คลื่นยักษ์ถล่ม ปราฏิหาริย์ทางพุทธศาสนาในประเทศ ศรีลังกาและไทย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 2 มกราคม 2005.

  1. Anonymous

    Anonymous Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +35
    อืมม....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2005
  2. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ดับไปเพราะธรรมชาติก็เป็นเรื่องธรรมดา
     
  3. Lucasian

    Lucasian Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +62
    ปาฎิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนสถานในประเทศศรีลังกา

    เรื่องแปลกๆ จากเปิดฟ้าส่องโลก (ไทยรัฐ) ซึ่งตัดมาบ้างส่วน
    ...........................
    สิ่งหนึ่งซึ่งแปลกมากและขอนำมาเรียนเขียนไว้ในบันทึกการเดินทางครั้งนี้ ก็คือ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนสถาน
    หลายเดือนมาแล้ว ผมพบกับคณะของแพทย์ไทย จากมูลนิธิดวงแก้ว ซึ่งคณะนี้เคยชวนผมไปประเทศภูฏาน เพื่อไปดูการช่วยผ่าตัดผู้คนที่นั่น ที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ คราวนี้คุณหมอและผมก็มาเจอกันโดยบังเอิญบนเครื่องบิน ในตอนขาไป และยังเจอกันในขณะปฏิบัติงานอยู่ที่อำเภอกัลมุไนคูดี Kalmunaikudy ทางภาคตะวันออก
    ผมกับคุณหมอสรุปตรงกันว่า ในขณะที่บ้านเรือนรอบๆ ศาสนสถานถูกนํ้าพัดหายไปเป็นร้อยนับพันหลังคาเรือน แต่ปรากฏว่าวัด มัสยิด หรือโบสถ์ มักจะไม่เป็นอะไรมาก จำนวนไม่น้อยที่ไม่โดนคลื่นเลยซะด้วยซ้ำไป

    ผมมีภาพจำนวนไม่น้อยที่ถ่ายในศรีลังกา เป็นภาพพระประธาน พระพุทธรูปตั้งตระหง่าน อยู่องค์เดียว ในขณะที่สรรพสิ่งรอบข้างทุกอย่างพังพินาศหมด
    หรือหมู่บ้านรอบๆพังไม่เหลือแม้แต่ซักหลัง มีเพียงมัสยิดอาคารเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ได้

    นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งผมและคุณหมอ (ที่ผมจะขออนุญาตเขียนถึงในวันพรุ่งนี้) ได้ไปประสบพบมาและได้เห็นเช่นเดียวกัน โดยที่ต่างคนต่างเดินทางไปกันคนละที่คนละแห่ง .........................

    จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 ม.ค. 48
    http://www.thairath.co.th/thairath1/2548/column/earth/jan/13_1_48.php
     
  4. tha

    tha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +118
    copy มาจาก budpage.com ีอีกทีนึง

    พระพุทธรูปรอดพ้นจากการทำลายของคลื่นยักษ์สึนามิ
    แปลจาก www.dhammatimes.com
    นัฐ แปล มณี และ บ้านสายรุ้ง เรียบเรียง


    เมือง Galle, ประเทศศรีลังกา
    พระพุทธรูปจำนวนมากที่หล่อด้วยปูนซีเมนต์ หรือ ปูนพลาสเตอร์ นั่งนิ่งในท่าขัดสมาธิยิ้มอย่างสงบเย็น ท่ามกลางซากกำแพงอิฐ ปรักหักพัง อันเป็นผลพวงของคลื่นยักษ์สึนามิยังคงหลงเหลือให้เห็นจำนวนไม่น้อย ในจำนวนนั้น มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สูง 10 ฟุต รวมอยู่ด้วย
    พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่เรียงรายใกล้ๆกับสะพาน ที่อยู่ริมฝั่งของจุดจอดรถของเมืองศรีลังกาตอนใต้ ให้รอดพ้นจากคลื่นยักษ์ซึ่งพัดพาเอา รถยนต์ จักรยายนต์ และรถบัส เข้าไปรวมกองกันในตึก บานหน้าต่างของตู้กระจกที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปแตกละอียด แต่โครงสร้างของตู้ยังคงแข็งแรงมั่นคงอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพัน ในบริเวณนั้น และเกือบ 30,000 คนทั่วประเทศศรีลังกา
    ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเกาะ ประมาณร้อยละ 70 เป็นชาวพุทธ ที่เหลือเป็นชาวคริสต์ ฮินดู และ มุสลิม ความอดทนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างความเลื่อมใสศรัทธาในแต่ละศาสนามีสูงมาก หลายคนในเมือง Galle สวดมนต์ให้กับคนที่นับถือศาสนาอื่น ถึงแม้ว่าจะยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องชนเผ่าทางตอนเหนือของศรีลังการะหว่าง ชนกลุ่มน้อย Tamil ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู กับชนส่วนใหญ่ Sinhalese ซึ่งนับถือศาสนาพุทธเกือบทั้งหมด พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนแท่นหิน มีลักษณะนุ่มนวลอ่อนช้อย มือทั้งสองประสานกันเหนือหน้าตักในท่าทำสมาธิ เปลือกตาหนา ริมฝีปากเม้มเล็กน้อยอย่างสุขุม ยิ้มในสีหน้า องค์พระพุทธรูปห่มด้วยผ้ากาสาวพัตร์สีเหลืองทอง ด้านหลังประดับด้วยผ้าม่านลวดลายภาพวาดของภูเขา
    ส่วนในสถานที่อื่นๆ สัญลักษณ์ทางศาสนาต่างๆได้ถูกทำลายลง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและติดตามมาด้วยคลื่นยักษ์สินามิที่โหมเข้าทำลายชายฝั่งของหลายๆประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
    ทางตอนใต้ของอินเดีย วัดฮินดูเก่าแก่ที่มีอายุกว่าศตวรรษในมลรัฐ Kerala ได้สูญหายไปในทะเล และอีกวัด ที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของรัฐได้พังทลายลง ทำให้ศาสนิกชนจำนวนมากที่เข้ามาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาล้มตายจำนวนมาก
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในใจกลางเมือง Galle ผู้คนจำนวนหนึ่งยังคงแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่พระพุทธรูปรอดพ้นจากอำนาจมหาศาลของคลื่นยักษ์ น่าจะเนื่องมาจากพระพุทธรูปเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นด้วยรากฐานอันมั่นคง เฉกเช่นเดียวกับรูปปั้นของนายกรัฐมนตรีในอดีตของ Galle และรูปปั้นของทหารหาญผู้ซึ่งเสียชีวิตในสงครามการสู้รบกับกบฏ Tamil
    "พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลผู้ซึงได้รับพรอันประเสริฐ..ดังนั้นรูปปั้นของพระองค์จึงได้รับการปกป้องคุ้มครอง" เป็นคำกล่าวของ U.M. Husain คนงานชาวมุสลิม ผู้หนึ่งที่รอดพ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วยการปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ และกลิ้งตัวขึ้นไปบนผนังกำแพงเมื่อโต๊ะถูกน้ำพัดพาไป ชาวพุทธ เชื่อในเรื่องของการห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
    ชาวพุทธบางคนกล่าวว่า เหตุกาณ์แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียอันเป็นต้นกำเนิดของคลื่นมหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สัตว์จำนวนมากถูกฆ่าตายเพื่อการเฉลิมฉลอง พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในศรีลังกา เมื่อปีที่แล้วก็เกิดขึ้นระหว่างสิ้นสุดเทศกาล รอมาดอน อันเป็นเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมเช่นกัน คลื่นยักษ์ได้ทำลายกำแพงโดยรอบของวัดพุทธแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งลงอย่างราบคาบ อุปกรณ์ตกแต่งภายในต่างๆภายในวัด ถูกคลื่นทำลายและพัดพาไป ในขณะที่พระพุทธรูปองค์เล็กๆซึ่งตั้งอยู่ในกำแพงกระจกยังคงรอดพ้นจากการถูกทำลาย ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในวัดกล่าวว่า ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย โดยมีรถบัสคันหนึ่งล้มลงและปิดกั้นองค์พระพุทธรูปไว้ และรับแรงกระแทกอันเกิดจากคลื่นนั้นแทน ในซอกมุมหนึ่งของตัวเมือง
    ประชาชนผู้ศรัทธาในศาสนาจำนวนหนึ่งหลบอาศัยอยู่ในวัดฮินดุ ที่มีกำแพงปกคลุมไปด้วยต้นมอส และมีรูปปั้นของเทพเจ้าที่เป็นสัตว์ต่าง ๆ กลิ่นธูหอมอบอวลทั่วบริเวณที่มืดสลัว มีสุนัขขี้เรื้อนนอนขดตัวหลับอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
    Nimala Ubeysiri ชาวพุทธผู้ซึ่งแวะเวียนเข้ามาสักการะวัดฮินดูทุกสัปดาห์กล่าวว่า การรอดพ้นจากคลื่นสึนามิครั้งนี้เป็นเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ ประชาชนในประเทศควรที่จะสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน และลืมเรื่องความแตกต่างระหว่างกันเสีย" เธอกล่าว
     

แชร์หน้านี้

Loading...