ด่วน!กฐินสามัคคี ปฏิสังขรณ์องค์ พระอัฏฐารสยืนคู่ เดียวในโลก อายุ 700 กว่าปี

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย por410, 22 มีนาคม 2011.

  1. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  2. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: #6c3800 2px solid; BORDER-LEFT: #6c3800 2px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-TOP: #6c3800 2px solid; BORDER-RIGHT: #6c3800 2px solid; PADDING-TOP: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 jQuery1307769040022="13"><TBODY jQuery1307769040022="12"><TR jQuery1307769040022="11"><TD class=content colSpan=2 jQuery1307769040022="10" sizset="5" sizcache="0">"พระโพธิสัตว์" อสงไขยของการบำเพ็ญเพียร [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=content vAlign=top width=650 colSpan=2 align=middle>

    พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลที่ปรารถนาเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต แบ่งเป็น ๒ ประเภท
    ๑. พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมาเลย เรียกว่า "อนิยตะโพธิสัตว์" ความหมายคือ ยังไม่แน่นอนว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า เพราะอาจจะเลิกล้มความปรารถนาเมื่อไรก็ได้
    ๒. พระโพธิสัตว์ที่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมาแล้ว เรียกว่า "นิยตะโพธิสัตว์" ตามความหมายคือจะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นนอน เพราะถ้าถึงนิพพานต้องดำรงค์ฐานะเป็นพระพุทธเจ้าอย่างเดียว
    แต่ถ้าบารมีและเวลายังไม่สมบูรณ์ แม้ว่าจะพยายามปฏิบัติอย่างยิ่งยวดบังเกิดปัญญาอย่างเยียมยอด ก็ไม่สามารถถึงนิพพานก่อนได้
    แม้จะทุกข์ท้อแท้ จนคิดว่าเลิกที่จะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว แต่แล้วในที่สุดมหากุศลที่เป็นอนุสัย ก็จะพุ่งกระจายขึ้นมาให้ตั้งมั่นและบำเพ็ญบารมีกันต่อ จนกว่าบารมีและเวลาสมบูรณ์
    พระพุทธเจ้า คือผู้ที่เป็นศาสดาเอกในพุทธศาสนา แบ่งพระพุทธเจ้าออกเป็น ๓ ประเภท
    ๑.ปัญญาพุทธเจ้า
    คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้ "ปัญญา" เป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือ
    ปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา ๗ อสงไขย หลังจากนั้นออกปากกล่าววาจาต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา ๙ อสงไขย รวมเป็น ๑๖ อสงไขย และได้เป็นพระนิยตะโพธิสัตว์ ได้รับพุทธพยากรณ์ ครั้งแรก เหลืออีก ๔ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่ง และเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน
    ๒. ศรัทธาพุทธเจ้า
    คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้ "ศรัทธา" เป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด ๔๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือ
    ปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา ๑๔ อสงไขย หลังจากนั้นออกปากกล่าววาจาต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา ๑๘ อสงไขย รวมเป็น ๓๒ อสงไขย และได้เป็นพระนิยตะโพธิสัตว์ ได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรก เหลืออีก ๘ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งและเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน
    ๓. วิริยะพุทธเจ้า
    คือพระพุทธเจ้าที่สร้างบารมีโดยใช้ "วิริยะ" เป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากับล์ คือ
    ปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา ๒๘ อสงไขย หลังจากนั้นออกปากกล่าววาจาต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา ๓๖ อสงไขย รวมเป็น ๖๔ อสงไขย และได้เป็นพระนิยตะโพธิสัตว์ ได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรก เหลืออีก ๑๖ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งและเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน
    วิเคราะห์ผลบุญและบารมีของพระโพธิสัตว์ ที่มีผลในพุทธภูมิของท่านเองเมื่อท่านตรัสรู้ การวิเคราะห์ต้องแยกเรื่องบารมี กับผลบุญออกจากกัน เพื่อทำให้เข้าใจง่ายขึ้น บารมีนั้นสามารถอธิบายได้ว่า มีผลต่อการเป็นพระพุทธภูมิของท่านตั้งแต่เริ่มปรารถนาแล้ว ถึงแม้พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่แน่นอนเกิดล้มเลิกความตั้งใจ ปรารถนาเป็นพระสาวกบารมีก็ยังส่งผลให้ท่านมีคุณสมบัติบางประการที่อำนวยประโยชน์ต่อผู้อื่นอยู่ โดยไม่ขาดตกบกพร่อง แต่คุณประโยชน์ต่อสรรพสัตว์อันยิ่งใหญ่หาได้เกิดขึ้นในอนาคต
    <HR> ผลของบุญของพระโพธิสัตว์สามารถอธิบายแยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
    ๑. ผลบุญขณะที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาอยู่ในใจ (ไม่ได้กล่าววาจาปรารถนาต่อพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า แต่อาจกล่าวกับบุคคลทั่วไป)
    ซึ่งบุญบารมียังอ่อนอยู่มากและยังห่างไกลมาก จึงไม่สามารถส่งไปถึงสมัยที่ท่านตรัสรู้ เพราะผลบุญนั้นจะส่งผลในระหว่างทางหมดเสียก่อน

    ๒. ผลบุญขณะที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่กล่าววาจาปรารถนา ต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้า(บารมีที่ปรารถนาอยู่ในใจ สมบูรณ์แล้วจึงจะสามารถกล่าววาจาออกมาต่อพระพักตร์ของพระพุทธองค์ได้) ซึ่งเป็นบุญบารมีอย่างกลาง และยังไกลจากสมัยที่จะเป็นพระพุทธเจ้าอยู่ และจะล้มเลิกความตั้งใจเมื่อไรก็ได้
    ดังนั้นจึงไม่ปรากฏชัดเจนในพุทธภูมิที่จะบังเกิดหรือไม่เกิดในอนาคต ดังนั้นผลบุญที่ทำก็จะอำนวยผลในช่วงเวลานั้นเสียมากกว่า ที่จะส่งเก็บสะสมในพุทธภูมิ

    ๓. ผลบุญที่พระโพธิสัตว์ได้รับพยากรณ์แน่นอนแล้ว ซึ่งเป็นบุญที่ทำอย่างยิ่งผลบุญเหล่านั้นจะส่งผลในปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้พอประมาณ เพื่อให้ทรงสร้างบารมีต่อ แต่ผลบุญส่วนมากจะไปปรากฏในพุทธภูมิของท่านเสียมากกว่า
    ดังนั้นพระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้แน่นอน ท่านจึงมีอุปนิสัยในการสร้างบุญบารมีอย่างต่อเนื่อง และถ้าท่านได้สร้างบุญบารมีกับพระพุทธเจ้ามากเท่าไร หรือพระพุทธศาสนาก่อนมากเท่าไร ผลบุญบารมีที่จะปรากฏในสมัยพุทธภูมิของท่านมากขึ้นเท่านั้น ถึงระยะเวลาจะห่างไกลถึง ๔ อสงไขย หรือ ๘ อสงไขย หรือ ๑๖ อสงไขย ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะผลบุญไม่ส่งก่อนเวลาเป็นแน่นอน จะรออยู่ในอนาคตสมัยพุทธภูมิของท่าน และพระนิยตโพธิสัตว์มีแต่จะสร้างบุญบารมีเพิ่มมากขึ้นไปเสียอีก ตามที่สามารถหาโอกาสที่อำนวยให้ได้
    จึงจะเห็นว่าพระนิยตโพธิสัตว์ไม่ค่อยจะอยู่เสวยสุขบนสวรรค์นานนัก ต้องมีใจปรารถนาลงมาเกิดบนมนุษยโลกอยู่เป็นประจำ และถ้านิยติโพธิสัตว์ได้สร้างบุญบารมีกับพระพุทธเจ้า หรือกับพระพุทธศาสนามากเท่าไร พุทธภูมิที่ท่านจะตรัสรู้ก็จะมีความบริบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น
    ดังที่ได้มีข้อมูลการเปรีบเทียบพุทธภูมิของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ในพระไตรปิฏก แต่การที่เราท่านทั้งหลายจะตำหนิว่า พระพุทธเจ้าองค์นี้สร้างบารมีบกพร่องไม่ดีกว่าพระพุทธเจ้าองค์โน้นในอดีต หรือในอนาคตนั้น ย่อมไม่ได้เป็นอันขาด เนื่องจากไม่ใช่ความผิดของพระองค์ เป็นเพราะโอกาสที่จะอำนวยให้พระองค์สร้างบารมี เมื่อตอนเป็นนิยตโพธิสัตว์ มีไม่เท่าเทียมกันตามกฎกระแสแห่งกรรม และบุญบารมีที่เด่นๆ ก็ต่างต่างกัน หาได้เหมือนกันทั้งหมดไม่ ที่ทรงมีเหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อยนิด คือสัมมาสัมโพธิญาณ และธรรมที่พระองค์ทรงสั่งสอน
    พระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรก(ผมยังไม่มั่นใจ เพราะมีได้หลายกรณี) ต้องสร้างบารมีต่อไปอีก ถึง ๒ อสงไขย ก่อนได้รับพุทธพยากรณ์ อาจจะสร้างบารมีมาหลายอสงไขยมาก่อนแล้วก็ได้
    พระอัครสาวกเบื้องขวา หรือเบื้องซ้าย เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์ เป็นครั้งแรก ก็ต้องสร้างบารมีต่อไปอีก ถึง ๑ อสงไขยเศษแสนมหากัป
    แต่ก่อนที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกนั้นไม่รู้ว่าท่านสร้างบารมีมายาวนานเท่าไร อาจเป็นหลายอสงไขยมาก่อนแล้วก็ได้

    พระอเสติ ที่เป็นเอตทัคคะ หรือพระมหาสาวก เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรก ต้องสร้างบารมีต่ออีก ๑ แสนมหากัป เป็นอย่างน้อย แต่ก่อนหน้านั้นท่านอาจสร้างบารมีมานานมากแล้วก็ได้ ดังมีในพระไตรปิฏก บางท่านสร้างบารมีนานถึง ๔ อสงไขยเศษแสนมหากัป บางท่านสร้างบารมีนานถึง ๓ อสงไขย บางท่านสร้างบารมีถึง ๒ อสงไขย บางท่านสร้างบารมี ๑ อสงไขย แต่อย่างน้อยสุด หนึ่งแสนมหากัป สามารถหาอ่านได้ในพระสุตันตะปิฏกใน ๒ เล่มสุดท้าย แล้วลองหาข้อมูลดู

    (คัดลอกจากเวบไซท์)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  5. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=text_brown12_bold bgColor=#ece8dc height=30 align=middle>จริยธรรมของพระโพธิสัตว์ ๑๐ ประการ
    </TD><TD width=60> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=text_brown12_bold> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=text_brown12_bold vAlign=top>
    จริยธรรมของพระโพธิสัตว์ ๑๐ ประการ

    ๑. พระโพธิสัตว์ไม่ปรารถนาเลยว่าร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
    ( มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นธรรมดา )
    ๒. พระโพธิสัตว์ครองชีพโดยไม่ปรารถนาว่าจะไม่มีภยันตราย
    ( มีภัยอันตรายเป็นธรรมดา )
    ๓. พระโพธิสัตว์ไม่ปรารถนาเลยว่าจะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิต ให้บริสุทธิ์ ( ย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา )
    ๔. พระโพธิสัตว์ไม่ปรารถนาเลยว่าจะไม่มีมารขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ
    ( จะต้องมีมารมาขัดขวางการปฏิบัติโพธิจิตเป็นธรรมดา )
    ๕. พระโพธิสัตว์คิดว่าจะทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะ ให้สำเร็จผลเร็ว ( ปล่อยวางเรื่องกาลเวลา ทำงานเพื่องาน )
    ๖. พระโพธิสัตว์คบเพื่อนโดยไม่ปรารถนาว่าจะได้ผลประโยชน์จากเพื่อน
    ( รักผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ )
    ๗. พระโพธิสัตว์ไม่ปรารถนาเลยว่าจะให้คนอื่นตามใจตนเองเสมอไป ทุกอย่าง ( ไม่มีความเห็นแก่ตัว )
    ๘. พระโพธิสัตว์ทำความดีกับคนอื่น ไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน
    ( ต้องการให้คนอื่นพ้นทุกข์ )
    ๙. พระโพธิสัตว์เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาจะมีหุ้นส่วนด้วย
    (ไม่ปรารถนาในลาภและสรรเสริญ)
    ๑๐. พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียน นินทาแล้ว ไม่ปรารถนาจะได้โต้ตอบหรือฟ้องร้อง
    ( การใส่ร้ายป้ายสี ติเตียน นินทา เป็นธรรมดาของโลก )

    จริยธรรมทั้ง ๑๐ ประการนี้ เป็นการปฏิบัติธรรมชั้นสูงของพระโพธิสัตว์ทุก พระองค์ เรียกว่า มหาอุปสรรค ซึ่งถ้าท่านผู้ปฏิบัติธรรม นำมาท่องทุกวัน จะช่วยขัดเกลาจิตใจให้ดีงาม ช่วยให้ง่ายต่อการบรรลุมรรคผลนิพพาน


    <HR>​

    คาถาเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์
    หลวงพ่อชุมพล พลปญฺโญ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๘

    ตั้งเครื่องสักการะขึ้นมา (คำว่าเครื่องสักการะนั้นอาจเป็นธูปเทียน หรือดอกไม้หรือพวงมาลัยหรือน้ำหนึ่งแก้วก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรเลยให้เอาดวงจิต ที่อ่อนน้อมเป็นเครื่องสักการะ ขอเพียงให้ทำด้วยความเคารพ เอาใจเป็นใหญ่) จากนั้นอธิษฐานดังนี้

    เครื่องสักการะนี้ ข้าพเจ้าขอประดิษฐาน เพื่อถวายเป็นเกียรติแก่ พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์และบริวาร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์และบริวาร พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์และบริวาร (อาจเพิ่มพระโพธิสัตว์ที่เราเคารพเป็นพิเศษไปอีกได้ตามสะดวกและตามศรัทธา เช่นหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้และบริวาร หลวงพ่อปานวัดบางนมโคและบริวาร ครูบาศรีวิชัยและบริวารเป็นต้น ก็ได้ )

    บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ดีปัจจุบันชาติก็ดี ที่จะให้ผลแก่ข้าพเจ้าเพียงไร ข้าพเจ้าขออุทิศกุศลนั้น ให้แก่พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง จงทุกประการเทอญ

    อนึ่งบุญใดที่พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง ได้บำเพ็ญมา ทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้า จงมีส่วน แห่งบุญนั้น จงทุกประการเทอญ .

    สิ่งใดข้าพเจ้า ได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าขอขมา ขอท่านจงโปรดเมตตา ยกโทษอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    สิ่งใดที่ท่านได้เคยล่วงเกินข้าพเจ้า มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น

    ข้าพเจ้าขออุทิศกุศล ไปกับกระแสเมตตาจิต ของพระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลอนันตจักรวาล จงมีส่วนแห่งกุศล ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาจงทุกประการเทอญ

    ข้าพเจ้าขอพรว่า เมื่อใดที่ข้าพเจ้า อุทิศกุศล แผ่เมตตา และอธิษฐานจิต ขอให้ศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ คล้ายประหนึ่งว่า ท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตาบันดาลให้เป็นไปด้วยเทอญ


    การเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวงหมายถึงเรา ได้ทำการผูกมิตรกับท่านผู้ที่อยู่ในสายการสร้างบารมีทั้งหมดทั้งสิ้นเลย ฉะนั้นคาถาเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์นี้ถ้าใครใช้ทุกวันจะทำให้ผู้นั้น มีจิตพิเศษกว่าคนธรรมดาทั่วไป เวลาอธิษฐานอะไร ถ้าไม่ผิดทำนองคลองธรรม จะสัมฤทธิ์ผลง่ายกว่าคนทั้งหลาย เวลาประกอบกิจการอันเป็นกุศลที่อยู่ในขอบข่ายการสร้างบารมีก็จะสำเร็จง่าย เพราะพระโพธิสัตว์ทุกองค์ และบริวารทั้งปวงจะมาช่วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    ธนาคารบุญคืออะไร ?
    คือ กองเสบียงแห่งบุญกุศลที่เราสะสมได้ในขณะยังมีชีวิต โดยอาศัยเหตุปัจจัยทั้ง 3 คือ
    1. ทรัพย์เป็นทาน
    2. แรงกายเป็นทาน
    3. วิทยาทาน
    บัดนี้ บุญกุศลที่เราทุกคนต่างสะสมได้นั้นจะเก็บไว้ ณ ธนาคารบุญของเบื้องบน บัญชีบุญที่เราฝากไว้จึงมั่นใจว่าไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้จดบันทึกทุกขั้นตอนอย่างละเอียดถี่ถ้
     
  7. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  8. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    วิธีแก้กรรม


    <HR SIZE=2 width=652>
    บุคคลที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมเวลาตายได้


    <HR SIZE=2 width=652>
    1. คนบำเพ็ญที่สร้างบุญกุศลเกินกว่าหนี้เวรกรรมของตนในชาติก่อน


    2. คนที่สร้างความดี หรือสิ่งที่เป็นบุญกุศลด้วยเหตุบังเอิญ ซึ่งมิได้จงใจมาก่อน กำหนดวันตายของคนผู้นั้นก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นรางวัลส่งเสริมความดีงามจากเบื้องบน


    3. คนที่ตลอดชีวิตประกอบแต่กรรมดี เช่น ปล่อยชีวิตสัตว์ ให้ทานช่วยเหลือคนยากจน พิมพ์เผยแพร่หนังสือธรรมะ ช่วยคนที่กำลังประสบเคราะห์กรรม บริจาคโลงศพ เป็นต้น
    เมื่อบุญกุศลบริบูรณ์ก็จะต่ออายุได้


    4. ขณะเจ็บป่วย คนในครอบครัวหรือตนเองยอมขอขมากรรม สำนึกในความผิดที่ได้กระทำมาแล้วในชาตินี้ จวบจนชาติที่แล้วๆ มา อีกทั้งตั้งคำอธิษฐานโดยศรัทธาจริงใจ ส่วน มากจะได้รับความเมตตาประทานอนุญาตจากเบื้องบนให้เปลี่ยนกำหนดวันตายเพิ่มอายุขัยต่อไป.

     
  9. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  10. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  11. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  12. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=2DPVYza1y_8&NR=1]YouTube - ‪พุทธทาส - เรื่องได้ เรื่องเสีย [2/8]‬&rlm;[/ame]
     
  13. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=HL539ZBMzWk&NR=1]YouTube - ‪พุทธทาส - เรื่องได้ เรื่องเสีย [3/8]‬&rlm;[/ame]
     
  14. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=4YHX1rVtr54&NR=1]YouTube - ‪พุทธทาส - เรื่องได้ เรื่องเสีย [4/8]‬&rlm;[/ame]
     
  15. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=0EBcChCUv3M&feature=related]YouTube - ‪พุทธทาส - เรื่องได้ เรื่องเสีย [6/8]‬&rlm;[/ame]
     
  16. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ttBfzDpapvk&NR=1]YouTube - ‪เพื่อนปัจจุบันกาล(กำลังใจ)‬&rlm;[/ame]
     
  17. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yeeDn9z-nJc]YouTube - ‪ประชุมเพลิงพุทธทาสภิกขุ 1/5‬&rlm;[/ame]
     
  18. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  19. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=5HNsxJb-p4M&feature=related]YouTube - ‪พาหุง แปล‬&rlm;[/ame]
     
  20. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=EjAP2er4O9U&feature=related]YouTube - ‪ตายเสียก่อนตาย‬&rlm;[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...