ดูดวงด้วยไพ่พรหมญาณ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณพร สนใจอยากดูดวง ส่งข้อความไปหาแล้วนะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

วันนี้ไปร่วมงานบุญมา นำแผ่นซีดีไปแจก ถ่ายภาพในช่วงพักกลางวันผู้คนเขาไปทานอาหารกันหมด

 

ไปร่วมงานบุญเททองหล่อองค์พระประธานเมื่อเดือนเมษายน ภาพเก่าเอามาเล่าใหม่ เพราะไม่ได้เข้ามาดันกระทู้นานแล้ว
จะมีงานบุญเททองหล่อองค์พระประธานอีกงานหนึ่งในวันที่ 30-31 พฤษภาคมและ 1 มิถุนายน เป็นงานต่อเนื่องกัน ที่วัดป่าพุทธบุตรค่ะ

 

30-31 พฤษภาคม 2558 ไปร่วมงานบุญเททองหล่อพระประธานที่วัดป่าพุทธบุตรหรือวัดโพนวิมานมาค่ะ

 

คงมีใครหลายๆคนที่รู้สึกว่าตัวเองมี อะไรบางอย่างที่พิเศษ อยู่กับตัว เริ่มแรกมักสับสน ไม่เข้าใจ
บางคนเรียนรู้ด้วยตัวเอง หลายคนโดนทักเข้าบ่อยๆก็เริ่มต้นการเรียนรู้ หลายคนมากกว่าโดยยัดเยียดให้ทั้งที่ยัง งง งง
คงจะมีเยอะที่โดนชักนำ คะยั้นคะยอ จนถึงขั้นยัดเยียดการรับขันธุ์ โดยจะถูกกรอกหูว่ารับขันธุ์แล้วจะดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
บางคนจึงเข้าพิธีรับขันธุ์โดยที่ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า ขันธุ์ ที่ตนรับมานั้น มันคือ ขันธุ์อะไร?
ตามหลักธรรม ขันธุ์ 5 ก็มีอยู่ครบแล้วรวมกันในมนุษย์คนหนึ่ง รับขันธุ์อื่นเพิ่มมานี่มันแปลกๆนะว่ามั้ย?
คนที่มีความพิเศษอยู่กับตัวนั้นก็ไม่ได้ทำการรับขันธุ์กันทุกคนหรอกค่ะ มันอยู่ที่วิธีปฏิบัติ การสื่อสาร ความเข้าใจ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในช่วงต้นๆการเรียนรู้ พรก็โดนหว่านล้อม ถูกคะยั้นคะยอสารพัดที่จะให้รับขันธุ์ให้ได้
สุดท้ายนอกจากการรับขันธุ์มาแบบงุนงงไม่ได้รับความกระจ่างแล้ว พรยังโดนทำเสน่ห์เป็นของแถมมาอีก
แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นวิทยาทานสำหรับคนที่เริ่มรู้ตัวและต้องการเรียนรู้ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง
ที่แน่ๆ อย่าหลวมตัวไปรับขันธุ์เข้าล่ะ นอกจากเสียเงิน เสียความรู้สึก หนักสุดอาจถึงขั้นเสียตัวหรือเสียสติไปเลย.

 

ด้วยความที่พรมักจะฝันเกี่ยวกับเทวดา นาค ยักษ์ ผี และมีชายในฝันที่ฝันถึงบ่อยๆจนรู้สึกว่ารักและผูกพันเขา
ฝันมาตั่งแต่อายุ 13-14 โน่นเลย ด้วยความที่กลัวว่าจะลืม จึงจดใส่สมุดไว้เป็นเล่มๆ รวมกับบันทึกเรื่องราวต่างๆในแต่ละวัน
ตอนที่อายุ18 ได้รับคำทำนายจากปู่ชีปะขาวในความฝันว่า เมื่ออายุย่างเข่าสู่ปีที่ 30 ชีวิตจะพบกับความเปลี่ยนแปลง
พรก็รอคอยอย่างใจเย็น ตั่งใจว่าจะเปลี่ยนชื่อเมื่อตอนอายุครบ 30 ซึ่งก็คือชื่อที่พรใช้อยู่ทุกวันนี้ พรพรหมท์

ตอนที่อายุ 28ย่าง29 นั่นเอง พรก็ได้รู้จักกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง พวกเขากลับมาเยี่ยมญาติในหมู่บ้านที่พรอยู่
สิ่งที่พวกเขาทำ คล้ายๆว่าฝ่ายชายเป็นร่างทรง มาช่วยรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยเพื่อสร้างเสริมบารมี
เพราะหมู่บ้านที่พรอยู่ไม่เคยมีพวกร่างทรงมาเยือนมาก่อน ประกอบกับที่พรก็มีความสนใจในด้านนี้อยู่แล้ว
พรก็ตามไปดูว่าเขาทำอะไรกันบ้าง คงเพราะมีความสนใจคล้ายกันทำให้พอได้พูดคุยกันก็คุยกันถูกคอ
แม้จะรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นจะคุยโวโอ้อวดไปบ้าง ทำนองว่ามีแต่เทพองค์ใหญ่ทั้งนั้นที่มาทรงร่างเขา
พรก็จะฟังผ่านหูไปเสีย ถ้าเราพูดอะไรออกไปทำนองไม่เชื่อถือก็จะเป็นการเสียน้ำใจ เสียความรู้สึกต่อกันซะเปล่าๆ
รู้จักกันได้ยังไม่นานเลย เขาก็ชวนพรให้เข้ารับขันธุ์กับพวกเขา(แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่าย)ตอนแรกพรก็ปฏิเสธไป
พรรู้อยู่แก่ใจ มันยังไม่ถึงเวลานี่นา อายุครบ 30 เมื่อไหร่ อะไรที่ควรได้ ควรมี เดี๋ยวก็มาเองแหละ
อีกอย่าง พรเคยฝันว่าตนเองขึ้นสวรรค์เพื่อเข้าพิธีครอบครู,รับขันธุ์จากทวยเทพชั้นผู้ใหญ่มาแล้ว
ท่านว่าการทำพิธีนี้ ก็เพื่อให้พรจำได้หมายรู้ พรได้เข้าสู่พิธีการสูงสุดจากเบื้องบนแล้ว ต่อไปในวันข้างหน้า
พรไม่จำเป็นต้องเข้าพิธีครอบครู,รับขันธุ์จากใครอีกแม้ว่าเขาจะอ้างนามท่านใดมาก็ตาม พรก็เล่าให้เขาฟัง
แต่พวกเขาก็ไม่ละความพยายาม คอยหว่านล้อมเซ้าซี้อยู่นั่นและ พรจึงตกลงเพื่อตัดความรำคาญ
ดังนั้นพรจึงรับขันธุ์?ตอนอายุ 29 พิธีการเรียบง่ายกว่าที่คิด หลังจากนั้นเรื่องราวในชีวิตก็แย่ลง และเกี่ยวข้องกับพวกเขา

 

รู้สึกเหมือนจะเคยคุยกันนะคะ คุ้นๆจังเลยค่ะ

 

นานเลยที่ไม่ได้เข้ามาดันกระทู้ รู้สึกเบื่อๆน่ะค่ะ หันมาเอาดีด้านการเป็นวิทยากรในงานบุญตามวัดต่างๆ
ได้ออกพื้นที่พบปะกับผู้คนหลากหลาย รู้สึกว่าเป็นงานที่ ใช่ สำหรับตัวเองมากกว่า
สำหรับเรื่องราวประสบการณ์การรับขันธุ์ ขอเล่าต่อเลยก็แล้วกัน ไหนๆก็เล่าค้างไว้ คนอ่านจะได้รู้ตอนจบ

หลังจากที่รับขันธุ์แล้ว ผู้ชายที่ตั่งตัวเป็นอาจารย์ก็ขยันโทรมาชวนคุย ช่วงแรกพรยังไม่ได้คิดอะไรมาก
เขามีภรรยา พรมีสามี ต่างคนต่างมีครอบครัวอยู่แล้ว เขาเป็นอาจารย์ คงจะไม่คิดอะไรที่มันผิดศีลธรรมกับเราหรอกน่ะ
หลังๆก็พูดถึงแต่ความไม่ดีไม่งามของภรรยา พอถึงจุดนึงพรจึงรู้ตัวว่าโดนจีบอยู่ จึงหลีกเลี่ยงการพบปะ
จนกระทั่งมีเหตุให้ต้องจับมือกัน เรื่องมีอยู่ว่า พลังหรืออะไรที่เขามีอยู่เดิมทีเป็นสิ่งที่...ฝากไว้ให้พร
เมื่อถึงเวลาอันควร เราจึงได้มาพบกัน เพื่อที่เขาจะได้ส่งมอบคืนให้กับพร นั่นคือสิ่งที่พรเข้าใจ
พรจึงขออนุญาตจับมือกับเขาต่อหน้าภรรยาเขานั่นแหละ เพราะเจตนาบริสุทธิ์ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนซ่อนอารมณ์
เมื่อจับมือกัน พรขอรับในสิ่งที่เป็นของพรกลับคืนมา แต่มันพลาดในส่วนที่ระหว่างนั้นเขากลับใช้อวิชาอาคม ทำเสน่ห์ใส่พร
เมื่อต้องอาคมจะมีความรู้สึกกึ่งๆมีสติ กึ่งเคลิ้ม รู้สึกหลงใหลได้ปลื้มผู้ชายคนนั้น กระวนกระวาย
อยากจะได้ยินเสียง อยากจะพบหน้า ความรู้สึกทางเพศกับเขารุนแรงแทบว่าจะแก้ผ้ากระโจนเข้าใส่ อะไรแบบนั้น
เมื่อมีสติก็รู้ว่าตัวเองผิดปกติ มันไม่ใช่นิสัยของเรา เมื่อคิดถี่ถ้วนว่าตนเองโดนมนต์เสน่ห์เข้าให้แล้ว
ก็รีบคิดหาหนทางแก้ไข ก่อนอื่นเลยคือเดินทางเข้ากรุงเทพฯมาอยู่บ้านน้าสาว อะไรก็ได้ที่ทำให้ตนเองอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้น
ไม่อย่างนั้นหากได้อยู่ใกล้ชิดกันอาจทำเรื่องผิดศีลธรรมทำให้มัวหมองไปทั้งชีวิตก็เป็นได้เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่ทราบ บ้านน้าเป็นตำหนักทรง เป็นเรื่องที่พรไม่เคยรู้มาก่อนเพราะน้าก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง
ดังนั้นที่บ้านน้าจึงมีห้องพระและชั้นบูชาเทพต่างๆในห้องเดียวกัน พรไปเอาน้ำมนต์ตามสถานที่สำคัญๆ
ในเมืองกรุงและน้ำมนต์จากวัดพระธาตุพนม รวมแล้วเป็นน้ำมนต์จากสถานที่ 9 แห่ง นำมารวมกัน
บวชชีพราหมณ์ถือศีล 8 ร่วมกับการอาบน้ำมนต์กลางแจ้งทุกเช้าเย็นเป็นเวลา 7 วัน
ระหว่างนั้นไม่รับโทรศัพท์
พอถึงวันที่ 7 คืนสุดท้าย เคลิ้มๆเหมือนว่าฝันไป ฝันว่าพระศิวะถือขันน้ำมนต์เดินลงบันไดมาจากยอดเขา
ทรงยื่นให้กับมือ บอกให้พรปลุกเสกน้ำมนต์ขันสุดท้ายนี้แล้วให้อาบซะในคืนนี้ แค่วันนี้เท่านั้นอย่าให้ทันข้ามวันไป
สะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็นเวลา 23.40 นาที ใกล้จะเข้าสู่วันใหม่แล้ว พอตั่งสติได้ก็รีบลุกไปเตรียมน้ำมนต์
ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกระโจมอก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เข้าสู่วันใหม่ ถือว่าการล้างอาถรรพ์ คุณไสย
เสน่ห์มนต์ดำที่เขาทำมาเป็นอันพินาศไป ของเหล่านี้ก็คืนหาเจ้าของ ทำอะไรไว้ย่อมคืนสู่ตัวผู้กระทำ
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการก็คว่ำขันธุ์ผีที่เขาให้มา เก็บข้าวของกลับบ้าน สบายใจ ไม่คิดในเชิงชู้สาวกับชายคนนั้นอีกเลย

สามีภรรยาคู่นั้นกับพรก็ขาดการติดต่อ ต่อมาได้พบกันในงานศพญาติของเขา ดูเขาเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง
หน้าตาหมองคล้ำ หมดสง่าราศี เมื่อมองดูเขาแล้ว ใจเราไม่เต้นระส่ำเหมือนเช่นตอนถูกมนต์สะกด
ก็รู้ว่าถอนมนต์ได้หมดสิ้นแล้ว อะไรดี ดีในตัวเขาก็เสื่อมไปเพราะเขาทำตัวไม่ดี จบกันไปที เลิกแล้วต่อกัน อโหสิกรรมให้