ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub

หมายเหตุ:

ในเฟสบุคของคุณทนง ยังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจ
เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่อีกเยอะแยะเลยนะครับ น่าติดตามอ่านมากครับ

.................................................

6. โอบามาน่าจะใช้ executive order เป็นชุดๆ ตอนนี้ว่ากันตามเนื้อผ้า
โอบามาไม่ได้ใส่ใจในการยกเพดานหนี้เลย
เพราะว่าเป้าหมายใหญ่กว่าการผ่านกฎหมายยกหนี้แก้ไขปัญหาระยะสั้น
โอบามาน่าจะต้องการล้างไพ่ระบบการเงินสหรัฐฯ เพื่อตั้งต้นนับหนึ่งใหม่

รีพับรีกันไม่ผ่านกฎหมายเพดานหนี้ ก็เข้าทางตีนโอบามาพอดี
หรือถ้าจะผ่าน โอบามาไม่ได้ใส่ใจ อันเห็นได้จากมีการเตรียมตัว
เรื่องการดูแลความมั่นคงภายใน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปลดพวกเพนตากอน ซีไอเอที่ไม่ใช่พวก
นำไปสู่การเสริมกำลังของ Homeland Security
เป็นกองกำลังทหารย่อยๆของโอบามาดีๆนี่เอง เพื่อทำการใหญ่
อย่างที่ได้เขียนก่อนหน้านี้

รมว.ช่วยคลังจีน Zhu Guangyao เตือนว่า จีนเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่
ในตลาดบอนด์สหรัฐฯ เพราะฉะนั้นฝ่ายบริหาร หรือประธานาธิบดีโอบามา
ต้องดำเนินมาตรการเด็ดขาด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

จีนคงคาดเดาแล้วว่ารีพับรีคงกันไม่ให้กฎหมายยกเพดานหนี้ผ่าน
เพราะฉะนั้น โอบามาต้องรับผิดชอบไม่ให้พันธบัตรสหรัฐฯผิดชำระหนี้
ด้วยการใช้มาตรการเด็ดขาดและน่าเชื่อถือ นั้นก็คือ จีนยุให้โอบามา
ออก Executive Order นั้นเอง แล้วจะสนับสนุนให้โอบามา
สามารถออก Executive Order ได้เพื่อ

1. ยกเพดานหนี้เพิ่ม แล้วกระทรวงคลังจะได้ออกบอนด์ใหม่เพื่อไถ่ถอนบอนด์เก่า
พร้อมจ่ายดอกเบี้ยได้ แล้วก็ถูไถไป หรือ

2. พิมพ์ดอลล่าร์ใหม่ แบบที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้เคยทำมาแล้ว
เพื่อเปิดศึกสงครามภายใน เพราะดอลล่าร์ของกระทรวงคลัง
จะออกมาแข็งกับดอลล่าร์ของเฟด

เหมือนกับว่ารู้ชะตาตัวเองดี เฟดในวันอังคารที่ผ่านมา พิมพ์แบงค์ $100 ออกมาใหม่
เพื่อช่วยให้มีสภาพคล่องในกรณีที่ผู้ฝากเงินแพนิคถอนเงิน
เพราะกฎหมายเพดานหนี้ไม่ผ่าน

โอบามาน่าจะเลือกหนทางที่ 2 มากกว่า จะได้ล้มระบบไปเลย
เพราะเวลาออกดอลล่าร์ใหม่ ซึ่งน่าจะถูกหนุนโดยน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ
จะได้รับความน่าเชื่อถือกว่าดอลล่าร์ของเฟด ที่เรียกว่าFederal Reserve Note
ซึ่งพิมพ์ออกมาเปล่าๆ โดยไม่มีอะไรหนุนเลย

ฟังชื่อก็ตลกแล้ว เฟดไม่มีอะไรที่เป็นเฟดเดอรัลเลย เพราะเอกชนเป็นเจ้าของ
หรือผู้ถือหุ้น100% แต่อำพรางตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์ หรือ federal
โดยจัดฉากว่าประธานเฟดต้องไปให้การกับสภา และการแต่งตั้งประธานเฟด
ประธานาธิบดี ต้องเป็นคนเสนอชื่อ แล้วให้สภาเซเน็ทรับรองอีกที
ละครแหกตานี้ ทำมาร่วม100ปีแล้ว

ส่วนคำว่า reserve แปลว่าสำรอง ปรากฎว่าเฟดไม่จำเป็นต้องสำรองทรัพย์สินอะไรเลย
มีแต่คอมพิวเตอร์เปล่าๆ แต่จะพิมพ์เงินแค่ใหนก็ได้
มันเลยเป็นสิ่งที่ รอน พอล เรียกว่า funny money system
หรือระบบเงินตลก ที่หลอกคนอเมริกันมานับ100ปีแล้ว

เป็นการเท็คโอเวอร์สหรัฐฯโดยกลุ่มนักการเงิน รวมมือกับกลุ่มนักการเมืองในอดีต
ผลเสียยังตกกับสหรัฐฯทุกวันนี้ เพราะเฟดและ Wall Street คุมการเงิน
และเศรษฐกิจเกือบทุกอย่าง จนทำให้เกิดช่องว่างของประชาชนคนธรรมดา
คนจน 99% และคนรวย 1% ระบบนี้เอง เป็นระบบที่โอบามาต้องการล้ม
ขณะนี้วิกฤตเปิดให้เป็นโอกาสเพื่อทำการใหญ่แล้ว

thanong 8/10/2013

.........................................

 

ขอโพสต์เพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ เพราะว่าเรื่องที่ข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย
ได้กล่าวถึงเอาไว้ เริ่มจะปรากฎออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนในระดับโลกแล้ว
จนยากที่ใครที่พอจะหูดี-ตาดีอยู่บ้าง จะมองไม่เห็น หรือจะไม่ได้ยินอะไรบ้างเลย

หมายถึงเรื่องการต่อสู้กันระหว่างกองทัพฝ่ายแสงสว่างกับกองทัพฝ่ายมืดหนะนะครับ

กองทัพฝ่ายแสงสว่าง นำโดยประธานาธิปดีโอบาม่า ซึ่งต่างมิติ
โดยเฉพาะ Mattew Words บอกอยู่เสมอว่า เขาเป็น starseed คนหนึ่ง
ที่รับอาสาลงมาเกิด เพื่อนำพามนุษย์โลก ผ่านออกจากยุคมืด แล้วเข้าสู่ยุคใหม่ให้ได้

(ตัวอย่างของข้อความของแมทธิวที่กล่าวถึงโอบาม่านะครับ
Matthew Ward - September 30, 2013)

ส่วนฝ่ายมืด ตอนนี้ก็คือพวก Illuminati หรือกลุ่ม New World Order
ที่มีสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม เป็นดวงตาบนปิระมิด ที่ปรากฎอยู่ในแบงค์ 1 เหรียญ
ของ USA นั่นแหละครับ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

สมาชิกคนสำคัญของกลุ่มนี้ ก็เช่น อดีตประธานาธิปดีจอร์จ บูท ทั้งพ่อและลูก
ตระกูล Rothschild, Rockefeller, Morgan, Lazard, Warburg,
Schroder and Schiff และราชวงศ์อังกฤษด้วยนะครับ

ซึ่งพวกเขาเป็นเชื้อสายของรูปธรรมชีวิต ที่มาจากนอกโลกเหมือนกัน
ที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยีมากกว่าเรา คือพวกที่มีลักษณะเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน
ที่เรียกว่าพวก Draconians

ตัวอย่างของข้อความจากชาว Arcturian ที่กล่าวถึงพวกนี้ อยู่ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
และแมทธิวเอง ก็กล่าวถึงพวกนี้อยู่บ่อยๆเหมือนกัน

Awakening with Suzanne Lie: New Visitors to Mothership - Unlocking the Matrix

กลุ่มอิลลูมินาตินี้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของสิ่งเลวร้ายหลายอย่าง เช่น เหตุการณ์ 9/11 เป็นต้น
รวมถึงแผ่นดินไหวในเฮติ, ในชิลี, และครั้งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่พวกเขาใช้เครื่องมือที่เรียกว่า
HAARP จัดการให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวหลายอย่าง

เช่น ครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวในเฮติ ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชาวโลก
เรื่องที่ซ่อนทรัพย์สินมหาศาลของพวกเขา และอื่นๆ ส่วนที่เกิดในญี่ปุ่นครั้งหนึ่งนั้น
ต่างมิติบอกว่า เพื่อขู่ญี่ปุ่นเรื่องอะไรซักอย่าง ที่ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้วหละครับ

ดูตัวอย่างบทความในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ

http://palungjit.org/threads/เหตุผล...็นสาเหตุของแผ่นดินไหวในประเทศเฮติจริง.229642/

เอาหละครับ วกกลับมาที่เรื่องที่ผมกำลังจะโพสต์กันดีกว่านะครับ
คือว่า..ตอนนี้ธนาคารส่วนตัวของกลุ่มนี้ก็คือ Federal Reserve System
และ กองทุน IMF ที่คนไทยเรารู้จักดี เพราะเคยเป็นหนี้มัมาแล้วสมัยนายกชวนนั่นแหละครับ

ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มอิลลูมินาตินี้ ซึ่งเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ในวงการการเมืองมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
และรวมถึงส่วนหนึ่งก็เป็นผู้บริหารของหน่วยงานนี้ ไม่นับพวกอยู่เบื้องหลังคนอื่นๆอีกนะครับ
กำลังทำสงครามทั้งทางตรงและทางอ้อมกับโอบาม่าอยู่ และตอนนี้ เรื่องราวส่วนหนึ่งของมัน
เท่าที่โลกภายนอกสามารถรับรู้ได้อย่างแจ่มแจ้ง ก็ได้ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว..แอ่นแอ๊น..

............................................

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub


7. ปัญหาเพดานหนี้จะนำไปสู่การ bail-in และกฎอัยการศึก


Ellen Brown เขียนบทความที่ชื่อว่า
Is Homeland Security Preparing for the Next Wall Street Collapse?
แปลได้ว่า Homeland Security กำลังเตรียมพร้อมรับมือการล่มสลาย
ของ Wall Streets หรือเปล่า? เพราะว่าถ้าหากตกลงกันไม่ได้ รีพับรีกันปล่อยให้รัฐบาลสหรัฐฯ
เกิด technical default หรือผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิค โดยที่ประธานาธิบดีโอบามา
จะถือโอกาสของวิกฤตนี้เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ

เพราะแน่นอนการผิดชำระหนี้ทางเทคนิค ฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ที่จริงแล้วเป็นเรื่องร้ายแรงมาก
เพราะว่าตลาดการเงินจะเกิดแพนิค ทุกคนจะเทขายหนีออกจากตลาดการเงิน
เหมือนคนในโรงหนังแย่งกันออกประตูหนีไฟ อันจะนำไปสู่การ bail-in
หรือการเอาเงินของเจ้าหนี้แบงค์และผู้ฝากเงินไปชดเชยความเสียหายของแบงค์
เหมือนอย่างที่ไซปรัสได้ทำมาแล้ว และกรีซกำลังจะทำอยู่

Wall Street จะล้มอีกครั้งถ้าเกิดการผิดชำระหนี้ เพราะว่าตราการการเงินทุกอย่าง
จะถูกเทขายจากแพนิคเซล ประชาชนจะแห่ไปถอนเงินฝาก สุดท้ายแบงค์จะล้ม
เมื่อเป็นเช่นนี้ จะเกิดความวุ่นวายและจลาจล โอบามาก็ต้องประกาศกฎอัยการศึก
martial law เป็นพื้นที่ไป เพื่อควบคุมสถานการณ์

Ellen Brown เขียนเป็นนัยว่า bail-in และ martial law แม้ว่าจะดูเลวร้าย
แต่จะเป็นโอกาสที่ดีของโอบามาในการกวาดล้าง Wall Street ทีเดียว ให้หล้มทั้งกระดาน
(Crisis in the current scheme means opportunity for those more
sustainable solutions waiting in the wings.)

แสดงว่า Ellen Brown ก็มีข่าววงในว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น

ส่วนฝ่ายตรงข้ามโอบามา ก็จะออกข่าวว่าโอบามากำลังคิดประกาศกฎอัยการศึก
เพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้วแต่จะตีความกัน หรือแล้วแต่ว่าจะอยู่ฝ่ายใหน

เมื่อตลาดการเงินสหรัฐฯถูกเทขายจากแพนิคเซลเพราะการผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิค
ค่าเงินดอลล่าร์จะตกฮวบฮาบ จีนอาจจะประกาศเลิกอิงค่าหยวนกับดอลล่าร์ก็ได้
ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมดอลล่าร์ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆที่ถือดอลล่าร์
เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศให้โยกไปถือหยวนแทน และจะนำไปสู่วิกฤตดอลล่าร์

Ellen Brown บอกว่าทางออกของโอบามาคือ ออก executive order
ให้รัฐบาลออกเหรียญเงินมีมูลค่าหลายล้านล้าน trillion dollar coins
และฝากเหรียญเหล่านี้ในบัญชีหนึ่ง แล้วออกพันธบัตรอิงกับเงินเหรียญจำนวนนี้

วิธีการนี้คล้ายๆกับข้อเสนอของ Paul Krugman เมื่อ2ปีมาแล้ว ช่วงที่รัฐบาลโอบามา
มีปัญหากับรีพับรีกันเรื่องเพดานหนี้ คล้ายๆกับช่วงนี้ คือให้คลังออกเหรียญเงิน
มูลค่า$1ล้านล้าน แล้วฝากในบัญชีเฟด แล้วให้เฟดพิมพ์ดอลล่าร์ออกมาให้คลัง
เพื่อจ่ายหนี้ หรือใช้จ่ายอย่างอื่นๆ

แต่ Ellen Brown ไม่ใช่พวกเฟด เหมือน Paul Krugman เธอต้องการเสนอแนวทาง
ให้คลังออกดอลล่าร์เอง โดยไม่ต้องผ่านเฟดที่เป็นของเอกชนและเป็นพวกเดียวกันกับ Wall Street
เพื่อที่จะล้มเงินดอลล่าร์ของเฟดที่เรียกว่าFederal Reserve Note โดยปริยาย
เพราะจะล้มอำนาจของเฟดในการออกพันธบัตรที่แฝงไปด้วยเงินเฟ้อ

thanong
9/10/2013


Is Homeland Security Preparing for the Next Wall Street Collapse? » CounterPunch: Tells the Facts, Names the Names
..................................................

 

ข้อความสื่อสารจาก SaLuSa
ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อีกแล้ว


10 ตุลาคม 2013
ผู้แปล : Mead



โลกของคุณกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วอันเหนือคณานับ ที่คุณไม่สามารถรับรู้ได้จากมุมมอง ณ. จุดปัจจุบัน
เพราะในความเป็นจริงทั้งหมด คือหน่วยวัดที่มีกรอบเวลาแน่นอน ในขณะที่คุณยังคงอยู่กับบทบาทหน้าที่ในความเป็นจริงเหล่านี้
คุณต้องปรับหน่วยวัดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเวลาของคุณให้สอดคล้องกัน เมื่อคุณเข้าร่วมความเป็นจริงที่สูงกว่าของคุณ

จิตใจของคุณจะต้องใช้ระบบการวัดเวลาที่แตกต่างกัน ขณะที่คุณยังไม่สามารถรองรับการทำงานขั้นสูงสุด ภายในความเป็นจริงที่สูงกว่านี้
จิตใจของคุณในขณะนี้ ได้รับการเชื่อมต่อกับความเป็นจริงที่สูงกว่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณอาจรู้สึกว่า บางครั้งก็สับสนเกี่ยวกับเวลา
ในวันหนึ่งๆที่สิ่งต่างๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ในบางวันไม่ว่าคุณจะทำอะไร กลับเหมือนทุกอย่างดูช้าลง
การเปลี่ยนแปลงนี้ ยังสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน หนึ่งวัน และอาจทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ

โปรดรู้เถิดว่า ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอีกมากมายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ภายในร่างกายของคุณ
ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆทั้งหมดที่คุณจะได้รับ ในการสร้างที่ซับซ้อนอันสมบูรณ์แบบ ที่จะย้ายคุณไปสู่ความเป็นจริงที่สูงกว่า
ที่คุณเลือกจะมีประสบการณ์ โปรดรักษาตัวเองและเพลิดเพลินไปกับทุกหน่วยของการเปลี่ยนแปลงที่คุณตระหนักถึง
และอนุญาติให้ ส่วนที่เหลือได้เกิดขึ้นกับคุณ ในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณแต่ละคน

เราจะยังคงทำงานในทุกแผนของเรา และกับผู้สื่อสารของเรากับผู้คน "ในจุดที่เหมาะสม "
สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมให้ขยายกว้างออกไปในแต่ละวัน
บรรดาผู้รับบริการอยู่ในระบบเก่า เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วในขณะนี้ว่า ไม่สามารถนำต่อไปในที่ใดๆได้อีก
และพวกเขาก็มองไม่เห็นเหตุผลที่จะคงอยู่กับมันอีกต่อไป พวกเขาเลือกที่จะสนับสนุนสิ่งใหม่ๆ
และเริ่มต้นค้นหาเพื่อการเชื่อมต่อที่เหมาะสม พวกเขาจะพบกับสิ่งที่กำลังค้นหา และจะไม่ทิ้งมันไว้โดยไม่ได้รับการสนับสนุน
เนื่องจากทั้งหมดมีการวางแผนที่ดี และไม่มีใครเลยที่อยากให้การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกลืมไป
เพราะคุณทั้งหมดนั้น ก็คือผู้ร่วมสร้างความเป็นจริงในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
หากคุณกำลังดูข่าวสภาพแวดล้อมทางการเมือง เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ มันสามารถมองเห็นได้ในขนาดที่ใหญ่มาก
เมื่อคุณมุ่งความสนใจไปที่การพูดปราศรัยของผู้นำของคุณ จำได้มั๊ยว่า ยังมีคนอื่นๆอีกในระบบที่คุณมองไม่เห็น
และพวกเขากำลังทำงานกันอย่างเงียบๆ จนกว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
ที่เขาจะออกมาข้างหน้าและพูดอย่างตรงไปตรงมา ในครั้งนี้มันจะใกล้ชิดยิ่งขึ้น
และไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดกระบวนการนี้ได้อีก แม้กระทั่งการถูกคุกคามชีวิตของพวกเขาก็ตาม

ในขณะที่คุณทั้งหมด อาศัยอยู่ในสนามพลังงานที่สูงขึ้นนี้
ด้วยความรักและแสงสว่าง ซึ่งจะสร้างการป้องกันตามธรรมชาติสำหรับคุณทั้งหมด
บางคนอาจเลือกสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แต่คุณต้องจำไว้ว่า มันคือทางเลือกของคุณเอง

จงมุ่งความสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงของตัวคุณเองเถิด เพราะกำลังมีการป้อนความเป็นจริงที่สูงกว่าให้กับคุณอยู่ในขณะนี้
คุณจะช่วยผู้อื่นได้มากมายยิ่งนัก ไม่เพียงแต่คุณจะรู้สึกถึงความสุขอันคงที่สม่ำเสมอและสนุกสนานเท่านั้น
เรารู้ว่ามันกระตุ้นให้คุณอย่างมาก ที่คุณจะสามารถนำพลังงานภายในออกมามอบให้ผู้อื่นได้มากขึ้น ที่เขายังคงค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขาอยู่
ซึ่งคุณจะยังนำมาซึ่ง ความรักที่มากขึ้นสำหรับ พระแม่ธรณี และสิ่งนี้จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ซึ่งมีความจำเป็นที่จะหยุดการทำลายล้างร่างกายของเธอ และเริ่มที่จะมองเห็นเธออีกครั้ง ในฐานะที่เป็นสิ่งที่มีชีวิต

ดังนั้นจงให้ความสนใจให้มากขึ้น
เพื่อตระเตรียมการทั้งหมดที่มีความจำเป็นของคุณ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็นจริงที่สูงขึ้น
และจะไม่ปล่อยให้ตัวเองว่อกแวกไปจากมัน เราเข้าใจและรู้สึกเช่นกันว่ามันเพียงพอแล้วที่ "รอ"
และเราจะช่วยคุณให้มากที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ ดังนั้น จงทำมันเถิด.....

ผม SaLuSa จาก ซิริอุส และเรามักจะส่งความรักของเรา ให้กับคุณเสมอ และเราเห็นตัวเองได้ทำงานอยู่กับคุณแล้ว
ได้เข้าร่วมกันในความเป็นจริงของเรา ที่เราได้สร้างมันร่วมกัน สำหรับเราทุกคน สำหรับหลายๆพันคน
กับหลายปีที่ผ่านมาของโลก มันเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่ง ที่ในที่สุดเราก็จะสามารถ ที่จะโอบกอดกันและกัน
และได้แบ่งปันมากขึ้นกว่าที่เราทำอยู่ ในขณะนี้....


Channeller : Madad

SaLuSa : English -- SaLuSa 8.10.2013

 

OBAMA'S BODYGUARD - YouTube
......ถ้าคลิปนี้ของจริง ผมว่าผมรู้สึกตื่นเต้น และ ยินดี......

 

ทุกวันนี้ก็ยังคงคิดถึงพี่นักเขียนอยู่เสมอครับ
เป็นเพราะหนังสือชุดนี้แหละครับ ที่ทำให้พวกเรามีวันนี้ด้วยกัน
มีความสุขที่ได้ยินคุณชยุตพูดและรู้สึกแบบนี้
ตอนนั้นคุณชยุตเป็นนักเรียนที่ถามแต่ละอย่าง ตรงจุดที่สุดเลย
พี่นักเขียนบอกว่า จำคุณชยุตได้แม่นเลย และบอกว่าชอบคำถามที่คุณชยุตถามที่สุดในตอนนั้น
นึกถึงความหลังวันวานแล้ว เลยต้องย่องไปทำเพลงนี้มาให้ฟังซะเลยครับ อิอิ

Resemble The Moom - NOVA ANALAI - YouTube

 

Lyra is the 12th dimensional star-gate. It is the gateway to higher dimensions outside of the 12 dimensional energy matrix of which the Earth is part. Currently the Earthy exits within a three dimensional wave form pattern of energy. The first dimension relates to the inner Earth kingdom and the second dimension to the Great Central Sun.
Star-gates or inter-dimensional energy portals have been progressively opening and allowing ever higher dimensional energy into Earths atmosphere since January 2000. These star-gates will continue to progessively open until December 2012, affecting the Earths energy fields and preparing the Earth grids for a shift to a fifth dimensional energy patterning.
These star gates are:
4th dimension Sun or Sol
5th dimension Pleiades
6th dimension Sirius
7th dimension Arcturus
8th dimension Orion
9th dimension Andromeda
10th dimension Lyra/Vega
11th dimension Lyra/Vega
12th dimension Lyra
The purpose of embodied souls on Earth is to return to the fullest expression of their soul potential within the 12 dimensional system. In doing so they return to the pure image of Adamic creation. (creation in the form of Adam or the Atom). But this not all. Our purpose is to now move beyond this 12 dimensional energy matrix through a 13th aeon or 13th stargate.
Within the Song of Lyra are the keys and codes of light, sound and vibration which will enable the DNA patterning to change and therefore the cells of the body to begin to be rebuilt according to an altered biological design. This will give rise in the time ahead to a new biological pattern and evolutionary cycle for mankind along with the Earth our home.
This new biological patterning will be through a 72 cell light grid structure instead of the present 64 cell light grid structure. The 72 cell light grid will allow for an altered ratio of the constituents of biological composition of the human body, namely the nitrogen, oxygen, carbon and hydrogen ratios.
The alteration in cellular biology and chemistry of the body with light passing through a 72 light cell grid will pave the way for altered biological form. This alteration in biological form will take three generations to stabilize as the body must alter genetically over time, however the Earth Shift of 2012 will initiate and require marked physical change. I am told that within 100 years the people of this planet will look different. They will function on a higher dimensional waveform energy pattern and hold a much higher light quotient within the cells of the body. The cells of the body will also function more efficiently. The people of the future will therefore live longer and be healthier.
In the next five years I belive that there will be many changes on Earth as people are polarised towards love or fear. Remember that there is only really LOVE. FEAR is the really an illusion that something bad may happen. Please understand that you are no longer the YOU you think you are. You are moving rapidly into your souls true beingness. Be aware that even though you are living a human existence and are of the Earth, you are also of the heavens.
It has always been part of a greater Divine plan for this entire galaxy that the human creation, the human being, should go through a process of evolutionary change and experience aligned with the conclusion of this Annus Magnus or great year cycle of 25, 920 years. An evolutionary upgrade for Earth and her people is soon to occur as has been written.
As part of the physical remodelling of man to allow for existence on a fifth dimensional Earth with its faster pulsating energy wave form pattern, the energy anatomy of the physical body, the DNA patterning or coding function and the cells of the body must be upgraded. The chakra system of the body and the axiatonal feeder line system, the incoming energy feeder lines that come into the body from the higher dimensions must be prepared to synthesise and pull through the physical body and energy circuits more energywhich is more light.
Judy Satori


Song of Lyra by Judy Satori - YouTube

 

ต่างมิติ: จงเตรียมตัวให้พร้อมไว้พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงพร้อมอยู่เสมอ
จงพักผ่อนในขณะที่พวกคุณยังคงสามารถทำได้ เพราะว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
จะทำให้วิถีชีวิตของพวกคุณเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

สงสัยครับ การเตรียมพร้อมเราต้องเตรียมยังไงบ้างครับ ขอบคุณครับ

 

น่าเสียดายเหมือนกันนะครับ ที่ผมลบคำถามเหล่านั้น
ที่ผมโพสต์เอง ทิ้งไปซะหมดแล้ว..แหม..น่าจะเก็บไว้นะเรา

เพราะว่า มันจะได้ทำให้หลายๆท่านในนี้
ได้เห็นความเป็นไปหรือความเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผมด้วย
ซึ่งมันก็จะเหมือน หรือคล้ายๆกับของหลายๆท่านในที่นี้แหละครับ

คือแต่ก่อน ก่อนที่จะได้มาเจอกับหนังสือชุดนี้
ผมเป็นคนเคร่งครัดปฏิบัติธรรมมาก ถือศีล 5 ศีล 8 นี่
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แล้วก็ค่อนข้างที่จะหัวดื้อ หัวรั้น
รวมถึงยึดมั่นถือมั่นในความเชื่อของตัวเองมากๆด้วย
จนผมคิดว่า ผมเองก็ไม่น่าจะแพ้ใครเหมือนกันนะ ในเรื่องหัวรั้นนี่ อิอิ

ดังนั้น ตอนนั้น ตอนที่ผมได้อ่านหนังสือชุดนี้ครั้งแรกนั้น
สมองผม และความเชื่อของผม มันถูกท้าทาย
และถูกป่วนซะปี้ป่นไปหมดเลย ผมจึงเกิดอาการต่อต้านอย่างมาก
เหมือนดิ้นทุรนทุราย เพื่อพยายามรักษาความเชื่อของตัวเองเอาไว้

เพราะว่า อีกด้านหนึ่ง คือ "ภายในใจของผมเอง"
ภายในความรู้สึกลึกๆของผมเอง
ไม่รู้ว่าลึกจนถึงระดับจิตวิญญาณหรือเปล่านะครับ
มันส่งเสียงดังมากๆ ว่าข้อมูลในหนังสือชุดนี้
มันต้องมีอะไรอยู่แน่นอน มันจะต้องมีอะไรดีๆอยู่ในนั้นแน่นอน
เพราะว่ามันรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
มันเหมือนมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงอยู่
อะไรแบบนั้นหละครับ

แต่มันก็ขัดแย้งกับความเชื่อของผมเหลือเกินในตอนนั้น
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด ที่อยู่ระหว่างกลางของทั้งสองอย่างนี้
ก็คือ หาจุดที่มันเชื่อมต่อกันให้ได้
หาคำตอบของคำถามที่ยังสงสัย และคาใจอยู่ให้เจอ
อะไรแบบนั้น

ดังนั้น ผมเลยถามคำถามที่ไม่มีใครกล้าตอบแบบตรงๆ
ไปหลายคำถามเลยทีเดียว

อย่าลืมนะครับว่าท่านอาจารย์โนวา อนาลัย นี้
ก็คือรูปธรรมชีวิตจากมิติที่สูงๆรูปธรรมหนึ่งด้วย
ดังนั้นสิ่งที่ท่านสอน ก็จะออกแนวๆ
ข้อความจากต่างมิติทั้งหลายนี่แหละครับ

คำถามที่ผมถาม ก็จะประมาณว่า

ถ้ามันไม่มีสวรรค์-นรก ในแบบที่ชาวพุทธเราเชื่ออยู่จริงๆ
และถ้าจริงๆแล้ว กาลเวลามันไม่ได้เป็นเส้นตรง และไม่มีอยู่จริง
และถ้าจริงๆแล้ว ทุกๆภพชาติของเรา มันมีอยู่-เป็นอยู่
พร้อมๆกันหมด ดำเนินไปพร้อมๆกันหมด ณ.ที่นี่ และเดี่ยวนี้จริงๆ

และถ้าตัวตนของเรานี้ มันไม่ได้อยู่ในรูปแบบของ "จิตเดี่ยวๆ"
หรือ หนึ่งดวงจิต ต่อ หนึ่งตัวตน อย่างที่เราถูกสอนมาจริงๆ
เพราะว่าเราคือ "ภาคหนึ่ง" ของตัวตนรวมของเราอีกที
และเพราะว่า ตัวตนรวมของเราก็แบ่งภาคลงมาเกิดเป็นคนหลายๆคนด้วย
ดังนั้น คนอื่นๆอีกมากมายก่ายกองที่อยู่บนโลกใบนี้ร่วมกับเรา
ก็คือส่วนหนึ่งของตัวตนของเราด้วยเช่นกัน หรือก็เรานั่นเอง ด้วยซ้ำไป

และถ้าการเวียนว่ายตายเกิดของเราบนโลกใบนี้นั้น
มันก็คือ เราเองนั่นแหละ ที่ได้ "เลือก" ที่จะลงมาเกิดเอง
ไม่ใช่ลิขิตฟ้า หรือ เวรกรรม ชักนำอะไรเลยจริงๆ
และถ้าเราคือผู้ดึงดูด หรือ สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองขึ้นมา
เพื่อให้ตัวเองได้ประสบพบเจอ และเพื่อการเรียนรู้และทดสอบจริงๆ

งั้นก็แสดงว่า ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพนับถืออยู่ทั้งหมด ทุกๆองค์
ก็พูดโกหกหนะสิ ซึ่งมันย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เพราะว่าท่านเหล่านั้นถือศีลเคร่งครัด ย่อมไม่โกหกแน่นอน

และถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยเรา ซึ่งผมเชื่อว่า
มีพระอริยเจ้า หรือ แม้กระทั่งพระอรหันต์ อยู่มากมายนี่
จะไม่มีใครรู้บ้างเลยเหรอ ถ้ารู้ ท่านก็ต้องเคยพูด เคยสอนแบบนี้บ้างหละ
และอะไรทำนองนี้แหละครับ

สรุปว่า ผมไม่ได้คำตอบแบบที่ต้องการหรอกนะครับ
เพราะว่าไม่มีใครกล้าตอบหรอก ดังนั้น ผมก็เลยต้องค้นหาเอาเองอีก
โดยการทนอ่านหนังสือชุดนี้ต่อไป จนจบทั้ง 10 เล่ม

ที่ต้องใช้คำว่าทนอ่าน ก็เพราะว่า ไม่อ่านก็ไม่ได้ เพราะว่าใจมันเต้นตุบๆ
เรียกร้องให้อ่านมาก และสิ่งที่ได้รู้มาจากหนังสือชุดนี้
ก็ทำให้ใจเต้นตุบๆ และตื่นเต้น และถึงบางอ้อ ไปหลายเรื่องด้วย

แต่มันก็ฝืน และ ขัดแย้ง กับความเชื่อเก่าของตัวเองเหลือเกิน
มันทำให้ผมปวดหัวไปหมดในเวลานั้น อธิบายยากครับ

สรุปว่าผมใช้เวลาอยู่ราวๆ 1-2 ปี คือตั้งแต่ปี 2007 - 2009
เพื่อที่จะปรับตัวเองให้ได้ ซึ่งในระหว่างนั้น ผมก็เที่ยวค้นหาคำตอบเอง
เพื่อพิสูจน์เอง ว่าเนื้อหาในหนังสือชุดนี้
มันใช่ความจริงที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่

และรวมถึง ผมก็ค้นหาคำตอบเพิ่มเติมจากหนังสือแนวพุทธด้วยนะครับ
ว่า ท่านพูดถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่าอย่างไรบ้าง
ดังนั้น ผมก็เลยได้มาอ่านพระไตรปิฎก และอาสาอ่านพระไตรปิฎก
ฉบับ พระไตรปิฎกเสียงของเวปพลังจิตนี้กับเขาด้วย 1 เล่ม
คือเล่มที่ 19 หนะครับ

ในช่วงนั้น เพราะว่าเรื่องที่ท่านอาจารย์ โนวา อนาลัย ได้กล่าวไว้
โดยเฉพาะเรื่องของโลกและจักรวาล และจิตวิญาณของมนุษย์
มันคาใจผมอยู่อย่างมาก ดังนั้นในใจผมจึงเรียกร้องโหยหา ที่จะรู้ความจริง
ที่จะได้ความกระจ่างในเรื่องพวกนี้ อยู่ตลอดเวลา

จนในวันหนึ่ง ผมค้นไปค้นมา ในอินเตอร์เน็ต ก็เจอเวปไซต์หนึ่งเข้า
เป็นเกี่ยวกับข้อความสื่อสารจากท่าน Ashtar Sheeran
แห่ง The Galactic Federation สื่อสารมาถึงนาย Ivo
ซึ่งเป็นชาวสาธารณรัฐเชก ตั้งแต่ปี 1988 โน่นแหนะ

เนื้อหาในเวปมีเยอะมากๆ ผมก็อปปี้ลง Words ไว้ได้ร้อยกว่าหน้า
แล้วผมก็นั่งอ่านจนหมด อย่างใจจดใจจ่อ
และด้วยความอย่างอยากรู้อยากเห็น อย่างมาก

แล้วผมก็อดรนทนไม่ได้ ที่จะต้องเผยแพร่ให้คนอื่นๆได้รู้ด้วย
เพราะมันเป็นเรื่องใหม่ และ แปลกประหลาด สำหรับผมมาก
และแม้ว่าผมเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ข้อมูลมันจริงหรือไม่จริง
แต่ผมก็คิดแค่ว่า เราก็แค่เผยแพร่ให้คนอื่นอ่านด้วยก็พอ
ส่วนเรื่องการใช้วิจารณญาณนั้น ต้องเป็นเรื่องของแต่ละคนเอง

แล้วผมก็เริ่มตั้งกระทู้ "การเตรียมการเพื่ออพยพชาวโลกฯ"
จำชื่อกระทู้ไม่ค่อยได้แล้วหละครับ..ซึ่งแปลไปโพสต์ไป
อยู่นานพอสมควร ก็ถึงได้มาเจอข้อความสื่อสารจากต่างมิติ
ที่ใหม่กว่า ที่เป็นปัจจุบันกว่า มากขึ้นเรื่อยๆ
และผมก็เลย อ่านมา แปลมา และโพสต์มาเรื่อยๆ
จนมาถึงบัดนี้แหละครับ น่าจะราวๆ 4 ปีแล้วมั๊ง

.................................................

 

ข้อความนี้ ผู้โพสต์ น่าจะแปลด้วยนะครับ
เพราะว่าอ่านคร่าวๆแล้วก็เห็นว่าสำคัญเหมือนกัน

ลองแปลดูหน่อยไหมครับ
............................................

 

เตรียมใจเป็นหลัก อยู่ในความเบิกบาน อยู่ในปัจจุบันขณะ
คิดบวก และติดตามดูอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้บ่อยๆ
และอย่าโทษตัวเอง ให้รัก - ยอมรับ - และให้อภัยตัวเอง
อย่างไม่มีเงื่อนไข

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็คือส่วนหนึ่งของวิธีการ
"ยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองขึ้น" หนะนะครับ

ส่วนร่างกาย ก็อยู่ในธรรมชาติให้มากๆ นั่งสมาธิให้บ่อยๆ
ดื่มน้ำให้มากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
สรุปว่า ก็อีกนั่นแหละ คือรักษาสุขภาพให้ดีนั่นเอง
เพราะว่าสุขภาพที่ดี ระดับความสั่นสะเทือนของกายก็จะสูงตามไปด้วย
เพื่อให้กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ มันเกิดขึ้นกับกายและใจของเรา
ได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

ส่วนการเตรียมการด้านวัตถุสิ่งของใดๆ
ล้วนไม่มีความจำเป็นทั้งสิ้น

"ให้ไหลไปตามกระแสพลังงาน"
"ให้อยู่ในความเบิกบาน"
"ให้อยู่ในปัจจุบันขณะ"

อะไรจะเกิดก็แค่ปล่อยให้มันเกิด
อะไรจะมา ก็แค่ปล่อยให้มันมา
ไม่ต้องไปวิตก หรือเป็นกังวลกับอะไรทั้งสิ้น

สบายๆครับ ใช้ชีวิตไปตามปกติ แบบสบายๆ

ปล. คำว่า "เร็วๆนี้" ของต่างมิตินี่
ก็อย่าเพิ่งไปคิดว่า คือพรุ่งนี้มะรืนนี้นะครับ
เพราะว่าพวกเขาหนะ อยู่ในที่ๆไม่มีกาลเวลา
ดังนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว เร็วๆนี้ของพวกเขา
มันอาจจะเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี
หรือแม้แต่เป็นสิบปี หรือ ร้อยปีของเราก็ได้ อิอิ..

ดังนั้น ก็อย่าไปตื่นเต้นกับคำว่าเร็วๆนี้ให้มากนักนะครับ

ปล2

และที่สำคัญ และสำคัญมากที่สุดด้วยก็คือ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ล้วนขึ้นอยู่กับมนุษย์โลกทั้งสิ้น
ว่าจะให้มันเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร เร็ว หรือ ช้า
ไม่ว่ามนุษย์เราจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นกำหนดให้มันเป็นไปหรือไม่ก็ตาม

เพราะว่าอนาคต "ไม่ใช่" และ "ไม่เคย" เป็นสิ่งที่
ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วแต่อย่างใดเลย

อนาคตแบบใดแบบหนึ่ง เป็นแต่เพียง
"ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ เส้นทางหนึ่ง"
ในบรรดาศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่มีอยู่นับอนันต์
ของ "เหตุ" ที่กำลังเกิดอยู่ใน "ปัจจุบันขณะนั้นๆ" เท่านั้นเอง

ดังนั้น ถ้าระดับพลังงานของศักยภาพแห่งความเป็นไปได้
บนเส้นทางใดมีมากกว่า..เส้นทางนั้น ก็มีโอกาส
ที่จะกลายไปเป็นเหตุการณ์ในอนาคตได้มากกว่าด้วย เช่นเดียวกัน

แล้วพลังงานที่ว่านี้ จะมาจากไหนหละ..

ก็มาจาก "กระแสจิตมวลรวมของคนทั้งโลก" นั่นเอง
ที่จะทำให้มันเป็นไปแบบใดก็ได้
เพราะว่ารูปธรรมชีวิตจากต่างมิติทั้งหลาย
พูดไว้ตรงกันทั้ง 100% ว่า
ความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และเจตจำนงของเรา
คือผู้สร้างโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นมาให้กับเรา
..........................................

 

ไม่รู้จะบอกความรู้สึกยังไงถูกนะครับ ได้แต่บอกว่าขอบคุณคุณชยุต และผู้ที่แปลข้อความทุกท่านนะครับ ถ้าไม่มีพวกท่านผมก็ไม่ได้เจอข้อความต่างมิตินี้แน่นอน เพราะภาษาอังกฤษผมไม่ได้เรื่องเลย ขอบคุณจากใจเลยครับ และพี่ๆ น้องๆ หลายๆ ท่านที่มาโพสอาการทางร่างกาย ความรู้สึก ผมอ่านแล้ว เฮ้ย เป็นเหมือนกันเลย ตรงกันเลย จนทุกวันนี้เรื่องความบังเอิญผมไม่เชื่อแล้ว ผมเชื่อแต่ว่าทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว รอแค่ระยะเวลาที่เหมาะสมที่มันจะเกิด อย่างการตื่นรู้ หรือการติดต่อกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของเรา ผมก็ติดต่อไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ ให้ฝึกฝนผมก็ไม่รู้จะฝึกยังไง นั่งสมาธิหรอ ผมนั่งไม่ได้นั่งทีไรมันจะรู้สึกจี๊ดๆ เหมือนไฟช็อต ตรงกลางหน้าผากเหนือหว่างคิ้วนิดนึง สักพักก็จะเวียนหัวอยากจะอาเจียน ก็เลยไม่นั่ง บ้างทีนั่งไปไม่รู้สึกจี๊ดๆ หน้าผากก็หลับ ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวถึง "เวลา" ของเราก็คงจะรู้อะไรบางอย่างเอง และที่ผมเจอมาคนฝึกสมาธินี่จะรู้อะไรเยอะกว่าคนปกติมากๆ

 

เกือบ 3 ปี ที่ตามอ่าน คุณChayutt และ ข้อความของคุณ mead
หลายครั้งที่ผม "แซว" "หยอก" ทั้ง2ท่านนี้ (ด้วยความเอ็นดู)
รับรู้ได้ว่าทั้ง2ท่าน ไม่ได้เคืองผม
ไอ้ผมก็แปลกนะ อยากจะแซวคุณChayutt ออกบ่อยๆ
เข้า facebook ของคุณmead ก็มีอาการเหมือนกัน
ไม่รู้หละถ้า ยกระดับ กันเมื่อไรละก้อ "เอาหนูไปด้วยนะ"

 

จับตาดูหลังวันที่ 17/10/13 นี้ให้ดีนะครับ
เพราะว่าวันนั้น เป็นวันเส้นตายที่กฎหมายยกเพดานหนี้สหรัฐฯต้องผ่านครับ
.................................................

ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub



13. โดมิโนการเงิน ถ้าเพดานหนี้สหรัฐฯไม่ผ่าน

ที่เคยคิดว่ามันบ้าที่สหรัฐฯจะผิดชำระหนี้ แต่ตอนนี้ความเป็นไปได้มากว่า0%

Simon Johnson, former chief economist for the IMF:
"It would be insane to default, but it’s no longer a zero-percent probability"

ถ้าผิดชำระหนี้ สิ่งที่จะเกิดจะเลวร้ายสุดจะพรรณา เหมือนกับว่าตลาดการเงินโดนนิวเคลียร์บอมบ์

Warren Buffett about the potential of a debt default:
"It should be like nuclear bombs, basically too horrible to use"

1. ตลาดการเงินมีแพนิคเซล ขายทุกราคา ทั้งหุ้นทั้งบอนด์ และทรัพย์สินกระดาษอื่นๆ

Jim Grant, founder of Grant’s Interest Rate Observer:
"Financial markets are all confidence-based.
If that confidence is shaken, you have disaster."


2. เหมือนเอาหนังLehman Brothers 2008 มาฉายใหม่ แต่หนักหน่วงกว่าหลายสิบเท่า หรือเป็นร้อยเท่า

Gerald Epstein, a professor of economics at the University of Massachusetts Amherst:
"If the US does default, that will make the Lehman Brothers
bankruptcy look like a cakewalk"

Tim Bitsberger, a former Treasury official under President George W. Bush:
"If we miss an interest payment, that would blow Lehman out of the water"


3. บริษัทเร็ทติ้งจำต้องลดเครดิตพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเป็นdefault
หรือขยะ junk บอนด์เอกชนก็ต้องเป็นsuper junk

4. ดอกเบี้ยจะพุ่งเสียดฟ้าธุรกิจจะเจ้งหมด เหมือนต้มยำกุ้งบ้านเราช่วงปี1997

5. สภาพคล่องในตลาดจะเหือดหาย แบงค์หาเงินไม่ได้ แบงค์ที่leverageมากๆจะเจ้งก่อน และลามไปทั้งระบบ

Peter Tchir, founder of New York-based TF Market Advisors:
"Once the system starts to break down related to settlement
and payments, then liquidity disappears, as we saw after Lehman"

6. ค่าเงินดอลล่าร์จะถูกเทขาย ดิ่งเหว

7. ประชาชนแห่ถอนเงิน

8. ตู้เอทีเอ็มไม่มีเงินพอให้ถอน เกิดจลาจลบนท้องถนน ประช่าชนไม่มีเงินซื้ออาหารกิน
เพราะระบบการขนส่งจะพังไปด้วย

9. แบงค์หาเงินไม่ได้ แบงค์ที่leverageมากๆจะเจ้งก่อน และลามไปทั้งระบบ
ตลาดอนุพันธ์จะเป็นนิวเคลียร์บอมบ์

10. จีดีพีสหรัฐฯหายไป9% ทันที

Goldman Sachs: "We estimate that the fiscal pull-back would amount
to 9pc of GDP. If this were allowed to occur, it could lead to a rapid downturn
in economic activity if not reversed quickly"

11. ตลาดการเงินทั่วโลกหายนะ คนถือหรือไม่ถือ หุ้น บอนด์หรือทรัพย์สินดอลล่าร์จะเจ้งหมด
เพราะว่ามันเชื่อมเป็นระบบเดียวกัน ผิดชำระหนี้หนึ่งคน จะล้มเป็นโดมิโนหมด
ก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง The Great Depression

12. เมื่อดอลล่าร์ล่ม Jim Rickardsผู้แต่งหนังสือ Currency Wars บอกว่า
ทองจะถูกรีเซ็ท ราคาจะพุ่งไปพระจันทร์ที่ระดับ $7,000-$10,000 ต่อออนซ์

SPDR Gold Trust ETF, iShares Silver Trust ETF: Jim Rickards: Gold Price Could Double Overnight In U.S. Dollar Crisis | ETF DAILY NEWS - Part 2

13. จีนจะทิ้งดอลล่าร์ หันมาอิงหยวนกับทองแทน และสร้างระบบการเงินใหม่ผ่านหยวนสว๊อป

14. ระบบการเงินกระดาษ fiat currency systemจะถึงจุดจบอย่างรุนแรง รวดเร็ว

15. ระบบมาตรฐานทองคำจะขึ้นมาแทน โดยค่าเงินจะอิงกับทองหรือ จะเป็นระบบ
commodity based system โดยที่บางประเทศจะเลือกอิงค่าเงินกับน้ำมัน
หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ

16. อาจเกิดสงครามโลกเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเหตุการณ์

thanong
10/10/2013

12 Very Ominous Warnings About What A U.S. Debt Default Would Mean For The Global Economy
.................................

 

/\
/\
รวดเร็วจริงๆ อิอิ

 

ขอต่ออีกนิดนะครับ เพราะว่าคุณทะนงวิเคราะห์ได้เข้าทาง ของข้อความจากต่างมิติเลยหละครับ
ที่ว่าในที่สุดแล้ว ฝ่ายแสงสว่าง ก็จะเป็นฝ่ายชนะฝ่ายมืดจนได้ เพราะว่าผู้ที่เป็นพันธมิตรของฝ่ายสว่างทั้งหลาย
นอกจากจะคือประธานาธิบดีโอบาม่าแล้ว ยังมีคนอื่นๆอีกทั่วโลก ที่ยังไม่เปิดเผยตัวเอง เช่น กลุ่ม "White Hat" เป็นต้น

....................................................

ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub

14. โอบามาถือแต้มเหนือกว่าพวกปาร์ตี้โรงน้ำชา

ว่าจะจบซีรี่ส์เรื่องเพดานหนี้ ด้วยการเขียนถึงผลกระทบประเทศไทยเป็นตอนสุดท้าย
แต่มีการตั้งคำถามว่า ในเมื่อเห็นหายนะของการที่จะผิดชำระหนี้อย่างนี้ แล้วทั้ง 2 ฝ่ายจะยอมหรือ
และในท้ายที่สุดทั้งประนาธิบดีโอบามาและฝ่ายรีพับรีกันน่าจะประนีประนอมกันเพื่อเลี่ยงการผิดชำระหนี้
และเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ผมเลยต้องแถมให้อีกตอน

ผมได้เขียนวิเคราะห์ให้แนวทางมาแล้วว่า สหรัฐฯไม่เจ้งวันนี้ ก็จะเจ้งในวันหน้า
เพราะไม่มีประเทศใดในโลกในประวัติศาสตร์การเงินจะสามารถพิมพ์เงิน และกดดอกเบี้ยต้ำได้นานขนาดนี้
เพราะทางคณิตศาสตร์ไปต่อไม่ได้ ดอกเบี้ยต้องขึ้น ค่าเงินดอลล่าร์ต้องตก และหนี้สหรัฐฯจะเอาไม่อยู่

เพราะว่าเศรษฐกิจอ่อนแอมาก การเงินก็เปราะบาง หนี้รัฐบาลในงบอยู่ที่ $16.7 ล้านล้าน
หนี้นอกงบหรือ unfunded liabilities $220 ล้านล้าน บรรดารัฐต่างๆมีปัญหาการคลัง รอวันล้มละลาย
ที่ยังประคองตัวได้เพราะเฟดแช่แข็งปัญหาผ่าน QE และรัฐบาลใช้งบดุลขาดดุลอุ้มทุกอย่างในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

จีนและรัสเซียก็เตรียมถล่มดอลล่าร์ สถานการณ์แบบนี้ไม่น่าจะลากยาวได้เกินอย่างเก่งที่สุด1 ปีครึ่ง
ในระยะเวลาที่ประธานาธิบดีโอบามายังคงมีอำนาจอยู่

ประเด็นคือโอบามาจะให้การเงินและเศรษฐกิจ
พังอยู่บนหน้าตักของเขา ในขณะที่เขากำลังอยู่ในทำเนียบขาว
หรือว่าเขาจะลุกขึ้นมาปฏิรูปประเทศแบบม้วนเดียวจบ
ด้วยการแก้ปัญหาหนี้ ระบบการเงินตลก
ที่ให้เอกชนพิมพ์เงินให้รัฐบาล
และดูแลการกินดีอยู่ดีของประชาชนระดับคนจนและชนชั้นกลาง
ที่นับวันจะไปไม่รอด เพราะหนี้สินล้นพ้น

ฟองสบู่การเงินเตรียมตัวแตกรอบใหม่ และเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่มีวันฟื้นได้เหมือนเดิม
เพราะว่าไม่ได้รับการปฏิรูปแต่ประการใด หลังการพังทลายเมื่อปี 2008 ยังไงก็ต้องพังอยู่ดี
แม้ว่าจะเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งก็เป็นแค่เป็นการประวิงเวลาไปชั่วครั้งชั่วคราว ปีหน้าฝ่ายรีพับรีกัน
จะกลับมาก่อหวอดใหม่ เฟดไม่สามารถพิมพ์เงินได้เกินุ 6-12 เดือนข้างหน้าก่อนที่แท่นพิมพ์จะระเบิด
บอนด์สหรัฐฯก็จะเป็นขยะอยู่ดี เพราะรัฐฯไม่มีรายได้ใหม่จริงๆมาใช้จ่ายหรือชำระหนี้
มีแต่จะออกบอนด์ใหม่ไปชำระหนี้เก่าเหมือนแชร์แม่ชะม้อย

ทางออกทางเดียวคือต้องผ่าตัดประเทศ
โอบามาเตรียมตัวเป็นอย่างดีสำหรับการปฏิรูปสหรัฐฯ
แบบถอนรากถอนโคน ขณะนี้อำนาจอยู่ในมือเต็มเปี่ยม
เพนตากอนโดนโอบามาตอนเรียบร้อย

หัวหน้าซีไอเอ (CIA นี่เป็นสมุนของอิลลูมินาตินะครับ - chayutt) ก็โดนย้าย
คนของโอบามาทั้งนั้นที่คุมกองทัพอยู่
ส่วน Homeland Security ก็เป็นกองทัพประจำตัวโอบามา

ฝ่ายรีพับรีกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก Tea Party น่าจะเริ่มหนาว
เพราะว่าดีไม่ดีอาจจะโดน Homeland Security อุ้มก็ได้
ในข้อหาผู้ก่อการร้ายที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯล่มจม
ด้วยการปิดรัฐบาลและบล๊อคกฎหมายยกเพดานหนี้

โอบามาตอนนี้มั่นใจเต็มเปี่ยม ถือแต้มเหนือกว่า
สิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าในระยะ 7 วันอันตรายข้างหน้า คือ

1. แดโมแครทและรีพับรีกันต้องมาประนีประนอมกันเพื่อผ่านกฎหมายการใช้จ่าย
เพื่อเปิดรัฐบาลให้ดำเนินการปกติ และผ่านกฎหมายให้ยกเพดานหนี้

2. ถึงแม้ว่ากฎหมายทั้ง2จะผ่านสภา ตอนนี้โอบามาก็จะไม่สน
เพราะว่าเขามีเป้าหมายที่ไปไกลกว่าการแก้ปัญหาระยะสั้นด้วยการเพิ่มหนี้
เพื่อแก้ปัญหาหนี้ ซึ่งมันไปไม่รอดอยู่ดี

3. โอบามาอาจจะฉวยสถานการณ์ที่ล่อแหลมช่วงนี้ ประกาศภาวะฉุกเฉิน
เพื่อจัดการกับรัฐที่แตกแถว ไม่ยอมรับ National Defense Authorization Act
และ Obamacare อาจจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ Homeland Security
พร้อมอาวุธหนักและรถเกราะออกมาเพ่นพ่านบนท้องถนนเต็มที่ เพื่อจัดการกับการจลาจล

4. ไปๆมาๆปัญหาจะลามไปสู่การเงิน ทำให้เกิดแบงค์รัน โอบามาจะฉวยโอกาสนั้น
จัดการพวกเฟดและ Wall Street จะมีการพิมพ์เงินดอลล่าร์ของกระทรวงคลัง
จะอิงน้ำมันหรือทรัพยากรอย่างอื่น เพื่อล้มดอลล่าร์ของเฟด

5. รัฐจำต้องมีการประนอมหนี้กับเจ้าหนี้อย่างหนีไม่พ้น เพื่อปรับบัญชีของประเทศ
ให้เข้าสู่ระบบปกติ และให้หนี้ของประเทศให้อยู่ในระดับที่รับได้
มิเช่นนั้นเจ้าหนี้จะไม่ยอม ฐานะการคลังของสหรัฐฯตอนนี้เละมาก เหมือนเอนร่อน

ฝ่ายที่ต่อต้านขัดขืน จะโดน Homeland Security จัดการอย่างเด็ดขาด
ผ่านกฎหมายพิเศษของฝ่ายบริหาร Executive Orders

สถานการณ์จะวิกฤตไปเรื่อย
ตั้งแต่หลัง 18 ตุลาคมเป็นต้นไป
และจะลามไปทั่วโลก ในขณะที่ระบบการเงินสหรัฐฯ
และของโลก จะถูกรีเซ็ทใหม่

Thanong
10/10/2013
..........................................

 

ผมแปลไม่เก่งครับ แปลแบบไม่รู้เรื่อง ผมเลยแค่มาส่งสิ่งที่ควรจะทำครับ เหมือนอะไรบางอย่างดลใจผม เมื่อผมได้เปิดดูอ่านมัน

 

iNFORMATiON FARM: iON | NESARA (National Economic Stabilization and Recovery Act)

 

เป็นการวิเคราะห์ที่เอียงเข้าข้างโอบาม่าสุดๆ
อย่างเช่น บอกว่าโอบาม่าคุมอำนาจได้หมด
แต่จริงๆ แล้วเขายังปวดเฮด เพราะผ่านงบฯ
ไม่ได้ ร่างกฏหมายยกเพดานหนี้่ก็ไม่ผ่าน


แล้วมีต่ออีกว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมนะ จะให้
หน่วยพิเศษไปจัดการ (ฆ่าอ่ะแหละ) มัน
ซะ กลายเป็นเผด็จการไปละ นี่หรือ ปธ.
อเมริกา ผมว่าน่าจะอยู่จีนหรือรัสเซียไป
เลยเหมาะสมมากครับ


การเมืองเนี่ย เราก็เป็นเหยื่อโดนล้างสมอง
กันทั้งนั้นแหละครับ พลีชีพเพื่อฮีโร่ไงละ

 

กฏหมายยกเพดานหนี้ คือ หายนะ


นักเสดสาดโง่ๆ ก็เข้าใจครับ วันนี้ กำหนดเพดาหนี้ไว้ไม่เกินเท่านี้
เอ้า ไม่มากไป พอรับได้ แต่วันต่อมา เอ้ย ไม่ไหวแล้วว่ะ หน้ามืด
ต้องกู้่อีก (เสพติดการกู้) ก็เลยแก้กฏหมาย ให้เพดานหนี้ มันสูง
ขึ้น จะได้กู้ได้มากขึ้น เรียกว่า แก้ผ้าเอาหน้ารอด ไม่ตายวันนี้แต่
รอไปตายอย่างน่าอนาถในวันหน้า มันไม่แก้ปัญหาอะไรเลย แ่ค่
ยื้อเวลาหายใจตัวเองไปอีกนิด แล้วเพิ่มปัญหามืดมนไปอนาคต
ไปใหญ่ นักเสดสาดโง่ๆ ทุกคนคิดได้ครับว่ามันแก้ปัญหาผิดวิธี


แล้วแบบนี้ จะเรียกว่า "โอบาม่าเป็นฝ่ายสว่าง" ได้ยังไง ตอนที่
ได้ตำแหน่งมา ก็ออกกฏหมายให้เพศที่สามแต่งงานกันได้ ผิด
ประเวณีไหม? (มันจะเป็นภาคสว่างตรงไหนเนี่ย) ไม่จบเท่านี้
ก็หมอผีชาวผิวดำไม่ใช่หรือ ที่ทำพิธีให้เขาได้เป็น ปธ. อีกน่ะ


ไอ้ฉันละงง ว่าแบบนี้ มันภาคสว่างตรงไหนฟร่ะ?

 

ถามจริงนะพี่ชยุตต์ พี่ฝึกมาขนาดนี้
แปลและอ่านมาไม่รู้เท่าไรแล้วเนี่ย


พี่ดูไม่ออกจริงๆ เหรอว่าใครมืดใครสว่าง?