลิบาร์ โดยภาพถ่ายและวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นรูปปั้น ซึ่งเคยถูกทุบทำลายเมื่อปีที่แล้ว กำลังถูกเปลวเพลิงลุกท่วม

ความตึงเครียดในเวเนซุเอลาพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่เมื่อวันจันทร์(21ม.ค.) หลังทหารกลุ่มหนึ่งเข้าควบคุมป้อมบัญชาการแห่งหนึ่งทางเหนือของเมืองหลวงและลุกฮือต่อต้านมาดูโร พร้อมกับเผยแพร่วิดีโอเรียกร้องประชาชนลงสู่ท้องถนนเพื่อสนับสนุนพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกตำรวจและกองทัพเข้าสกัดอย่างรวดเร็ว และถูกรวบตัวไปทั้งสิ้น 27 คน

กระนั้นก็ตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการชุมนุมต่อต้านมาดูโรกลุ่มเล็กๆอย่างน้อย 30 จุดทั่วเมืองหลวง และตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ประท้วงเหล่านั้น

ฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนัดชุมนุมใหญ่ในวันพุธ(23ม.ค.) ในขณะที่ ฮวน กุยโด ประธานรัฐสภาสภา มีเป้าหมายระดมเสียงสนับสนุนเขาในความพยายามขับไล่ มาดูโร พ้นจากอำนาจและจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่านเพื่อมุ่งสู่การเลือกตั้งใหม่

แต่ทางรัฐบาลก็ตอบโต้ด้วยการประกาศจัดชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนมาดูโรเช่นกัน ทำให้ในวันพุธ(23ม.ค.) กลายเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดของเวเนซุเอลา นับตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 1958 เมื่อครั้งที่เผด็จการ มาร์กอส เปเรซ จิมิเนซ ล่มสลาย

มาดูโร เข้าพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 10 มกราคม ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่าความเป็นผู้นำของเขานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังศึกเลือกตั้งปี 2018 ที่ถุกมองอย่างกว้างขวางว่ามีการโกงอย่างมโหฬาร ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่รับรองรัฐบาลของเขา ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรป, สหรัฐฯและหลายชาติในละตินอเมริกา

https://m.mgronline.com/around/detail/9620000008153

 

ถ้ารัฐประหารไม่สำเร็จ ผู้นำฝ่ายค้านก็กลายเป็นกบฏทันที สหรัฐอเมริกาสนับสนุนการทำรัฐประหารประธานาธิบดีเวเนซุเอลาอย่างเปิดเผย เพราะไปยอมรับผู้นำฝ่ายค้าน Juan Guaido ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวของประเทศ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาก็ไม่ต่างจากผู้ช่วยในการก่อรัฐประหาร Maduro ถึงได้เชิญให้ออกไปจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง



Maduro กล่าวว่าเวเนซุเอลากำลังยุติความสัมพันธ์กับสหรัฐฯให้เวลานักการทูตสหรัฐ อเมริกัน 72 ชั่วโมงเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ

โดย CNBC.com


Juan Guaido ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาประกาศตนเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันและหลายประเทศในละตินอเมริกาและกระตุ้นให้ Nicolas Maduro นักสังคมนิยมยุติความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา เขาจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ทางการทูตของสหรัฐอเมริกา 72 ชั่วโมง เพื่อเดินทางออกจากเวเนซุเอลา ซึ่งกำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง


ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ทรัมป์ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากไกโดไม่นานหลังจากที่เขาประกาศและยกย่องแผนการของเขาในการจัดการเลือกตั้ง ตามมาด้วยคำแถลงที่คล้ายกันจากแคนาดาและรัฐบาลละตินอเมริกาที่ถูกต้องและถูกต้องรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของเวเนซุเอลา บราซิลและโคลัมเบีย


Guaido วัย 35 ปีหัวหน้าฝ่ายค้านเรียกร้องรัฐสภาบอกฝูงชนที่คึกคัก


คำแถลงของ Guaido นำเวเนซุเอลาเข้าสู่ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักด้วยความเป็นไปได้ของฝ่ายค้านในขณะนี้ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลขนานที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศว่าถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของรัฐได้


ในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์จากทำเนียบประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวหาว่าฝ่ายค้านมองหาการทำรัฐประหารโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเขากล่าวว่ากำลังพยายามควบคุมเวเนซุเอลาจากวอชิงตัน

“ เรามีการแทรกแซงมากพอที่นี่เรามีศักดิ์ศรี ประณาม! นี่คือผู้คนที่พร้อมจะปกป้องดินแดนนี้”


https://www.cnbc.com/2019/01/23/ven...-to-leave-country.html?__source=facebook|main

 

จะต้องยันสถานการณ์ให้ได้เกิน 72 ชั่วโมง จนกว่าเจ้าหน้าที่การทํตของสหรัฐอเมริกาจะออกจากเวเนซุเอรา แล้วหลังจากนั้นสถานการณ์จะเปลี่ยน เพราะถ้าผู้สนับสนุนอยู่ภายนอกประเทศ จะสนับสนุนการรัฐประหารยังไง

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



การปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลและประชาชนในเวเนซุเอลายังคงดำเนินต่อไป

 

สถานการณ์ไม่รุนแรงเพราะเราก็เคยเห็นที่อิสราเอลทำกับชาวปาเลสไตน์มาแล้ว ว่าโหดได้ใจกว่ากรณีนี้อีก


Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



กองกำลังรักษาความปลอดภัยของมาดูโรถูกยิงต่อต้านจากชาวเวเนซุเอลา

 

กรณีนี้ ประธานาธิบดีตุรกีถึงได้กลัวนัก ถ้ารัฐประหาร โดยสหรัฐอเมริกาไม่สำเร็จ ก็จะมีผลเสียทั้งกับเวเนซุเอลา และการหวาดระแวงจากประธานาธิบดีตุรกีถึงท่าทีของสหรัฐอเมริกา มากยิ่งขึ้น

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



ผู้ประท้วงในฝ่ายค้านใน caracas ต่อต้านประธานาธิบดี nicolas maduro และรัฐบาลของเขา


ฝ่ายค้านของเวเนซุเอลากำลังเรียกประชาชนไปตามถนนในวันพุธหวังว่าจะชักชวนให้ทหารของชาติมายึดอำนาจกับ nicolas maduro และไล่เขาออกจากทำเนียบของเขา

 

ยังไม่แน่หรอก เพราะยังมีสปอนเซอร์ เจ้าใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ในประเทศ แต่ถ้าเมื่อไหร่ นักการทูต ออกจากประเทศหมดจะยังเป็นแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า ต้องคอยดู เพราะประเทศ... คุ้นเคยกับม๊อบที่จ่ายเงินจ้างมาอยู่

Clima Extremo 24

เวเนซุเอลา



การแสดงออกที่ยอดเยี่ยมจากคารากัส ผู้ต่อต้านนิโคลัสมาดูโรเมื่อเช้านี้

 

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



ผู้ประท้วงออกจากการควบคุม


สถานีตำรวจถูกเผาในเวเนซุเอลาเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

Clima Extremo 24

เวเนซุเอลา



การประท้วงครั้งใหญ่ทั่วเวเนซุเอลา!

 

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



การแสดงออกครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ในมาราไกโบเมือง กับ Nicolas Maduro เมื่อเช้านี้

 

Clima Extremo 24

บราซิล



พายุที่รุนแรง ด้วยลมแรง และฝนตกกระทบ Itaqui วันนี้

 

Clima Extremo 24


อาร์เจนตินา



สายฟ้าผ่าระหว่างพายุที่ลงทะเบียนในวันนี้ 23 มกราคมและ Villa Allende Córdoba

 

Clima Extremo 24


อิตาลี



การปล่อยเถ้าภูเขาไฟรุนแรงจากภูเขาไฟ Etna ประเทศอิตาลีวันนี้ 23 มกราคม

 

Clima Extremo 24

MEXICO



คุณสามารถเปลี่ยนกิจกรรมของภูเขาไฟ Colima ได้ตลอดเวลา


ใน Colima นักวิจัยจากศูนย์การศึกษาและวิจัยวัลคาโลยีของมหาวิทยาลัยได้ตรวจพบการเพิ่มขึ้นของการปล่อยไอน้ำและก๊าซในภาคตะวันออกของปล่องภูเขาไฟVolcán de Colima ผลลัพธ์ของไอน้ำที่เป็นกลุ่มก้อนนี้คงที่จากภายในปล่องภูเขาไฟและสามารถมองเห็นได้หลายกิโลเมตร


เราใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์กับการเพิ่มขึ้นนี้ซึ่งไม่ได้สะท้อนให้เห็นในการเกิดแผ่นดินไหวการเกิดแผ่นดินไหวยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมากและเราเห็นการเพิ่มขึ้นนี้เท่านั้น มันมักเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของของไหลในกรณีนี้ก๊าซอาจเข้าไปเกี่ยวข้องในโครงสร้างภูเขาไฟและมีขนาดเล็กมาก "RaúlArámbula Mendoza ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและวิจัยวัลคาโลยีของมหาวิทยาลัยกล่าว


นอกจากการแพร่กระจายเหล่านี้แล้วเครือข่ายการตรวจสอบภูเขาไฟ ยังได้พบสั่นสะเทือนที่ลงทะเบียนไว้นั่นคือการสั่นสะเทือนภายในโครงสร้างของภูเขาไฟ กิจกรรมภูเขาไฟต่ำช่วยให้นักวิจัยสามารถต่ออายุและขยายเครือข่ายการตรวจสอบและเป็นครั้งแรกที่หน่วยคุ้มครองพลเรือนของรัฐโกลีมาเผยแพร่ผ่านสื่อดิจิทัลไฟเตือนภูเขาไฟ


...ตอนนี้มันอยู่ในระดับ...ซึ่งเป็นสีเขียว..,


กิจกรรมที่นำเสนอภูเขาไฟ Colima ในปัจจุบันบ่งชี้ว่าพฤติกรรมของมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาดังนั้นเจ้าหน้าที่ จึงรักษาเขตยกเว้นไว้ที่ 5 กิโลเมตรจากปล่องภูเขาไฟ

 

เฟสนี้ลืม จีนได้ยังไง เพราะเคยมีข่าวไปช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้เวเนซุเอลาอยู่ ก็คงเป็นที่ชื่นชอบของมาดูโลเช่นเดียวกับรัสเซีย

ImpactoVisión Noticias

#อัพเดทเวลาเวเนซุเอลา: 08:18 น.

23/01.2019


ประเทศสนับสนุน juan guaido: สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, บราซิล, ปารากวัย, โคลอมเบีย, อาร์เจนตินา, เอกวาดอร์, คอสตาริกา, ชิลี, ฮอนดูรัส, kosovo, จอร์เจีย, กัวเตมาลาและปานามา


ประเทศที่อยู่ในความโปรดปรานของ nicolas maduro:

รัสเซีย, เม็กซิโก, คิวบา, โบลิเวีย และตุรกี

 

กรณีนี้น่าจะแตกต่างจากยูเครน เพราะตอนนั้น รัสเซียยังไม่มีปัญหา ไครเมีย และถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ และจีนยังสหรัฐอเมริกายังไม่มีความขัดแย้งกันในการสงครามทางการค้า และ รัสเซีย และจีนก็น่าจะเคียงข้าง มาดูโร ก็ต้องมาลุ้นกันว่าผลจะออกมายังไง ไม่เกินวันอาทิตย์นี้ก็น่าจะรู้ผล

ImpactoVisión Noticias

#URGENTE

กองทัพ (กองกำลังติดอาวุธของเวเนซุเอลา)อยู่ฝ่ายของ nicolas maduro....

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 24) เวเนฯโกลาหล!!ประธานสภาฯตั้งตนเป็นปธน.ทั้งที่'มาดูโร'อยู่ในตำแหน่ง สหรัฐฯรับรองทันควัน: รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกระดับเพิ่มแรงกดดันต่อนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาในวันพุธ(23ม.ค.) ด้วยการประกาศรับรอง ฮวน กุยโด ในฐานะประธานาธิบดี หลังประธานสมัชชาแห่งชาติรายนี้ประกาศตัวระหว่างการชุมนุมของฝ่ายค้านว่าเขาเป็นประธานาธิบดีรักษาการของประเทศ

ในขณะที่กำลังมีการชุมนุมบนท้องถนนต่อต้านมาดูโรทั่วเวเนซุเอลา ทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯรับรอง ฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ในฐานะผู้นำเวเนซุเอลาคนใหม่ และเรียกรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ว่า "ไร้ความชอบธรรม"

"ผมจะเดินหน้าใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจและอำนาจทางการทูตของสหรัฐฯในการเดินหน้าฟื้นฟูประชาธิปไตยของเวเนซุเอลา" ทรัมป์ระบุในถ้อยแถลง พร้อมยุยงให้รัฐบาลประเทศอื่นๆในซีกโลกตะวันตกให้การรับรอง กุยโด เช่นกัน

หลังจากนั้นได้มีอีกหลายชาติที่ให้การรับรอง กุยโด ในฐานะประธานาธิบดีรักษาการเช่นกัน ในนั้นรวมถึง บราซิล, โคลอมเบีย, เปรู, ปารากวัย,คอสตาริกา และแคนาดา อย่างไรก็ตาม เม็กซิโก บอกว่าจนถึงตอนนี้พวกเขายังให้การรับรองมาดูโรในฐานะประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจาก ฮวน กุยโด ประกาศตัวว่าเป็น "รักษาการประธานาธิบดี" ของประเทศในวันพุธ(23ม.ค.) ระหว่างการชุมนุมใหญ่ของฝ่ายค้านต่อต้านประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แม้ว่าไม่นานก่อนหน้านั้น ศาลสูงที่ภักดีต่อมาดูโร ได้ออกคำสั่งสืบสวนทางอาญาต่อสมัชชาแห่งชาติที่ควมคุมโดยฝ่ายค้าน

"ผมสาบานตนเข้ารับอำนาจพิเศษอย่างเป็นทางการในฐานะรักษาการประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เพื่อยุติการแย่งชิงอำนาจ, จัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่านและจัดการเลือกตั้งอย่างเสรี" กุยโดกล่าวกับผู้สนับสนุนหลายพันคน

เบื้องต้นรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังรอออกถ้อยแถลงในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ หลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของกุยโดในวันพุธ(23ม.ค.) ต่อมา ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง เรียกร้อง มาดูโร ปลีกตัวออกมาและเร่งเร้าให้กองทัพของเวเนซุเอลาสนับสนุนความพยายามคืนสู่ประชาธิปไตย

ถ้อยแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนของเจ้าหน้าที่หลายคนของสหรัฐฯ ที่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ออกมาย้ำอย่างเปิดเผยว่า มาดูโร ไม่มีความชอบธรรมในการกล่าวอ้างอำนาจอีกต่อไปแล้ว

พวกเข้าข้างฝ่ายค้านเวเนซุเอลาเรียกร้องให้ กุยโด ยึดเก้าอี้ประธานาธิบดี นับตั้งแต่ มาดูโร สาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม หลังศึกเลือกตั้งที่ถูกบอยคอตต์อย่างกว้างขวาง ขณะที่สหรัฐฯและรัฐบาลต่างประเทศหลายชาติประณามว่ามีการโกงอย่างมโหฬาร

กุยโด ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสมัชชาฯเมื่อวันที่ 5 มกราคม เคยบอกก่อนหน้านี้ว่าเขามีความตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน มาดูโร หากว่าได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ด้วยการเป้าหมายจัดการเลือกตั้งอย่างเสรี

แหล่งข่าวให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่าการรับรอง กุยโด อย่างเป็นทางการจะเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนต่อคำถามมากมาย ในนั้นรวมถึงแนวทางจัดการกับเหล่านักการทูตของเวเนซุเอลาที่อยู่ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวนี้อาจเจอไฟย้อนกลับ หากว่า มาดูโร ดำเนินการขัดขวาง มาดูโร จากการสาบานตนหรือใช้มันเป็นข้ออ้างในการควบคุมตัวเขาอีกครั้ง

ทั้งนี้แหล่งข่าวหลายแหล่งเผยว่ารัฐบาลของทรัมป์อาจกำหนดมาตรการรอบใหม่เล่นงานภาคอุตสาหกรรมน้ำมันอันสำคัญของเวเนซุเอลาเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ หากว่าสถานการณ์ทางการเมืองเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบางสหรัฐฯรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าว ส่งเสียงเตือนว่าอเมริกาจะพิจารณาทุกทางเลือกหากว่า มาดูโร เลือกใช้กำลังในการฝ่าทางตันที่เขากำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน "ถ้ามาดูโรและพวกสมุนของเขาตอบโต้ด้วยความรุนแรง ถ้าพวกเขาเลือกทำร้ายสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ทุกทางเลือกวางอยู่บนโต๊ะสำหรับสหรัฐฯ"

ด้านประธานาธิบดีมาดูโร ขึ้นปราศรัยบนเวทีชุมนุมของฝ่ายสนับสนุน ประณามความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านว่าเป็นความพยายาม "ก่อรัฐประหาร" และประกาศตัดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังทรัมป์รับรอง ฮวน กุยโด ในฐานะประธานาธิบดีรักษาการ

"ผมตัดสินใจแตกหักความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับรัฐบาลจักรวรรดินิยมแห่งสหรัฐฯ" มาดูโร กล่าวกับผู้สนับสนุนหลายพันคนในการากัส "ออกไป! อย่ายุ่งกับเกียรติภูมิของเวเนซุเอลา พับผ่าสิ" เขากล่าว พร้อมขีดเส้นตายให้ทูตสหรัฐฯออกจากประเทศของเขาภายใน 72 ชั่วโมง

Source: ผู้จัดการออนไลน์

- Maduro says Venezuela is breaking relations with US, gives American diplomats 72 hours to leave country:https://www.cnbc.com/2019/01/23/ven...axRrVuWhCt089yTsJP0MfdYlGfxO0XOENJrdOwWFuO7X4

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 24) ประธานสภายังคงยืนกรานให้ทรัมป์เลื่อนการแถลงนโยบายประจำปีออกไป : สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า นาง Nancy Pelosi, the House Speaker ยังคงยืนกรานที่จะมิยอมให้ประธานาธิบดี Trump ดำเนินการกล่าวคำปราศรัยการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (the State of the Union) ตามกำหนดการที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า จนกว่า government shutdown จะยุติลง

ทั้งนี้ นาง Pelosi ระบุในจดหมายถึงประธานาธิบดี Trump ว่า ตนยินดีที่จะต้อนรับประธานาธิบดี Trump สู่รัฐสภาเมื่อได้เห็นชอบร่วมกันในวันที่จะกล่าวคำปราศรัยภายหลังจากที่รัฐบาลสามารถกลับมาปฏิบัติการได้ตามภาวะปกติ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Trump กล่าวว่า ตนมิได้รู้สึกแปลกใจกับการเคลื่อนไหวของนาง Pelosi พร้อมกับคาดการณ์ว่า government shutdown จะยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Trump ยังได้กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรค Democrats นั้นเป็นสิ่งที่น่าละอาย “They’ve become radicalized.” อนึ่ง ประธานาธิบดี Trump เขียนจมหมายถึงนาง Pelosi ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ระบุว่าตนยังตั้งใจที่จะกล่าวคำปราศรัยในรัฐสภา โดยทาง Department of Homeland Security และ the U.S. Secret Service ยืนยันว่าไม่มีปัญหาในเรื่องการรักษาความปลอดภัย

Source: BOTSS

- Locked out of House by Pelosi, Trump vows State of Union alternative :
https://www.reuters.com/article/us-...S65_EXFKMVb9C8jkPpiwY7VBXhgEh3-Bb5IZm3UWK0Kx0

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 23) โซนี่ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ยุโรปออกจากสหราชอาณาจักร หวังเลี่ยง Brexit: บริษัทโซนี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ประจำยุโรปออกจากสหราชอาณาจักรเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)

โซนี่นับเป็นบริษัทอิเลคทรอนิคส์รายล่าสุดของญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินการดังกล่าว หลังจากที่บริษัทพานาโซนิคประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ในปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะซับซ้อนด้านภาษีจากปัจจัย Brexit

โซนี่ระบุว่า การโยกย้ายสำนักงานใหญ่จะช่วยให้บริษัทหลีกเลี่ยงปัญหาศุลกากรที่จะเกิดขึ้นจากการแยกตัวของสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ดี โซนี่จะยังคงมีพนักงานปฏิบัติงานในสหราชอาณาจักรต่อไป

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
- Sony to Move Europe HQ from London over Brexit Concerns: http://fortune.com/2019/01/23/sony-european-hq-brexit/

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 23) จีนเล็งอัดแผนกระตุ้น ฉุดศก.ขึ้นจากหล่ม : แม้จะเป็นที่รับรู้และคาดการณ์กัน เอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า สงครามการค้า ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี จะส่ง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจแดนมังกรอย่างแน่นอน แต่เมื่อถึงเวลาเปิดเผยตัวเลขจริง สถานการณ์กลับแย่หนักยิ่งกว่าที่คาดกันเอาไว้ และกำลังกลายเป็น 1 ในความเสี่ยงสำคัญของโลกไปด้วย

จากการเปิดเผยล่าสุดของรัฐบาลกรุงปักกิ่ง พบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2018 ที่ผ่านมา ขยายตัวได้เพียง 6.6% หรือ โตต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา โดยทำลายสถิติเดิม 6.7% ของปี 2016 ที่ว่ากันว่าหนักหนาที่สุดไปแล้วอย่างราบคาบ

หากดูเป็นรายไตรมาสยังพบด้วยว่า ตัวเลขไตรมาส 4 ที่ควรจะเป็นช่วงทำเงิน เพราะมีทั้งช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีน มหกรรมช็อปปิ้งออนไลน์วันคนโสด เทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ แต่กลับกลายเป็นว่าจีดีพีในไตรมาสนี้กลับโตได้เพียง 6.4% เท่านั้น หรือต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงแฮมเบอร์เกอร์ไครซิสเมื่อราว 10 ปีก่อน และสะท้อนว่า นอกจากภาคการผลิตและส่งออกที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจจีน จะมีปัญหาแล้ว ผลกระทบยังลามไปถึง "กำลังซื้อของผู้บริโภค" ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่อีกเส้นของระบบเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ด้วย

หากไม่มีอะไรมาช่วยบรรเทา นักวิเคราะห์บางสำนักคาดว่าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงอีกในปี 2019 นี้ โดยบางรายให้คาดการณ์ต่ำถึง 6.3% ขณะที่หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี สื่อของทางการจีนซึ่งโดยปกติจะไม่ได้เล่นข่าวเชิงลบตามสื่อตะวันตก ก็เริ่มส่งสัญญาณลบออกมา ผ่านรายงานอ้างแหล่งข่าวว่าจีนอาจลดกรอบจีดีพีปีนี้ลงเหลือระหว่าง 6-6.5% เท่านั้น

ภายใต้สถานการณ์ที่น่าห่วงเช่นนี้ "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" จึงเป็นทั้งแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และเป็นทางออกเดียวที่รัฐบาลปักกิ่งต้องคลอดออกมา เพื่อเร่งกอบกู้เศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ยากระตุ้นตัวใหม่จะตามมาแน่นอนในปีนี้

แต่จะมาในรูปแบบไหน และเป็นโดสที่มีปริมาณและให้ผลมากน้อยเท่าใดนั้น ยังเป็นสิ่งที่ยังมีการถกเถียงและคาดเดากันอยู่

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าด้วย "ข้อจำกัด" หลายด้านของจีนที่ต่าง ไปจากสมัยปี 2010 และ 2015 จะทำให้จีนเลือกที่จะไม่ใช้มาตรการ กระตุ้นล็อตใหญ่แบบที่เคยทำมาอีก หรือไม่ต้องคาดหวังเลยว่าจะได้เห็นสไตล์พี่ใหญ่ใจป้าหว่านเงินอย่างเดียวอีก แม้ในกระเป๋าสตางค์จะ ยังมีเงินเหลือเฟือก็ตาม

เพราะต้องไม่ลืมว่า จีนเองยังมีความเสี่ยงเรื่องระเบิดเวลา "หนี้" ที่พัวพันกันอีรุงตุงนังจนไม่ได้แก้กันง่ายๆ และยังมีความเปราะบางเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกับดอกเบี้ยขาขึ้นควบคู่กันไปด้วย

วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุว่า เมื่อปี 2015 จีนในยุคประธานาธิบดีสีจิ้นผิง คนเดียวกันนี้ ยังใช้วิธีโอบอุ้มภาคอสังหาริมทรัพย์และรัฐวิสาหกิจได้ โดยในช่วงนั้น ภาคครัวเรือนจีนยังไม่มีปัญหา หนี้จีนส่วนใหญ่เป็นหนี้รัฐวิสาหกิจ อีกทั้งอยู่ในช่วงดอกเบี้ยถูก ทำให้สามารถกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ ที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งช่วยทั้งตลาดอสังหาฯ ไปจนถึงรัฐวิสาหกิจกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและปูนซีเมนต์ได้ไปพร้อมๆ กัน โดยสะท้อนได้จากสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้าง ที่เคยโตในระดับ 17% เมื่อต้นปี 2015 ได้ขยายตัวไปถึง 35% ในสิ้นปี 2016

แต่ในปัจจุบัน ที่สัดส่วนการบริโภคของจีนกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ในระบบเศรษฐกิจยุคบริโภคนิยมไปแล้ว ท่ามกลางภาวะหนี้ครัวเรือนที่ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องไปตามทิศทางเดียวกับสหรัฐ รายได้สุทธิหลังหักภาษีก็มีสัดส่วนที่ต้องชำระหนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีอีก 2 ตัวแปรมากดดันเพิ่มคือ 1.ดอกเบี้ยขาขึ้น และ 2.ตลาดการ จ้างงานในจีนที่ตึงตัวมากขึ้น จึงทำให้ครัวเรือนจีนไม่สามารถเป็นตัวแบก ผ่านการกู้ยืมเหมือนที่ผ่านมาได้อีก

ทางออกที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจีนน่าจะใช้ก็คือ กระตุ้นแบบเฉพาะเจาะจง และผสมผสาน หลายส่วนการบริโภคในจีนนั้นยังคงเป็นกำลังสำคัญและยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในภาพรวม ไชน่า เดลี่ เคยรายงานอ้างไชน่า ดีเวลอปเมนต์ ฟอรั่ม ว่า การบริโภคของจีนในปัจจุบันขยับแซงหน้าการผลิตและการค้าขึ้นมาเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของจีดีพีประเทศแล้ว ดังนั้น จึงยังต้องกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำผ่าน "มาตรการลดภาษี" ที่น่าจะประกาศ ได้ระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ในเดือน มี.ค.นี้

รัฐมนตรีคลังจีนคนใหม่ หลิวคุน เคยเปิดเผยในที่ประชุมเมื่อเดือน ธ.ค.ว่า มาตรการหั่นภาษีในปีนี้มีแนวโน้มสูงเกินวงเงินปีที่แล้วอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านหยวน (ราว 6 ล้านล้านบาท) ขณะที่ไชน่า เดลี่ คาดการณ์ว่า ในปี 2019 วงเงินมาตรการดังกล่าวจะอยู่ที่ทั้งหมด 1.5-2 ล้านล้านหยวน (ราว 7-9 ล้านล้านบาท) และครอบคลุมหลายด้านทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีนิติบุคคล ที่ช่วยตั้งแต่รายใหญ่ไปจนถึงเอสเอ็มอี

เป็นที่คาดการณ์กันว่า มาตรการลดภาษีของจีนจะดำเนินการควบคู่ไป กับการใช้ "นโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายยิ่งขึ้น" ของธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ซึ่งเริ่มเปิดเผยออกมาบ้างแล้ว เช่น การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% เมื่อเดือน ม.ค.เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน ซึ่งเป็นความต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วที่ลด RRR ไปถึง 5 ครั้ง

นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดว่าจะมีการใช้วิธีอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ เพื่อคุมดอกเบี้ยกู้ยืมในตลาดกลายๆ โดยไม่ต้องไปลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในระบบ เพราะจะกระทบต่อค่าเงินหยวน โดยในเดือนนี้เอง ธนาคารกลางจีนเพิ่งอัดฉีดสภาพคล่องล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อไกด์ดอกเบี้ยกู้ยืมให้ต่ำลง นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า จีนไม่น่าจะลดดอกเบี้ยอ้างอิงโดยตรง และรัฐบาลน่าจะรอดูผลมาตรการต่างๆ ที่ใช้เวลาสักพักจึงจะเห็นผลก่อน

ขณะเดียวกัน เป็นที่คาดว่าจีนจะผ่อนปรนเรื่องมาตรการลดหนี้ลงด้วย โดยจีดีพีที่อ่อนแอลงนั้นส่วนหนึ่งยังเป็นผลพวงมาจากมาตรการคุมหนี้ของจีนเอง ที่เข้มงวดเรื่องธนาคารเงามากขึ้น ไม่ได้มาจากสงครามการค้าทั้งหมด วาณิช ธนกิจโกลด์แมน แซคส์ จึงคาดการณ์ว่าเมื่อจีนผ่อนปรนความเข้มงวดต่างๆ บวกกับการใช้มาตรการกระตุ้นผสมผสานกันไปแล้ว เศรษฐกิจจีนจึงน่าจะมีสัญญาณ ดีขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ กระตุ้นล็อตใหญ่แบบที่เคยทำมา

ที่เหลือจึงต้องรอจับตาการประชุมสภาในเดือน มี.ค.นี้ ที่จะมีการเคาะรายละเอียดท้ายสุดของแผนกระตุ้นต่างๆ ออกมา และรอดูผลจากมาตรการต่างๆ ที่น่าจะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ว่า จะเพียงพอที่จะสามารถปลุกชีพมังกรจีนให้พ้นบ่วงเศรษฐกิจทรุดในรอบเกือบ 30 ปีได้หรือไม่

โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ
Source: Posttoday