ติดตามสถานะการณ์

จังหวัดนครศรีธรรมราช


การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ระดมเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมท่อส่งจ่ายน้ำประปา ให้สามารถจ่ายน้ำได้ตามปกติทุกพื้นที่พร้อมสนับสนุนน้ำดื่มบรรจุขวดช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก


นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ภาคใต้ของประเทศไทยประสบวาตภัยจกพายุโซนร้อน “ปาบึก” ระหว่างวันที่ 4-6 มกราคม 2562 ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อท่อน้ำดิบ ท่อส่งจ่ายน้ำประปา และหัวสูบน้ำดิบของ กปภ.สาขานครศรีธรรมราช นาทวี และขนอม แต่ขณะนี้ได้ซ่อมแซมและแก้ไขจนสามารถทำงานและส่งจ่ายน้ำประปาได้เป็นปกติแล้ว นอกจากนี้ กปภ.ยังได้กำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ใช้น้ำของ กปภ.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ


โดยให้ กปภ.เขตและสาขาเร่งซ่อมแซม ปรับปรุง ระบบผลิต จ่ายน้ำและระบบท่อประปาให้สามารถจ่ายน้ำได้โดยเร็ว และลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ใช้น้ำ กปภ. ด้วยการใช้รถบรรทุกน้ำจ่ายน้ำประปาและน้ำดื่มแบบขวด จัดโครงการเติมใจให้กันเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมท่อประปาภายในบ้านโดยซ่อมฟรีไม่คิดค่าแรง ตลอดจนการล้างมาตรวัดน้ำ และมาตรการการผ่อนชำระหนี้ค่าน้ำประปาตามระเบียบของ กปภ. ทั้งนี้ ในกรณีมาตรชำรุดเสียหายเนื่องจากผลกระทบของวาตภัยดังกล่าว กปภ.จะคิดค่าน้ำประปาโดยใช้ค่าเฉลี่ย 3 เดือนย้อนหลัง


นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทุกท่านที่เข้าใจความตั้งใจและสนับสนุนการทำงานของ กปภ. มาโดยตลอด ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือด้านน้ำประปาเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กปภ.สาขาในพื้นที่ใกล้เคียง

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


"ปาบึก" ถล่มโรงเรียน 435โรง อยู่ใน #เมืองคอน มากสุด 63โรง

7 ม.ค.62-นายอำนาจ วิชยานุวัติ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (รองปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์ป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติพายุโซนร้อน “ปาบึก”(PABUK) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานข้อมูลสถานการณ์ผลกระทบและความเสียหายจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติในส่วนภูมิภาคทั้ง 3 ศูนย์ พบว่ามีสถานศึกษาได้รับผลกระทบ จำนวน 833 โรง ขณะที่ได้รับความเสียหาย 435 โรง เป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 374 โรง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 9 โรง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 35 โรง และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 17 โรง ประมาณการความเสียหายของสถานศึกษา เป็นเงินเกือบ 110 ล้านบาท โดยความเสียหายส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องหลังคา ฝ้าเพดาน กระจกหน้าต่างของอาคารเรียน โรงอาหาร บ้านพักครูชำรุดเสียหาย และวัสดุอุปกรณ์ อาทิ หนังสือเรียน คอมพิวเตอร์ โต๊ะเกาอี้พังเสียหาย สำหรับโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 4 มกราคมและยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ในวันที่ 7 มกราคม จำนวน 81 โรง และยังมีโรงเรียนที่ต้องปิดต่อเนื่องไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอน ในวันที่ 8 มกราคม ได้ จำนวน 63 โรง เป็นโรงเรียนในสังกัด สพฐ. 62 โรงและ สอศ. 1 โรง โดยเป็นโรงเรียนจังหวัดนครศรีธรรมราชทั้งสิ้น ซึ่ง ศธ.จะเร่งให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเพื่อให้สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติโดยเร็ว

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


(7 ม.ค. 2562) ผลกระทบจากมวลน้ำ จากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไหลหลากลงสู่แม่น้ำตรัง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเพิ่มขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนราษฎร


นายสมเกียรติ ดวงมณี นายอำเภอห้วยยอด เปิดเผยว่า มวลน้ำได้ไหลหลากลงมาในพื้นที่ ม.1 ตำบลบางดี น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร, ครัวเรือนราษฎร จำนวน 6 ครัวเรือนและโรงเรียนวัดบางดี พื้นที่ ม.3 ตำบลบางดี น้ำท่วมบ้านเรือน จำนวน 1 หลัง และเริ่มตัดผ่านถนนภายในหมู่บ้าน ส่วนระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริเวณพื้นที่ ม.11 ตำบลหนองช้างแล่น น้ำท่วมถนนสายบ้านห้วยขี้แรด- บ้านหนองปรือ และพื้นที่การเกษตรของราษฎร ส่วนพื้นที่ ม.12 ตำบลหนองช้างแล่น ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นสูง


นายอาชวงศ์ สาริพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรังกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ หลังผ่านพ้นวิกฤติพายุปาบึก ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินกิจกรรมประจำวันเป็นปกติแล้ว แต่ได้รับอิทธิพล/ผลกระทบจากมวลน้ำ จากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไหลหลากลงสู่แม่น้ำตรัง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเพิ่มขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือน ส่งผลกระทบกับพื้นที่อำเภอรัษฎาและอำเภอห้วยยอดรวม 2 อำเภออ 10 ตำบล 1 เทศบาล 47 หมู่บ้าน 2,634 ครัวเรือน 8,485 คน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ


ด้าน นายประเสริฐ วงศ์นราทิพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตรัง เปิดเผยว่า โครงการชลประทานตรัง สำนักงานชลประทานที่ 16 เตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำหลากอันเกิดจากผลกระทบพายุ “ปาบึก” ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำจากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังไหลมาตามแม่น้ำตรัง และคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอเมืองตรัง ในอีกประมาณ 24 ชั่วโมง


“ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมรถขุดไฮดรอลิคช่วงแขนยาว จำนวน 2 คัน รถขุดไฮดรอลิคช่วงแขนสั้นจำนวน 2 คัน เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 10 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 12 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขนาด 10 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้วจำนวน 7 เครื่อง รถบรรทุกท้าย 10 ล้อจำนวน 3 คัน รถแทรคเตอร์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกน้ำ 10 ล้อ จำนวน 1 คัน เพื่อรอรับน้ำจากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะมาถึงจังหวัดตรัง ประมาณวันอังคารที่ 8 มกราคม 2562 นี้” นายประเสริฐกล่าว

 

การยางแห่งประเทศไทยสาขาเมืองนครศรีธรรมราช


เรียน เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่รับผิดชอบของการยางแห่งประเทศไทยสาขาเมืองนครศรีธรรมราช

ตามที่เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอพระพรหม อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน ปาบึก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 นั้น

การยางแห่งประเทศไทยสาขาเมืองนครศรีธรรมราช ขอประชาสัมพันธ์ เรื่องการขอรับสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ตามมาตร 49(5) แห่ง พรบ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 กรณีสวนยางประสบวาตภัย/อุทกภัย ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยก่อนวันที่ประสบภัยและสวนยางเสียหายไม่น้อยกว่า 20 ต้นต่อไร่ ในบริเวณเดียวกัน ล้มหรือหักโค่น โดยเกษตรกรชาวสวนยางสามารถยื่นคำขอรับเงินสวัสดิการฯ กับ กยท.ในพื้นที่ที่สวนยางตั้งอยู่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่เกิดเหตุ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเงิน รายละ 3,000 บาท

เอกสารประกอบการยื่นขอรับเงินสวัสดิการฯ

1. คำขอรับสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง (งสก.1)

2. สำเนาบัตรประชาชน

3. หลักฐานที่ดินตัวจริงพร้อมสำเนา (กรณีติดจำนองให้ขอคัดสำเนาจากสถาบันการเงิน)

4. สำเนาบัตรประประจำตัวของผู้รับรอง (กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน)

5. สำเนาบัญชีธนาคารกรุงไทย

6. ภาพถ่ายสวนที่ประสบภัย

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


รฟท.เร่งซ่อมสภาพทางรถไฟสายใต้ ระหว่างสถานีโคกคราม - นครศรีธรรมราช หลังระดับน้ำลด คาดเปิดเดินรถได้ตามปกติ 8 ม.ค. 62 นี้


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้จากการตรวจสภาพเส้นทางรถไฟ พบว่าสภาพทางได้รับความเสียหายหลายจุด กระทรวงคมนาคมจึงได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งฟื้นฟูสภาพทาง และอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่เดินทางโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้รถอัดหินสามารถเข้าพื้นที่เพื่อทำการลงหินและอัดหินเสริมความมั่นคงของรางได้แล้ว ทำให้สามารถเปิดทางและเดินรถได้ตามปกติในวันอังคารที่ 8 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป สำหรับการเดินรถในเส้นทางสายใต้ ในวันที่ 7 ม.ค. 2562 ยังมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถ จำนวน 4 ขบวน และขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 2 ขบวน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร โดยให้เดินรถถึงแค่สถานีชุมทางทุ่งสง และจะทำการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ไปยังสถานีปลายทางต่อไป ส่วนขบวนรถสายใต้อื่นๆ ยังสามารถเดินทางจากต้นทางถึงสถานีปลายทางได้ตามปกติ ขบวนรถที่ปรับเปลี่ยน ประกอบด้วย


เที่ยวไป


1. ขบวนรถเร็วที่ 173 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช ออกกรุงเทพ เวลา 17.35 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 08.22 น.


2. ขบวนรถด่วนที่ 85 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช ออกกรุงเทพ เวลา 19.30 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 09.27 น.


เที่ยวกลับ


1. ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 14.24 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 05.10 น.


2. ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 16.20 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 06.30 น.


ขบวนรถท้องถิ่น


1. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451 นครศรีธรรมราช – สุไหงโกลก งดเดิน ช่วงสถานีนครศรีธรรมราช – ชุมทางเขาชุมทอง


2. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 นครศรีธรรมราช – ยะลา งดเดิน ช่วงนครศรีธรรมราช – ชุมทางเขาชุมทอง


นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดเข้าซ่อมแซมเส้นทางที่ชำรุด โดยเฉพาะในเส้นทางที่ถูกน้ำเซาะและได้รับความเสียหาย เพื่อเข้าปรับปรุงซ่อมแซมเส้นทางที่ชำรุดไว้แล้ว คาดการณ์ว่าเย็นวันนี้จะสามารถเปิดเดินรถในเส้นทางดังกล่าวได้ตามปกติ พร้อมกันนี้ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และมาตรการด้านความปลอดภัยอำนวยการเดินรถเส้นทางสายใต้อย่างเต็มกำลัง เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชนคนไทยสูงสุด ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลข 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง การรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


โดยในส่วนของ #จังหวัดนครศรีธรรมราช คาดว่าสวนยางพารา จะเสียหายมากกว่าแสนไร่ ดังนั้นภาครัฐจะต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาอย่างเร่งด่วน พร้อมกับการสร้างงาน พัฒนาอาชีพให้กับเกษตรเพื่อที่จะตั้งตัวได้

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


ขอความช่วยเหลือ พื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เมืองคอน ยังเดือดร้อนหนัก หลัง “ปาบึก” ถล่ม

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า Ittipat Indamusika ได้โพสต์ข้อความ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุปาบึก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ


โดยข้อความระบุว่า “ขอหน่วยงานลงช่วยเหลือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติหน่อยครับ เดือดร้อนหนักมาก ต้นไม้ล้มสายไฟเยอะมากครับ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานไม่สามารถใช้ได้เข้าวันที่ 3 แล้วครับ ไม่มีหน่วยงานไหนลงมาช่วยเลยครับ ขอบคุณมากครับ

ปล.ตอนนี้ไม่สามารถจะพึ่งนายอำเภอได้เลยครับ ศูนย์อพยพยังไม่มีเลยสักนิด ผมเวทนามากครับ”

https://www.matichon.co.th/region/news_1306504

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


#เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ประชาสัมพันธ์ แจ้งประชาชนในเขตพื้นที่

ผู้ได้รับผลกระทบจากการเหตุการณ์ พายุโซนร้อน ปาบึก กรณีครัวเรือนที่ประสบภัย หลังคาบ้านได้รับความเสียหาย ให้ผู้ประสบภัยมาเขียนคำร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมแนบหลักฐาน ได้ที่ห้องประชุมชั้น 5 ( อาคารจอดรถ ) ภายในวันอังคาร ที่ 8 มกราคม 2562 ในเวลาราชการ

โดยนำหลักฐานมายื่นดังนี้

1. สำเนาทะเบียนบ้าน

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

3. ภาพถ่ายแสดงความเสียหาย (เป็นภาพถ่ายหรือปริ้นสีใส่กระดาษพร้อมยื่น)

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 075-342880 ต่อ11

 

รอบรั้ว ท.ร.


โรงเรียนหัวไทรบำรุงราษฎร์ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมให้กำลังใจ หรือสามารถร่วมบริจาคช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบรุ่นแรงสองครอบครัว จากพายุโซนร้อน "ปาบึก" #ทำให้ที่พักอาศัยเสียหายรุนแรง

ได้แก่ครอบครัว

นายธนากร ศรีชุม ม.3/8

และนางสาวธิติมา ศรีชุม ม.5/2

และครอบครัว นายวันกร มีทองขาว นักเรียน ม. 6/4 บิดาเป็นโรคอัมพฤต

ซึ่งทั้งสองครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติจาก พายุ ปาบึก ที่เข้าฝั่งอ่าวไทย เมื่อ 4 มกราคม 2562

ที่เสาไฟฟ้าหักใส่บ้าน และพัดพาห้องครัวเสียหาย พิกัด หมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

#ติดต่อ แจ้งความประสงค์ช่วยเหลือ ได้ที่

คุณครู ณัฐภัทร นวลขาว ครูโรงเรียนหัวไทรบำรุงราษฎร์ โทร. 0637915189

#พร้อมเป็นสะพานบุญน้ำใจ #ส่งมอบความช่วยเหลือแก่นักเรียนผู้ประสบวาตภัยรุนแรงต่อไป

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


"กฤษฏา" สั่งทุกหน่วยงาน เร่งระดมสำรวจความเสียหายจากภัยพิบัติ "#พายุโซนร้อนปาบึก" พบ 13 จังหวัดภาคใต้ เกษตรกร ได้รับผลกระทบเบื้องต้น 189,688 ราย


ทั้งนี้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2556 ในกรณีเสียหายสิ้นเชิง และ ตาย/สูญหาย


ด้านพืช ช่วยเหลือรายละไม่เกิน 30 ไร่ ข้าว 1,113 บาท พืชไร่ 1,148 บาท พืชสวน 1,690 บาท ช่วยเหลือค่าขนย้ายดินโคลน ไร่ละไม่เกิน 7,000 บาท รายละ 5 ไร่ ช่วยเหลือค่าปรับเกลี่ยพื้นที่ช่วยเหลือ ไร่ละ 700 บาท ไม่เกิน 30 ไร่


ด้านประมง ปลา 4,225 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ กุ้ง/ปู หอย ทะเล 10,920 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ กระชัง 315 ตรม. ไม่เกิน 80 ตรม.


ด้านปศุสัตว์ โค-กระบือ ตัวละ 6,000 บาท-22,000 บาท ไม่เกินสองตัว


ยางพารา สมาชิกการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เสียสภาพสวน ให้ทุนปลูกแทน ไร่ละ 16,000 บาท ช่วยเหลือค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ไม่เกินครัวเรือนละ 11,000 บาท ช่วยเหลือค่าซ่อมแซมคอกสัตว์/โรงเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 5,000 บาท


รวมทั้งช่วยเหลือเรือประมงตามระเบียบกรมประมง พ.ศ. 2541/ตามระเบียบก.คลัง พ.ศ. 2556


กรณีเรือความยาวไม่เกิน 10 เมตร ช่วยเหลือ ค่าซ่อมแซมเรือและอุปกรณ์ ไม่เกิน ลำละ 20,000 บาท กรณีเรือจม ช่วยเหลือค่ากู้เรือ ค่าซ่อมแซมเรือและอุปกรณ์ ไม่เกิน ล้าละ 30,000 บาท กรณีเรือสูญหาย/เสียหายมาก ซ่อมแซมไม่ได้ ช่วยเหลือ ล้าละไม่เกิน 66,000 บาท กรณีเรือความยาวเกิน 10 เมตร ช่วยเหลือ ค่าซ่อมแซมเรือและอุปกรณ์ ไม่เกิน ล้าละ 70,000 บาท กรณีเรือจม ช่วยเหลือค่ากู้เรือ ค่าซ่อมแซมเรือและอุปกรณ์ ไม่เกิน ล้าละ 95,000 บาท กรณีเรือสูญหาย/เสียหายมาก ซ่อมแซมไม่ได้ ช่วยเหลือ ล้าละไม่เกิน 200,000 บาท กรณีไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกรมประมงฯ ให้ช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ไม่เกินครัวเรือนละ 11,000 บาท

http://bit.ly/2SGizt8

 

Matichon Online - มติชนออนไลน์


สาวซาอุฯ แฉ ทางการไทยโกหกว่าไม่สามารถเรียกร้องสิทธิคุ้มครองจากยูเอ็น #มติชนต่างประเทศ #มติชนออนไลน์

 

Khaosod - ข่าวสด


ธนาคาร แจง เงินไม่หายไปไหน แค่ไม่ปรากฏในบัญชี!!

#ข่าวสด #khaosod

 

ส่งอุยกูร์ให้จีนยังเมตตากว่าส่งสาวคนนี้ให้ซาอุดีอาระเบีย อุยกูร์ ยังพอแน่ใจ 50% ว่าจีนจะไม่ทำอะไรรุนแรง แต่สาวคนนี้ 100% ตายทรมานแน่นอน

Jeerachart Jongsomchai


... "ซาอุดลูกน้องอีแร้งกำลังเล่นงานลุงเขียวก่อนเลือกตั้ง"


... เรื่องเด็กสาวชาวซาอุดที่มาถูกกักตัวที่ประเทศไทยเพราะเธอต้องการเดินทางหนีไปออสเตรเลียนั้นมันเหมือนกับว่าจะทำให้รัฐบาลไทยของลุงเขียว มีแต่เสียกับเสีย


... ถ้าเลือกทางแรกคือส่งเธอกลับซาอุด เราก็จะโดนพวกนิรโทษสากลบริษัทย่อยของอีแร้งเล่นงานและอาจจะพาลหาเรื่องลงโทษทางการทูตหรือการค้า หรือทำลายชื่อเสียงรัฐบาลเขียวก่อนการเลือกตั้ง แต่ถ้าเลือกทางที่สองรัฐบาลเขียวทำอะไรอย่างอื่นเช่นปล่อยนางไปออสเตรเลียตามที่นางเล่นตามบท ฝ่ายซาอุดและแนวร่วมวาฮาบี้ในไทยก็อาจจะเอาเป็นเหตุในการสร้างความวุ่นวายในไทยได้เป็นการสร้างศัตรูโดยการเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือ


... ไทยเคยสร้างความไม่พอใจให้พวกเขาตอนที่ส่งชาวอุยกูร์เกือบร้อยคนไปให้จีน ทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกไม่ชอบไทย และตามด้วยทำให้ไทยร้าวฉานกับรัสเซียตอนที่ส่งนายบูตนักค้าอาวุธไปให้เมกาเป็นต้น เป็นการสร้างศัตรูให้กับไทยแบบเนียนๆ


... เป็นเหมือนเกมสร้างมลทินสร้างศัตรูหรือทำลายชื่อเสียงของลุงเขียวก่อนการเลือกตั้งอย่างแท้จริง


.


.https://www.theguardian.com/world/2...held-bangkok-fears-will-be-killed-repatriated

 

China Report ASEAN - Thailand


สี จิ้นผิง สั่งทุกเหล่าทัพ เพิ่มความพร้อม รับมือ ‘ทุกสถานการณ์’

.

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารของจีนด้วย กล่าวระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้นำเหล่าทัพล่าสุดว่า "ขอให้ผู้บัญชาการของทุกเหล่าทัพกระตุ้นผู้ใต้บังคับบัญชา ให้มีความตื่นตัวและมีความพร้อมอยู่เสมอ ต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางทหาร การสู้รบ หรือวิกฤติที่อาจเกิดขึ้น"

.

นอกจากการเตรียมความพร้อมทางการทหารแล้ว สี จิ้นผิงยังมีนโยบายให้ปฏิรูปแผนยุทธศาสตร์ทางทหาร เพื่อให้ทันกับยุคสมัยปัจจุบัน ซึ่งสี จิ้นผิงระบุว่า จีนกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ

.

ถ้อยแถลงของผู้นำจีนเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมทางการทหารนี้ มีขึ้นหลังจากที่สี จิ้นผิงกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ (โปลิตบูโร) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี นโยบายความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ (เรียกอีกชื่อว่า วาระไต้หวัน)

.

สี จิ้งผิง กล่าวว่า การเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เพราะไต้หวันต้องอยู่ภายใต้สถานะ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ เพื่อปกป้องผลประโยชน์และคุณภาพชีวิตของชาวจีนทั้งประเทศ

.

ขณะที่ นายสี จิ้นผิง กล่าวเชิงเตือนด้วยว่า ความพยายามใดก็ตามในการผลักดันหรือกระตุ้นให้ไต้หวันเพิ่มการเคลื่อนไหวเพื่อเป็นเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่ อาจนำไปสู่การใช้ มาตรการทางทหาร

.

ที่มา: South China Morning Post | Chinese President Xi Jinping gives army its first order of 2019: be ready for battle

.

 

Thairath


ไปไม่ถึงดวงดาว...กลุ่มทหารในกาบองพยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจประธานาธิบดี แต่สุดท้าย คว้าน้ำเหลว ไม่สำเร็จ

 

เจนจิรา จันทรเสนา


จีนกำลังค่อยๆกำจัด weaknesses ของตัวเองในการขนส่งสินค้า และพลังงาน ที่ต้องอาศัยการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกาตรง "สิงคโปร์ กับมาเลเซีย" ซึ่งตรงนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของอเมริกา โดยการไปลงทุนสร้างท่าเรือ gwadar ในปากีสถาน (ที่พึ่งเปิดใช้ไม่นาน)


การที่จีนสร้างท่าเรือใน "ปากีสถาน" เหตุผลเพราะ จีนหายใจไม่ทั่วท้อง ถ้าต้องเดินเรือขนส่งสินค้า และที่สำคัญคือขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังจีน(คิดเป็น 70-80%) ผ่านช่องแคบมะละกาที่อยู่ใต้อิทธิพลสหรัฐ และที่สำคัญ(ลึกๆ)เป็นการแก้แค้นสิงคโปร์ที่เลือกอยู่ฝั่งอเมริกาอย่างออกหน้าออกตาดี๊ด๊าตั้งแต่แรก


https://tribune.com.pk/story/1713686/1-china-invested-248m-gwadar-port-first-phase/


ล่าสุดจีนยังเข้าไปลงทุนท่าเรือน้ำลึกให้กับพม่า ก็คงเหตุผลเดียวกันกับของปากีสถาน คือ จีนห่วงเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานมากที่สุด หากวันดีคืนดี อเมริกาสั่งปิดช่องแคบตรงนั้น จีนคงร้องจ๊าก..! แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นเยอะปิดจุดอ่อนของตัวเองแทบหมด


https://economictimes.indiatimes.co...indias-neighbourhood/articleshow/66555856.cms

- jenjira1958 -

 

The Public Post


ชีวิตฉันอยู่ในอันตราย! สาวซาอุฯ วัย 18 ที่ถูกกักตัวสนามบินสุวรรณภูมิ ขังตัวเองในโรงแรม เบรกไทยส่งกลับ ล่าสุดได้พบหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติแล้ว

https://www.publicpostonline.net/21437

 

เจนจิรา จันทรเสนา


"บิ๊กโจ๊ก" บอกว่าจะคุยกับน้อง Rahaf พร้อมกับ UNHCR และจะดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าตัว


"ประเทศไทยเป็นเมืองยิ้ม เราจะไม่ส่งใครไปให้สูญเสียชีวิต เราจะไม่ทำแบบนั้น.."


อ่านรายงานข่าวเรื่อง Save Rahaf ได้จากสำนักข่าว NYtimes :

https://www.nytimes.com/2019/01/07/world/asia/saudi-thailand-asylum-rahaf-mohammed-alqunun.html


โดย: Richard Paddock

"We will not send someone back to die," says the Thai immigration chief.

 

Sakhon Online


ข่าวออนไลน์ : เขื่อนกั้นแม่น้ำท่าจีนพัง ทะลักท่วมสวนกล้วยไม้บางยางอ่วม





ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ ต.บางยาง พบปะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเขื่อนป้องกันริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนหักพัง น้ำท่วมพื้นที่สวนกล้วยไม้ประมาณ 20 ไร่ ด้าน อบต.บางยาง ร่วมกับหลายภาคส่วน เร่งนำกระสอบทรายกั้นส่วนที่เสียหาย พร้อมนำท่อพญานาคสูบออกจากสวน คาดพรุ่งนี้กลับคืนสภาวะเป็นปกติ


เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 7 ม.ค. นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้ลงพื้นที่บริเวณสวนกล้วยไม้ หมู่ 12 ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยจากเหตุเขื่อนป้องกันริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนของชาวบ้านเกิดการหักพังลงเป็นระยะความยาวเกือบ 20 เมตร ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่สวนกล้วยไม้หลายแห่ง เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมจนข้าวของได้รับความเสียหายอีก 3 หลังคาเรือน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เขื่อนป้องกันริมฝั่งเกิดการหักพังลง เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึกที่เกิดขึ้นช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดการดึงกันกับมวลน้ำในคลองซอยที่อยู่ติดกับแม่น้ำ แล้วก็ทำให้เกิดสภาพการดึงตัวไปมาของเขื่อนปูนตามไปด้วยจนเหล็กที่อยู่ด้านในขาดลง ก็ทำให้เขื่อนปูนเกิดการหักพังขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำในแม่น้ำท่าจีนหนุนสูงตามธรรมชาติ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าท่วมสวนกล้วยไม้และบ้านเรือนแบบไม่ทันตั้งตัว



ส่วนการช่วยเหลือในเบื้องต้น ทาง อบต.บางยาง ได้นำกระสอบทรายจำนวน 5,000 ถุง มาวางเป็นแนวกั้นน้ำ โดยได้รับการสนับสนุนกระสอบสำหรับบรรจุทราย และเรือแบคโฮเพื่อใช้กดเสาเข็มวางกระสอบทรายจาก อบจ.สมุทรสาคร รวมทั้งทางฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ อส. กำลังทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน เจ้าหน้าที่ของ อบต.บางยาง เจ้าหน้าที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่มาช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปวางกั้นน้ำ โดยหลังจากนี้ จะมีการนำเครื่องสูบน้ำท่อพญานาคจากภาคเอกชนมาสูบน้ำออกจากสวน คาดว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้สถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ ทางกรมชลประทานได้มีโครงการที่จะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาว อีกทั้งทางด้านของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จะได้ลงเรือสำรวจสภาพชายฝั่งตลอดริมแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อดูถึงจุดเสี่ยงจุดอันตรายที่ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมหรือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชน


http://www.sakhononline.com/news/2017/?p=8456

 

Matichon Online - มติชนออนไลน์


“บิ๊กโจ๊ก”ปัดจับกุม แค่ปฏิเสธเข้าปท. ชี้สาวซาอุไม่ขอวีซ่า-ไม่มีตั๋วบินกลับ รอหารือ UNHCR (มีคลิป) #มติชนออนไลน์ #มติชนภูมิภาค