ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. X-File

    X-File Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +78
    "อาจมีภาวะซึมเศร้า ความไม่แยแส หรือภาวะเบื่ออาหาร รวมทั้งเราจะกลายเป็นคนขี้ลืมมากขึ้น เราจะเริ่มมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะมากขึ้น เวลาจะปรากฎขึ้นเพื่อการยุบตัวมันเองและมันจะถูกเร่งให้เร็วขึ้น"

    ใช่เลยครับ
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีการค้นพบซากอารยธรรมของอาณาจักรโบราณ
    ที่เชื่อกันว่าเป็นอาณาจักแอตแลนติสแล้ว

    แต่รายละเอียดผมยังไม่ได้ค้นดูหนะนะครับ
    เลยไม่รู้ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง ฯลฯ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=_v6JPXz3VXI"]Lost Egyptian city revealed - YouTube[/ame]

    Minds

    .................................
     
  3. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ลองเล่าให้ฟังบ้างสิครับ ว่าเป็นรูปแบบไหนกัน
    เป็นรูปที่ถ้าใครได้ดูแล้ว จะเกิดความรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ


    นักรบแสง

    .
     
  4. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    เมื่อวาน(หรือ วันก่อนของเมื่อวานกันนะ)
    ฝันไปว่า...ตัวเองกำลังหลับและฝัน...
    ในฝันนั้น...รู้ว่าตัวเองกำลังฝัน...ก็เลยพยายามตื่น...
    ทั้ง ๆ ที่กำลังหลับและพยายามตื่นนั้น...เราบังคับร่างกายได้ปกติ...
    จะยกมือเค้าก็ยกมือ...ขยับได้ทั้งที่หลับอยู่...ไม่ยักกะตื่น...
    เริ่มตกใจหน่อย ๆ ... ทำไงดีหล่ะ...ต้องตื่นให้ได้...!!!
    พอเริ่มฝืนเต็มกำลังเพื่อลืมตาตื่น..
    ร่างกายกลับเจ็บปวด และบังคับไม่ได้ดั่งใจแฮะ...ทรมานจริงจัง...
    แล้วก็ตื่น...
    (ไม่รู้ตื่นในฝัน...หรือตัวเราตื่น...ก็งงตัวเองเหมือนกัน)

    555555
    ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับใครเค้าเล้ยยยย...เซ็งจัด!!
     
  5. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    เมื่อกี้ฝันว่าอยู่ในสวนสาธารณะ เป็นเวลาตอนเย็นๆ มองไปเห็นสระน้ำใส ก็มีความคิดว่า จะอาบน้ำ เราก็เดินลงไปอาบเลย มีความรู้สึกว่าสระน้ำนี้ใครๆ ก็อาบได้และมีความปลอดภัย การอาบน้ำก็ดูแปลกประหลาดเพราะเราแค่เดินผ่านน้ำจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นการเสร็จ พออาบเสร็จ ก็เดินขึ้นมาเหลือบเห็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมหลังเล็กๆ ดูแปลกตา มีป้ายเล็กๆ ติด บอกว่าเป็น "สถานพยาบาล" เราก็เดินเข้าไปด้วยความสังสัยว่า หลังนิดเดียวเอง จะเป็นสถานพยาบาลได้ยังไง

    พอเปิดกระตูเข้าไป รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นเล็กน้อย ลอยไปอีกประตูหนึ่งที่อยู่ท้ายห้องอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงบอกว่า ให้ไปวัดความดันที่เครื่อง เราก็ทำตัวไม่ถูกเพราะร่างกายมันเลื่อนไปเอง บังคับไม่ได้ มาบังคับได้อีกครั้งตอนที่ผ่านประตูมาแล้ว มายืนอยู่ในห้องตรวจโรค ซึ่งดูเหมือนห้องรับแขกซักมากกว่า ยังไม่ทั้นได้ก้าวเดิน ก็มีป้าหน้าตาสดใสเดินขึ้นมาพร้อมถุงยา แกมาถามว่ามีอาการผิดปรกติอะไรบ้าง เราก็บอกว่า ปวดหัวตรงท้ายทอยบ่อยๆ แล้วแกก็ยื่นยาที่ถือมาให้ ทำให้เราถึงบางอ้อว่า ป้าคือหมอนี้เอง แต่ถามนิดเดียวแล้วให้ยาเลย ไม่ตรวจอะไรเลยหรอ ป้าก็บอกว่าห้องแรกที่ตัวลอยๆ นั้นนะ เป็นห้องตรวจโรคครบวงจร พอผ่านเสร็จก็ตรวจแสกนร่างกายและวินิจฉัยโรคเสร็จเรียบร้อย (ป้าแกถึงเตรียมยาได้ตั้งแต่ก่อนถาม) เราเดินออกมาจากสถานพยาบาลด้วยความงงๆ พร้อมถุงยาในมือที่ไม่บอกว่าให้กินยังไง ไอ้การตรวจรักษาอย่างนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน เลยกลับเข้าไปถามป้าใหม่ว่า ใช้เทคโนโลยีอะไรในการรักษา เพราะมันดูไม่มีอะไรเลย ป้าแกยิ้มแล้วบอกว่า ใช้เทคนิคสีและเสียงในการรักษา เท่านั้นแหละ เราถึงนึกได้ว่า นี้เราไม่ได้อยู่ในมิติที่ 3 นะ เราอยู่ในมิติที่ 5 แล้ว

    ป.ล.ด้วยความหยาบของมิติที่ 3 ที่ยังอยู่ในใจเราเองมั้งที่ทำให้ภาพต่างๆ ที่เราเห็นดูไม่ค่อยเป็นจริงเพราะหมอผญคนนั้น สาวและสวยมาก ไม่ได้เป็นป้าแก่ๆ เลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารล่าสุดจากท่าน Hilarion
    ยังรับสมัครผู้ช่วยแปลอยู่นะครับ

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ

    ...................................
     
  7. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2013
    September 29-October 5,2013

    วันที่โพสท์ _30/09/2013

    ผู้แปล: อจิตตะ

    ขณะนี้หลายๆคนเริ่มเห็นและรู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นั่น
    ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่คุณได้รับกับขั้นตอนของการทำความสะอาด
    ในหลายปีที่ผ่านมาก็กำลังจะเสร็จสิ้นลงแล้ว (หลายอาทิตย์แล้ว ไม่เสร็จสักที=ผู้แปล)
    แล้วอะไรคือความสำคัญในตอนนี้ที่จะเป็นการรักษาความสะเทือนที่สูงขึ้น
    เพื่อให้การดำเนินชีวิตของคุณเป็นได้อย่างปกติธรรมดา และ สง่างาม
    กับสิ่งที่คุณกำลังค้นพบอย่างช้าๆ และมีความสุขกับความถี่ใหม่
    และประสบการณ์ในช่วงเวลาแห่งความสุขก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้นๆ
    ในพื้นที่ธรรมชาติที่คุณยินดีต้อนรับมันมาไว้ในชีวิตคุณเอง

    ภาพเจตนารมณ์ในชีวิตคุณมันกำลังชัดขึ้น
    มันจะเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดที่พวกคุณจะรับความฝันเข้ามาในชีวิตจริง
    ในรูปแบบที่ตื่นตาตื่นใจและมหัศจรรย์
    จงเปิดรับในสิ่งที่ดีดีที่รอคุณอยู่เสมอ
    และก้าวไปข้างหน้า มองหาและยอมรับสิ่งดีดีในแต่ละวัน
    ซึ่งจะมีให้คุณเก็บเกี่ยวได้ชัดขึ้นๆ
    แต่สิ่งดีดีที่คุณสมควรได้รับนั้นมันจะมีองครักษ์พิทักษ์อย่างแน่นหนา
    และยังหายตัวได้อย่างรวดเร็วซะด้วย
    (คงจะบอกให้รีบคว้ามันอย่างรวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม=ผู้แปล)

    คุณอาจจะพบกับความรู้สึกแปลกๆกับกายของคุณที่กำลังเปลี่ยนแปลง
    เพื่อปรับให้เหมาะสมกับมิติที่สูงขึ้นไปของคุณ
    เมื่อเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น ก็แค่หายใจลึกๆ ...จนรู้สึกผ่อนคลาย เดี๋ยวก็สบายขึ้นเอง
    มันสำคัญมากนะที่จะต้องปกป้องพลังงานของคุณ
    ให้พ้นจากสารพัดพลังงานที่ผันผวนตลอดเวลารอบๆตัวคุณ
    ซึ่งพลังงานที่สูงขึ้นของคุณจะคอยชำระล้างท่อส่งแสงสว่างของคุณบ่อยๆในแต่ละวัน
    มีบางคนรู้เรื่องนี้ดี แต่มัววุ่นวายอยู่กับภารกิจอื่นของตน
    จึงทำให้ลืมภารกิจอันสำคัญนี้ไป

    คลื่นความถี่ของพลังงานได้ขยับสูงขึ้นไปอีกครั้ง
    ดังนั้น มันสำคัญมากที่คุณจะต้องพยายามปรับตัวเอง
    ให้สมดุลย์มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้เพื่อรองรับพลังงานนั้น
    เราแนะนำให้คุณเดินออกไปหาธรรมชาติให้มากขึ้น
    เพื่อเยี่ยวยาและตั้งหลักให้กับกายเนื้อ, จิตใจ และอารมณ์
    โดยการเชื่อมโยงกับความช่วยเหลือ
    ด้วยกระบวนการที่คุณจะผ่านไปได้ด้วยดีของโลกใบนี้
    กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมายบนท้องฟ้า
    [​IMG]
    และนั่นจะช่วยให้คุณพร้อมที่จะลื่นไหลไปโดยปราศจากการต่อต้าน
    เพราะการต่อต้านจะทำให้ชีวิตคุณยุ่งยากยิ่งขึ้น
    ก็รู้อยู่ว่า คุณไม่ได้มีลำพังคนเดียว, คุณมีเพื่อน มีครู มีเทวดารอบๆตัวคุณ
    แต่เราเป็นแค่ให้ความคิดและพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือคุณ

    พวกคุณจำเป็นมากที่ต้องคอยสังเกตุการเปลี่ยนแปลงรอบๆตัวคุณ
    เพื่อเตรียมพร้อมอยู่เสมอ กับอะไรๆ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับมัน

    จงเชื่อมั่นในพลังความรักของคุณและคอยดูความเจริญเติบโตของมัน

    ทุกชีวิตกำลังเปลี่ยนแปลงไปจนถึงระดับปรับโครงสร้างของความสมบูรณ์แบบ
    ซึ่งคาดหวังว่า มันจะจบด้วยดี
    กระบวนการธรรมชาตินี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนในชีวิตประจำวันของเรา
    และสิ่งเดียวที่มีประโยชน์ที่สุดในตอนนี้คือ “อดทน”...


    Until next week…

    I AM Hilarion

    อจิตตะ...CA
     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โอ..ในที่สุดก็มีเทวดามาโปรดพวกเรา
    แปลข้อความล่าสุดของท่าน Hilarion
    ให้พวกเราได้อ่านกัน..โมทนาด้วยนะคร๊าบบ...

    .................................
     
  9. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368

    อาจเกี่ยวข้องกันกับการล่มสลาย
    ขออณุญาติแชร์ https://www.facebook.com/UFOinThailand

    พบหลุมดำซ่อนตัวในมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมกลืนทุกอย่าง

    แม้เราจะไม่สามารถมองเห็นมันได้ แต่หลุมดำก็เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและน่ากลัวมากเสียด้วย เพราะมันมีพลังมากพอที่จะดูดกลืนทุกสิ่งที่เข้าไปอยู่ในรัศมี ชนิดที่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไหนก็ไม่สามารถหลุดรอดไปได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำหรือแสง ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านอกจากบนอวกาศแล้ว บนโลกของเราก็มีหลุมดำอยู่ด้วย
    เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์พบวังน้ำวนพลังงานมหาศาลซ่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก มีพลังและมีรูปแบบเดียวกับหลุมดำที่อยู่ในห้วงอวกาศ
    รายงานระบุว่า หลุมดำที่ว่านี้อยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นน้ำวนขนาดยักษ์ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีทีเอช ซูริค และมหาวิทยาลัยไมอามี่ เชื่อว่ามันดูดกลืนน้ำแบบเดียวกับที่หลุมดำในห้วงอวกาศดูดกลืนแสง อย่างไรก็ตาม การจะสรุปว่านี่เป็นแค่น้ำวน หรือเป็นหลุมดำที่ซ่อนตัวอยู่บนโลก ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่อาจกล่าวได้แน่ชัด
    ส่วนทางด้าน จอร์จ ฮอลเลอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัอีทีเอช ซูริค ได้ทำการวิเคราะห์น้ำวนปริศนานี้ด้วยโมเดลทางคณิตศาสตร์ ผ่านการจับตามองด้วยภาพจากดาวเทียม ทำให้พบสิ่งที่น่าตกใจ ซึ่งก็คือการที่แสงแดดไม่ส่องไปในบริเวณนี้ แต่กลับเบนกลับสู่ทิศเดิม กลายเป็นวงโคจรของแสง
    นอกจากนี้ จากการที่น้ำวนปริศนานี้ทำงานเหมือนกับหลุมดำ คือดูดกลืนทุกสิ่ง รวมทั้งทำให้เกิดความผิดปกติของแสง คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ที่ไอสไตน์ตั้งชื่อว่า โฟตอน สเฟียร์ ที่มักเกิดบริเวณหลุมดำ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายให้ความสนใจกับมันเป็นพิเศษ และตั้งใจจะศึกษาต่อไป เพื่อค้นหาว่ามันคือน้ำวนธรรมดาหรือหลุมดำกันแน่ รวมทั้งศึกษาหาสาเหตุ เผื่อเป็นแนวทางในการศึกษาปัญหาเกี่ยวกับธรรมชาติเพิ่มเติม


    แหล่งที่มา : ข่าว ข่าวบันเทิง ข่าวอาชญากรรม ข่าวดารา ข่าวการเมือง ข่าว ทันเหตุการณ์ ที่นี่ - KAPOOK HILIGHT หน้าท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  10. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    หลายวันก่อนผมฝันประหลาด ผมฝันว่า ผมเป็นนักศึกษาสายวิทย์ แต่ไปลงทะเบียนเรียนวิชาของสายศิลป์ ขณะที่เรียน ผมตั้งใจเรียนมาก จนอาจารย์ให้ผมออกไปพูดที่หน้าห้องเรียน ผมเดินไปยืนหน้าห้อง พร้อมกับอาการหูอื้อตาลายไปหมด ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เลยถามอาจารย์ว่า จะให้ผมพูดเรื่องอะไร อาจารย์เดินมาที่ผม อธิบายบางสิ่ง แต่ผมหูอื้อตาลายไปหมด เลยไม่ได้ยินในสิ่งที่อาจารย์อธิบาย แล้วอาจารย์ก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ ผมได้สติกลับคืนมาทันเวลาพอดี เลยพูดออกไปว่า “ ผมมาที่นี่ เพราะครั้งหนึ่ง ผมเคยมีประสบการณ์ของการตื่นรู้ ทำให้ผมมีความอยากรู้เป็นอย่างมาก มีหลายคนในที่นี้ ที่พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าจะได้เกรด A หรือ B+ แต่จริงๆแล้ว ตัวของเขา ถ้าไม่ได้เกรด D ก็ได้เกรด F แต่ผมมาที่นี่เพื่อพูดในสิ่งที่ผมคิด ผมไม่สนใจว่าสิ่งที่ผมพูด จะได้เกรด A B C D E F ” ผลปรากฏว่า ไม่มีนักศึกษาในห้องคนไหนสนใจในสิ่งที่ผมพูดเลย แต่อาจารย์กลับตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูดอย่างมาก หลังจากนั้น ผมก็ลอยขึ้น ลอยออกจากห้อง ลอยเข้าไปในหมู่ตึกชั้นในของมหาวิทยาลัย เป็นหมู่ตึกหลายตึก สภาพเรียบร้อยเป็นระเบียบ เหมือนกับได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี สวนหย่อมต่างๆก็เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่เห็นมีคนนั่งหรือเดินอยู่ในบริเวณนี้เลย ผมลอยมาหยุดที่ตึกหลังหนึ่ง จากนั้นผมก็พยายามลอยตัวสูงขึ้น ยิ่งลอยสูงมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งต้องพยายามมากขึ้นเท่านั้น พอลอยขึ้นมาถึงชั้นที่อาจารย์พักอยู่ มันก็มีความคิดเกิดขึ้นว่า อาจารย์เราพักอยู่ที่ชั้นนี้ หลังจากนั้นผมก็ลอยถอยออกมา ไม่ได้เข้าไปดูข้างในแต่อย่างใด แล้วก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น ทบทวนความฝันแล้วก็มีความสุขมาก แล้วก็นอนต่อ
     
  11. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ความฝันส่วนมากมักจะเป้นข้อมูลที่เข้ารหัสมา ต้องถอดแปลความอีกที ครับ อะไรที่ฝันเห้นบ่อยๆ น่าจะเป็นสิ่งที่เรายังแปลความไม่ได้ ตัวตนภายในจึงส่งข้อมูลมาเรื่อยๆจนกว่าเราจะแปลได้นั่นแหละ อิอิ (^^)
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แจ้งข่าวการมรณกรรมของท่านโกเอ็กก้าครับ
    ................................................
    [​IMG]

    อาจารย์โกเอ็นก้าสิ้นลมแล้วที่เมืองมุมไบ

    อาจารย์โกเอ็นก้าสิ้นลมแล้วที่เมืองมุมไบ ผู้วางรากฐานการฝึกอบรมวิปัสสนา
    30 ก.ย.2556 เฟซบุ๊ก Jinda Wangwarawong ได้รายงานว่า
    อาจารย์โกเอ็นก้าผู้วางรากฐานการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐานให้มั่นคง
    สิ้นลมแล้วอย่างสงบ ที่บ้านพักเมืองมุมไบ อินเดีย เมื่อเวลา 10.40 น.
    วันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย.2556 (เวลาอินเดีย) ด้วยวัย 90 ปี
    โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันอังคารที่ 1 ตุลาคมเวลา10.30น.
    (ตรงกับเวลา 12.00น. ในประเทศไทย)

    ประวัติและปฏิปทาท่านอาจารย์โกเอ็นก้า (S.N. Goenka)
    Vipassana Meditation Center, Dhamma Giri
    Igatpuri, Maharashtra, INDIA

    [​IMG]

    “ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า” หรือ “ท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า” (S.N. Goenka)
    เป็นชาวอินเดียที่ถือกำเนิดในประเทศพม่า ในครอบครัวนักธุรกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2467
    ท่านได้ประกอบธุรกิจจนประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงมากตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม
    ทั้งได้รับเลือกให้เป็นผู้นำชุมชนชาวอินเดียในพม่า รวมทั้ง เป็นประธานองค์กรต่างๆ
    อาทิเช่น หอการค้ามาร์วารีแห่งพม่า และสมาคมพาณิชย์และอุตสาหกรรมแห่งร่างกุ้ง
    นอกจากนี้ยังร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับคณะผู้แทนการค้าของสหภาพพม่าในฐานะที่ปรึกษาอยู่บ่อยๆ

    เมื่ออายุ 31 ปี ท่านถูกคุกคามด้วยโรคไมเกรน แม้จะได้รับการดูแลบำบัดรักษา
    โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในหลายประเทศ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
    จนในที่สุดท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้ทดลองเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลักสูตร 10 วันเป็นครั้งแรก
    กับ ท่านอาจารย์อูบาขิ่น (Sayagyi U Ba Khin) วิปัสสนาจารย์ผู้มีชื่อเสียง
    ที่ชาวพม่าให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่งผู้หนึ่ง โดยการแนะนำของเพื่อนชาวพม่า
    คือ ท่านอูชันตุน อดีตประธานศาลฎีกาพม่า ซึ่งต่อมาภายหลัง
    ท่านอูชันตุนได้เป็นประธานคนแรกขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.)

    ครั้งแรกท่านก็ลังเลใจ แต่ด้วยคำอธิบายของท่านอาจารย์อูบาขิ่น ถึงหลักของศีล สมาธิ ปัญญา
    อันเป็นหลักการสากลที่จะช่วยให้มนุษยชาติได้พบทางแห่งการพ้นทุกข์ได้อย่างถาวร
    ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าจึงตัดสินใจเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งท่านได้กล่าวถึงช่วงเวลานั้นว่า

    “ใน 10 วันนั้น ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นว่า วิธีการนี้เป็นวิธีการที่มีเหตุมีผล ปฏิบัติได้จริง
    ทั้งยังเป็นวิทยาศาสตร์ และมุ่งประโยชน์แห่งการปฏิบัติ มิได้มุ่งให้เราเกิดศรัทธาความเชื่ออันมืดบอดอย่างเดียว
    ทำให้ข้าพเจ้าเป็นอิสระจากโรคภัยไข้เจ็บ รู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่งในความสงบ และได้ตระหนักว่า
    สิ่งที่ทำให้หายจากโรคไมเกรนนั้น อันที่จริงก็คือ การที่ข้าพเจ้าสามารถขุดรากของกิเลสบางอย่างในตัวข้าพเจ้าได้
    เดิมทีข้าพเจ้าเป็นคนที่มีโทสะมาก วู่วาม และเป็นคนมีอัตตาสูง แต่ในการอบรม 10 วันนี้
    ได้ทำให้ข้าพเจ้าสามารถที่จะควบคุมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

    ท่านได้เล่าถึงวิธีการที่ได้รับการอบรมว่า

    “ตอนที่เข้ารับการอบรมใหม่ๆ เข้าใจว่าคงจะมีการให้บริกรรมคำสวดบางอย่าง
    แต่อันที่จริงแล้วไม่มีเลย ไม่มีการบริกรรมคำใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีแม้การสร้างภาพ
    เพียงแต่ให้เราเฝ้าสังเกตลมหายใจที่เข้าออกอย่างเป็นธรรมชาติเท่านั้น
    นี่คือสมาธิ ขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอนที่สำคัญ คือวิปัสสนาด้วยการสังเกตเวทนา
    หรือความรู้สึกทางกายอันเป็นหนทางนำไปสู่ปัญญา คือ การรู้แจ้งในความเป็นอนิจจังหรือความไม่เที่ยง
    ซี่งวิธีการสังเกตเวทนานี้เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงประทานให้แก่มนุษยชาติ
    เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการนำตนให้พ้นทุกข์”

    หลังจบจากการปฏิบัติตามหลักสูตร 10 วันแล้ว ท่านโกเอ็นก้าเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
    ในเนื้อหาสาระของคำสอนและในแนวทางปฏิบัติเป็นอย่างมาก จึงปวารณาตัวเข้าปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    ต่อมาท่านอาจารย์อูบาขิ่นได้แต่งตั้งให้ท่านทำหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอน

    ปี พ.ศ.2512 ท่านได้เดินทางกลับไปยังประเทศอินเดียเพื่อเยี่ยมมารดาที่ล้มป่วย
    ระหว่างที่อยู่ในอินเดีย ท่านได้จัดอบรมวิปัสสนาให้แก่มารดาและญาติพี่น้อง
    ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจเป็นอันมาก นับจากนั้นขบวนการเอหิปัสสิโกก็ได้เริ่มต้นจากปากต่อปากที่บอกต่อๆกันไป
    ทำให้มีผู้มาขอเข้าปฏิบัติกันมากขึ้น

    และจากการที่ท่านอาจารย์อูบาขิ่นมีความฝังใจอยู่แต่เดิมว่า ประเทศอินเดียมีบุญคุณอย่างล้นเหลือ
    ที่ได้หยิบยื่นธรรมอันบริสุทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แก่ประเทศพม่า
    ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน แต่ธรรมอันล้ำค่านี้กลับได้สูญหายไปจากประเทศอินเดีย
    อันเป็นต้นกำเนิดจนเกือบหมดสิ้น

    ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าจึงมีความปรารถนาที่จะทดแทนคุณประเทศอินเดีย
    ด้วยการหาทางนำเอาธรรมะอันล้ำค่านี้กลับไปเผยแผ่อีกครั้ง
    ซึ่งท่านอาจารย์อูบาขิ่นก็ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ท่านเปิดการอบรมวิปัสสนาในแนวทางนี้ขึ้น
    ในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง

    หลังจาก 14 ปีของการปฏิบัติ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวิปัสสนาจารย์
    และได้เดินทางไปเผยแผ่การปฏิบัติวิปัสสนาที่ประเทศอินเดียตามความประสงค์ของอาจารย์ของท่าน
    จนกระทั่งปี พ.ศ.2517 ท่านจึงได้ก่อตั้งและเป็นประธานสถาบันวิปัสสนานานาชาติศูนย์แรก
    ชื่อ “ธรรมคีรี” ขึ้นที่เมืองอิกัตปุรี ใกล้ๆ กับเมืองบอมเบย์ รัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย
    เพื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางของท่านอาจารยอูบาขิ่น
    ซึ่งดำเนินตามแนวทางของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามที่ได้บันทึกไว้ในพระไตรปิฏก
    นับจากนั้นมาก็ได้มีการจัดอบรมวิปัสสนาหลักสูตร 10 วันและหลักสูตรระยะยาวต่อเนื่องเรื่อยมา

    ปี พ.ศ.2522 ท่านเริ่มเดินทางไปเผยแผ่อบรมการปฏิบัติวิปัสสนาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก
    ตามแนวทางของท่านอาจารยอูบาขิ่น ซึ่งดำเนินตามหลักคำสอนในพระไตรปิฎก
    ท่านได้อำนวยการสอนวิปัสสนาหลักสูตร 10 วันในประเทศอินเดียและประเทศอื่นๆ
    ทั้งในซีกโลกตะวันตกและตะวันออก กว่า 400 หลักสูตร

    หลักการสอนของท่านโกเอ็นก้าได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ทั้งในอินเดีย
    ประเทศที่ยังคงมีความแตกต่างทางด้านชนชั้นและศาสนาอย่างมาก และจากทั่วโลก
    ทั้งนี้เพราะคำสอนที่มีลักษณะเป็นสากล มิได้ขัดต่อหลักศาสนาใด ท่านเน้นเสมอว่า
    มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด และมีผิวสีอะไร
    ต่างก็มีความทุกข์ในรูปแบบเดียวกันทั้งสิ้น ในเมื่อความทุกข์ของมนุษย์เป็นสากล
    วิธีการปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากความทุกข์จึงต้องเป็นสากลเช่นกัน

    ต่อมาท่านได้เริ่มแต่งตั้งอาจารย์ผู้ช่วยให้ช่วยดำเนินการอบรมแทนท่าน
    โดยใช้เทปและวิดีโอของท่านเป็นแนวทางในการสอน เพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชน
    ที่จะเข้าอบรมซึ่งเพิ่มสูงขึ้น ทุกวันนี้มีอาจารย์ผู้ช่วยกว่า 700 ท่าน และอาสาสมัครช่วยงานต่างๆ อีกนับพันๆคน
    มีการจัดอบรมวิปัสสนาในประเทศต่างๆ กว่า 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกา
    ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

    โดยมีการก่อสร้างศูนย์วิปัสสนาทั้งสิ้น 80 แห่งใน 21 ประเทศทั่วโลก
    ในแต่ละปีจะมีการจัดอบรมหลักสูตรวิปัสสนาทั่วโลกกว่าหนึ่งพันหลักสูตร
    โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าอบรม ที่พัก หรือค่าอาหารใดๆ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจที่จะบริจาค
    ทั้งตัวท่านอาจารย์โกเอ็นก้าเองและอาจารย์ผู้ช่วยต่างๆ ก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ
    จากการอบรมดังกล่าวแม้แต่น้อย

    สำหรับประเทศไทยมีศูนย์วิปัสสนาตามแนวทางของท่าน รวมทั้งหมด 5 ศูนย์ ดังนี้

    1. ศูนย์วิปัสสนาธรรมกมลา บ้านเนินผาสุก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

    2. ศูนย์วิปัสสนาธรรมอาภา บ้านห้วยพลู ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

    3. ศูนย์วิปัสสนาธรรมสุวรรณา ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น

    4. ศูนย์วิปัสสนาธรรมกาญจนา บ้านวังขยาย ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

    5. ศูนย์วิปัสสนาธรรมธานี ถ.นิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

    (หมายเหตุ: ตอนนี้มี ̣9 ศูนย์แล้วครับ - ชยุต)

    ศูนย์วิปัสสนาทั้ง 5 แห่งนี้ อยู่ในความดูแลของสำนักงานมูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐาน
    ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)
    ได้ทรงเมตตารับไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์ โดยมีการจัดการอบรมหลักสูตรวิปัสสนา
    (หลักสูตรสติปัฏฐาน) 10 วัน สำหรับพระภิกษุ สามเณร และฆาราวาสทั่วไป
    และหลักสูตรวิปัสสนาในเรือนจำ รวมทั้งหลักสูตรอานาปานสติสำหรับเด็กและเยาวชน
    เริ่มต้นในเย็นวันแรก และสิ้นสุดในตอนเช้าของวันสุดท้าย ตลอดทั้งปี

    ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า (S.N. Goenka) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติไว้ว่า
    วิปัสสนาเป็นวิธีการปฏิบัติกรรมฐานที่เก่าแก่ที่สุดวิธีหนึ่งของอินเดีย
    ซึ่งได้สาบสูญไปจากมนุษยชาติมาเป็นเวลานาน แต่ก็ได้กลับมาค้นพบอีกครั้ง
    โดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วิปัสสนาหมายถึง
    “การมองดูสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง” อันเป็นกระบวนการในการทำจิตให้บริสุทธิ์โดยการเฝ้าดูตนเอง
    เราจะเริ่มต้นด้วยการเฝ้าสังเกตดูลมหายใจตามธรรมชาติ เพื่อทำให้จิตมีสมาธิ

    เมื่อมีสติที่มั่นคง เราก็จะก้าวไปสู่การเฝ้าสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของกายและจิต
    ซึ่งจะทำให้ได้พบกับสัจธรรมที่เป็นสากล คือ ได้เห็นความไม่เที่ยง (อนิจจัง) ความทุกข์ (ทุกขัง)
    และความไม่มีตัวตน (อนัตตา) การที่ได้รู้เห็นถึงสภาพธรรมตามความเป็นจริงเหล่านี้
    จากประสบการณ์ของท่านเองโดยตรง จึงเป็นวิธีการในการชำระจิตให้บริสุทธิ์

    ธรรมะเป็นเรื่องสากล มีไว้สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นสากล
    มิได้ผูกขาดเฉพาะศาสนาใดศาสนาหนึ่งหรือลัทธิใดลัทธิหนึ่ง
    ด้วยเหตุนี้บุคคลทุกคนจึงสามารถจะปฏิบัติได้อย่างเสรี
    โดยไม่มีข้อขัดแย้งในเรื่องของเชื้อชาติ ชั้นวรรณะ หรือศาสนา
    ทั้งในซีกโลกตะวันออกและตะวันตกทั่วทุกทวีป ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ
    และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนโดยทั่วถึงกัน


    พื้นฐานในการปฏิบัติวิปัสสนา คือ “ศีล” ศีลจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาสมาธิ
    และกระบวนการทำจิตให้บริสุทธิ์นั้นจะเกิดขึ้นจากปัญญา คือ “การรู้แจ้งเห็นจริง”
    ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า (S.N. Goenka) ได้เคยเดินทางมาเยือนประเทศไทย
    ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน ถึง 4 กรกฏาคม พ.ศ.2544 อาจารย์สุทธี ชโยดม
    อาจารย์และตัวแทนผู้ดูแลการอบรม การปฏิบัติ และกิจกรรมในประเทศไทย
    กล่าวว่า การมาเยือนประเทศไทยของท่านอาจารย์โกเอ็นก้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ

    1. เพื่อแสดงปาฐกถาธรรมเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เรื่อง “พระไตรปิฏกกับการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน”
    ซึ่งจัดโดยกองทุนสนทนาธรรมนำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล.มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์
    ในการนี้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
    เสด็จทรงเป็นประธานการแสดงปาฐกถาธรรม เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2544
    ณ หอพระไตรปิฏกนานาชาติ อาคารอักษรศาสตร์ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    2. เพื่อหารือเรื่องการแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมจากซีดีรอมพระไตรปิฎก ฉบับฉัฏฐสังคายนา
    ซึ่งทางสถาบันวิจัยวิปัสสนาโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ได้ริเริ่มจัดทำขึ้นและเผยแพร่ไปทั่วโลก
    โดยได้มอบให้กองทุนสนทนาธรรมนำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล.มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์
    นำมาเป็นฐานในการจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับอักษรโรมัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระครบรอบ 72 พรรษา

    3. เพื่อเยี่ยมศูนย์วิปัสสนาธรรมอาภา จ.พิษณุโลก ศูนย์วิปัสสนาแห่งที่ 2 ในประเทศไทย
    ณ เลขที่ 138 บ้านห้วยพลู ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมกับเปิดโอกาสให้ศิษย์เก่า
    ผู้ปฏิบัติธรรมในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า
    ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในประเทศไทย โดยมูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐาน ในพระสังฆราชูปถัมภ์
    ได้ซักถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม

    ที่ผ่านมา ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้รับเชิญให้ไปแสดงปาฐกถาธรรมตามสถาบันต่างๆ
    รวมทั้งในเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
    และการประชุมสุดยอดสันติภาพโลกสหัสวรรษใหม่ที่สหประชาชาติด้วย

    ปัจจุบัน ท่านเป็นวิปัสสนาจารย์เอกผู้หนึ่งที่สอนวิปัสสนากรรมฐานในพระพุทธศาสนาเถรวาท
    เป็นเวลาเกือบ 40 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ริเริ่มนำพระไตรปิฏก ฉบับฉัฏฐสังคายนา
    ซึ่งเป็นการทำสังคายนาครั้งล่าสุดของโลก มาบันทึกไว้บนแผ่นซีดีรอมพร้อมด้วยคัมภีร์บริวารต่างๆ
    รวมกว่า 200 เล่ม และได้จัดพิมพ์พระไตรปิฎก ฉบับฉัฏฐสังคายนา ด้วยอักษรเทวนาครี
    เพื่อนำพระพุทธศาสนากลับไปประดิษฐานในประเทศอินเดียอีกครั้งหนึ่งด้วย
    และเพื่อมอบเป็นธรรมทานเผยแผ่ไปทั่วโลก

    (หมายเหตุ : รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก

    (1) VIPASSANA MEDITATION WEBSITE
    (2) ผู้จัดการออนไลน์)

    2688 :
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Goenkaji2.jpg
      Goenkaji2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.7 KB
      เปิดดู:
      1,441
    • Goenka.jpg
      Goenka.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.9 KB
      เปิดดู:
      1,302
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอแสดงความไว้อาลัยต่อท่านด้วยนะครับ
    สิ่งดีๆที่ท่านแนะนำสอนพวกเราไว้ ยังคงอยู่ต่อไปนะครับ
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    Obama ยอมรับว่ามีมนุษย์ต่างดาวปฎิบัติการอยู่ในรัฐบาล อย่างลับๆ


    วอชิงตัน ดี.ซี. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ประกาศยอมรับว่า ...
    มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาเคยเข้ามาควบคุมรัฐบาลที่สำคัญของโลกอย่างลับๆ
    ตั้งแต่หลังจากการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง ประธานาธิบดีโอบามาได้แถลงการณ์ที่ทำให้ประหลาดใจ
    โดยที่ไม่มีกำหนดการล่วงหน้า ในการประชุมทำเนียบขาว ช่วงเช้าวันนี้

    " เรื่องนี้ ได้รับรู้มาตั้งแต่ ปี 1950" ประธานาธิบดีโอบามา
    บอกกับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ทำหน้าตาประหลาดใจ พวกเขาถูกดึงดูดมายังดาวเคราะห์ของเราเป็นจำนวนมาก
    เนื่องจากพบว่ามนุษย์โลก สามารถแยกอะตอมในการใช้งานอาวุธนิวเคลียร์ได้"

    โอบามา เล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่รอสเวลในช่วงปี 1947
    ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวที่รู้จักกันแพร่หลายที่เรียกว่า พวกเกรย์ ผู้เป็นที่รู้จักกันภายนอกครั้งแรก

    "วันนี้ มนุษย์แทบทุกคนบนโลก รู้ว่าที่มนุษย์ต่างดาว สีเทา (เกรย์) รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร "
    ประธานนาธิบดีกล่าวพร้อมกับยักไหล่ "การติดต่อครั้งแรกเริ่มต้นขึ้นด้วยพวกเกรย์, กับประธานาธิบดีทรูแมน
    ที่ทำข้อตกลงกับพวกเขา ปล่อยให้พวกเขา สร้าง ฐานอยู่ที่นี่ ในการแลกเปลี่ยนสำหรับเทคโนโลยี
    หลังจากนั้น ประธานาธิบดีไอเซนฮาวน์ได้พบกับ กลุ่มของมนุษย์ต่างดาว
    ที่รู้จักกันว่า Nordics ที่มีความคล้ายคลึงกันกับกับมนุษย์โลกมาก
    ที่เข้ามาอยู่ในหมู่พวกเราจนแทบจะไม่มีใครสังเกตเห็น
    พวกเขาเสนอให้เราเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในภราดรภาพสากลแห่งการรู้แจ้ง
    ถ้าเราเต็มใจที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเรา แต่น่าเสียดายที่ทั้งเราและสหภาพโซเวียต
    พากันหันหน้าปฎิเสธกับข้อเสนอนี้ จึงตัดสินใจที่จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป"

    ประธานาธิบดีอธิบายต่อไปว่า ตั้งแต่นั้นมา มีความหลากหลายของกลุ่มคนต่างดาว
    มีการจัดตั้งโปรแกรมลับ ทำงานต่อต้านรัฐบาลโลก ให้ละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์
    และสร้างอุปสรรคขัดขวางเพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้น

    " คนต่างดาวได้วนเวียนอยู่เป็นเวลานาน และไม่ทั้งหมดของพวกเขาที่เดินทางโดยยานอวกาศ"
    ประธานาธิบดีโอบามาอธิบายว่า " พวกเขาสามารถจัดการกับเวลาและอวกาศ
    ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญทั้งสองอย่าง และการเชื่อมต่อของความเป็นจริง
    แต่ไม่ใช่เพียงเรื่องเดียว มันเป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลของการจัดการต่อต้านแรงโน้มถ่วง ด้วยแรงขับเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง
    ผลอื่นๆก็คือ รูปแบบของการควบคุม ด้วยการกำหนดรู้จากอีกด้านหนึ่งของมิติ
    ที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ การเห็นทุกสิ่งทุกอย่างจากระยะไกล , การโทรจิต, เดินทางข้ามดวงดาว,
    การอยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกัน หรือชื่ออื่นๆที่เรียกกันจำนวนมาก"

    ท่านประธานาธิบดีพยักหน้ากับตัวเอง....หยุดพูด
    และมองไกลไปที่ใบหน้า ที่เต็มไปด้วยความสงสัย
    ภายในห้องที่เต็มไปด้วยความเงียบกริบ

    "ประเด็นก็คือ " เขาพูดต่อ....
    " มีคนต่างดาวเข้ามาควบคุมรัฐบาลของเราสำหรับช่วงที่ผ่านมาถึงหกสิบปี และ ... "
    ขณะนั้นประธานาธิบดีโอบามา ก็ยกมือของเขาขึ้นเพื่อจะปิดปาก
    ที่ดูเหมือนจะมี อาการไอ...

    "ขอโทษนะ ผมไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย" ประธานาธิบดีกล่าว
    พร้อมกับเช็ดน้ำตา ที่ไหลออกมาจากหัวมุมของตาเขา หลังจากที่เขาหัวเราะ......

    " ผมแค่ ล้อเล่น เกี่ยวกับคนต่างดาวที่ปฎิบัติการในรัฐบาลของเรา
    ไม่สิ.... มนุษย์โลกเราต้องมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ย่ำแย่ที่เราต้องอยู่กับมัน
    และเราก็จะต้องแก้ไขให้ได้ด้วยตัวเอง ออกจากมันทั้งหมดด้วยตัวเอง....
    "


    Obama Admits Aliens Secretly Running The Government- Nine Inch News | Nine Inch News


    หมายเหตุ* เรื่องนี้ยังไม่ยืนยันนะครับ ยังขาดหลักฐานที่เป็น VDO แต่เนื้อหาสาระนั่นน่าสนใจน่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • grey-obama.jpg
      grey-obama.jpg
      ขนาดไฟล์:
      937 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    "You think of yourselves as a Human
    while in fact you are Spiritual Beings
    attempting to cope with a human awakening.

    Seeing yourselves from the perspective
    of the Spirit within will help you to remember
    why you came here and what you came here to do."

    --The Group--

    "คุณเข้าใจว่าตัวเองคือมนุษย์โลกคนหนึ่ง
    ในขณะที่อันที่จริงแล้ว คุณคือ จิตวิญญาณ
    ที่กำลังพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นมนุษย์ผู้ตื่นรู้ให้ได้อยู่

    การมองดูตัวเองในแบบมุมมองของจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน
    จะช่วยให้คุณจดจำได้ว่า คุณมาที่นี่ทำไม และมาเพื่อทำอะไร"

    .....เดอะกรุ๊ป.....

    ...............................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    สะดุดกับถ้อยคำนี้จังเลย

    การมองดูตัวเองในแบบมุมมองของจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน

    เหมือนมีความหมายทำนองว่า... นี่แหละการบ้านของยูในตอนนี้

    อีกนัยยะหนึ่งคือว่า... ให้กลับไปที่ภูมิปัญญาเก่า ๆ เดิม ๆ ของตัวเอง

    พอดีว่าไปจูนกับที่ตัวเองฝันว่า...
    ได้ยินเขากำลังต่อรองราคาค่ารองเท้าเก่า(มือสอง)กันอยู่ จึงเข้าไปดูบ้าง
    เลือกมาได้ 3 คู่ แล้วก็ลองสวมดู ปรากฎว่าสวมได้พอดิบพอดี
    และรู้สึกว่าสบายเท้าดีจัง ขณะนั้น รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
    ตีความฝันได้ประมาณว่า... จะมีวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
    และจะเป็นแบบวิถีทางเดิม
    ประกอบกับ เห็นตัวเลข ตองห้า ซึ่งหมายถึง จงเตรียมตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
    ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น ก็เป็นไปตามคำร้องขอของตัวเอง นั่นแหละ

    ต่อจากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปจริง ๆ อย่างเช่น
    ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่(เอ๊ะหรือเก่า :) )
    ไปเห็นเรื่องราวของมหาเทพอินเดียยุคเก่า ๆ
    รวมทั้งได้อ่านหนังสือที่เป็นเรื่องราวย้อนยุค
    และทำให้ประหลาดใจขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ...

    โอว... ทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังสนใจอยู่เนี่ย...
    เป็นศาสตร์เดิม ๆ ที่มีมาแต่ไหนแต่ไรมาแล้วทั้งนั้น


    ต่อไปนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ เลยนะคะ...
    ในเวลานี้กำลังรู้สึกว่า....
    มีเพียงยุคสมัย โลกสังคม และจิตใจคนเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง

    แต่ทว่า...

    สำหรับผู้ที่กำลังพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นมนุษย์ผู้ตื่นรู้ให้ได้นั้น

    สุดท้ายแล้วก็ต้องสรุป...จบกิจของตัว...

    เพื่อเป็นเนื้อหาเดียวกับแสงสว่างแห่งพระสัจธรรม(ซึ่งมีมานานแล้วอยู่ดี)

    ขอยกตัวอย่างคำพูดที่น่าสนใจขององค์มหาเทพอินเดีย
    ที่มีคำกล่าวขานว่าคือ มหาเทพแห่งจักรวาลเลยทีเดียว
    คือ ท่านมหาเทพวิษณุ ได้เคยกล่าวเอาไว้นะคะว่า...

    ...แท้จริงแล้ว เราไม่เกิด ไม่เปลี่ยนแปลง...
    เราคือเจ้าของทุกสรรพสิ่ง
    เราคือนายเหนือหัวที่เต็มไปด้วยอำนาจในการควบคุมธรรมชาติของเราเอง
    เราได้ใช้อานุภาพของเรา เนรมิตให้เราได้เกิดมา
    เมื่อใดที่ความถูกต้องเสื่อมลง และความไม่ถูกต้องเจริญขึ้น
    เราจะกลับมาเกิดอีกครั้ง
    เพื่อปกป้องผู้ที่กระทำถูกต้อง
    และเพื่อทำลายผู้กระทำไม่ถูกต้อง
    เราจะนำสิ่งที่ถูกต้องกลับมาและให้ตั้งอยู่เช่นเดิม
    ...เราจะกลับมา...

    (วิษณุมหาเทพ)


    และมีอีกคำกล่าวหนึ่งที่น่าสนใจของท่านโยคีอินเดียท่านหนึ่ง..กล่าวไว้ว่า...

    การเอาชนะมายา

    คือภาระหน้าที่ที่ปวงศาสดาพยากรณ์ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมามอบหมายให้กับมนุษยชาติ

    อืมม...ล้วนเป็นคำกล่าวที่คลาสสิคมากเลยทีเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013
  17. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    เราคิดว่าอาจยังมีอีกหลายคนที่อ่านข้อความต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเปิดตาที่สาม
    หรือการเปิดจักระ หรือ อะไร ๆ ที่เกีี่ยวข้องกับทำนองนี้
    แล้วก็วิ่งไปหาวิธีการ แบบชนไปชนมากับหลาย ๆ วิธี กับหลายๆสำนัก
    เพื่อเลือกหาวิธีการที่ตนพอใจ และหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่รับข้อมูลมา...

    การทำเช่นนี้เป็นเรื่องหวาดเสียว
    เพราะมีหลายคนได้เกิดอาการฟุ้งซ่านไปกับวิธีการต่างๆ
    และผลที่เขาได้รับก็หาใช่ผลตามที่ข้อมูลบอกไว้ มันเลยหลุดโลกไป...
    ซึ่งใครที่ยังรู้ตัวว่ากำลังจะหลุดโลกแล้ว ก็รีบกลับมาเถอะ และระมัดระวังเรื่องนี้ไว้ ก็น่าจะดี...

    ซึ่งหากเราร่วมกันพิจารณา อาจจะเห็นสิ่งที่น่าสนใจตรงกันที่สุดคือ "เวลา"...
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความล้มเหลว ความสำเร็จ หรืออะไร ๆ อีกมากมายก็ตาม มันขึ้นอยู่ที่ "เวลา"...
    เราอาจจะได้รับข้อมูลถึงที่สุดกับหนทางที่จะเดินไปสู่คำว่า "นิพพาน"ในขณะนี้...
    แต่มันก็มิได้หมายว่า เราต้องตะเกียกตะกาย
    หรือบีบคั้นตัวเองให้ไปสู่คำนั้นให้ได้ในขณะนี้ ชาตินี้ มิใช่หรือ...
    เพราะคุณสมบัติและเงื่อนไขของที่มาในแต่ละคนนั้น แตกต่างกันมาก...
    ก็มีตัวอย่างให้เห็นในสังคมรอบตัวเรา ๆ นี่แหละ
    ที่บางคนไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมหรือฝึกอะไรที่ไหน
    แต่การอยู่ร่วมกับสังคมและความเป็นอยู่ ยังกับผู้ปฏิบัติระดับสูง

    ส่วนในพุทธประวัติ ก็มีบางคนที่ได้ยินเพียงประโยคเดียว จากแย่เป็นดีไปเลย เช่น องคุลีมาล
    บางคนรู้และปฏิบัติมานานปี แต่กลับแย่ลงเรื่อย ๆ เช่น พระเทวทัต...
    เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่น่าศึกษา...
    และที่ลืมไม่ได้คือ พระพุทธเจ้า ใช้เวลา ๖ ปี กว่าจะตรัสรู้
    พระเยซูหายไปที่ไหนสักแห่ง ๒๐ ปี แล้วจึงกลับมาเยรูซาเลม
    และผู้รู้ในยุคนี้อีกหลายคนที่มีที่มาอย่างโชกโชนก่อนที่จะรู้อะไร..

    ดังนั้น จะดีกว่าไม๊ หากเรา "ฝีกและเรียนรู้ต่อไป...แต่ไม่ติดและก็ไม่ทิ้งมัน"
    ซึ่งก็จะมีเราเองเท่านั้นใช่ไหมที่รู้ดีที่สุดว่า เราควรก้าวไปในระดับไหนในขณะนั้น ๆ...
    การบีบคั้นดิ้นรนให้ตนเองให้ได้หรือทำได้ในขั้นสูงที่สุด ทั้งที่"เวลา"นั้นมันยังมาไม่ถึง
    มันน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายซะมากกว่าไม๊...

    ขอให้พิจารณาเพื่อประโยชน์ของโลกใบนี้ร่วมกัน...
    ด้วยความห่วงใย...

    อจิตตะ...
    CA ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2013
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    จริงดังว่าครับ เพราะข้อความจากชาว Arcturion
    ที่ผมเพิ่งโพสต์ไป เรื่องการตื่นขึ้นสู่ศักยภาพเต็มพิกัดของตัวเองนั้น
    ก็พูดเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วเหมือนกันว่า เรื่องแบบนี้
    ซึ่งหมายถึง เรื่องเกี่ยวกับพัฒนาการทางจิตวิญญาณแบบนี้
    เราไม่อาจที่จะไปบังคับ หรือ เคี่ยวเข็ญ
    หรือไปดิ้นรน เพื่อที่จะให้มันเป็นไปตามที่เราต้องการได้

    เพราะว่ามันจะต้องประจวบเหมาะไปด้วย เวลา ของมัน
    เพราะว่า มันต้องพร้อมซะก่อน มันถึงจะเกิดขึ้นได้
    ซึ่งบางที มันก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราซะด้วยสิ

    เพราะฉะนั้น หลายท่านถึงใช้คำพูดนี้ไงครับว่า
    อย่าเร่ง อย่ารีบ แต่ก็อย่าหยุด..อิอิ..
    ....................................................

     
  19. Number 1

    Number 1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +81
    อาการสองบุคลิกมันเป็นยังไงเหรอครับ
     
  20. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ทำอย่างไรเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับพลังงาน(energy)ที่แตกต่าง...

    ระยะนี้การเผชิญหน้ากับพลังงานที่แตกต่าง
    อาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับบางคน
    ดังนั้น "ความรู้สึกตัว"ถึงกำลังของตน
    และรับรู้ถึงกำลังของอีกฝ่ายได้ชัดเจน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
    เพราะหากความสามารถในการตรวจสอบกำลังของตนเองและของอีกฝ่ายไม่ชัดเจนพอ
    ทั้งสองฝ่ายก็อาจได้รับบาดเจ็บ
    และสูญเสียพลังงานไปอย่างรวดเร็วจากการปะทะของทั้งสองฝ่าย
    หรือเรียกว่า "บาดเจ็บทั้งคู่" ...ทำนองนั้น
    โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ชำนาญในการชาร์ตพลังงานด้วยแล้ว... ไปกันใหญ่เลย...

    ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากันแล้ว ให้หายใจลึก ๆ
    แล้วตรวจสอบเบื้องต้นว่ากำลังตนมีพอหรือไม่
    หากเช็คแล้วยังไม่พอ ก็ให้ถอยออกมาก่อน
    เพื่อเป็นการถนอมและรักษาพลังงานทั้งสองฝ่ายไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
    หรือฉีกขาดหรือที่พูดกันติดปากว่า "ถอยหลังตั้งหลักใหม่" จะเป็นการที่ดีที่สุด

    แต่หากมั่นใจว่า มีพลังมากพอ ก็ลุยไปเลย...
    เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็เป็นโอกาสที่ทำให้พลังงานอีกฝ่ายเกิดความสับสน
    ต่างฝ่ายอาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง ก็ยังพอรักษากันได้
    และถ้าอย่างมากหรือมากที่สุด ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานของอีกฝ่าย
    ซึ่งท้ายสุดก็จะมาผนวกและเป็น"พลังงานหนึ่งเดียว"ทันที
    "การถ่ายเทพลังงานให้กันและกันก็เริ่มต้นขึ้น"...


    อจิตตะ...
    CA ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...