คุณคือ "ผู้พเนจรจากฟากฟ้า" (Wanderer) หรือ "เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว" (Star Seed) หรือไม่??

เห็นด้วยกับท่านครับ

 

ถาม ท่าน จขกท ค่า คือไม่รู้ว่ามาจากไหนหรือไม่อย่างไร แต่จำได้ว่าตอนเด็กๆประมาณอนุบาล เคยนอนโม้กับเพื่อนในวัยเดียวกันว่า รู้ไหมเรามาจากสวรรค์ ขออภัยนะคะ อาจจะรู้มากแต่เด็กไปหน่อยจิตนาการเจิดไปนิสอิอิ แล้วก็เคยเดินที่โรงเรียนกลางแจ้งค่ะ โตขึ้นมาหน่อยประมาณ ปอสองมั้งคะ แดดร้อนมากก็โมโหแดด อยู่ๆก็พยายามเพ่งที่พื้นให้แดดมันไม่ร้อน ตอนนั้นไม่ทราบว่ามั่นใจได้ไงว่าจะทำได้ แต่ก็แปร็กค่ะอิอิ อ่อและมีอย่างนึงนะคะ ที่เป็นสิ่งที่คิดว่าไม่เคยลืมเลยคือ ตอนเป็นเด็กนั้น ฟิมจะไร้เดียงสามาก ขี้สงสาร ก็มีเพื่อนเด็กคนนึง ขี้อิจฉา แต่ชอบมาแกล้งให้เสียใจ สงสัยกรรมเก่า วันนั้นพ่อของฟืมซื้อคาดผมมาให้ ฟิมก็คาดไป รร เพื่อนที่ว่าเค้าก็มาขอยืมใส่ ไอ้เราก็ใจดีให้ไป ทั้งๆที่ชอบมากเพราะพ่อซื้อให้ ปรากฎไม่คืนค่ะ เค้าบอกหาย ฟืมก็ร้องให้ หลายวันเข้าวันนั้นเพิ่อนที่ว่าไม่มาโรงเรียน ฟิมก็ไปค้นที่ใต้โต๊ะค่ะ ปรากฎ เจอคาดผมของฟิม แต่สภาพเหมือนโดนหมาเอาไปฝัด น้ำตานองหน้า แต่ก็ใส่แบบขาดๆกลับบ้าน อ่อ อีกเรื่องที่ รร เดิมนี้หละค่ะ วันนั้นเห็นว่าแก้วทานน้ำที่แท้งค์น้ำจะแตกเนื่องจากมีเพื่อนคนนึงไปทานแต่ทำแตก เหมือนเห็นก่อนจะเกิดแต่ไม่กี่วินาทีก็เกิดขึ้นจริงๆ อ่อและเพื่อนคนเดิมจะชอบมาขอตังค์ฟิมทุกวัน เราก็ให้ไปทุกวัน จนวันนั้นไม่มีตังค์ นั่งร้องให้เพราะให้คนนี่นไปหมด จนเพื่อนที่ห้องให้ตังฟิมเต็มมือ ฟิมก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ สักพักเพื่อนที่ว่าก็บีบน้ำตามาหาบอกว่าเราขอโทษ แต่วันนั้นเราไม่มีตังกลับบ้านเลย เพิ่งจะมาไถไปตอนเช้ามาเอาอีกละ ตอนนั้นก็ตามเคยค่ะสงสารไม่รู้จะขี้สงสารไรขนาดนั้น ยกให้หมดเลยค่ะทั้งกำมือไม่เสียดายเลย อ่อและตั้งแต่เด็กจะมีนิสัยแปลกอยู่อย่างนึงค่ะ เพิ่งจะเลิกนิสัยนี้ได้ก็ตอนเริ่มปีกกล้า อิอิ นิสัยที่ว่าคือจะไม่ชอบให้ผู้ชายมาถูกเนื่อต้องตัวค่ะ แค่นั่งใกล้ก็ไม่ชอบแล้ว

ที่เล่ามาคือฟิมว่าตอนเด็กจะมีจิตใจที่อ่อนโยนใจดีขี้สงสารมากมากค่ะ และตอนนี้อยากไปเกิดเป็นมนุษย์ต่างดาวมาก อยากถามท่าน จขกท มีบทความที่มีวิธีทำตัวอย่างไรก่อนจะตายและเมื่อตายไปแล้วจะได้ไปเกิดยังดวงดาวอื่นๆไหมคะ

ช่วงนี้รู้สึกว่าอยากเป็นแบบนี้ เพ้อเจ้อไปมาก ขออภัยด้วยนะคะ

อนุโมทนาค่า

 

นี่ก็สงสัย..จะเข้าข่ายมาจากต่างดาวด้วยอีกคนแล้วกระมังครับ

ใจเย็นๆ..แล้วค่อยๆเข้ามาแอบอ่านกระทู้นี้เรื่อยๆนะครับ
เพราะผมยังโพสต์ไม่จบ...ก็เลยยังไม่มีคำตอบให้หนะครับ

ไม่แน่ว่า..โพสต์ไปเรื่อยๆ..คำตอบก็อาจจะโผล่มาก็ได้นะครับ

.............................................................

 

**คุณลักษณะเฉพาะของ Star Seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian)**

ที่มา: Are You Starseed? - Aliens / Extraterrestrial Articles - The Book Of THoTH, By Ragnarok - Submitted by Annumela




Star Seeds คือผู้ที่มีมาจากดาวดวงอื่นๆ ที่ไม่ใช่โลก ซึ่งผมหมายถึง พวกเขาเคยเกิดอยู่บนดาวดวงอื่นๆก่อนแล้ว ก่อนที่จะลงมาเกิดที่ดาวเคราะห์โลกแห่งนี้

และในช่วงเวลานี้ บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ มีจำนวน Star seeds อยู่มากมาย มากกว่าในช่วงเวลาไหนๆในประวัติศาสตร์ของโลกเลยทีเดียว เพราว่าเหตุผล 2 ประการ ดังนี้:

1). ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากที่สุดช่วงหนึ่ง ด้านพัฒนาการของดาวเคราะห์โลกใบนี้ ดังนั้น รูปธรรมชีวิตต่างดาวชั้นสูงทรงภูมิปัญญาทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะมาให้ความช่วยเหลือ ในกระบวนการแห่งความก้าวหน้าครั้งนี้ โดยการส่งประชาชนของตนเองลงมาเกิดบนโลกใบนี้ เพื่อช่วยยกระดับพลังงานของดาวเคราะห์โลกขึ้น และเพื่อช่วยเหลือในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้

หลายๆรูปธรรมชีวิต ก็มาจากมิติที่ 5 เพื่อมาทำหน้าที่เดินนำหน้า ให้ชาวโลกคนอื่นๆเดินตามพวกเขาไป

2). สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับดาวเคราะห์โลกอยู่ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากๆ, อัศจรรย์มากๆ และน่าหลงใหลอย่างมาก จนรูปธรรมชีวิตต่างดาวทั้งหลาย อดใจไม่ไหว และอยากจะมาเห็น และร่วมมีประสบการณ์ด้วย กับปรากฏการณ์การยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์โลกในครั้งนี้


(ยังมีต่อครับ)
...............................................

 

**คุณลักษณะเฉพาะของ Star Seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian)**

ที่มา: Are You Starseed? - Aliens / Extraterrestrial Articles - The Book Of THoTH, By Ragnarok - Submitted by Annumela

**คุณคือ Star Seeds หรือไม่? คุณจะรู้ได้อย่างไร?**

เพราะว่าคุณมาเกิดในที่ๆมีความหยาบและทึบตันมากๆ แถมยังเต็มไปด้วยความมีอัตตาตัวตนสูงปรี๊ดอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้ มันจึงเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะจดจำได้จริงๆ

และนี่คือคุณลักษณะเฉพาะโดยทั่วไปของเหล่า Star Seeds ที่มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian) ถ้าคุณมีคุณลักษณะส่วนใหญ่ตรงตามนี้ มันก็เป็นไปได้ว่าคุณคือ Star seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่

แต่ว่ามันยังมี Star seeds ที่มาจากกลุ่มดาวอื่นๆอีกนะ แต่ก็มีเป็นส่วนน้อย แต่ขอบอกตามตรงว่า ผมไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับพวกเขา ที่จะนำมาทำเป็นรายการแบบนี้ได้ แต่มันก็เป็นไปได้ว่า คุณลักษณะเฉพาะของพวกเขา ก็น่าจะแตกต่างไปจากนี้ อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ:

1). เกิดหลังปี 1968 (พ.ศ.2511): อาจจะมีบ้างที่เกิดก่อนปีนี้ แต่ว่าปีนี้คือปีที่มีการเริ่มต้นครั้งใหญ่

2). รู้สึกว่าตัวเองมาจาก “ที่โน่น” (From “out there”): นี่เป็นเรื่องที่ชัดเจนและง่ายที่สุดเรื่องหนึ่ง

คุณอาจจะมีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า คุณมาจากดาวดวงอื่น, รู้สึกว่าบ้านที่แท้จริงของคุณอยู่ “ที่โน่น” ไม่ใช่ที่นี่ ฉันรู้ว่ามันชัดเจน แต่ทำไมมันถึงได้ดูคลุมเครือแบบนี้ก็ไม่รู้?

3). รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก (Outsider):

คุณอาจจะมีความรู้สึกว่าไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตนี้มากเท่าใดนัก คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าพี่น้องคนอื่นๆ หรือเด็กในครอบครัวอื่นๆเขาช่างเป็นคนในครอบครัวของพวกเขาจริงๆ แต่คุณไม่ใช่

ความรู้สึกแบบว่า “เหมาะสมกับ” “เข้ากันได้ดีกับ” จะยังไม่เกิดขึ้นกับคุณ ตราบใดที่คุณยังไม่ได้เจอ “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” คนอื่นๆ และเมื่อนั้น คุณก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าเข้าใจแล้ว และรู้สึกมีความสุข

4). เป็นคนที่ออกแนวชอบอภิปรัชญา หรือต่อต้านศาสนา (Metaphysically oriented or anti-religious):

คุณจะรู้สึกไม่ค่อยเชื่อถือในหลักคำสอนของศาสนาต่างๆในโลกสักเท่าไหร่นัก คุณอาจจะเคยพยายามอย่างมาก หรือแม้แต่พยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อที่จะยึดมั่นศรัทธา ในระบบความเชื่อของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งศาสนา

แต่ผลสุดท้าย ระบบความเชื่อเหล่านั้น ก็ยังไม่สามารถทำให้คุณพึงพอใจขึ้นมาได้สักเท่าไหร่เลย

เพราะฉะนั้น คุณจึงอาจปฏิเสธทั้งหมด หรือเลือกที่จะค้นหาระบบความเชื่ออื่นๆที่ถูกใจคุณมากกว่า หรือคุณอาจจะสร้างระบบความเชื่อของคุณขึ้นมาเองก็เป็นได้

และคุณอาจจะมีพลังจิต หรือความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์อะไรบางอย่างด้วยก็เป็นได้ เช่น อ่านใจผู้อื่นได้, ตาทิพย์, หูทิพย์ เป็นต้น

5). ไม่ใส่ใจจำวันที่และเวลา (Not date and time conscious):

คุณอาจจะเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการจดจำสิ่งต่างๆ เช่น วันเกิด เป็นต้น คุณอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาเวลาตามหมายกำหนดการณ์ และอาจจะไปตามนัดก่อนเวลา หรือหลังเวลานัดมากเกินไปอยู่บ่อยๆ วันเวลาที่ยึดถือตามนาฬิกาแบบนี้ มันใช้กับคุณไม่ได้ผลสักเท่าไหร่

6). ชื่นชอบเทคโนโลยี (Technophile): คุณรักอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย และสามารถค้นหาวิธีการใช้งานพวกมันได้เองโดยธรรมชาติ โดยที่แทบไม่ต้องอ่านคู่มือการใช้งานเลย

7). เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Harmonious): คุณอาจจะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างมีแต่ความรุนแรง, การรบราฆ่าฟันกัน, และความโกรธแค้นชิงชังซึ่งกันและกัน

คุณอาจจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกขัดแย้งในตัวเอง แต่คุณก็จะเลือกที่จะทำให้โลกรอบๆตัวคุณ มีแต่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความสงบสุข

คุณไม่ได้ต้องการที่จะควบคุมผู้อื่น และคุณก็ปฏิเสธที่จะให้ผู้อื่นมาควบคุมคุณด้วย คุณทนต่อการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนต่อ สัตว์, เด็ก, สตรี หรือสิ่งอื่นๆไม่ได้

และหากว่ามันต้องเกิดสงครามขึ้นจริงๆหละก็ ถ้าเป็นไปได้คุณก็จะเลือกที่จะไม่ไปต่อสู้กับเขา แต่จะอยู่อย่างสงบมากกว่า

8). มีความเสมอภาคและกำกวมทางเพศ (Gender equality and ambiguity):

คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าการเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย มันมีความสำคัญอะไรนักหนา คุณให้เกียรติและให้ความเสมอภาคกันกับคู่ชีวิตของคุณ และคุณก็คาดหวังสิ่งนี้ตอบแทนกลับคืนมาด้วยเช่นกัน

การต่อสู้เพื่อสิทธิทางเพศ (เช่น การเรียกร้องสิทธิสตรี เป็นต้น - Chayutt) เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคุณ, บางทีคุณอาจจะไม่ใช่คนที่ชอบเฉพาะเพศตรงข้ามเท่านั้นก็ได้ หรือคุณอาจจะเป็นคนที่มีลักษณะของทั้งเพศหญิงและเพศชายอยู่ในคนๆเดียวกันก็ได้

9). สัตว์และธรรมชาติ (Animals and nature): คุณมีความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อทุกๆด้านของธรรมชาติ ทั้ง ไกอา (Gaia), ป่าไม้, ภูเขา, ทะเล, สัตว์ป่า และอื่นๆ

คุณมีความรู้สึกที่พิเศษลึกๆอยู่ว่า มันต้องมีความสัมพันธ์ที่ลี้ลับอะไรบางอย่างระหว่างปลาโลมา และปลาวาฬ ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกับคุณ ไม่ใช่เป็นแค่สัตว์โลกโง่ๆตัวหนึ่งเท่านั้น

10). ไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินเป็นใหญ่ (Not money-system oriented):

ระบบที่เชื่อว่าเงินหมายถึงอำนาจ และโครงสร้างแบบบริษัท หรืออะไรทำนองนี้ ไม่ใช่วิถีทางของคุณเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะอยู่ร่วมกับมันไม่ได้ และก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในระบบนี้ด้วยนะ แต่คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยสบายใจกับมันสักเท่าไหร่ที่จะต้องมาทำแบบนี้

คุณไม่ชอบทำงานประจำ และไม่ชอบโครงสร้างการทำงานแบบบริษัทสักเท่าไหร่, คุณเป็นคนประเภทไม่ชอบทำตามกฎระเบียบ และไม่ชอบทำงานในสภาวะแวดล้อมที่เข้มงวด, คุณไม่ค่อยเคารพเชื่อฟังผู้มีอำนาจ จนบางคนต้องพยายามแสดงให้เห็นว่า เขาควรค่าแก่การเคารพนับถือของคุณ

เมื่อรวมข้อเท็จจริงเรื่องนี้เข้ากับความจริงที่ว่าคุณค่อนข้างจะเป็นคนขี้เบื่อง่าย และคุณยังเป็นลูกจ้างที่แย่มากๆอีกด้วยแล้ว บ่อยครั้ง คุณจึงคิดที่จะถอนตัวซะให้รู้แล้วรู้รอดไป แล้วกลับไปอยู่บ้านนอกทำไร่ไถนา หรือไม่ก็ไปรวมกลุ่มกับแกงค์อันธพาลที่ไหนซักแห่ง หรืออะไรทำนองนั้น ไม่แน่นะ คุณอาจจะทำอย่างนั้นจริงๆก็ได้

ยังไงก็ตาม คุณก็ยังไม่ชอบแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงินอยู่ดี ไม่ชอบมากซะด้วย เพราะว่าแทนที่พวกเขาจะมองคุณค่าของคุณจาก “คุณเป็นใคร” แต่พวกเขากลับมองคุณค่าของคุณจาก “คุณมีเงินมากแค่ไหน” แทน

ปัญหานี้ค่อยๆถูกสะสมมาตั้งแต่ตอนที่คุณไม่ชอบโรงเรียน (หรือสถานศึกษาใดๆ) เพราะว่าระบบการศึกษาของมนุษย์โลก ใช้วิธีการสอนให้เคารพเชื่อฟัง และสอนโดยการสอนให้จำ แทนที่จะเป็นการเรียนรู้แบบแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟัง

(ยังมีต่อครับ)
.............................................

 

**คุณลักษณะเฉพาะของ Star Seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian)**

ที่มา: Are You Starseed? - Aliens / Extraterrestrial Articles - The Book Of THoTH, By Ragnarok - Submitted by Annumela

**คุณคือ Star Seeds หรือไม่? คุณจะรู้ได้อย่างไร?**

11). ชอบหลีกหนีความจริง (Escapism): คุณชอบที่จะหลีกหนีเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ และอาจจะสร้าง “โลกในฝัน” ขึ้นมาในความคิดของคุณเอง

คุณอาจจะถูกดึงให้เข้าไปเกี่ยวพันธ์กับการใช้ยาหลอนประสาท เพื่อให้เกิดจินตนาการได้มากขึ้นด้วย พฤติกรรมด้านลบเหล่านี้ จะเกิดขึ้นเมื่อคุณมีแนวโน้มที่จะถลำลึกแล้ว ว่าโลกนี้ช่างหนักหนาสาหัส และโหดร้ายเหลือเกิน โลกนี้ช่างยากลำบากเหลือเกิน และคุณอาจจะมีแนวโน้มที่จะหันไปหายา,
แอลกอฮอล์, หรือสิ่งอื่น เพื่อช่วยให้คุณหลบหนีความเป็นจริงที่ปวดร้าวเหล่านี้ได้

แต่การทำเช่นนั้น จะทำให้คุณล้มเหลวในการต่อสู้ และล้มเหลวในการพัฒนาโลก (อย่างที่คุณตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น) มันจะยิ่งทำให้ปัญหาซับซ้อนมากขึ้นไปอีก และทำให้คุณทำลายตัวเองไปมากยิ่งขึ้นไปอีก

คุณอาจจะตกอยู่ในความสะเทือนใจถ้าคุณไม่ควบคุมชีวิตและการกระทำของตนเอง, คุณอาจจะเป็นโรคจิตหรือโรคประสาทได้ เพราะว่าความแตกแยกทางจิตวิญญาณ อันเป็นผลมาจากการที่คุณรู้สึกว่าที่นี่ไม่สอดคล้องกับจิตสำนึกแห่งความเป็นหนึ่งเดียว อย่างที่คุณคาดหวัง

12). ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity): คุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก และก็รักในงานสร้างสรรค์ของผู้อื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นดนตรี, ศิลปะ, สถาปัตยกรรม, ความงาม, การประกอบอาหาร,...อะไรก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่ทำให้คุณหลงใหลได้ทั้งนั้น

13). เชื่อง่าย (Easy belief): คุณค่อนข้างจะเป็นคนที่เชื่อเรื่อง UFO และสิ่งมีชีวิตต่างดาว ค่อนข้างง่าย เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคุณ แนวคิดที่ว่า “ทุกอย่างล้วนเป็นหนึ่งเดียว” ก็เป็นแนวคิดที่คุณยอมรับได้แบบสบายๆ

14). คุณลักษณะทางกายภาพ (Physical attributes): นี่เป็นเพียงข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพราะว่ายังไงเสีย ร่างกายของมนุษย์โลก ก็มาจากการผสมผสานกันของพันธุกรรมจากเผ่าพัน์ธุ์ต่างๆจากดวงดาวหลายๆดวง

แต่ว่าคุณก็อาจจะนำพาคุณลักษณะทางกายภาพของคุณติดตัวมาด้วยก็ได้ แต่มันก็มีความสำคัญน้อยกว่าคุณลักษณะทางด้านจิตวิญญาณ

พันธุกรรมของคุณจะกำหนด “แถบแห่งความเป็นไปได้” ขึ้นมา แต่กายทิพย์ของคุณ ก็อาจจะไปดึงดูดให้กายเนื้อของคุณ แสดงคุณลักษณะออกมา ในทิศทางที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่มันควรจะเป็น ตามที่รหัสพันธุกรรมของคุณกำหนดไว้เหมือนอย่างที่มันแสดงออกมาในร่างกายของคนปกติคนอื่นๆ

เพราะฉะนั้น คุณดูแตกต่างจากสมาชิกในครอบครัวของคุณคนอื่นๆ อย่างชัดเจนหรือไม่? เพราะถ้าคุณมาจากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian) คุณก็อาจจะมีคุณลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ไม่คาดคิด ดังต่อไปนี้

ดวงตาเป็นรูปเมล็ดอัลมอนด์ ซึ่งอาจจะใหญ่กว่าดวงตาของคนปกติ, ผมสีทอง, ผิวซีด, ดวงตาสีฟ้า หรือ สีฟ้า-เทา, จมูกแบบชาวโรมัน (ไม่มีความลาดเอียงบนดั้งจมูก, รูปร่างตรง), สูง และ ผอม

15). ไวต่อแสง (Photo-sensitivity): ดวงตาของคุณอาจจะไวต่อแสงสว่าง เพราะดาวเคราะห์โลกเป็นที่ๆมีแสงสว่างเข้มข้นรุนแรงเป็นพิเศษ คุณจึงอาจจะต้องการความเข้มข้นของแสงสว่างน้อยกว่าคนอื่นๆ

16). ชอบอยู่ในที่ๆอากาศเย็นๆ (Cold climate adapted): คุณไม่ชอบอยู่ในที่ๆอบอุ่นมากจนเกินไป และพยายามที่จะระบายความร้อนออกในบรรยากาศที่อบอุ่น

คนอื่นๆอาจจะกำลังเล่นอยู่กลางแสงแดด แต่คุณอาจจะนั่งหลบแดดอยู่แต่ในร่ม แต่ผลที่ตามมาก็คือ คุณจะรู้สึกสบายเมื่ออากาศหนาว ในขณะที่คนอื่นๆต้องไปกองกันอยู่หน้าเครื่องทำความร้อน

เอาหละครับ..จากทั้งหมด 16 ข้อนี้ ตรงกับคุณกี่ข้อครับ ?? คุณเชื่อหรือไม่ว่าคุณคือ “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว”??

.............................................................

 

ดาวPleiadian ข้อที่ใช่ ---------> 1 / 2 / 3 / 5 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 15 <---------

 

คนที่มีพลังต้องไปเดอะสตาร์ เพื่อค้นฟ้าคว้าดาวครับ
อนุโมทนา สาธุครับ

 

ของผู้ใหญ่โดนไป9ข้อ เลยครับ เหอๆ แต่ก็ใกล้เคียง

ของดาวลูกไก่ ตรง8ข้อ เป็นช่วงหลังๆ

 

รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล "ชัยคุปต์" นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ มีความเห็นเรื่องนี้ว่า

คุยกับชัยคุปต์ : มนุษย์ต่างดาว - UFO/XFile - ลี้ลับ เรื่องแปลก ผี วิญญาณ - สไปซ์เดย์ (spiceday) ข่าว เกมส์ ผ��


คุยกับชัยคุปต์ : มนุษย์ต่างดาว


ถาม


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_2476 class=t_msgfont>ทำไมมนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์ มักจะคล้ายมนุษย์เรามาก หรือมิฉะนั้น ก็จะคล้ายส่วนผสมระหว่างมนุษย์กับสัตว์ เช่น ตัวเป็นมนุษย์ แต่หัวเป็นสัตว์



ในนิยายวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหลายเรื่อง รู้สึกว่ามนุษย์ต่างดาวจะแปลกกว่าในภาพยนตร์


หลายเรื่อง อ่านแล้วก็ยังนึกภาพไม่ออกนักว่า มนุษย์ต่างดาว หน้าตาหรือรูปร่างหรือตัวตน เป็นแบบไหน ?





ตอบ

เป็นความจริงครับว่า มนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์กับในนิยายวิทยาศาสตร์ มักจะไม่ เหมือนกัน หรือไม่เหมือนกันมากๆ เลยล่ะครับ เรื่องนี้ ใหญ่ๆ แล้ว

เป็นเพราะว่า นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ จะมีความเป็นอิสระเสรีในการนำเสนอภาพของมนุษย์ต่างดาวมากกว่าผู้สร้างภาพยนตร์ และเป็นความท้าทายของนักเขียนมากกว่าผู้สร้างภาพยนตร์ ที่จะสร้างมนุษย์ต่างดาวให้แปลกอย่างที่จินตนาการของผู้เขียนจะสามารถสร้างขึ้นมาได้

ถ้าถามว่า แล้วทำไมนักเขียนจึงมีความเป็นอิสระในการสร้างมนุษย์ต่างดาวให้แปลกได้มากกว่าผู้สร้างภาพยนตร์ คำตอบหลักๆ ก็คือ เป็นเรื่องราวของธรรมชาติ ประเภทของสื่อ กับผู้เสพย์ (คือผู้อ่านในกรณีของนิยายวิทยาศาสตร์ และผู้ชมในกรณีของภาพยนตร์)

สำหรับนิยายวิทยาศาสตร์ จุดแข็งของนิยายวิทยาศาสตร์ในการนำเสนอเรื่องต่างๆ คือความแปลกใหม่ ผู้อ่านจะมีความคาดหวังในการอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ที่จะได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ของมนุษย์ต่างดาวจากจินตนาการของผู้เขียน โดยไม่กังวลหรือถูกผูกมัดว่าจะต้องเข้าใจทุกอย่างที่อ่านอย่างง่ายๆ หรือไม่ ...

แต่สำหรับภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ถึงแม้ผู้สร้างจะต้องการนำเสนอภาพของมนุษย์ต่างดาวให้แปลกใหม่แค่ไหนก็ตาม ก็ถูกจำกัดด้วยข้อเท็จจริงของภาพยนตร์ว่า

ผู้สร้างภาพยนตร์ก็ต้องนำเสนอภาพของมนุษย์ต่างดาวที่ผู้ชมจะรับหรือเข้าใจว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไม่ยากเกินไป หรือต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยด้วย ดังกรณีของนิยายวิทยาศาสตร์

ดังนั้น จึงเป็นโจทย์ใหญ่เสมอสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไม่ว่าจะแปลกใหม่แค่ไหนก็ตาม แต่ประเด็นใหญ่ก็คือ ต้องสร้างมนุษย์ต่างดาวที่ผู้ชมจะเข้าใจหรือทราบได้อย่างไม่ยากเย็น ในขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างมนุษย์ต่างดาวให้น่าสนใจสำหรับผู้ชมด้วย

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้มนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์มักจะออกมาในลักษณะที่คล้ายมนุษย์โลกมาก หรือมิฉะนั้น ก็สร้างมนุษย์ต่างดาวให้มีลักษณะผสมระหว่างมนุษย์โลกกับสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ครับ

อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า ไม่มีภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่ผู้สร้างตั้งใจจะสร้างมนุษย์ต่างดาวให้แปลก ท้าทายจินตนาการของผู้ชมด้วยดังกรณีของนิยายวิทยาศาสตร์เลยหรือ ? คำตอบคือ ก็ไม่ใช่ ...

เพราะมีภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ประเภทที่เน้นความเป็นนิยายวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ยึดติดกับกรอบของการจะต้องสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวให้ดูง่าย ให้ผู้ชมติดตามได้ง่าย แต่ก็มักจะเป็นภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ประเภทที่เน้นกลุ่มผู้ชมทั่วไปครับ

มาถึงวันนี้ อยากทราบว่า อาจารย์คิดอย่างไรเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ในประเด็นว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ ? ยูเอฟโอมีจริง หรือไม่ ?

สรุปตรงๆ สำหรับความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวคือ ผมเชื่อครับว่า มนุษย์โลก มิได้อยู่ตามลำพังในจักรวาลหรอกครับ นั่นคือ ผมเชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง

ส่วนเหตุผลของผม ก็คือ ความรู้ ความเข้าใจ และข้อมูลหลักฐานถึงล่าสุด เกี่ยวกับกำเนิดและการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา และในอวกาศ ยิ่งสนับสนุนโอกาสความเป็นไปได้ของการมีมนุษย์ต่างดาวอยู่ร่วมจักรวาลกับมนุษย์โลกเช่นเรา

ตัวอย่างข้อมูลหลักฐานที่สนับสนุนโอกาสที่มนุษย์โลกมิได้อยู่ตามลำพังในจักรวาล คือ การค้นพบหลักฐานโมเลกุลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต (อย่างน้อย ตามที่มนุษย์หรือนักวิทยาศาสตร์โลกเข้าใจ)

ในอวกาศ การค้นพบสิ่งมีชีวิตบนโลกเอง ในสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น หรือมีชีวิตอยู่ได้ ข้อมูลและความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับกำเนิดและพัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสรุปออกมาว่า ดูเหมือนชีวิต (บนดาวเคราะห์ต่างๆ) จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่พัฒนายาก

ดังกรณีของดาวอังคาร ซึ่งดูเหมือนว่า ในอดีตเคยมีสิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นบนดาวอังคาร แต่ชีวิตบนดาวอังคารไม่พัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ซับซ้อนขึ้น โตขึ้น หลากหลายขึ้น

แล้วก็การค้นพบ (อย่างอ้อมๆ) ดาวเคราะห์ของดาวฤกษ์ ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งล่าสุดมีหลักฐานเป็นการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของเรา รวมแล้ว (ถึงเดือนเมษายน 2547) มากกว่าหนึ่งร้อยดวง

อย่างแน่นอน มนุษย์ต่างดาว ถ้ามีอยู่จริง ก็ ต้องกำเนิดเกิดขึ้นและพัฒนาเป็นชีวิตที่ทรงปัญญา ถึงขั้นเรียกเป็นมนุษย์ได้ บนดาวเคราะห์บริวารของดาวฤกษ์บางดวง

ดังนั้น การค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ จึงเป็นทั้งการยืนยันความเข้าใจของวงการวิทยาศาสตร์โลกว่า ดาวฤกษ์ส่วนใหญ่ มีดาวเคราะห์เป็นบริวาร และโอกาสที่จะมี สิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นร่วมจักรวาลกับโลกก็มีอยู่มาก

สำหรับคำถามว่า ยูเอฟโอ มีจริงหรือไม่? คำตอบของผมคือ ต้องแยกแยะระหว่างความ หมายของยูเอฟโอว่าหมายถึงอะไรกันแน่ กล่าวคือ ยูเอฟโอ หมายถึงสิ่งบินลี้ลับ (UNIDENTIFIED FLYING OBJECT) ที่ไม่ทราบกันว่า คืออะไรกันแน่ หรือ หมายถึงจานบินหรือยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว

เมื่อแยกแยะอย่างนี้แล้ว ผมก็มีคำตอบที่ ชัดเจน สำหรับความหมายแรกของ ยูเอฟโอ (เป็นสิ่งบินลึกลับ) ว่า ยูเอฟโอมีจริง เพราะมีรายงานถึงสิ่งบินลึกลับ ที่ปรากฏให้เห็นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยของเราด้วย เป็นจำนวนนับเป็นหลายหมื่นรายงาน ซึ่งอย่างแน่นอน เมื่อได้รับรายงานที่ชัดเจน ก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้ ...

แต่ถ้ายูเอฟโอ หมายถึง ยานบิน หรือยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งถ้าเป็นของจริง ตรวจสอบอย่างเชื่อถือได้ว่า ได้เกิดขึ้นจริง ก็ย่อมเป็นหลักฐานสำคัญว่า มนุษย์ต่างดาว ได้เดินทางมาถึงโลกเราแล้ว

โดยภาพสรุปรวม รายงานเกี่ยวกับยูเอฟโอทั่วโลกเป็นจำนวนหลายหมื่นราย ประมาณ 85 % ก็ตรวจสอบกันมาแล้วว่า ไม่ใช่ยูเอฟโอตัวจริง นั่นคือ มีคำอธิบายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ยานบินของมนุษย์ต่างดาว

ยังเหลือประมาณ 15 % ซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นยูเอฟโอของจริงหรือไม่ ด้วยเหตุผล ยังขาดข้อมูลหลักฐานที่จะตรวจสอบต่อไปได้ หรือ ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจังครับ




</TD></TR></TBODY></TABLE>

ชัยวัฒน์ คุประตกุล - วิกิพีเดีย

รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการศึกษา นักเขียน นักแปล คอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ เกิดวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2483 ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นบุตรของนายเช็งเฮียง และนางซิวเตียง บิดาเป็นนายแพทย์แผนโบราณ มารดามีอาชีพค้าขาย

เข้าโรงเรียนครั้งแรกที่โรงเรียนบูรพาวิทยากร (วัดบูรพ์) จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่อายุหกปีตามเกณฑ์ แต่ไม่สนุกกับการเรียนจึงออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้าน กลับเข้าเรียนหนังสือครั้งใหม่เมื่ออายุเก้าปีที่โรงเรียนบูรพาวิทยากร เพราะอยากอ่านหนังสือประเภทนิยาย-นิทานด้วยตนเอง

จบการศึกษามัธยม 8 (เทียบกับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ในปัจจุบัน) จากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย เข้าศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ระหว่างที่ศึกษาอยู่ปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์ (จุฬาฯ) สอบได้ทุนโคลัมโบของรัฐบาลออสเตรเลีย เข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยโมนาช (ประเทศออสเตรเลีย)

จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาปริญญาเอก (ฟิสิกส์) แล้วจึงเข้าประจำทำงานครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นปีพ.ศ. 2513 ย้ายโอนมาประจำที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตประสานมิตร ปี พ.ศ. 2525

สนใจเรื่องการเขียนตั้งแต่สมัยเป็นเด็กชอบวิชาทุกวิชาที่มีการสอนในโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เรียงความ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ดนตรี แต่อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์โดยอาชีพเมื่อโตขึ้นและอยากเป็นนักเขียน

โดยเริ่มทดลองเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ เรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ ออกนิตยสารทำมือ (เขียนเองสร้างภาพประกอบเองทั้งเล่ม) ในระหว่างเป็นนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยจำนวน 2 ฉบับ

ประสบการณ์ภาคภูมิใจที่สุด คือ ได้พบและสนทนากับไอแซก อาซิมอฟ (ISAAC ASIMOV) เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ที่มหานครนิวยอร์กและอาเธอร์ ซี. คลาร์ก (ARTHUR C. CLARKE) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ที่เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็น 2 ใน 3 บุคคลที่ชัยวัฒน์ คุประตกุล อยากพบที่สุดในโลก

คนที่ 3 คือ ไอน์สไตน์ ในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งชัยวัฒน์ คุประตกุลก็ได้ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันแต่ไม่ได้พบเพราะไอน์สไตน์จากโลกไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498

 

โมทนาด้วยครับ

เป็นธรรมดาที่คนเอเชียอย่างเราๆจะไม่โดนในข้อของดาวลูกไก่หลายข้อ

เช่น

ข้อ 4 เรื่องศาสนา => พวกฟรั่งเขานับถือคริสต์ มันก็น่าอยู่หรอกที่เขาจะไม่ศรัทธา
เพราะว่าคริสตจักรสอนแต่ให้อ้อนวอนพระเจ้า ให้ล้างบาป อะไรแบบนั้น
แล้วมันจะมีเหตุมีผลตรงไหน ดังนั้น พวกเขาก็เลยไม่ค่อยเชื่อเป็นธรรมดา

ส่วนทางพุทธเรา ดูออกจะมีเหตุมีผลมากกว่า ปฏิบัติได้จริง เห็นผลได้จริง
มากน้อยตามกำลังของตนเอง

แต่ถึงกระนั้น ก็อาจจะยังมีอยู่บ้างในบางประเด็น สำหรับบางคน
ที่อาจจะยังไม่ค่อยเชื่ออยู่

เช่น ผมก็ด้วย ที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่เกี่ยวกับโลก และจักรวาล และภพภูมิของทางพุทธเท่าไหร่
ไม่ใช่ไม่เคยรู้หรือเคยอ่านนะครับ เพราะก่อนที่ผมจะตกลงใจเชื่อหรือไม่เชื่ออะไร
ผมก็ว่าผมเป็นอีกคนหนึ่งหละ ที่จะต้องศึกษาค้นคว้าซะเรียกว่าพรุนไปเลยก่อน
แล้วค่อยตัดสินใจ

แต่ว่าก็ว่าเถอะนะครับ ต่อให้อ่านยังไง ดูยังไง คิดยังไง มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
เช่น ที่ชัดที่สุดก็คือ ที่บอกว่าจักวาลกว้าง ยาวเท่านั้น เท่านี้ โยชน์ เป็นต้น
เพราะพอเอามาเปรียบเทียบกับระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงโลกแล้ว
มันยังน้อยกว่าระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงโลกด้วยซ้ำไป เป็นต้น

แล้วมิหนำซ้ำ พอถามใคร พอขอให้ใครช่วยอธิบาย ก็มักจะได้รับคำตอบสุดฮิตมาว่า

"เรื่องนี้มันเป็นอจินไตย ไม่ควรนำมาคิด เพราะจะทำให้เป็นบ้าได้ มันไม่มีประโยชน์
ควรเอาเวลาไปเร่งปฏิบัติความเพียรดีกว่า..."

หรืออะไรทำนองนี้...

มันจริงหรือ ที่จะทำให้เป็นบ้า..หรือว่าตอบไม่ได้กันแน่
เพราะคนตอบเองก็ยังไม่รู้ และอาจจะยังไม่ค่อยเชื่อเหมือนกัน..หรือเปล่า????

แต่ยังไงเสีย แม้ว่าจะมีบางจุดไม่เห็นด้วยอยู่
แต่พระพุทธศาสนา ก็ได้ทำประโยชน์ให้ผมมากมายเหลือเกิน
รวมถึง มีเหตุ มีผลน่าเชื่อถือมากที่สุดศาสนาหนึ่งสำหรับผมเลยทีเดียว


ส่วนในข้อ 14 และข้อ 16 มันก็เป็นธรรมดาอีกเช่นกัน เพราะเราอยู่เอเชีย
จะไปมีสีผิวสีผม และสีตา อย่างเขาได้อย่างไร ไม่แปลกครับ

................................................

 

นำเพลง Subaru อันแสนไพเราะมาฝากครับ สำหรับทายาทดาวลูกไก่โซนเอเชียโดยเฉพาะ
ใครชอบแหงนมองท้องฟ้าหรือฟังเพลงนี้ฟังเพลงนี้แล้วก็รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมา
ก็เข้าข่าย starseeds นะครับ

ลองจินตนาการว่าเรากำลังเดินอยู่ในถนนที่ยังอีกยาวไกล รอบข้างมืดสนิท แถมลมหนาวยังพัดให้เราหนาวสั่น จะมีเพื่อนที่เป็นเพื่อนคุยก็แค่แสงจากดาวลูกไก่ที่เห็นเท่านั้น หากแต่แม้จุดหมายจะยังมองไม่เห็นเลยสักนิด แต่แสงสว่างน้อย ๆ ก็ดาวเล็ก ๆ นี้ก็เป็นเหมือนกำลังใจให้เรายังต้องก้าวต่อไป จนกว่าจะพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ในสักวันหนึ่ง ท้ายที่สุดจะเหลือก็แค่ความทรงจำที่ยากลำบากไว้เบื้องหลังพร้อมกับดวงดาวที่ยังเหลือให้คนรุ่นต่อไปได้เดินตามอย่าง..

</EMBED><EMBED src=http://www.youtube.com/v/9eubVuMoIZg&hl=en_US&fs=1& width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>



[ Me o tojite nani mo miezu]
เมื่อเราหลับตาก็มองไม่เห็นอะไร

[ Kanashikute me o akereba ]
เพราะว่าความเหงาเดียวดายนี้เอง เราเลยลองลืมตาขึ้นดู

[ Koya ni mukau michi yori ]
หากไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังทุ่งกว้างนั้น

[ Hoka ni mieru mono waห็ nashi ]
มันก็มองไม่เห็นอะไรอยู่เลยที่เบื้องหน้าของเรานอกเสียจาก...

[ Ah, kudakechiru sadame no hoshitachi yo ]
เหล่าดวงดาวที่มีชะตาชีวิตที่ต้องอยู่อย่างกระจัดกระจาย
( จะเห็นว่ากระจุกดาวลูกไก่ เป็นกลุ่มดาวที่กระจาย แต่ก็อยู่ในระยะที่ดึงดูดกัน)

[Semete hisoyaka ni kono mi o terase yo ]
อย่างน้อยที่สุด ก็ช่วยส่องแสงเงียบ ๆ มายังที่ตัวของเราด้วยเถอะ

[ Ware wa yuku aojiroki hoho no mama de ]
พวกเรากำลังจะไป ไปด้วยแก้มที่มีสีซีดเผือดแบบนี้แหละ


[ Ware wa yuku saraba Subaru yo ]
พวกเรากำลังจะไปแล้ว ลาก่อนดาวซูบารุเอย

[ Iki o sureba mune no naka ]
เมื่อเราหายใจ ภายในอกของเรานั้น...

[ Kogarashi wa nakitsuzukeru ]
ลมหนาวนั้นก็ยังร้องหวีดหวิวอยู่ตลอดเวลา

[ Saredo waga mune wa atsuku ]
หากแต่ทว่าในอกเรากลับเร่าร้อน

[ Yume o oitsuzukeru nari ]
ในการที่จะไล่ตามหาความฝันต่อไป

[ Ah, sanzameku na mo naki hoshi tachi yo ]
โอ้.. กลุ่มดาวไร้นามต่าง ๆ ที่ร้องเพรียกหา

[ Semete azayaka ni sono mi o oware yo ]
อย่างน้อยที่สุด ก็ขอให้จบสิ้นลงด้วยความจำที่ยังสดใสชัดเจนเถิด

[ Ware mo yuku kokoro no meizuru mama ni ]
พวกเราก็ยังจะไปด้วย ไปโดยคำสั่งของหัวใจ

[ Ware mo yuku saraba Subaru yo ]
พวกเราก็ยังจะไปด้วย ลาก่อนกลุ่มดาวซูบารุเอย

[ Ah, itsu no hi ka dareka ga kono michi o ]
โอ้.. หากมีวันใดที่มีใครสักคนผ่านมายังถนนสายนี้

[ Ah, itsu no hi ka dareka ga kono michi o ]
โอ้.. หากมีวันใดที่มีใครสักคนผ่านมายังถนนสายนี้

[ Ware wa yuku aojiroki hoho no mama de ]
พวกเรากำลังไปอยู่ ไปด้วยแก้มที่มีสีซีดเผือดแบบนี้แหละ

[ Ware wa yuku saraba Subaru yo ]
พวกเรากำลังจะไปแล้วนะ ลาก่อนกลุ่มดาวซูบารุเอย

 

ขออนุโมทนาครับ

ตัวผมคล้ายกับผู้พเนจรจากฟากฟ้า
มาช่วยเหลือคนอื่นจริงๆ
แต่เวลาเกิดไม่ตรงกับที่กำหนดไว้เลย
คงไม่ใช่...

 

ตรงทุกข้อ ยกเว้น ข้อ 11 กับ 14

ข้อ 11 เคยเป็น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว

ข้อ 14 มีบางอัน

เพลง เพราะมากค่ะ คุณ mead :'D

X'D

 

คุณลักษณะเฉพาะของ Star Seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian)

อ่านแล้วตกใจมากเลยครับ
มีหลายข้อมที่ตรงมาก
1,3,4,6,7,8,9,10,11,12,13,15,16

ข้อ 4 ที่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา ไม่ถึงกับรุนแรงขนาดนั้น เพียงแต่รู้สึกว่า ทำไมคนเราต้องทำนู่นทำนี้ด้วย(พิธีกรรมทางศาสนาบางอย่าง) เราใช้สติและความดีของเราซิ ไม่ต้องไปทำ(พิธีกรรมทางศาสนาบางอย่าง)หรอก ไม่ใช่การดูถูกศาสนานะครับ เพียงแต่รู้สึกแบบนั้น ผู้ที่เคร่งครัดในศาสนาอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ

แต่ทำไมคะแนนของ ผู้พเนจรจากฟากฟ้า Wanderer ถึงไม่ค่อยมีเลยล่ะ หรือเป็นเพราะผมมาจากดาวลูกไก่? ไม่อยากจะเชื่อ แต่อ่านแล้วมันตรงมาก ๆ

 

ผมก็เป็นคนที่

ไม่ศรัทธาในศาสนา และ ไม่สนใจในพิธีกรรมต่าง ๆ ครับ

เพราะผมเคยมีคำถามเกี่ยวกับพิธีกรรมต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ทำให้รู้สึกคล้อยตามซักข้อ
ส่วนใหญ่จะเป็นทำตามกันมา เลยไม่สนใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ

แต่สนใจในปรัชญา และคำสอนของพระพุทธเจ้า แบบดั้งเดิม โดยไม่ผ่านการแปล หรือ ตีความจากผู้ใด
หรือ ข้อความอื่น ๆ ที่รู้สึกน่าเชื่อถือ

และ เชื่อในจุดหมายปลายทางเดียวกัน (ดั้งเดิม) ของทุกศาสนา คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ฟังเสียง crystal spirit แล้ว ทำให้นึกถึงห้วงอวกาศไกลโพ้น





[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.906248/[/MUSIC]

 

คุณลักษณะเฉพาะของ Star Seeds จากกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadian)

โอ แม่เจ้า อะไรจะแม่นขนาดนั้น แม้แต่ข้อ 14 เราก็ยังหาลักษณะที่ใกล้เคียงที่เป็นเราจนได้ ถ้าอยู่แต่ในร่มไม่ออกแดดสักหนึ่งสัปดาห์จะเห็นชัดว่าผิวขาวขึ้น ขาวจางจนเกือบซีด ยิ่งตอนเป็นเด็กผิวซีดเห็นได้ซัด (อาจเป็นเพราะสีของเลือดจาง) ข้อ 15 ตาไวต่อแสงจริง ไม่ชอบแสงจ้าถ้าคนอื่นเห็นสว่างเป็นปกติแต่เราจะแสบตา แม้แต่ข้อ 16 ไม่สู้แดดเอาเลยอ่ะ ถ้าคนอื่นชอบอยู่กลางแจ้ง เราจะชอบอิงอยู่ตามร่มรำไร ขอบคุณคุณชยุตที่ช่วยกระตุ้นจิตวิญญาณให้ตื่น ทุกข้อมันใช่และชัดจนเหลือเชื่อ แทบไม่มีข้อติเลย

 

คืนที่ว่างๆ จะชอบมองท้องฟ้า มองหาดาวดวงที่อยู่ไกลๆ คิดเรื่อยๆ ว่าจะมีใครจากดาวนั้นมาหาเรารึเปล่า



คนใกล้ตัวบอกว่าเราแปลกกว่าคนอื่น ตรงที่คิดต่าง ทำต่าง หลายๆ อย่าง ไม่เหมือนชาวบ้าน เค้าสรุปว่าเพี้ยนๆ ง่ะ




สิ่งที่เราไม่ชอบเลยสำหรับคนบนโลกนี้ ก็คือส่วนใหญ่นะ ไม่ใช่ทั้งหมด มักจะทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว แล้วก็เบียดเบียนกันเอง หลายๆ อย่าง อยู่ว่างๆ ก็ชอบหาเรื่องทะเลาะกัน ทำร้ายกัน ทั้งที่โลกนี้น่าอยู่ดีจะตาย



ตอนเด้กๆ เราเคยฝันว่าตัวเองไปที่ดาวอื่น เป็นดาวที่ไม่มีต้นไม้เลย มีแต่ดินสีเหลือง กับผลึกเหมือนหินสีขาว พื้นที่เป็นแงกว้างมาก คล้ายๆ เหมือง เป็นขอบหลุมลึกมาก และยังฝันเกี่ยวกับอำนาจพลังจิตบางอย่างของมนุษย์ต่างดาวด้วย

 

ถูกหลายข้อเลยแหะ...