จิ. เจ. รุ. นิ.

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Samarnl, 31 สิงหาคม 2012.

  1. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    ๖.อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหากุศลจิตฺตํ
    มหากุศลดวงที่ ๖ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    เช่น เจ้านายมาชวนลูกน้องไปทำบุญที่วัด ก็ไปตามที่เจ้านายสั่ง แต่ตัวลูกน้องเป็นผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา เข้าใจเรื่องเหตุและผลแห่งการกระทำกรรม เมื่อไปทำบุญที่วัดก็รู้สึกเฉยๆ
    แต่ตั้งใจทำกุศลอย่างยิ่งในขณะนั้น และได้มีการวิปัสสนาในการทำกุศลนั้นด้วย

     
  2. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ดีล้....ธุ
    ธรรมทานเหมือนทานที่เขาจัดวางไว้
    ผู้ได้เห็นและได้อ่านก็ได้ซื่อว่าได้บริโภคแล้ว
    เมื่อบริโภคแล้วไม่เป็นที่ถูกใจเขาย่อมสละทิ้งเสีย
    เขาผู้นั้นย่อมไม่อิ่มย่อมแสวงหาของใหม่ต่อไป
    เพราะเขาเหล่านั้นตัดสินกันด้วยกิเลสของตน
    เขาบริโภคอาหารย่อมเอารสเป็นที่ถูกใจเป็นที่ตั้ง
    ดังมีคำพูดที่ว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา
    ธรรมะจึงเป็นเหมือนธรรมะโอสถ
    ที่รักษาโรค กิเลส คือโลภะ โทสะ โมหะ ได้อย่างชะงัดนักแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กันยายน 2012
  3. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    ๗.อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหากุศลจิตฺตํ
    มหากุศลดวงที่ ๗ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง

    เราคิดไปล่องเรือทำบุญ 9 วัดในวันเดียว เลยชักชวนเพื่อนไปด้วยกันด้วยความศรัทธาที่มีในพระพุทธศาสนา ขณะเข้าไปไหว้พระทำบุญในช่วงแรก ใจยังแจ่มใสเบิกบานได้ไปไหว้พระ
    วัดที่เรือล่องไปถึง ได้ขึ้นไปไหว้พระ จิตก็ปิติแช่มชื่นดีอยู่ แต่ถึงพอวัดที่ 7,8,9 กลับรู้สึกเฉยๆ เพราะตั้งแต่เช้าเข้าไปไหว้พระทำบุญหลายวัดแล้ว และวัดต่อๆ มาก็ต้องเร่งรีบเพื่อให้ทันกับเวลา จึงทำให้ความปิติเบิกบานหายไปกลายเป็นความเฉยๆ แต่ก็กระทำไปด้วยมีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา มีศรัทธาไหว้พระทำบุญ และไม่สามารถคิดพิจารณาให้เกิดความแจ่มชื่นเบิกบานในการทำบุญได้เนื่องด้วย ไม่เข้าเรื่องกัมมัสสกตาญาณ จึงไม่ได้พิจารณาอะไรให้จิตเกิดปัญญา และเบิกบานแช่มชื่น
    ดังนั้นการไหว้พระทำบุญ ในวัดที่ 7 , 8, 9 จึงทำบุญด้วยความศรัทธาพร้อมด้วยความเฉยๆ



    *************************************************
    ๘. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหากุศลจิตฺตํ
    มหากุศลดวงที่ ๘ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    ส่วนเพื่อนที่ตามไปด้วยก็เป็นมหากุศลดวงที่8 คือถูกชักชวนให้ไปทำบุญ
    และมีความเป็นไปที่เหลือเหมือนกันกับเราผู้ชวน
     
  4. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ขออนุโมทนาสาธุครับ
    ที่ยกตัวอย่างมาจนสำเร็จทั้ง ๘ ข้อธรรม
    เป็นข้ออุปมาที่อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายดีมาก
    จะให้อุปมาในมหาวิบากจิต ก็คิดวาคงไม่ไหวเพราะต้องสอบ
    นั่งสมาธิภาวนาให้มากๆ ปัญญาจะได้เกิดขึ้นเยอะๆ จะได้เกรด A+

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2012
  5. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]
    -มหาวิบากจิต มีจำนวนเท่ากันกับมหากุศลจิต คือ ๘ ดวง ได้แก่

    ๑.โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๑ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง

    ๒.โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๒ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    ๓.โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๓ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง

    ๔.โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๔ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    ๕. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๕ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง

    ๖. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๖ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    ๗. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๗ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง

    ๘. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๘ เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

     
  6. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    สมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา

    สติเป็นเหตุให้เกิดปัญญา

    แต่ถ้าโกรธจนสติแตก งอแงเป็นเด็กถูกแย่งของเล่น
    จะไปร้องด่าคน เรียกคนอื่นช่วย หรือจะแผ่เมตตาให้ตนเองก่อนดีล่ะ
    เมื่อใจร่มๆ เย็นๆ แล้วก็มาพิจารณาหาเหตุผล ให้ตรงทาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2012
  7. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    <table id="post6725260" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_6725260" style="border-right: 1px solid #FFFFFF">
    [​IMG]
    -มหาวิบากจิต มีจำนวนเท่ากันกับมหากุศลจิต คือ ๘ ดวง ได้แก่

    ๑.โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๑ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง



    </td></tr></tbody></table>มหาวิบากโสมนัสเวทนาดวงที่ ๑ ซึ่งเป็นผลของมหากุศลดวงที่ ๑
    มหากุศลจิตเป็นเหตุ มหาวิบากเป็นผล ดังที่ได้อธิบายไปแล้วในมหากุศลจิต ๘
    และ การส่งผลของมหาวิบากจิต ๘ นั้นย่อมส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์ ๑ และเทวดา ๖ ชั้นเท่านั้น บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากดวงที่ ๑ นี้ย่อมเป็นผู้ที่มีปัญญามามากสามารถทำฌาน อภิญญา มรรค ผล นิพพานในชาตินี้ได้ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อุบัติเกิดขึ้นเป็นมนุษย์ก็มหาวิปาก สัมปยุตจิตดวงที่ ๑ นี๋แหละ บุคคลที่เกิดด้วยมหาวิบากดวงที่ ๑ นี้ จะเป็นคนที่ยิ้มง่ายเป็นคนอารมณ์ดี จะไม่โกรธใครง่ายๆ เป็นคนใจดี ชอบทำบุญสุนทานและชอบฟังธรรม และยังเป็นที่รักและเป็นที่ชอบใจต่อใครที่พบเห็น แม้แต่ชาตินี้บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากโสมนัสนั้นจะยิ้มสวยยิ้มง่าย ใบหน้ารับแขกใครเห็นก็อยากสนทนาด้วย ใครได้สนทนาด้วยก็ทำให้จิตมีความโสมนัสไปด้วย จะชอบทำความดี และชักชวนให้ผู้อื่นทำความดี เป็นผู้เกิดมามีเหตุครบ 3 คือมี อโลภะ อโทสะ อโมหะ และมีศรัทธา มีหิริ โอตตัปปะ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012
  8. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ๒.โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๒ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    มหาวิบากโสมนัสเวทนาดวงที่ ๒ ซึ่งเป็นผลของมหากุศลดวงที่ ๒
    มหากุศลจิตเป็นเหตุ มหาวิบากเป็นผล ดังที่ได้อธิบายไปแล้วในมหากุศลจิต ๘
    และ การส่งผลของมหาวิบากจิตดวงที่ ๒ นี้ นั้นย่อมส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์ ๑ และเทวดา ๖ ชั้นเท่านั้น
    บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากดวงที่ ๒ นี้ย่อมเป็นผู้ที่มีปัญญามามากสามารถทำฌาน อภิญญา มรรค ผล นิพพานในชาตินี้ได้
    บุคคลที่เกิดด้วยมหาวิบากดวงที่ ๒ นี้จะเป็นคนที่ยิ้มง่ายเป็นคนอารมณ์ดี จะไม่โกรธใครง่ายๆ เป็นคนใจดี
    ชอบทำบุญสุนทานและชอบฟังธรรม และยังเป็นที่รักและเป็นที่ชอบใจต่อใครที่พบเห็น
    แม้แต่ชาตินี้บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากโสมนัสนั้นจะยิ้มสวย ยิ้มง่าย ใบหน้ารับแขกใครเห็นก็อยากสนทนาด้วย
    ใครได้สนทนาด้วยก็ทำให้จิตมีความโสมนัสไปด้วย จะชอบทำความดี แต่เป็นบุคคลทีต้องมีผู้อื่นชักชวนให้ทำความดี
    เมื่อถูกชักชวนก็ยินดีเต็มใจเสมอ มหาวิบากดวงที่ ๒ นี้เป็นโสมนัสสสังขาริกจะคล้ายๆกับมหาวิบากดวงที่ ๑
    ผิดกันตรงที่เป็น อสังขาริก กับสสังขาริกเท่านั้น กำลังที่จะทำฌาน อภิญญา มรรค ผล นิพพานนั้นจะช้ากว่ามหาวิบากดวงที่ ๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2012
  9. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    กราบขอบพระคุณครับลุงหมาน
    ผมได้อีกแล้ว
    สังขาริกะ

    สงเคราะห์สังขารไปตามมีตามเกิดให้ประมาณไม่ประมาท
    เพื่อรู้ว่ามาทำไมคืออะไร

    สังขารธรรมนี้ปริยัติเต็มๆเลยครับ
    ตัวหงิกตัวงอที่สมมุติเอามาสื่อ
    เป็นรูปเวทนาสัญญลักษ์และสังขารวินญาน

    กายเวทนาจิตธรรมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
    รวมอย่างไร
    หาเองนะครับผมกำลังหาอยู่
    แล้วทำให้เขาหายไป
    วินาศสตุ...........สติสติงอย่าเอาสตัง...........มาเต

    กราบขอบพระคุณขอรับ
    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  10. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    สุดยอดเลยกระทู้นี้
     
  11. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ด่าหรือชมครับไม่ไว้ใจ
     
  12. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    <table id="post6725260" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_6725260" style="border-right: 1px solid #FFFFFF">
    [​IMG]

    ๓.โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๓ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักจูง


    มหาวิบากโสมนัสเวทนาดวงที่ ๓ ซึ่งเป็นผลของมหากุศลดวงที่ ๓
    มหากุศลจิตเป็นเหตุ มหาวิบากเป็นผล ดังที่ได้อธิบายไปแล้วในมหากุศลจิต ๘
    และ การส่งผลของมหาวิบากจิตดวงที่ ๓ นี้ นั้นย่อมส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์ ๑ และเทวดา ๖ ชั้นเท่านั้น
    บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากดวงที่ ๓ นี้
    ย่อมเป็นผู้ที่ไม่มีปัญญา ไม่สามารถทำฌาน
    ไม่สามารถทำอภิญญา มรรค ผล นิพพานในชาตินี้ได้
    บุคคลที่เกิดด้วยมหาวิบากดวงที่ ๓ นี้จะเป็นคนที่ยิ้มง่ายเป็นคนอารมณ์ดี จะไม่โกรธใครง่ายๆ เป็นคนใจดี
    ชอบทำบุญสุนทานและชอบฟังธรรม และยังเป็นที่รักและเป็นที่ชอบใจต่อใครที่พบเห็น
    แม้แต่ชาตินี้บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากโสมนัสนั้นจะยิ้มสวย ยิ้มง่าย ใบหน้ารับแขกใครเห็นก็อยากสนทนาด้วย
    ใครได้สนทนาด้วยก็ทำให้จิตมีความโสมนัสไปด้วย คิดทำความดี คิดทำกุศลได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีใครมากระตุ้นเตือนให้ทำความดี และชอบชักชวนชอบชักชวนผู้อื่นให้ทำความดีเหมือนเช่นตน
    แม้จะเกิดมาด้วยเหตุ ๒ คือ อโลภะ และ อโทสะ ไม่มีเหตุครบ ๓ เหมือนมหาวิปากดวงที่๑,๒
    ผู้ที่เกิดด้วยมหาวิปากดวงที่ ๓ นี้ ไม่มีอโมหะ คือ ปัญญาเกิดมาด้วย แต่ก็สามารถ
    ศึกษาหาปัญญาสะสมไว้ และ เจริญสติปัฏฐาน เป็นพลวปัจจัยสะสมไว้ในขันธสันดาน
    สืบต่อไปยังภพหน้า ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นบุคคลที่เกิดพร้อมด้วยเหตุ ๓ ในภพชาติ
    ต่อไปได้ค่ะ

    หากมีข้อผิดพลาดอย่างไร ลุงแก้ไข หรือเพิ่มเติมให้ด้วยค่ะ

    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2012
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    อูโมทนาครับ
    นั่นแหละการทำ ฌาน อภิญญา มรรค ผล นิพพาน มันไม่ได้ง่ายดังที่คิดกัน
    บุคคลที่เกิดด้วยเหตุ ๒ คือ อโลภะ อโทสะ นั้น ถึงแม้จะปฏิบัติกรรมฐาน ก็ได้แค่อุปจารสมาธิเท่านั้น
    เพราะจะยกจิตขึ้นอัปปนานั้นย่อมยกไม่ได้เพราะขาดปัญญาอันมีวิตกที่จะยกจิตขึ้นอัปปนาฌาน
    แต่ถึงอย่างไรก็ทำไปเถอะแต่ต้องให้ถูกต้องเพราะเป็นปัจจัยไปในภพต่อไป จนกว่าจะเข้าถึงนิพพาน
     
  14. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]

    จิตที่เป็นมหาวิบาก ๘ นี้ทำหน้าที่ ๕ อย่าง คือ ทำหน้าที่ จุติ. ปฏิสนธิ. ภวังค์. ตทา. สัณตีรณจิต
     
  15. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ถ้าด่า ผมด่าตรงๆเลยครับ แบบตรงไปตรงมา และมีเหตุผล ไม่ไว้ใจก็ไม่เป็นไร เข้าใจว่าคุณหมานคงเจอ พวกป่วน หรือ พวกกวนๆ มาเยอะ แต่ผมไม่ใช่พวกแบบนั้นหรอก
     
  16. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ครับขอบคุณ...........
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    นึกถึงคนดีที่หูงข้าวให้เพื่อน

    บัวลอย :'(
     
  18. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    จะว่าไป ห้องนี้ก็บวชกันไปหลายคนทีเดียว
    แม้นบางคนจะสึกออกมาแล้ว

    แต่คงยังไม่อยู่ในสาย..ตาคนจะออกเรือน ไม่ใช่ออกจากเรือน

    นี่ถ้าผู้หญิงบวชง่ายอย่างผู้ชาย อาจคงได้หายไปอีกหลายท่าน
     
  19. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    นี่ถ้าผู้หญิงบวชง่ายอย่างผู้ชาย อาจคงได้หายไปอีกหลายท่าน

    ตรงนี้แหละที่เป็นข้อกำหนดของหญิงชายที่ต่างกัน

    ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ
     
  20. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ๔.โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ กามาวจรมหาวิปากจิตตํ
    มหาวิบากดวงที่ ๔ เกิดพร้อมด้วยความยินดี ไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นโดยมีสิ่งชักจูง

    มหาวิบากโสมนัสเวทนาดวงที่ ๔ ซึ่งเป็นผลของมหากุศลดวงที่ ๔
    มหากุศลจิตเป็นเหตุ มหาวิบากเป็นผล ดังที่ได้อธิบายไปแล้วในมหากุศลจิต ๘
    และ การส่งผลของมหาวิบากจิตดวงที่ ๔ นี้ นั้นย่อมส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์ ๑ และเทวดา ๖ ชั้นเท่านั้น
    บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากดวงที่ ๔ นี้
    ย่อมเป็นผู้ที่ไม่มีปัญญา ไม่สามารถทำฌาน ไม่สามารถทำอภิญญา มรรค ผล นิพพานในชาตินี้ได้
    บุคคลที่เกิดด้วยมหาวิบากดวงที่ ๔ นี้จะเป็นคนที่ยิ้มง่ายเป็นคนอารมณ์ดี จะไม่โกรธใครง่ายๆ เป็นคนใจดี
    ใครชวนทำบุญก็จะทำทันที่ ชอบทำบุญสุนทานแต่ไม่ชอบฟังธรรม และยังเป็นที่รักและเป็นที่ชอบใจต่อใครที่พบเห็น
    แม้แต่ชาตินี้บุคคลที่เกิดมาด้วยมหาวิบากโสมนัสดวงที่ ๔ นั้นจะยิ้มสวย ยิ้มง่าย ใบหน้ารับแขกใครเห็นก็อยากสนทนาด้วย
    ใครได้สนทนาด้วยก็ทำให้จิตมีความโสมนัสไปด้วย ถ้าใครมาชวนทำบุญจะทำทันที ต้องมีใครมากระตุ้นเตือนให้ทำก็จะทำทันที เพราะเป็นคนที่มีแต่ศรัทธาแต่ขาดปัญญา แม้จะเกิดมาด้วยเหตุ ๒ คือ อโลภะ และ อโทสะ ไม่มีเหตุครบ ๓ เหมือนมหาวิปากดวงที่๑,๒ และที่๓ ผู้ที่เกิดด้วยมหาวิปากดวงที่ ๔ นี้ เป็นคนที่ชอบแต่ทำบุญ แต่ไม่ชอบฟังธรรมเพราะเป็นคนที่ขาดปัญญา
     

แชร์หน้านี้

Loading...