"คุณตำรวจวัด"เป็นมิจฉาชีพ หรือไม่

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย jaetechno, 5 กรกฎาคม 2013.

  1. Ronin2008

    Ronin2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +105
    สมมุติฐานว่า คุณตำรวจวัด และ คุณพุทธชยันตี เป็นบุคคลเดียวกัน

    คุณพุทธชยันตี เปิดรับบริจาคหนังสือศีลของสมณะและพระวินัย เมื่อเดือนมกราคม
    คุณตำรวจวัด รับบริจาคเงิน ไปซื้อหนังสือศีลของสมณะและพระวินัย เดือนมิถุนายน

    การมีภาพถ่ายหนังสือ มาแสดงนั้น
    ก็ไม่คลายความสงสัยลงไปได้เลย จำนวนหนังสือในภาพก็มีไม่ถึง 150 เล่ม
    อีกทั้งไม่มีใบเสร็จจากธรรมสภามาแสดง

    ผมไม่ได้รู้จักคุณตำรวจวัด ไม่เคยมีเรื่องมีราวกัน
    ผมเพียงแต่แจ้งพิรุธในหลายสถาน แก่ท่านผู้บริจาค
    ในฐานะพุทธศาสนิกชนคนนึง ที่ป้องกันมิให้มิจฉาชีพรายใด
    มาทำให้ศรัทธาในพุทธศาสนามัวหมอง

    หากท่านประสงค์ได้ความจริงแท้
    โปรดตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนี้ได้ที่ วัดบวรนิเวศ
    และ ธรรมสภา โดยการเสริชหาเบอร์โทรศัพท์จากกูเกิ้ลได้ครับ

    ขอให้ธรรมมะรักษาผู้ประพฤติธรรมทุกท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,585
    ค่าพลัง:
    +3,520
    อนุโมทนาค่ะ
     
  3. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
  4. chakapong

    chakapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    497
    ค่าพลัง:
    +1,305
    ฉายา ตำรวจวัด น่าจะเป็นของคุณ jaetechno มากกว่า ไม่งัันคงโดนมากกกว่านี้เป็นแน่รวมทั้งตัวผผู้เขียนด้วย ขอบคุณที่ช่วยกันสอดส่องมิจฉาชีพที่หากินกับศรัทธาผู้ใจบุญ ตั้งใจสืบทอดพระศาสนา บางเรื่องถ้าเป็นเรื่องจริงต้องโปร่งใส ตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ต้องช่วยกันนะครับอย่าให้หมัดพวกนี้หากินกับศรัทธา
     
  5. Ronin2008

    Ronin2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +105
    มิจฉาชีพต้มตุ๋น คือ คนฉลาด ที่คิดชั่ว คิดเลว

    การจะหลอกคนอื่นๆได้ มิจฉาชีพต้องฉลาด มีไหวพริบ
    พูดจาน่าเชื่อถือ อ้างอิงแหล่งที่น่าเชื่อถือ เมื่อถึงคราวก็จะเบี่ยงเบนประเด็น
    แสร้งทำเป็นโมโห เพราะปกติคนที่เป็นเจ้าทุกข์มักเห็นใจ ลังเลใจในความจริง

    แต่ความจริง ก็คือความจริง
    หลักฐานที่มายืนยันความบริสุทธิ์ไม่มี จึงต้องแสร้งทำเป็นโมโหโกรธา
    ปัดความรับผิดชอบ ไปให้ตัวละครที่ตนสมมุติขึ้นมา รับผิดชอบแทนตนเอง
    พระตัวละครที่สร้างขึ้นมา ให้เบอร์โทรไว้ ก็อาจเป็นตัวมิจฉาชีพเองด้วยซ้ำ

    และ มิจฉาชีพจะโกหกไปทำไมน่ะเหรอครับ ?
    เพื่อเงินไงล่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    [​IMG]


    การเป็นหมอ หรือทหาร หรือด๊อกเตอร์ การเขียนหนังสือก็ดี พิมพ์หนังสือก็ดี วรรณยุกต์ จะไม่มีตกหล่นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2013
  7. Pinit

    Pinit ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,736
    ค่าพลัง:
    +8,006
    เนื่องจากเนื้อหาในกระทู้ ไม่ได้ตรงกับชื่อกระทู้ และไม่ได้เข้ามาแจก เหมือนดังกระทู้ทั่วไป
    ชื่อกระทู้เดิม แจกความรู้เรื่องเกศาพระสังฆราช
    แต่มีความต่อเนื่องมาจากห้อง แจกฟรีแต่มีค่าส่ง
    ดังนั้น ผมจึงขอเปลี่ยนชื่อกระทู้ให้ตรงตามเนื้อหาภายใน
    และจะขอย้ายกระทู้นี้ ไปห้อง ร้องเรียนและปัญหา - PaLungJit.org
    เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังจากนี้ อีก 7 วัน
    ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา จะได้หากระทู้เจอ และจะได้เข้ามาตอบข้อข้องใจของสมาชิก

    ขอเปลี่ยนชื่อกระทู้เป็น "คุณตำรวจวัด"เป็นมิจฉาชีพ หรือไม่
    ที่ใช้ชื่อนี้ เผื่อว่า
    1.คุณตำรวจวัด เห็นชื่อตัวเอง แล้วเข้ามาตอบ
    2.เผื่อสมาชิกท่านอื่นที่รู้จักหรือมีข้อมูล เข้ามาให้ข้อมูล
    3.ที่ใช้คำว่า เป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ นั้น เพราะว่า ทางเว็บมิได้ระบุว่าใช่หรือไม่
    เป็นการเปิดโอกาสให้ ผู้ถูกกล่าวหาได้อธิบาย

    จึงแจ้งมาเพื่อทราบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2013
  8. thaiisuzu

    thaiisuzu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2011
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +777
    โดนเต็มๆๆๆ
     
  9. เขยย่าโม

    เขยย่าโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +685
    ควรแจ้งตำรวจครับ
     
  10. เขยย่าโม

    เขยย่าโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +685
    ผมแก้ข้อความไม่ได้ เอาเป็นว่า อย่าเพิ่งแจ้งตำรวจ โดยให้คุณตำรวจวัดแสดงหลักฐานก่อน ไม่ใช่แค่มาอโหสิกรรม แล้วจบ...รับไม่ได้

    คือกลัวเหมือนกันว่าคุณตำรวจวัด อาจโดนแกล้งจากอีกฝ่ายน่ะ นำหลักฐานการโอนเงินให้โรงพิมพ์ แค่นี้ก็น่าจะยืนยันได้แล้ว

    อนุโมทนา ครับ
     
  11. Ronin2008

    Ronin2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +105
    ท่านเขยย่าโมครับ ไม่มีใครไปกลั่นแกล้งอะไรคุณตำรวจวัดหรอกครับ
    เค้าบอกเอง เค้าสมัครในชื่อ "เพื่อโลก" แต่ไม่เคยใช้โพสต์เลย จำพาสเวิร์ดไม่ได้
    แล้วมาสมัครใหม่ในชื่อ "ตำรวจวัด" แล้วโพสต์รับบริจาคทันที
    ในวันที่สมัคร

    คนไม่รู้จักกันจะไปแกล้งกันทำไม
    กรรมที่เขากระทำต่างหาก ที่กำลังแสดงผลครับ

    ส่วนใบเสร็จรับเงิน ผมคิดว่าควรเป็นใบเสร็จรับเงินจำนวน 150 เล่ม
    ออกในวันที่ คุณตำรวจวัด โพสต์ภาพหนังสือศีลของพระและสมณะวินัยครับ

    ไม่ใช่ใบเสร็จในวันหลังจากนั้น เพราะเค้าอาจยอมเสียเงินไปซื้อภายหลัง
    เพื่อเอาตัวรอดจากคดีนี้ แต่เราสามารถโทรเช็คกับธรรมสภาได้ด้วย ไม่ต้องห่วง
    แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ หลักฐานก็ยิ่งมัดตัว

    มิจฉาชีพรายนี้ ตามที่เพื่อนสมาชิกแจ้งข้อมูลมา
    ก่อเวรกรรมไว้หลายคดีแล้วครับ เจ้าทุกข์รอเห็นหน้าชี้ตัวยืนยันเพียบครับ

    มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอก ลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


    เอาจำนวนคดีย้อนหลัง คูณสามปี ก็น่าจะติดคุกหลายปีอยู่ครับ
    ยิ่งเคยกระทำผิดแล้วลงโทษไปแล้ว ยังกระทำซ้ำ คิดว่าศาลไม่น่าจะลดหย่อนโทษให้ครับ
     
  12. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    หนองคาย - หนุ่มชุมพรอ้างตัวเป็นนายแพทย์ทหารขอเข้าพักในโรงพยาบาลหนองคาย แต่การแต่งกายมีพิรุธติดเครื่องหมายชั้นยศพลเรือนแต่ติดดาวทหาร ทางโรงพยาบาลซักไซ้พบพิรุธจากนิตยสารซุบซิบดารา เลยหนีเข้าห้องน้ำใช้เข็มขัดรัดคอกับโถชักโครกในห้องน้ำหวังฆ่าตัวตาย ตรวจสอบพบเป็นผู้ป่วยทางจิต


    เมื่อเวลา 03.30 น.วันนี้ (21 เม.ย.) พ.ต.ท.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวน (สบ 3) ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลหนองคาย ว่ามีคนแอบอ้างเป็นแพทย์จากแพทยสภาขังตัวเองไว้ไนห้องน้ำของห้องพักแพทย์ ตึกพิเศษ 60 เตียง ชั้น 3 จึงได้รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

    เมื่อเดินทางไปถึงห้องพักแพทย์ดังกล่าวพบว่าประตูห้องน้ำถูกล็อกจากด้านในจึงได้พังประตูเข้าไป ภายในห้องน้ำพบร่างของชายร่างท้วมผิวดำแต่งชุดข้าราชการสีกากี นอนที่พื้นห้องน้ำในลักษณะตะแคงข้างขวา มีสายเข็มขัดตราครุฑของข้าราชการรัดที่คอแบบหลวมๆ ที่ปลายอีกด้านหนึ่งผูกโยงเข้ากับคันโยกปล่อยน้ำของชักโครก ทราบชื่อคือนายอนุชิต ศรีพรหม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.6 ต.บางพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตรวจชีพจรยังคงเต้นเป็นปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันแกะเข็มขัดออกจากลำคอแล้วช่วยกันปฐมพยาบาล แต่นายอนุชิตยังนอนหลับนิ่งทำทีไม่รู้สึกตัว

    นางพรทิพย์ ทองสง่า พนักงานพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติงานเวรตรวจการพยาบาล เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 23.00 น. นายอนุชิตได้เดินทางมาขอติดต่อขอเข้าพักค้างคืนที่โรงพยาบาล พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองคายจัดหาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ใช้งาน โดยอ้างว่าเป็น ร้อยตรีนายแพทย์ธีรวัฒน์ ปิยพสุนทรา สังกัดแพทยสภา มาทำการประเมินการทำงานและสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และตรวจสอบหอพักนักศึกษา

    โดยมีการแต่งตัวเป็นชุดสีกากีแบบฟอร์มข้าราชการและสวมแจ็กเกตสีดำ ปักอักษรคำว่าแพทยสภาไว้ที่ด้านหลัง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดเตรียมห้องพักให้ ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ขอให้เกิดไม่ว่างมีคนใช้งานอยู่ จึงได้จัดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะให้ใช้งาน

    ก่อนที่จะส่งนายอนุชิตเข้าห้องพัก ตนได้สอบถามว่าวันนี้ได้เดินทางไปตรวจงานที่ไหนมาบ้าง นายอนุชิตตอบว่าไปตรวจโรงพยาบาลบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย แต่เมื่อตนได้ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลบึงกาฬกลับพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากแพทยสภาไปตรวจสอบจึงเกิดเอะใจขึ้นมาว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎมาหลอกลวง จึงได้ย้อนกลับไปหานายอนุชิต

    เมื่อไปพบนายอนุชิตที่ห้องพักพบว่านายอนุชิตกำลังใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสารโดยอ้างว่าพิมพ์รายงานที่ไปทำการสำรวจมาทั้งวัน โดยมีการจัดแบบฟอร์มการพิมพ์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนหนังสือของทางราชการ

    ขณะนั้นนายอนุชิตได้ถอดเสื้อคลุมออก ตนสังเกตว่าชุดข้าราชการที่นายอนุชิตสวมใส่ไม่ถูกต้อง เครื่องประดับชั้นยศเป็นข้าราชการพลเรือนแต่กลับมีดาวทองติดทับ ตนได้พยายามพูดคุยสอบถามเพื่อหาข้อพิรุธ โดยถามว่าหากแพทยสภาจะเดินทางมาตรวจสอบก็ต้องมีหนังสือแจ้งถึงผู้บังคับบัญชาของตนให้ทราบ แต่ในครั้งนี้ทำไมไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งนายอนุชิตมีสีหน้าไม่พอใจแล้วตอบว่าทางแพทยสภาได้ส่งแฟกซ์มาแล้ว ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ตนมาพร้อมทีมงานมาด้วยกัน 6 คน แต่แยกย้ายไปที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดร้อยเอ็ด โดยตนมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดหนองคาย ตนจึงขอดูแบบประเมินแบบสอบถามที่จะมาทำการประเมิน นายอนุชิตได้หยิบแบบประเมินออกจากกระเป๋า

    ระหว่างนั้นตนได้สังเกตเห็นนิตยสาร GOSSIP ซึ่งตนเชื่อว่าแพทย์คงไม่อ่านหนังสือบันเทิงซุบซิบดาราอย่างแน่นอน จึงได้ขอดูบัตรข้าราชการจากนายอนุชิต ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่านายอนุชิตต้องเป็นพวก 18 มงกุฎอย่างแน่นนอน เพราะชื่อผู้ออกบัตรให้เป็นชื่อนายแพทย์ปัญญา รักษาวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ซึ่งตามระเบียบแล้วผู้ออกบัตรประจำตัวข้าราชการจะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดของท้องที่นั้นๆ เท่านั้น และถ้าเป็นทหารจริงทำไมไม่ขึ้นกับกระทรวงกลาโหม แต่มาขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข

    แต่นายอนุชิตยังคุยว่าถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามตำรวจดู เพราะเมื่อช่วงหัวคำที่ผ่านมาได้ไปตรวจหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    จากนั้นตนได้ขอตัวออกมาจากห้องเพื่อโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางโรงพยาบาลมายืนเฝ้าที่หน้าห้อง ทันทีที่นายอนุชิตเห็นเจ้าหน้าที่ รปภ.มายืนเฝ้าที่หน้าห้อง นายอนุชิตก็รีบเข้าห้องน้ำและล็อคประตูไม่ยอมออกมานาน 3 ชั่วโมง ร้องเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ

    จึงได้ตัดสินใจพังประตูเข้าไป และพบว่านายอนุชิตใช้เข็มขัดผูกคอตายจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลดังกล่าว

    ด้าน พ.ต.ท.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวน (สบ 3) ปฎิบัติหน้าที่สารวัตรเวร เปิดเผยว่าเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอนุชิตได้เข้าไปพบตนโดยแจ้งว่าตนคือนายแพทย์ธีรวัฒน์ ปิยพสุนทรา มาจากแพทยสภา โดยได้แต่งการในชุดข้าราชการสีกากีและแจ้งขอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พาไปตรวจสอบหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อำนวยการสะดวก

    แต่มาทราบภายหลังว่านายอนุชิตไม่ได้เป็นแพทย์จากแพทยสภาจริงดังที่กล่าวอ้าง และจากการตรวจสอบเอกสารของนายอนุชิตเบื้องต้นพบว่า นายอนุชิตเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ซึ่งเป็นสถานรักษาพยาบาลผู้มีอาการป่วยทางจิต นอกจากนี้ยังพบบัตรประจำตัวของบัตรโรงเรียนวิภาวดีบริบาล ตำแหน่งพนักงานผู้ช่วยพยาบาล ที่มีรูปติดแต่ระบุชื่อว่านายอภิชัย ศรีพรหม จึงได้อายัดไว้เป็นหลักฐาน

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายอนุชิตคงจะมีอาการป่วยทางจิตและมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นแพทย์จึงได้ปลอมแปลงเอกสารและสวมรอยเป็นแพทย์ คาดว่าจะไปตระเวนหลอกคนในหลายพื้นที่โดยเฉพาะสถานที่ราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

    หากผู้ใดสงสัยว่าจะเคยถูกนายอนุชิตหลอกหรือถูกนายอนุชิตทำให้เสียทรัพย์ก็สามารถมาอายัดตัวได้ที่ สภ.เมืองหนองคาย
     
  13. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
  14. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    [​IMG]
     
  15. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    คำให้การจากพี่ท่านนึงที่มาตอบในกะทู้นี้ ขอสงวนนาม ในคดีเก่าๆๆ

    ถ้าจะบอกคนอื่น ก็บอกแต่คนที่น้องสนิทแล้วกันนะครับ พี่ไม่อยากมีเวรกรรมต่อกันแล้วครับ แต่พอนึกแล้วก็จี๊ดทุกทีครับ 555 แต่ก็จะบอกเรื่องคร่าวๆให้แล้วกันนะครับ คือตอนแรกที่พี่รู้จักเค้า เพราะเค้าเอาประวัติหลวงปู่มหาผินมาลงในเว็บพลังจิตครับ เสร็จคนที่มาลงพี่ไม่รู้ว่าเป็นเค้าเองหรือคนอื่น เพราะพอโทรคุยเค้าบอกเป็นคนอื่นมาลงครับ เค้าก็เล่าประวัติหลวงปู่มหาผินให้ฟังพี่ก็ศรัทธาครับ แล้วทีนี้เค้าบอกจะสร้างพระรุ่นแรกถวายหลวงปู่มหาผินครับ พี่ก็จำไม่ได้นะครับว่าจะสร้างกี่องค์ครับ จะทำเป็นอย่างดีใส่ในกล่องเรียบร้อยครับ เค้าบอกจะมาจ้างที่กรุงเทพทำ พี่ก็ถามว่างบทั้งหมดเท่าไรครับ เค้าก็บอกประมาณเท่าไรพี่ก็จำไม่ได้แล้วนะครับ พี่ก็ตกลงทำบุญกับเค้าไป30,000 บาทครับ พอผ่านมาเค้าก็บอกอีกว่าค่ารถขนส่งพระจากกรุงเทพมาชุมพรอีก 10,000 บาท พี่ก็เลยโอนไปอีก 10,000 บาทครับ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการสร้างพระหลวงปู่มหาผินตามที่เค้าบอกพี่โอนไป 40,000 นะครับ ถ้าจำไม่ผิดอาจจะมากกว่านั้นแต่ไม่น้อยกว่านั้นแน่นอนครับ และพี่ยังมีร่วมบุญกับเค้าที่เค้าบอกว่าซื้อกลดถวายพระกรรมฐานครับ รู้สึกว่ากลดละ 700 บาท พี่น่้าจะร่วมบุญไป 4-5 กลดนะครับไม่แน่ใจครับ แล้วเค้าก็โกหกพี่อีกมากมายเลยครับ เค้าก็มากรุงเทพนะครับ ก็นัดเจอที่มาบุญครองครับ เ้ค้าก็นำเกศาหลวงปู่มหาผินมาให้พี่ครับ พี่คิดว่าเกศาหลวงปู่มหาผินกับเกศาสมเด็จพระสังฆราชที่เค้านำมาแจกพี่ว่า เหมือนๆกันครับ พี่อาจจะคิดไปเองนะครับ อันนี้ไม่แน่ใจครับ แล้วตอนหลังก็มีข่าวว่าหมอคนนี้โดนญาติหลวงปู่ต่อว่าและไม่ให้เข้าใกล้หลวง ปู่ครับ เรื่องพระพี่ก็ยังไม่ได้ถามนะครับว่าจะสร้างเมื่อไร เพราะตอนนั้นเค้าก็รับปากพีว่าจะพาพี่ไปที่ชมรมรักษ์พระธาตุอ่ะครับ เค้าบอกเค้ารู้จักเจ้าของให้พี่เตรียมผอบมาหลายๆใบเลย เดี๋ยวเค้าจะพาไปอัญเชิญพระธาตุที่ชมรมนี้ครับ ก็นัดเจอกันตอนแรกที่ชมรมรักษ์พระธาตุ พี่บอกพี่ไปไม่ถูก เจอมาบุญครองได้ไหม เค้าบอกได้พี่ก็รีบบึ่งรถมาจากชลบุรีเลยครับ ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมครับ พอมาถึงมาบุญครองพี่ถามเค้าอยู่ไหนเค้าบอกอยู่ชั้นล่างคุยธุระกับน้องอีกคน อยู่ พี่ก็บอกเค้างั้นพี่ลงไปรอหน้าธนาคารข้างล่างนะ พอพี่ไปรอ ทั้งรอทั้งโทรคุยเป็นชั่วโมงนะครับ สรุปมันบอกมันอยู่เซ็นทรัลเวิล์ดครับ ดูสิครับพี่ปรี๊ดแตกเลยครับ โกรธมากแล้วดันมานัดเรามาบุญครอง มีครั้งนึงบอกด้วยนะครับ ว่าไปวัดหลวงปู่มั่นมา กราบรูปปั้นหลวงปู่แล้วบอกว่า ถ้ามีโอกาสสำเร็จธรรมชั้นสูงในชาตินี้ ขอให้พระธาตุหลวงปู่มั่นเสด็จมา เค้าบอกพอลืมตาก็มีพระธาตุหลวงปู่มั่นเสด็จมาน่าจะ 2 องค์ เค้าบอกเดี๋ยวจะให้พี่องค์นึง จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ครับ เค้าบอกว่าเค้าเป็นหมออยู่สังกัดหมอชนบท ที่ชุมพร พี่ก็เคยถามเค้าว่ามาบ่อยๆอย่างนี้ได้เหรอ เห็นเค้าบอกไปกราบครูบาอาจารย์ทั่วประเทศมาบ่อยมาก แล้ววันนึงหลังจากเค้าหลอกพี่เรื่องนัดมาบุญครอง พี่ก็คิดว่าไอคนคนี้มันตลบแตลงจริงๆ ก็เลยเอ่ยปากขอเงินคืน 40,000 บาท สักพักมันก็เงียบหายไปเลยครับ โทรไปเบอร์เก่ามัน ก็เป็นเสียงผู้หญิงรับพูดเป็นภาษาใต้ว่าไม่รู้จักมัน พี่ว่าคนนี้ 18 มงกุฏครับ มันก็ไม่เคยติดต่อพี่กลับมาเลยครับ เค้าจะเป็นพูดจาดีหว่านล้อมเก่งครับ บอกว่าชอบทำบุญครับ เงินเดือนออกมาต้องทำบุญเ่ท่านั้นเท่านี้ ให้พ่อแม่เท่านั้นเท่านี้ ดูเป็นคนดีซะเหลือเกิน แต่เงินไม่ยอมคืนครับ
     
  16. เขยย่าโม

    เขยย่าโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +685
    ครับ ยังไงก็ช่วยมา update ข้อมูลเรื่อยๆน่ะครับ คนอื่นๆ จะได้เอาไว้เป็นบทเรียน
    สาธุ
     
  17. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    หายเงียบไปเลย ตำรวจวัด เหอ เหอ เหอ
     
  18. Pinit

    Pinit ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,736
    ค่าพลัง:
    +8,006
    เรียนท่านสมาชิกทราบ กรณีการตั้งกระทู้ในห้องร้องเรียน ไม่ว่ากรณีใด
    หากมีคู่กรณี เวลาตั้งกระทู้ แนะนำให้สมาชิกผู้ตั้งกระทู้ นำลิ้งค์ที่ตั้งขึ้น ส่ง PM ไปยังคู่กรณีด้วยครับ
    เช่น กระทู้นี้ ทันทีที่ผมย้ายมาห้องร้องเรียนตรงนี้ ผมได้ส่ง PM ไปยังคุณตำรวจวัด เป็นที่เรียบร้อย
    และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตำรวจวัด หรือคู่กรณีเข้ามาในเว็บก็จะได้เห็นข้อความและลิ้งค์ที่ส่งไป
    ทำให้ไม่พลาดที่จะได้รับข่าวสารนี้ ยกเว้นแต่คู่กรณีจะไม่เข้ามาตอบ


    ในกรณีนี้ ทางเว็บ ไม่สามารถไปบังคับให้ใครตอบได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
    หากคู่กรณีไม่ผิดตามคำกล่าวหา ก็จะมาใช้สิทธิ์แสดงหลักฐานเพื่อความบริสุทธิ์ใจ

    สาเหตุที่ให้ส่ง PM ไปยังคู่กรณี เพราะผมเคยเจอปัญหานี้มา มีสมาชิกตั้งกระทู้ร้องเรียนโดยที่ผมไม่รู้ เลยไม่ได้เข้ามาตอบ
    พอนานวันเข้าสมาชิกก็วิพากษ์วิจารณ์ผมเสียมากมาย
    http://palungjit.org/7915805-post3.html
    ขออภัยที่ยกเรื่องนี้มาเป็นตัวอย่างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ต3.JPG
      ต3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      46.4 KB
      เปิดดู:
      142
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2013
  19. tombangjak

    tombangjak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +282
    ผมขอเสนออะไรนิดหน่อยซึ่งแล้วแต่พิจารณา

    เรื่องกระทู้ร้องเรียน นี่ น่าจะถือเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ควรมาแอบเป็นกระทู้ย่อยๆ และไม่สะดุดตา
    ควรจะเป็นบอร์ดใหญ่อีกบอร์ดไปเลย หรือไม่ก็ เป็นบอร์ดย่อย ในแต่ละบอร์ดใหญ่ เช่นเรื่องนี้ มีปัญหา อยู่ในห้องแจกฟรีมีค่าส่ง ในห้องแจกฟรีมีค่าส่ง ควรมีบอร์ดย่อย สำหรับร้องเรียน ต่างหากไป
     
  20. Pinit

    Pinit ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,736
    ค่าพลัง:
    +8,006
    เข้าใจครับ การทำเว็บตรงนี้ เรามองว่าเว็บเป็นเหมือนบ้าน
    เรามีการแบ่งห้อง เช่น ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพระ ห้องดูหนังฟังเพลง เป็นสัดส่วน
    เวลาเรามีแขกมาเยี่ยมเยือน จะดูสะอาด สบายตา

    ดังนั้น ในเว็บจึงแบ่งห้องไว้หลากหลาย เพื่อให้สมาชิกได้รับความสะดวกสบายเช่นกัน
    ในกรณีที่บางกระทู้มีปัญหา อาจมาจากห้องต่างๆ มีสมาชิกต่อว่ากัน ทะเลาะกันไปมา
    หากเราปล่อยให้อยู่ในที่ตั้งของกระทู้นั้น แขก หรือสมาชิก+บุคคลทั่วไปมาพบเห็น
    ผมว่าจะดูไม่ดีได้ อาจจะมองว่าเว็บนี้ ไปห้องไหนๆ ก็มีแต่ปัญหา ไม่น่าดู ไม่น่าอยู่ได้
    เราจึงเปิดห้องร้องเรียนและปัญหานี้ไว้ เป็นสัดส่วน เสมือนเป็นห้องเก็บของครับ
    เพื่อที่สมาชิก+บุคคลทั่วไปเข้ามาดูนานาสาระในเว็บ จะได้รู้สึกสบายตา เกิดความเป็นระเบียบ

    และการเปิดห้องร้องเรียนและปัญหาไว้นั้น ก็เนื่องมาจากมีการกระทบกระทั่งกันบ่อย
    เมื่อก่อนนี้ ทางเว็บเคยลบกระทู้ที่มีปัญหาออก แต่สมาชิกบางคนก็ไม่ยอม มาต่อว่าทีมงาน
    ว่ามาลบกระทู้เขาทำไม เขากำลังเรียกร้องขอความจริง ขอความเป็นธรรมอยู่
    บางรายมองว่าเว็บไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่งจึงลบกระทู้นั้นออกไป
    แต่อย่างที่บอก ทางเว็บอยากให้ภาพของเว็บมีสาระประโยชน์ บันเทิง และมีความรู้
    รวมถึงเน้นการเผยแผ่พระพุทธศาสนามากกว่า จึงลบออกไป
    สุดท้าย จึงต้องเปิดห้องร้องเรียนและปัญหานี้ไว้ เพื่อให้สมาชิกสามารถเรียกร้องขอความเป็นธรรมได้

    การใช้งานห้องนี้โดยความเหมาะสมแล้ว เว็บอยากให้ใช้ในปัญหาเฉพาะที่เกิดขึ้นภายในเว็บ
    แต่ก็มีสมาชิกบางท่าน นำปัญหานอกเว็บเข้ามาร้องเรียนด้วย

    สุดท้ายนี้ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว ผมอยากจะเรียนสมาชิกทุกท่านว่า
    เว็บ เราเป็นแค่เว็บ มิใช่สถานีตำรวจ หรือศาล จึงไม่สามารถตัดสินให้ใครผิดใครถูกได้ตามกฎหมาย
    สิ่งหนึ่งที่ทางเว็บทำได้เพียงช่วยไกล่เกลี่ย และให้พื้นที่ให้สมาชิกได้ปรับความเข้าใจกัน
    หรือได้แสดงเหตุผลในกรณีถูกพาดพิงเพื่อความเป็นธรรมครับ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...