ความจริงเรื่องรูปหลวงปู่เทพโลกอุดร

ผมเองก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วผู้เขียนเรื่องพระครูโลกอุดรเขาไปสรรหามาแต่ไหนพอมีฉบับที่ลงเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรเขาก็แจกมาพร้อมหนังสือแล้ว



นี่เป็นภาพปกหนังสือฉบับรวมเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรของสำนักพิมพ์โลกทิพย์



นี่เป็นภาพจากเวปธรรมกาย(วัดหลวงพ่อสดฯ) พระมหาเสริมชัย



นี่เป็นภาพที่อยู่ด้านหลังรูปปั้นพระอุตตรเถระ วัดพระปฐมเจดีย์



ไม่บอกที่มาว่าถ่ายหรือวาดจากไหน

 

ขอบคุณท่าน อ.ศนิวาร มาก ๆ ครับ

 

คุณสิทธา เชตวัน ไม่ได้เป็นคนคิดชื่อนี้ครับ แต่เกิดจากคุณสิทธาไปสัมภาษณ์ครูโทน เรื่องหลวงปู่ใหญ่ ตอนนั้นครูโทนอายุ98ปี

เห็นด้วยครับ

ผมไม่ได้โกรธใครอะไรทั้งนั้นนะครับ ผมก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่า เชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน เลยไม่รู้จะโกรธเรื่องอะไรครับ :VO

รูปอื่นผมเฉยๆ ไม่ตอบรับหรือปฎิเสธ เพราะว่าที่ผมได้เจอท่าน หน้าตาท่าน

ละม้ายคล้ายรูปที่ผมเอามาให้ดูที่สุด แต่ก็ไม่เหมือนสักทีเดียว และนี่คือ

หนังสือที่ผมได้อ่านครับ





ส่วนนี่เป็นรูปครูโทน ที่คุณสิทธาไปขอสัมภาษณ์ และจากข้อมูลที่ผมได้รับ

มา รูปที่พูดถึงมาจากครูโทนครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ ที่ลงเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาจะไปลบหลู่ความเชื่อใคร เพียงแต่นำความจริงที่จับต้องได้มาเปิดเผยให้ได้รู้กันอีกแง่มุมหนึ่ง หนังสือที่คุณเอาให้ดูนั้น หนังสืออะไรครับ ปู่โทน หลำแพ เป็นคนเพชรบูรณ์หรือครับ ได้ข่าวว่าท่านเป็นคนตาคลี นครสวรรค์ ไม่ใช่หรือครับ หรือว่าผมเข้าใจผิดกันแน่ครับ อย่างไรก็อยากให้คนที่รู้ ช่วยมาบอกทีครับว่าปู่โทน ท่านเป็นคนที่เพชรบูรณ์ หรือนครสวรรค์ ครับ ส่วนที่ท่าน exia บอกว่าเคยเจอท่าน ผมเองไม่ออกความเห็นครับ เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่แรกแล้วว่า กระทู้นี้ไม่มีเจตนาไปลบหลู่ ความคิดหรือความเชื่อของใคร ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้

 

เมื่อในข้อความที่สัมภาษณ์ปู่โทนกล่าวไว้ว่าปู่โทนยืนยันว่า พระครูเทพโลกอุดร คือสำเร็จลุน แห่งประเทศลาว

ถ้าเป็นตามที่ปู่โทนพูด ก็แสดงว่ารูปที่ใช้แทนตัวพระครูโลกอุดรนี้เป็นที่แอบอ้าง เพราะมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นพระครูใบฎีกาพรหม สิงหบุรี

ดังนั้นจึงยังเป็นที่สงสัยอยู่ว่ารูปที่คุณสิทธาเอามาจากปู่โทน แล้วปู่โทนเอามาจากไหน ฝั่งลาวหรือฝั่งไทย แล้วทางวัดของพระครูใบฎีกาพรหมมีรูปนี้ได้อย่างไร เพราะองค์ประกอบของภาพเหมือนกันทุกอย่าง ต่างแต่ชื่อเท่านั้น

เมื่อเป็นอย่างนี้จึงเป็นข้อกังขาว่า อะไรจริง อะไรเท็จ

หากจะบอกว่ารูปนี้ถ่ายมาจากถ้ำวัวแดงก็คงเป็นไปได้ยากที่จะมีคนหอบเอาอุปกรณ์ถ่ายภาพสมัยเจ็ดสิบแปดสิบปีก่อนที่กล้องตัวเบ้อเร่ออุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ อีกกระเตงเข้าไปป่าเข้าดงไปจนถึงถ้ำวัวแดงที่แม้แต่ลูกศิษย์รุ่นหลังยังเถียงกันว่าอยู่ที่เพชรบูรณ์หรือชัยภูมิหรือที่หิมพานต์กันแน่เพื่อถ่ายเอารูปนี้ออกมา ไหนจะฉากหลัง เก้าอี้นั่ง โต๊ะวางแจกันดอกไม้ แล้วอีกอย่างคือมีหรือที่พระครูเทพโลกอุดรที่คนธรรมดายากจะพบเห็นนั้นจะมานั่งถ่ายรูปได้ง่าย ๆ อย่างนี้

ที่ผมพูดมานี้ไม่ใช่ไม่เชื่อว่าพระครูโลกอุดรไม่มี ผมเชื่อว่ามีอยู่จริง แต่ภาพที่เผยแพร่กันอยู่นี้จะใช่ภาพของพระครูโลกอุดรจริงหรือไม่ เท่านั้นเอง

 

ส่วนตัวผมเองก็ยืนยันไม่เคยลบหลู่ความเชื่อใคร แต่เชื่อตามหลักฐาน และสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นจริง คำว่า คิดว่า, นึกว่า, น่าจะ, มั้ง ,ใช่มั้ง ฯลฯ เอามาใช้ร่วมกับการดำเนินชีวิตไม่ได้ เพราะคนเราได้รับการศึกษา ต้องวอิเคราะห์ก่อนเชื่อตามหลักฐาน หลายอย่างในประเทศไทยที่เกิดขึ้น ผมไม่เชื่อก็เยอะ ประวัติศาสตร์ชาติไทย บทบัญญัติคำสอนทุกศาสนา หลักศิลาจารึก ทับหลัง อีกมากมายหลากหลายร้อยพันอย่าง แม้แต่ภาพวาดตามถ้ำต่างๆที่อ้างว่ายุคสมัยคนโบราณทำเอาไว้ หลายๆที่ที่ไปดูมา ผมก็ไม่เชื่อ แล้วนี่มีรูปให้ดูชัดเจน แถมข้อมูลเริ่มต้นมั่วมาจากคนๆเดียวอีก คำพูดคนๆเดียวเชื่อไม่ได้ สิทธา เชตวัน อ้างลุงอะไรที่ว่ามานี่ เพื่อเป็นเครื่องมือประกอบความน่าเขื่อถือเท่านั้น อันที่จริงคนตายแล้วไม่อยากเอามาเอ่ยอ้างให้ผีนอนสะดุ้ง ที่ผ่านมาเจอครุบาอาจารย์มากมายหลายรูป แต่จะหาที่เป็นพระแท้จริงตามแบบพระที่ควรจะ น้อยเหลือเกิน ส่วนมากจะนึกเอาว่าตนเองเป็นพระเกจิ หรือศิษย์ยกยอกันเอาเอง หรือบางทีสถานะการณ์บังคับก็มี

 

ผมตามอ่านน่ะครับ บอกตามตรง ไม่กล้าวิจารณ์ของศักสิทธิ์มาก แต่ผมก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แต่ในยุคหนึ่งผมก็ติดตามเรื่องหลวงปู่โลกอุดรด้วยความสนใจ และยังหนุ่ม ผมไป หลายที่ ที่ขับรถไปได้ พอเดินไหว

ผมเคยถาม อาจารย์ของผม หลวงปู่พระครูบุญศรี ที่ลูกศิษย์เชื่อว่าตอนท่านมรณะภาพ อายุ ไม่ต่ำกว่า ๙๖ ปี แต่ที่คนเชื่อกันคือ ๑๐๘ ปี เพราะท่านเป็นพระ ๕ แผ่นดิน อันนี้ชัดเจน

พอผมสนิทๆกับท่านดี ผมกราบเรียนถาม เรื่องลึกลับและ เรื่องไม่น่ารู้ ไม่มีทางรู้ และ อยากจะรู้หลายอย่าง และ ส่วนมากท่านจะตอบสั้นๆ ว่า มี หรือ ไม่มี จะ อธิบายบ้างแต่น้อย ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์

ผมเคยกราบเรียนถามท่านว่า หลวงปู่โลกอุดร มีจริง หรือไม่ครับ

ท่านบอกว่า มี และ อยู่ในป่าครับ

หลวงปู่ผมเอง ลูกศิษย์ สายแม่ชี ประทุม ก็มีความเชื่อว่า หลวงปู่ของผมเองท่านจะไปสอนพระในป่า ด้าน กรรมฐาน และ ท่านเอง ตอนมีชีวิต อยู่จะมีพระแปลก ๆ หนุ่มบ้าง แก่บ้าง แบกกลดมาบ้าง มาจากที่ไกลๆ มานั่งรออยู่ จนเที่ยง จนบ่ายบ้าง เหมารถมาจาก จังหวัดไกลๆจนสงสัยว่ารู้ได้อย่างไร เช่น บุรีรัมย์ ปัตตานี เชียงราย มากราบหลวงปู่ สนทนาธรรม และ ขอเรียนกรรมฐาน

เรื่องบางอย่างเป็นอจินไตย และ ปัจจัตตัง การไปหลบหลู่ สิ่งที่ท่าน ไม่รู้ ไม่เข้าใจ พอไม่รู้ ไม่ทราบเอามาตรฐานตัวเองมาพูดว่าไม่มี มา ล้อเล่น ลบหลู่ เห็นเป็นเรื่องตลก ขำ เหมือนเด็กอ่อนเอามือไปลูบใบมีดโกน ไม่รู้ว่าคม จะไม่ผลดีกับตัวท่านครับ อันนี้ท่านผู้เจริญพิจารณาเอาเอง

สมัยโบราณ คนเห็นเครื่องบิน ก็คงไม่เชื่อ เพราะไม่ทราบอธิบายไม่ได้ เห็นเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่เราไม่ทราบ เพราะเราไม่รู้ อธิบายไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มี

ในกลุ่มที่ผมรู้จัก และ นับถือ หลวงปู่โลกอุดรก็ใช้รูปนี้ และ รูปหล่อแบบนี้ เพื่อที่ ปตท สผ ก็กำลังหล่อรูปนั่งกัน องค์ใหญ่ประมาณ ๒๒ ซม จองกันจน เต็ม ผมเองไม่ได้จองเพราะฝืนความรู้สึกที่รู้ว่ารูปนี้ไม่ใช่ ตั้งนานหลายสิบปี รู้แล้วว่าไปหลวงปู่ พรหม แต่คนที่นับถือ เขาเชื่อ นับถือจริง และ ได้ผลครับ

ถ้ามาแจมเรื่องนี้กัน จะยาว และ เกรงว่าจะไปเข้าทางพวกทำ พระหลวงปู่โลกอุดรขาย ที่ไปผูกเรื่องกับพระหลายองค์ และ ขนาดกับวังหน้า ....ระวังจะเข้าทางเขา

พระหลวงปู่โลกอุดร ผมก็ได้แจกมาหลายองค์ ก็นั่งท่านี้ น่าจะมีเก็บอยู่ และ ผมแจกต่อไปหลายองค์ เพราะมีคนอยากได้พอพูดชื่อนี้ และ ได้จากพระดีๆน่าเชื่อถือซ่ะด้วย องค์หนึ่งก็จาก หลวงปู่ วัย จัตตาลโย แบบเพื่อนเอามาฝาก ที่เป็นรูปก็มี นอกจากนั้น มีพระอีกรูปที่เพชรบูรณ์ ผมลืมชื่อ เพราะไม่สนิท แต่ บอกต่อกันมาจากหมู่เพื่อน ท่านนี้จะเอาผ้า ไตรจีวรไปถวายหลวงปู่โลกอุดร ปี ล่ะครั้ง ในป่า เป็นผ้าทำพิเศษ ผมเองก็เคยร่วมบุญกับท่าน

นอกจากนั้น ยังมีหลายคณะทำออกมา แจกฟรี โลกทิพย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น จำได้ว่ามีเหรียญ สีทองๆ ตัว หนังสือโลกทิพย์ ตามต่ามอ่านทุกเล่ม และ เล่มในเครือ อ่านมานาน หลายปี หนังสือมีเป็นตั้ง

แต่ตั้งแต่ เขาเชียร์ ตาเถร ยันตะ อย่างออกหน้า และ ผมพิจารณา ดูชัดเจนแล้ว ด้วยหลายเหตุผล ที่สืบทราบ ผมจึงเลิกซื้อหนังสือค่ายนี้มาตั้งแต่เหตุการณ์นั้นครับ และไม่เก็บไว้ในบ้านด้วย เอาออกขายหมดครับ ด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่เขาเป็นค่ายหนึ่งที่ ทำให้ชื่อ หลวงปู่โลกอุดร แพร่หลาย หรือ ดังน่ะแหละครับ

แต่ผมจะอยากจะแสดงมุมมองว่า

๑) ผมเชื่อ ว่าหลวงปุ่โลกอุดร มีจริง แต่มีหลายรูปแบบ ตามที่ท่านอยากให้เห็น ไม่ให้เราติดรูปท่าน เป็น ทั้ง หนุ่ม และ แก่ ตัวสูงหรือธรรมดา พูดภาษา เราธรรมดา และท่านไปได้ทุกที่ ไม่ใช่แต่เมืองไทยครับ

๒) ปู่โทน ก็เป็นจุดขายจุดหนึ่งของ หนังสือ ... ท่านมีตัวตนจริง ลูกศิษย์เพียบ ที่นับถือ และ ปู่โทนเคยช่วยคนไว้เยอะมาก หลายอย่าง ขนาดลูกศิษย์ ซื้อรถเบนซ์ให้ขี่ ผมเคยเห็นรถเบนซ์คันนั้น จำได้ว่าสีอ่อน หรือ ขาวมันนานแล้ว ชักเลือนๆ ที่เขาว่ามีคนซื้อให้ ปู่โทนเป็นคนมีวิชา หลายอย่าง ท่านให้หวย และ แจกหวยด้วยผมก็เคยไปกับเพื่อน แต่ครั้งเดียว เพื่อนขอ ท่านก็ให้ แต่ท่านก็บอกเองว่า ถูกมั่ง ไม่ถูกมั่ง แล้วแต่วาสนาของพวกมึง ท่านยังเคยดูหมอให้ผม ...แหะ ๆ

เพื่อนของเพื่อนคนนี้ แฟนเลิก ไปขอปู่โทนช่วย ให้กลับมา แต่ไม่สำเร็จ ไปบอกปู่โทน ท่านก็คืนเงินให้น่ะครับ เอาว่าปู่โทนนี่ คนนับถือมากและเป็นของจริงน่ะครับ ไม่ใช่ท่านที่ทรงเจ้า ตั้งสำนัก อะไรแบบนั้น แต่มีวิชาโบราณ และ ช่วยคน

๓) คนที่นับถือ หลวงปุ่โลกอุดร ทั้งเปิดเผยตัวหรือไม่ เจอที่ไม่ธรรมดาหลายคน ทั้งมีความรู้ กำลังทรัพย์ ไม่ใช่คนธรรมดาที่ งมงายกับ เรื่อง งูเหลือมขึ้นบ้านก็ขอหวยอะไรแบบนั้น แต่ตำแหน่ง ห้าที่ การงาน ความรู้ จัดว่าที่เจอมา ไม่ธรรมดา หลายคนครับ

๔) พระที่ไป เกี่ยวข้องกับหลวงปู่โลกอุดร มีหลายท่าน และจะมีเงื่อนไข ในป่า เหมือนกันครับ คือ ต้องเข้าป่า แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเพชรบูรณ์ แต่ส่วนใหญ่จะป่า แถวภาคเหนือ กลาง อิสาน ป่าทางใต้ ไม่เคยได้ยิน

๕) พระสายกรรมฐานเอง ผมนับถือหลายท่านตั้งแต่ยุคคุณแม่ เท่าที่ทราบ ไม่เคยมีท่านใด ใช้คำว่าหลวงปู่ โลกอุดร แต่การไปอยู่ในป่าไปเจอพระ ด้วยกัน สนธนาธรรม สอนธรรมะ อันนี้มีครับ

น่าจะขอแสดงความเห็นเท่านี้ เรื่องบางอย่าง ถ้าเชื่อ พิจารณาว่าดี ก็อย่าไปรู้มาก การรู้มาก บางทีเกินวิสัย อินทรีย์ของผู้นั้น จะทำให้เพี้ยนได้ครับ

 

พูดถึง หลวงปู่เทพโลกอุดร ทำให้ผมนึกถึง................... หลวงปู่กอง จันทวังโส พระอริยะเจ้าแห่งวัดสระมลฑล จ.อยุธยา กราบ ๆๆ หลวงปู่กอง จันทวังโส

ที่วัดสระมลฑล ก็มีรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดร แต่ว่าหน้าตาเป็น พระใบฎีกาพรหม วัดทะยาน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

ริมถนนมิตรภาพ สายอีสาน เลยที่ว่าการ อ.พล จ.ขอนแก่น ไปนิดนึง ฝั่งขวามือ ก็มี วิหารหลวงปู่เทพโลกอุดร ใหญ่โตเบ่อเร่อ ในนั้นก็มี รูปหล่อ รูปภาพ พระใบฎีกาพรหม วัดทะยาน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี


พระพุทธเจ้าท่านให้วิชาผมมา 1 วิชา มันติดอยู่ในหัวสมองผมอยู่ตลอด นั่นคือ วิชา กาลามสูตร ครับ เผื่อมีพี่ ๆ ท่านใดสนใจวิชานี้ ก็ไม่หวงห้ามครับ หลักวิชา มีดังนี้...............

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร)

อ้างถึง : กาลามสูตร - วิกิพีเดีย

 

ตาคลีเป็นสถานที่ตั้งรกราก ก็เหมือนคนเกิดที่ใต้ แต่ย้ายไปอยู่เหนือ

อันนี้ก็ไม่รู้เรื่องสมเด็จลุน แต่ถ้าตามความเข้าใจหมายถึงเมื่อนานมาแล้วครับ ส่วนเรื่องรูปผมมีพูดไปตอนต้นๆแล้วนะ

ถ้าลุงที่ว่าหมายถึง ครูโทน ผมคงไม่ต้องเล่าอะไรมาก คุณพี เสาวภา เล่าแทนผมแล้ว

ผมก็เคยเจอครูโทนที่ตาคลีครั้งนึงครับ ในงานไหว้ครู ครูโทนยังให้พระผมมานึงองค์เลยครับ

 

-ครับ มาเยี่ยมเยียน ครับ
ได้ไปอ่านค้นคว้าพบ มาอีกข้อมูลของหลวงปู่เทพโลกอุดร ครับซึ่งหลวงพ่อฤาษี ท่านได้กล่าวไว้ครับ

หลวงพ่อพระราชพรหมยานพูดถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร
จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘
​

...ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร โลกอุดรใครหนอ มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่ มันมีเรื่องหนึ่งที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า"เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม" คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่อง ฉันถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม ​

อะไรบ้างที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง ถาม มึงถ่ายอะไร ฟิลม์เดียวกันครับ ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลยโลกอุดร ชื่อจริงๆ ก็ อุตตระ พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง" อย่าลืมนะ ผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ก็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่ นี่ไม่ได้นะ"

​

-ครับและข้อความของเพื่อนๆที่กล่าวถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->5314786<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5682845", true); </SCRIPT>
สมาชิก
หลวงปู่เทพโลกอุดร มีตัวตนอยู่จริงๆ ครูบาบุญชุ่มท่านรู้ดีว่าคือใคร
ท่านยังแวะมากราบหลวงปู่โลกอุดรอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส
ถ้าถามศิษย์ที่ใกล้ชิดครูบาก็อาจจะรู้ได้ ความจริงยังไงก็คือความจริง
ครูบาบุญชุ่มท่านอาจจะยังรอเวลา เพราะถ้าท่านเปิดเผยความจริงขึ้นมาเร็วเกินไป
หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านคงเหนื่อยกว่าเดิม กว่าที่ๆเป็นอยู่ทุกวันนี้
แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่า เมื่อถึงเวลา ท่านจะต้องออกมารับรอง หลวงปู่เทพโลกอุดรตัวจริง และเมื่อวันนั้นมาถึง ทุกคนก็จะได้รู้ว่า หลวงปู่ในตำนาน นั้นมีตัวตนอยู่จริงๆ<!-- google_ad_section_end -->

 

ครับ ขอบคุณที่นำมาให้ดูครับ ถ้าในรูปที่ท่านอัสนี นำมาให้ดูเป็นรูปหลวงปู่โลกอุดรจริง แสดงว่ารูปที่ผมนำมาให้ชมก็เป็นรูปหลวงปู่พระใบฎีกาพรหม จริง เช่นกัน สิครับ เพราะรูปร่างหน้าตา ต่างกันโดยสิ้นเชิง และชื่อกระทู้นี้หัวข้อก็อย่างที่บอกว่า "ความจริงเรื่องรูปหลวงปู่เทพโลกอุดร" ครับ จุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้มาเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องรูปภาพที่ได้รับมา ไม่ได้มีจุดประสงค์จะบอกว่า "หลวงปู่โลกอุดร มีจริงหรือไม่" ครับ คนละประเด็นกัน ครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ ในภาพองค์กลางใช่หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ใช่หรือเปล่าครับ

 

ขอร่วมยืนยันอีกท่าน

พระในรูป องค์ตรงกลาง ผมไม่อยากท้าวความหลังน่ะครับ เพราะเป็นความเชื่อ ของหลายคน ผมเคารพตรงนั้น

แต่สำหรับท่านที่ไม่ทัน หลวงพ่อวัดท่าซุง มาอ่านทีหลัง และนับถือ หลวงพ่อวัดท่าซุง ผมจะบอกสั้นๆ ว่า

คนล่ะค่ายกันครับ

ส่วนหลวงปู่โลกอุดร ผมไม่เคยเห็นวัดท่าซุงทำแจกน่ะครับ หลวงพอ่ฤาษีก็ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรมากมาย

ส่วนเรื่องแปลกๆ น่ะ หลวงพ่อวัดท่าซุงพูดไว้หลายเรื่อง ที่ผมพอจำได้คือ

สัตว์ประหลาดที่ ล็อคเนส มีสองชนิด แบบคอยาวๆ และ แบบ ตัวคล้ายเต่าหรือ ตะพาบ

รอยแตกบนพื้นมหาสมุทร แปซิฟิก

น้ำมันในอ่าวไทยที่มีสีใส ( condensate )

เรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ขี่ม้าแก้ว ไปพระจุฬามณี

มนุษย์ต่างดาว

เรื่องผี ตามสถานที่ต่างๆ ( ผี หรือ เทวดาบางชั้น น่าจะเป็นแบบเดียวกัน )

ฯลฯ ลืมๆ ไปมั่งแล้วครับ...แหะๆ

จะเชื่อหรือไม่อย่างไร แล้วแต่ท่านผู้เจริญ พิจารณาครับ

 

ผมมายืนยันตามท่านทั้งสองอีก ๑ เสียงครับ

โดยเฉพาะเรื่องที่พี่พีพูดเอาไว้ว่าไม่อยากเท้าความหลังนั้น มีประเภท ลับ ลวง พราง ซ่อนอยู่ด้วย

 

ลับลวงพราง ที่ซ่อนอยู่คืออะไร อยากรู้จริง

 

ที่คุณอัสนีเอามาลง นี่เป็นบทความของหลวงพ่อฤาษีไม่ใช่เหรอครับ และหลวงพ่อก็ยืนยันว่าได้เจอนี่ หรือผมเข้าใจผิด

 

จากรูปที่เอามาลง เคยอ่านเจอในโลกทิพย์หรือที่ไหนสักแห่ง บอกว่าเป็นหลวงปู่โง่น แล้วพระแขกเป็นพวกโยคีอินเดีย เห็นหนังสืออ้างว่าหลวงปู่โง่นพูดว่า โยคีหรือพระบางรูปฝึกเดินทะลุกำแพงเมืองจีน แต่มีบางรูปเดินเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวติดอยู่ในนั้น ออกมาไม่ได้ อันนี้ไม่รู้หลวงตาโง่น พูดเอง หรือลูกศิษย์เสริมเติมก็ไม่ทราบ ส่วนหลวงพ่อฤษีลิงดำ บ้านผมเป็นสาวกทั้งบ้าน ท่านไม่ค่อยได้กล่าวถึงพระครูเทพโลกอุดรเลย ส่วนมากเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระเจ้า ก็มาจากหนังสือ มาจากปากกาของคนเขียน ใส่อะไรเข้ามามากมายจนเกินพอดี แต่คนอ่านก็คงชอบ มันจึงวุ่นๆกันไม่จบ อย่างเรื่องไสบาบา ถึงที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องปาหี่ลวงโกล คนจับได้ ที่นี้ก็ต้องย้อนกลับไปว่าคนที่หลงเชื่อ พระสงฆ์ที่ให้ราคากับไสบาๆ หรือคนที่อ้างว่าตนเองนั่งสมาธิรู้เห้นทุกอย่าง ทำไมถ้าเก่งจริงถึงไม่รู้ว่าไสบาบา จากอาศรมประสันตินิลยัม เป็นของปลอม จริงไม๊ บาบูยี

 

ไสบาบาคืออะไร บาบูยีอีก งงครับ

 

ยิ่งอ่าน ยิ่งสนุก และได้ความรู้

ชอบครับ............... ขอกด like ให้ 100 ครั้งเลย (แต่หาปุ่มไม่เจอ 555++)