ความลับของชีวิต

555 เหมือนรู้ว่าชอบซ้อมตอนขับรถ
แต่เวลาขับรถแนนไม่ได้กำหนดสมาธิจดจ่ออย่างเดียวค่ะ แนนเน้นสลับดูอาการที่เด่นตอนนั้น จิตกายสลับกันไป เลยคิดว่าจังหว่ะดิ่งวูบเข้าฌานนิ่งไม่น่าจะมี

เวลารู้สึกตัว มันจะรุ้สึกไปทั้งตัวพร้อมกันไปเลยค่ะ อาการเหมือน วื้ดดด ไปทั้งตัว บอกไม่ถูก ไม่ได้ไล่ไปทีละส่วน...แต่ไล่คลายทีละส่วนก็ไม่น่าจะต่างกัน

 

คุณปราบ เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนม ด้วยรึนี่

 

เราเสพปีติไปทำไมหรอคะคุณแนน
ปีติตัวนี้คือปิติสมถะป่ะคะ แล้วปีติมีประโยชน์อะไรหรอ

 

เห็นบอกว่าสามารถดึงมาเป็นจุดเข้าวิปัสสนาได้ค่ะ จากที่หลายๆท่านบอกว่ามันคือจุดนัดพบ

แล้วสามารถดึงเอามาใช้พักอารมณ์เพื่อผ่อนคลายได้ทันทีไม่ต้องรอเข้าฌาน

ปิติตัวที่ฝึกเป็นส่วนของ สมถะค่ะ

ส่วนเพิ่มเติมต้องให้ ท่านอื่นตอบละค่ะ

 

จิต ใต้ สำนึก ก้จิตเพียวๆ นี่ละครับ

คำว่าใต้สำนึก พอไปพุดถึง วิชาการแบบโลก กลบธรรม

พุดสลับไป วกไปวกมา ก็ ขายดีเลย

เหมือน การนิยมของนอก แล้วเข้าใจ ว่ามันเท่ห์ ดูอินเตอร์

 

จุด นัดพบ เป็น ปฐมฌาน ของอริยะมรรค

ไม่ใช่ปฐมฌาน จาก สมถะนะครับ

ปฐมฌาน จาก สมถะ จะสามารถสั่งได้ ปิติจึงสั่งได้

ถ้า ปิติ จากปฐมฌานในอริยมรรค มันสั่งไม่ได้

 

ใช่ค่ะ มันเป็นภาษาโลกๆ เพราะโลกรู้จักแต่คำนี้ เขาไม่เก็ทกันค่ะว่าจิตเพียวๆคืออะไร จิตในความหมายของโลก เขารู้อย่างเดียวคือ คือจิตที่คิดหมกมุ่นในอารมณ์ต่างๆแค่นั้น

 

งั้นแสดงว่า ปิติ ที่เป็น วสี ดึงไปใช้วิปัสสนาไม่ได้หรอคะ

 

เขาใช้ได้ เรียกว่า เป็นขั้นของ การตบแต่งขันธ์

พอใช้เป็น ก็เรียก มรรคสาสวะก้ได้ เป็นอาหาร ของ วิชาและวิมุติเหมือนกัน

 

แนนเข้าใจว่าจุดนัดพบ คือปิติทั้งจากสมถะและวิปัสสนา ซะอีก

เพราะเหมือนต่างคนต่างมาแล้วมาเจอทางร่วมแล้วมุ่งเข้ามรรคทางเดียวกัน

 

ทางเดียว ทางอันเอก ทางเดียวกัน
พระอริยะทุกประเภท จะมาพบกันที่นี่ เป้นจุดนัดพบ

 

https://palungjit.org/threads/ข้อสังเกตุ-จุดนัดพบ-ของนักภาวนา.410875/

ไปอ่านเจอทู้เก่าคุณปราบ
ก็คือภาวนาจนไปถึงจุดที่ เป็นไปของมันเอง จุดที่เป็นไปของมันเอง คือจุดนัดพบ

งั้นเราต้องเอาปิติมาระลึก เพื่อไปให้ถึงจุดนัดพบอีกที ถูกมั้ยคะ

 

ถ้า เจอนมแต้ๆ ก็จะเจอ การอธิบาย จิตเหมือนๆจะแยกออกเป็น สามมิติ มีจิตใต้สำนึกด้วย

นมผสม ก็จะเอามารวมกัน วกไป วนมา

 

ก็คือ ตอนที่แยกรูปนามออกมาได้ นั่นคือปฐมฌานของวิปัสสนา

 

! ความระลึกอันนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า เออก็เรายังจําได้อยู เมื่องานแรกนาแห่งบิดา เรานั่ง ณ ร่มไม้หว้ามีเงาเย็นสนิท มีใจสงัดแล้ว จากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย บรรลุปฐมฌานมีวิตกวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่ ชะรอยนั่นจักเป็นทางแห่งการตรัสรู้บ้าง ดังนี้. ราชกุมาร ! วิญญาณอันแล่นไปตามความระลึก ได้มีแล้วแก่เราว่า นี่แล แน่แล้ว หนทางแห่งการตรัสรู้ดังนี้.


อันนี้คือสิ่งที่ท่านดำริตอนที่กำลังจะเลิก ทำการอดอาหารก่อนตรัสรู้ไม่นาน

ก็รอให้คุณปอป และคุณ พญาตีน ช่วยแถลงข้อข้องใจแก่ลุงและเหล่าคนดูละครับ ว่าตอนก่อนหน้าท่านฝึกกับอาจารย์ดาบถ ฌาน 7-8 ยังไงถึงข้ามการระลึกถึงตัวนี้แต่สามารถบรรลุฌาน 7-8 นั้นได้(แต่ไม่บรรลุ)

อนึ่ง มีข้อความน่าสนใจ

ราชกุมาร ! ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า “ศรัทธา, วิริยะ, สติ,
สมาธิ, ปัญญา จักมีแต่ของอาฬารผู้กาลามโคตรผู้เดียวก็หาไม่. ศรัทธา, วิริยะ,
สติ,สมาธิ, ปัญญา ของเราก็มีอยู่ ;อย่างไรก็ตาม เราจักตั้งความเพียรทําให้
แจ้งธรรมที่ท่านกาลามะประกาศแล้ว

คำเหล่านี้มีมาก่อนตรัสรู้

รอกูรูเฉลยฮับ รอเสพ
(แต่ถือว่าตอบคำถามคุณแม่หวีแล้ว ปิติมีไว้ทำไม)

 

ปฐมฌาน ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกักคตา มีองค์ประกอบ 5
ในสมาธิ วิปัสนา หรือ สมาธิ อริยมรรค

หาก จะ นับขั้น จะมี ขนิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปนาสมาธิ

ปฐมฌาน เต็มขั้นจะเริ่มที่อัปนาสมาธิ ไปจน อัปนาสมาธิอันละเอียด คือฌาน 4 เมื่อเข้าเป็น สมาธิของอริยะมรรค จะเรียกเพิ่มเป็น ปัญจมฌาน คือ ฌานแห่งปัญญา


แม้ ขนิกสมาธิ ของอริยมรรค ก้พึง หวังผล 1-4 ได้

เพราะ อะไร เพราะ ความเป้นไปเอง ของลำดับวิปัสนาญาน

ขนิกสมาธิของ อริยะมรรค จึงต่างจาก ขนิกสมาธิของสมถะหรือของฤษี อย่างฟ้ากะเหว

 

ปีติที่นึกออกคือ ตอนไปฝึกวาโยแล้วจะมีอารมณ์ความสุขแบบไม่มีในโลกขึ้นมา หรือไม่ก้อขนแขนแสตนอัพ อันนั้นคือปีติป่ะ

พอมาฝึกอสุภะ ใช้อสุภะนั่นแหล่ะพักจิต นั่งดมยาแป๊บนึง แล้วจิตค่อยพินาวิปัสสนาไป ไม่เห็นต้องไปเสพปีติอะไรเลย

จะมีปีติก้อแค่จิตไปยึดสภาวะผลงานออกมา แล้วชอบอะไรแบบนั้น เจอแต่ปีติแบบนี้มากกว่า

 

เห็นด้วยค่ะ เพราะตอนจิตเดินวิปัสสนา เจอแต่จังหว่ะของ ขนิกสมาธิ ตลอดเลย

เห็นบางคนดูถูกสมาธิตัวนี้ แต่อยากบอกมากเลย ว่ามันไม่ได้มาเล่นๆ บทมันจะมา มันเอาจิง

 

อธิบายตรงนี้หน่อยคับ

 

ปิติ ที่ใช้การได้ ของสมาธิ เป้นปิติแผ่ซ่านซาบซ่าน ขนลุกขนชัน
เรียกทางโลกๆหน่อย
ก้เป้นพลังงาน แม่เหล็กไฟฟ้า สถิต

ปิติ ก้เป็น องค์ประกอบ ของ ฌาน
เมื่อ มีวิตก วิจารก้เกิดขึ้น ปิติก็ตามมา สุขก้มาเป็นผล เกิดองค์รวม วนไปวนมาไปหนึ่ง
จึงเรียกว่า ปฐมฌาน


จิตยึดปิติแบบในความหมายฉวี
ก็คือการ เพลินพอใจสุขที่เป็นผล ของสมาธิ ที่นักสมถะ จะติดสุข เพราะมันสบาย

แต่ น้อยคนจะเข้าถึง เพราะความความเพียรอ่อน
ยิ่งพวกบอกว่ากลัวจะติดสมถะ นี่ยิ่งไปใหญ่ ยังไม่รุ้จักสมถะเลย ก้กลัวจะติดสะแล้ว


ฝึกสมาธิในรูปแบบ มาหลายปี วันละ 10 ชม. ยังสั่งปิติไม่ได้ ก้ต้องพินาตัวเองแล้ว