ความเห็นเกี่ยวกับการแจกพระธาตุ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย นายตถาตา, 16 กรกฎาคม 2010.

  1. อวตาร888

    อวตาร888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,070
    ผมว่าถ้าจะให้ดีก็ลงโพสไปเลยครับว่าที่จังหวัดใหนใครต้องการพระบรมสารีริกธาตุไปบูชา แล้วให้ไปรวมตัวที่วัดใหนก็ได้ในจังหวัดนั้นๆ ส่วนท่านที่จะแจกก็อัญเชิญพระบรมไปให้เขาตามที่นัดไว้แค่นี้ก็จบ คุณกระจก6ด้านน่าจะเป็นผู้นำในการอัญเชิญนะครับ อย่างนี้ไม่เป็นการปรามาสแน่นอนครับ.
     
  2. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
    <TABLE id=post2922462 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชนะ สิริไพโรจน์<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2922462", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2008
    สถานที่: ศูนย์พุทธศรัทธา ๗๗ หมู่ ๗ ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ๑๘๑๓๐
    ข้อความ: 3,992
    พลังการให้คะแนน: 4226 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2922462 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->พระบรมสารีริกธาตุ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>


    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    [​IMG]

    [​IMG]

    "พระบรมสารีริกธาตุ" เป็น "ธาตุวิเศษ" เป็นปูชนียวัตถุพิเศษสุด
    ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพเป็นที่อัศจรรย์
    ด้วยบังเกิดมาแต่ พระพุทธสรีระของพระพุทธองค์โดยตรง
    "พระบรมสารีริกธาตุ" จึงนับเป็นมงคลวัตถุอันสูงสุด
    ที่มนุษย์ เทวดา พรหม กราบสักการะบูชาด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

    พระบรมสารีริกธาตุ ถ้ามีแล้วไม่ควรเปิดดูบ่อย บางครั้งท่านเสด็จไปที่อื่น
    บางครั้งท่านก็มาเยอะ ไม่แน่หรอก
    ได้พระบรมสารีริกธาตุครั้งแรกของ หลวงพ่อปาน รับช่วงมา
    ท่านให้ตลับทองคำ แล้วก็ใส่โกศนะ มาวันหนึ่งไปเปิดดู ไม่มีเลย อ้าว! เรียบ!
    ตลับทองคำเอาไปซะด้วย เราก็นึกว่า เอ..นี่ใครมาขโมย ไอ้ห้องเราใครเข้าไม่ได้เลย
    ห้องนั้นน่ะออกมาเมื่อไหร่ ฉันก็ใส่กุญแจเมื่อนั้น ฉันไม่เคยปล่อยให้มีช่องเข้าไปเลย
    ผลที่สุดก็นึกว่าเรามันคงไม่ดี แล้วกำลังใจก็ไม่ดีเหมือนกัน
    ต่อมาอีก ๒ วัน พระนิมนต์ไปฉันที่ อ.เสนา ฉันนอนๆ อยู่ ก็เห็นพระมายืน
    ท่านสวยมาก พระท่านถามว่า " ต้องการพระบรมสารีริกธาตุหรือ?"
    ฉันก็บอกว่า "ต้องการครับ"
    พระท่านบอกว่า "ไปสวดมนต์เย็นวันนี้ ไปนั่งบ่นๆ ให้ไปนั่งบ่นๆ ว่าอยากจะได้"
    ให้ไปบ่นกับใครก็ไม่รู้ ที่ที่เราไปนั่งก็มีพระนั่งอยู่ ก็มีพระนั่งขนาบอยู่ข้างหลัง
    เราก็อาวุโสนั่งกลางๆ หน่อย เอ.. คุยกันไปคุยกันมาเขาก็คุยเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ
    เลยนึกขึ้นมาได้ ก็บอกไปว่า "ของผมมีตั้ง ๕ องค์ หายไป"
    ก็มีพระจะถวายให้ ๒ องค์ แต่พอกลับถึงวัด พระท่านมาบอกว่า " ไม่ได้หรอก ๒ องค์ ได้ ๕ องค์"
    พอถึงวันวิสาขบูชา เราก็จัดขบวนไปรับ ไปถึงพระเจ้าของพระบรมสารีริกธาตุบอกว่า
    "แหม ผมตั้งใจจะให้ท่าน ๒ องค์ หยิบมาใส่ตลับแล้ว มองดูทีไรก็ ๕ องค์ทุกที
    ผมก็เอาไปเก็บที่ แล้วมาเปิดดูก็ ๕ องค์ทุกที" ก็เลยให้ ๕ องค์
    พอได้มาแล้วก็เอามาบูชา มาทำบุญ ๓ วันก่อนจะเข้าที่ ทำบุญที่ศาลา ๓ วัน
    ก็ท่านสั่งแบบนั้น พอทำบุญ ๓ วันเสร็จทำประทักษิณเสร็จ ก็นำพระบรมสารีริกธาตุเข้าห้อง
    ไปเปิดเจดีย์ ปรากฏว่าตลับทองคำทีหายไปก็กลับมา
    มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่เท่าเดิมคือ ๕ องค์ รวมกับที่มาใหม่เลยกลายเป็น ๑๐ องค์
    แล้วจากนั้นมาท่านก็เสด็จมาเต็มตลับเลย

    มีวันหนึ่ง วันสงกรานต์ ก็อัญเชิญมาสรงน้ำ ไม่ได้ชวนใคร เราสรงคนเดียว
    สรงแล้วก็ตามตำราพระธาตุเขาบอกต้องวิ่งเข้าหากัน ต่อมามีคนดูกันหลายคน
    ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดเลย พระบรมธาตุลอยเข้าหากัน อัศจรรย์จริง
    ระดับน้ำอยู่เลยปากขันประมาณ ๑ นิ้ว โดยที่น้ำไม่หก คนเดินผ่านไปผ่านมาก็เห็นเหมือนกัน
    พอสักพัก มีเสียงพระท่านบอกว่า " เอ้า เทน้ำออกได้แล้ว"
    เลยถามท่านว่า "ทำไมครับ" ท่านบอก "พอแล้ว คนรู้กันพอแล้ว"
    ก็เป็นอันว่าน้ำในขันนั้นต้องใส่ตุ่มไว้ กลายเป็นน้ำมนต์ ใครๆ เข้ามาต้องการน้ำมนต์ก็ขอไปเลย
    นี่เรื่องพระบรมสารีริกธาตุอานุภาพไม่มีสิ้นสุดหรอก

    มีอยู่ปีที่บรรจุพระให้เขา ก็นั่งอยู่ข้างบนกับท่านเจ้ากรมเสริม บรรจุไปบรรจุมา
    เอ.. เราก็ปูผ้าขาว ปูดีแล้ว ก็ใส่พานเรียบร้อย ประเดี๋ยวก็ปรากฏที่โน่นกลุ่ม
    ที่นี่กลุ่ม ตามเสื่อ ตามพื้น ก็มาเก็บให้ท่านเจ้ากรมเสริม
    ก็บอก เอ.. ยังไง ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ๒ คน ท่านก็บอกท่านจะมาเอง ก็เลยบอกท่าน
    บอกว่า อยู่ไม่ไหวแล้ว คนเขาจะหาว่าโม้แน่ พอตอนบ่ายลงมา เขาจัด
    ห้องไว้ให้เรียบร้อย ก็มาบรรจุอีก ประเดี๋ยวก็ปรากฏตรงโน้น ประเดี๋ยวปรากฏตรงนี้
    ที่นี้ คุณประสิทธิ์ ผู้จัดการธนาคารที่ชลบุรี แกมาก็มาจัดไว้ที่ถาดเคลือบ
    ชุบโครเมี่ยมสวยเลย แกก็บอกว่า "หลวงพ่อครับ ให้ลงในถาดนี่ก็แล้วกันครับ"
    ฉันก็เลยบอกว่า "คุณประสิทธิ์ ฉันไม่มีอำนาจเป็นพระพุทธเจ้านะ ท่านจะโปรด
    หรือไม่โปรดก็เป็นเรื่องของท่าน" ฉันก็วางถาดลง เราก็ทำงานกันไป ประเดี๋ยว
    เป๊ะตรงโน้น เป๊ะตรงนี้ ๔ มุม ตรงหน้าเรา นั่นไม่ใช่เราเล่นกลนะ

    แล้วก็มีอีกคราวที่วัด ก็มีคนเขาขอบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก็เป็นนักปฏิบัติพระกรรมฐาน
    เราก็ให้ เพราะว่าเขานับถืออยู่แล้วใช่ไหม พระธาตุเวลานั้นมี ๑๕ องค์ เราบอกไปคนสองคน
    มันเอาพวกมาตั้งร้อย
    พอตกกลางคืนนะ เย็นพรุ่งนี้จะบรรจุแล้ว กลางคืนก็นั่งคุยกัน
    ไอ้คนที่นั่งคุยกัน มันมองเลยหัวเราไปหมด ตาสูงหมด ก็ถามว่า "มองอะไร?"
    แกก็บอกว่า "มีอะไรเข้ามาทางช่องลมแว็บๆ เป็นแสงสว่างในห้อง"
    พอเขาบอกเท่านั้นเราก็ทราบ ไอ้เรื่องที่ว่าเราจะไปบอกกับเขาว่าจะเป็นอย่างนั้น
    จะเป็นอย่างนี้มันไม่ได้ มันสุดแล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์ ไม่ใช่อำนาจของเรา
    ไม่ใช่เราบูชาท่านแล้วจะกะเกณฑ์ให้ท่านมาเท่านั้นเท่านี้
    ยิ่งกะเกณฑ์อย่างนั้นท่านไม่มาเลย พระพุทธเจ้าไม่อยู่ใต้อำนาจใคร จบแล้ว.

    หลวงพ่อตอบปัญหาเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ

    พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเพิ่ม

    ผู้ถาม : ลูกได้รับพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่อแจกเมื่อวันมาฆบูชา ๘ พระองค์
    บูชาไว้ที่หิ้งพระ ปัจจุบันเสด็จมาเพิ่มครึ่งถุง แปลกที่ว่าน่าจะเป็นสีขาวกลับเป็น
    สีน้ำตาลแกมสีเลือดหมู เนื้อเป็นมันใส ท่านเปลี่ยนสีได้นี่จะเป็นของแท้หรือเปล่าคะ?

    หลวงพ่อ : ปัดโธ่ ท่านเสด็จมาเองแท้ ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ บูชาดีแล้วควรบูชาต่อไป

    ผู้ถาม : การที่พระธาตุเสด็จเพิ่มขึ้นแสดงว่าผู้นั้นปฏิบัติดีหรือครับ?

    หลวงพ่อ : ใช่ ที่วัดมีเยอะ เวลานี้เต็มโถไปหมด

    ผู้ถาม : ก็หลวงพ่อแจกไปไม่รู้เท่าไรนี่ครับ

    หลวงพ่อ : นั่นแหละ ยิ่งมาหนักเลย

    ผู้ถาม : แต่น่าสงสัย หลวงพ่อยิ่งแจก พระบรมสารีริกธาตุก็ยิ่งมา แต่คนที่ทำบุญสุนทาน ทำไมมันจึงหมดลงๆ ละครับ?

    หลวงพ่อ : นั่นเข้าใจผิด ที่ถวายไปมันเป็นโลกียทรัพย์ ที่ได้มามันเป็นอริยทรัพย์ประเสริฐกว่า
    เอาของเลวไปแลกของดีจากพระมา ถ้าต้องการได้เงินกลับมาน่ะ สร้างบ้านสร้างวิมานทองคำได้ไหมล่ะ?

    ผู้ถาม : ไม่ได้ครับ

    หลวงพ่อ : สร้างบ้านเป็นเพชรได้ไหมละ?

    ผู้ถาม : ไม่ได้ครับ

    หลวงพ่อ : ทำบุญให้พระบาทเดียวได้วิมานทองคำ ถ้า ๑๐ บาท ได้วิมานแก้ว ถ้าพันบาทได้วิมานเพชร
    ถ้าหมื่นบาทได้วิมานแก้วมณี

    ผู้ถาม : โอ้โห ถ้าแสนบาทก็ยิ่ง..โอ้โห เป็นหนี้อีรุงตุงนังเลย ขอยืมเขามานี่ครับ
    (หัวเราะ)

    ฝากของไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    ผู้ถาม : ลูกขอเรียนถามนิดเดียวเกี่ยวกับเรื่องเครื่องประดับที่นำไปบรรจุบูชาที่มหาวิหาร ๑๐๐ เมตร
    คือว่าลูกไม่มีโอกาสไปด้วยตนเอง ได้ฝากทองคำและของประดับเล็กๆ น้อยๆ พอสมควร
    การที่ฝากของไปในครั้งนี้ จะสามารถป้องกันตกนรกเหมือนกับไปบรรจุด้วยตนเองหรือเปล่าเจ้าคะ?

    หลวงพ่อ : ความจริงไม่ใช่กันนรกหรอกนะ เป็นการหนีนรก ลุงพุฒิท่านบอกเป็นลีลาการหนีนรก
    เพราะทองนี่เป็นสมบัติที่ทุกคนรักมากใช่ไหม รักมากกว่าแบงก์ เสียสละของที่มีความรักมาก
    จิตก็มีความผูกพัน เมื่อจิตผูกพันเรื่องบุญเรื่องกุศลนี่มีผลตามนั้น หนีนรกกันชั่วคราว
    แต่ไม่ใช่หนีอย่างพระโสดาบันนะ พระโสดาบันนี่หนีตลอดกาล
    เรื่องทองนี่หนีชาตินี้ ชาติหน้าทำบาปใหม่ ลงใหม่

    วิธีดูพระธาตุ

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ กระผมมีพระธาตุอยู่องค์หนึ่ง เราจะมีวิธีดูยังไงครับ
    จึงจะรู้ว่าเป็นพระธาตุองค์จริง..?

    หลวงพ่อ : ฉันไม่ดูเลย ฉันคิดว่าจะบูชาอะไรก็ตาม ถ้าใจเรานึกถึงพระพุทธเจ้าก็ใช้ได้หมด
    จะมัวไปนั่งติดธาตุอยู่ทำไม เราหาองค์ท่านไม่ดีรึ ใช่ไหม
    เรามีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ แต่ไม่นึกถึงท่านเลย จะเกิดประโยชน์อะไร
    ประโยชน์จริงๆ ก็คือว่า ถ้าเราเคารพพระพุทธเจ้าเพียงใด นั่นผลจึงจะเกิด
    ถ้าเรามีอยู่ เราไม่เคารพ ก็ไม่มีความหมาย ดีไม่ดีจะเกิดการปรามาสเข้าอีก
    จะซวยใหญ่ใช่ไหม ว่าตรงไปตรงมานะ
    ถ้าเรามีอยู่จริง เราเคารพจริง ก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ดีเหมือนกันไม่ใช่ไม่ดี
    เอาอย่างนี้ดีกว่า จริงหรือไม่จริงเราก็ไหว้ เรานึกถึงพระพุทธเจ้าก็หมดเรื่อง
    ยังไงๆ ก็ถึงพระพุทธเจ้าแน่

    การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    พระบรมสารีริกธาตุนั้นมีมากมายถึง ๑๖ ทะนาน ตามตำนานโบราณได้กล่าวว่า
    เมื่อใกล้เวลาที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระพุทธองค์ได้ทรง
    อธิษฐานขอให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ จงแยกย้ายแผ่กระจายไปใน
    ทุกทิศานุทิศ พุทธประสงค์คือ เพื่อให้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนทั้งหลาย
    ในนานาประเทศ เพราะบรรดาหมู่สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาไม่ทันเห็นพระพุทธองค์
    นั้นมีมาก หากได้พระบรมสารีริกธาตุไว้สักการะบูชา แม้เพียงน้อยนิด ก็จักได้
    บุญกุศลเป็นอันมาก "พุทธบูชามหาเตชวันโต" ทำให้เกิดศรัทธามีความมั่นคง
    ในพระธรรมคำสอนขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนทาง
    แห่งอริยมรรค อริยะผล เพื่อความพ้นทุกข์ต่อไป


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#33ff33 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../bg/c.gif colSpan=3>[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif></TD><TD background=../bg/c.gif></TD><TD background=../bg/c.gif></TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif width="33%">
    [​IMG]

























    </TD><TD background=../bg/c.gif width="34%">[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif width="33%">[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานรูปหัวใจ







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณะทับทิม







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุข้าวสารหัก







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณะแก้วมุกดา







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณะดำ







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุหทัยธาตุ







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุหทัยธาตุ







    </TD><TD background=../bg/c.gif align=right>พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานเมล็ดงา







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีิริกธาตุพระอาโปธาตุ







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD><TD background=../bg/c.gif>







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีิริกธาตุพระปุพโพธาตุ







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานเมล็ดงา







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณะเทา







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif></TD><TD background=../bg/c.gif></TD><TD background=../bg/c.gif></TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>
    [​IMG]

























    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD><TD background=../bg/c.gif>[​IMG]







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณต่างๆ







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุพรรณใสประดุจเพชร







    </TD><TD background=../bg/c.gif>พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานเมล็ดถั่ว







    </TD></TR><TR><TD background=../bg/c.gif colSpan=3>[​IMG]








    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ตามตำนานโบราณ ได้กล่าวว่ามีพระบรมสารีริกธาตุที่สำคัญ ๗ พระองค์
    ที่ได้อัญเชิญไปสักการะบูชาใน ๓ โลกได้แก่

    ๑. แดนพรหมโลก อัญเชิญ "พระธาตุรากขวัญ เบื้องขวา" ไปสักการะบูชา
    ๒. แดนเทวโลก ท้าวสักกะเทวราช อัญเชิญ "พระเขี้ยวแก้ว เบื้องขวาบน" ไปสักการะบูชา ณ พระจุฬามณีเจดีย์สถาน
    ๓. แดนนาคพิภพ จัดอยู่ในแดนเทวโลก อัญเชิญ "พระเขี้ยวแก้วซ้ายล่าง" ไปสักการะบูชา ประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์ในนาคพิภพ
    ๔. แดนมนุษย์โลก มีพระบรมสารีริกธาตุองค์สำคัญ สักการะบูชาหลายประเทศหลายสถานที่
    สำหรับประเทศไทย "พระรากขวัญ เบื้องซ้าย" และพระบรมสารีริกธาตุส่วนอื่นๆ หลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว
    พระมหากัสสปเถระพร้อมพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ อัญเชิญเหาะมาทางอากาศ นำมามอบแด่พระเจ้าอุชุตราช
    ตามที่พระพุทธองค์ทรงมีพระบัญชาไว้ก่อนปรินิพพาน พระเจ้าอชุตราช ได้ทำการสักการะบูชาอย่างยิ่งใหญ่
    สร้างเจดีย์ทองคำและอัญเชิญประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์บนยอดเขา

    ต่อมาพระราชโอรสของพระเจ้าอชุตราช คือพระเจ้ามังรายมหาราช ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากพระอรหันต์
    ก็สร้างพระมหาเจดีย์ติดกับของพระราชบิดา มีการบูชากันอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนหนึ่งที่เป็นสัญญลักษณ์ และเป็น
    ชื่อดอยมาจนถึงปัจจุบัน คือการบูชาด้วยธงที่ใหญ่และยาวมาก จนได้ชื่อว่า "พระบรมธาตุดอยตุง"

    พระบรมสารีริกธาตุที่สำคัญ ที่เหลืออีก ๓ พระองค์ได้แก่ "พระอุณหิส" ประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์เมืองโยนกบุรี
    และทรงมีพุทธทำนายว่าดินแดนแห่งนี้(ประเทศไทย) จะสืบทอดพระพุทธศาสนาครบ ๕๐๐๐ ปี เป็นดินแดนที่มี
    ความเจริญรุ่งเรืองมาก

    อีกพระองค์คือ "พระเขี้ยวแก้ว ขวาล่าง" ประดิษฐาน ณ เกาะลังกา

    "พระเขี้ยวแก้ว ซ้ายบน" ประดิษฐาน ณ เมืองคันธาระต่อมามีการอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ประเทศจีน

    สำหรับท่านที่ได้พระบรมสารีริกธาตุไปสักการะบูชา ควรจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
    มีความเคารพในพระรัตนตรัยด้วยความจริงใจ นึกไว้เสมอว่าชีวิตมีความตายเป็นที่สุด
    เราอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ จะได้ไม่ประมาทในชีวิต รีบเร่งทำแต่ความดี ท่านจะมีแต่ความสุข
    ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม

    พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวดบทบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
    ต่อจากนั้นสวดบท พระพุทธะชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
    จบแล้วสวดพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า ๙ จบ
    หรือเท่าอายุก็ได้ ตามกำลังศรัทธา

    "อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ"


    คำนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ

    ท่านที่มีจิตศรัทธานำไปสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุเป็นประจำก็จะเป็น
    สิริมงคล ต่อท่านและครอบครัวครับ

    * อิติปิโสภะคะวา ลูกขอกราบบูชา คุณพระรัตนตรัย
    ยกกรวันทา นอบน้อมบูชา ด้วยกาย วาจา ใจ
    มือลูกทั้งสิบนิ้ว ยกเหนือหว่างคิ้ว ต่างธูปเทียนทอง
    วงพักตร์โสภา ต่างมาลากรอง ดวงเนตรทั้งสอง ต่างประทีปถวาย
    ผมเผ้าเกล้าเกศ ต่างปทุมเมศ บัวทองพรรณราย
    เบ็ญจางคประดิษฐ์ กราบด้วยดวงจิต นอบน้อมบูชา

    * พระบรมธาตุ พระโลกนาถ อรหันตสัมมา
    ทั้งสามขนาด โอภาสโสภา ทั้งหมดคณนาสิบหกทะนาน

    * พระธาตุขนาดใหญ่ สีทองอุไร ทรงพรรณสัณฐาน
    เท่าเมล็ดถั่วหัก ตักตวงประมาณ ได้ห้าทะนาน ทองคำพอดี

    * พระธาตุขนาดกลาง ทรงสีสรรพางค์ แก้วผลึกมณี
    เท่าเมล็ดข้าวสารหัก ประจักษ์รัศมี ประมาณมวลมี อยู่ห้าทะนาน

    * ขนาดน้อยพระธาตุ เท่าเมล็ดผักกาด โอภาสสัณฐาน
    สีดอกพิกุล มนูญญะการ มีอยู่ประมาณหกทะนานพอดี

    * พระธาตุน้อยใหญ่ สถิตอยู่ในองค์พระเจดีย์
    ทั่วโลกธาตุ โอภาสรัสมี ลูกขออัญชลี เคารพบูชา

    * พระธาตุพิเศษ เจ็ดองค์ทรงเดช ทรงคุณเหลือคณา
    อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ เทพพิทักษ์รักษา
    ลูกขอบูชา วันทาเป็นอาจิณ

    * หนึ่งพระรากขวัญ เบื้องขวาสำคัญ อยู่ชั้นพรหมมินทร์
    มวลพรหมโสฬส ประณตนิจสิน บูชาเป็นอาจินต์ พร้อมด้วยกายใจ

    * สองพระรากขวัญ เบื้องซ้ายสำคัญ นั้นอยู่เมืองไทย
    พระมหากัสสปะ พร้อมพระเถระ ห้าร้อยพระองค์
    อัญเชิญเหาะมา ตามพุทธประสงค์ นำมอบแด่องค์อชุตราชราชา
    ทรงฉลองสมโภช บรรจุด้วยโกศทองคำบูชา
    สร้างเจดีย์ถวาย พระบรมศาสดา เรียกขานกันต่อมาว่า พระธาตุดอยตุง

    * สามพระอุณหิส สถิตร่วมใน เจดีย์อุไร เมืองโยนกบุรี
    ทรงพุทธทำนาย ถิ่นไทยแดนนี้ รุ่งเรืองเจริญดี มีความสมบูรณ์
    สืบทอดศาสนา ขององค์พระศาสดา ครบห้าพันปี

    * สี่พระเขี้ยวแก้ว ขวาบนพราวแพรว โอภาสรัศมี
    อยู่ดาวดึงส์สวรรค์ มหันตเจดีย์ พระจุฬามณี ทวยเทพบูชา

    * ห้าพระเขี้ยวแก้ว ขวาล่างพราวแพรว โอภาสไพศาล
    สถิตเกาะแก้ว ลังกาโอฬาร เป็นที่สักการของประชากร

    * หกพระเขี้ยวแก้ว ซ้ายบนพราวแพรว เพริดพริ้งบวร
    สถิตคันธาระ วลัยนคร ชุมชนนิกร นอบน้อมบูชา

    * เจ็ดพระเขี้ยวแก้ว ซ้ายล่างพราวแพรว รัศมีโอฬาร
    สถิตพิภพ เมืองนาคบาดาล ทุกเวลากาล นาคน้อมบูชา

    * พระธาตุสรรเพชร เจ็ดองค์พิเศษ นิเทศพรรณา
    ทรงคุณสูงสุด มนุษย์เทวดา พากันบูชา เคารพนิรันดร์

    * ด้วยเดชบูชา พระธาตุพระสัมมา สัมพุทธภควันต์
    ขอให้สิ้นทุกข์ เป็นสุขนิรันดร์ สู่แดนพระนิพพาน ในชาตินี้ เทอญ.

    * อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส นิพพานะปัจจโย โหตุ *

    เชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญครับ
    www.buddhasattha.com
    <!-- google_ad_section_end -->
    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เชิญท่านแวะชมและโมทนาบุญ
    มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มจากเดิมอีกหลายรายการครับ

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192

    ทุกข์ โดยหลวงพ่อชา

    ทุกข์เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่อยากให้มันทุกข์ มันก็ไม่เห็นทุกข์
    ไม่เห็น ทุกข์ มันก็ไม่รู้จักทุกข์
    ไม่รู้จักทุกข์ มันก็เอาทุกข์ออกไม่ได้
    ความจริงทุกข์นี้แหละจะทำให้เราฉลาดขึ้น ทำให้เกิดปัญญา ทำให้รู้จักพิจารณาทุกข์
    คนเป็นทุกข์ควรพิจารณาทุกข์ มิใช่หนี ไม่อยากทุกข์ ทุกข์เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า ตรงนี้ไม่ถูก ตรงนี้ไม่สบาย
    คนเราก็เหมือนกัน ทุกข์จะพาเราไปหาครูอาจารย์ และความสงบในที่สุด

    เมื่อการกำหนดรู้ทุกข์มีความสำคัญมากถึงขนาดนี้ ฃหลวงพ่อจึงให้ทุกข์เป็นภารกิจประจำวันที่ลุกศิษย์ต้องเผชิญแต่โดยธรรมชาติมนุษย์เรา ไม่มีใครชอบทุกข์ พยายามหลบหลีกหรือกลบเกลื่อนอยู่เสมอ
    หลวงพ่อจึงเน้นหนักเรื่องความอดทน ว่าเป็นแม่บทของการปฏิบัติ เป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

    การฝืนความทะยานอยากในทุกกรณี เพื่อกำจัดต้นเรื่องของความทุกข์ ทที่เกิดกลุ้มรุมจิตใจเป็นแนวทางปฏิบัติที่หลวงพ่อพาพระเณรวัดหนองป่าพงดำเนินอยู่เป็นประจำ
    หลวงพ่อเห็นว่า ถ้าไม่ทวนกระแสของตัณหา นักปฏิบัติจะไม่เห็นโทษของมัน จึงกลับหลงยึดมั่นว่าเป็นตัวเป็นตน

    มันมีเหตุ หนักมันจะเกิดเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะเราไปยกมัน
    ถ้าเราไม่ยกมัน มันก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ยกมันก็เบา อะไรเป็นเหตุผล ดูเท่านี้ก็รู้แล้ว
    ไม่ต้องไปเรียนที่ไหน ถ้าเราไปยึดอะไร อันนั้นเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ถ้าเราปล่อยมันก็ไม่มีทุกข์

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า มรรค ผล นิพพาน มีอยู่ มันมีอยู่ตามพระองค์ตรัสสอน
    แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดจากการปฏิบัติ เกิดจากการทรมาน กล้าหาญ กล้าฝึก กล้าหัด กล้าคิด กล้าแปลง กล้าทำ
    การทำนั้นทำอย่างไร ท่านให้ฝืนตนเอง ใจเราคิดไปทางนี้ท่านให้ไปทางโน้น ใจเราคิดไปทางโน้นท่านให้มาทางนี้
    ทำไมท่านจึงให้ฝืนใจ เพราะใจถูกกิเลสเข้าพอกมาเต็มที่แล้ว มันยังไม่ได้ฝึกหัดดัดแปลง มันยังไม่เป็นศีลยังไม่เป็นธรรม เพราะใจมันยังไม่แจ้ง ไม่ขาว จะไปเชื่อมันอย่างไรได้

    ถ้าเราพูดแค่ว่าเราตัดไม่ได้ๆ เอาอันนั้นมาพูด เราก็เป็นนักเลงโตกันหมดทั้งวัดเท่านั้นแหละ
    อาศัยที่ว่ามันตัดไม่ได้ก็พยายามสิ ตัดไม่ได้ก็ต้องขูดมัน ขูดกิเลส เกลากิเลส

    จากหนังสืออุปลมณี


    [​IMG]
    "ทุกข์ ควรกำหนดรู้
    สมุทัย ควรละ
    นิโรธ ควรทำให้แจ้ง
    มรรค ควรเจริญ"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    มอบพระบรมสารีริกธาตุกว่า 10 สัณฐานแก่ทุกท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  4. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,117
    ผมเคยเห็น กะตาครับ ซองพัสดุหรือกล่อง พัสดุ บางครั้งก็ถูกวางอยู่บนพื้น วางกอง ๆ รวมกันอยู่บนพื้น แล้วเห็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ทั้งหญิงทั้งชายเดินคร่อมผ่านกันไปมา และที่เห็นแล้วรู้สึกไม่ดีมาก ๆ ก็เห็นชายกะโปรงของเจ้าหน้าที่ผู้หญิงกวัดแกว่งไปมาผ่านซองพัสดุ กล่องพัสดุที่เห็นเหล่านั้นน่ะครับ ถ้าซองนั้นเป็นพระบรมฯธาตุหรือพระธาตุผมก็ไม่รู้ว่าผลกรรมที่เกิดขึ้นมันจะเป็นอย่างไร หรือผลกรรมไม่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากมีการขออโหสิกรรมไปแล้ว ก็ไม่อาจทราบได้ (ถ้ามีผู้รู้มาชี้แนะก็จะดีมากๆครับ)

    ผมขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ที่ผมเคยแจกพระธาตุหลวงปู่ดู่ ให้กับเพื่อน ๆในเวป วัดถ้ำเมืองนะ (เวปเก่าก่อนปิดปรับปรุง) ผมจะนัดเจอกับผู้ที่ได้รับแจก ซึ่งตัวผมเองนั้นอยู่จังหวัดนนทบุรี ส่วนคนที่ได้รับแจก บางคนอยู่ถึงเชียงใหม่ เชียงราย เขาก็แวะเข้ามารับกับมือ เมื่อมีโอกาสเข้ามากรุงเทพ ฯ (จะช้าหรือเร็วไม่เป็นปัญหาเพราะว่านัดกันล่วงหน้า) ส่วนบางคนที่ไม่มีโอกาสเข้ามาด้วยตัวเองก็จะมีการฝากไปก็ให้มารับต่อกันไปเป็นทอดอีกทีนึงเอาแบบให้อยู่จังหวัดใกล้ๆกัน

    และก่อนจากผมมีข้อสังเกตนิดนึงเกี่ยวกับ เรื่องของความศรัทธา ผมว่าถ้าเรามีความศรัทธาที่มั่นคงแล้ว เรื่องระยะทางใกล้ไกล เรื่องระยะเวลา เรื่องค่าใช้จ่ายแล้วไม่น่าจะเป็นอุปสรรค
     
  5. ปิติธัมโม

    ปิติธัมโม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +11
    กรรมขึ้นอยู่ที่เจตนาและการกระทำ มีความคิดดี มีคำพูดที่ดี มีการกระทำที่ดี ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่ดี
     
  6. nattakit_na

    nattakit_na สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +15
    ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี กับยุคสมัยนี้ ขับรถออกจากบ้าน วันๆ ลอดใต้สะพานลอย หรือทางด่วนไม่รู้กี่แห่ง ไหนจะคนบนเครื่องบิน ไม่รู้คนพวกนี้ จะบาปมากไหมที่มาอยู่บนหัวเรา(ในเมื่อแต่ละคน ต่างมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ติดตัวไปด้วยทั้งนั้น) บ้างคนยังพกพระบรมสารีริกธาตุติดตัวไปก็ยังมี ถึงแม้เขาเหล่านั้นจะไม่มีเจตนาก็ตาม ส่วนที่บางท่านอยู่ไกลขนาดไหน ก็ไปรับกับมือได้ ลองนึกย้อนกลับกันดูถ้าท่านไม่มีเงินไม่มีรถ(ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง)แล้วท่านจะเดินทางไปรับกับเขาไหม หรือคนที่แจก มีการออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ แล้วท่านจะไปรับไหม (บางครั้ง ความศรัทธา กับ ค่าใช้จ่าย ) มันก็ต้องเลือก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2011
  7. ปิดประตูหก

    ปิดประตูหก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +79
    1.ธรรมใดเกิดแต่เหตุธรรมนั้นล้วนต้องดับที่เหตุ
    2.ธรรมใดเป็นไปเพื่อดับทุกข์ เป็นไปเพื่อดับตัณหา ธรรมนั้นเป็นธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    3.ธรรมใดไม่เป็นไปเพื่อดับทุกข์ ไม่เป็นไปเพื่อดับตัณหา ธรรมนั้นไม่เป็นธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    4.ธรรมทั้งหลายเหล่าใดก็ตาม ล้วนไม่เที่ยง ล้วนเป็นอนิจจัง ธรรมเหล่านั้นไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
    5.ธรรมสำเร็จได้ด้วยจิต กายเป็นไปอย่างนั้นๆ เองตามหน้าที่ของมัน
    6.พระธรรมจะดำรงอยู่ได้อย่างบริสุทธิ์ก็ด้วยมรรค 8
    7.ธรรมไม่เลือกหญิงชาย เด็กผู้ใหญ่ แก่หรือหนุ่ม

    อนุโมทนาครับ
     
  8. สิริลดาลดา

    สิริลดาลดา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอแสดงความเห็นค่ะ

    คนส่งเขาไม่ทุกข์.. เพราะ เขารับบุญที่ได้จากการทานอันบริสุทธิ์ใจ
    คนคิดนี่สิทุกข์ ทุกข์เพราะเอาใจไปจับ..การพระธาตุ..พระบรมธาตุ..
    ใจ อย่างเดียวที่ทุกข์ พระธาตุไม่ทุกข์ พระบรมไม่ทุกข์

    ตัวพุทธ แต่ ไม่ทำใจให้เป็นพุทธ...

    ไปรษณีย์ ก็ไม่ทุกข์... อยู่ที่ใจตัวเดียว..
    บาปหรือไม่ก็อยู่ที่เจตนา...

    กลับไปฟัง พุทธโอวาทก่อนปรินิพาน ตอน สุกรมัทวะ ของนายจุนทะ แล้วจะเข้าใจ...สาธุ
     
  9. chang938

    chang938 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +451
    เคยอ่านนิทานเซนเรื่องหนึ่งมีข้อคิดดีมากครับ
    มีพระเซนสองรูปเดินทางไปทำธุระที่ต่างเมืองพอทำธุระเสร็จแล้วก็เดินทางกลับวัด ขณะเดินทางมาถึงลำธารสายหนึ่งกำลังจะเดินข้ามไปได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งจะข้ามลำธารแต่ข้ามไม่ได้เนื่องจากตัวเองแต่งตัวสวยกลัวเปียกน้ำพระเซนทั้งสองรูปได้เข้าไปสอบถามก็ได้ความว่าหญิงสาวคนนี้จะไปงานกินเลี้ยงที่หมู่บ้านฝั่งตรงข้าม พระเซนรูปหนึ่งจึงบอกกับหญิงสาวนั้นว่าจะอุ้มหญิงสาวนั้นข้ามไปฝ่ายหญิงสาวนั้นก็ตกลงพระเซนรูปนั้นก็อุ้มหญิงสาวนางนั้นข้ามลำธารไปส่งอีกฝั่งอย่างปลอดภัยแล้วพระเซนทั้งสองรูปก็เดินทางกลับวัด เมื่อถึึงวัดแล้วพระเซนรูปที่ไม่ได้อุ้มหญิงสาวซึ่งคิดมาตลอดทางว่าเป็นพระแล้วอุ้มผู้หญิงไม่สมควรและบาปอดใจไม่ไหวจึงถามและตำหนิพระรูปที่อุ้มหญิงสาวว่าท่านอุ้มผู้หญิงทำไมไม่รู้หรือว่าเป็นบาปและไม่สมควรเนื่องจากเป็นหญิงสาวด้วย พระรูปที่อุ้มหญิงสาวจึงตอบว่าผมวางผู้หญิงคนนั้นที่ฝั่งลำธารแล้วท่านยังไม่วางเธออีกหรือ
     
  10. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
    เอาบุญมาให้ร่วมโมทนากันครับผมไปปฏิบัติธรรมช่วงวันสงกรานต์ที่พระนครศรีอยุธยาครับ

    <TABLE id=post4605712 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4605712 class=alt1>
    งานบวชเนกขัมมภาวนา ในช่วงสงกรานต์
    วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์วัดพระบาทน้ำพุ เพียงโทร1900222200 ครั้งละ15 บาท<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by พ่อโชคดี; วันนี้ at 04:59 PM.
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("4605712")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=thead>พ่อโชคดี</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ พ่อโชคดี</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่ง Email ถึง พ่อโชคดี</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ พ่อโชคดี</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>Add พ่อโชคดี to Your Contacts</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>พ่อโชคดี Donation Stats</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>View พ่อโชคดี's Videos </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE id=post4606167 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] วันนี้, 05:10 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#177 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พ่อโชคดี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4606167", true); </SCRIPT>



    สมาชิก ​



    [​IMG]



    วันที่สมัคร: Apr 2010


    สถานที่: 9/11 ถ.มหาราช ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000


    ข้อความ: 992


    พลังการให้คะแนน: 335 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4606167 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->งานบวชเนกขัมมภาวนา ในช่วงสงกรานต์


    วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา <!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG] </FIELDSET>​



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    [​IMG]


    <FIELDSET></FIELDSET>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  11. poovadol

    poovadol สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่คิดว่าการส่งทางไปรษณีย์นั้นก็ไม่เหมาะสม เพราะองค์ท่านเป็นถึงพระบรมฯ แต่เหตุปัจจัยหลายๆอย่างด้วยกัน ทำให้หลายๆคนที่อาจจะไม่มีเวลาไปรับก็ดีไปอัญเชิญมาก็ดี ถ้าคนซัก 100 คน ไปในที่เดียวกันในเวลาใกล้เคียงกัน มันก็คงเป็นปัญหายุ่งยาก ไหนจะเรื่องวันเวลาบ้าง สถานที่บ้าง แต่ถ้าเราเอง มอบทางไปรษณีย์ก็ดี ภาระปัญหาตรงนี้ก็ลดลงไปได้ถ้า แล้วถ้าหากรอ รอเวลาที่จะมีโอกาสเข้าไปอัญเชิญ ผมเชื่อว่าคนที่อยากจะบูชาองค์ท่านนั้น มาก ๆนั้นก็มี คืออยากให้องค์พระบรม มาประดิษฐาน ณ. ที่อันเหมาะสม ในสถานที่นั้นๆของบ้านตัวเอง แล้วสมมุตนะครับถ้าเป็นเด็ก เขาอยากที่จะมีพระองค์ท่านไว้บูชาบ้าง แต่พ่อแม่เขาก็ดีนั้นไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่มีเวลาพาไปก็ดี หรือ ความศรัทธายังไม่มากพอก็ดี แล้วเด็กคนนั้นจะไปอัญเชิญได้อย่างไรกันครับ ถ้าคิดขำๆนะครับ ผมคิดว่าก็แจ้งเรื่องไปทางไปรษณีย์เลยครับ หรือตั้งหน่วยงานตั้งกองทุน กองอำนวยการ ตั้งเป็นแผนกจัดส่งองค์พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุไปเลย จะได้ไม่ต้องมาติดใจหรือค้างคา ในเรื่องอกุศลกรรมก็ดี การปรามาสพระองค์ก็ดี แต่ผมคิดว่าถ้าเรามีจิตใจดีแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเข้าใจ แต่ถ้าคิดไปแล้วเป็นทุกข์ผมว่าก็อย่างนำมาคิดเลยครับ คิดไปแล้วสังคมแตกแยก พระศาสนาแตกแยก เรายิ่งบาปกว่าเก่า ทางที่ดี เราท่านคิดเห็นอย่างไร ก็อะลุ่มอล่วยให้กันครับ ไม่มีใครที่ถูกคนเดียว รู้คนเดียวในทุกๆเรื่องได้ คนเราเกิดมาไม่เท่ากันครับ งานไม่เท่ากัน เงินไม่เท่ากัน บารมีวาสนาไม่เท่ากัน มีแต่เวลาละครับที่เท่ากัน แต่การใช้เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ก็อยากให้ท่านได้เข้าใจ แต่ถ้าเป็นไปได้แน่นอนครับไปอัญเชิญด้วยตัวเองดีที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  12. ICDS

    ICDS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    2,612
    ค่าพลัง:
    +4,084
    แล้วแต่มุมมอง ครับ
    เหมือนเหรียญก็มีอยู่สองหน้า ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองด้านดี หรือด้านเสียของสิ่งๆ นั้น
     
  13. jaruwit2509

    jaruwit2509 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +205
    ปัจจุบันนี้พระอริยเจ้าท่านยังมีอยู่ ทำไมไม่ถามท่านดูว่าได้หรือไม่ได้

    อย่าคิดเอาเองเลยครับตราบใดที่ยังมีกิเลสอยูเต็มหัวใจ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ

    ผมว่าท่านต้องออกมาเตือนบ้างแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2012
  14. ศิริเทพ

    ศิริเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +795
    อนุโมทนาทุกท่าน สาธุๆๆๆ
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: #2b0801 2px solid; BORDER-LEFT: #2b0801 2px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-TOP: #2b0801 2px solid; BORDER-RIGHT: #2b0801 2px solid; PADDING-TOP: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 jQuery1327310279984="10"><TBODY jQuery1327310279984="9"><TR jQuery1327310279984="8"><TD class=content colSpan=2 jQuery1327310279984="7" sizset="4" sizcache="0">พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหา



    </TD></TR><TR><TD class=content vAlign=top width=650 colSpan=2 align=middle>

    พระพุทธองค์ตรัสว่า เจตนาเป็นตัวกรรม แล้วเจตนาที่จะเป็นบาปกรรม คือ เจตนาทางใจที่เป็นอกุศลและกระทำการลงไป เพราะพระพุทธองค์ตรัสด้วยว่า " ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ "

    ผมขอยกเรื่องราวในพระไตรปิฎกมาแสดงนะครับ:
    พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเรื่องปาณาติบาต 2 กรณี


    ในครั้งพุทธกาลเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับศีลธรรม หรือพระวินัย แล้วมีผู้ไปถามพระพุทธเจ้า เช่น 1. มีภิกษุใช้มือปัดโดนมดตาย 2. มีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย​

    พระผู้มีพระภาคเจ้าจะสอบสวนเขาโดยถามคำถามเดียว คือ ตอนที่ท่านทำสิงนั้นลงไป ในใจของท่านมีเจตนาเช่นไร​


    กรณีที่ 1.


    ภิกษุนั้นตอบว่า เขาคันที่แขน เลยเอามือไปเกาและปัด ​

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า "ท่านไม่ได้มีเจตนาฆ่ามด จะถือว่าทำบาปกรรมได้ยังไง"


    กรณีที่ 2.


    ในกรณีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย สวบสวนแล้ว ได้ความว่าภิกษุที่ตัดต้นไม้ เจตนาของเขาคือโค่นต้นไม้ แต่เกิดอุบัติเหตุ ต้นไม้ตกลงมาทับภิกษุอื่นตาย ​

    พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า " ภิกษุคนนี้มีเจตนาอย่างอื่น ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเพื่อน จึงไม่ผิด (ไม่ได้เป็นบาปกรรม)"
    เห็นหรือยังครับว่า กรณีที่ 1 เจตนาทางมือคือเกาและปัดเพราะคัน แต่เจตนาทางใจไม่ได้ต้องการฆ่า จึงไม่ได้ทำบาปกรรม กรณีที่ 2 เป็นการฆ่าคนตายโดยประมาท ก็ถือว่าไม่ได้ทำบาปกรรมเช่นกัน
    เราต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง กตัตตากรรม (กรรมที่ไม่เจตนาซึ่งให้ผลเหมือนกันแต่ว่ามีผลน้อย) กับ กรรมที่กระทำโดยเจตนาอันประกอบด้วยโมหะ(คือความหลงผิด) โดยการตั้งใจทำกรรมที่ไม่ดี โดยเข้าใจเป็นว่าไม่ใช่กรรมไม่ดีหรือเป็นกรรมดี

    ยกตัวอย่างเช่น มิจฉาทิฏฐิ ของผู้ที่มีความเชื่อว่า การบูชายัญเป็นการได้บุญ ใครทำแล้วจะได้ไปสวรรค์ แม้ใจเขาจะคิดในสิ่งที่ดี แต่ว่าเนื่องจากมีความเห็นที่ผิด แม้ขณะฆ่าสัตว์อยู่ใจจะน้อมนึกคิดไปถึงสวรรค์ แต่ด้วยเหตุแห่งกรรมนั้นย่อมไม่สามารถทำเขาให้ไปถึงสวรรค์ได้

    การศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า เราควรจะมีความละเอียดรอบคอบ และแยกแยะเป็นกรณีๆไปได้อย่างถูกต้อง การยึดมั่นในจุดใดจุดหนึ่ง หรือ การยึดมั่นในทิฏฐิความเห็นของตนมากจนเกินไป อาจจะทำให้มีการเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าคลาดเคลื่อนไปได้ (ควรศึกษาธรรมให้ละเอียดก่อนจะเผยแพร่ความเห็นใดๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สุขทั้งของผู้อื่นและของตัวโยมเองด้วยนะ) ขอเจริญพร.
    สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนนั้นเป็นความจริงอยู่แล้ว สำคัญคือ ขึ้นอยู่ที่ผู้แปลความหมาย หรือตีความความหมายของท่าน ว่าจะมีความเข้าใจละเอียดมากน้อยแค่ไหน หากอุปมาเวไนยสัตว์เป็นเหมือนกับดอกบัว 4 เหล่าแล้ว ก็จะสามารถเรียงลำดับความยิ่งหย่อนของอินทรีย์ได้ดังนี้

    1.บุคคลที่แม้ได้ฟังเพียงหัวข้อธรรม ก็สามารถเข้าใจความหมายโดยนัยยะต่างๆ อันอาศัยหัวข้อธรรมนั้นได้เป็นร้อยเป็นพันนัย ดังเช่น พระสารีบุตรที่ได้ฟังเพียงคำสอนอันเป็นหัวใจสำคัญจากพระอัสสชิ ก็สามารถแจ่มแจ้งแทงตลอดในธรรม จนได้ดวงตาเห็นธรรมได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน หรือ พระอรหันต์รูปอื่นๆที่เมื่อได้ฟังธรรมเพียงครั้งเดียวก็สามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้เลย

    2.บุคคลที่เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว จำเป็นต้องได้รับคำอธิบาย แจกแจงรายละเอียดอีกเล็กน้อย จึงจะสามารถเข้าใจธรรมได้

    3.บุคคลที่เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว จำเป็นต้องได้รับคำอธิบายหลายครั้งหลายหน รวมทั้งยังต้องลงมือฝึกฝนปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงจะเกิดปัญญาเข้าใจแทงตลอดในธรรมนั้นๆได้
    4.บุคคลที่เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว แม้จะได้รับคำอธิบายต่างๆ หรือ มีการฝึกฝนปฏิบัติอย่างมากมาย ก็ยังไม่สามารถที่จะรู้แจ้งแทงตลอดในธรรมได้ (ในกรณีนี้พระพุทธเจ้าท่านมีกล่าวอุปมาการสอนคนของท่านว่า หากบุคคลใดเป็นผู้ที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ท่านก็จะไม่สอน เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ที่สอนไม่ได้)

    ปล.ดังนั้นธรรมะบทเดียวกันก็อาจจะเกิดการตีความหรือเกิดการเข้าใจความหมายไปในทิศทางต่างๆได้ เราจึงควรตั้งตนไว้ในความไม่ประมาท หมั่นสอบถามผู้รู้ และแยกแยะเหตุปัจจัยต่างๆให้ละเอียด

    ธรรมะบางเรื่องบางหัวข้อก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตายตัวหรือให้ความหมายตรงๆ เช่น 1+1=2 แต่ว่าอุปมาเป็นเหมือนโจทย์คณิตศาสตร์ที่ เป็นค่าสมการ ที่ต้องมีการแทนค่าและมีเหตุปัจจัยมีตัวแปรที่อาจจะทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไปได้หลากหลาย จึงควรต้องระมัดระวังในจุดนั้นให้ดี ขอเจริญพร
    สาธุๆๆๆๆๆ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  15. kasinthara

    kasinthara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +249
    นี่ คือ พระ ธาตุ สีวลี ซึ่งมีผู้ส่งมาให้ ด้วยความเมตตา แบ่งมาให้บูชา โดยที่ไม่ได้ขอ ผลจากการเดินทางโดยไปรษณีย์ ทำให้องค์พระธาตุแตก ตามที่เห็น จะให้ทำอย่างไรดี เพราะผู้ที่ส่งมาให้ก็ด้วยความมีเมตตา กระผมเองก็ไม่ทราบว่าจะมีการส่งพระธาตุสีวลีมาให้ สัญฐานพระธาตุสีวลีเป็นก้อนกลมเวลาถูกกดทับเลยแตก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN5447.jpg
      DSCN5447.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.7 MB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2012
  16. maxcomp

    maxcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +874
    ขอร่วมด้วย ช่วยคิด อีกคนนะครับ
    ในกรณีที่ยกตัวอย่างว่า ซองบรรจุพระบรมฯ ที่ส่งกันทางไปรษณีย์ อาจจะไปรวมอยู่กับสิ่งของบางอย่างเช่น กล่องผ้าอนามัย
    คำถาม เรามองกล่องผ้าอนามัยเป็นอะไร เป็น เวชภัณฑ์(สมมติว่าเป็นสำลี ที่มีรูปทรง แบนและยาว) หรือมองว่า ผ้าอนามัย นั้นหมายถึงของต่ำ ไม่สมควร (อย่างยิ่ง)
    ผมเลยสงสัยว่า ผ้าอนามัยที่ส่ง คงไม่ใช่ของใช้แล้ว มั๊ง คับ

    ผิดถูกผมไม่แน่ใจนะ แต่เจตนาของผม ไม่มีอกุศล แน่นอน นะครับ
    เหมือน พี่ท่านนึงที่ว่า แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ผมกลับมองว่า กล่องผ้าอนามัย ถ้ายังไม่ใช้ ก็ไม่น่าจะเป็นของต่ำนะ เพียงแต่เราคิดกันไปเองว่า ต่ำ และ สกปรก ผมว่า จิงๆ แล้วสะอาดกว่าเสื้อผ้า ที่เราใส่ๆ กันซะอีก และต่อให้เป็นถุงยางอนามัย ผมก็ถือว่า ถ้ายังไม่ได้ใช้ก็คงไม่ถือว่าต่ำเช่นกัน เพราะมันมีคำว่า "อนามัย" ทั้งคู่เลย

    *** ทางแก้ไข ผมเสนอว่า ให้เขียนที่ซองหรือมุมซองดีมั๊ย ว่าเป็น "วัตถุมงคล" เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ เผลอทำการก้าวล่วง แต่ถ้าเจ้าหน้าที่เจตนา จะก้าวล่วงก็เป็นเรื่องของเค้าไป "เราเตือนท่านแล้ว" จะดีมั๊ย

    ท่านใดมีข้อชี้แนะเพิ่มเติม เชิญนะครับ เ็ป็นกุศลทั้งนั้น
    จะได้พอที่จะช่วยให้ผู้ใ้ห้และผู้รับ ไม่ต้องวิตกกังวล
    ขอให้มองด้วยธรรม จริงๆ ผมมันแค่ผู้ปฏิบัติมือใหม่ อาจจะยังไม่รู้ประสา หรือลึกซึ้งพอ ฝากตัวด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2012
  17. ธิญาดา

    ธิญาดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +582
    ทุกครั้งที่ได้รับทางไปรษณีย์ เราขอขมาท่านก่อนทุกครั้งค่ะ และขออนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่แจกพระธาตุด้วยค่ะ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา นำสิริมงคลมาให้อย่างยิ่ง การบูชาพระธาตุด้วยดอกไม้ของหอมด้วยศรัทธา เพียงครั้งเดียว ทำให้ไปจุติบนสวรรค์ได้ทีเดียว บุญกุศลมากมายประมาณไม่ได้ค่ะ
     
  18. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ใครอยากแจกพระธาตุแล้วอยากให้คนไปรับเองก็บอกสถานที่มาได้เลยครับ ในกรุงเทพฯ คนสนใจเขาจะเดินทางไปรับด้วยตนเอง บางคนก็ไม่สะดวกให้คนมาเจอตัว เจอที่บ้าน ก็จะส่งทางไปรษณีย์แทน บางคนบอกให้ไปรับด้วยตนเองแต่คนไปรับต้องโดนถ่ายรูปด้วย แล้วนำมาลงเวป หลายคนในเวปไม่อยากเผยโฉมหน้าก็มีนะครับ ไม่ก็คนไปขอรับอาจมีนิสัยอะไรที่แปลกๆทำให้ผู้แจกรู้สึกไม่ดี ต้องระวังตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2012
  19. แสงพุทธะ

    แสงพุทธะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2011
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนาบุญทุกๆความคิดด้วยครับ
    ถึงความคิดจะแตกต่างกันแต่ก็นำมาด้วยความหวังดี
     
  20. แตงโม๒

    แตงโม๒ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +30
    เจตนาเป็นเครื่องบ่งชี้

    หากเพียงวัตถุธาตุที่คงเหลืออยู่ของ พระอรหันต์ หรือพระโพธิ์สัตย์ สามารถทำให้คนบาปได้กลับใจ ....สุดท้าย ผมคิดว่าสมควรต่อเหตุแก่การคงเหลือไว้ ในธาตุนั้น ๆ สาทุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...