ชี้ทางคนที่จะเรียนวิชาอาคม

ผมขอคาถาป้องกันตัวครัป ผมทำงานอยุ่คัป

ผมขอคาถาป้องกันตัวครัป ผมทำงานอยุ่คัป ส่งมาทางเมล์นะคัป หรือบอกผมส่วนตัวนะคัป 082-090-7414

 

ผมขอคาถาป้องกันตัวครัป ผมทำงานอยุ่คัป

 

เพื่อนผมก็เล่นวิชาอาคม จารหนังเสือเองทั้งตัว เขียนยันต์เองลงอัขระกาฟาก

เดี๋ยวนี้ดูกลายเป็นเพี้ยน ๆ เหมือนเริ่มจะบ้าน เวลาเจอเพื่อน ๆ จะระแวง คุยด้วยแล้วจะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง สงสัยเล่นของแล้วของเข้าตัวแล้ว อีกหน่อยก็กลายเป็นคนบ้า

 

ศิษย์ไม่มีครู ศึกษาจากตำรา ไม่ผ่านครู มักจะถูกลงโทษครับ

 

ความเชื่อแบบบ้าน ไรซึ่งความเข้าใจไรซึ่งการทุเท
ฝึกฝนอย่างแท้จริง
สุดท้ายก็ได้แต่ความงมงายที่เล่าสืบต่อกันมา

 

ความเชื่อความศรัทธาคนเปลี่ยนแปลงยาก ครับท่านเทพคาถา
คนเรายึดมั่นมาในสิ่งที่ได้รับการปลูกฝัง

สิ่งที่ผมคิดว่า ชมรม วิทยาการคาถา ยังขาดอยู่คือ ตัวคาถาที่ถูกต้อง พร้อมบอก สรรพคุณ

โดนท่านเองมีความสามารถ ในการใช้คาถาได้อย่างไม่จำกัด ท่านผ่านการคาถามาเยอะย่อมรู้ว่าคาถาใดบ้างที่ใช้ได้ผล รวมถึงสามารถเรียงลำดับความยากง่ายของคาถา

คิดว่ามันจะสร้างประโยชน์มากมายกับผู้สนใจคาถาในแนวทางของท่าน

 

หยุดสอนครับ เพราะศิษย์ไม่ฟังครู บอกแล้วว่าวิชาพุทธ ไม่ได้สอนให้คนมันชั่วแต่คนมันชัวด้วยตัวมันเอง สอนนักสอนหรอ อย่าเอาวิชาที่ผมสอนไป ผิดลูกเมียคนอื่น ตอนจะเรียนระปากกันดี แต่สุดท้ายทำไม่ได้จิง วิชาเสื่อมหมดมายังมีหน้ามาถาม ทำไม่ผมใช้วิชาไม่ได้แล้ว เป็นเพราะอะไร ดูสิ่งที่ตัวเองทำสิ รักษาชื่อครูยังไม่ได้ กินเหล้าติดยา มาจะให้ประสิทธิ วิชาให้ใหม่ไม่เอา ศิษย์ไม่เชื่อฟังอามาเรียกครู ยังมีศิษย์บางคนที่ให้หญิงขึ้นบนอี สอนทำสอน ครูอาจาร์ยเขานับถือ พระพุทธองค์ ของพวกนั่นไม่ดี อย่าให้โดนตัว ศิษย์ที่ดีก็มีเอาวิชาครูไปช่วยคน แต่ศิษย์ ชัวมันเยอะกว่า เลยตัดใจไม่สอนสะคงดีกว่าให้วิชา ตายไปกับครู

 

ดีแล้วครับที่หยุด แล้วหันมาพัฒนาจิตของเราต่อดีกว่าครับเพราะขนาดคุณพ่อชุมท่านมีศิษย์มากมายแต่ท่านยังไม่เคยหยุดฝึกเลย

 

มาช้า อดเลยเรา อยากได้วิชา ย่นระยะทาง อนาคตว่าจะบวช เดินธุดงครับ

 

.................................................................................................

 

คำว่าความเชื่อแบบบ้านๆนั้นผมขอธิบายหน่อยนะครับ ถ้าเทียบกับสมัยก่อนคือเรื่องของเวทย์มนต์คาถานี้เป็นสภาพลึกลับประกอบกับความสามารถในการแยกแยะหาคำตอบมีขอบเขตจำกัดแม้ผู้รู้จริงก็ไม่สามารถบรรยายเป็นศัพย์นักกับคนพื้นๆแถมสิ่งที่รู้ก็ไม่มีใครมีพื้นปัญญาพอที่จะเข้าใจ เหมือนเอานักวิทยาศาสตร์บรรยายกับคนทั่วๆไปนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้มีกฏบังคับห้ามเช่นให้เชื่ออย่างเดียวเท่านั้นอย่าไปสงสัยฯลฯ
มันเป็นเรื่องของจิตกับคาถาขับเคลื่อนสร้างสภาวะอัศจรรย์นั้นๆครับ
บางทีครูบาอาจารย์ก็ต้องรอจนกว่าได้ศิษย์ผู้ประเสริฐมาศึกษาต่อจนได้คำตอบใหม่ๆ
ของผมคนสอนมักบอกว่าอย่าเอาไปเปิดพูดคุยนักให้มันลึกลับเข้าไว้ ผมก็ลองทำตัวอย่างนั้นดู มันกลายเป็นเรื่องสร้างกำลังให้จิตเสริมคาถาได้ดี (เสมือนขยิมยิ้มย่องว่ามันขลังเกินคนเห็น)
เพียงแต่ผมเข้าใจเลยจุดนั้นไปแล้วจึงรู้ว่าไม่จำเป็น มันเป็นเรื่องของการรักษาเป็นประการแรกก่อนพัฒนาไงครับ

 

....................................................
....................................................
............คนส่วนใหญ่ที่ฝึกคาถา มักหลงยึดติด
ในความสำเร็จ ชั่วคราว ขาดซึ่ง หลักการๆวัดผล
ที่แน่นอน หลายครั้งหลายหนที่เราทำได้ นั่น ไม่
ถือว่าสำเร็จแล้วพอแล้วแค่นั้นพอ เพราะ เมื่อ
ท่านฝึกไปอีก10ปี20ปีการทำได้ แค่นั้นไม่พอ
เพราะมันจะทรงตัว ไม่มีการแรงขึ้นมีแต่ถอยหลังลง
นี่แหละจึงเป็นสาเหตุให้ผมต้องค้นคว้า ค้นหาวิธี
สร้างเสริมพลังคาถาที่ไม่ใช่แค่พอทำได้แค่นั้นพอ
.....................................................
...................................................
..................................................
และตอนนี้ ได้รู้แล้วเข้าใจแล้วถึงสาเหตุ และแนว
ทางจึงมาบอก ทุกท่าน ที่หลง แต่วงวน รอยเท้า
เก่าๆ หลงกฏเกณ คนรุ่นเก่า ที่บีบบังคับ สติปัญญา
ที่ควรจะเป็นไป จนไม่สามารถ พัฒนา ใดๆได้เลย

 

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย
หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

 

เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ
เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ

ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วย
มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น "ความงมงาย" และไม่พึงแปลความเลยเถิดไป
ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้ และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้
แต่พึงเข้าใจว่า แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..
เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ
ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด
ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน

.. แล้วสิ่งอื่น คนอื่นเราจะต้องคิดต้องพิจารณา
ระมัดระวังให้มากสักเพียงไหน??
http://www.lib.ru.ac.th/miscell/kalamasute10.html

 

เข้าใจดีคับ ส่วนมากคนเรามันก็เป็นแบบนี้แหละ
หลงงมงาย จนไม่ฟังแม้แต่คำพูด ของพุทธองค์

 

้**เขาเรียกว่ากุสโลบาย ของคนรุ่นเก่า หรือเรียกอีกอย่างว่า
กลอุบายของคนรุ่นเก่า วางหมากไว้ไม่ให้ เราพัฒนา **

คนที่ฝึกตามแบบแผนคนหัวเก่าก็เป็นแบบนี้
แต่ก่อนเรา2คนก็เคยเป็นแบบพวกเขาเหมือนกัน
จะพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ จะบอกของจริงก็
ไรค่า ปล่อยให้เขาคิดแบบนี้แหละ สมควรที่สุด
แล้ว

นายว่า ตัวคาถาที่ชมรม วิทยาการคาถา ยังไม่ถูกต้อง แต่ เขายังใช้ได้ดี ผมว่าคุณก็เรียนจากเขามาเยอะ มีตัวคาถาที่ถูกต้อง กว่า ตามหลักการ อะนะ ใช้เก่ง 1 ตัวคาถาถูกต้องอีก 1 รวมเป็น 2 เท่า ผมว่านาย ต้องใช้ได้เก่งกว่าเขาหลายชั้นแน่ๆเลย
จิงมะ lamelez ไม่รองดูหน่อยเหรอ
อันนี้ ไม่ได้เหน็บ อะนะ
แต่ อยากให้รอง จิงๆๆ
จะได้เข้าใจเหมือนพวกผมจิงๆ
อีกอย่างพวกเราไม่ใช่ฝึกแบบเด็ก แค่5ปี10แล้วมาทำอวดรู้
แต่เราฝึกมาไม่ต่ำกว่า20ปี ฝึกตามแบบเก่ามาไม่ตำกว่า10ปี
จนรู้ว่าแบบเก่ามันไม่ ok ทำได้อย่างมาแค่พอทำได้ เท่านั้น
บางครั้ง วิชาทดถอยเอาแน่นอนไม่ได้
แต่วิชาที่เราพบมามัน สามารถทำได้ตลอดเวลา แรงตกสามารถ
เร่งขึ้นมาใหม่ได้ นะคับ
อีกอย่าง คนที่ผมพบมาบอกว่าทำได้ๆ มั่นใจเหลือเกิน พอทดสอบ
เข้าจิงๆ ก็เป็นแบบพวกเราแต่ก่อน คือทำได้บางเวลา นะคับ
บอกได้แค่นี้ เอาคิดเองแล้วกันว่า ชอบแบบไหน เลือกเอา
อีกอย่าง พี่เทพ ก่อนให้เคล้ดวิชา ก็ ให้คุณไปทดสอบหาความ
จิงทางสายเก่าตั้งเกือบปีจนรู้ชัดแล้วไม่ใช่ รึ

 

ว้า
มาช้าไป เสียดาย
อยากได้ คาถาที่ช่วยให้คนรัก มีงานทำ ครับ
ตอนนี้ ตกงานมา 6 เดือนแล้ว

 

คนเราถึงเวลาที่จะเสื่อมมันก็เสื่อมฝืนกันไปก็เท่านั่น คิดดี พูดดี ทำดี แค่สามดีนี้ก็พอแล้ว ไม่อิจฉา ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร ไม่หาเรื่องใคร มันก็เป็นสุข เทพเทวดาก็คุ้มครอง ไม่ต้องไปแสวงหามันนักหรอก วิชาอาคม นะ ของดีนะมันอยู่กับคนดี จำเอาไว้นะ ไม่มีของดีในหมู่คนเลว คนเราบุญวาสนามีมาไม่เหมือนกัน ถึงเวลาได้มันก็ได้ถ้ายังไม่ถึงเวลาต่อ ให้พยามมันแค่ไหนมันก็ไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาใครก็ช่วยท่านไม่ได้ ความดีเท่านั่นที่จะช่วยท่าน ทุกอย่างกรรมเท่านั่นเป็นตัวกำหนด ทุกข์เท่านั่นที่เกิด ทุกข์เท่านั่นที่ตั่งอยู่ ทุกข์เท่านั่นที่ดับ นอกจากทุกไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่เทียงแท้แน่นอน เมื่อเกิดขึ้นย่อมหย่างไปถึงจุดดับ พิจารนา เอาตามแต่สมควรเถิด พุทธสาวก แห่งพระศาสดาทั่งหลาย ธรรมใดเป็นของจอมมุณี ธรรมนั่นข้าพเจ้านำมาแสดงให้ปรากฎแก่สาถุชนแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ

 

ตอนผมตกงาน ผมสวดคาถาพระปัจเจกฯ

พร้อมกับไปถวายเพลพระทุกวัน เพียงเดือน

เดียวได้งานทำเลยครับ ลองปฏิบัติดูครับ