คุยกันจันทร์ถึงศุกร์ ในศิษย์และผู้ศรัทธา องค์ หลวงปู่ทอง วัดเกาะ

ใจเย็นๆครับ

ทำใจสบายๆ ถ้าไม่สบายใจ ก็ให้รู้ว่าไม่สบายใจ เอาแค่รู้ แค่เห็น ไม่ต้องทำให้มันหมดไป

เอาแค่รู้ พอรู้ เดี๋ยวตัดได้เองครับ

เอาใจช่วยนะครับ ขอให้ทุกๆอย่างดีขึ้นครับ




...แต่ผมเข้าใจนะ เพราะเวลาผมไม่สบายใจ ผมก็มีอาการเช่นบุคคลทั่วๆไปแหล่ะ แก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

 

พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่ออำนาจ ตปานุยุตโต วัดเขาโป่งใต้ ประจวบฯ

ท่านเป็นศิษย์ใน หลวงปู่นาค วัดหัวหินครับ สำหรับสมเด็จรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก ใช้ผงดีมาก เนื้อคล้ายร้อยปีวัดระฆังเลย ผสมผงบางขุนพรหม ตอนไป

บูชามา ท่านให้บูชาคนละไม่เกิน 1 องค์ แต่ผมอ้อนแล้วอ้อนอีก เลยได้มา 2 องค์

เดิมทีผมไม่รู้จักท่าน แต่มีคนงานที่ กทม เล่าเรื่องท่านให้ฟัง แกว่า ทำงานอยู่โรงงาน ในตัวแก แกจะใส่เสื้อยันต์ของหลวงพ่ออำนาจ ซ้อนไว้ข้างในเสมอ

วันดีคืนร้าย แกโดนจ่อยิงแบบเต็มๆ จำไม่ได้แล้วว่าทำไม หรือ มีเรื่องอะไรจึงถูกยิง ผู้ยิงก็ตั้งใจยิงซะเหลือเกิน เปรี้ยง! แม่นเหมือนจับวาง เข้าที่
ลำตัว

แต่ผลคือ กระสุนติดอยู่ที่ผิว ไม่สามารถทำอันตราย ร่างกายคนงานท่านนี้ได้

พอข่าวนี้เข้าหูเท่านั้น ผมก็มีอันได้ไปนั่งที่วัดท่าน ทันที พร้อมอ้อน ขอบูชาเสื้อยันต์และพระรุ่นนี้ ซึ่งพระรุ่นนี้ค่าบูชาจากวัด ก็แพงแล้วครับ แถมท่านให้บูชาคนละองค์เท่านั้น

ยัง ยังไม่พอ ที่ลืมไม่ได้คือเสื้อยันต์ บูชามาได้ 1 ตัว บุญเหลือเกิน เพราะพวกคนงานแห่กันมาเช่า เกือบเกลี้ยงวัด เหมือนวัดแจกฟรีเลย

ตอนนั้น ที่วัดมีเหรียญนุ่นแรก ของท่านด้วย ผมก็เลยเป็นอันได้ บูชามาอีก


เดี๋ยวนี้การเช่าบูชาก็เพลาลงมาก ไม่เหมือนแต่ก่อน

 

ยังมีอีกวัดที่จะแนะนำคือวัดเขาโป่งเหนือ พระอธิการเทพ ปริชาโน (สมณศักดิ์ สมัยนั้น)

ออกพระสมเด็จ แจกพร้อมซองผ้าป่า หรือ กฐิน นี่แหล่ะ ไม่ว่าทำบุญเท่าไรได้ซองละองค์

พอพระถึงมือผู้ทำบุญ ก็เป็นอันได้ถูกนำมาลองของกันทันที ผมเองทราบข่าว ไม่ทันได้เห็นหรอกครับ เค้าว่า

ลองด้วยอาร์กา ไม่ออกเลย

โชคดี ตอนนั้นผมทำบุญไป 2 ซอง

เลยได้มาสององค์ เป็นแบบชุบรัก 1 องค์ เนื้อสีครีม 1 องค์



โอกาสหน้าจะนำเสนอพระหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง


ที่โชว์นี้ไม่ใช่อะไรครับ เอามาแบ่งๆกันชม พระส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แพงอะไรนัก แต่พอจะมีข่าวและที่มาที่ไปก็เอามาบันทึกไว้ ภายภาคหน้า ผมจะ print เก็บเอาไว้เป็นเล่ม


ว่างๆ เอามานั่งดู มีความสุขดีครับ

 

อย่างน้อยวันนี้ก็รู้สึกดีกว่าเมื่อวานครับอาจารย์

หลังจากได้ฟังแล้วทุกข์ใจมันเบาลง

 

สวัสดีครับ ขอเข้ามาศึกษาอีกครั้งครับ ครับดีจริงๆครับกับการบันทึกเรื่องราว และการเก็บสะสมในสิ่งที่เรารัก ในการณ์ข้างหน้าเรามาพบเห็นอีกครั้งแล้วจะรู้สึกกับความสุขใจ ครับ
ขออนุโมทนา ครับ
คุณพี่ hellboy น่าจะแบ่งเป็นจังหวัดๆ เลยนะครับ เพราะคุณพี่รู้จักพระเกจิคณาจารย์เยอะมาก จะคอยติดตามนะครับ ขอบคุณครับ

 

ขอบพระคุณครับ

ให้แบ่งเป็นจังหวัดๆ คงไม่ไหว เพราะ จับองค์ไหนได้ก็เอามาถ่าย นึกถึงองค์ไหน นึกถึงเรื่องอะไร ก็จะเอามาลงครับ

แค่ติดตามอ่านนี่ ผมก็ดีใจมากแล้วล่ะครับ

ขอบคุณนะครับ
คุณพี่ปีขาล

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>HellBoy, 16, ratsung, ปีขาล </TD></TR></TBODY></TABLE>


สวัสดียามค่ำครับทุกท่าน

 

ผมขอแนะนำให้ทุกท่านไปดาวน์โหลดฟัง http://www.fungdham.com/sound/pramote.html

ดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะท่าน ซักวันจะคิดออก ลองโหลดมาฟังนะครับ

เอาใจช่วยนะครับ

 

คืนนี้ราตรีสวัสครับ โชคดีทุกท่านนะครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>HellBoy, สมบัติ์บุรี </TD></TR></TBODY></TABLE>


สวัสดียามเช้าครับ ทุกท่าน

 

ขอเอาใจช่วยนะครับ

 

สุดยอด เหรียญ หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์ (วัดทุ่งแก้ว) อุทัยฯ ครับ

ท่านเป็นพระที่ได้สติปัฏฐานสี่ แต่ท่านก็ได้วิชาอาคมด้วย เป็นที่น่าสรรเสริญ อย่างยิ่ง ทั้งยังเยี่ยมยุทธ์ครบถ้วนกระบวนความ

ท่านนี้เอง ที่เป็นอาจารย์ หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส ผู้สร้าง เสือ อันลือลั่น อีกทั้งท่านยังได้เรียน การลบผงจักรพรรด์ด้วย

และ หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค ครับ

 

มาดูประวัติท่านกันดีกว่าครับ

พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ. 2469-2533

ชาติภูมิ ท่านมีชื่อเมว่า พุฒ แจ้งอิ่ม เกิดเมื่อ 9 ธันวาคม 2439 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ

เดือน 1 ปีวอก ณ. บ้านหนองเต่า ต.ทุ่งใหญ่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี

ในวัยเยาว์ท่านต้องช่วยบิดามารดาทำนาและเลี้ยงน้อง แต่ท่านมีความสนใจในการปฏิบัติ

ธรรม คือชอบสวดมนต์ก่อนนอนตามบิดาของท่านทุก ๆ คืน ทำให้สวดมนต์ได้ตั้งแต่อายุ

ยังน้อย พ.ศ.2453 ดาจึงนำท่านมาฝากพระสุนทรมุนี (ใจ) เจ้าอาวาสวัดมณีธุดงค์สงฆ์มู

ลิกาวาส ( .ศ.2456 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สกลมหาสังฆ

ปรินายก ได้ประทานนามใหม่ว่า

 

บรรพชา – อุปสมบท

พ.ศ.2454 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดทุ่งแก้ว

6 มีนาคม พ.ศ.2458 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดทุ่งแก้ว โดยมีพระสุนทรมุนี(ใจ คงฺคสโร) เป็นพระอุปัชฌาจารย์ พระมหายอด อกฺกวํโส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้รับฉายาว่า “สุทตฺโต”

การศึกษา

เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ได้ศึกษาธรรมบทและมูลกัจจายน์ตลอดจนธรรมพื้นฐานต่าง ๆ และเมื่อได้อุปสมบทแล้ว ในปี พ.ศ.2459 สอบได้นักธรรมดตรี จากสำนักเรียนวัดทุ่งแก้ว

พ.ศ.2460 พะสุนทรมุนี(ใจ) เจ้าสำนักเรียนวัดทุ่งแล้วและพระอุปัชฌาย์ ได้ส่งท่านไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณะ 18 จังหวัดพระนคร

พ.ศ.2462 สอบได้นักธรรมโท

พ.ศ.2463 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

พ.ศ.2464 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

พ.ศ.2465 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

ในระหว่างศึกษาอยู่ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์นี้ ท่านได้รับความเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารี) อบรมสั่งสอนธรรม จนมีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน และมีโอกาสปรนนิบัติรับใช้ สมเด็จพระวันรัต(เฮง) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความที่เป็นคนอุทัยธานีเหมือนกัน ประกอบกับท่านเป็นผู้มีความวิริยะอุตสาหะและปฏิบัติกิจทางศาสนาได้อย่างเข้ม แข็ง มีศีลาจารวัตรงดงาม จึงเป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระวันรัต(เฮง)เป็นอย่างยิ่ง นับว่าท่านเป็นศิษย์ที่สมเด็จพระวันรัต(เอง) ให้ความเมตตาและไว้ว่างใจมากที่สุด

นอกจากการศึกษาด้านปริยัติธรรมแล้ว พระราชอุทัยกวี(พุฒ) ยังมีความสนใจด้านวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอย่างมาก ดังนั้น ในปี พ.ศ.2496 จึงได้ไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับ พระภัททันตะ อาสภเถระ ธัมมาจริยะ ชาวพม่าที่เดินทางมาเผยแผ่ธรรมะด้านวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย และได้นำความรู้มาอบรมสั่งสอนให้แก่ลูกศิษญ์ชาวอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ.2497 เป็นต้นมา และได้จัดตั้งวิปัสสนามูลนิธิวัดมณีสถิตกปิฏฐารามขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำเพ็ญทานและการกุศลในพุทธศาสนา ได้แก่การบำรุงสำนักวิปัสสนา และสำนักเรียนปริยัติธรรมวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม และส่งเสริมกิจการการกุศลสาธารณประโยชน์ทั่วไป


ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ

 

ด้านการปกครอง

พ.ศ.2469 เป็นผู้รักาการแทนเจ้าอาวาสวัดทหุ่งแก้ว
พ.ศ.2471 (19 กันยายน) เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว
พ.ศ.2476 (6 พฤศจิกายน) เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พ.ศ.2476 (26 กุมภาพันธ์) เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2477 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พ.ศ.2478 เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี



ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ

 

สมณศักดิ์

6 พฤศจิกายน 2476 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่”พระครูศรีรัตนาภิรม”
19 กันยายน 2478 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระสุนทรมุนี อุทัยธานี วรนายก สังฆปาโมกข์”
5 ธันวาคม 2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้น ราชที่ “พระราชอุทัยกวี สมาธินทรียสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”


ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็ให้ความเคารพครับ


ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ

 

มรณภาพ

พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) สภาพสังขารโดยทั่วไปมีสุขภาพอนามัยดี ปราศจากโรคภัยไขเจ็บประจำตัว โดยปรกติท่านจะใช้เวลาปฏิบ้ติวิปัสสนากรรมฐานในกุฏิเสมอ บางครั้งจะปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลานาน 1-2 วัน โดยไม่ออกมาฉันภัตตาหารเลย ท่านเป็นแม่แบบและเป็นที่เคารพ เป็นความภาคภูมิใจของชาวอุทัยธานีมาโดยตลอดทั้งทางด้านปกครองและทางด้านเป็นพระวิปัสสนา ผิวกายของท่านมีราศียิ่งนักมีผิวกายสีชมพู ดูแล้วงามตาและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2533 เมื่อฉันภัตตาหารเช้าแล้ว ท่านก็ได้เข้ากุฏิปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเหมือนเช่นเคย จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ มีผู้เข้าไปพบท่านได้มรณภาพอย่างสงบภายในกุฏิสนทรประมุข สังขารของท่านได้พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุลอย บริเวณหน้าโรงเรียนพระปริยัติธรรม “อุทัยธรรมสภา” เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2534 ยังความเศร้าโศกเสียใจ อาลัยยิ่งแก่เหล่าศิษยานุศิษย์และชาวอุทัยธานีทั้งปวง


ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ <!-- / message --><!-- attachments -->

 

ความรู้ด้านพุทธาคม

เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของพระราชอุทัยกวี (พุฒ) จึงได้แสวงหาและศึกษาจากผู้มีวิทยาคุณอีกหลายองค์ เท่าที่มีการบันทึกไว้มีดังนี้

1.พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด) วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
2.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
3.หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี
4.หลวงพ่อสิน วัดหนองเต่า อ.เมือง จ.อุทัยธานี
5.หลวงพ่อพลอย วัดห้วยขานาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
6.หลวงพ่อจิ๋ว วัดเนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี
7.พระวิบูลวชิรธรรม(สว่าง) วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร
8.หลวงพ่อจ้อย วัดอมฤตวารี(หนองน้ำคัน) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
9.พระอุดมธรรมภาณ(หลวงพ่อสม) วัดทัพทัน อ.เมือง จ.อุทัยธานี

สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้นมีหลายรุ่นด้วยกัน เริ่มตั้งแต่รุ่นแรก เป็นเหรียญปี 2502 ออกโดยกรมการศาสนา ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ ใต้รูปเขียนว่าเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พระราชอุทัยกวี(สุทตฺโต) นอกจากนั้นก็มีสมเด็จที่เรียกว่าสมเด็จฟองเต้าหู้ เหรียญอีกหลายรุ่น รวมถึงเชือกคาดเอวจะเข้ขบฟันที่ท่านเรียนมาจากหลวงปู่พลอย รวมถึงวัตถุมงคลอีกหลายรุ่นด้วยกัน


ข้อมูลจากเวป http://www.pantown.com/x_group.php?u...ontent7&area=3

ขอขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีครับ ทุกท่าน

ขอแจ้งข่าวนิดนึงเกี่ยวกับ วัตถุมงคลของหลวงพ่อชำนาญ และ หลวงปู่ครึ้ม วัดคลองสวน คือ ผมเอามาโชว์เท่านั้น มิได้นำออกให้บูชาครับ

หากรายการไหนสามารถนำออกให้บูชาได้ จะแจ้งให้ทราบนะครับ