ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    การสั่งสมหิมะที่น่ากลัวในออสเตรีย ว้าววววว

    07.01.2019
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo


    ว้าว มองดูกรีซวันนี้ ปกคลุมไปด้วยหิมะจากความสูง

    07.01.2019


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7293.JPG
    (Jan 7) มหาเศรษฐีญี่ปุ่นใช้เงินล่อ ปั่นยอด 'รีทวีต' ทุบสถิติ 4.8 ล้านครั้ง : ยูซากุ มาเอะซาวะ มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการซื้อตั๋วทัวร์รอบดวงจันทร์ของสเปซเอกซ์ ได้ทำลายสถิติข้อความทวิตเตอร์ที่ถูกรีทวีตมากที่สุดในโลก ถึงมากกว่า 4.8 ล้านครั้ง ด้วยการทวีตว่าจะสุ่มแจกเงินให้ผู้ติดตามเขา 100 คนที่รีทวีตข้อความนี้ คนละกว่า 295,000 บาท


    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซีเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562 กล่าวว่า มาเอะซาวะ ผู้ก่อตั้งธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ Zozo ของญี่ปุ่น วัย 43 ปี ทวีตข้อความไว้เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มกราคม ว่าเขาจะแจกเงิน 100 ล้านเยน (29.58 ล้านบาท) แบ่งให้กับผู้โชคดี 100 คน ที่รีทวีต หรือส่งซ้ำข้อความทวิตเตอร์นี้ของเขาภายในวันจันทร์ โดยจะสุ่มเลือกจากผู้ติดตามบัญชีทวิตเตอร์ของเขา


    "ถ้าอยากมีส่วนร่วม พวกคุณต้องกดติดตามผมและรีทวีตข้อความนี้" เขาทวีตไว้


    รายงานกล่าวว่า ยอดรีทวีตเมื่อยังไม่ผ่านพ้นวันจันทร์มีมากกว่า 4.8 ล้านครั้งแล้ว และมาเอะซาวะประกาศว่า ยอดรีทวีตของเขาได้สร้างสถิติใหม่ของโลก โดยทำลายสถิติเก่าซึ่งอยู่ที่ 3.55 ล้านครั้ง และยอดการรีทวีตของเขายังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วย


    เจ้าของสถิติเดิมนั้นเป็นทวีตของคาร์เตอร์ วิลคินสัน หนุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกัน ที่ขอให้ชาวทวิตเตอร์ช่วยกันรีทวีตข้อความของเขา เพื่อขอให้เขาได้กินนักเก็ตไก่ของร้านเวนดีส์ฟรี นาน 1 ปี ถึงแม้ยอดรีทวีตจะไม่ถึง 18 ล้านครั้งตามที่เวนดีส์ตั้งเงื่อนไขไว้ แต่กระแสการมีส่วนร่วมของคนทั่วโลก ทำให้เวนดีส์ยอมตามคำขอของเขา


    ก่อนหน้าทวีตของวิลคินสัน เจ้าของสถิติเดิมคือทวีตของเอลเลน ดีเจเนอเรส ที่ครองตำแหน่งนี้ในทวิตเตอร์นานกว่า 3 ปี จากภาพเซลฟีกับดาราดังหลายคนขณะที่เธอเป็นพิธีกรงานประกาศผลรางวัลออสการ์ปี 2557


    บีบีซีกล่าวว่า ดูเหมือนว่าการจัดกิจกรรมของมาเอะซาวะครั้งนี้ทำเพื่อฉลองที่เว็บไซต์ "Zozotown" ของเขาสามารถทำยอดขายได้ทะลุ 10,000 ล้านเยนในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผ่านมา


    มาเอะซาวะมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะมือกลองของวงพังก์ชื่อ "สวิตช์สไตล์" แต่เขากลายเป็นมหาเศรษฐีเมื่อหันมาจับธุรกิจแฟชั่น โดยเชื่อกันว่าเขามีทรัพย์สมบัติเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ เขาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จากการเป็นผู้โดยสารคนแรกที่จะบินไปวนรอบดวงจันทร์ด้วยยานของบริษัท สเปซเอกซ์ ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักบุกเบิกคนดังที่เป็นนักทวีตตัวยงเช่นกัน.


    Source: Thaipost


    https://www.japantimes.co.jp/news/2...aezawa-dole-total-¥100-million-cash-retweets/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thairath


    สั่งรื้อแล้วจ้า "คุ้มนางพญารีสอร์ท" แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อแก่งกระจาน สัมผัสธรรมชาติ สูดโอโซนกลางหุบเขา และสายหมอก กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

    IMG_7294.JPG
    เนทันยาฮู วอนอเมริกาช่วยยืนยันว่า ที่ราบสูงโกลันของซีเรีย เป็นของอิสราเอล


    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯจอห์นโบลตัน ได้มีการหารือกัน ในกรุงเยรูซาเล็มเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562


    นายกรัฐมนตรีเบนจามินเนทันยาฮู ได้ขอให้ผู้ช่วยอาวุโสของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ที่มาเยือน ให้ช่วยยืนยันและให้การยอมรับว่า ที่ราบสูงโกลันของซีเรียเป็นดินแดนของอิสราเอล

    (นี้และ..นิสัยยิวไซออนิสต์ ฉกชิง ขโมย รุกราน คตโกง )


    ปล. มีตำนานเล่ากันว่า......

    หีบแห่งพันธสัญญา จมน้ำในบริเวณที่ราบสูงโกลาน รอผู้กอบกู้โลกจากอธรรมคนสุดท้าย มานำกลับคืนไปยังที่ตั้งเดิมของมัน


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    http://217.218.67.231/Detail/2019/01/07/585110/Netanyahu-US-recognize-annexation-Golan
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jenna Hodgson

    ท้องฟ้าสีชมพู ในPlymouth, uk
    IMG_7295.JPG

    URRI pink sky in Plymouth, UK

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    4DCD3E07-C84D-4191-BC3A-B3A1EE5B47B4.jpeg
    (Jan 8) ดีตประธาน เฟด มองโครงการ “Green New Deal” เป็นแนวความคิดที่ผิดมหันต์ : นาย Alan Greenspan, อดีต Federal Reserve Chairman ให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk on the Street โดยสำนักข่าว CNBC ว่าการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 70 สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อปี (ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสียภาษีร้อยละ 37 ณ ปัจจุบัน) เพื่อสนับสนุนโครงการ “Green New Deal” เป็นแนวความคิดที่ผิดมหันต์ เนื่องจากจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมให้ความเห็นว่านโยบายภาษีในปี 2017 ที่ผ่านมาเป็นนโยบายที่ยอดเยี่ยมแม้รัฐบาลจะล้มเหลวในการหาเงินทุนสนับสนุนแผนดังกล่าว


    นาย Greenspan คาดว่าสหรัฐฯ จะขาดดุลงบประมาณ ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ในปีงบประมาณ 2018 และเตือนว่านักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งต่อไป "run for cover" เนื่องจากเศรษฐกิจมีโอกาสชะลอตัว ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้น ดังภาวะเศรษฐกิจในช่วงปี 1970s


    อนึ่ง โครงการ “Green New Deal” เสนอโดยนางสาว Alexandria Ocasio-Cortez, U.S. Representative for New York's 14th District, Democrat) มีจุดประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน


    Source: BOTSS


    - Former Fed Chair Alan Greenspan thinks the Ocasio-Cortez 70% tax plan is ‘a terrible idea’: https://www.cnbc.com/2019/01/07/ala...ez-70percent-tax-plan-is-a-terrible-idea.html
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มารา กล้วยตานี


    #พื้นที่แห่งนี้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ไม่ใช้ดารุลฮัรบี หยุดบิดเบือนหลักศาสนา

    "ศาสนาเป็นเรื่องของความเชื่อเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก ศาสนิกชนทุกคนจะต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสดา ขบวนการโจรใต้ฟาตอนีจึงได้บิดเบือนหลักคำสอนของศาสนาบางส่วนเสียใหม่ แล้วใช้โต๊ะอิหม่ามที่มีความน่าเชื่อถือทำการบรรยายไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อทำการโน้มน้าวให้ผู้ที่เข้ารับฟังเห็นด้วยคล้อยตาม ยอมสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก ผกร. เป็นวิธีการของโจรใต้ฟาตอนีที่ได้ชักนำเยาวชนเข้าร่วมขบวนการมานานนับหลายสิบปี


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จาก‘ดารุล-ฮัรบฺ’ถึง‘ดารุล-อิสลาม’
    การเมือง > ข่าวการเมือง : 24 ส.ค. 2555
    j86b9bba5fh5hdj8ed6ak.jpg
    จาก‘ดารุล-ฮัรบฺ’ถึง‘ดารุล-อิสลาม’ : วิถีมุสลิมโลก โดยศราวุฒิ อารีย์ tfarida@hotmail.com
    พักนี้ผมได้ยินคำว่า ‘ดารุล-ฮัรบฺ’ บ่อยครั้ง (โดยเฉพาะจากการอธิบายของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ติดตามสถานการณ์ ‘ไฟใต้’) ว่าเป็นแนวคิดที่ถูกใช้โดยผู้ก่อความไม่สงบเพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำสงครามต่อสู้กับรัฐไทยและฆ่าคนไทยได้โดยไม่เป็นบาป ผมเองไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ก็จะพยายามอธิบายที่มาที่ไปของแนวคิดเรื่องดารุล-ฮัรบฺให้เห็นภาพพอสังเขป

    ประการแรกเลยคือแนวคิดนี้มิได้มีระบุอยู่ในบทบัญญัติอิสลาม แต่เกิดขึ้นหลังจากที่อาณาจักรอิสลามได้แผ่ขยายออกไปครอบคลุมดินแดนต่างๆ อย่างกว้างขวางแล้ว เรียกได้ว่าอาณาจักรอิสลามขณะนั้นกำลังผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลกในยุคกลาง

    ลักษณะเฉพาะของระเบียบโลกในยุคกลางคือ มีการแสวงหาอำนาจเพื่อความยิ่งใหญ่ของบุคคลและของนครรัฐ มีการกดขี่ข่มเหงโดยผู้ปกครองที่ไม่เป็นธรรม เจ้าเมืองต่างๆ นิยมใช้อำนาจเผด็จการ และมีการจัดเตรียมกำลังรบเพื่อทำศึกกับนครรัฐอื่นๆ อยู่เสมอ ฉะนั้น การมาถึงของอาณาจักรอิสลามจึงถือเป็นพลังอำนาจใหม่ที่ท้าทายอำนาจของโลกที่มีอยู่แต่เดิม
    เมื่อสภาพการณ์ของโลกยุคกลางเป็นเช่นนี้ นักนิติศาสตร์อิสลาม ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 8 ถึง 11 จึงได้แบ่งดินแดนในโลกออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ

    1. “ดารุล-อิสลาม” (แดนสันติ หรือ Territory of Islam) หมายถึงดินแดนที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และมีระบอบการปกครองและกฎหมายอิสลามเป็นบรรทัดฐาน

    2. “ดารุล-ฮัรบฺ” (แดนข้าศึก หรือ Territory of War) หมายถึงกลุ่มที่อยู่ในแดนข้าศึก

    3. “แดนสัญญาพันธไมตรี” หมายถึง กลุ่มที่อยู่ในดินแดนของรัฐที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่มุสลิม แต่มีสนธิสัญญาผูกพันอยู่กับอาณาจักรอิสลาม
    เป้าหมายในการจัดระเบียบโลกในลักษณะนี้ก็เพื่อปลดแอกดินแดนที่ประชากรได้รับการกดขี่ข่มเหง ธำรงรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพของมนุษย์ และวางรากฐานแห่งความเสมอภาคระหว่างบุคคล ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดย่อมไปขัดผลประโยชน์ของผู้ปกครองและเจ้าเมืองส่วนใหญ่ จนนำไปสู่การโจมตีดินแดนมุสลิมจากทุกสารทิศ และมุสลิมก็ต้องต่อต้านป้องกันตนเอง แต่ระยะหลังแทนที่ฝ่ายมุสลิมจะป้องกันตัวตั้งรับเฉยๆ ก็เปลี่ยนเป็นยกกำลังออกไปปราบปรามรัฐที่ฝักใฝ่ในการขยายอำนาจแบบไม่หยุดหย่อน

    แต่การที่จะชี้ชัดว่าดินแดนไหนเป็น “แดนข้าศึก” ก็มีเงื่อนไขให้พิจารณา ไม่ใช่ว่าจะกำหนดได้ตามอำเภอใจ เงื่อนไขที่ว่าคือ

    1.ดินแดนนั้นมีการฝักใฝ่หมกมุ่นในพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหลักการอิสลามได้โดยเสรี เช่น การค้าประเวณี การดื่มสุรา การพนันและการกระทำที่ต้องห้ามอื่นๆ

    2.มีท่าทีหรือพฤติกรรมที่ส่อว่าอาจโจมตีรุกรานรัฐมุสลิมได้ทุกขณะ หรือมีการปิดกั้นทางสัญจรมิให้มุสลิมใช้ผ่าน เขตทะเลทรายที่ประชิดพรมแดนรัฐมุสลิมจะต้องเป็นแดนสงบด้วย ในทำนองเดียวกัน น่านน้ำนอกชายฝั่งทะเลของรัฐมุสลิมออกไปเท่าที่จะใช้สัญจรไปมาได้ก็จะต้องไม่อยู่ใน “แดนข้าศึก” ด้วย

    3.สภาพการณ์ที่ทำให้มุสลิมชนกลุ่มน้อยไม่อาจอยู่ได้อย่างปลอดภัย ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน (เว้นแต่ฝ่ายปกครองดินแดนนั้นจะให้ประกันความปลอดภัยและเชื่อถือได้)

    ลักษณะทั้งสามประการจะต้องปรากฏอย่างครบถ้วนจึงจะถือว่าแดนนั้นเป็น “แดนข้าศึก” ได้ จะขาดประการใดประการหนึ่งไม่ได้ เช่นในกรณีที่รัฐใดไม่ถือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อิสลาม แต่มิได้สั่งห้ามมุสลิมให้เปลี่ยนความศรัทธา ก็ยังไม่นับว่าเป็น “แดนข้าศึก”

    อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านจากโลกยุคกลางสู่โลกยุคใหม่นั้น ทำให้โลกมุสลิมเปลี่ยนแนวคิดแบบเก่าของชาวอาหรับในเรื่อง ดารุล-ฮัรบฺ หรือ แดนข้าศึก มาเป็น ดารุล-อิสลาม หรือแดนสันติ เรียบร้อยแล้ว เพราะหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของอิสลามคือการนำเอาความสุขสันติมาสู่โลก มิใช่การก่อความไม่สงบขึ้นบนแผ่นดิน

    http://www.komchadluek.net/news/politic/138406
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F08%2F28%2F105420546-1535476108058rts1z00b.1910x1000.jpg

    (Jan 7) โกลด์แมน แซคส์หั่นคาดการณ์ราคาน้ำมันปีนี้ เหตุการผลิตพุ่ง ขณะอุปสงค์ร่วง: โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ โดยระบุถึงการพุ่งขึ้นของการผลิตน้ำมันในประเทศต่างๆ รวมทั้งการขยายตัวของการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐ

    ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะปรับตัวเฉลี่ยที่ระดับ 62.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 70 ดอลลาร์

    นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะปรับตัวเฉลี่ยที่ระดับ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 64.50 ดอลลาร์

    ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ยังระบุว่า ราคาน้ำมันจะถูกกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดการขยายตัวของเศรษฐโลก และความต้องการใช้น้ำมัน

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ

    -
    https://www.cnbc.com/2019/01/07/oil...n9QBJXGoO9F02Hl6b-I4ivZUZXkx8qRdoZ4vkOs4huN3k
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    rces%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F11%2F09%2F105565558-1541782775837gettyimages-936581700.1910x1000.jpg

    (Jan 7) รมว.พาณิชย์สหรันายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวในวันนี้ว่า การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน และบั่นทอนความสามารถของทางการจีนในการสร้างงานเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สงบทางสังคม

    คำกล่าวของนายรอสส์มีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกำลังเจรจาการค้าในวันนี้ในความพยายามยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน

    กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันนี้ว่า จีนและสหรัฐได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกัน และจีนก็พร้อมที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน

    ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนได้กระตุ้นให้ทางการจีนมีความต้องการยุติสงครามการค้ากับสหรัฐ

    "ผมคิดว่าจีนต้องการให้เรื่องจบลง เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    ทั้งนี้ คณะผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน

    การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายจะเป็นการเจรจาแบบหน้าต่อหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงที่จะสงบศึกการค้าชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

    นายเจฟฟรีย์ เกอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เป็นผู้นำคณะผู้แทนจากสหรัฐในการเจรจาการค้ากับจีนในวันที่ 7-8 ม.ค. โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับความพยายามในการบรรลุข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้า ต่อจากที่เจรจากันไว้นอกรอบการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินา

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    https://www.cnbc.com/2019/01/07/com...frcC80ps-uzyi81IfX_zqWhmU44BrQLGm6NLF-gFsxMLY
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F12%2F28%2F105650903-1546021965034rtx6k3tn.1910x1000.jpg

    (Jan 7) แบล็ค สโตนฟันธงวอลล์สตรีทดีดตัวปีนี้ ขณะแนะนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นในตลาด: นายโจเซฟ ไซเดิล นักวิเคราะห์จากแบล็ค สโตน กรุ๊ป แสดงความเชื่อมั่นว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ และแนะนำนักลงทุนให้เข้าช้อนซื้อหุ้นในตลาด

    "นี่เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น โดยเราคาดว่าดัชนี S&P 500 จะพุ่งขึ้น 15% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย" เขากล่าว
    นายไซเดิลยังระบุว่า ราคาน้ำมันได้แตะจุดต่ำสุดแล้ว และตลาดจะไม่ปรับตัวซบเซาอย่างที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ นายไซเดิลยังคาดว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยุติลงในที่สุด โดยทั้งสองฝ่ายจะทำข้อตกลงการค้าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากทั้งจีนและสหรัฐต่างมีแรงจูงใจที่จะยุติความขัดแย้งทางการค้า

    นายไซเดิลได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม, เทคโนโลยี และพลังงานในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดกำลังปรับตัวผันผวน

    ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในปีที่แล้ว นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้

    เมื่อพิจารณาทั้งปี 2561 ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 5.6%, ดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 6.2% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.9% โดยดัชนีทั้ง 3 ต่างปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งในปีดังกล่าว ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq รูดลง 33.8%, 38.5% และ 40% ตามลำดับ

    นอกจากนี้ ปี 2561 ยังเป็นปีที่ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และดัชนี Nasdaq ร่วงลงเป็นครั้งแรก หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 6 ปี

    ขณะเดียวกัน ในปีที่แล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง แม้ว่าสามารถดีดตัวขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี

    เมื่อพิจารณาไตรมาส 4 ของปี 2561 พบว่า ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 12% ซึ่งเป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2552 ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 13.97% และ 17.50% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2552

    และเมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนธ.ค. ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ต่างทรุดตัวลงไม่น้อยกว่า 8.7% โดยดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ทำสถิติปรับตัวในเดือนธ.ค.2561 ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2474 และดิ่งลงเมื่อเทียบรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2552

    นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนพากันเทขายหุ้นในเดือนธ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

    Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    https://www.cnbc.com/2019/01/03/thi...aIlZiu82r4_BtvnZFBBZ-CYhBt1OxV-mau7bxoHvoOuzo
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    49552287_2332388950113917_4528918635674075136_n.png?_nc_cat=103&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png
    (Jan 7) ส่งออกรถยนต์ปี62 - กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ประเมินตลาดส่งออกปี 62 ทรงตัว ที่ยอด 1.1 ล้านคัน ชี้สงครามการค้า-เศรษฐกิจยุโรปส่งผลกระทบ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังเชื่อมั่นตลาดโต เพราะส่งออกเวียดนาม-โอเชียเนีย และเอเชียขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

    นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2562 จะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน หรือประมาณ 1.05 ล้านคัน ขณะที่ตลาดส่งออกยังคงอยู่ในระดับเดิมกับปี 2561 คือ 1.1 ล้านคัน ส่งผลให้ในปี 2562 ยอดผลิตรถยนต์ในไทยจะอยู่ที่ 2.150 ล้านคัน

    ส่วนปัจจัยที่จะมีผลกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนั้นประกอบไปด้วย ราคาน้ำมันที่จะส่งผลกับตลาดตะวันออกกลาง, สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ อเมริกาและจีน, เศรษฐกิจของยุโรปที่คาดว่าจะตกต่ำ ,การตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย ,ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น ภาพรวมเศรษฐกิจดี มีการประกาศเลือกตั้งมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยก็จะช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนในภาคเศรษฐกิจ ด้านบริษัทผู้ผลิตค่ายต่างๆ จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่,ทำโปรโมชัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ

    ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การส่งออกรถยนต์ของไทยปี 2562 มีโอกาสที่จะขยายตัวเล็กน้อยที่ประมาณ 1-4 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ส่งออกประมาณ 1.150-1.180 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากที่คาดว่าจะส่งออกได้ประมาณ 1.135 ล้านคันในปี 2561 ซึ่งตลาดหลักที่มีแนวโน้มเติบโตยังคงเป็นตลาดโอเชียเนีย โดยเฉพาะเวียดนาม ส่วนตลาดที่คาดว่าจะหดตัวยังคงเป็นตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ

    สำหรับตลาดเวียดนามแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการ Decree 116 ที่มีการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ทำให้ในช่วงเริ่มต้นการส่งออกรถยนต์จากไทยเข้าไปต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปแก้ไขปัญหาและทำให้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายและส่งผลให้รถยนต์ที่ผลิตจากไทยสามารถส่งออกไปยังเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าการส่งออกรถยนต์ไทยไปยังเวียดนามในปี 2562 คาดว่าน่าจะได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการรถยนต์ในเวียดนามที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าการส่งออกไปยังเวียดนามน่าจะมีโอกาสขยายตัว 14-22% หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ที่ส่งออกไปเวียดนาม 6.1-6.5 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ประเมินว่าจะส่งออกไปประมาณ 5.34 หมื่นคัน หรือขยายตัว 44% จากปี 2560

    โดยรถยนต์ในกลุ่มรถเล็กประหยัดพลังงานเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี จะเป็นตัวหลักที่ส่งออกไป เพราะมีราคาจับต้องได้ และผลจากการที่ไทยส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้เวียดนามมีโอกาสขยับอันดับแซงนิวซีแลนด์ขึ้นมาสู่ประเทศที่มีมูลค่าการนำเข้ารถยนต์จากไทยสูงเป็นอันดับ 3 ในปี 2562

    ขณะที่การส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดยุโรปคาดว่าจะลดลง และปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบประกอบไปด้วยการเข้าไปตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในหลายประเทศในทวีปยุโรป และประเทศใกล้เคียง ซึ่งต่างก็มีการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีสำหรับการส่งออกรถยนต์ระหว่างกัน

    นอกจากนั้นแล้วบางประเทศในทวีปยุโรป เช่น เยอรมนี ประกาศห้ามรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในบางเมืองของประเทศ ส่งผลทำให้เกิดความหวาดวิตกของผู้บริโภคถึงแนวโน้มการแบนรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลไปในหลายพื้นที่ ทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลลดลงจากอดีต ซึ่งกระทบโดยตรงกับการส่งออกรถปิกอัพจากไทย

    เมื่อรวมกับเศรษฐกิจของยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การส่งออกไปยังตลาดทวีปยุโรปในปี 2562 น่าจะทรงตัว หรือ หดตัวลง 4% หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ส่งออกจากไทยไปทวีปยุโรปที่ 1.18 - 1.23 แสนคัน จากที่คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 1.23 แสนคันในปี 2561

    อย่างไรก็ตามศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าไทยอาจยังมีโอกาสส่งออกไปทวีปยุโรปได้สูงกว่าที่คาดหากโครงการอีโคอีวีสามารถผลักดัน และทำให้เกิดเป็นรูปธรรมจนมีการลงทุนผลิต และออกวางจำหน่ายรวมถึงส่งออกได้จริงในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 เนื่องจากรถยนต์ในกลุ่มอีโคอีวีน่าจะเป็นประเภทรถยนต์ที่สามารถเข้าไปบุกตลาดทวีปยุโรปที่เน้นหนักเรื่องการควบคุมปริมาณไอเสียจากรถยนต์ รวมถึงสนับสนุนรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกรถยนต์ไทยไปทวีปยุโรปได้ในอนาคตข้างหน้า

    โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าตลาดส่งออกรถยนต์โดยรวมของไทยในปี 2562 จะต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ภาวะสงครามการค้าโลก , ความผันผวนของอัตราค่าเงินในประเทศคู่ค้า และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในหลายๆ ประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น การย้ายฐานการผลิตรถยนต์เข้าใกล้ตลาดมากขึ้น เพื่อการลดต้นทุนขนส่ง

    รวมถึงการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ในบางกรณีอาจส่งผลลบต่อการส่งออกรถยนต์ไทย เช่น ทวีปยุโรป หรือทวีปอเมริกาเหนือที่จะมีผลในระยะถัดไปด้วยหลังความตกลงการค้า เสรีอเมริกาเหนือ (United StatesMexico-Canada Agreement: USMCA) ซึ่งมีการตั้งข้อกำหนดเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้ารถยนต์ที่เข้มงวดขึ้นมาก และมุ่งเน้นให้เกิดการผลิตในกลุ่มประเทศสมาชิก จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งจะกระทบกับการส่งออกไทยตั้งแต่ช่วงปี 2562 จากการลงทุนของค่ายรถในประเทศสมาชิก USMCA มากขึ้น

    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา



    ชาวเยเมนออกมารวมตัวเรียกร้องให้ ซาอุดิ อาระเบีย ยุติสงครามในเยเมน หลังจากประชาชน ทั้งคนแก่ และ เด็ก ต้องเสียชีวิตจากการโจมตีของซาอุฯ ที่อ้างว่ามาเพื่อฆ่ากลุ่มกบฏเท่านั้นแต่ถ้ามีลูกหลงก็เป็นเรื่องสุดวิสัย

    อย่าถามหา UN อย่าถามหาศาลอาญาระหว่างประเทศ พี่ๆเขาเจ็บคออยู่
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา



    นายอำเภอสระแก้ว จัดตั้ง. EOC ที่ชายแดน เพื่อรอสนับสนุน นำผู้บาดเจ็บส่งต่อโรงพยาบาล

    ล่าสุด 00.53น. เจ้าหน้าที่สามารถคุมเพลิงได้ เบื้องต้นไม่มีได้รับบาดเจ็บสาหัส นายอำเภออรัญประเทศ ได้สั่งยกเลิกสแตนบาย ไฟใหม้ฝั่งกัมพูชา จนท.กัมพูชารับดำเนินการเอง

    Credit: ศปก.คค.
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวันรวบ6วิศวกรบริษัทเคมียักษ์ใหญ่เยอรมนี ลอบขายข้อมูลลับสุดยอดให้จีน เผยแพร่: 7 ม.ค. 2562 22:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    [​IMG]

    เอเอฟพี - เหล่าวิศวกรทั้งอดีตและปัจจุบัน 6 คนของ BASF บริษัทเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมนี ถูกจับกุมในไต้หวัน ฐานต้องสงสัยปล่อยข้อมูลทางเทคโนโลยีอันมีค่ายิ่งรั่วไหลสู่บริษัทคู่แข่งในจีน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันจันทร์(7ม.ค.)

    สำนักงานการสืบสวนทางอาญาของไต้หวัน(CIB) เผยแพร่ถ้อยแถลงระบุว่าพวกผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับแผนปล่อยข้อมูลทางเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตอันสำคัญรั่วไหล เพื่อแสวงหารายได้อย่างผิดกฎหมาย"

    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการสืบสวนระบุว่าวิศวกรกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาขายความลับแก่ เจียงยิน เจียงหัว ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เมเทอเรียลส์ ( Jiangyin Jianghua Microelectronics Materials) บริษัทเทคโนโลยีที่มีสำนักงานในมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน เป็นเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์(41ล้านบาท)

    "เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในคดีมีมูลค่าด้านการตลาดราวๆ 100 ล้านยูโร(114ล้านดอลลาร์) แม้พวกผู้ต้องสงสัยถูกจับได้ก่อนที่พวกเขาจะขายข้อมูลลับสุดยอดก็ตาม" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกกับเอเอฟพี

    สำนักงานการสืบสวนทางอาญาของไต้หวันไม่ได้ให้ข้อมูลว่ามีผู้ต้องสงสัยแก่รายที่ทำงานให้กับ BASF ตอนที่ถูกจับกุม แต่บอกว่าคนเหล่านี้เป็นพนักงานระดับสูง โดยในนั้นมีอย่างน้อย 1 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการโรงงาน

    ในถ้อยแถลงบนเว็บไซต์ของ BASF สาขาท้องถิ่น ระบุว่ามีพนักงานท้องถิ่นปัจจุบัน 1 คนกำลังถูกสืบสวน "เราใช้มาตรการอย่างทันท่วงทีสำหรับสนับสนุนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวข้อง"

    การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นใขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กำลังทะเลาะเบาะแว้งกับจีน ต่อคำกล่าวหาปักกิ่งขโมยความรู้ทางเทคโนโลยีของอเมริกา หนึ่งในข้อคับข้องใจอันนำมาซึ่งการเปิดศึกสงครามการค้ามหาอำนาจเอเชียแห่งนี้

    เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ทรัมปป์ ออกมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงโทษต่อคำกล่าวหาที่ว่าจีน ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ที่ทางอเมริกาบอกว่ามันก่อความเสียหายแก่บริษัทต่างๆของพวกเขากว่า 600,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

    จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาและใช้มาตรการต่างๆในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงตั้งศาลพิเศษเพื่อจัดการกับประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิบัตร, ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า

    อย่างไรก็ตามรายงานจากสำนักงานของ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวหาจีนยังคงเดินหน้าโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทต่างๆของอเมริกา โดยมีภาครัฐคอยให้การหนุนหลัง

    https://mgronline.com/around/detail/9620000002205
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมัน,หุ้นสหรัฐฯขึ้นเล็กน้อยคลายกังวลสงครมการค้าจีน-อเมริกา
    เผยแพร่: 8 ม.ค. 2562 05:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000233901.jpg

    มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วในวันจันทร์(7ม.ค.) หลังพบซาอุดีอาระเบียกำลังผลิตลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก คลายกังวลข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ทองคำดีดตัวพอสมควร

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 57.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    รอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ของโอเปกเปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบียมีแผนปรับลดการส่งออกน้ำมันลงจากระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน และปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานในวันจันทร์

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(7ม.ค.) ขยับขึ้น 2 วันติด ความเคลื่อนไหวอเมริกาและจีนหวนคืนสู่การเจรจาทางการค้าช่วยคลายความกังวลที่เคยฉุดวอลล์สตรีทดำดิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 98.19 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,531.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.75 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,549.69 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 84.61 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,823.47 จุด

    ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวฉุดรั้งตลาดดิ่งลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้น จากแนวโน้มในทางบวกของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่าปักกิ่งมีความจริงใจที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯในการคลี่คลายความเห็นต่างทางการค้า ส่วน วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า "เห็นโอกาสที่ดีในการหาทางออกอย่างสมเหตุสมผล" ในขณะที่สองประเทศเริ่มการเจรจาแบบเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่บรรลุข้อตกลงพักรอบทางการค้า 90 วันเมื่อเดือนธันวาคม

    ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์(7ม.ค.) ปิดบวกพอสมควร หลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของประเทศร่วงลงสู่ระดับ 57.6 จุด ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับตำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปัจจัยนี้ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และดันทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000002255
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อาเซียนระแวง“เส้นทางสายไหมใหม่”จีน ขณะเดียวกันก็มองว่าบทบาท-อิทธิพลมะกันแผ่วจนยากจะพึ่งพา เผยแพร่: 7 ม.ค. 2562 23:08 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    [​IMG]

    (ภาพจากเอเอฟพี) ทางหลวงมิตรภาพจีน-ปากีสถาน ส่วนหนึ่งของ แผนการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อันเป็นโครงการสาธารณูปโภคระดับโลก เพื่อเชื่อมบริษัทต่างๆของจีนกับตลาดใหม่ๆทั่วโลก
    รอยเตอร์ - ผลสำรวจของสถาบันที่โยงใยรัฐบาลสิงคโปร์ชี้ ผู้คนในชาติอาเซียนเห็นว่ารัฐบาลของพวกตนควรระมัดระวังในการเจรจาโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดกับดักหนี้สินของจีนที่เดินหน้าแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกัน พวกเขาก็มองว่าอเมริกากำลังมีบทบาทแผ่วลงจนน่าสงสัยว่ามีความมุ่งมั่นจริงจังหรือไม่ในฐานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์และผู้สนับสนุนด้านความมั่นคง

    ผลศึกษาฉบับนี้ยังบ่งชี้ว่า เรื่องที่เคยคิดเคยเชื่อกันว่า จีนเป็นผู้มีอิทธิพลครอบงำในปริมณฑลด้านเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐฯยึดกุมอิทธพลในแวดวงการเมือง-ยุทธศาสตร์ได้อย่างมั่นคงนั้น จำเป็นที่จะต้องทบทวนกันใหม่เสียแล้ว

    ในวันจันทร์ (7 ม.ค.) สถาบันไอซีส์-ยูซอฟ อิสฮัก (ISEAS-Yusof Ishak Institute) ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลสิงคโปร์ เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 1,008 คนที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการ นักธุรกิจ ประชาสังคม และสื่อใน 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

    ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่งระบุว่า โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ซึ่งมีชื่อเรียกขานว่า แผนการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะดึงดูดให้อาเซียนเข้าไปอยู่ในวงโคจรของจีน ขณะที่ 1 ใน 3 มองว่า โครงการนี้ขาดความโปร่งใส และ 16% ทำนายว่า บีอาร์ไอจะล้มเหลว

    นอกจากนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจถึง 70% โดยเฉพาะในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ยังเตือนให้ภาครัฐระมัดระวังในการเจรจาโครงการบีอาร์ไอเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ที่ไม่ยั่งยืนกับจีน

    562000000231101.jpg

    (แฟ้มภาพจากเอเอฟพี)

    ทั้งนี้ประเทศตะวันตกบางส่วนได้กล่าวหาปักกิ่งใช้โครงการนี้ดึงดูดประเทศต่างๆ ให้ติดกับดักหนี้สิน ทว่า จีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

    ผู้ตอบแบบสำรวจถึง 73% ทีเดียว มองว่าจีนกำลังมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาคแถบนี้ และยังเชื่อด้วยว่า จีนมีอิทธิพลในทางการเมืองและในทางยุทธศาสตร์มากกว่ามากกว่าอเมริกาแล้ว

    ขณะเดียวกัน 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า อิทธิพลของอเมริกาในทั่วโลกได้เสื่อมถอยลงจากเมื่อปีที่แล้ว และ 2 ใน 3 เชื่อว่า อเมริกามีความผูกพันกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดน้อยลง นอกจากนั้น 1 ใน 3 ยังบอกว่า พวกเขามีความเชื่อมั่นในอเมริกาน้อยมากหรือกระทั่งไม่มีความมั่นอกมั่นใจเอาเลย ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และการเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงในภูมิภาค

    กระนั้น มีผู้ตอบแบบสำรวจไม่ถึง 10% ที่เห็นว่า จีนเป็นมหาอำนาจที่เอื้อเฟื้อและเมตตา โดยเกือบครึ่งบอกว่า ปักกิ่งมีเจตนารมณ์ที่จะเปลี่ยนให้อาเซียนกลายเป็นเขตอิทธิพลของตนเอง

    ผู้จัดทำรายงานการศึกษาฉบับนี้ชี้ว่า ผลสำรวจเป็นสัญญาณเตือนให้จีนต้องใส่ใจลบล้างภาพติดลบของตนเองในสายตาอาเซียน แม้ปักกิ่งยืนยันมาตลอดว่า ตนเป็นมหาอำนาจที่ใจกว้างและเมตตาก็ตาม

    นอกจากนั้น การสำรวจคราวนี้ชี้ว่ามีเสียงเรียกร้องให้อาเซียนเพิ่มบทบาทในการจัดการกับวิกฤตโรฮิงญาในพม่า กระนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ต้องการให้ใช้วิธีไกล่เกลี่ยมากกว่าการกดดันทางการทูต

    สหประชาชาติ ระบุว่า มีชาวมุสลิมโรฮิงญาจำนวนถึง 730,000 คนหนีจากรัฐยะไข่นับจากที่กองทัพพม่าออกกวาดล้างการก่อความรุนแรงของชนกลุ่มนี้

    คณะสอบสวนที่ยูเอ็นแต่งตั้ง ได้กล่าวหากองทัพพม่าสังหาร ข่มขืน และลอบวางเพลิงโดยมีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงยา ทว่า กองทัพพม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

    https://mgronline.com/around/detail/9620000002230
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯส่งเรือรบเฉียดใกล้หมู่เกาะพาราเซล ขณะส่งผู้แทนเปิดเจรจาการค้ากับจีน เผยแพร่: 8 ม.ค. 2562 00:12 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000232301.jpg

    เจฟฟรีย์ เจอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (กลาง) พร้อมคณะผู้เจรจาของเขา ออกจากโรงแรมในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (7 ม.ค.) ทั้งนี้คณะผู้เจรจาของสหรัฐฯชุดนี้ มีกำหนดพบปะหารือกับคณะของฝ่ายจีน ในวันจันทร์ และวันอังคาร (8)
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีลำหนึ่งแล่นเข้าไปเฉียดหมู่เกาะพาราเซล ในทะเลจีนใต้ซึ่งจีนอ้างกรรรมสิทธิ์ครอบครองอยู่ ขณะที่คณะผู้เจรจาของสหรัฐฯ ไปเยือนปักกิ่งเพื่อหาหนทางปลดชนวนสงครามการค้า

    ราเชล แมคมาร์ โฆษกกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงทางอีเมลว่า เรือพิฆาต ยูเอสเอส แมคแคมป์เบลล์ ได้ปฏิบัติภารกิจสำแดงเสรีภาพการเดินเรือ ภายในรัศมี 12 ไมล์ทะเลรอบหมู่เกาะพาราเซล “เพื่อท้าทายการอ้างกรรมสิทธิ์ทางทะเลที่มากเกินกว่าจะยอมรับได้”

    อย่างไรก็ดี แมคมาร์ ยืนยันว่า ภารกิจครั้งนี้ไม่ได้เจาะจงพุ่งเป้าไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด

    การปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ผู้แทนสหรัฐฯ และจีนได้เริ่มเปิดเจรจาการค้าเป็นครั้งแรกที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ทำข้อตกลงพักรบในสงครามการค้าเป็นเวลา 90 วัน เมื่อต้นเดือน ธ.ค.

    ทางด้าน ลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติในวันจันทร์ (7ม.ค.) ว่า พฤติการณ์เช่นนี้ของเรือสหรัฐฯ เป็นการละเมิดกฎหมายของจีนและกฎหมายระหว่างประเทศ และจีนได้ยื่น “หนังสือแสดงความไม่พอใจอย่างหนักแน่น”

    “เราเรียกร้องสหรัฐฯให้ยุติการยั่วยุชนิดนี้ในทันที” เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่าจีนได้ส่งทั้งเรือและเครื่องบินทหารไปแสดงตัวและเตือนเรือรบอเมริกันให้ถอยออกไป

    เมื่อถูกถามเรื่องจังหวะเวลาของการปฏิบัติการซึ่งเกิดขึ้นช่วงที่มีการเจรจาทางการค้า โฆษกผู้นี้ตอบว่าการแก้ไขปัญหาการค้าจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศและแก่โลก “ทั้งสองฝ่ายมีความรับผิดชอบที่จะต้องสร้างบรรยากาศด้านบวกอันจำเป็นสำหรับเรื่องนี้ขึ้นมา” เขากล่าว

    ลู่กล่าวว่า จีนกับสหรัฐฯเห็นพ้องกันที่จะจัดการสนทนา “ที่เป็นไปในเชิงบวกและสร้างสรรค์” เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางเศรษฐกิจและทางการค้า เพื่อให้เป็นไปตามฉันทามติซึ่ง สี กับ ทรัมป์ ตกลงกันไว้

    “ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เรามีความเชื่อว่าความขึงตึงทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯไม่ได้เป็นสถานการณ์ในเชิงบวกสำหรับจีนหรือสหรัฐฯ หรือสำหรับเศรษฐกิจโลก จีนนั้นมีความสุจริตใจ บนพื้นฐานแห่งความเคารพซึ่งกันและกันและความเท่าเทียมกัน ที่จะแก้ไขความตึงเครียดทางการค้าทวิภาคีนี้” โฆษกผู้นี้บอก

    กระทั่งถึงตอนบ่ายวันจันทร์ (7) ยังแทบไม่มีรายละเอียดใดๆ ปรากฏออกมาจากการหารือระหว่างคณะผู้เจรจาของจีนกับสหรัฐฯที่ปักกิ่ง ซึ่งมีกำหนดจะดำเนินไปจนถึงวันอังคาร (8)

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดกับพวกผู้สื่อข่าว ที่สนามหญ้าด้านใต้ของทำเนียบขาว ขณะเดินไปยังเฮลิคอปเตอร์ “มารีน วัน” เพื่อเดินทางไปยังแคมป์เดวิด เมื่อวันอาทิตย์ (6 ม.ค.) ทั้งนี้ทรัมป์บอกว่า เรื่องการเจรจาทำข้อตกลงการค้ากับจีน คือหนึ่งในประเด็นที่เขาจะหารือกับพวกผู้ช่วยอาวุโสของเขาที่แคมป์เดวิด

    คณะผู้แทนสหรัฐฯนั้น นำโดย เจฟฟรีย์ เจอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และประกอบด้วยบุคลากรระดับอาวุโสจากทั้งกระทรวงเกษตร, พาณิชย์, พลังงาน, และการคลัง ตลอดจนเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกหลายคนจากทำเนียบขาว

    ตู้ ซินฉวน ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าจีน แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจระหว่างประเทศและเศรษฐศาสตร์ ในกรุงปักกิ่ง บอกกับรอยเตอร์ก่อนที่การเจรจาคราวนี้จะเริ่มต้นขึ้นว่า การหารือน่าจะโฟกัสที่ประเด็นทางเทคนิคต่างๆ และปล่อยเรื่องสำคัญๆ ที่ไม่เห็นพ้องกันให้ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสยิ่งกว่านี้เจรจากันต่อไป

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ก่อให้เกิดความหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถทำข้อตกลงเพื่อยุติการพิพาทที่ดำเนินมาหลายเดือนแล้ว

    “ผมคิดว่าเราจะสามารถทำดีลกับจีน” ทรัมป์กล่าวเช่นนี้เมื่อวันศุกร์ (4) “เรากำลังจะมีการเจรจาทางการค้าอย่างใหญ่โตกับจีน ประธานาธิบดีสีเข้าเกี่ยวข้องดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกันกับผม เรากำลังเจรจากันในระดับสูงสุด และเรากำลังทำได้ดีมาก”

    ในวันอาทิตย์ (6) ทรัมป์ได้เดินทางไปสถานที่ปลีกตัวพักผ่อนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ แคมป์เดวิด ที่ซึ่งเขากล่าวว่าเรื่องการทำข้อตกลงการค้ากับจีน จะเป็นหนึ่งในประเด็นต่างๆ ที่เขาจะหยิบยกขึ้นพูดคุยกับพวกผู้ช่วยระดับอาวุโสของเขา

    ทรัมป์กล่าวในวันอาทิตย์ด้วยว่า การเจรจาการค้ากับจีนกำลังดำเนินไปอย่างดีมาก และการที่เศรษฐกิจจีนเวลานี้อยู่ในสภาพอ่อนแอ ทำให้ปักกิ่งมีเหตุผลที่จะทำงานเพื่อให้เกิดข้อตกลง

    อย่างไรก็ตาม ในการแถลงเมื่อวันจันทร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนดูเหมือนจะตอบโต้ความเห็นเช่นนี้ของทรัมป์ โดยเขากล่าวว่า “สำหรับเศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะที่ดีหรือไม่นั้น ผมได้อธิบายเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว การพัฒนาของจีนนั้นมีทั้งความเหนียวหนืดดื้อดึงอย่างมหาศาลและมีทั้งศักยภาพอันใหญ่โต เรามีความมั่นใจอย่างมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ในระยะยาวอันแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน”

    ส่วน ตู้ ซินฉวน สำทับว่า “เศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวลงอย่างสำคัญ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็กำลังตกฮวบอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าเวลานี้ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการที่จะมีการตกลงกันในบางรุปแบบ”

    สำหรับ โกลบอลไทมส์ สื่อแทบลอยด์ชาตินิยม ซึ่งอยู่ในเครือของ เหรินหมินรึเป้า ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวในบทบรรณาธิการชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ในคืนวันอาทิตย์ (6) ว่า ถ้อยแถลงต่างๆ จากทั้งสองฝ่ายที่ว่าพวกเขาวาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงกัน ต้องถือเป็นเหตุผลที่ทำให้มองโลกแง่สดใสกันได้ ทว่าปักกิ่งนั้นจะไม่มีการอ่อนข้อยอมตามข้อเรียกร้องต่างๆ ของฝ่ายสหรัฐฯ

    “ถ้าจีนกำลังจะยกธงขาว จีนก็จะต้องทำเช่นนั้นไปเรียบร้อยแล้วละ” หนังสือพิมพ์นี้ระบุ

    https://mgronline.com/around/detail/9620000002241
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

    NtO_q&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fimgs.mcot.net%2Fimages%2F2019%2F01%2F1546908282195-600x315x2.jpg

    คิมน้อยเยือนจีน: นายคิม จองอึนผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนจีนเป็นเวลา4วัน และมีกำหนดจะเข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง/...
    ----------------------------
    นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่าโดนัลด์ ทรัมป์กับคิม จองอึนมีโอกาสจะได้พบกันเป็นครั้งที่2 เพราะคราก่อนที่พบกัน คิมน้อยจะเข้าพบหารือกับท่านสี จิ้นผิงก่อนแล้วค่อยไปพบกับทรัมป์ เพราะการจะตกลงอะไรกับทรัมป์ย่อมมีผลกระทบกับพี่จีนอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนัันคิมจำเป็นต้องมาหารือปรึกษากับท่านสีด้วนตัวเองเสียก่อน แล้วค่อยพบปะเจรจากับทรัมป์ จีนก็เปรียบเหมือนพี่ใหญ่หรือที่ปรึกษาของเกาหลีเหนือ(แต่ไม่ใช่เมืองขึ้นจีนอย่างทรัมป์เข้าใจ จีนพูดคุยแนะนำเกาหลีเหนือได้แต่ไม่สามารถสั่งเกาหลีเหนือได้)


    https://www.tnamcot.com/view/2nTFXN...lcHZ1AjzPLdx6Urgvi5yUiViUzkSlMDIKUGgJIB0uHCzQ
     

แชร์หน้านี้

Loading...