ชมภาพและความรู้อิทธิพลังของโป่งข่าม-หินแก้วกายสิทธิ์

หินแก้วโป่งข่ามพม่า กับ โป่งข่าม อ.เถิน เป็นหินแก้วชนิดเดียวกัน ต่างกันที่สถานที่ที่เกิดเท่านั้น

ถ้าถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ จะเหมือนกันไหม
จากที่ผมนำโป่งข่ามพม่า มาทดลองใช้
ตามกรรมวิธี ล้างน้ำ สวดมนต์ และส่งบุญ
ก็ได้นิมิตรดีๆ เกิดขึ้น และรู้สึกมีความสุข
อยู่ในใจลึกๆ จะทำการสิ่งใดก็ราบรื่นดี
10 กว่า ปี ไม่เคยมีโชคทางหวยเบอร์ ก็เริ่มมี
อันนี้เป็นการพิสูจน์ขั้นต้นเท่านั้นนะครับ

 

อยู่นะคับแต่ไม่ใช่ประตู24 เขาตั้งเเถว25กว่าๆริมถนนตรงโค้งทางยกระดับพอดี

 

แหม...เสียยยยดายยยจังงง จากประตู 25 เดินถัดไปทางประตู 26 สัก ไม่เกิน 20 ก้าว ก็ถึงแล้วครับ คุณนพแกมาตั้งแต่ 6.00 น. หนะ ไม่เป็นไรเที่ยวหน้าแก้ตัวใหม่ อย่าลืมติดเบอร์โทร ไปด้วยนะคุณโคมฯ

วันนั้น ผมไปตอนบ่ายสองโมง คุณนพเอาหินแก้ว เข้าปวก 5 สี เลี่ยมเงิน
สำหรับห้อยแขวนคอ เม็ดใหญ่ สวยมากมาก เลยคัดเก็บไว้ เพื่อนที่ไปด้วย บอกว่าอยากได้เม็ดนี้เม็ดเดียวที่เลี่ยมเงิน เลยตัดใจให้เพื่อนไป ไม่ทันได้ถ่ายรูปมาอวด

เมื่อวาน ได้ลูกหินแก้ว เม็ดเล็กขนาด ครึ่งนิ้ว 2 เม็ด ใสสวยบริสุทธิ์ มีรอยเนื้อหินบางๆนิดหน่อย แล้วก็สังขจายหยก ปี่เซี๊ยะหินแก้ว แกะสไตล์พม่า น่ารักมาก หินดำเจียรเป็นวงรีหัวแหวน มีสายแร่ไพไรท์ ติดอยู่ที่ผิว 1 ชิ้น ปีเซี๊ยะหยก 1 ชิ้น เมื่อคืนหลับฝันหวานไปเลยครับ

 

หินหยกแกะ

 

แหวนหยกพม่า

 

หลักการดู และ เลือกแก้วโป่งข่าม

สำหรับผู้ที่จะซื้อแก้ว ๓ ประการ

๑. พิจารณาแก้ว
๒. พิจารณาดูสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว
๓. พิจารณาดูศิลปลวดลาย

การพิจารณาแก้ว
พิจารณาตั้งแต่หน้าแก้ว(บนแก้ว) ในแก้ว(กลางแก้ว) และพื้นแก้ว(ก้นแก้ว) ว่าโดยลักษณะน้ำแก้ว เป็นชนิดดีมาก? ดีปานกลาง? หรือว่าไม่สู้ดี?

ดูว่ามีตำหนิหรือไม่ ถ้ามีรอยประกายแซกอยู่ ลองหมุนดูรอบๆ
หากเป็นประกายรุ้ง ๗ สี มีวาว ขาวๆดำๆ เหลือบกันในขณะหมุนดูรอบๆ ก็แสดงว่าเป็นแก้วร้าว

แก้วที่ใสบริสุทธิ์ เรียกว่าแก้วน้ำหาย
วิธีทดลอง โดยการนำแช่ลงในน้ำใส จะเห็นแต่ขอบแก้ว
น้ำแก้วและน้ำใสจะเป็นอันเดียวกัน แก้วน้ำหายมีคุณสมบัติเช่น
เลนส์กล้องถ่ายรูป เพราะเป็นสิ่งที่นำไปทำเลนสได้ เวลานำมาส่อง
จนทะลุ จะเห็นเงาหัวกลับ แทนแว่นขยายได้ มีความแข็งกว่าแก้วกระจก
คือกรีดกระจกได้ (หินแก้วแข็ง ๗ กระจกธรรมดา แข็ง ๓.๕-๕.๕)

แก้วดีมีตำหนิ อาจจะมีราคาสู้แก้วปานกลางแต่ไม่มีตำหนิไม่ได้
หากแก้วมีตำหนิ โดยส่วนมีตำหนินั้นอยู่ในแก้ว ไม่ทะลุออกมาถึงหน้าแก้ว ก็จัดว่าดีกว่าแก้วที่มีตำหนิทะลุขึ้นมาหน้าแก้ว

 

การพิจารณาสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว

พิจารณาดูว่า สิ่งที่มีอยู่ในแก้ว มีอะไรบ้าง
มีกี่อย่าง เช่นพวกปวก กาบ ใย สลัก ช่อ หรือเส้นต่างๆ
ลวดลายของแก้ว หรือลวดลายอันเกิดจากแร่สหชาติ
ถ้าเป็นแก้วเข้าแก้ว พิจารณาว่าเป็นแก้วชนิดใดบ้าง
แก้วหน่อเง่า หรือแก้วโตน ซึ่งมีราคาผิดกัน

ปวกก็ดี กาบก็ดี ใยต่างๆก็ดี หรือพวกเส้นต่างๆก็ดี
เป็นธรรมชาติของแร่ชนิดต่างๆ ที่เข้าไปผลึกอยู่ภายใน
พวกกาบที่สวยที่สุดคือ พวกกาบที่ตกผลึกเป็นรูปดอกไม้
พวกเส้นต่างๆ นิยมกันทั้งแบบเส้นพุ่มและกอตั้ง หลักเงินหลักทองต่างๆ
ตลอดจนลวดลายเปลวและแพรต่างๆ ตลอดจนลายเส้น
ถ้ามีลักษณะเป็นสี แสดงว่าเป็นแก้วสหชาติกับแร่ต่างสกุล
หากเป็นวาวสะท้อนแบบเส้นแก้ว อาจจะเป็นลายแก้วธรรมดา
หรือสีเหลืองๆ เป็นทางเป็นเส้น คงรสังเกตดูว่า คือตะไคร่อันอยู่ในเส้นแก้วที่เกิดช่องโพรงขึ้นกับเนื้อแก้วหรือไม่

 

พิจารณาดูศิลปลวดลายประกอบ

แก้วโป่งข่ามบางแก้ว อาจจะมีสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว
หลายอย่าง เช่นแก้วสามกษัตริย์ แต่ตำแหน่งและจุดเด่นของสิ่งประกอบต่างๆไม่สู้ดี แม้นว่าจะได้แก้วเนื้อดี สิ่งประกอบดี แต่สิ่งแวดล้อม คือศิลปลวดลายที่ธรรมชาติสร้างให้ ประกอบกับกรรมวิธีตัดเจียระไน
ขาดช่างที่มีศิลปในการพิจารณาเลือกจุดเด่นเข้าไว้ ก็อาจเป็นแก้วที่น่าเสียดายยิ่ง

แก้วบางแก้ว ช่างเจียระไนเข้าใจสรรค์จุดเด่นของสิ่งประกอบในแก้ว เช่นพวกปวกต่างๆ หาทางเจียระไนให้หน้าแก้ว ครอบตามลักษณะจุดเด่น ของปวก กาบ และสลักต่างๆ

สิ่งที่มีอยู่ในแก้วบางอย่าง เป็นแร่ที่มีความแข็งต่ำกว่าหินแก้ว เมื่อพิจารณาดูที่ก้นแก้ว อาจจะเห็นมีรอยอยู่ตามลักษณะผลต่าง และบางทีก็จำต้องมีรอยครั่ง ซึ่งผ่านกรรมวิธีเข้าครั่งเพื่อการเจียระไน
ครั่งดังกล่าวอาจติดกับพวกกาบ พวกปวกต่างๆที่ก้นแก้ว คนเจียระไนไม่กล้าขูดเอาครั่งออกจนเกลี้ยง เพราะเกรงว่าจะทำให้เนื้อแร่ที่ประดับหลุดออกมา เจ้าของแก้วบางรายซื้อไปแล้ว ลองเอาเหล็กเขี่ยๆดู
เห็นแร่ประดับที่มีเนื้ออ่อนกว่าเนื้อแก้ว มักจะหลุดออกเป็นขุยๆ ทำให้เสียของดีไป

ศิลปลวดลายและริ้วสลักต่างๆ อันเกิดแต่ธรรมชาติ ย่อมถือเป็นสิ่งมีค่าสูง เช่นแก้วรุ้ง ๗ สี บางแก้วที่มีลักษณะลวดลายเหมือนจิตรกรรม

 

หินแก้วหลากหลายรูปทรง

 

<CENTER></CENTER>

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma]<CENTER>นักเสียสละขนานแท้
โดย.พระธรรมกิตติวงศ์ </CENTER>

<DD>ผู้ใดตั้งใจช่วยเหลือผู้มีความทุกข์ได้ คือเป็นคนมีน้ำใจเห็นใครตกทุกข์ได้ยากก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

กล่าวให้ชัดก็คือคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือคนยากคนจน ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ช่วยเหลือกิจการต่าง ๆ ของหมู่คณะด้วยความตั้งใจและจริงใจ ด้วยความเสียสละมิใช่เพื่อผลตอบแทน มิใช่เพื่อเอาหน้าเอาตา มิใช่เพื่อคะแนนเสียง เป็นต้น

คนเช่นนี้ก็เชื่อได้ว่าเป็นคนดี และเป็นคนดีระดับสูง เป็นคนดีที่น่ายกย่องสรรเสริญกว่าคนดีประเภทอื่น ๆ เพราะทำสิ่งที่ทำได้ยาก</DD>[/FONT]

 

เย้ ๆ ตอนใหม่มาแย้ว

 

เมื่อคืน นำหินสีดำ ลักษณะเจียระไนเป็นวงรีหัวแหวน
ขนาดใหญ่กว่าหัวแม่โป้งเล็กน้อย
ในเนื้อหินมีสายแร่สีเงิน(น่าจะเป็นไพไรท์)
ติดอยู่ที่ผิว 2-3 จุด แลดูสวยงามและขลังดี
หลังจากทำกรรมวิธีล้างน้ำก็อก ผ่านน้ำฝน
สวดชินบัญชร 3 จบ ประจุลงในหินชนิดนี้
แล้วโปรแกรมลงไปว่า ทั้งรูปธรรม นามธรรม
บัดนี้เป็นของข้าพเจ้าแล้ว จงนำความร่มเย็นเป็นสุข
ลาภผลพูนทวี ความมีสติปัญญา ให้เกิดแก่ข้าพเจ้า
นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หลังจากนั้นได้นำไปไว้ใต้หมอน
ฝันว่าได้ไปเที่ยวประเทศจีน บริเวณเขาลูกหนึ่ง
เป็นภูเขาหินผา ริมผามีอาคารปลูกสร้างเป็นห้องพัก
ทันสมัย ยังกะโรงแรมชั้นหนึ่ง
มีคนเดินเลาะผาเข้าออกห้องพัก
เห็นแล้วน่าหวาดเสียว

จบฉากหน้าผา ก็มาช็อปปิ้งในตลาดของจีน
ตอนนี้จำไม่ค่อยจะได้
รู้แต่ว่าเจอคนรู้จักกัน
คุยกันถูกคอ แถมให้เลขมาจากไหนก็ไม่รู้
397 แปลกดี
ฝันดีไหมครับ ไม่ค่อยได้ฝันแบบนี้มาก่อน
เออว่า จะไม่เล่าเรื่องเลข แล้วเชียว
เขาว่าฝันถึงเลข ห้ามเล่าให้ใครฟัง
เลขมันจะเคลื่อน
ผมว่ามันจะเคลื่อนไปไหนก็ช่างมัน
ไม่ใช่เรื่องของเรา
แต่ถ้าใครมีโชค ก็อย่าลืม
ร่วมทำบุญกับวัดภูเหล่าเงินฮาง วัดบ่อเงินบ่อทอง ด้วยนะ
จะได้รวยต่อเนื่อง รวยกันให้เข็ด ไปข้าง อิอิ

 

ลักษณะความเชื่อถือ

ลักษณความเชื่อเชื่อแก้วโป่งข่าม เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และการเชื่อถือแก้วอัญมณีต่างๆ สืบแต่โบราณกาล แบ่งเป็นหัวข้อโฉลก ดังนี้
๑. โฉลกเกี่ยวกับบุคคล
๒. โฉลกวันยามสำคัญตามประเพณีโบราณ

คำว่า โฉลก แปลว่า โชค โอกาส คนโบราณมีตำหรับนับโฉลกด้วยคาถาเฉพาะขึ้น สกุลใดมีของเก่าแก่ของตนเอง เช่น มีดาบประจำสกุล ไม้คาน เครื่องใช้ต่างๆเก่าแก่ วันดีคืนดีก็ว่าคาถานับโฉลกเป็นข้อๆ ดูว่าดาบหรือไม้คานต่างๆ ที่นับโฉลกนั้น จะยาวหรือสั้นลง ตามผลอธิษฐาน ถ้าทำได้ดังใจนึกก็ว่าต้องโฉลก แก้วใด แสงใด ได้แล้วมีโชคดี นิมิตดี ก็ว่าต้องโฉลก บางทีเกิดนิมิตมีแสงปาฏิหาริย์ต่างๆ ก็ว่าเป็นโฉลกมหามงคล

เกี่ยวกับโฉลกตัวบุคคล แก้วโป่งข่ามเมืองเถิน เท่าที่พบจากผู้ใช้ แก้วโฉลกมักจะไม่สู้จะสวยงาม แต่เจ้าของใช้แล้วต้องโฉลก ถือเป็นสมบัติที่รักหวงแหน

 

พี่เม้า แล้วหยกสีแดง ดีหรือเปล่าครับ ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ผมเองมีหยกสีแดงอยู่ ครับ

ไว้ผมจะนำไปให้ดูที่ร้านครับ

.

 

โฉลกวันตามความเชื่อถือของคนโบราณ
เคยมีตำหรับโฉลกวันประจำสัปดาห์ ใช้กับแก้วชนิดต่างๆ ดังนี้

วันอาทิตย์ รัตนาภรณ์ สีแดง (แก้วทับทิม)
วันจันทร์ เศตาภรณ์ สีขาวมัน (แก้วมุกดา)
วันอังคาร ตามพาภรณ์ สีชมพู (แก้วโกเมน)
วันพุธ อินทนิล สีเขียว (มรกต)
วันพฤหัสบดี ปิตาภรณ์ สีเหลืองอ่อน (ไพฑูรย์)
วันศุกร์ ปภัสสราภรณ์ สีหยาดน้ำ (เพชรน้ำค้าง)
วันเสาร์ กัณหาภรณ์ สีดำมัน (สีนิลกาฬ)

โฉลกสีเกี่ยวกับแก้วแต่โบราณ และโฉลกสีในสมัยรัตนโกสินทร์
สีที่กำหนดในวันประจำสัปดาห์ ต่างกันกับโฉลกสีโบราณ
วันอังคาร ของเก่า สีชมพู เปลี่ยนเป็นสีม่วง
วันพุธ ของเก่าสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีแสด
วันพฤหัสบดี เปลี่ยนจากสีเหลืองอ่อน เป็นสีเขียว
วันศุกร์สีหยาดน้ำใสเป็นสี เมฆหมอก นอกนั้นตรงกัน

 

ขึ้นชื่อว่าหยกแล้ว ถือเป็นหินมงคล
มีพลังเย็น ผู้ใดมีครอบครอง
จะประสบความร่มเย็นเป็นสุข
หยกแดง คืออำนาจ วาสนา บารมี
ทั้งนี้ต้องดูที่เนื้อหยกด้วย
ถ้าเนื้อใสจะดีกว่าเนื้อขุ่น และต้องไม่มีตำหนิ

ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับการประจุพลังใหม่
หรือการโปรแกรม สิ่งที่เราต้องการ
ลงไปในหินหยก เหมือนกับรัตนชาติอื่นๆ ครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
พี่เม้า แล้วหยกสีแดง ดีหรือเปล่าครับ ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ผมเองมีหยกสีแดงอยู่ ครับ

ไว้ผมจะนำไปให้ดูที่ร้านครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณครับพี่เม้า

.

 

หินแก้วพม่า เจียระไนยแกะเป็นพระ

 

เมื่อใช้โฉลกสีประจำวันตามลักษณะเป็นกลางดังเปรียบเทียบแล้ว
อาจจะพิจารณาใช้กับแก้วโป่งข่าม ได้ดังนี้

วัน สี วรรณะ ใช้แหวนโป่งโป่งข่ามชนิด
อาทิตย์ แดง แดง ปวกคำ,ปวกแดง,สุริยประภา

จันทร์ มุกดา ขาว-เหลือง กาบคำ,ปวกเหลือง,มุกดาจิรประภา

อังคาร ชมพู-ม่วงอ่อน แดง-ขาว-คราม ประภาชมชื่น ปวกชมพู

พุธ เขียว เขียว-แสด ปวกเขียว,ปวกครั่ง,วิตูลนิลเขียว
วิตูลน้ำก่าน

พฤหัสบดี เหลือง-ส้ม เหลือง-แดง วิตูลน้ำผึ้งก่าน,วิตูลหนามเหี้ยง,ปวกเหลือง
ปวกแดง,ปวกครั่ง,กาบครั่ง

ศุกร์ หมอก-ฟ้า ขาว-น้ำเงิน-เทา แก้วสีฟ้า,สีเทา ลายแพรต่างๆ

เสาร์ ดำ-ม่วง พรหมสามหน้า แก้ววิตูลก่านพรหมสามหน้า,มหานิล
และแก้วม่วงต่างๆ

 

แหม... เข้าใจกันจิงๆ พ่อโคมระย้า กำลังจะว่าอยู่แล้วเชียว
แก้วหน้าม้าหนะ
หินแก้วหน้าม้า เอ๊ย.. แก้วพม่า
เขาเจียระไนยที่พม่าครับ ชายแดนแถวแม่สอด
รับออเดอร์จากไทยไปทำ
ค่าแรงของเขาถูกมาก มูลค่าหินแก้ว
ที่สำเร็จออกมาจึงมีราคาไม่สูงนัก พอไหว