คุณคือ ชาวพุทธที่ไหว้ พระอิฐ พระปูน อยู่หรือเปล่า

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย เกาทัณฑ์, 3 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Dongky

    Dongky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +84
    อ้างแต่พระไตรปิฎก เนี่ยแหละ ยิ่งรู้มากยิ่งว่าตัวเองเก่งและดี

    งั้นผมอ้างบ้างสิ คุณเคยเจอคำว่า "ปัจจัตตัง" ไหม *-*
    แล้วบอก คำสอนของพระสงฆ์เชื่อไม่ได้(ท่านก็สอนตามแบบพระพุทธเจ้าสอนแหละเพียงแต่ว่าบารมีไม่ได้สูงพอกับพระพุทธเจ้า)



    แย่มาก
     
  2. Dongky

    Dongky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +84
    ป๊าดๆๆๆๆ

    คุณอ่านไม่จบสินะ


    อนาบัติ (ไม่อาบัติและก็ไม่บาป)
    หนึ่งในนั้นของพระวินัยทุกข้อคือ ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติ *-*

    ที่คุณยกมาคือเรื่องราวของพระวินับที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วพระอรหันต์ยังไม่เห็นมีพระองค์ไหนกระทำซ้ำเลย อย่าว่าแม้พระอรหันต์เลย พระโสดาบัน ต่อให้ความตายอยู่ตรงหน้า ก็ไม่มีวันผิดพระวินัยหรอก

    ฮิฮิ





    เก่งแต่คัดลอกจากตำรา แต่อ่านไม่ทันจบ
    อ่านไม่จบ แล้วเอามาเสนอ แป่วววว
    รู้เลยว่าดีแต่อ้างและคัดลอก
    ว๊า...ตกม้าแล้วละครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  3. Kraiwit_Su

    Kraiwit_Su สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    คุณรู้จักพระใบลานเปล่าหรือไม่ล่ะ เรียนรู้พระไตรปิกฏมากแต่ไม่เคยปฏิบัติ มันก็แค่นั้น
     
  4. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    เห็นด้วยกับทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง กล่าวได้ถูกต้องดีแล้ัว ดิฉันภัทรอังคาร ก็ยังกราบไหว้ พระุพุทธรูป พระอิฐ พระปูน แขวนพระเครื่อง แล้วมันเป็นไรไหมไอ้น้อง ถ้าจะต้องตกนรกเพราะการกระทำดังกล่าวก็ยอมเพราะการกระทำดังกล่าว เป็นการนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย คุณพระคุณ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ แล้วมันผิดตรงไหน เป็นการระลึกนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เขากราบไหว้กัน เขาไม่ได้คิดว่าเขาไหว้ อิฐ ไหว้ ปูน แต่เขากราบไหว้ใจเขาก็น้อมไปหาพระพุทธองค์ พระธรรมคำสั่งสอน และพระสงฆ์ที่ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

    ตั้งกระทู้แบบนี้มันแรงไปหน่อยไหม อายุก็แค่ยี่สิบ พึ่งจะเข้ามาสมัครให้เกียรติคนอื่นที่เขาอยู่มานาน ศึกษามามากกว่าเรารู้ดีกว่าเราบ้าง อายุยี่สิบอวดดีได้ขนาดนี้เชียวรึ เก่งมากเลยใช่ไหมพระไตรปิฎกเนี่ย ปิดตำราแล้วมานั่งถกกันแบบไม่ต้องใช้ตำราดีกว่าไหม ดูสิว่าจะไปได้สักกี่น้ำ

    เห็นหัวข้อกระทู้แล้วกวนอารมณ์มาก คุณนะบาปมากนะที่มาทำลายความศรัทธาของคนอื่นที่เขามีอยู่แต่เดิม ทำให้เขาเกิดเข้าใจผิดๆ หรือไขว่เขว ถามว่าคนที่จะไปนรกคือใคร ถ้าคนที่กราบไหว้พระอิฐ พระปูนจะต้องตกนรก งั้นก็คงเจอคุณเจ้าของกระทู้ในนรกเหมือนกันนะ มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำดีไหมไอ้น้อง เซ็งฟระบอกตามตรง แล้วชีวิตนี้นะก็จะขอกราบไหว้อย่างงี้ตลอดไปไม่เลิก มีไรป่าว ถ้ามันจะต้องตกนรกเพราะกราบไหว้พระพุทธรูปก็ให้มันรู้ไป
     
  5. ohm_chiangmai

    ohm_chiangmai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +2,920
    ส่องกระจก...แล้วยกเอากะลาออกจากศรีษะซะเถอะนะ...

    ถ้าไม่พอใจจะอยู่ในสังคมที่เขาเป็นกัน...ก็ออกไปอยู่ตามป่า ตามเขา แล้วอย่าลืมหอบเอาพระไตรปิฏก เล่มที่ว่าไปนอนกอดด้วยนะ...มีหลายเล่มคงแบกกันหนักหน่อย

    ถามจริงเหอะ...พ่อแม่ไม่รักเหรอ...ที่บ้านขาดความอบอุ่นปะเนี่ย...หรือว่าเก็บกด โดนที่บ้านทารุณ...ลักษณะคนแบบนี้ มั่นใจได้เลยว่าพ่อแม่พี่น้อง...จะต้องสวดมนต์ไหว้พระ มีพระพุทธรูปเต็มบ้าน...เลยต้องมาหาปมเด่นบนโลกของไซเบอร์...เพื่อข่มคนอื่น และดูแคลนคนที่ปฏิบัติในแบบที่ตนต้องการคัดค้าน...เดาว่า...แม่กะพ่อ คงไปไหว้พระพุทธรูป แล้วลืมให้นมใส่ขวดไว้ให้เขาดูดตอนเป็นเด็ก ...เลยทำให้เกิดอคติกับพระพุทธรูป ดูสิ เค้าเน้นแต่พระพุทธรูปด้วยนะ เจดีย์ก็ไม่เอา...เออ เอาเข้าไป....ดีใจนะครับ ที่ได้เจอคนแบบนี้...เพราะคนแบบนี้ ...หาได้ยาก...เพราะเค้าเป็นคนที่เทียบได้กับบัวระดับต่ำสุด ที่เรียกขำๆว่า "บัวเต่าถุย" ...หายากมากๆครับ ยินดีที่ได้เจอครับ...
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับ ผม ผมบอกท่าน จขกท. ไปแล้วว่าอยู่ในหมวดพระพุทธรูป เพิ่มให้อีกก็ได้ ในหมวดชาดกพุทธประวัติครับ ลองใช้สตินิดในการอ่านนิดหนึ่ง ก็จะดีมากนะครับ

    อีก อย่างผมเองไม่ทราบเหมือนกันครับ ว่าอยู่เล่มไหนในทั้งหมด 91 เล่มนะครับ(ผมไม่มีพระไตรปิฎก 91 เล่มนะครับ) แต่ที่แน่ๆๆ มีกล่าวไว้เยอะเลยนะครับ

    ด้วยความสามารถ+ด้วยปัญญาอันมากของ จขกท. ค่อยๆเปิดหาทีละหน้าหรือหาในเว็ปที่ท่าน จขกท. นำมา คงหาเจอนะครับ


    ส่วนคนที่ทำลายคำสอน,และทำผิดพระวินัยนั้น น่าจะเป็นคนที่ จขกท. นับถือนะครับ ลองค่อยๆๆ อ่านดูนะครับ ถ้าไม่เข้าใจถามผมได้ ยินตอบ ตามความสามารถของปุถุชนนะครับ

    อาบัติปาราชิกมี ๔ ประการ ได้แก่ การเสพเมถุน การลักทรัพย์ การฆ่ามนุษย์ และการอวดอัตริมนุสธรรม

    ๑. การเสพเมถุน คือ การร่วมประกอบกิจกรรมทางเพศ ไม่ว่าจะกระทำกับผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือกระทำกับสัตว์ก็ตาม ปาราชิกข้อการเสพเมถุน บางทีก็เรียกกันว่า ปฐมปาราชิก แปลว่า “ปาราชิกข้อแรก”

    ๒. การลักทรัพย์ คือ การนำทรัพย์ของผู้อื่นไปเป็นของตนโดยเจตนา ในเมืองไทยกำหนดว่า การลักทรัพย์มีมูลค่าตั้งแต่ ๑ บาทขึ้นไป เป็นการผิดหรือเป็นอาบัติขั้นปาราชิก การเจตนาแอบอ้างความคิดหรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือการเบียดบังเอาเงินในกองทุนที่มีผู้ศรัทธาถวายเป็นทานเพื่อใช้ในกิจของ สงฆ์ หรือกิจของศาสนามาใช้ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นอาบัติปาราชิกเช่นกัน

    ๓. การฆ่ามนุษย์ คือ การเจตนาทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตาย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ไม่ว่าจะลงมือฆ่าเองหรือใช้ให้คนอื่นฆ่าให้ก็ตาม ถือเป็นความผิดปาราชิกข้อที่ ๓ ทั้งสิ้น


    ๔. การอวดอุตริมนุสธรรม คือ การพูดอวดผู้อื่นว่าตนได้บรรลุธรรมะระดับสูง เช่น บรรลุโสดาบัน บรรลุอรหันต์ เป็นต้น
    อุ ตริมนุสธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะทำ/) หรือ อุตริมนุษยธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะยะทำ/) แปลว่า ธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ หรือ ธรรมของมนุษย์ผู้ยวดยิ่ง ได้แก่ คุณวิเศษซึ่งมนุษย์ธรรมดาไม่สมารถมีหรือเป็นได้ มิใช่วิสัยของมนุษย์ทั่วไป แต่เป็นวิสัยของผู้บรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว

    อุตริมนุสธรรมหมายถึงฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค และผล

    การ ที่ภิกษุแสดงตนหรือพูดให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนได้ฌานชั้นนั้นชั้นนี้ ตนได้บรรลุวิโมกข์ ได้สมาธิ สมารถเข้าสมาบัติได้ หรือสำเร็จมรรคสำเร็จผลอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่า อวดอุตริมนุสธรรม

    อาบัติปาราชิก หากผิดแม้แต่เพียงข้อเดียวก็ถือว่าภิกษุผู้อาบัติสิ้นสภาพการเป็นภิกษุแล้ว แม้จะไม่มีใครล่วงรู้หรือจับได้ก็ตาม การกราบไหว้บูชาภิกษุที่อาบัติปาราชิก นอกจากจะไม่เป็นบุญเป็นกุศลแล้ว ยังผิดมงคลที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาไว้ที่ว่า บูชาบุคคลที่ควรบูชาอีกด้วย


    ส่วนเรื่องถวายเงินนั้น ผมเองก็ตอบไปว่า ...

    และพระพุทธเจ้า ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า พระวินัยบางข้อสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามยุค ตามสมัย(กาลเวลา) ลองหาอ่านดูนะครับ ใน 91 เล่มนะครับ


    หรือถ้าจะให้ดี ท่าน จขกท. หรือลูกศิษย์ทั้งหลายของหลวงพี่เกษม ก็รับอุปฐากพระสงฆ์ทั่วโลกให้หมดเลยก็ดีครับ พระสงฆ์ท่านจะไม่ได้ผิดพระวินัย(เรื่องรับเงิน ซึ่งมาจากธาตุทั้ง 4) นะครับ
     
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    ค่อยๆอ่านนะครับ

    อานิสงค์การสร้างพระพุทธรูป

    ในวัฏฏังคุลีชาดก กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล ถวายนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วทูลถามว่า “บุรุษสตรีผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากร กระทำรูปเปรียบจำลองพระพุทธองค์ ขึ้นไว้ จะได้ประมาณอานิสงส์เช่นไรพระพุทธเจ้าข้า”

    สมเด็จพระบรมศาสดามีพระพุทธดำรัสว่า “ดูกร มหาบพิตร ผู้เป็นมหาราชบุรุษหรือสตรีผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยศรัทธา เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากรไว้ในพระพุทธศาสนา พระพุทธปฏิมากรนั้น บุคคลจะสร้างด้วยดินเหนียว หรือศิลาก็ตามหรือทำด้วยโลหะแลทองแดงก็ตาม จะทำด้วยไม้ แลสังกะสี ดีบุกก็ตาม จะทำด้วยรัตนะ เงินทองก็ตาม ผู้ที่สร้างทำนั้น จักได้อานิสงส์ผลอันมากพ้นที่จะนับประมาณ การที่สร้างพระพุทธปฏิมากร หรือปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปก็ดี เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งยังเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร ครั้งเมื่อตถาคตเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ได้เห็นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรซึ่งทำด้วยดินเหนียวหักขาดไปนิ้วหนึ่ง จึงนำเอาดินเหนียวมาปั้นทำให้เป็นบริบูรณ์เป็นปกติ แล้วทำการสักการบูชาด้วยมาลาแลของหอม ครั้งทำลายเบญจขันธ์ ก็ได้เสวยสมบัติในสวรรค์ ได้เป็นบรมกษัตริย์ในมนุษย์โลก สิ้นกาลนาน ภายหลังเมื่อโพธิสมภารพุทธการกธรรมเต็มบริบูรณ์แล้วก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า” แล้วทรงเทศนาถึงอดีตชาติของพระองค์ ดังนี้

    ในอดีตกาล มีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ กุลภัทรกุมาร ไดัชักชวนพ่อค้าทั้งหลายเดินทางไปค้าขายยังต่างเมือง ระหว่างทางเขาเห็นพระพุทธปฏิมากรทำด้วยดินเหนียวองค์หนึ่ง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอาราม ในป่าชัฏ พระพุทธปฏิมากรนั้น มีนิ้วพระหัตถ์หักไปนิ้วหนึ่ง จึงเอาดินเหนียวมาขยำกับน้ำอ้อย ปั้นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรปฏิสังขรณ์ให้เต็มบริบูรณ์ทั้ง ๕ นิ้ว แล้วเอาเงิน ๕ กหาปนะ ให้หญิงทาสีคนหนึ่ง คอยปฏิบัติรักษา พระพุทธปฏิมากรนั้น และให้มูลค่าประทีป เทียน แลมาลา ของหอม สำหรับบูชาพระปฏิมากรนั้นด้วย ครั้นบูชาแล้ว จึงตั้งความปรารถนาด้วยว่า “อานิสงค์ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิสังขรณ์นิ้วพระหัตถ์นี้ ขึ้นชื่อว่าข้าศึกศัตรูทั้งปวง อย่าให้มีเฉพาะหน้าข้าพเจ้าเลยอนึ่งขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นสัพพัญญูพระพุทธเจ้าในอนาคตด้วยเถิด”

    นับแต่นั้นมา ข้าศึกศัตรูและ ร้ายทั้งหลายทั้งหลาย แม้แต่งู ตะขาบ และแมลงป่อง เป็นต้น ก็มิได้กล้ำกลายกุลภัทรกุมาร เมื่อตายไปได้เกิดเป็นเทพในสวรรค์ พวกอสูรในเทวโลกก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ พากันหนีหมด เมื่อปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี เทพบุตรซึ่งเป็นบริวารพันหนึ่งก็มาเกิดในครรภ์ของภรรยาพวกอำมาตย์ เมื่อประสูติพระกุมารแล้ว ในกาลนั้น ทั้งหลายมีช้าง แลม้าเป็นต้น แม้จะดื้อเพียงใด เมื่อพระราชกุมารยกนิ้วพระหัตถ์ชี้มาในกาลใด เหล่านั้นก็ซวนเซล้มลงพระราชกุมารจึงได้พระนามว่า “วัฏฏังคุลีราชกุมาร”

    เมื่อได้ครองราชย์เป็น “พระเจ้าวัฏฏังคุลีราชโพธิ ” ประกอบด้วยเมตตากรุณา ไม่เคยเบียดเบียนชีวิตใดเลย ตั้งมั่นอยู่ในศีล ในกาลนั้นพระยาร้อยเอ็ดทั้งหลายในชมพูทวีปจึงปรึกษากันจักไปชิงราชสมบัติ ของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช เพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ฆ่า เลย คงได้เมืองมาโดยง่ายเมื่อยกทัพมาประชิดเมืองของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช พระองค์เพียงชี้นิ้วพระหัตถ์ พวกพระยาร้อยเอ็ดและเหล่าทหารก็ตกจากยานพาหนะและหกล้มระเนระนาด พระยาร้อยเอ็ดจึงสวามิภักดิ์ยอมเป็นประเทศราชของพระโพธิ สมเด็จพระทศพลจึงตรัสพระคาถาว่า บุคคลผู้สร้างพระพุทธรูปนั้น จะได้เป็นพระอินทร์ ๘ ครั้ง จะได้เป็นสมเด็จบรมจักรพรรดิ ๘๐ ชาติหรือ ๑๐๐ ชาติ จะได้เป็นพระราชานับประมาณไม่ได้ ผลแห่งการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระพุทธรูปนั้น ไม่ควรคิดว่ามีค่าเท่าใดเพราะเป็นอจินไตย ประมาณไม่ได้ บุคคลผู้ก่อสร้างพระพุทธรูปด้วยปีติเลื่อมใสแล้วจะเกิดในสวรรค์สิ้นกาลนาน ผู้ปลูกมหาโพธิ์ นรชนผู้บวชตน นรชนผู้สร้างพระปฏิมากร นรชนสามจำพวกนี้ จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้.....



     
  8. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ลดทิฐิลงบ้าง
    แล้วน้อมจิตพิจารณาคำเตือนทั้งหลายด้วยความเคารพ
    แล้วท่านจะเกิดปัญญา...
     
  9. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    เบญจกัลยาณี

    ค่อยๆๆ อ่านนะครับ

    ใน สมัยพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติ ขึ้นในโลก เวลานั้นนางวิสาขาเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา ในสมัยนั้น นางวิสาขาก็มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาที่เขาจะมีเทศน์ เขาจะทำบุญกันที่ไหน นางวิสาขาไปด้วยความเต็มใจ ไปฟังด้วยความเคารพ แล้วบำเพ็ญกุศลด้วยความเคารพ แม้ว่านางวิสาขาเวลาที่บำเพ็ญกุศลในจรรยาสัมมาปฏิบัติแล้ว ไม่เคยอธิษฐานหลังจากทำบุญในศาสนาของพระพุทธองค์ ว่า ‘‘ขอให้ได้เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ’’ แต่มีความต้องการอย่างเดียวคือ การบำเพ็ญกุศลในศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นางมีความต้องการเฉพาะพระนิพพาน หรือความสุขในปัจจุบัน

    กาลครั้ง หนึ่ง ตามพระบาลีว่า เมื่อนางวิสาขาไปฟังเทศน์ เขาบอกกล่าวกันบอกว่า มีพระเทศน์ที่วัดโน้นวัดนี้ นางวิสาขาได้ฟังกล่าวว่า มีพระท่านเทศน์จึงตั้งใจจะไปฟังเทศน์ แต่ในระหว่างทางปรากฏว่า นางวิสาขาไปพบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เขาสร้างไว้ในสถานที่โล่งแจ้ง คือตากแดด และก็พระพุทธรูปนั้นมีรอยร้าวเปลือกกระเทาะ ทองก็ร่อนไปหมด ปูนก็กระเทาะจนแหว่งแลดูไม่สวยสดงดงาม ไม่เจริญตา นางวิสาขาจึงเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธรูป ตั้งใจเจริญใจเป็นพุทธบูชา กล่าวปฏิญาณว่า "เมื่อข้าพเจ้ากลับมาจากฟังพระธรรมเทศนาแล้ว จะให้ช่างมาทำนุบำรุงพระปฏิมากร รูปแทนพระองค์สมเด็จพระประทีปแก้วให้มีความสวยสดงดงาม"

    เมื่อนางไหว้ พระพุทธรูป นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว นางก็ไปฟังเทศน์ เมื่อเทศน์จบคนเขากลับ นางวิสาขาก็กลับ เมื่อกลับมาถึง ผ่านพระพุทธรูปนั้น ก็เข้าไปกราบอีก กล่าวคำปฏิญาณตามนั้น หลังจากนั้นแล้วนางวิสาขาเมื่อถึงบ้าน จึงได้สั่งให้นายช่างไปจัดการทำนุบำรุงพระพุทธปฏิมากร คือพระพุทธรูป ซ่อมแซมให้เรียบร้อย ให้ดีคงเดิม พอเสร็จแล้วก็ทาสีหรือว่าปิดทองเสร็จตามความนิยมในสมัยนั้น ตามพระบาลีไม่ได้บอกว่า เขาทาสีหรือปิดทอง ทำตามความนิยมที่เห็นว่าสวยสดงดงามเป็นที่เจริญตาเจริญใจ หลังจากนั้นนางวิสาขาจึงได้ให้นายช่างปลูกโรงทำหลังคาคลุมพระพุทธรูป ไม่ยอมให้ตากแดดตากฝนตามเดิม นี่แหละเป็นปัจจัยให้นางวิสาขาได้เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ ทั้งนี้ก็เพราะว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับรองเรื่องนี้ว่า การที่นางวิสาขาได้เบญจกัลยาณี คือ มีความดีถึง ๕ ประการของรูปโฉม ก็เพราะว่า นางวิสาขาทำนุบำรุงซ่อมแซมพระพุทธรูปที่เก่าคร่ำคร่า มีสภาพไม่ดีให้กลับมีความสวยสดงดงาม เพราะอานิสงส์ทำความงามให้แก่พระพุทธรูป อานิสงส์อันนี้จึงสร้างสรรค์ให้นางวิสาขาได้เบญจกัลยาณี

    เบญจกัลยาณี ความงามของสตรี ๕ อย่าง คือ

    ๑. เกสกลฺยาณํ ผมงาม คือ หญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขึ้น
    ๒. มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือหญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี
    ๓. อฏฺฐิกลฺยาณํ กระดูกงาม คือหญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน
    ๔. ฉวิกลฺยาณํ ผิวงาม คือหญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดังดอกกรรณิกา
    ๕. วยกลฺยาณํ วัยงาม คือ หญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง ๑๐ ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจคลอดครั้งเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กุมภาพันธ์ 2012
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    หลวงปู่แหวน

    ค่อยๆๆ อ่านนะครับ


    พบเปรตที่ถ้ำเชียงดาว

    วันหนึ่งประมาณห้าโมงเย็น หลวงปู่แหวนกำลังเดินจงกรมอยู่ ก็มีเสียงดังโครมครามเหมือนกิ่งไม้ใหญ่หักฟาดลงมา ท่านจึงหันไปดู กลายเป็นสัตว์ร่างใหญ่ร่างหนึ่ง เอาเท้าเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ห้อยหัวลงมา ผมยาวรุงรัง ส่งเสียงร้องโหยหวน หลวงปู่ท่านไม่สนใจยังคงเดินจงกรมต่อไป สองสามวันต่อมาก็มาปรากฏอีก แต่หลวงปู่ก็เดินจงกรมโดยไม่สนใจ หลังจากนั้นก็มาปรากฏตัวให้เห็นทุกเย็น วันหนึ่งท่านจึงกำหนดจิตไปถามว่าต้องการอะไร ก็ได้คำตอบว่าเขามาขอส่วนบุญ หลวงปู่จึงถามต่อว่า เขาเคยทำกรรมอะไร จึงต้องทุกข์ทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาเล่าว่า เขามีอาชีพลักขโมยและปล้นเขากิน ก่อนออกไปปล้นจะนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ขอความคุ้มครองกับพระพุทธรูปองค์ หนึ่งในถ้ำ เขาทำอย่างนั้นทุกครั้งแล้วก็แคล้วคลาดตลอดมา แต่มีวันหนึ่งที่พลาด ถูกเจ้าบ้านฟันบาดเจ็บสาหัส ด้วยความโมโหว่าพระไม่คุ้มครอง จึงเอาขวานทุบพระพุทธรูปจนคอหัก บาดแผลที่ถูกฟันนั้นสาหัสมาก เขาจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา แล้วกลายมาเป็นเปรตทนทุกข์ที่ถ้ำแห่งนี้ หลวงปู่จึงรวบรวมจิตอุทิศส่วนกุศลไปให้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ปรากฏร่างให้เห็นอีก
     
  11. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ว่าจะไม่มาเขียนเพิ่มแล้วนะไอ้น้อง พอดีเมื่อคืนมีเวลาได้นอนคิดพิจารณา ดีนะที่มากระุตุ้นความคิดเนี่ยจากที่อยู่ดีๆ คำถามนะ ถ้าไม่ให้ไหว้อิฐ ปูน อย่างงี้อัฐฐิพ่อแม่ก็ไหว้ไม่ได้สิ หากพ่อแม่เราเสียแล้วเผาเหลือแต่กระดูก อัฐฐิ เป็นเถ้าถ่าน อย่าเก็บมากราบไหว้นะ เพราะเป็นแค่ขี้เถ้าจะเอามาบรรจุใส่โกฎิ แล้วกราบไหว้ทำไม จำไว้นะ อย่ากราบไหว้ ถ้าคิดว่าเป็นแค่ อิฐ ปูน เถ้าธุลี ยอมรับนับถือในความคิดของเจ้าเลยนะเด็กน้อย เอาพระไตรปิฎกมาอ้างเหมือนผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดก็มิปราน แล้วรูปพ่อแม่เวลาท่านตายไปก็ไม่ต้องเอามาแขวน มาตั้งโต๊ะไหว้ตอนตรุษจีน หรือตอนครบรอบวันตายด้วยนะ

    พึ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่า ไอ้ที่ผ่านมาที่เราทำมาทั้งหมดกราบไหว้พระพุทธรูป ทุกวี่วัน สวดมนต์ต่อหน้าพระพุทธรูปเราจะต้องตกนรก จิตตกจะแย่ 555555
     
  12. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    กระทู้ ล่อเป้า เรียกแขก มาเป็นชุด เลย
     
  13. เจป์

    เจป์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +80
    ตั้งกระทู้เสียดแทงใจผู้ศรัทธา ว่าแต่คนอื่น อ่านไม่ละเอียด ไม่แทงตลอด พอคนอื่นเห็นต่างก็ว่าบอกไม่รู้จริงต้องตกนรก คนอื่นเป็นมิจฉาทิฐิ ถือว่าตัวเองมีดี มีหลักฐานยืนยัน ทิฐิมานะสูง คุณไม่ไหว้อิฐ-ปูน-ทองเหลือง ก็ถูกแล้วครับ ถ้าปั้นเป็นชาม-ไห-ถ้วย ผมก็ไม่ไหว้ แต่ถ้าเป็นพระพุทธปฏิมาแล้ว ผมกราบไหว้บูชาครับ นิกายอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสายตรงยังไม่มาทำลายผู้ศรัทธากันอย่างนี้นะครับ
    คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านไม่หักล้างใครนะครับ หากยังไม่ถูกต้องท่านเพียงแต่แนะนำว่า "ยังมีสิ่งที่ดีกว่า" ไม่ต้องอ้างพระไตรปิฎกนะครับ ผมยังเป็นบัวใต้น้ำ อ่านไม่ค่อยเข้าใจ ไม่แทงตลอดเหมือนกัน
     
  14. รากแห่งธรรม

    รากแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,173
    คำว่าผู้ไม่มีเปรียบ คำว่าอัตภาพ ไม่มีเทียบ สามคำนี้ต้องมีความว่า ทรงเป็นผู้ผู้เหนือโลก อยู่เหนือมวลหมู่เวไนยสัตว์คือสัตว์อันโปรดให้พ้นทุกข์ได้ ทรงเป็ฯผู้ทรงคุณอันประเสริฐหาผู้อื่นใดในโลกนี้จะเสมอพระองค์ท่านได้ แม้แต่การสร้างรูปเคารพที่ทำจากทองคำก็ดี เงินก็ดี ก็ไม่อาจเทียบเทียมพระองค์ ประโยคนี้มุ่งหมายเอาไว้ว่า พระพุทธรูปก็ดี สิ่งเคารพก็ดีไม่อาจเทียบเทียมในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงมีมหาบุรุษลักษณะ32ประการ กับอนุพญัชนะอีก80ประการ สิ่งเหล่านี้มนุษย์จะทำให้เสมอเหมือนพระพุทธองค์ไม่ได้ ไม่ใช่วิสัยของปุถุชน มันเป็นวิชัยของพระพุทธเจ้า เป็นอจิณไตย

    ที่พระอรหันต์พระองค์นี้ทำ ก็เพราะปกป้องพระศาสนา เป็นการกระทำที่ต้นบัญญัติ ห้ามการแสดงฤทธิ์ในสาธารณชน ที่พระองค์ทรงตำหนิพระอรหันต์ท่านก็เพราะว่า การกระทำดังนี้เป็นการทำให้หมู่ชนสนใจแต่เปลือกของพระศาสนาไม่ได้ทำให้มาสนใจในแก่นคือ ธรรมะ อันงดงาม
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เราก็กราบไหว้พระอิฐ พระปูน มาตั้งนานเหมือนกัน แต่เราก็อ่านได้นะ อ่านแล้วก็เฉยๆ ศรัทธาของเราไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก ถ้าพิจารณาตามที่เค้าว่ามันก็จริง

    ทุกวันนี้เรากราบกระดาษด้วยซ้ำ กระดาษที่มีรูปพระพุทธชินราช หรือพระพุทธรูปอื่นๆ ที่พอเรามองเห็นแล้วทำให้ใจสงบเพราะได้น้อมนึกไปถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากระทำสิ่งใด เราย่อมรู้อยู่แก่ใจ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา สิ่งที่เขานำเสนอมันก็ถูกนะ แต่ต่างกันที่มุมมองต่างหาก

    ในเมื่อมองคนละมุม แล้วจะทะเลาะกันทำไม จขกท.คงมีความปรารถนาดี ไม่อยากให้เห็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตกนรก ก็เลยนำมาเสนอเท่านั้นเอง

    ส่วนของศรัทธาก็คือศรัทธา นรกหรือไม่อยู่ที่เจตนาต่างหาก เรื่องของศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เอาความหยาบมาคุยกันไม่ได้ ภาษาล้วนแล้วแต่พลิกแพลงได้ตลอด การตีความก็ขึ้นอยู่กับความรู้ของแต่ละคน ใช้ใจที่ศรัทธามาคุยกันดีกว่า เพราะใจมันตรงกว่า มันพลิกไม่ได้
     
  16. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    คำสอนที่ยกมา น่าจะมาจาก แถว ๆ คลอง 10 ปทุมธานี

    แต่ท่านไม่ได้เอาเรื่องห้ามไหว้ ห้ามกราบ พระพุทธรูปมากล่าวถึงเลย

    บางอย่างที่จะเป็นเรื่องแห่งการแตกแยกทางความคิด เว้นไว้ ไม่ต้องมากล่าวก็ได้

    มีหลายหลากทางความคิด บางคนก็ไม่คล้องพระ บางคนชอบคล้องพระ นานาจิตตัง

    หากไปด่าพวกคล้องพระว่าใจไม่ถึง ก็ลองไปรบที่ชายแดนดู เวลานั้น อะไรที่มันจะยึด

    เหนี่ยวได้เป็นเอาหมด ยอมรับว่าใจไม่ถึง ที่เป็นไทยอยู่ได้จนทุกวันนี้ก็เพราะพระเครื่อง

    ไม่มีหลวงพ่อคล้องคอ ..........โอย ใจไม่สู้เลย ต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ปืนไม่กลัวหรอกครับ

    ที่ไม่กล้าไปแนวหน้าก็เพราะ กลัวลูก มันครับ..........ลูกปืน มันไม่ค่อย ฟังใคร ขวางเมื่อไร

    มันชนทะลุหมด แต่เราคล้องหลวงพ่อองค์ใหญ่ ๆ ไป บางทีโชดดี หลวงพ่อรับลูกปืนให้ รอด

    ตายกลับบ้านได้ อย่างนี้ไม่เรียกคุณพระช่วย แล้วจะเรียกว่าอะไรกันล่ะ .....พ่อคุณ.
     
  17. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    555555 ผู้พันจุ่น ฮาดีค่ะ แต่มันก็จริงนะมีหลายๆคนรอดตายเพราะพระเครื่องที่อยู่ในคอ อุ้มก็เป็นนะมีแค่หลวงปู่ทวดองค์เดียวเป็นพระเครื่องผงสีขาวอยู่หน้ารถนะ ขับรถไปทำงานเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว รถพลิกคว่ำ ห้าตลบ คนได้แต่สลบและมีรอยข่วนนิดเดียว ใึครๆก็คิดว่าอุ้มตายแล้ว แต่รถป้ายแดงออกใหม่พังยับเยิน หลวงปู่ทวดองค์นั้นกระเด็นไปตกซะไกล แต่ยังมีคนตามเก็บมาคืนเราได้อีกแนะ พระช่วยจริงๆ ถ้าไม่มีพระพุทธรูป พระปฎิมา พระประธาน พระเครื่องก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาร้อยดวงใจชาวพุทธ เพราะเป็นความยึดมั่น และความอุ่นใจว่ามีพระอยู่กับตัวพระท่านย่อมปกปักรักษา

    คุณแม่อุ้มปฎิบัติศาสนาพุทธมหายาน สวดมนต์นัมเมียวทุกวัน แม่ยังไม่เคยบอกให้อุ้มไม่ต้ัองกราบไหว้พระเลย พระพุทธรูปที่บ้านมีกี่องค์แม่ก็ไม่เคยบ่น พระของคุณแม่ก็อยู่ส่วนของคุณแม่ ส่วนพระของเราท่านก็ไม่เคยมาวุ่นวาย ไม่เคยบอกให้เลิกกราบไหว้พระ แต่นายนี่มาบอกให้เราเลิกกราบไหว้พระทั้งๆที่กราบไหว้มาตลอดชีวิต เพราะเกรงว่าเราจะตกนรกก็เข้าใจนะที่เขาหวังดี แต่ว่าอุ้มเชื่อใจในอานุภาพ ของคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ว่าท่านไม่มีวันให้พวกเราชาวพุทธที่กราบระลึกนึกถึงท่านต้องตกนรกหรอก
     
  18. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ในห้องนอนผมมีพระพุทธรูปอยู่ 3 องค์ จัดเป็นโต๊ะเล็กๆ
    พระพุทธชินราช
    พระปางไสยาสน์
    พระปางมารวิชัย

    ทุกครั้งที่ผมไหว้ ผมจะระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    เห็นพระพุทธชินราช ผมก็ระลึกถึงพระพุทธเจ้า อยากถึงนิพพาน
    เห็นพระปางไสยาสน์ ผมก็ระลึกถึงว่า ต้องเป็นคนใจเย็น อ่อนหวาน ช่วยเหลือผู้อื่น หักห้ามนิสัยดิบๆ ไม่ดี ของคนเกิดวันอังคารให้ได้
    เห็นพระปางมารวิชัย ผมก็นึกถึงบทพาหุง ถึงการชนะอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า และวิธีที่พระพุทธเจ้า เอาชนะสิ่งต่างๆ
     
  19. kengjingjung

    kengjingjung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,366
    ค่าพลัง:
    +1,494
    อย่างน้อยพระอิฐ พระปูน พระโลหะ ฯลฯ นี้ก็ถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผมอย่างหนึ่ง
     
  20. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    อุ้มก็มีพระปางไสยาสน์บนหิ้งพระอุ้ม เพราะเกิดวันอังคาร มององค์พระที่ไรก็ให้นึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนที่พระองค์ท่านนอนท่านี้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...