ตามครรลองธุลีดิน(ความตายบนเส้นทางโจรสลัด..ของอดีตนักเลงบ้านนอก)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 8 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทุกขณะที่ลมหายใจเข้า-ออก

    พี่น้ำใสฯก็เคยผ่านเรื่องหวุดหวิด คล้ายๆกันนี้ มาบ่อยครั้ง

    แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรา ระลึกถึงคุณประโยชน์ของดำรงคงอยู่

    และการเตรียมพร้อมที่จะพัดพรากจากไป

    ..................

    ให้กำลังใจค่ะ น้องแตน

    สู้สู้ กับวันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกวัน
     
  2. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448

    ขอบพระคุณ กำลังใจจากพี่น้ำใสฯค่ะ
    ในเสี้ยววินาทีนั้น ไม่ได้ตกใจ หรือ กลัวเลยค่ะ
    แต่เสียดาย ที่เราใช้เสี้ยววินาทีนั้น
    ให้เป็นประโยชน์หากตายไม่ได้อ่ะดิ
    ต้องฝึกใหม่ ^^

    นี่เราใช้กระทู้กันเหมือนเฟสบุค
    ประเดี๋ยว ท่านเจ้าบ้านกลับมา มีโวยอีกหล่ะ 555+
    ก..ก..กลัวที่ไหน ชิ่งดีกว่า ฟิ้วววววว
     
  3. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขออภัยช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามา อัพเรื่อง
    งานยุ่ง เรื่องเยอะ..ปวดเฮด
    ====

    มีเวลาหน่อยก็ไปเลอะเทอะ..ไปลงหลุมดำ กระทู้ คนขี้บ่น ที่คนชังไล่ลงหลุมต่ำตามป๋ามิงค์เป็นเพื่อนป๋าแกไป..(กลัวคนแกเหงาอ่ะนะ)


    http://palungjit.org/threads/คนขี้บ่น.513404/
     
  4. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    นั่นไง...
    กระผมว่า โดดลงหลุมไปแล้วนะ....ป๋า topluss ยังตามไปโยนคบไฟใส่อีก...เฮ้อ...เดี๋ยวหางก็ไหม้กันหมดพอดี...

    ว่าแต่ เรื่องอากาศทิพย์น่ะ เล่าซะที...ผมก็เข้าใจนะว่า คนแก่แล้วก็มักจะหลงๆลืมๆ...แต่ว่าหนุ่มๆไฟแรงส์อย่างผมเนี่ย...ยังไม่ลืม..แบบว่าไม่ยอมแก่ จิงๆนะ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เพิ่งจากมาไม่นานจากหลุมดำ.. อุตส่าห์หลบมานี่
    ตดยังหอมโชยเข้าจมูก..ไม่หายซึ้งตรึงใจ

    อ่ะก็ได้...จะเล่าแล้วนะ

    เตรียมตัว...ระวัง...ไป๊!
     
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เมื่อข้าพเจ้าหลงเข้าไปในแดน อากาศทิพย์?


    เมื่อครั้งกระโน้น..เมื่อ10 กว่าปีก่อน

    ยังที่พักพำนัก ณ คอนโดสูงชานเมือง ชั้น5 แห่งเมืองจันทบุรี
    เมืองผลไม้ดัง ที่ขึ้นชื่อละบือนาม คือ องุ่นและแอปเปิ้ลลูกใหญ่..ล้อเล่น
    ห้วงอณูแห่งสายลม...โชยมา
    ทั้งกระแสลมจากชายทะเลไม่ไกลฝั่งตะวันตก และโอโซนบริสุทธิ์จากเทือกเขาสระบาปด้านทิศตะวันออก กระแสสบายๆเข้ามาโรมรันพันตู
    จนดูแทบไม่ออกว่าแบบไหนสดชื่นกว่ากัน..

    (แต่ toplus99 ไม่ค่อยชอบกระแสลมทะเลเท่าไรนัก เพราะมันเหนียวๆตัว..แบบปลาเค็ม)

    ในฤดูกาลนั้นช่วงเข้าพรรษา เราในยามนั้นถือศีลแปด เต็มอัตราศึก
    หลัง 2 ทุ่มงด TV ,งดฟังเพลงทุกประเภท
    หลังบ่าย 2 งดอาหารขบเคี้ยวทุกอย่าง, ขอเฉพาะน้ำเปล่าและน้ำประเภทถั่วเหลือง

    หลังสี่ทุ่ม-ตีสี่ปฏิบัติธรรมสมาธิ ,ทุกวันพระ ตักบาตร กินมังสวิรัติ..นั่นปะไร

    จนมาถึงวันหนึ่ง...จากปกติของทุกวันทีปฏิบัติมานานจนเกือบจะล่วงวันออกพรรษา

    วันนั้นหลังอาบน้ำเสร็จปิด Tv เลยมานั่งว่า แล้วจะทำอะไรต่อดีหว่า..หนังสือธรรมะก็อ่านจนหมดแล้วหลายเล่ม.. ยิ่งอ่านมากเริ่มง่วงไปซะเปล่าๆ

    จึงคลานกระดื๊บๆมาที่โต๊ะหมู่บูชา ขนาดหมู่7
    มีพระประธานน่าตัก 5 นิ้วใหม่ๆ แจกันคู่ทองเหลืองประดับดอกบัว และเชิงเทียน
    กระถางธูปใส่เม็ดทราย..อันแสนน่าภูมิใจ
    นอกจากตัวเอง..ว่าทั้งห้องมีแต่สิ่งนี้แหละ..ที่มีค่าที่สุด
    (..ว่าฉันตั้งใจจะมาจุดธูปเทียนไหว้พระสวดมนต์ แล้วจะดับเทียนก่อน แล้วจะหลับตาสมาธิต่อไป)


    ว่าแล้วก็หยิบเทียนทั้ง 2 ขึ้นมาจุด...ปักไว้มั่นคงที่เชิงเทียน...

    จากนั้นก็หยิบธูปหอมขึ้น....แต่ยังมิทันได้จุดธูปหอมขึ้นมาแต่ใดๆ...ทั้งสิ้น


    ความรู้สึกประหลาดถึงบรรยากาศบางอย่าง...ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน

    ว่าเริ่มถูกพลังงานบางอย่าง เหมือนถูกตรึงขึงไว้...ในระดับหนึ่งแต่ไม่รุนแรงมาก

    หูเริ่มอื้อ... จากนั้นกลายเป็น..หูดับเงียบสนิท เสียงจอแจของรถราและผู้คนหายสิ้นไป
    เปลือกตาก็ถูกตรึงนิ่งแบบสบายๆ..อยู่อย่างั้น

    แต่ภาพที่เห็นเป็นแค่ภาพใกล้ๆเป็นได้แค่เชิงแท่นของโต๊ะหมู่บูชา ที่เห็นเพียงแท่นกระถางธูป รอบๆบริเวณนอกจากแท่นพระหมู่บูชา รอบตัวนอกนั้นดับมืด...
    ทั้งที่ห้องก็เปิดไฟสว่างตามปกติ


    สภาวะเข้าสู่ฌาณสมาธิดึงสงบวูบลงอย่างรวดเร็ว...อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
    (ใกล้เคียงกับการอั้นพลังสมาธิ...หลังการกรวดน้ำทอดผ้าป่า เรื่องเคยเล่าไว้)

    จมูกการสูดลมหายใจ..ปราศจากสูดลมหายใจเข้าออกโดยทันที
    ..เพราะความสงบละเอียดของกำลังฌานสมาธิ..ถาโถมเข้ามาเร็วมาก
    จนจับความรู้สึกของอากาศที่ เข้า-ออก สัมผัสจมูกไม่ได้
    (เอ๊ะ!นี่กูตายรึยังวะหนอ?)


    แต่ที่สัมผัสและรู้สึกคือ...ณ ที่ตรงนั้นไม่ใช่บรรยากาศแบบของโลกมนุษย์เรา

    มันเย็น กลิ่นหอมหวานซึ้ง ชื่นมื่นเข้าไปมาในจิต แต่เป็นการรับรู้บรรยากาศและกลิ่นเข้ามาในจิตไม่ใช่กลิ่นด้วยผัสสะวิญญาณของจมูกที่เคยคุ้นเคยทั้งชีวิต...
    และไม่ใช่จากกลิ่นของธูปหอมแน่ๆ!!!

    มันเวิ้งเงียบสงบ..หลุดมิติ หูดับ อับสายตา ถูกลดพื้นที่ให้แคบมา ลงเหลือแค่ใกล้ๆตัว..
    อากาศที่ไม่ต้องหายใจเลี้ยงสังขารแต่อันใดทั้งสิ้น
    แต่กลับ...หอมหวาน สดชื่นภายในจิต สัมผ้สได้ถึงของอณูอากาศบางเบาที่เลี้ยงขันธ์ทั้งห้า
    ...ให้มีพลังภายใน มากมายมหาศาล

    ถูกแช่ตรึงไว้ในบรรยกาสนั้นประมาณ 3 นาที
    แต่เหมือนเนิ่นนานบอกไม่ถูก..

    ในจิตให้รู้ว่า...

    "มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีพลังอำนาจอันบริสุทธิ์ พาไปทัวร์ไปสัมผัสบรรยากาศ
    ..อากาศทิพย์ของสิ่งที่เรียกกันว่าโลกทิพย์ ชั่วคราว...."


    หลังจากถูกตรึงไว้ในบรรยากาศทิพย์ชั่วคราว ประมาณ3 นาทีที่แทบขยับเขยื้อนตัวไม่ได้
    จิตจึงมาบอกว่า..นี่แหละที่เรียกกันว่า "อากาศทิพย์..กะมังหนอ"

    แม้ใครที่ปีหนึ่ง เพียงได้สัมผัสโอกาสเช่นนี้แม้หนึ่งครั้งเพียง 3 นาที..
    อากาศแห่งทิพย์นี้จะสามารถเลี้ยงอายุขัยของมนุษย์..
    ให้ยืดไปได้อีกนับสิบปีเลยทีเดียว



    จากนั้นจึงมีสติคืนมาตามปกติ..ไหว้พระสวดมนต์ปฏิบัติธรรมสมาธิต่อจน 6 ทุ่ม
    เพื่อมาตื่นอีกครั้ง ตี4 ...อาบน้ำปฏิบัติสมาธิ..

    ลุกขึ้นหุงข้าว เตรียมอาหารใส่บาตรวันพระในเช้าวันต่อมา
    ====

    จากนั้นมาร่วม 10 กว่าปี ปฏิบัติธรรมคร่ำเคร่งอย่างไร..
    ก็ไม่เคยหลุดหลงเข้าไปในบรรยากาศนั้นอีกเลย
    ทั้งหมดที่เล่ามา ท่านทั้งหลายเชื่อหรือเปล่า?...หึหึ

    โม้มันกันจริงเลย...พับเผื่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    **************************************
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อยาก(กิเลส)เป็นอย่างนั้นบ้างจังเลย แต่ไม่อยากต่ออายุค่ะ แค่นี้ก็ทุกข์จะแย่อยู่แล้ว


    มงคลที่26 ฟังธรรมตามกาล-กาเลนะ ธมมัสสวนัง เอตัมมังคลมุตตมัง
     
  8. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ท่านพี่ปลอดภัยและสบายดีนะคะ
     
  9. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    **************************
    แหมคุณน้องLindaเอ๊ย เรียก"พี่ต้อยใหญ่"จะดีกว่ามังคะ ทําให้จั้กกะจี้หัวใจเปล่าๆ พี่สบายดีค่ะ กําลังต่อสู้กับอากาศค่ะตอนนี้แค่ 2 C ํ

     
  11. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขออนุญาตคัดลอกข้อความสนทนาบางท่อนบางตอน

    ..ระหว่างtoplus99 กับผู้เฒ่าสายลม ป๋าระมิงค์ ในกระทู้
    คนขี้บ่น..ของป๋าเค๊า

    ในกระทู้นั้นมาเก็บไว้ก่อน เพราะช่วงนี้เราก็ชอบไปยั่วยุอารมณ์ท่านป๋าเขาเล่นบ่อยๆ
    http://palungjit.org/threads/คนขี้บ่น.513404/page-9

    ปะเดี๋ยวรายนั้น ท่านบ้าจี้ขึ้นมา ลบกระทู้ออกไปจริงๆ(ไว้ใจกันได้ซะที่ไหนล่ะ)เดี๋ยวเรื่องโม้ไว้จะหายไป..เสียดายของ


     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    บทความต่อเนื่องกัน.............

    ที่ไปที่มาของเรื่อง "อากาศทิพย์...ในจินตนาการ"ของคนเพ้อฝัน
    ======================

    ๘= ราหู
    ๙= เกตุ
    0= มฤตยู


    ดวงดาวทั้งสาม..พร้อมเรื่องราวผูกเป็นความเป็นมิตร ศัตรู กันของดาวอื่นๆ
    ตามตำราพระเวท พระธรรมของพราห์ม
    ไม่มีลักษณะเป็นดวงดาว หรือรูปธรรมชัดเจน มีลักษณะเป็นนามธรรม

    เป็นชื่อที่สมมุติเรียกจากอิทธิผลต่างที่เกิดจากแรงกระทำระหว่างดวงดาวต่างๆ
    ตามพลังที่เกิดจากการโคจรของดวงดาวทั้ง ๗ นับแต่ดวงอาทิตย์-จันทน์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์
    ดาวเสาร์ ในจักรวาลเรา

    ที่มีผลเป็นแรง
    ....หนุนส่งเสริม- ทำลายล้าง - ลักษณะการเคลื่อนที่ให้ผลเร็วช้า

    ++++++++

    เคยมีเรื่องของคนที่ชอบพูดเล่า..อ้างตำรา อ้างคำพระท่านว่ากันนักว่า
    เพราะท่านทั้งหลาย ท่านเจริญ อิทธิบาทสี่...นะซิ

    เราก็...."อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไรกันด้วยวะเฮ้ย..."
    ======
    ก๊อปปี้วางเพทเลยง่ายดี ตามนี้แหละ


    อิทธิบาท ๔จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    อิทธิบาท หรือ อิทธิบาท 4 เป็นศัพท์ในพุทธศาสนา หมายถึง ฐานหรือหนทางสู่ความสำเร็จ หรือ คุณเครื่องให้ถึงความสำเร็จ คุณเครื่องสำเร็จสมประสงค์ ทางแห่งความสำเร็จ คุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย มี ๔ ประการ คือ

    ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ และปรารถนาจะทำให้ ได้ผลดียิ่งๆขึ้นไป
    วิริยะ (ความเพียร) คือ ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระไม่ท้อถอย
    จิตตะ (ความคิด) คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป
    วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง เป็นต้น


    =====
    ดูทีรึ วุ่นสาละวนอ่านมาตั้งหลายตลบ ก็ยังโง่คงทน..มิเสื่อมคลายลงสักนิด
    คุ้นคิดไม่จบ..ว่าธรรมข้อนี้มีไว้ช่วยให้คนมันอายุยืนได้อย่างไรหนอ?

    จึงว่าวันหนึ่ง...ให้ตะลึงตึงโป๊ะ

    ว่ามันมีเรื่องของพลังโพธิธรรม โพธิญาณ พลังกรรมเก่า กรรมใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
    ความพอใจ ยินดี ตั้งใจมุ่งมั่น และเรียนรู้วิธีของการเอาสังขารร่างกายนี้อย่างฉลาดรู้เท่าทัน
    สามารถยกสังขารร่างกายนี้ให้จากเหนือพลังแรงดึงดูดและพลังทำลายตามกฏความเสื่อมของโลกที่มีอยู่ด้วย
    แต่ก็ต้องใช้พลังธาตุ4ในโลกนี้ มาเป็นส่วนยักย้ายส่งเสริมธาตุขันธ์เป็นสำคัญเหมือนกัน


    ส่วนการดำรงสังขารไว้ให้นานๆก็ต้องมีปฎิปทาชัดเจน..ว่าจะอยู่เพื่อเหตุใด
    คือการอยู่ไปแบบโง่ๆ...ไม่ทำสาระประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายให้เป็นที่พึ่งได้
    ธรรมชาติโลกเขาก็ไม่เก็บเอาโชว์ใครหรอก..ตายๆไปเหอะเอ็ง

    เพราะโลกเองก็บอกว่า"ข้าขี้เกียจตอบ..บรรดามนุษย์ขี้เหม็นทั้งหลาย
    ที่มันสงสัยว่า ทำไมให้หมอนี้มันไม่เห็นตายซะที... มันมีดีอะไรนักหนา"

    โลกพยายามไม่ฝืนฝืนกฏที่พิสูจน์ได้แบบที่เห็นกันชัดเจน

    ต้องรู้จักการรักษาร่างกาย จิตใจ รู้จักว่าสิ่งใดเป็นช่องทางของพิษ
    จากผัสสะ ภายนอกภายในทั้ง6 รวมเป็น12ช่องทาง
    และรู้จักการขับพิษ ทำลายพิษที่เข้าสู่ร่างกายออกไป

    อันมีด้วยทางการเสพอาหาร อากาศ สัมผัสความร้อน หนาวเย็น
    การก่อสารพิษสะสมในกายเนื้อ และด้วยพลังเจ้ากรรมนายเวรเบียดเบียน ฯลฯ
    อันเป็นเหตุให้เสื่อมถอยของอวัยวะทั้งหลาย...

    และที่สำคัญมากส่วนหนึ่งคือ

    ...ท่านมีอากาศทิพย์ให้เสพบำรุงขันธ์ (แล้วจะเล่าเรื่องสภาวะอากาศทิพย์แบบที่เคยเจอมาให้ฟังกัน) และสามารถนำพาเอา สังขารกายเนื้อหลบเข้าไปอยู่เขตโลกทิพย์อีกมิติหนึ่งเอาไว้หลบภัยจากพิษในชั้นบรรยากาศโลกนี้ได้ด้วยเป็นระยะๆ เพื่อเลี่ยงพลังการดูดทำลายขันธ์ของโลกในบางช่วงเวลา
    ตามพลังทำลายมากน้อยตามการเคลื่อนที่ของดวงดางอื่นๆในของจักรวาลเราเองด้วย

    เพราะลัคนาการเกิดมาของมนุษย์ทุกรูปนาม
    ทุกปฐมวิญญาณล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับพลังของ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    พลังงานเหล่านี้ล้วนแต่มีผลกระทบต่ออารมณ์ ร่างกาย จิตใจ และความเสื่อมความเจริญของมนุษย์และสัตว์ รวมถึงธาตุอื่นๆในโลกตามกาลเวลาด้วยกันทั้งสิ้น


    ดังนั้นความเสื่อมความเจริญของสังขารร่างกายเรา
    เกี่ยวข้องกับการเดินทางของดวงดาวต่างๆที่โคจรอยู่ในจักรวาลนี้
    ด้วยเพราะโลกเองก็มิใช่หมุนเคลื่อนที่ได้โดยโลกเอง
    ดาวดวงอื่นๆก็มีอิทธิพลเสริม-ทำลายกันในตัวในบางช่วงเวลา

    ที่แตกต่างกันก็โดยกำเนิดมาด้วย เวลา วันเดือน ปีเกิด ที่ต่างกัน สถานที่ที่ต่างกัน
    พลังกรรมดีเลวของผู้ให้กำเนิดพ่อ-แม่ที่ต่างกัน กรรมเก่าบุพกรรมเก่า
    ก็มีผลให้ได้พลังงานชีวิตที่เกิดมา มีผลต่างกัน
    ไม่มีทางซ้ำกันได้โดยเด็ดขาดในแต่ละบุคคลถึงจะเกิดมาเป็นคู่แฝดกันก็ตามเหอะ

    แต่ที่พระพุทธเจ้าท่านไม่เน้นเป็นสาระการสอนเผยแพร่ธรรมข้อนี้มากนัก

    ก็คง..เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไปจะมาพิสูจน์ให้เข้าใจได้โดยง่าย
    จะมาสอนให้เสียเวลาในสาระธรรมอื่นๆทำไม

    ธรรม(ทำ)เอง..สอนเอง รู้เอง เป็นปัจจัตตังของใครของมันดีกว่า

    ธรรมความรู้เพื่อการรักษาขันธ์ 5ให้ยืนนาน สิ่งเหล่านี้จะเรียนรู้เองได้ก็หาไม่
    แต่ต้องมีพลังงานวิญญาณที่เข้มแข็งจากองค์คุรุสำคัญ ที่สำเร็จศาสตร์ดำรงขันธ์
    ที่เคยเป็นองค์อุปถัมภ์วาสนาเกี่ยวสัมพันธ์กันมา ช่วยส่งเสริมแนะนำสลับหนุนส่งกันอย่างต่อเนื่องด้วย

    บางครั้งมีการผลัดสลับกัน ช่วยเสริมหนุนกันทำหน้าที่ระหว่างองค์คุรุกับศิษย์ ที่ล้วนมีเส้นทางเพื่อโพธิญาณร่วมกัน
    ในช่วงจังหวะ ใครพลังอ่อนก็เสริม ใครเข็มแข็งก็นำทางต่อไป เช่นนี้หลายภพชาตินะเอง...

    ไม่รู้จะว่าไงดี..มั่วๆตามนี้ไปก่อนล่ะกัน ว่างๆจะลองเรียบเรียงใหม่อีกที
     
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน...

    ขอให้ทุกท่านมีความสุข..มีปฏิทินใหม่ใช้กันทุกคนนะครับ

    เรียกกระทู้นี้ขึ้นใหม่
    ...เพราะเมื่อเล่าในกระทู้ "เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...ตอน ฆราวาสธรรมสหธรรมิกหลวงตามหาบัว..."จบเรื่องแล้ว

    จะย้ายมาเขียนเล่าในกระทู้ "ตามครรลองธุลีดิน"แทน
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    Happy Valentine Day
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=f1m5T9Hnt-I]✿❤✿ Just For You ! ✿❤✿ - YouTube[/ame]

    ็Happy Valentine days แด่ครอบครัว"toplus99" และน้องๆทุกท่านค่ะ(f)
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    *******************************************
    ขณะที่รอท่านจขกทอยู่เราก็คุยกันไปเรื่อยๆค่ะ
    คลายเครียดค่ะ

     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    Funny Tombstone Sayings and Epitaphs
    35 Funny tombstone sayings:

    **Sir John Strange; Here lies an honest lawyer, And that is Strange.
    ~ Tombstone in England

    **I was somebody. Who, is no business Of yours.

    ~Vermont tombstone

    **


    Here lies Lester Moore; Four slugs from a .44; No Les No More.

    ~ Tombstone Arizona

    John Brown is filling his last cavity.

    ~Dentist's Tombstone

    **He was young

    He was fair
    But the Injuns
    Raised his hair
    ~Arizona Tombstone

    **




    I told you that I was sick!

    ~Georgia Cemetary

    Here lies the body of Jonathan Blake; Stepped on the gas instead of the brake.

    ~ Pennsylvania Tombstone

    Bill Blake

    Was hanged by mistake.
    ~Colorado Tombstone

    Remember man, as you walk by, As you are now, so once was I, As I am now, so shall you be, Remember this and follow me.

    ~Tombstone in England

    To follow you I'll not consent, Until I know which way you went.

    ~Written on the tombstone in reply to one above

    Here lays Butch.

    We planted him raw.
    He was quick on the trigger
    But slow on the draw.
    ~Arizona Tombstone

    The children of Israel wanted bread, And the Lord sent them manna, Old clerk Wallace wanted a wife, And the Devil sent him Anna.

    ~England Tombstone

    Under the sod and under the trees, Lies the body of Jonathan Pease. He is not here, there's only the pod; Pease shelled out and went to God.

    ~Massachusetts Tombstone

    Here lies the body of Arkansas Jim.

    We made the mistake, But the joke's on him.
    ~Kansas Tombstone

    Gone away, Owin' more

    than he could pay.
    ~ England

    **To save your world you asked this man to die:

    Would this man, could he see you now, ask why?
    ~Unknown Soldier

    **She always said her feet were killing her, but nobody believed her.

    ~Virginia tombstone

    **Here lies the body of

    Thomas Kemp.
    Who lived by wool
    and died by hemp.
    ~Irland Tombstone

    **For God And His Country He Raised Our Flag In Battle And Showed A Measure Of His Pride At A Place Called "Iwo Jima" Where Courage Never Died

    ~A soldiers memorial

    **Here lies the body

    Of Margaret Bent
    She kicked up her heels
    And away she went
    ~England Tombstone

    **If I should die, think only this of me:

    That there's some corner of a foreign
    field that is for ever England
    ~Tombstone in England
    tombstone sayings

    **He got a fish-bone in his throat

    and then he sang an angel note.
    ~New York Tombstone

    **Here lies the body of our Anna

    Done to death by a banana
    It wasn't the fruit that laid her low
    But the skin of the thing that made her go.
    ~Unknown Tombstone

    **Captain Thomas Coffin

    Died 1842, age 50 years.
    He's done a-catching cod
    And gone to meet his God.
    ~A fisherman’s tombstone

    **Mary Weary, Housewife

    Dere Friends I am going
    Where washing ain't done
    Or cooking or sewing:
    Don't mourn for me now
    Or weep for me never:
    For I go to do nothing
    Forever and ever!
    ~House wife tombstone

    **Here lies the father of 29.

    He would have had more
    But he didn't have time.
    ~Georga Tombstone

    **Here lies Johnny Yeast

    Pardon me For not rising.
    ~New Mexico tombstone

    **Here beneath this stone we lie

    Back to back my wife and I
    And when the angels trump shall trill
    If she gets up then I'll lie still!
    ~Scotland Tombstone

    **Here lies

    an Atheist
    All dressed up
    And no place to go.
    ~Maryland Tombstone

    **Beneath this stone a lump of clay

    Lies Uncle Peter Dan'els
    Who early in the month of May
    Took off his winter flannels.
    ~Scotland Tombstone

    **Reader, I've left this world, in which

    I had a world to do;
    Sweating and fretting to get rich:
    Just such a fool as you.
    ~Carolina Tombstone

    **Once I wasn't

    Then I was
    Now I ain't again.
    ~Ohio Tombstone



    Ope'd my eyes, took a peep;

    Didn't like it, went to sleep.
    It is so soon that I am done for
    I wonder what I was begun for.
    ~Wisconsin Tombstone

    I came into this world

    Without my consent
    And left in the same manner.
    ~Tennessee Tombstone

    SO MUCH TO DO, SO LITTLE DONE

    ~Unknown Tombstone
    *****************************
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโปรดพุทธมารดา และเหล่าเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพียงครั้งเดียว
    (นิยมสวดในงานศพ มี ๗ คัมภีร์")
    บทสวดนี้มีคำอธิบายเพิ่มเติมเป็นภาษาไทยในหนังสือ มนต์พิธีชาวพุทธ แปล ของคณาจารย์สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง ไว้ว่า “พระอภิธรรมนี้ถือเป็นหลักธรรมชั้นสูงในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโปรดพุทธมารดา และเหล่าเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพียงครั้งเดียว
    ๑.คัมภีร์... พระสังคิณี

    กุสะลา ธัมมา, พระธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล, ให้ผลเป็นความสุข
    อะกุสะลา ธัมมา, ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศล, ให้ผลเป็นความทุกข์,
    อัพ๎ยากะตา ธัมมา, ธรรมทั้งหลายที่เป็นอัพยากฤต, เป็นจิตกลาง ๆ อยู่,
    กะตะเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล
    ยัส๎ะมิง สะมะเย, ในสมัยใด,
    กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง โหติโสมะนัสสะสะหะคะตัง ญาณะสัมปะยุตตัง, กามาวจรกุศลจิตที่ร่วมด้วยโสมนัส, คือความยินดี, ประกอบด้วยญาน คือ ปัญญาเกิดขึ้น ปรารภอารมณ์ใดๆ,
    รูปารัมมะนัง วา, จะเป็นรูปารมณ์, คือยินดีในรูปเป็นอารมณ์ก็ดี,
    สัททารัมมะนัง วา, จะเป็นสัททารมณ์, คือยินดีในเสียงเป็นอารมณ์ก็ดี,
    คันธารัมมะนัง วา, จะเป็นคันธารมณ์, คือยินดีในกลิ่นเป็นอารมณ์ก็ดี,
    ระสารัมมะนัง วา, จะเป็นรสารมณ์, คือยินดีในรสเป็นอารมณ์ก็ดี,
    โผฏฐัพพารัมมะนัง วา, จะเป็นโผฏฐัพพารมณ์, คือยินดีในสิ่งที่กระทบถูกต้องกายเป็นอารมณ์ก็ดี,
    ธัมมารัมมะนัง วา ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ, จะเป็นธรรมารมณ์, คือยินดีในธรรมเป็นอารมณ์ก็ดี,
    ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ, อะวิกเขโป โหติ, เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย, อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา อะรูปิโน ธัมมา, ในสมัยนั้นผัสสะและความไม่ฟุ้งซ่านย่อมมี, อีกอย่างหนึ่ง ในสมัยนั้น ธรรมเหล่าใด, แม้อื่นมีอยู่เป็นธรรมที่ไม่มีรูป, อาศัยกันและกันเกิดขึ้น,
    อิเม ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล, ให้ผลเป็นความสุข

    ๒.คัมภีร์... พระวิภังค์

    ปัญจักขันธา, ขันธ์ห้าคือส่วนประกอบหน้าอย่างที่รวมเข้าเป็นชีวิต ได้แก่,
    รูปักขันโธ, รูปขันธ์คือส่วนที่เป็นรูปภายนอกและภายในคือร่างกายนี้, ประกอบด้วยธาตุ ๔,
    เวทะนากขันโธ, เวทนาขันธ์คือความรู้สึกเสวยอารมณ์ ที่เป็นสุข เป็นทุกข์ หรือเฉย ๆ,
    สัญญากขันโธ, สัญญาขันธ์คือความจำได้หมายรู้ในอารมณ์ ๖,
    สังขารักขันโธ, สังขารขันธ์คือความคิดที่ปรุงแต่งจิตให้ดีหรือชั่วหรือเป็นกลาง ๆ,
    วิญญาณักขันโธ, วิญญาณขันธ์คือความรู้แจ้งในอารมณ์ ทางอายตนะทั้ง ๖,
    ตัตถะ กะตะโม รูปักขันโธ, บรรดาขันธ์ทั้งหมดรูปขันธ์เป็นอย่างไร,
    ยังกิญจิ รูปัง, รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง,
    อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง, ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน,
    อัชฌัตตัง วา, ภายในก็ตาม,
    พะหิทธา วา, ภายนอกก็ตาม,
    โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา, หยาบก็ตาม ละเอียดก็ตาม
    หีนัง วา ปะณีตัง วา, เลวก็ตาม ประณีตก็ตาม
    ยัง ทูเร วา สันติเก วา, อยู่ไกลก็ตาม อยู่ใกล้ก็ตาม,
    ตะเทกัชฌัง อะภิสัญญูหิต๎วา อะภิสังขิปิต๎วา, ย่นกล่าวร่วมกัน,
    อะยัง วุจจะติ รูปักขันโธ, เรียกว่ารูปขันธ์

    ๓.คัมภีร์... พระธาตุกถา

    สังคะโห อะสังคะโห, การสงเคราะห์ การไม่สงเคราะห์ คือ,
    สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง, สิ่งที่ไม่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์แล้ว,
    อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง, สิ่งที่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้,
    สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง, สิ่งที่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ได้,
    อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง, สิ่งที่ไม่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้,
    สัมปะโยโค วิปปะโยโค, การอยู่ด้วยกัน การพลัดพรากกัน คือ,
    สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง, การพลัดพรากจากสิ่งที่อยู่ด้วยกัน
    วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง, การอยู่ร่วมกับสิ่งที่พลัดพรากไป
    อะสังคะหิตัง, จัดเป็นสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้

    ๔.คัมภีร์... พระปุคคลปัญญัตติ

    ฉะปัญญัตติโย, บัญญัติ ๖ ประการ, อันบัณฑิตผู้รู้พึงบัญญัติขึ้น คือ,
    ขันธะปัญญัตติ, การบัญญัติธรรมที่เป็นหมวดหมู่กันเรียกว่าขันธ์ มี ๕,
    อายะตะนะปัญญัตติ, การบัญญัติธรรมอันเป็นบ่อเกิด (แห่งทุกข์และไม่ทุกข์), เรียกว่าอายตนะ มี ๑๒,
    ธาตุปัญญัตติ, การบัญญัติธรรมที่ทรงตัวอยู่เรียกว่าธาตุ มี ๑๘,
    สัจจะปัญญัตติ, การบัญญัติธรรมที่เป็นของจริงเรียกว่าสัจจะ มี ๔, คือ อริยสัจจ์ ๔,
    อินท๎ริยะปัญญัตติ, การบัญญัติธรรมที่เป็นใหญ่เรียกว่าอินทรีย์ มี ๒๒,
    ปุคคะละปัญญัตติ, การบัญญัติจำพวกบุคคลของบุคคลทั้งหลาย,
    กิตตาวะตา ปุคคะลานัง ปุคคะละปัญญัตติ, บุคคลบัญญัติของบุคคลมีเท่าไร,
    สะมะยะวิมุตโต อะสะมะยะวิมุตโต, ผู้พ้นในกาลบางคราว, ผู้พ้นอย่างเด็ดขาด,
    กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม, ผู้มีธรรมที่กำเริบได้, ผู้มีธรรมที่กำเริบไม่ได้,
    ปะริหานะธัมโม อะปะริหานะธัมโม, ผู้มีธรรมที่เสื่อมได้, ผู้มีธรรมที่เสื่อมไม่ได้,
    เจตะนาภัพโพ อะนุรักขะนาภัพโพ, ผู้มีธรรมที่ควรแก่เจตนา, ผู้มีธรรมที่ควรแก่การรักษา,
    ปุถุชชะโน โคต๎ระภู, ผู้เป็นปุถุชน, ผู้คร่อมโคตร,
    ภะยูปะระโต อะภะยูปะระโต, ผู้เว้นชั่วเพราะกลัว, ผู้เว้นชั่วไม่ใช่เพราะกลัว,
    ภัพพาคะมะโน อะภัพพาคะมะโน, ผู้ควรแก่มรรคผลนิพพาน, ผู้ไม่ควรแก่มรรคผลนิพพาน,
    นิยะโต อะนิยะโต, ผู้เที่ยง, ผู้ไม่เที่ยง,
    ปะฏิปันนะโก ผะเลฏฐิโต, ผู้ปฏิบัติอริยมรรค, ผู้ตั้งอยู่ในอริยผล,
    อะระหา อะระหัตตายะ ปะฏิปันโน, ผู้เป็นพระอรหันต์, ผู้ปฏิบัติเพื่อเป็นพระอรหันต์

    ๕.คัมภีร์... พระกถาวัตถุ

    ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ, ค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือความหมายอันแท้จริงหรือ ?,
    อามันตา, ถูกแล้ว,
    โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ, ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ, ปรมัตถ์ คือความหมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, ค้นหาบุคคลนั้นไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือความหมายอันแท้จริงอันนั้นหรือ ?
    นะ เหวัง วัตตัพเพ, ท่านไม่ควรกล่าวอย่างนั้น,
    อาชานาหิ นิคคะหัง หัญจิ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ, สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนะ เตนะ วะตะ เร วัตตัพเพ, โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ มิจฉา, ท่านจงรู้นิคหะ (การข่ม ปราม) เถิด, ถ้าท่านค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท้จริงแล้ว, ท่านก็ควรกล่าวด้วยเหตุนั้นว่าปรมัตถ์, คือความหมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, เราค้นหาบุคคลนั้นไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท้จริงนั้น, คำตอบของท่านที่ว่าปรมัตถ์ คือความหมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, เราค้นหาบุคคลนั้นไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท้จริงอันนั้นจึงผิด,

    ๖.คัมภีร์... พระยมก

    เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็นกุศล,
    สัพเพ เต กุสะละมูลา, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดมีกุศลเป็นมูล,
    เย วา ปะนะ กุสะละมูลา, อีกอย่างหนึ่งธรรมเหล่าใด มีกุศลเป็นมูล,
    สัพเพ เต ธัมมา กุสะลา, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดก็เป็นกุศล,
    เย เกจิ กุสะลา ธัมมา, ธรรมบางเหล่าเป็นกุศล,
    สัพเพ เต กะสุละมูเลนะ เอกะมูลา, ธรรมเหล่านั้น ทั้งหมดมีมูลอันเดียวกับธรรมที่มีกุศลเป็นมูล,
    เย วา ปะนะ กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา, อีกอย่างหนึ่งธรรมเหล่าใดมีมูลอันเดียวกับธรรมที่มีกุศล เป็นมูล,
    สัพเพ เต ธัมมากุสะลา, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดเป็นกุศล

    ๗.คัมภีร์... พระมหาปัฏฐาน

    เหตุปัจจะโย, ธรรมที่มีเหตุเป็นปัจจัย,
    อารัมมะณะปัจจะโย, ธรรมที่มีอารมณ์เป็นปัจจัย,
    อะธิปะติปัจจะโย, ธรรมที่มีอธิบดีเป็นปัจจัย,
    อะนันตะระปัจจะโย, ธรรมที่มีปัจจัยไม่มีอะไรคั่นในระหว่าง,
    สะมะนันตะระปัจจะโย, ธรรมที่มีปัจจัยมีที่สุดเสมอกัน,
    สะหะชาตะปัจจะโย, ธรรมที่เกิดพร้อมกับปัจจัย,
    อัญญะมัญญะปัจจะโย, ธรรมที่เป็นปัจจัยของกันและกัน,
    นิสสะยะปัจจะโย, ธรรมที่มีนิสัยเป็นปัจจัย,
    อุปะนิสสะยะปัจจะโย, ธรรมที่มีอุปนิสัยเป็นปัจจัย,
    ปุเรชาตะปัจจะโย, ธรรมที่มีการเกิดก่อนเป็นปัจจัย,
    ปัจฉาชาตะปัจจะโย, ธรรมที่มีการเกิดภายหลังเป็นปัจจัย,
    อาเสวะนะปัจจะโย, ธรรมที่มีการเสพเป็นปัจจัย,
    กัมมะปัจจะโย, ธรรมที่มีกรรมเป็นปัจจัย,
    วิปากะปัจจะโย, ธรรมที่มีวิบากเป็นปัจจัย,
    อาหาระปัจจะโย, ธรรมที่มีอาหารเป็นปัจจัย,
    อินท๎ริยะปัจจะโย, ธรรมที่มีอินทรีย์เป็นปัจจัย,
    ฌานะปัจจะโย, ธรรมที่มีฌานเป็นปัจจัย,
    มัคคะปัจจะโย, ธรรมที่มีมรรคเป็นปัจจัย,
    สัมปะยุตตะปัจจะโย, ธรรมที่มีการประกอบเป็นปัจจัย,
    วิปปะยุตตะปัจจะโย, ธรรมที่ไม่มีการประกอบเป็นปัจจัย,
    อัตถิปัจจะโย, ธรรมที่มีปัจจัย,
    นัตถิปัจจะโย, ธรรมที่ไม่มีปัจจัย,
    วิคะตะปัจจะโย, ธรรมที่มีการอยู่ปราศจากเป็นปัจจัย,
    อะวิคะตะปัจจะโย, ธรรมที่มีการอยู่ไม่ปราศจากเป็นปัจจัย

    ****************************************

    ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2014
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    แม่ต้อย Supatorn
    ก็นั่งเล่น นอนเล่น ภาวนาบำเพ็ญเล่นๆดูจิตดูใจไปตามเรื่องก่อนล่ะกัน
    ว่างๆ อารมณ์ชิวๆหนูจะมาเล่นด้วยใหม่
     
  19. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ป๋า toplus99 กลัวคัมภีร์ แม่ต้อย หรือเปล่าเนี่ย....
    ส่วนผมน่ะกั๊วกัวคัมภีร์...
    เพราะผมเป็นพวกขี้สงสัย...คือว่าขี้ไปยังคิดไปสงสัยไป...จนกระทั่งไปสงสัยว่าแล้วเราจะสงสัยไปทำไม...แต่มันก็สงสัยอยู่ดีอีกนั่นแหละ...
    เลยโดนแม่ด่าเอาว่า..."รู้มากก็ยากนาน...รู้น้อยพลอยรำคาญ..."
    แล้วก็ไม่อธิบายความหมายต่อหรอกนะ...
    คนอื่นเขาด่าทีนี่ด่าเช็ดเลย...
    แม่ผมด่าล่ะไม่มีเช็ดหรอก...ให้ไปเช็ดกันเอาเอง... T.T
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    **************************************
    บ้านนี้อบอุ่นจริงหนอ ขอบคุณน้องๆที่ทั้งโทรและส่งPM มาถามเรื่องพายุหิมะ ยังพอเอาอยู่ค่ะ ตอนนี้-13 C ํ;aa5แค่นั้นเอง ยังรออยู่ตามเคยค่ะ ธรรมใจไปพลางๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...