ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ก็นี่แหละ..คือสิ่งที่ผมเชื่อหละครับ อิอิ..
แล้วถ้าผมจะเชื่อไม่เหมือนคุณ
ผมก็ต้องขออภัยด้วยนะค้าบบบ..

เพราะว่ามันเป็นสิทธิโดยชอบธรรม
ที่มีมาตั้งแต่กำเนิดของผม
ที่ผมจะเลือก ที่จะเชื่อ หรือไม่เชื่ออะไรก็ได้

ถูกไหมครับ..และไม่จำเป็นว่าใครต้องมาเชื่อเหมือนผมด้วย
เพราะว่านั่นก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่มีมาตั้งแต่กำเนิด
ของคนๆนั้นเช่นเดียวกัน

ผมก็ทำหน้าที่ แชร์ ข้อมูลออกไป
อย่างที่ผมมาตลอดนั่นแหละ
และก็กติกาเดิมไม่เคยเปลี่ยนครับ
คือท่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเอง

เป็นอันตกลงตามนี้นะครับ
......................................

 

เรากำลังดูละครฉากใหญ่ที่กำลังฉายสดๆอยู่นะครับ
อย่าเพิ่งด่วนสรุปก่อนเลย หนังยังไม่ทันจบ
ทุกคนเล่นตามบทบาทตามหน้าที่กันอยู่ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
เบื้องหลังก็ยังมีอีกหลายอย่าง ที่เค้าผลักดันกันอยู่ลับๆ ทั้งสองขั้ว
เรากำลังยืนอยู่บนขอบจุดเปลี่ยนที่สำคัญนะครับ
จับตาดูกันดีกว่าครับ....ไม่ควรพลาดเด็ดขาด...ฉากนี้สำคัญ
ชีวิตพวกเราทุกคนอาจจะเปลี่ยนไปอยู่ในจุดที่เราแทบจะจิตนาการไม่ออกเลยทีเดียวล่ะครับ

สิ่งที่เราเห็นบนสื่อกระแสหลัก นั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับความจริงที่ถูกต้องเลย
หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่ที้เกิดขึ้นนั้น มันก็คือทั้งหมดที่ถูกสร้างและถูกกระทำขึ้นบนเวทีขนาดใหญ่
หมายความว่ามันคือ "การจัดฉาก" นันเองครับ มันเป็นกิจการที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในความเป็นจริง มันถูกควบคุมโดยผู้มีอำนาจที่บงการหรือกำหนดทิศทางให้กับโลกใบนี้
ให้อยู่ในกรอบที่เขาแปลนเอาไว้ ให้มีคนจน 99 % คนรวย 1 % ทั้งธนาคารกลาง (Fed) ทองคำหรือ น้ำมันเชื้อเพลิงก็ตาม
ล้วนมีกลไกในการควบคุมโลกทั้งสิ้น จนทำให้โลกใบนี้ต้องตกอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม
ถูกขุดเจาะทำลาย จนเสียสมดุลย์จากการบริโภคนิยมของมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกนี้เอง
สิ่งแวดล้อมในธรรมชาติก็มาถึงจุดที่วิกฤตและยากที่จะเยียวยาแล้วด้วย รอการฟึ้นฟูมานานมาก

และมันก็มาถึงช่วงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้วน่ะครับ
เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แม่้จะต้องผ่านเรื่องวุ่นๆกันสักระยะนึงก็ตาม
แต่มันก็จะคุ้มค่ากับการรอคอย สบายใจได้เลยครับ

จากนี้ไป ระบบเศรษฐกิจจะเกิดความสับสนไปทั่วทั้งโลก เพราะระบบเก่าเอาไม่อยู่แล้ว
มันจะเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญมาก และสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นต่อไปก็คือ ...
บางส่วนของการประกาศ และเหตุการณ์บางอย่างเกี่ยวกับการรีเซ็ตระบบ
โดยฝ่ายแสงสว่างที่ประสานงานในการทำภาระกิจเหล่านี้
ขั้นตอนต่อไปเร็วๆนี้ เราอาจจะได้เห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่จะมีการปิดธนาคาร ATM หยุดให้บริการขั่วคราว รวมทั้งการกลับสู่มาตรฐานทองคำ,กฎหมาย,
การกลับมาของการแก้ไข เพื่อส่งต่อกฎหมาย NESARA ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะเปิดเผยและพร้อมดำเนินการในขั้นต่อไป
มันเป็นสิ่งสำคัญ มากที่จะเข้าใจ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองสิ่ง

จักตาดูอย่างใกล้ขิดกันนะครับ
เค้าจะมีการเปิดโปงความลับ การเปิดเผยข้อมูล ที่จะมีให้เราได้ยินกันไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งคดี 9/11 ก็ด้วย สารพัดเลยแหละ
เช่น เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งทราบเหมือนกันกันครับว่า "ประธานาธิบดีเคเนดี้"
แท้จริงแล้วกลับถูกยิงโดยคนขับรถลีมูซีนของท่านเอง หลักฐานชัดมากๆ
สาเหตุเพราะท่านจะล้มธนาคารกลางนั่นเองครับ แต่ยังทำไม่ทันสำเร็จก็ถูกสังหารซะก่อน
ก็หวังว่าโอบาม่าจะทำได้สำเร็จนะครับ โอกาสของเค้ามาถึงแล้ว.....

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=oIhtR65OU40"]HOW JFK WAS REALLY KILLED CHILLING YouTube - YouTube[/ame]

 

ข้อความสื่อสารจากท่านมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: สิ่งต่างๆกำลังถูกทำให้สว่างไสวขึ้น
(Things Are Lightening Up)

วันที่: 2 ตุลาคม 2013
ผู้รับสาส์น: Meredith Murphy

ที่มา: Things Are Lightening Up > Expect Wonderful


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ตอนที่ 1:


ที่รักทั้งหลาย

ในตอนนี้ “โลกใหม่” กำลังเปิดตัวขึ้นมาอย่างค่อนข้างดีเยี่ยมในหลายๆด้านแล้ว
ซึ่งพวกคุณก็กำลังสังเกตเห็นสิ่งนี้อยู่ เพราะว่าพวกคุณเริ่มปรับตัวได้มากขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เพื่อให้คุ้นเคยกับวิธีชีวิตใหม่ๆที่กำลังถูกนำเสนอให้แก่พวกคุณอยู่นี้

และร่างกายเนื้อของพวกคุณก็กำลังถูก upgrade ขึ้นอีกครั้งหนึ่งอยู่
ตั้งแต่ตอนที่พวกคุณเริ่มเข้าสู่วัน Equinox โน่นแล้ว
และรวมถึง เป็นเพราะว่าพวกคุณกำลังดาวน์โหลดเอาข้อมูลข่าวสารที่พิสดารมากกว่า
มาจาก “ความเป็นทั้งหมดของตัวตนของพวกคุณเอง” ได้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วด้วย

เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณเรียกหาความเต็มเปี่ยมของความเป็นตัวตนของพวกคุณเองแล้ว
ตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณ ก็จะลงมาเติมเต็มให้กับพวกคุณมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นด้วย

และในขณะเดียวกันนี้ ปฏิกิริยาของดวงอาทิตย์ ,
และระดับคลื่นความถี่ที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆของพลังงานของโลก,
และรวมถึงคลื่นความถี่ของพลังงานทั้งหลาย
ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่โลกอยู่ในขณะนี้
ก็กำลังช่วยกันชำระสะสางทุกสิ่งทุกอย่างที่หนาแน่นทึบตัน
และที่แออัดยัดเยียดกันอยู่ ให้สลายตัวไปอยู่ด้วย

ดังนั้น ตอนนี้ พวกคุณจึงกำลังถูกทำให้ว่างเปล่า
แล้วถูกเติมเต็มเข้าไปใหม่อีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่
เพื่อให้พวกคุณสามารถทนทานต่อระดับคลื่นความถี่
ที่สูงขึ้นเรื่อยๆนี้ได้มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ

และเพื่อให้พวกคุณสามารถเข้าถึงวิถีทาง
ที่กำลังถูกนำเสนอให้กับพวกคุณอยู่นี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
ตามแต่ระดับพลังงานของพวกคุณเองแต่ละคน

ตอนนี้ มีพวกคุณจำนวนมากที่กำลังรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่
และในตอนนี้ ก็กำลังมีพวกคุณอีกมากมายเช่นกัน
ที่กำลังรู้สึกค่อนข้างที่จะมีความสุข และ เป็นอิสระอยู่
ส่วนพวกคุณอีกบางคน ก็อาจจะถึงกับ เริ่มที่จะสังเกตุเห็น
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเนื้อของตัวเอง
ที่เป็นไปในทางที่ดีขึ้นแล้วด้วยซ้ำไป

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ก็จะเป็นไปในแนวของ
การหายขาดจากปัญหาหรือโรคภัยไข้เจ็บ ที่เคยเป็นมานานหลายปีแล้ว
หรือแม้แต่ที่เคยเป็นมานานหลายสิบปีแล้วด้วยซ้ำไป

มันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
และในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ กำลังดำเนินไปอยู่นี้
ฉันก็อยากจะใช้เวลาสักครู่เพื่อย้ำเตือนกับพวกคุณว่า
ให้เปิดใจออกมารับเอาของขวัญใหม่ๆที่กำลังมอบให้อยู่นี้ด้วย

จงยินยอมให้ตัวเองเปิดเส้นทางสายใหม่ขึ้นมาสายหนึ่ง
เพื่อที่จะใช้เคลื่อนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวันของตัวพวกคุณเองไป
ซึ่งมันจะต้องเป็นเส้นทางที่ เมื่อพวกคุณเริ่มต้นออกเดินทางแล้ว
พวกคุณจะจดจำได้เสมอว่า มันเป็นเส้นทางสายใหม่เอี่ยมอ่องจริงๆ
และตลอดเส้นทางก็จะพบเจอแต่สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาด้วย

วิถีชีวิตแบบนี้ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะว่ามันจะนำพาพวกคุณ
ให้เข้าไปสู่ “ปัจจุบันขณะ” (present moment) ได้

ซึ่งเมื่อพวกคุณอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” อย่างเต็มที่แล้ว
พวกคุณก็จะมีพลังอำนาจในการสร้างสรรค์อย่างมาก
และพวกคุณก็จะสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้
และสามารถตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสารนั้นๆได้อย่างเต็มที่ด้วย

และเมื่อพวกคุณอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” แล้ว
พวกคุณก็จะเชื่อมต่ออยู่กับ และดำเนินชีวิตสอดคล้องอยู่กับ
ตัวตนที่แท้จริงของตัวพวกคุณเองอยู่ตลอดเวลา

และภายใน “ปัจจุบันขณะนี้” พวกคุณก็จะสามารถรับแรงบันดาลใจ หรือแรงกระตุ้น
เพื่อให้ดำเนินชีวิตไปอย่างสอดคล้องกับความประสงค์ของเบื้องบนได้ (divine will)

……………………

 

!!!.ก็เค๊า..งงนี่ค๊ะ..เอ๊ย..ครับ!!!..อิอิอิ..

 

ข้อคิดเห็นของท่านก็น่าคิดนะ
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า
ผู้นำหมายเลข1
ไม่ได้กำลังเล่นบทบาทที่ถูกเชิดอยู่ตั้งแต่เริ่ม
เข้ามารับตำแหน่ง แต่ยินดีแสดงบทนั้นๆ
แบบตกกระไดพลอยกระโจน
(ถ้าไม่กระโจนตามจังหวะอาจหัวทิ่มลงคอหักตาย)

พวกเราเป็นคนยุคเปลี่ยนผ่าน
ผู้โชคดีที่จะหาโอกาสศึกษาโลก
มารยาซ่อนปริศนาเคลือบอำนาจมืด
ได้มากโขก่อนสิ้นอายุไข
(เสียดายคนตายไม่มีโอกาสรู้)

ซึ่งขณะนี้หลายคนก็ได้รับรู้สิ่งปกปิด
หลายอย่างที่กำลังเปิดเผยออกมา
ทำให้อึ้งมากมายหลายวงการ
ขณะที่คนอีกมากมาย
ก็ยังดิ้นรนอยู่กับปากท้อง ตามที่ระบบ
เศรษฐกิจที่ได้ถูกขีดกรอบให้ขับเคลื่อน ไม่ต่างจากหนู
ถีบจักร และจะถีบไปเรื่อยๆ จนหมดหมดเเรง
แล้วพักฟื้นตื่นมาถีบต่ออีก

ก็เล่นบทที่ถูกขีดให้เล่นจนตายไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า
ตั้งแต่
ชนชั้นสูงลงมาจนถึงชนชั้นรากหญ้า
คนที่จะรอดพ้นคือจากเกมส์อำมหิตนี้ก็
คือคนที่ระดับ
โสดาบันขึ้นไป นอกนั้นเป็นเหยื่อทั้งหมด

ฉะนั้น อย่าฟันธงในสิ่งที่ตัวเองไม่เชื่อ!!!

 

ข้อความสื่อสารจากท่านมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: สิ่งต่างๆกำลังถูกทำให้สว่างไสวขึ้น
(Things Are Lightening Up)

วันที่: 2 ตุลาคม 2013
ผู้รับสาส์น: Meredith Murphy

ที่มา: Things Are Lightening Up > Expect Wonderful


ตอนที่ 2:

ในตอนนี้พวกคุณได้เลื่อนระดับขึ้นมาสูงกว่าเดิมมากแล้ว
และในตอนนี้พวกคุณก็กำลังเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในช่วงจังหวะที่สบายมากขึ้น
ของกระบวนการขยายตัวและกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น ที่กำลังดำเนินไปอยู่นี้แล้ว

และเพื่อที่จะให้สามารถได้รับประโยชน์จากสิ่งที่กำลังเปิดขึ้นมาให้กับพวกคุณอยู่นี้ได้
พวกคุณก็จำเป็นจะต้องเริ่มต้นใช้ชีวิตบน “ความรู้ที่แท้จริง” (true knowing) ของตัวเองด้วย

ซึ่งสิ่งที่ฉันกำลังกล่าวถึงอยู่นี้ก็คือ ในตอนนี้พวกคุณมี “การหยั่งรู้” (insights)
และมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (realizations) เกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างแล้ว
ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และแม้แต่เป็นเรื่องที่แปลกใหม่อย่างแท้จริงเสียด้วยซ้ำไป
คราวนี้..จงให้ความสำคัญกับพวกมันอย่างจริงจังเสียที

จงตอบรับมัน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม
เพราะว่า “ความกระจ่างชัด” ขั้นละเอียดกว่า
(เขาใช้คำว่า expansive clarity
แต่ผมคิดว่าน่าจะมีความหมายในแนวๆญาณ
หรือ ญาณหยั่งรู้แบบต่างๆอะไรแบบนั้นหนะครับ – ผู้แปล)
จะสามารถเกิดขึ้นมาได้ ก็ต่อเมื่อ
พวกคุณสั่นสะเทือนอยู่ในระดับพลังงานของมิติที่สูงกว่า,
หรืออยู่ในสนามพลังงานมิติที่สูงกว่า
และอยู่ในตัวตนของตัวเอง เวอร์ชั่นที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าเท่านั้น

จงปล่อยให้สิ่งที่มันมีอยู่ถูกปล่อยออกมา จงปล่อยให้ความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับว่าสิ่งนั้นๆ
พวกคุณคิดว่ามันควรจะทำอย่างไร หรือ มันควรจะเป็นอย่างไร
หรือ พวกคุณรู้สึกว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น จงปล่อยให้พวกมันกลายเป็นจริงขึ้นมาให้หมด

และจงตระหนักว่าหลังจากนั้นอีกไม่นาน หรือ หลังจากนั้นอีกแค่แป๊บเดียว
ความจริงก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นก็ได้

ดังนั้น จงพยายามเรียนรู้ที่จะมีความยืดหยุ่นให้มากๆเข้าไว้
เพราะว่ามันจะช่วยให้พวกคุณสามารถดูดซับเอาของขวัญต่างๆมากมาย
ที่กำลัง online ขึ้นมาสำหรับพวกคุณ
เพราะการที่ระดับพลังงานของพวกคุณกำลังเปลี่ยนแปลงไปอยู่นี้ ได้อย่างแท้จริง

พวกคุณรู้จักเกมง่ายๆเกมหนึ่ง ที่มักจะปรากฎอยู่ในนิตยสารต่างๆไหม?
เกมที่มันจะมีรูปภาพวางอยู่ข้างๆกัน 2 ภาพ ซึ่งภาพทั้ง 2 นั้น เกือบจะเหมือนกันทุกประการ
เพียงแต่ว่าจะมีอยู่ภาพหนึ่ง ที่มีความแตกต่างจากอีกภาพหนึ่งอยู่ 7 จุดด้วยกัน
แล้วเขาก็ให้พวกคุณหาว่าจุดที่แตกต่างกันทั้ง 7 จุดที่ว่านั้น อยู่ตรงไหนบ้าง?

ซึ่งในภาพๆนั้น มันอาจจะมีทั้งสิ่งที่แตกต่างออกไปเล็กๆน้อยๆ
และสิ่งที่ขาดหายไปจากภาพอีกภาพหนึ่งด้วยใช่ไหม?

นั่นแหละ..เหมือนกับชีวิตของพวกคุณเองในตอนนี้เลย!

ดังนั้น จงหมั่นสังเกตดูตัวเอง
และสิ่งที่ประสาทสัมผัสของตัวเองรับรู้มาให้ดี
จงใส่ใจในรายละเอียดให้มากขึ้น
เพราะว่าคลื่นความถี่ที่สูงกว่า
คือคลื่นความถี่ที่ละเอียดกว่า, ปราณีตกว่า
และหนาแน่นทึบตันน้อยกว่าด้วย

จงตระหนักเอาไว้ว่า แม้ว่าสิ่งนั้นๆ
มันอาจจะดูเหมือนเดิมอยู่ก็ตาม
แต่แท้ที่จริงแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
กำลังหล่อหลอมตัวมันเองขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา
แบบชั่วขณะต่อชั่วขณะ เลยทีเดียว

และนอกจากนี้ พวกคุณและโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
ก็มีการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
และรวมถึงกำลังอยู่ในสภาวะที่กำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้นอยู่ด้วย

และดังนั้น สิ่งใหม่ๆทั้งหลาย จึงกำลังผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา
และ ทุกหนทุกแห่ง ด้วยเช่นเดียวกัน


ถ้าคุณเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่กำลังรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ ก็จงตระหนักรู้ไว้ว่า
ตัวคุณเองอาจจะกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ใหญ่กว่าเดิมอยู่
ซึ่งบางทีสิ่งต่างๆอาจจะกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ ทำให้สิ่งที่พวกคุณคุ้นเคยอยู่
กลายเป็นสิ่งที่ไม่สั่นสะเทือนสอดคล้องกับระดับพลังงานที่สูงขึ้นอีกต่อไปแล้ว
และดังนั้น พวกคุณจึงจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวใหม่สักระยะหนึ่งก่อน

จงปล่อยให้ตัวเอง รู้สึกถึงสิ่งที่พวกคุณต้องการเชื่อมต่อด้วยในตอนนี้
และจงอวยพรให้กับทุกๆการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

จงยินยอมให้ตัวเองมีศรัทธาในความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพราะความที่รู้ว่าไม่มีอะไรที่จะสูญหายไป
และเพราะรู้ว่า พวกคุณจะยังคงเชื่อมต่ออยู่กับทุกสิ่งทุกอย่าง และกับทุกๆคนเสมอๆ
ไม่ว่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของพวกคุณในขณะนี้ จะกำลังเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

คนอื่นๆก็กำลังปรับตัวเองใหม่อยู่เช่นเดียวกัน
ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2013 เป็นต้นมาแล้ว
และเมื่อถึงตอนนี้ พวกคุณหลายคน
ก็กำลังกลายไปเป็นผู้ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นกว่าเดิมอยู่

ดังนั้น พวกคุณจึงอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาทของตัวเองเสียใหม่
ในสัมพันธภาพที่มีต่อผู้อื่นอยู่ในขณะนี้
เพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับอำนาจอธิปไตย
ที่มีมากขึ้นกว่าเดิมของตัวพวกคุณเองแล้ว

ดังนั้น จงใจเย็นๆ หากพวกคุณ
กำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เลยอยู่


แต่ถ้าคุณคือคนๆหนึ่ง ที่กำลังรู้สึกว่าค่อนข้างมีความสุขและมีอิสระดีอยู่แล้ว
ก็จงเฉลิมฉลองให้กับมันเสีย! จงขอบคุณ และ ซาบซึ้งใจกับมันเสีย
เพราะว่านั่นยิ่งจะทำให้ความสุขอันนั้น ขยายตัวมากขึ้นไปอีก

จงร่าเริงสนุกสนาน! จงรู้ว่าพวกคุณกำลังส่องแสงสว่างออกไป
เพื่อเป็นตัวอย่างหนึ่ง ของสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้ ให้แก่คนอื่นๆอยู่

ความสุขความเบิกบาน
คือพลังงานที่มีความน่าทึ่งมากที่สุดอย่างหนึ่ง
มันมีรสอร่อย ถ้าฉันจำเป็นต้องพูดแบบนั้น

…………………….

 

ข้อความสื่อสารจากท่านมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: สิ่งต่างๆกำลังถูกทำให้สว่างไสวขึ้น
(Things Are Lightening Up)

วันที่: 2 ตุลาคม 2013
ผู้รับสาส์น: Meredith Murphy

ที่มา: Things Are Lightening Up > Expect Wonderful


ตอนที่ 3:

และสำหรับพวกคุณคนใด ที่รู้สึกได้จริงๆว่า ร่างกายของตัวเอง
กำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอยู่ และถ้าพวกคุณรู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาอย่างกระทันหันแล้วหละก็
ก็ให้หยุดพักสักครู่หนึ่ง แล้วคิดถึงสิ่งที่พวกคุณได้ทำสำเร็จมาแล้วนับจนถึงบัดนี้
ในกระบวนการฟื้นฟูสภาพร่างกายเนื้อของตัวเองเพื่อกลับไปสู่แม่แบบดังเดิม
เพราะว่า เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว พวกคุณได้ทำให้ มันมีความเป็นไปได้สูงขึ้น
ที่สุขภาพพลานามัยของตัวพวกคุณเองจะสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้นแล้ว

เพราะว่าพวกคุณได้ไหลไปตามกระแสพลังงาน (the Flow)
และได้ปฏิบัติตัวสอดคล้องกับกระแสพลังงาน บ่อยครั้ง จนมากพอ
ที่จะทำให้ภูมิปัญญาที่มีอยู่โดยธรรมชาติของตัวพวกคุณเอง
สร้างเซลในร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่ ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิมได้แล้ว
และมากพอแล้ว ที่จะทำให้เซลที่มีชีวิตทั้งหลายที่อยู่ในร่างกายเนื้อนี้
กลับคืนมามีชีวิตชีวาใหม่อีกครั้งหนึ่งได้ น่าประทับใจมาก!

ณ.ตอนนี้ ให้พวกคุณจดจำเอาไว้ว่า สิ่งต่างๆที่พวกคุณกำลังมองเห็นอยู่,
หรือสังเกตุเห็นอยู่, หรือกำลังมีประสบการณ์อยู่ และกำลังสร้างสรรค์ขึ้นมาอยู่
ภายในโลกแห่งความเป็นจริงนี้ ล้วนมีรากฐานมาจากความสั่นสะเทือนของตัวพวกคุณเอง
และสิ่งที่พวกคุณไปจดจ่อให้ความสนใจอยู่ทั้งสิ้น

ดังนั้น จงเล่นสนุกกับมัน และจงตัดสินใจเลือกเอาเองว่า
สิ่งไหนบ้างที่พวกคุณอยากจะจดจ่อให้ความสนใจด้วย,
หรือสภาวะความเป็นอยู่แบบไหนที่พวกคุณอยากจะทำให้มีเพิ่มมากขึ้น
และทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จกับสิ่งเหล่านั้นมากที่สุด

และจงรู้ไว้ด้วยว่า มันเป็นคำตอบที่ขึ้นอยู่กับปัจจุบันขณะนั้นๆแบบหนึ่ง
ดังนั้น จงกลับไปเยี่ยมหรือไปเช็คดูมันบ่อยๆ

และจงดูว่า สิ่งที่เป็นความจริงสำหรับพวกคุณนั้น มันเป็นความจริงอย่างไร
ในขณะที่พวกคุณเอง ก็กำลังเคลื่อนที่ไป และเปลี่ยนแปลงไป
ท่ามกลางโลกแห่งความเป็นจริง ที่เลื่อนไหลได้
และก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่นี้

ตอนนี้ เรื่องน่าพิศวง, น่าอัศจรรย์,
และน่าประหลาดใจทั้งหลาย กำลังเปิดออกมาแล้ว
จงปล่อยให้ตัวเองสังเกตให้มากขึ้น
เพราะว่าพวกเราทุกๆชีวิต ในฐานะที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
กำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงใหม่แล้ว

และอย่างที่พวกคุณรู้แล้ว ว่ามันยังจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ต่อไป
แต่สิ่งที่ฉันอยากจะให้พวกคุณสังเกตดูจริงๆ และจดจำเอาไว้จริงๆ
ก็คือ ชีวิตกำลังผ่อนคลายตัวมันเองมากขึ้นเรื่อยๆอยู่
เพราะว่ามันกำลังมีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นเรื่อยๆอยู่
มันกำลังจะกลายไปเป็นชีวิตที่มีความเลื่อนไหลมากขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้น มันจึงกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกิดขึ้นมากกว่าเดิมตามไปด้วย
พวกคุณอาจจะรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้
กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้นๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพราะว่า
กาลเวลากำลังยุบตัวลงเรื่อยๆต่างหากหละ

ดังนั้น พวกคุณจึงกำลังดำรงชีวิตอยู่ภายใน “ปัจจุบันขณะ” มากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย
และมันก็กำลังจะทำให้พวกคุณเป็นอิสระจากความเชื่อ และ เรื่องราวจากอดีต
และรวมถึง เป็นอิสระจากความกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

ด้วยเหตุนี้ พวกคุณจึงกำลังจะมีพลังอำนาจมากขึ้น
และส่งผลกระทบได้มากขึ้น และรวมถึง
พลังงานของพวกคุณที่กำลังเคลื่อนที่เร็วขึ้นๆอยู่นี้
ก็จะทำให้พวกคุณรู้สึกว่าตัวเบามากขึ้น
และสว่างไสวมากขึ้นอีกด้วย


ที่รัก..อันที่จริงแล้ว สิ่งต่างๆล้วนกำลังสว่างไสวมากขึ้นด้วยกันหมดทั้งสิ้น
และมันก็ค่อนข้างที่จะสวยสดงดงามเมื่อรู้สึกได้

ลองจินตนาการดูสิว่า ดอกไม้ไฟน่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าพวกคุณคือท้องฟ้า
จงสนุกกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และจงรักษาอารมณ์ความรู้สึกให้เบิกบานอยู่เสมอ


ฉันคือมหาเทพมิคาเอล
I AM Archangel Michael


Copyright (c) 2009 - 2013 by Meredith Murphy.
All rights reserved. You may translate,
link to or quote this article, in its entirety,
as long as you include the author name
and a working link back to this website:

- Expect Wonderful by Meredith Murphy - Any other use of this article is strictly prohibited.

…………..

 

ในส่วนตัวมองว่าข่าวสารที่คุณชัยยุติ
ทำหน้าที่ส่งต่อหรือสื่อสารออกมานีั้
เป็น"ความรู้"ต่างจากบางท่านที่มองว่า
เป็น"ความเชื่อ"
ความคิดเห็นส่วนตัวครับ!!!

 

แล้วคนที่ติดตามกระทู้ของคุณ ชยุต ผมคิดว่าไม่ใช่พวกกระจอกงอกง่อยหลอก แค่คนที่ยังรู้ไม่มากพอ กระนั้นก็ตามก็ยังมีคนที่คิดว่าตนเองรู้เยอะแล้ว เลยพยายามอวดภูมิรู้ หวังจะไห้คนคล้อยตามความรู้ของตน

 

เมื่อคืนฝันเห็นข้างในร่างกายของตัวเองมีลำแสงสีขาว ตามร่างกายภายในเป็นบางส่วน
หลายส่วน บางลำแสงก็มีสีน้ำเงินอยู่รอบๆเล็กน้อย (เป็นแค่ความฝันน่ะค่ะ)

 

ราวๆ 3 - 4 วันก่อนผมก็มีความฝันที่เป็นนัยยะที่ดีเหมือนกันครับ
คือฝันว่าอยู่ในตึกที่มีทางเดินตรงกลาง เหมือนหอพักหรืออาพาร์ทเม้นอะไรแบบนั้น
ที่มีห้องพักหลายๆห้องเรียงรายกันอยู่ทั้ง 2 ข้างของทางเดินอันนั้น

แต่ที่พื้นทางเดิน บนผนังห้อง และบนเพดานข้างบน ล้วนเต็มไปด้วยโคลนตมสีดำทั้งสิ้น
ซึ่งโคลนก็ไม่ได้ลึกนัก แค่พอๆให้เดินยาก และ ให้สกปรกเลอะเทอะเท่านั้นเอง
แต่ที่พิเศษสุดก็คือ ในโคลน หรือบนโคลนนั้น มีสัตว์ประหลาดอยู่เยอะแยะไปหมดเลย
เจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้นจะหน้าตาเหมือนปาหมึกยักษ์บ้าง เหมือนช้างบ้าง
และเหมือนตัวอื่นๆที่ระบุไม่ได้บ้างก็มี พวกมันจะกระจายอยู่ทั่วไป
และดักอยู่ข้างทางเดินในตึกที่ว่านั้นด้วย ซึ่งถ้าผมจะผ่านออกไปจนสุดทางเดินให้ได้
ผมก็ต้องผ่านพวกมันไปให้ได้ซะก่อน

ผมกับคุณแม่ของผม จึงช่วยกันหลอกล่อมัน โดยผมหยิบปลาช่อนบ้าง
ปลาชนิดอื่นๆบ้าง เท่าที่จะคว้าได้ในโคลนที่อยู่ใกล้ๆตัวอันนั้น ขว้างให้พวกมันกิน
แล้วมันก็จะมัวแต่สนใจอาหารของมันอยู่ แล้วผมก็จะวิ่งไถลโคลนลอดใต้หนวดหรือแขนของมันไป

ผมทำเช่นนี้จนมาได้เกือบจะสุดทางเดินแล้ว แต่พอมาด่านสุดท้าย
เจอเจ้าปลาหมึกยักษ์ที่ตัวใหญ่ที่สุดอยู่ และแถมมีเจ้าตัวอะไรที่หน้าตาเหมือนช้างอยู่อีกตัว
และตัวอะไรอีกตัว ระบุไม่ได้ รวมแล้ว 3 ตัว ดักอยู่ติดๆกัน ผมก็๋ทำเหมือนเดิมอีก
คือจับปลาช่อนตัวเบ้อเร่อโยนให้มันไป เจ้าปลาหมึกยักษ์ก็รับไว้
แต่มันใช้แค่หนวดข้างเดียวหยิบกิน ส่วนหนวดเส้นอื่นๆของมันยังคงว่างอยู่
ดังนั้น เมื่อผมไถลโคลนลอดใต้ตัวของมันไป มันจึงดูเหมือนจะจับผมได้หรือยังไงนี่แหละครับ
เพราะว่าในฝันนั้น มันเหมือนเป็นภาพแยกซีนออกมาอีก 3 ซีน
คืออันแรก มันเหมือนเป็นทางเลือกว่า ถ้าผมลอดไป ผมจะไปไม่รอด
อันที่สองคือ ถ้าผมอ้อมลงไปทางด้านซ้าย ผมก็จะหนีตัวแรกได้
แต่อีกสองตัวที่ยังดักอยู่ ก็จะจับผมได้เหมือนเดิม และอันสุดท้าย จำไม่ได้แล้วครับ

แล้วผมก็ตื่นขึ้น พร้อมกับมีข้อมูลเข้ามาว่า ด่านสุดท้าย มักจะโหดที่สุดเสมอ

คุณแม่ในความฝันของผม น่าจะหมายถึงจิตวิญญาณ หรือตัวตนที่สูงกว่าของผม
ที่จะมาคอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอด ด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
และตึกที่เต็มไปด้วยโคลนนั้น ก็น่าจะหมายถึง ด้านมืดของผมเอง
ที่อยู่ในโลกทิพย์ชั้นล่างของมิติที่ 4 ซึ่งพวกเราแต่ละคน ก็มีด้านมืดแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
และพวกเราแต่ละคน ก็จะต้อง "สร้างอุโมงค์แห่งแสงสว่าง" ตัดผ่านมันไปให้ได้ด้วย

ในฝันมันก็บอกเป็นนัยๆอยู่ว่า ทางที่ผมสร้างเพื่อตัดผ่านไปนั้น
ใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว แต่ด่านสุดท้าย ก็ต้องขึ้นอยู่กับผมเอง ว่าจะเลือกทางเลือกไหน

และก็ ประกอบกับข้อความของนาง Blossom และของต่างมิติอีก 2 เจ้า
พูดไว้ในทำนองเดียวกันว่า ตั้งแต่วันที่ 22 เดือนกันยายนเป็นต้นมานี่
ระดับพลังงานของโลกสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ อย่างเหนือความคาดหมาย
จนทำให้ "โลกใหม่" เหมือนกับผ่านพ้นช่วง "ตั้งครรภ์" มาได้แล้ว
คือตั้งครรภ์มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012 (21/12/2012) มาได้ 9 เดือนแล้ว
และเดือน 9 ปีนี้ ก็เลยถึงกำหนดคลอดแล้ว

ดังนั้น ชาวโลกหลายคน จึงมาถึงด่านสุดท้ายของตัวเองในเฟสนี้กัน ตามไปด้วย
ย้ำนะครับว่า ด่านสุดท้ายของเฟสนี้เท่านั้น เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่เฟสกันแน่

(หมายเหตุ: ข้อความของนาง Blossom ที่ว่านั้นครับ

"Blossom: อย่างที่ดิฉันได้เรียนไปแล้วว่า ฉันเห็นภาพนิมิตรว่า มีกองทัพขนาดใหญ่
จำนวนหลายพันหลายหมื่นคน ซึ่งแถวหน้าของพวกเขา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเส้นชัย
และฉันก็รู้สึกว่า พวกเขาแค่ต้องการคำสั่งหรือสัญญาณว่า “ไป” เท่านั้นเอง
แล้วพวกเขาก็จะเริ่ม “ก้าวเดิน” ออกไปสู่เส้นชัยเส้นนั้นทันที แล้วพวกเขาก็จะมีชัยชนะ!")

(แล้วก็ลิงค์ของข้อความจากต่างมิติที่ผมอ้างถึงเมื่อสักครู่นี้นะครับ
http://www.galacticchannelings.com/english/cosmic_awareness25-09-13.html

"...the Equinox energies, that which was the date of September 21st
and the weekend of the 21st - 22nd has now been completed.
That this marked not the actual moment when great change would occur
but it did indeed mark the completion of the nine-month period...")

ดังนั้น หลังจากนี้ไป เราหลายคน ก็จะเหมือนกับทารกที่เพิ่งเกิดใหม่
ในโลกใหม่ของเราเอง..ดังนั้น ข้อความของท่านมิคาเอลที่ผมเพิ่งโพสต์ไปนั้นหนะ
จึงบอกว่า บนเส้นทางชีวิตของพวกเราแต่ละคน ให้เราตั้งใจรับ/เจอสิ่งใหม่ๆเอาไว้ให้ดี
ตลอดเส้นทาง แบบชั่วขณะต่อชั่วขณะเลยทีเดียว

และพออีกสองวันต่อมา ผมก็ฝันอีก คราวนี้ฝันว่ากำลังจะเดินไปเข้าห้องสอบกับเพื่อนมากมาย
แต่ในความรู้สึกตอนนั้น ผมได้เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ดังนั้น จึงไม่กลัวการสอบในครั้งนี้เลย

และแล้ว วันรุ่งขึ้น ก็มีบททดสอบอารมณ์ และ ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
ให้ได้ทดสอบจริง ในชีวิตจริง จริงๆด้วย จนถึงบัดนี้ ก็ยังสอบอยู่เลยครับ

ปล. ผมพบว่าบ่อยครั้ง ที่ช่วงเวลาที่ผมเจอบททดสอบต่างๆ โดยเฉพาะที่หนักๆ
จะตรงกับช่วงที่มีปฏิกิริยาจาก Solar Flare หนักๆด้วย
และ/หรือ จะเป็นช่วงที่แผ่นดินไหวที่เกิน 6 ริกเตอร์ขึ้นไปจะเกิดขึ้นถี่ด้วย

มีใครสังเกตเห็นว่าของตัวเองก็เป็นแบบนี้บ้างไหมครับ
เรื่องของแผ่นดินไหว ผมสมัครรับรายงานแผ่นดินไหว
เอาไว้ที่เวปไซต์นี้นะครับ http://www.emsc-csem.org/service/register.php

เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีแผ่นดินไหวระดับ 6 ริกเตอร์ขึ้นไปถี่มากกว่าปกติ
และมี Solar Flare ระดับรุนแรงกว่าปกติ เกิดขึ้นถี่กว่าปกติด้วยนะครับ
มีใครสังเกตบ้างหรือเปล่าเนี่ย?

เช่น

Magnitude 6.4 30/09/2013 05:55 KERMADEC ISLANDS, NEW ZEALAND
Magnitude 6.8 28/09/2013 07:34 PAKISTAN
Magnitude 6.9 25/09/2013 16:42 NEAR COAST OF SOUTHERN PERU
Magnitude 7.7 24/09/2013 11:29 PAKISTAN
Magnitude 6.3 04/09/2013 02:32 ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS

ซึ่งรวมแล้ว 5 ครั้ง มากกว่าของเดือน 8 และ เดือน 7 เกือบเท่าตัว
เพราะว่าของทั้งสองเดือนนี้ แค่เดือนละ 3 ครั้งเองหนะครับ

................................................................................

 

นี่ถือว่า Higher Self ของคุณยังหลุดรอดออกมาช่วยได้อยู่นะนี่...
ด่านสุดท้ายในฝันที่คุณว่านี้จึงเจอปลาหมึกยักษ์
แต่ถ้ามาให้เห็นเป็นภาพนี้ ...
คุณคงโยนตัวเองเข้าไปหาเองแน่ ๆ ....หมดกัน...

(มีนัยยะไม๊น้า...ว่าที่จ้อง ๆ อยู่นอกฝันนี่คือปลาหมึกยักษ์...)

 

จะใช่อย่างที่ผมประสบอยู่หรือเปล่า สุขแบบไม่มี ไม่มีสมบัติ ไม่มีพันธะ ไม่มีอนาคต ไม่สนใจใครจะมาดูแล จะเป็นจะตายช่างมัน

 

ขออนุญาตเล่าเรื่องความฝันต่อนะครับ ไหนๆก็ได้เล่าไปแล้ว
และก็..มันจะมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่กับสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงอีกเล็กน้อย

คือว่า หลังจากที่ฝัน 2 ครั้งนั้นไปแล้ว เมื่อคืนนี้ ก็มีฝันดีๆอีกฝันหนึ่งมาอีกแล้ว

คือฝันว่า ตัวเองกำลังนั่งเฝ้าเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าเครื่องเบ่อเริ่มเทิ่มอยู่เครื่องหนึ่ง
มันเก่าจริงๆเลยหละครับ ทั้งรูปแบบของหน้าจอ ทั้ง CPU และรวมถึง
มันยังตั้งอยู่ข้างถนนอีกด้วย แต่แค่มีใครไปทำโครงเหล็กครอบเอาไว้ให้เท่านั้นเอง

สักพัก ผมก็มีความรู้สึกว่า เจ้าเครื่องนั้น มันกำลังถูกทดสอบระบบใหม่อยู่
คือมีใครเขาเอาโปรแกรมอะไรซักอย่าง ไปติดตั้งให้กับมันใหม่
และครั้งนี้ก็อีกแล้วครับ..ในฝันนั้น ผมก็เห็นคุณแม่ของผมคอยช่วยเหลือผมอยู่อีกตามเคย

ไอ้เจ้าแผ่นโปรแกรมที่เขาเอามาติดตั้งให้ใหม่นั้น มันเหมือนกัลปังหาเลย
แต่มันเป็นแผ่นแบนๆ วงกลม และมีลวดลายแบบกัลปังกา แค่ซับซ้อนกว่าเท่านั้นเอง


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

แล้วพวกเขาก็ทดลอง Run เจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ upgrade ใหม่นี้ดู
โดยให้ผมไปลองใช้มันดู ผมก็ดู แล้วก็งง เพราะว่า ไม่เห็นว่าตัวเครื่อง
มันจะใหม่ตรงไหนเลย ก็ยังใหญ่เบ่อเริ่มเทิ่มเหมือนเดิมอยู่เลย
แถมตั้งอยู่ที่เดิมอีกด้วย แต่พอดูไปดูมา ก็พบว่า
อ้าว..มันมีหน้าจออีกหน้าจอหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

คือมันมีหน้าจอ อยู่บนฝาเหล็กที่เขาทำครอบเอาไว้ให้อีกหน้าจอหนึ่งหนะครับ
ซึ่งดูเหมือนฝุ่นจะเกาะอยู่มาก ผมเลยปัดๆมันหน่อย แล้วใช้อะไรซักอย่าง
ที่คล้ายๆกับปากกา+พู่กัน วาดโน่น วาดนี่บนหน้าจอของมันดู

ผมเขียนเป็นตัวอักษรภาษาไทยนะครับ จำได้ว่า เขียนคำไหน
ภาพก็จะปรากฎเป็นสิ่งนั้นทันทีด้วย เช่น เขียนคำว่า ยักษ์
ก็จะเห็นภาพเคลื่อนไหวของนางยักษ์ เหมือนในละครจักรๆวงษ์ๆ
เดินอยู่ในหน้าจอนั้นทันทีเลย..ภาพมันเคลื่อนไหวได้เองของมันครับ
เหมือนเขาบันทึกเอาไว้แล้วอย่างงั้นแหละ

ถ้าจะให้ผมแปลความฝันของตัวเองในช่วงนี้ ผมก็จะแปลว่า
ตอนนี้ระบบคอมพิวเตอร์ชีวภาพของผมเอง ซึ่งก็คือเจ้าสมองของผมเองนี่แหละ
มันกำลังถูก upgrade อยู่ โดยจิตวิญญาณ หรือ ตัวตนที่สูงกว่าของตัวผมเอง
แต่ว่ามันยังเป็นแค่ช่วงแรกๆของการ upgrade เท่านั้น
ดังนั้น การใช้งานของมัน จึงยังใช้ไม่ได้ดีนัก

เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ผมก็เพิ่งจะมาฝึกเปิดตาที่ 3
ตามข้อความของชาว Arcturian เมื่อไม่นานมานี้เองแหละครับ
และก็ได้ใช้ดนตรีที่มีคลื่นความถี่ต่างๆ เช่น คลื่น theta ช่วยด้วย เวลานั่งสมาธิ
ซึ่งก็รู้สึกได้จริงๆเลยว่า มันก็ช่วยได้เหมือนกันนะ

เพราะว่า เดี๋ยวนี้ เวลานั่งสมาธิ ผมเลยพอจะรู้สึก และ เห็นภาพต่างๆ
ที่เราตั้งใจจะจินตนาการขึ้นมาเพื่อเป็นภาพนิมิตรของเราได้มากขึ้น
และก็มักจะได้ยินเสียง หรือ มีข้อมูลเข้ามาในหัวบ่อยๆ
โดยเฉพาะในช่วงก่อนหลับ ,ก่อนตื่น และ นั่งสมาธิ ครับ

และก็เลยทำให้ผมมั่นใจว่า ตอนนี้ผมกำลังเข้ามาสู่บทเรียนบทใหม่อยู่
ซึ่งแตกต่างไปจากเดิม แต่ว่ามันคืออะไรนั้น ผมก็ยังไม่ชัดเจนนัก
รู้แต่ว่า ลึกๆในใจมันบอกว่า มีบทเรียนบทใหม่ที่จะต้องเรียนรออยู่ครับ

และก็ เมื่อ 2 -3 วันก่อน บังเอิญได้ไปเจอข้อความจากต่างมิติข้อความหนึ่งเข้า
ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งแปลอยู่ ความรู้สึกภายในมันบอกว่าต้องแปล
และนี่แหละคือบทเรียนบทใหม่ที่ว่านั้น

ในข้อความนั้น จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้กล่าวถึงอะไรใหม่สักเท่าไหร่หรอกนะครับ
เพราะว่าพวกเราหลายคน น่าจะรู้กันมานานแล้ว

ว่า..ตัวตนที่แท้จริงของพวกเราหนะ จริงๆแล้ว ก็คือ "แสงสว่าง" นั่นเอง
พวกเราคือลูกทรงกลมแห่งแสงสว่าง สีทอง สว่างไสวสวยงาม
พวกเราไม่ใช่กายเนื้อนี้เลย และทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นว่ามันเป็นของแข็งนั้น
อันที่จริงแล้ว มันก่อเกิดขึ้นมาจากพลังงาน ซึ่งเป็นของไหล ด้วยกันทั้งสิ้น

ดังนั้น ท่านจึงสอนให้เรา "ฝึก" มองให้เห็นว่าตัวเราเอง
ที่แท้แล้วก็คือลูกทรงกลมแห่งแสงสว่างนั่นเอง
ฝึกให้มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ว่าเป็นของไหลให้หมด
ฝึกมองให้เห็นว่า ในความหนาแน่นทึบตันของมันนั้น แท้ที่จริงแล้ว
มันประกอบขึ้นจากกระแสพลังงานที่ไหลเวียน และกระพริบ อยู่ตลอดเวลา
และพวกมันทั้งหมด ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปตาม "คำสั่ง" ของเราด้วย

นี่แหละผมถึงรู้สึกว่า (แต่ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ) นี่อาจจะเป็นกุญแจดอกหนึ่ง
ที่เป็นความลับของพวกนักพลังจิต ที่สามารถทำโน่นทำนี่ หรือ สั่งการวัตถุต่างๆได้ ก็ได้
เพราะว่า พวกเขามอง และ เชื่อ ไม่เหมือนกับพวกเรา

ก็..ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ เอาไว้แปลเสร็จเมื่อไหร่
เดี๋ยวผมจะเอามาโพสต์ให้อ่านนะครับ

..................................................

 

พูดถึงคลื่นเสียง ยังไม่ได้ขอบคุณ คุณชยุต เลย ก่อนหน้านี้ผมมีปัญหากับสมาธิผมมาก ในกระทู้นี้แหละคุณชยุตแนะนำให้ฟังคลื่นเสียง ผมก็ไปหาโหลดมาฟัง หวังจะใช้สร้างสมาธิกับการเตรียมตัวสอบ แล้วตอนนี้ก็็สัมฤทธิ์ผลแล้วครับสมองโปร่งเบาขึ้น ผมสอบผ่านภาค ก.แล้ว
ขอบคุณครับ

 

บางที ด่านสุดท้ายอาจจะต้องจับมาทำปลาหมึกย่างนะครับ อิอิ กินมันก่อนที่จะกินเรา (โหดไปมั้ยนิ อิอิ) ในเมื่อหลบหลีกไม่ได้ก็ต้องชนกันตรงๆ ทำใจให้ว่างแล้วก็ เดินเข้าหาปลาหมึกแล้วก็กิน ^^"

 

-ก่อนข้อความนี้มา..ตอนกลางคืนก่อนนอนเราจะทำสมาธิก่อนนอนทุกวัน..คือนอนทำสมาธิละนะ..แล้วคืนนั้นเกิดปรากฏการพิเศษ..คือ..เห็นแสงสว่างเป็นรูปเกลียวคล้ายๆเกลียว..ดีเอ็นเอ..สองเส้นเกลียวกันขึ้นไป..แล้วจิตเราก็ตามเกลียวนั้นขึ้นไปๆๆ..จนถึงจุดรวมของแสงสว่างเล็กๆ..แล้วจุดแสงสว่างเล็กๆ นั้นแตกตัวออกเหมือนดอกไม้ไฟเลย..แตกออกมาเรื่อยๆไม่หยุด..ปุ..ปุ..ออกมาตลอดและแต่ละแสงมีสายเชื่อมโยงกันอยู่..เชื่อมโยงกันตลอด..และแต่ละก้อนแสงจะอยู่แต่ละจุดเป็นเอกเทศ..แต่เชื่อมโยงกันหมด..แล้วจิตเราก็ถามตัวเองว่า..เอ้าไหนละ..ลูกของฉัน..ซีมอน..กับ..ราเคล..อยู่ไหนละ..มันไม่เห็นนะ..ณตรงนั้น เห็นแต่แสงสว่างกลมๆเต็มไปหมด..ถึงได้เห็นว่า..เขามาเป็นลูกของเราเพราะเขามาเป็นกายเนื้อให้เราเห็นๆอยู่นี่..และสมมุตว่าเขาเป็นลูกเรา..มาสมมุตว่าเป็นพ่อ-แม่.พี่.ป้า..9ล9..แต่อยู่ตรงจุดนั้นเราเป็นแสงสว่างสีขาวที่เชื่อมโยงกันอยู่เหมือนกันหมดทุกดวงแต่อยู่ใครอยู่มัน...จิตวิณญานมาหาประสบการณ์ในกายเนือ้..มารู้สึกได้ทาง..ตา..หู..จมูก..ลิ้น..กาย..ใจ..เพียงเพื่อจะ..แค่..รู้เฉยๆก็พอ..เหมือนรู้ว่าอรอ่ยก็รู้ว่าอร่อยเฉยๆ..อย่ายึดติดอารมณ์..จิตวิณญานตอ้งการแค่รู้สึกในการมีชีวิต..การเป็นสิ่งมีชีวิต..ตอ้งมีความ..รู้สึก..เราแค่แชร์ประสบการณ์นะ..ไม่ได้พูดเอาเกรด..A,,B,C..D..F..ดอกไม้ไฟน่าจะรู้สึกอย่างไร..ถ้าคุณคือทอ้งฟ้า....

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ทางเลือกที่สามในฝันของผม ที่ผมลืมไปนั้น
น่าจะเป็น "ยอมรับ" "รัก" และ "ให้อภัย" พวกมัน
อย่างไม่มีเงื่อนไขหนะครับ

เพราะนี่แหละ คือสิ่งที่ต่างมิติทั้งหลายบอกเอาไว้เสมอหละ
ว่าวิธีการเผชิญหน้ากับความมืดของตัวเราเอง
เช่น ความกลัว, อารมณ์ความรู้สึกด้านลบของเราเอง,
และอื่นๆ พวกเขาให้ใช้วิธีนี้ครับ

โดยการปล่อยให้มันผุดขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวของความรู้สึกของเรา
แล้วเราก็ "แค่รับรู้" และ "ดู" มันอยู่เฉยๆไปก่อน
และปล่อยให้มันแสดงตัวตนของมันออกมาอย่างเต็มที่
อย่าไปเบี่ยงเบนประเด็น หรือหาทางหลอกล่อความสนใจของมัน
อย่างวิธีแรกที่ผมทำในฝัน และก็อย่าไปหลบเลี่ยงมัน
หรือปิดช่องทางการแสดงตัวตนของมันออกมา
อย่างที่วิธีที่สองที่มีให้ผมเลือกในฝันของผม ซึ่งไม่ถูกต้อง

คำว่า "ปล่อยให้มันแสดงตัวตนของมันออกมาอย่างเต็มที่" นี่
ท่านต้องเข้าใจด้วยนะครับ ว่า "มัน" ในที่นี้หมายถึง
อารมณ์ความรู้สึกด้านลบของเราเอง
ส่วน "เรา" ในที่นี้หมายถึง "จิตวิญญาณของเรา"
ซึ่งกำลังทำหน้าที่ "เป็นผู้สังเกตการณ์" ดูความเป็นไปของมันอยู่
ส่วนการ "แสดงตัวตนออกมา" นี่ก็คือ
แสดงออกมาผ่านทางความรู้สึกของร่างกายเนื้อของเรา

ซึ่งนั่นก็แปลว่า ขอยกตัวอย่างกรณีของผมเองเลยนะครับ
เวลามีความโศกเศร้าเสียใจ หรือความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือหดหู่
หรือรู้สึกสงสารตัวเอง ว่าทำไมเราต้องมาเป็นแบบนี้
มาอยู่ในสภาพนี้ มาตกอยู่ในสถานะนี้ด้วยนะ อะไรแบบนั้น
ก็ให้ความรู้สึกนั้นมันปรากฎออกมาอยู่แบบนั้นแหละ
และก็ปล่อยให้เจ้าความคิดน้อยเนื้อต่ำใจอันนั้น
มันคิดของมันไป วนไปวนมา อยู่แบบนั้นแหละ เท่าที่มันอยากจะคิด

แต่..อีกส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา เราก็จะทำหน้าที่ดูมันอยู่เฉยๆ
เหมือนเราเป็นอีกคน เหมือนเราเป็นคนอื่น แล้วก็..ถ้าได้จังหวะ
ก็ค่อยๆปลอบประโลมเจ้าความคิดนั้น ที่วนเวียนไปมาอยู่นั่นแหละ
จะปลอบมันว่ายังไงก็ได้ เท่าที่เราจะทำได้

และถ้ามันรู้สึกเศร้าจนได้ที่แล้ว หรือมากพอสมควรแล้ว
เราอีกส่วนหนึ่ง ก็นึกเห็นอกเห็นใจ "เขา"
ซึ่งเขาในที่นี้ ก็คือ ร่างกายเนื้อนี้ และก็คือ ego ที่ครอบครองเขาอยู่นี้

แล้วจากนั้น "เรา" ก็ส่งความรักและความเห็นอกเห็นใจ
ให้กับ "เขา" ไป

..โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด..ผมทำมาแล้ว..

มันรู้สึกได้ชัดเจนมากว่า มันตื้นตัน มันซาบซึ้ง จนน้ำตาแทบร่วงแหนะครับ
มันบอกไม่ถูก เพราะมันเต็มไปด้วยความรู้สึกรัก จาก "เรา" เอง
ที่ส่งไปให้ "เราเองอีกคน" ด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้ง
และด้วยการ "ยอมรับ" เขา ที่เขาคิดแต่จะน้อยอกน้อยใจอยู่แบบนั้น
ไม่โทษเขา ไม่ซ้ำเติมเขา ..ยอมรับเขา และให้อภัยในความเป็นสามมิติของเขา

แล้วจากนั้น ความรู้สึกด้านลบอันนั้น มันก็ถูกความรู้สึกรักอันนั้น แทนที่ไปจนหมดสิ้น
และผมก็จินตนาการถึงแสงสว่างจากจักระที่ 4 ของตัวเอง แผ่ออกมาแทนที่เขาเอาไว้
แล้วความรู้สึกอันนั้น มันก็หายไป หรือไม่ก็ อย่างน้อย ก็จืดจางลงไปเยอะเลยทีเดียวครับ

แต่ก็อย่าเข้าใจผิดไปว่า การปล่อยให้มันแสดงตัวตนของมันออกมาอย่างเต็มที่นี่
หมายความว่า เวลาโกรธ ก็ให้ระเบิดความโกรธออกมาสู่คนรอบข้างอย่างเต็มที่เลย
อะไรแบบนั้นนะครับ เพราะแบบนั้นหนะ เราขาดสติไปแล้วหละ
เราไม่มีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นตัวตนของเรา ที่กำลังทำหน้าที่เป็น "ผู้ดู" อยู่แล้วหละครับ
ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ

ที่เล่ามานี่ เพิ่งทำไปเมื่อวานนี้หนะหนะครับ และผมอยากจะบอกว่า
ข้อสอบข้อนี้ผมสอบตกซ้ำชั้นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
แม้ว่าจะรู้ภาคทฤษฎีจากข้อความจากต่างมิติมามากแค่ไหนก็ตาม
แต่ภาคปฏิบัตินั้น มันแทบจะไม่เกี่ยวกับความรู้มาก-น้อย ในภาคทฤษีเลย

ปล.ในช่วงนี้ผมก็สังเกตเห็นว่า เวลาที่มันถึงเวลาจะทำได้
มันก็ทำได้ง่ายๆเลยนะครับ แต่ถ้ามันยังไม่ถึงเวลา มันก็จะทำไม่ได้ซะที

และดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญ จะอยู่ที่ระดับความสั่นสะเทือนของเราเอง
ว่าถ้าช่วงที่เรามีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆแล้ว สติเราก็จะดี
อารมณ์ของเราก็จะดีด้วย และดังนั้น การจัดการกับสิ่งที่เป็นด้านมืด-ด้านลบของตัวเราเอง
มันก็เลยพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย

ปล.2 เรื่องความสั่นสะเทือนนี่ คลื่นเสียงช่วยได้นะครับ ไม่มากก็น้อย
..................................................

 

ขออนุญาตแจมความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะคุณชยุต โดยส่วนตัวคิดว่าพวกปลาหมึกยักษ์หรือสัตว์ใหญ่ๆ น่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เค้ามาเพื่อให้เราได้ชำระหนี้ต่างๆที่เราเคยทำกับเขาไว้ในอดีตชาติ หรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นตัวทดสอบสติปัญญาของเรา เพื่อยกระดับจิตของเราให้ผ่านไปได้ ถ้าเราผ่านด่านนี้ไปได้ระดับสติปัญญาหรือดวงจิตเราก็จะเพิ่มขึ้นเราก็จะสว่างขึ้น เราจะผ่านทุกด่านไปได้ ด้วยสติปัญญา และความเมตตา การให้อภัยและอโหสิกรรมแก่กันและกัน แต่ถ้าเราผ่านด่านนี้ไปได้ มันก็จะมีบททดสอบที่หนักกว่านี้รอเราอยู่อีก .... พวกเราจะถูกทดสอบหนักกว่าคนทั่วไปที่เค้าไม่ได้ปฏิบัติและเร็วกว่าเพื่อเร่งสร้างแสงสว่างและขัดเกลาเพื่อเรา...เพราะเรารู้แล้วว่าเราเป็นใครมาทำอะไรและจะไปไหนต่อ...ขออนุโมทนาแก่ทุกคนที่กำลังพยามหาทางกลับบ้านของตัวเองซึ่งปัจจุบันนี้มันมีหลายที่หลายทางแล้วแต่จริตของใครว่าจะไป ทางลัด หรือทางด่วนหรือว่าไปรถไฟ หรือไปเครื่องบิน ..อิอิ..แต่เรากำลังไปด้วยจรวด..ขอให้ทุกท่านเจริญๆยิ่งๆขึ้นไปน่ะค่ะ

 

ส่วนตัวผมก็สอบตกมามาก อิอิ (สอบผ่านบ้างนานๆครั้ง 55) เพราะว่าไม่ค่อยจะยอมให้อภัยหนะครับ ส่วนเรื่องความกลัว หรือ อารมณ์โกรธ ของตัวเอง ในฝันจะแสดงออกมาในรูปของพายุทอร์นาโด ชอบฝันว่า ตัวเองมักจะทำให้เกิดพายุทอร์นาโด หรือ คลื่นยักษ์ขึ้นบ่อยๆ แต่พอเกิดแล้วทำให้มันหยุดไม่ได้ เมื่อหยุดไม่ได้ก็เลยหนี(กลัว) แต่หลังๆรู้แล้วจะทำอย่างไรให้พายุสลายไป คือ ต้องเผชิญหน้ากับมัน ให้มันพัดมาถึงตัว บางทีก็ดูดเราขึ้นไปเลย ตอนแรกๆกลัวมากๆๆ หลังๆเริ่มกล้าขึ้น แผ่เมตตตาให้ สวดมนต์ แล้วมันก็ค่อยสลายตัวไป แต่การทำจิตให้สงบ แล้วไม่ก่อให้เกิดคลื่นยักา์หรือทอนาโดนี่ ยังสอบไม่ค่อยผ่านเลยนะครับ อิอิ คงต้องฝึกฝนกันต่อไป แล้วอีกข้อมูลที่ได้รับรู้มาก็คือ อารมร์ความรู้สึกของตัวเรานั้นจะมีผลต่อสภาพภูมิอากาศรอบตัวเรา ตลอดเวลาครับ เคยได้รับข้อมูลผ่านความฝันมา ถ้าช่วงไหนจิตใจเบิกบาน แจ่มใจ สภาพภูมิอากาศก็จะสดใสไปด้วย อิอิ.