ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง

รูปเหมือนเนื้อดินอุดผง หลวงพ่อมาก วัดโตนด บางปะหัน จ.อยุธยา ให้บูชา250บ.

เกจิดังสายเหนียวแห่งทุ่งบางปะหันเมืองกรุงเก่า อยุธยาเหรียญรุ่นแรกราคาไปไกลมากๆเลยครับ
ใครมี...ก็เก็บกันเงียบ ดังเพราะประสบการณ์จริงๆครับ คนท้องที่...คอนเฟิร์ม!!! ........... ประสบการณ์สุดยอดเลยครับ เหตุเกิดในท้องที่ ย่านบางปะหัน มอเตอร์ไซค์รับจ้างโดนลวงไปปล้นรถ โดนจ้วงแทงด้วยมีด 3ทีซ้อน เสื้อขาด แต่ไม่มีเลือดสักหยด รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ก็แขวนเหรียญหลวงพ่อมาก วัดโตนด เพียงเหรียญเดียวครับ เลยหายสงสัยเลยนะครับ ว่าทำไม เขาถึงหวงกันจัง ประสบการณ์ของคนที่แขวนเหรียญท่าน มีมากมายจริงๆ

 

เหรียญพระปิยะมหาราช วัดพิกุลทองสุธาราม ปี2517 หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ปลุกเสก ปิดรายการครับ

หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ หรือ พระครูวิชิตพัชราจารย์ วัดช้างเผือก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พระเกจิชื่อดังและเป็นพระนักพัฒนาที่มีคุณูปการต่อกิจการคณะสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างมาก ท่านได้สร้างสมคุณงามความดีเอาไว้ทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นอเนกอนันต์ให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงคุณงามความดีไปอีกนานแสนนาน

หลังมรณภาพเมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา คณะศิษยานุศิษย์ ได้นำศพหลวงพ่อไปบรรจุไว้ในโลงแก้ว ตามคำสั่งสุดท้าย ก่อนมรณภาพที่สั่งไว้ว่า "ห้ามนำร่างกายกูไปเผา ต่อไปในวันข้างหน้า ร่างกายนี้จะมีคุณประโยชน์ต่อวัด"

ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อทบ ได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย อาทิ พระผง รูปหล่อ มากกว่า 200 พิมพ์ รูปหล่อหน้าฝรั่ง รูปหล่ออกซื่อ และรูปหล่อหัวไม้ขีด เป็นต้น ในส่วนของเครื่องราง คือ ตะกรุดโทน ถักด้าย ถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดของบรรดาเซียนพระ มีพุทธคุณ แคล้ว คลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน

พระครูวิมลพัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดช้างเผือก (ปัจจุบัน) ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อทบ บอกว่า ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ท่านได้สั่งเป็นครั้งสุดท้ายว่า ห้ามไม่ให้เผาร่างของท่าน ด้วยในวันข้างหน้า ร่างของท่านจะมีคุณประโยชน์ต่อวัดอย่างมาก

เหรียญสภาพสวยเดิมครับ

 

ผงรูปเหมือนโรยเกศา ลป.ม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี

ประสบการณ์บางส่วนจากเวปพลังจิตประสบการณ์ของผมที่ทำให้ผมตามเก็บพระหลวงปู่ม่นคือว่าเคยไปหาเพื่อนที่งานก่อสร้างแห่งหนึ่งครับพอดีเพื่อนผมคุมงานก่อสร้างทาวน์เฮ้าส์โครงการอยู่กำลังอยู่ชั้น3ของทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งซึ่งมีแต่โครงสร้างแต่ยังไม่มีกำแพงเพื่อนผมกำลังให้คนงานใช้เชือกที่มีผงสีแดงวัดเพื่อเตรียมให้วิศวกรโครงการมาตรวจเพื่อเตรียมก่อกำแพงกั้นห้องชั้น3

คนงานเป็นเด็กวัยรุ่นชายหญิงผมเข้าใจว่าคู่นี้คงกำลังจีบกันอยู่เพราะดูท่าทางกระหนุงกระหนิงกันอยู่ผู้ชายเลยไม่ค่อยระวังทำให้ตอนวัดเขตเตรียมกั้นห้องผู้ชายเดินถอยหลังจนพลาดหล่นจากชั้น3ลงไปกระแทกกลับตอเสาเข็มที่เขาเอาไว้กั้นเขตบ้าน แต่ถูกตัดออกไปเหลือแต่เหล็กเส้นยาวๆประมาณ1ฟุตประมาณ6เส้นนะถ้าจำไม่ผิด เด็กคนนี้หล่นไปจากชั้น3นะครับเอาหลังกระแทกกับตอเสาเข็มที่มีเหล็กนี้อยู่ผมคิดว่าเด็กคนนี้ตายแน่นอนครับเพราะเหล็กต้องแทงทะลุแน่นอนครับผมวิ่งลงจากชั้น3ลงไปชั้น1เห็นเด็กคนนี้นอนร้องแบบดังทั้งโครงการเลยครับ แต่ไม่มีเลือดเห็นแต่เสื้อขาดติดเหล็กตรงตอเสาเข็มอยู่เลยเดินไปดูที่หลังน้องเค้ามีรูใหญ่ๆประมาณ4รู แต่ไม่มีเลือดซักหยดเพื่อนผมเลยขอดูพระเครื่องในคอน้องห้อยเหรียญหลวงปู่ม่นครับ

 

จองครับ

 

อะไรที่มันยุ่งๆ
ก็เกิดจากคนทั้งนั้น
แก้ที่คน แก้ที่กิเลส
ตัณหา ก็คือแก้ที่นิสัย
แก้ที่สันดาน ก็คือ
แก้ที่คนนี่แหละ
ไม่ต้องแก้ที่อื่นเลย
มันเกิดจากคน
เกิดจากตัวเรานี่แหละ
(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

รูปเหมือนงิ้วดำ หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงหาร จ.อุดรธานี ปิดรายการครับ

ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่มีอายุยืนยาวที่สุด ถึง 6 แผ่นดิน

หลวงปู่เครื่อง แห่งวัดเทพสิงหาร ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ไทยองค์หนึ่งที่มีอายุยืนนานร้อย กว่าปีขึ้นไป นอกจากอายุจะมากเกินร้อยแล้ว ท่านยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เคยไปฝึกวิชากับท่านสําเร็จลุน แห่งนครจําปาศักดิ์มาด้วย

หลวงปู่เครื่อง ท่านบวชพระ ณ พัทธสีมาวัดศรีสะเกษ แขวงนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ตอนนั้นอายุ ๒๘ ปี เมื่อบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านก็ตั้งหน้าศึกษาวิชาธรรมต่าง ๆ โดยแยกประเภทดังนี้

ทางสมถะท่านได้ศึกษาวิชา กับ สําเร็จลุน แห่งนครจําปาศักดิ์ เป็นวิชาโลกียะ สามารถแสดงฤทธิ์เดชได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ เช่น เหาะเหินเดินอากาศ บนน้ำ หายตัว อยู่ยงคงกระพันชาตรี หรือจะเพ่งกสิณให้เกิดเป็น น้ำ เป็นไฟ เป็นลม เป็นดินได้ทุกรูปแบบ

ทางแห่งวิปัสสนา ท่านได้มาศึกษาภาคการปฏิบัติอยู่กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นเวลานานถึง ๔ ปี (เป็นยุคแรก ๆ ที่หลวงปู่มั่นยังไม่ค่อยจะมีลูกศิษย์นัก หลวงปู่มั่น อาวุโสพรรษากว่า ๗ ปี แต่อายุน้อยกว่า ๓ ปี)

หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านมักพูดให้ศิษย์ฟังอยู่เสมอ ๆ ว่า “พระอาจารย์มั่น เป็นพระผู้มีแนวทางเป็นพระผู้บริสุทธิ์ พบกันก็ได้รู้ความจริงต่อกันมาก จุดมุ่งหมายปลายทางของท่านและนักปฏิบัติทุกท่าน เอาพระนิพพานเป็นจุดสุดท้าย

สมัยหนึ่ง หลวงปู่เครื่อง ท่านเดินธุดงค์อยู่ฝั่งประเทศลาว ได้พบกับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และเมื่อได้พบกันครั้งหลัง ท่านก็สามารถจดจํากันได้ดี แม้ท่านทั้งสองจะมีอายุยืนยาวชราภาพด้วยสังขาร แต่สติสัมปชัญญะนั้นเลิศประเสริฐแท้ สมกับอริยบุคคลผู้มีความถึงพร้อม ด้วยอรรถธรรม

หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านเป็นพระที่ไม่ติดถิ่น ท่านมุ่งออกเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ จนอายุ ได้ ๗๓ ปี ท่านจึงได้ย้อนกลับถิ่น คือ วัดเทพสิงหาร ต.นายูง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี การกลับมาครั้งนี้ เป็นที่ปีติใจของชาวบ้านทุกคนที่จะได้มีครูบาอาจารย์สอนธรรม และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ผิดหวังเลยที่ได้ตั้งใจไว้ ” หลวงปู่เครื่อง ท่านมีอายุยืนยาวนานถึง ๑๑๓ ปี เป็นพระเถระอาวุโสพรรษา

 

พระพุทธนิรโรคันตราย หลัง ภปร.เนื้อผง กระทรวงสาธารณสุข จัดสร้าง ปี๒๕๔๓ ปิดรายการครับ

พระพุทธนิรโรคันตราย หลัง ภปร.เนื้อผง กระทรวงสาธารณสุข จัดสร้างปี ๒๕๔๓ พิธีพุทธาภิเษก ปลุกเสกโดยพระเกจิแห่งยุค
๑.สมเด็จพระมาหาธีรจารย์ วัดชนะสงคราม กทม.
๒.พระครูสังวรสมณกิจ(ปู่ทิม) วัดพระขาว พระนครศรีอยุธยา
๓.พระครูปริมานุรักษ์(พ่อพูล) วัดไผ่ล้อม นครปฐม
๔.พระมงคลสิทธิคุณ(พ่อลำใย) วัดทุ่งลากหญ้า กาญจนบุรี
๕.พระราชอุดมมงคล(พ่ออุตตะมะ) วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
๖.พระราชธรรมสุธี(พ่อพวง) วัดศรีธรรมาราม ยโสธร
๗.พระครูโสภิตวิริยาภรณ์(พ่ออิฏฐ์) วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
๘.พระครูสุนทรธรรมประภาส(ปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
๙.พระครูอุทัยธรรมกิจ(ปู่ตี๋) วัดหลวงราชาวาส อุทัยธานี
๑๐.ครูพิลาศธรรมคุณ(ปู่โถม)วัดธรรมปัญญาราม สุโขทัย
๑๑.พระครูพินิตนรัญญู(พ่อทอง) วัดสำเภาเชย ปัตตานี
๑๒.พระครูธวัชภัทราภรณ์(พ่อต๊ะ) วัดช้าง นครนายก
๑๓.พระครูอนุรักษ์วรคุณ(พ่อสง่า) วัดหนองม่วง (วัดบ้านหม้อ) ราชบุรี
๑๔.พระครูอาทรพัฒนคุณ(ปู่ญาท่านสวน) วัดนาอุดม อุบลราชธานี ฯลฯ

 

ขอจองครับ

 

พระผงทำน้ำมนต์ เนื้อชมพู ฝังพระธาตุ พลังจิตพิชิตภัยภิบัติ ปลุกเสกโดยหลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด

วัตถุมงคลสร้างแจกฟรีเมื่อ๑๐กว่าปีที่แล้ว หลายท่านอาจมีแล้ว หลายท่านอาจกำลังหาอยู่ เวลานี้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆเพราะส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในมือของนักเล่น จะไปอยู่กับผู้ใช้หรือผู้เก็บ เก็บแล้วเก็บเลยไม่ได้ปล่อยให้บูชาหมุนเวียนในสนาม เหมือนพระเครื่องทั่วไป

คุณสุชาติ อรรัตนสกุล สร้างถวาย คุณ อานุภาพ (โอ๋)บุญเกียรติ เป็นผู้ถวายหลวงปู่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปลุกเสกเมื่อ เดือน มีนาคม 2552 ปลุกเสกพร้อมเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงปูศรี มหาวีโร รุ่นแรก สร้างแจก สมาชิกเวปพลังจิต.คอม

ด้านหน้าเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม มียันต์ สิก ขี อยู่ข้างองค์พระ ด้านหลังมียันต์ทำน้ำมนต์ของพระสารีบุตรแบบเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

พุทธคุณครอบจักรวาลครบทุกด้าน ทั้งกันและแก้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งนิวส์เคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ เป็นมหาสะท้อน มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี อีกทั้งสามารถอธิษฐานทำน้ำมนต์ตามแหล่งน้ำต่างๆได้ โดยมีรัศมีและพุทธานุภาพครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำ และ อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ตามที่อธิษฐาน ให้เห็นผลโดยฉับพลัน ครับ " พลังเหนือโลก " พุทธคุณสูงนำมาอาราธนาไว้บูชาเป็นศิริมงคลยิ่งครับ

 

เหรียญหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ครบรอบ 36ปี เขื่อนภูมิพล ปี2543 เนื้อทองทิพย์ ปิดรายการครับ

เป็นเรื่องที่ประทับอยู่ภายในจิตของพระครูภาวนากิจโกศล (หลวงปู่สอ พันธุโล) อย่างแนบแน่นยากที่จะลืมเลือน และกลายเป็นเหตุการณ์ที่เล่าขานในหมู่นักปฏิบัติธรรมระดับพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนมากจากอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งคำชมเชยและคำสั่งกำชับหลวงปู่สอ ให้รักษาพระพุทธรูปองค์นี้ให้ดี จากพระมหาเถระ เช่น หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ขาวและหลวงปู่มหาบัว เป็นต้น ตลอดจนถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ด้วยอานุภาพของพระพุทธรูปองค์นี้ย่อมเป็นเครื่องยืินยันและรับรองได้ว่า หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และอานุภาพมาก รวมทั้งมีเทพชั้นสูงคอยอภิบาลรักษา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ควรแก่ผู้มีบุญญาบารมีมีศีลธรรมและคุณธรรมโดยแท้...

หลวงปู่สอท่านไม่รอช้า เมื่อได้รับพระพุทธรูปมาตรงตามนิมิตที่ปรากฏชัดเจนในพรรษาที่ ๒ และพรรษาที่ ๖ เท่ากับเป็นการยืนยันความจริงของนิมิตนั้น ท่านปรารถนาที่จะนำสิ่งของดังกล่าวนี้ไปถวายให้พ่อแม่ครูอาจารย์มหาบัวและหลวงปู่ขาวได้ชม จึงได้เรียกให้โยมคนหนึ่ง ไปเอารถออกมารับท่านไปวัดป่าบ้านตาดและวัดถ้ำกลองเพล

เวลาประมาณ ๔ โมงเช้า หลวงปู่สอไปถึงวัดป่าบ้านตาด ท่านรีบเดินตรงไปยังกุฏิพ่อแม่ครูอาจารย์มหาบัว ขณะนั้นท่านกำลังนั่งรออยู่ด้านนอกห้อง คล้ายกับว่าท่านกำลังนั่งรอใครอยู่ พอเห็นหลวงปู่สอขึ้นไปกราบบนกุฏิ ท่านก็พูดทักว่า “ว่ายังไงสิ่งที่ท่านพูดเป็นจริงหรือเปล่า”

หลวงปู่สอท่านไม่ตอบ แต่บอกให้คนขับรถไปเอาสิ่งของดังกล่าวนั้นมาถวายให้ท่านดู เมื่อเปิดผ้าที่ห่อคลุมอยู่ออก พ่อแม่ครูอาจารย์มหาบัวพูดว่า “อือ มันเก่งกว่าพ่อมันอีกนะ่ ของดีนะนี่ ให้รักษาให้ดี”

เวลาประมาณเที่ยงวัน หลังจากนำพระพุทธรูปไปถวายให้พ่อแม่ครูอาจารย์มหาบัวท่านชม หลวงปู่สอก็เดินทางไปถึงวัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่สอร้องเรียกหลวงปู่ขาวอยู่พักหนึ่งท่านจึงมาเปิดประตูกุฏิ หลวงปู่สอรีบกราบเรียนว่า "ได้มาแล้วครับหลวงปู่"

หลวงปู่ขาวพิจารณาดูพระพุทธรูปอย่างละเอียดพร้อมกับสอบถามความเป็นมาต่าง ๆ แล้วจึงพูดว่า “เป็นของดีจริง ๆ นะ ให้ท่านรักษาไว้ให้ดี” หลวงปู่ขาวขอพระพุทธรูปไว้เพื่อภาวนาดูอีกครั้งหนึ่งประมาณ ๑ อาทิตย์ เสร็จแล้วหลวงปู่สอจึงกราบลาท่านกลับวัดอรัญญิกาวาส

เมื่อครบ ๑ อาทิตย์หลวงปู่สอจึงเดินทางไปวัดถ้ำกลองเพลเพื่อรับพระพุทธรูปคืน หลวงปู่ขาวเล่าให้ท่านฟังว่า ขณะที่พระพุทธรูปองค์นี้ อยู่ในกุฏิท่าน ในตอนกลางคืนจะมีแสงสว่างรุ่งเรืองออกมาจากองค์ท่าน มีอยู่คืนหนึ่งมีช้างป่ามาเดินวนเวียนอยู่ข้างกุฏิท่าน แสงสว่างจากองค์พระทำให้สามารถมองเห็นช้างได้

หลวงปู่ขาวได้มอบพระคืนให้หลวงปู่สอ พร้อมกับพูดว่า “พระพุทธรูปนี้เป็นของดีจริง ๆ นะ ดูลักษณะของท่านสิ ปกป้องคุ้มครอง ต่อไปภายหน้าบ้านเมืองจะได้พึ่งพาอาศัยท่าน ให้รักษาไว้ให้ดี ๆ"

ข่าวคราวที่หลวงปู่สอได้รับพระพุทธรูปเก่าแก่มีความศักดิ์สิทธิ์ ตรงตามนิมิตที่ปรากฏไว้ เป็นเรื่องเล่าลือกันในหมู่พระเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเพื่อนสหธรรมิกหลายรูป ในจำนวนนี้มีพระเถระผู้ไหญ่ในสายกัมมัฏฐาน ได้เดินทางมาขอดูพระพุทธรูปดังกล่าวที่วัดอรัญญิกาวาส เช่น หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น โดยเฉพาะหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้มาพักค้างคืนอยู่กับท่านด้วย หลวงปู่ฝั้นพูดกับหลวงปู่สอว่า “ไหนเอามาดูซิ พระที่เกิดในสมาธิ” เมื่อหลวงปู่สอถวายให้ท่านดูแล้ว หลวงปู่ฝั้นท่าน บอกว่า “อือ ! ดีจริง ๆ หายากนะ พระที่เกิดจากสมาธิอย่างนี้ ร้อยองค์ พันองค์ก็ไม่มีองค์หนึ่งนะ

เหรียญหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ชุดนี้ เป็นวัตถุมงคลที่หลวงปู่สอ พันธุโล ได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกไว้ จัดสร้างเมื่อปี 2543 ครบ36ปี เขื่อนภูมิพล

 

สมเด็จแหวกม่านหลังพระสิวลี หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว จ.ชลบุรี ปิดรายการครับ

จัดสร้างราวปี ๒๕๔๙ หลวงปู่ได้ให้นำไปไว้ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์ เริ่มนำมาแจกราวปี ๒๕๕๑ โดยไว้ในโบสถ์อย่างน้อย ๒ปี จนกระทั่งหมดราวต้นปี ๒๕๕๓

...ประสบการณ์ส่วนตัวครับก่อนผมจะรู้จักหลวงพ่อจ้อยวัดหนองน้ำเขียว ผมได้ไปร่วมพิธีปลุกเสกจตุคาม ของวัดเขาคันทรงปีอะไรจำไม่ได้ครับพอเสร็จพิธีหลายๆคนก็เข้าไปให้พระประพรมน้ำมนต์ ผมเป็นหนึ่งในนั้นเริ่มจากหลวงพ่อโทน(ว.เขาน้อยคีรีวัน...แอดมิน)องค์แรกและก็องค์ต่อๆไปพอโดนน้ำมนต์ก็รู้สึกเย็นเป็นธรรมดาและเวียนไปจนถึงหลวงพ่อจ้อยที่ตอนนั้นผมไม่เคยรู้จักเลยว่าพระองค์นี้ชื่อหลวงพ่ออะไรพอโดนน้ำมนของท่านทำเอารู้สึกว่าขนลุกไปหมดทั้งตัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรู้ได้ถึงความเข้มขลังในตัวท่าน

หลังจากนันก็ได้สอบถามตามหาว่าพระองค์นั้นชื่ออะไรอยู่วัดไหนพอได้รู้ว่าท่านชื่ออะไรอยู่วัดไหนก็คิดว่าสักวันจะไปกราบท่านอีกครั้งและหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ไปหาท่านที่วัดของท่านก็ไปกราบท่านได้สมใจคิดและในวันนั้นเองผมก็ได้ลงไปจุดธูปไหว้พ่อปู่ฤาษีที่ศาลด้านล่าง ก็ได้พบพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระพุทธด้านหลังเป็นพระสิวลีเนื้อผง ก็จึงได้เก็บเอาไว้พอหลังจากนั้นมาก็เกิดความคิดแผลงๆลองอธิฐานดูก็ขอให้ได้โชคได้ทองคำหลังจากนั้นเจ็ดวันผมก็เก็บทองคำได้สลึงนึงซื่งตามหาเจ้าของแล้วไม่เห็นก็เลยเก็บเอาไว้เองแต่คราวนั้นก็ยังอยากจะลองอีกว่าจะขลังจริงป่าว ก็อธิฐานให้ได้ทองคำอีกในช่วงปีใหม่กินเลี้ยงที่บริษัทจัดขึ้นพอจับของรางวัลก็เกิดได้ทองคำขึ้นมาอีกสลึงนึง นั่นก็เป็นเรื่องอัศจรรย์แล้วแต่ก็ยังนึกสงสัยอยู่ดีทีนี้ก็เลยให้แฟนลองอธิฐานมั่งในปีเดียวกันงานเลี้ยงบริษัทเหมือนกันแฟนก็อธิฐานให้ได้ทองคำเหมือนกันแฟนผมก็เกิดได้ของรางวัลเป็นทองคำอีกสลึงนึง ทีเนี้ยครับผมรับรู้ได้ถึงความเมตตาและศักสิทธิ์ของหลวงพ่อจ้อยองค์นี้มากและหลังจากนั้นผมก็ได้ลาภลอยอยู่เรื่อยๆนี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมครับแล้วเพื่อนๆมีประสบการณ์อะไรมาเล่าสู่กันฟังมั่งก็ได้นะครับ (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
#ข้อมูลจากเฟสบุ๊คศิษย์หลวงปู่จ้อยวัดหนองน้ำเขียว

 

ขอจองครับ

 

พระสมเด็จหลังบัว พระครูชลโธปมคุณ(ปุ่น) วัดเขาบางทราย ชลบุรี สร้างปี พ.ศ.2538 ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่พระครูชล วัดเขาบางทราย ท่านมีวิชาเยอะ ครูบาอาจารย์ท่านเยอะ แต่ท่านก็ไม่เคยบอกให้ใครที่ไหนฟัง นอกจากคนรุ่นเก่าที่รู้จักกับท่านมานานและสืบรู้ได้เอง ท่านจะเก็บตัวเงียบให้คนทั่วไปเห็นว่าท่านเป็นเพียงพระหลวงตาแก่ๆ อดีตตอนหนุ่มที่เคยเป็น เลขาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นเจ้าคณะธรรมยุตอำเภอจังหวัดชลบุรี พระผู้ใหญ่ของเมืองชลบุรี คนที่ไม่ทันท่านตอนนั้นก็อย่าไปรู้เลย ให้ผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านได้รู้จักท่านเพียงแค่พระลูกวัดธรรมดา พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเท่านั้นพอ

“ อีกหน่อยตะกรุดที่ข้าทำจะหายาก เองเอาตะกรุดไปเก็บไว้นะ ถึงเวลาแล้วบัวเกตุ จะบอกเอง ว่าจะให้เอาไปทำอะไรบ้าง ถ้ามีการหล่อรูปเหมือนข้าที่บัวเกตุ ขอไว้ เองก็เอาตะกรุดนี้ใส่ลงไปด้วย รูปหล่อข้าจะได้ใช้แทนตะกรุดข้าได้ด้วย เองว่าดีไม่ดี “

หลวงปู่พระครูชลฯกับหลวงพ่อบัวเกตุ
​

เป็นไปได้หรือกับคำว่าพระธาตุ
หลังจากเสร็จงานทำบุญ 7 รอบ หลวงปู่พระครูชลโธปมคุณ ( ปุ่น ) ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2538 ในปี พ.ศ.2540 หลวงปู่ได้เรียกผมมานั่งคุยเรื่องการขอพระราชทานสมณศักดิ์ ให้หลวงปู่เป็นเจ้าคุณ ที่สมเด็จพระญาณวโรดม วัดเทพศิรินทราวาส เลขาธิการคณะธรรมยุต ได้มาบอกว่า สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาให้ทำเรื่องขึ้นไป แต่ด้วยหลวงปู่ไม่ต้องการ ที่จะมีสมณศักดิ์เสมอครูบาอาจารย์ เพราะด้วยหลวงปู่เองไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส จึงไม่มีความต้องการที่จะเป็นเจ้าคุณ หลวงปู่บอกว่าเราหนีมาตลอดเลยเรื่องสมณศักดิ์ ตั้งแต่ลาออกจากการเป็นเจ้าคณะอำเภอแล้ว ก็ไม่ต้องการเข้าไปรับรู้เรื่องปกครองคณะสงฆ์ ดวงเราไม่ดีเรื่องปกครอง เราเป็นคนตรงไปตรงมา ดีก็ว่าดี ใช่ก็ว่าใช่ หรือเองว่าใช่ไม่ใช่ละ ในเมื่อเป็นพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช ก็ให้ท่านว่าไป เราจะหนีก็คงไม่ได้แล้ว น่าจะถึงที่ละ

สักพักใหญ่หลวงปู่ออกมาพร้อมผงถุงใหญ่ และบอกว่าต้องการให้นำไปสร้างเป็นพระสมเด็จองค์เล็ก หรือสมเด็จคะแนน ข้างหลังให้ใช้ยันต์ท่านและให้มีดอกบัวอยู่ด้วย พระชุดนี้ข้าจะเก็บไว้แจกเป็นชุดสุดท้าย พระชุดนี้จะมีพระธาตุด้วยนะ หลังจากสร้างเสร็จหลวงปู่ก็อธิษฐานจิตมาตลอด

ข้อมูลจากเฟสบุ๊กพระครูชลโธปมคุณ

พระสภาพผิวเดิมครับมีพระธรรมธาตุเกาะทั้งด้านหน้าและหลัง

 

ขอจองครับ

 

พระสรงน้ำเนื้อดินผสมผง หลวงปู่พระครูชล วัดเขาบางทราย สร้างในปี พ.ศ. 2493

พระสรงน้ำ หลวงปู่พระครูชล วัดเขาบางทราย สร้างในปี พ.ศ. 2493 เพื่อแจกในงานสรงน้ำสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) ที่วัดเขาบางทราย แต่สมเด็จท่านอาพาธเสียก่อน เลยไม่ได้จัดงาน และถึงแก่มรณภาพในปี พ.ศ. 2494

ประโยคหนึ่งที่หลวงปู่เคยพูดอยู่เสมอว่า "ถ้าไม่มีสมเด็จ ก็ไม่มีพระครูชล" ยังดังก้องตรึงใจอยู่เสมอ หลวงปู่รักสมเด็จเพียงใด ประโยคคำพูดนี้ บ่งบอกความหมายได้ดีในตัวเอง

หลวงปู่พระครูชลฯอดีตพระเลขาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์ของหลวงพ่อบัวเกตุ​

ด้านหลังของพระสรงน้ำรุ่นนี้ มีจุดที่น่าสังเกตคือ แทนที่จะใช้ยันต์ อะ อุมะ พะฆะอะ ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ แต่พระสรงน้ำรุ่นนี้กลับใช้ยันต์ อะ อุมะ นะมะยามิ ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์ของหลวงปู่พระครูชล โดยสลับตัวอักษรในช่องกลางเป็น อะ มะอุ นะมะยามิ

หลวงปู่ได้นำพระสรงน้ำเข้าพิธีต่างๆ ทั้งที่วัดเขาบางทรายและที่วัดป่าอรัญญิกาวาส และงานพิธีพุทธาภิเษกตามวัดต่างๆในจังหวัดชลบุรี อยู่หลายสิบปี ได้เริ่มนำออกแจกแก่ศิษย์ประมาณปี พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา ใครที่ได้รับจากมือหลวงปู่ ท่านก็จะบอกว่าเก็บรักษาให้ดีนะ ของเก่านะ

ถือเป็นพระสรงน้ำที่ดีที่สุดของคนชลบุรี เพราะ
1. หลวงปู่ตั้งใจทำถวายสมเด็จในงานสรงน้ำ ปี พ.ศ. 2493
2. มีเกษาสมเด็จ
3. มีผงอิทธิเจของสมเด็จ
4. หลวงปู่นำเข้าพิธีใหญ่ๆหลายแห่ง
5. หลวงปู่อธิษฐานจิตนาน




คนเมืองชลในอดีตเชื่อกันว่า ใครใส่พระสรงน้ำ จะร่มเย็นเป็นสุข เหมือนน้ำที่สรงน้ำพระ เลยทีเดียว ใครที่หาพระสรงน้ำเสาใหญ่ของสมเด็จไม่ได้ ผมเชื่อว่าพระสรงน้ำที่สร้างถวายสมเด็จโดยหลวงปู่ ใช้แทนพระสรงน้ำของสมเด็จที่มีราคาแพงได้อย่างสนิทใจ ประสบการณ์เป็นที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน ทั้งทางด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม และร่มเย็นเป็นสุข

ข้อมูลจากเฟสบุ๊กพระครูชลโธปมคุณ

องค์ที่๑ ปิดรายการครับ


องค์ที่๒ ปิดรายการครับ

 

สมเด็จวัดมะค่า จ.ลพบุรี ผสมผงอิธิเจ กรุวัดสัมฤทธิ์ ปิดรายการครับ

ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ

มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น…………..กล่าวคือเมื่อประมาณ 20 - 30 กว่าปีที่แล้ว มีผู้ใหญ่บางท่านเคยโดนผู้หญิงเล่นคุณไสยกระทำเสน่ห์ใส่อย่างหนัก พระเกจิอริยคณาจารย์หลายท่านเอาไม่อยู่ เพราะแรงเกิน (แม้พระท่านเหล่านั้นจะทรงคุณธรรมหรือภูมิจิตสูงก็จริง แต่หากกำลังจิตไม่แรงพอ ก็สยบเอาไว้ไม่ได้ หรือไม่มีวิชชาเฉพาะ ก็เอาไม่อยู่ เอาไม่ลงเหมือนกันเหมือนมีบัตรรูดผ่านประตูระบบคอมพิวเตอร์อันสุดทันสมัย แต่กุญแจดอกสุดท้ายที่จะถอดสลักต้นตอของปัญหาทั้งหมดดันเป็นกุญแจแบบโบราณที่ต้องใช้ลูกกุญแจเหล็กเสียบไขแต่เพียงอย่างเดียว ถึงแม้นจะมีบัตรรูดคอมพิวเตอร์อันสูงด้วยเทคโนโลยีเป็นพันเป็นหมื่นใบ ก็ไร้ความหมาย ใช้ประโยชน์แก้ปัญหาทำอะไรไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น) ท้ายสุดได้ผงวัดสัมฤทธิ์นี้ไปช่วยแก้ไข ผู้ใหญ่ท่านนั้นจึงได้รอดพ้นจากเสน่ห์คุณไสยอันร้ายแรงนั้นมาได้อย่างน่าทึ่ง...

และยังมีพุทธคุณด้านปกปักษ์คุ้มครองมากมาย ทั้งรถยนต์ การเดินทาง และแม้แต่ในสนามรบ ทหารหาญๆเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดีและพุทธคุณ ที่หลายคนปรารถนาคือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จสมดังความปรารถนาได้ทุกประการ ...!!!แม้แต่ในพื้นที่วัดสัมฤทธิ์ เวลานี้ มีการเจาะบ่อบาดาลใกล้ๆกับแหล่งที่พบผงอิธิเจนี้ น้ำที่โยกขึ้นมาก็กลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้

ประสบการณ์ ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ แก้ดวงตก แก้กรรมได้เคยมีคนชะตาตกแบบที่เรียกว่าคอขาด หรือถึงฆาต พระอาจารย์พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ จ.อยุธยา ก็ได้ใช้ผงฯ นี้ทำน้ำมนต์ให้อาบ และดื่มกินทุกวัน จนถึงวันจะกลับบ้านท่านก็ให้พระสมเด็จวัดยวดแขวนคอไปด้วย แต่ด้วยความที่ดวงไม่ดีก็ไปเจอเรื่องเข้าอีกจนได้ คราวนี้เจอคู่อริรุมซ้อมแต่ก็หนีเอาตัวรอดกลับมาได้ ปรากฎว่าร่างกายไม่บอบช้ำบาดเจ็บมากนัก แต่พระสมเด็จวัดยวดที่ห้อยคอไปถึงกับหักเป็นสองท่อนทั้งที่อยู่ในเลี่ยมตลับ สเตนเลสอย่างดี ? หรือว่าพระสมเด็จที่ห้อยคอท่านจะมารับกรรมแทนตน !!?? จนเจ้าตัวอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้

ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เกี่ยวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ผู้บูชาต้องระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผู้สร้างผงฯนี้เก็บไว้ เพื่ออธิษฐานของสิ่งที่ตนต้องการ เพราะตอนที่ผู้ทำการลบผงนี้ในสมัยนั้นขณะทำการลบผงท่านได้วางอารมณ์ไว้ ที่”อุเบกขา”คือการวางเฉย เราจึงต้องอธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนาจากผงนี้จึงจะสัมฤทธิ์ผล เคยมีนายทหารกลุ่มหนึ่งบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่นั้นมาจึงเกิดการไล่ตามเก็บเช่าบูชากันมาก ทำให้พระวัดยวดที่เคยแจกจ่ายออกมาจากวัดยวดหายไปจนไม่ค่อยมีใครพบเห็นอีกเลย ดังนั้นข้าราชการท่านใดที่ต้องการให้สมประสงค์เรื่องเลื่อนขั้นเลื่อง ตำแหน่งก็ควร จะมีไว้บูชา ท่านใดที่มีแล้วอย่าลืมท่านต้องระลึกถึงผู้สร้างและหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพื่อ อธิษฐานขอแล้วท่านจะประสบผลตามสมประสงค์ทุกประการ

ก็ถ้าผงนี้ไม่มีดีจริง พระเกจิระดับหลวงพ่อกวยท่านจะยอมให้มีส่วนร่วมผสมผสานอยุ่ในวัตถุมงคลของท่าน แทบจะทุกรุ่นเชียวหรือ หากผงนี้ไม่มีความเข้มขลังอย่างหนักแน่นจริง พระชั้นเทพอย่างหลวงพ่อแพจะเอามามวลสารหลักในการสร้างพระพิมพ์ของท่านหรือ พระสมเด็จนฤมิตรโชค หรือสมเด็จกวางใหญ่ มีอิทธิคุณเหลือประมาณอย่างไร ผู้เลื่อมใสจะเป็นคนบอกเรื่องนี้ได้อย่างมั่นคงตลอดไปจริงไม่จริงก็ให้ดูไปที่ราคาเช่าหาเปลี่ยนมือของวัตถุมงคลนั้นๆ ในยุคปัจจุบันกันเอาเองทุกวันนี้ก็ตาละห้อยกันไปเป็นทิวแถว เพราะมัวแต่เกี่ยงความศรัทธาที่มีในใจ เป็นเหตุให้พลาดโอกาสดีๆไปอย่างน่าเสียดาย

ผงอิทธิเจ วัดสัมฤทธ์นี้ มีพระเกจิอาจารย์หลายท่าน นำไปสร้างเป็นพระเครื่อง และอธิษฐานขอให้การสร้างวัดประสบผลสำเร็จ ก็สามารถสร้างวัดได้สำเร็จมาแล้วหลายวัดด้วยกัน รวมทั้งมีพระอาจารย์บางท่านได้ทำการก่อสร้างจนเป็นหนี้สินมากมายมหาศาล แต่ก็สามารถอธิษฐานขอ จนหมดหนี้หมดสินและสร้างวัดได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

ลองเอาไปบูชาดูครับพระไม่แพง150บ.

 

จองครับ

 

ขอจององค์ที่ 1 ครับ

 

รูปเหมือนเนื้อว่านพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ปี๒๕๓๖ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก ให้บูชา250บ.

อาจารย์นองเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เคยร่วมสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่านเมื่อปี 2497 จนโด่งดังทั่วสารทิศ และต่อมาพระอาจารย์นองได้สร้างเครื่องรางของขลังที่ดังไปทั่วเมืองไทย คือตะกรุดนารายณ์แปลงรูปและพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่านฝังตะกรุด นอกจากนั้นแล้วพระอาจารย์นองยังเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งที่ได้รับการยกย่องชมเชยตลอดมา และเป็นพระอยู่ในนิกายมหานิกาย สิริรวมอายุถึงวันมรณภาพได้ 80 ปี 11 เดือน 60 พรรษา ความสัมพันธ์กับอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านเป็นสหธรรมิกกับท่านพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เป็นทั้งกัลยาณมิตรเป็นศิษย์กับอาจารย์ต่อกัน เกื้อกูล เกื้อหนุนกันมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนวาระสุดท้ายของท่านอาจารย์ทิม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2512

ทั้งพระอาจารย์ทิม และอาจารย์นอง เป็นศิษย์ร่วมสำนักวัดประดู่มาด้วยกัน เมื่อพระอาจารย์ทิมมาอยู่วัดช้างให้ และอาจารย์นองไปอยู่วัดทรายขาว ก็ยังมีความสัมพันธ์ดีงามมาโดยตลอด กิจการใดของวัดช้างให้ ท่านจะเป็นผู้คอยช่วยเหลืออยู่ข้างกายพระอาจารย์ทิมทุกอย่าง

ที่สำคัญ การสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี พ.ศ.2497 ถ้าจะกล่าวกันแล้ว ปฐมเหตุจริงๆ ก็มาจากท่านที่เป็นผู้ชักชวนพระอาจารย์ทิมให้สร้างพระหลวงพ่อทวด ตามที่ท่านได้เล่าให้ฟังเท่าที่จำได้คร่าวๆ คือช่วงนั้น ท่านกับพระอาจารย์ทิม ขึ้นมากรุงเทพฯ และไปที่วัดระฆัง เพื่อที่จะไปเช่าบูชาพระสมเด็จของหลวงปู่นาค มาเพื่อให้คนทำบุญจะได้นำเงินไปสร้างโบสถ์วัดช้างให้ พกเงินขึ้นมาประมาณ 3,000 บาท ขณะที่กำลังจะขึ้นไปเช่าพระ ท่านบอกว่า "กูนึกยังไงก็ไม่รู้ สะกิดอาจารย์ทิม บอกว่า ท่านๆ ทำไมเราไม่กลับไปทำพระของเราเองล่ะ" "พระอะไร...?" พระอาจารย์ทิมถาม "ก็พระหลวงพ่อทวดไง" พระอาจารย์ทิมบอก "เออ...!! นั่นน่ะสิ" ทั้งสองท่านจึงได้เช่าบูชาพระสมเด็จหลวงปู่นาคมาเพียงเล็กน้อยและพากันกลับปัตตานี