ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    จะว่าไปแล้ว..ยิ่งผมมองย้อนกลับไปสู่อดีตของตัวเอง ตั้งแต่ในวัยเด็กจนถึงปัจจุบันแล้ว
    ก็ยิ่งเห็นว่าข้อความจากต่างมิติทั้งหลายนี่ พูดได้ถูกหลายเรื่องเลยทีเดียว
    เลยคิดว่าน่าจะจริงของพวกเขานะ ไม่รู้ว่าท่านอื่นจะคิด และ เห็น เหมือนผมหรือเปล่านะครับ

    ในชีวิตผม มีเรื่องที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงมากมายหลายครั้ง ทั้งแบบค่อยๆเปลี่ยน
    และแบบค่อนข้างปุบปับและรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเกี่ยวข้องกับสัมพันธภาพ

    คือในสมัยที่เริ่มเป็นวัยรุ่น หน้าตาผมก็ไม่ได้ขี้เหร่นักหรอก พอไปวัดได้

    [​IMG]
    (สมัยเรียนอยู่ปี 1 ก่อนที่จะมีเหตุพลิกผันเกิดขึ้น)

    แต่พออกหักครั้งที่ 2 สมัยเรียนมหาลัยปีที่ 2 สิวก็ขึ้นเต็มหน้าไปหมด และอักเสบมาก
    เพราะว่าเครียดมาก และเพราะว่าปกติก็ไม่ค่อยรักตัวเองอยู่แล้ว เลยทำให้ร่างกายเสียศูนย์เข้าไปใหญ่

    ตอนที่ผมมีอาการซึมเศร้าอยู่นั้น นอกจากสิวอักเสบจะขึ้นเต็มหน้าไปหมดแล้ว
    ผมยังทานอะไรแทบไม่ได้เลย..แต่เริ่มหัดสูบบุหรี่และกินเหล้าแล้ว
    ยิ่งเจ็บ ยิ่งช้ำ ก็ยิ่งมีความคิดด้านลบเข้ามามากขึ้น และแสดงพฤติกรรมด้านลบมากขึ้น
    ในอันที่จะทำลายตัวเอง เพราะความที่ไม่รักตัวเอง จนผอมแห้งแรงน้อยลงไปกว่าเดิมซะอีก
    จนคุณแม่มาเยี่ยมที่มหาวิทยาลัย เพราะช่วงนั้นผมไม่กลับบ้านเลย
    คุณแม่เห็นผิดสังเกต เลยต้องมาเยี่ยมซะเอง พอคุณแม่เห็นหน้าผมแล้ว
    คุณแม่ผมร้องไห้เลยหละครับ คือผมเปลี่ยนไปมาก แทบไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว
    หน้าตาหมองคล้ำ สิวเต็มหน้า ผมยาวรุงรัง วันๆแทบไม่กินอะไรเลย
    เพราะผมเบื่อหน่าย และอยากจะตายให้มันแล้วๆไปซะด้วยซ้ำ

    และหลังจากผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้แล้ว หน้าผมก็ขี้เหร่มาก จนผมไม่กล้ามองหน้าตัวเอง
    หรือจ้องตาตัวเองในกระจกอีกเลย เพราะว่าเกลียดหน้าตัวเองมาก รับไม่ได้

    นี่แหละคือผลของการไม่รักตัวเอง
    และเชื่อว่าตัวเองไม่มีใครรักมาตลอด
    จึงทำให้ผมต้องอกหักมาโดยตลอด
    เพราะว่าผมสร้างโลกแห่งความเป็นจริงภายนอกของตัวเอง
    ขึ้นมาจากสิ่งที่อยู่ในโลกภายในของผมเอง

    เพราะผมเชื่อแบบนั้น จักรวาลก็เลยสนองตอบ
    โดยการจัดให้ตามคำขอ หรือ ความเชื่อของผมเอง
    ที่ว่า..ไม่มีใครรักผมจริงเลย..สมใจอยากครับ


    จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ ความทรงจำนี้ และความคิดเกี่ยวกับเรื่อง "รักตัวเอง" นี้
    มันผุดขึ้นมาในหัวผม แบบเห็นความเชื่อมโยงของ "เหตุ และ ผล" อย่างชัดเจน
    จึงทำให้ผมอยากจะเอามาเล่าให้ทุกๆท่านได้อ่านด้วย เพื่อท่านจะได้กลับไปมองดูตัวเองด้วย
    ว่าท่านกำลังเชื่ออะไรอยู่ ท่านบอกกับตัวท่านเองทุกวันๆว่าอย่างไร?
    ท่านด่าตัวเองอยู่ หรือ รังเกียจตรงโน้นตรงนี้ของตัวเองอยู่หรือเปล่า?
    แล้วผลที่ท่านได้รับจากอดีตจนถึงปัจจุบันนี้หละ มันสอดคล้องกันแบบที่ผมว่าไหม?

    และเพราะฉะนั้นแล้ว ด้วยโอกาสพิเศษที่มาถึงแล้วนี้ คือช่วงวันที่ 21/6/13 เป็นต้นไป
    และนับไปอีก 3 เดือนนี้ ท่านจะใช้โอกาสนี้ เพื่อสะสางความคิด และ ความเชื่อด้านลบเหล่านี้
    ออกไปให้สิ้นซากไหม?

    แต่ผมก็เชื่ออยู่ว่า ไม่มีเหตุบังเอิญในชีวิตของผมหรอกนะครับ
    เพราะว่ายิ่งทบทวนดูสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว มันสอดคล้องกันไปหมด
    มันมา - มันไป ได้จังหวะเวลาของมันเองพอดีๆทุกๆครั้งเลย
    ผมจึงเชื่อว่า จิตวิญญาณของผมเองนั่นแหละ ที่เลือกที่จะมีบทเรียน
    แห่งการรักตัวเองนี้ และ เพื่อให้ผมเอง สามารถสอบผ่านมันไปได้ในที่สุด


    ................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2013
  2. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    ดูเหมือนว่า... วันที่ 21 มิถุนายน จะมีความหมายในแบบที่ คุณ Chayutt พูดเอาไว้เลยเนาะ
    พึ่งรู้สึกเอะใจในเรื่องวันที่
    เหมือนว่า... มีระบบที่จัดการให้พวกเราจะต้องชำระสะสางตัวเองให้แล้วเสร็จก่อนวันนี้
    ส่วนตัวแล้ว... มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นมาแบบไม่คาดฝัน เพื่อจะกระตุ้นให้รู้สึกตัวว่า... นี่แหละคือปัญหาของเรา (ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยนึกว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหามาก่อน)
    จนกระทั่งตัดสินใจที่จะแก้ไขโดยด่วน ปุปปับ แบบไม่ลังเล หรือแม้กระทั่งลังเล ก็ยังต้องลงมือทำ

    รวมถึง ความรู้สึกเป็นห่วงผู้มีพระคุณน่ะ คงต้องตัดใจ... ทำใจน่ะ... ว่าไม่มีใครสามารถอยู่บนโลกนี้ไปได้ตลอดกาล
    แต่ก็ยังมีเรื่องที่จะต้องชำระสะสางอีกเยอะกระมัง
    เพราะเมื่อคืนก็ฝันเกี่ยวกับการปลดทุกข์(เข้าห้องน้ำ) ... อีกแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013
  3. run ratikan

    run ratikan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    อ่า เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิด กับตัวผมหลายครั้งเหมือนกันครับ จนปัจจุบันนี้เวลาคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็จะคิดแบบว่าให้เค้าได้เจอในสิ่งที่ดีๆอ่ะครับ อิอิ ส่วนตัวผมแล้วเวลานึกย้อนกลับไป ถือว่าการอกหักเป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ อิอิ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอคั่นโฆษณาหน่อยนะครับคุณชยุต ^^
    มีข่าวสำคัญน่าตื่นเต้นอีกข่าวนึงมาฝากครับ
    ------------------------------------


    ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ: พยานนับพันได้เห็น UFO ในการประท้วงใหญ่ที่บราซิล
    20 มิถุนายน 2013

    ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โลกได้เห็นการประท้วงจำนวนมหาศาลที่ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์
    นี่คือสิ่งที่โลกไม่เคยเห็น ที่ผู้คนพากันตื่นขึ้นมาและลุกขึ้นยืนสำหรับสิ่งที่ไม่ได้รับการตอบรับของพวกเขาในเรื่องสำคัญต่างๆ
    ที่ผู้คนมาร่วมตัวกันเพื่อเรียกร้องการในเรื่องดังกล่าว

    ปรากฏการณ์ ยูเอฟโอ ก็ไม่แตกต่างกัน
    และดูเหมือนว่าจะสอดคล้องกันกับการตื่นของผู้คนที่เกิดขึ้น
    รายงานการพบเห็นยูเอฟโอยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกเดือน
    เหมือนที่จิตสำนึกของมนุษยชาติที่ขยายตัวและเติบโต
    แน่นอนว่า บางส่วนของพวกเขาอาจจะเป็นฝีมือของทหารและกองทัพ
    แต่หลายคนกลับรู้สึกว่าส่วนใหญ่ของพวกเขานั้นคือสิ่งมีชีวิตผู้ทรงภูมิปัญญา....


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=hT_WsMLd-cE&feature=player_embedded#at=34]UFO flies over Brazilian Protest? June 2013 - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2013
  5. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    เมื่่อเช้า กะมีส่วนร่วมเขียนเล่าประสบการณ์
    แสดงความคิดเห็น ไปพอสมควร พอกดส่งข้อความ
    กลายเป็นว่า ไฟที่บ้านดับ คอมฯดับตอนนี้พอดีเป๊ะเลย
    แถมแค่ไม่กี่วินาทีไฟก็มา สุดยอด ...
     
  6. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ...เก็บภาพวันครีษมายัน ศุกร์ที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖...มาแบ่งปัน

    ๑. พระอาทิตย์ในเวลาประมาณ ๘ โมง เช้า ที่ ถนนรักษ์จันทน์ ...ตรัง
    ๒. พระอาทิตย์ทรงกรด เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ที่ เขาหนองยวน ...ตรัง
    ๓. พระจันทร์ทรงกรด เวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น.
    ๔. พระจันทร์ทรงกรด(ซ้อนขึ้นอีกหนึ่งวง) เวลาประมาณ สามทุ่ม ที่ สระกระพังสุรินทร์...ตรัง

    Bless you all...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 390541649121.jpg
      390541649121.jpg
      ขนาดไฟล์:
      321.9 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_2566.JPG
      IMG_2566.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_2609.jpg
      IMG_2609.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      57
    • IMG_2625.JPG
      IMG_2625.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      54
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8AFdk1vyRFk"]After Earth - Trailer - MegaStar Cineplex - YouTube[/ame]
    After Earth - Trailer - MegaStar Cineplex - YouTube

    เมื่อคืนนั่งดูภาพยนตร์เรื่อง After Earth คนเดียว ได้ข้อคิดหลายอย่างเลยหละครับ

    ถ้าใครได้ติดตามอ่านกระทู้ข้อความจากต่างมิติมาโดยตลอด และได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแล้ว
    ก็คงจะเห็นความเหมือนกันบางอย่าง ของข้อความจากต่างมิติ และเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ


    เนื้อเรื่องย่อคร่าวๆก็คือว่า พ่อลูกคู่หนึ่ง ซึ่งผู้พ่อนั้นเป็นนักรบที่กล้าหาญมาก และปราศจากความกลัว
    จนถูกขนานนามว่า “พรายพราง” เดินทางไปกับยานลำหนึ่ง แล้วยานก็เกิดปัญหา
    และแตกออกเป็นสองส่วน ตกลงมายังโลก ที่ในยุคนั้นไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว และเป็นที่ๆอันตรายสุดๆ

    มีผู้รอดชีวิตสองคน คือพ่อลูกคู่นี้เอง แต่ว่าอุปกรณ์ที่จะใช้ส่งสัญญาณไปให้คนอื่นมาช่วยเหลือนั้น
    อยู่ที่ส่วนหางของยาน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 100 กว่ากิโลเมตร จึงต้องมีคนไปเอามา
    แต่ว่าผู้เป็นพ่อนั้น ไม่สามารถไปเอาได้ เพราะว่าขาหักทั้งสองข้าง
    ดังนั้น ผู้เป็นลูก จึงต้องเป็นผู้ไปเอามา

    ผู้เป็นลูกนั้น ได้รับการฝึกเป็นนักรบเรนเจอร์มาแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการสอบบรรจุ เพราะสอบตกภาคสนาม
    ดังนั้น จึงพอจะมีความรู้เอาตัวรอดอยู่บ้าง ซึ่งในระหว่างที่เดินทางไปเอาอุปกรณ์ดังกล่าวนั้น

    เพราะความที่ผู้เป็นลูกสวมชุดเกราะไฮเทคอัจฉริยะอยู่
    จึงทำให้ผู้เป็นพ่อสามารถใช้อุปกรณ์ติดตามดูลูกได้ และคุยกับลูกได้ตลอด
    ดังนั้น ทุกสิ่งที่ลูกเห็น พ่อก็จะเห็นด้วย และรวมถึงสิ่งที่ลูกไม่เห็น พ่อก็จะเห็นด้วย
    เพราะว่าพ่อได้ส่งดาวเทียมสำรวจระยะไกลออกไปแล้วหลายลำ
    จึงสามารถสแกนดูภูมิประเทศ หรืออันตรายต่างๆที่จะเข้ามาใกล้ลูกได้ตลอดเวลา

    ดังนั้น ในขณะที่ลูกเดินทางผจญอันตรายอยู่นั้น
    พ่อก็จะคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอดเวลา
    เว้นแต่ว่าในกรณีที่ลูกหวากกลัวจนไม่มีสติเชื่อฟัง


    ภาพยนตร์เรื่องนี้ ในตอนขึ้นต้น จะมีคำบรรยายว่า:

    “เคยได้ยินเรื่องของดาวโลก ดินแดนสวรรค์ จนกระทั่งเราทำลายมัน
    การก่อตั้งองค์กรร่วมเรนเจอร์คอร์ป เมื่อพันปีที่แล้ว คือการรวบรวมกองกำลังทหารทั่วโลก
    เพื่ออพยพมนุษยชาติ เรนเจอร์เป็นแกนนำในการตั้งรกรากบนดาวใหม่ “โนเบิ้ลพราม”

    ทว่าไม่ได้มีแค่เรา พวกต่างดาวนำ "เออซ่า" มาปล่อยไว้ สัตว์ประหลาดที่เพาะมาเพื่อฆ่ามนุษย์
    แม้ไม่มีดวงตา แต่เออซ่ารู้ตำแหน่งเราได้จากฟีโรโมนที่ถูกขับออกมาเมื่อตื่นกลัว
    “มันได้กลิ่นความกลัวจริงๆ”

    วิกฤติสิ้นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์เกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นอีกหนที่เรนเจอร์ต้องค้นหาทางออก
    และทางออกที่อุบัติขึ้นก็คือ “ไซเบ้อเร้ด” ผบ.ระดับพราย พรายคนแรกของเรา
    เขาคือผู้ที่ถูกขนานนามว่า “ผู้ที่ไร้ความกลัว” ซึ่งสำหรับเออซ่าแล้ว เขาล่องหนดังผี
    ศักยภาพนี้ถูกเรียกว่า “พรายพราง””


    และเผอิญว่า บนยานลำที่ตกนั้น ได้นำเจ้า “เออซ่า” ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดไร้ดวงตา
    แต่สามารถได้กลิ่นความกลัวได้ มาด้วยตัวหนึ่ง เพื่อจะเอาไปฝึกภาคสนามสำหรับ “พรายพราง”
    และเมื่อยานตก มันก็ยังไม่ตายซะด้วย

    ผมนั่งดูไป ผมก็แว๊บคิดถึงข้อความจากต่างมิติขึ้นมาได้ว่า..
    เออ..ช่างเหมือนกับชีวิตของมนุษย์เราซะจริงๆเลย

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คือดาวเคราะห์โลกของเรา ก็เป็นที่ๆอันตรายสุดๆจริงๆหนะแหละ
    ในแง่ที่จะทำให้ง่ายดายต่อการหลงลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป
    เพราะว่ามันถูกออกแบบมาให้มี "ความเป็นขั้ว" (Polarity) แบบสุดขั้ว
    และมันก็ถูกออกแบบมาให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต
    ที่พิเศษที่สุดในจักรวาลอีกด้วย เพราะว่า Free will หรือทางเลือกอิสระ
    ถูกมอบให้มาอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับพวกเราทุกๆคน
    ในการเลือกที่จะคิด จะทำอะไรก็ได้
    แต่จะต้องเป็นผู้รับผลกระทบจากการกระทำนั้นๆเอง


    และพวกเราก็มีตัวตนที่สูงกว่าของพวกเรา (Higher self)
    ซึ่งก็คือจิตวิญญาณ (Soul) ของพวกเรานั่นเอง
    คอยให้คำแนะนำอยู่ตลอดเวลา ในทุกเรื่อง ทุกแง่ ทุกมุมของชีวิต
    เพราะว่าจิตวิญญาณของเรานี้ รู้ทุกสิ่งทุกอย่างดีกว่าเราทั้งหมด
    เว้นแต่ว่า..พวกเราจะไม่รับฟัง หรือ ไม่ได้ยินเท่านั้นเอง

    แต่ว่าผู้ที่จะต้องเป็นผู้ลงมือกระทำนั้น ก็จะต้องเป็นพวกเราเองเท่านั้น
    จิตวิญญาณของเรา ไม่อาจจะทำอะไรแทนเราได้ เหมือนในหนังเลยหละครับ

    และสิ่งที่เหมือนกัน ที่ผูกเรื่องได้น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นก็คือ
    เรื่องเจ้าสัตว์ประหลาด “เออซ่า” นี่แหละครับ ที่มันไม่มีตา
    แต่จะจับทิศทางของมนุษย์ได้จากกลิ่นของ “ความกลัว”

    เพราะว่าในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว “ความกลัว”
    ก็คือศัตรูตัวที่ร้ายกาจที่สุดของมนุษย์เราเช่นเดียวกัน



    มีฉากหนึ่ง ที่ลูกถามพ่อว่า “พ่อทำได้ไงตอนเป็นพรายครั้งแรก?”

    แล้วพ่อก็เล่าให้ลูกฟังว่า:

    “พ่อออกไปวิ่งคนเดียว ซึ่งเป็นอะไรที่ผิดปกติวิสัย “เออซ่า” สลัดพรางออก โผล่มาตรงหน้านี่เลย
    พ่อกำลังจะหยิบคมเฉือน มันเสือกก้ามเข้าใส่ แทงทะลุเข้าที่ไหล่ รู้ตัวอีกที เราก็พลัดจากขอบผา
    พากันร่วง 30 กว่าเมตร ร่วงดิ่งตกลงแม่น้ำ จมลงไปจนถึงก้นแม่น้ำ

    มันทับอยู่บนตัวพ่อ ไม่ยอมขยับเขยื้อน พ่อเลยตระหนักว่า มันจะกดให้จมน้ำตาย
    ในใจพ่อคิดว่าตายแน่ เราตายแน่ ไม่อยากเชื่อว่าเราจะมาจบชีวิตแบบนี้
    มองเห็นเลือดตัวเองผุดเป็นพรายฟอง อาบด้วยแสงจากดวงตะวัน ที่ส่องผ่านผิวน้ำลงมา
    ใจเลยคิดว่า ว๊าว..ช่างเป็นอะไรที่งดงามเหลือเกิน ทุกอย่างเชื่องช้าลง

    พ่อเห็นก้ามมันแทงทะลุอยู่ที่ไหล่ เลยตัดสินใจว่า
    ไม่อยากให้มีก้ามของมันแทงอยู่อีกแล้ว ก็เลยดึงมันออก แล้วมันก็ปล่อยพ่อ

    ยิ่งกว่านั้นบอกได้เลยว่า มันหาพ่อไม่เจอ
    ไม่รู้จะหาตรงไหนด้วยซ้ำ ทำให้พ่อบรรลุว่า
    “ความกลัว”ไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้
    สถานที่เดียวที่ความกลัวสามารถตั้งอยู่ได้
    คือในความคิดของเรา เมื่อนึกถึงอนาคต

    มันคือผลิตผลที่เกิดจากจินตนาการ
    ทำให้เราตื่นกลัวสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
    แถมยังไม่แน่ด้วยซ้ำว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่

    จิต ณ.จุดนั้น เฉียดใกล้กับการสูญเสียสติ
    แต่ทว่าลูกอย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป
    ภยันตรายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง
    แต่ทว่าความกลัวเป็นเพียงตัวเลือก

    จิตมนุษย์เป็นคนที่ปรุงแต่งเรื่องราวเพื่อบอกตัวเอง
    วันนั้นเรื่องราวในจิตของพ่อเปลี่ยนไป”


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - เวลาลูกกลัวพ่อจะสั่งให้คุกเข่าลง
    แล้วตั้งสติให้อยู่กับปัจจุบันขณะ)


    มีหลายฉากที่ผู้เป็นลูกหวาดกลัวจนวิ่งเตลิดไปโดยไม่ฟังเสียงคำแนะนำของพ่อเลย
    และก็มีฉากหนึ่งที่ผู้เป็นลูกใช้ความกล้าหาญฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อ ในภาระกิจที่พ่อคำนวนแล้วว่า
    ลูกอาจจะทำไม่ได้ เพราะว่าโอกาสรอดชีวิตมีน้อยมาก ซึ่งนั่นก็คือเส้นทางที่จะไปให้ถึงจุดหมายในช่วงนั้น
    มันต้อง “ดิ่งพสุธา” ลงไป โดยอาศัยเสื้อเกราะอัจฉริยะนั่นเอง แต่ลูกก็ทำได้สำเร็จ


    และฉากสุดท้ายที่ลูกต้องเผชิญหน้ากับเจ้า “เออซ่า” ตัวนั้น
    ตอนแรกลูกก็หวาดกลัวมาก จนถูกเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นเล่นงานเอาจนเกือบตาย

    แต่แล้ว..ในจังหวะที่กำลังคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆแล้วนั้น
    และกำลังนอนแหงนหน้าขึ้นมองดูหิมะที่กำลังตกลงมา
    เพื่อรอคอยความตายที่เจ้าเออซ่ากำลังจะหยิบยื่นมาให้อยู่นั้น
    ลูกก็ได้ยินเสียงของพ่อพูดขึ้นมาว่า:

    “หยั่งรากการรับรู้ให้อยู่กับ “ปัจจุบัน” เดี๋ยวนี้!
    ภาพ เสียง กลิ่น รู้สึกอะไรบ้าง?”


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - ตั้งสติให้อยู่ในปัจจุบันขณะ)

    และก็มีเสียงของพี่สาว ซึ่งได้ตายไปแล้ว เพราะถูกเจ้าเออซ่าฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเขา
    ซึ่งก่อนตายพี่สาวได้นำเขาเข้าไปไว้ในกรอบแก้ว เพื่อไม่ให้เจ้าเออซ่าได้กลิ่น
    แล้วตัวเองก็ยอมถูกมันฆ่าตายแทน จนทำให้เขารู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา
    เสียงของพี่สาวเขากระซิบขึ้นมาว่า:

    “เธอยังอยู่ในกรอบแก้ว ถึงเวลาออกมาแล้ว”

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ซึ่งคำว่าเธอยังอยู่ในกรอบแก้วในที่นี้ ก็ช่างเหมือนกับการที่เรา
    เอาแต่หลบซ่อนความกลัวอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราเอง
    โดยไม่กล้าออกมาเผชิญหน้า รับรู้ และยอมรับมัน

    แล้วจากนั้นความกลัวของเขาก็หายไป จนสามารถพิชิตเจ้าเออซ่าตัวนั้นได้
    และสามารถส่งสัญญาณเรียกคนมาช่วยได้สำเร็จ และทั้งพ่อและลูกก็รอดตาย
    เพราะความกล้าหาญของลูกนั่นเอง

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - เมื่อปราศจากความกลัว)


    ..................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2013
  8. yaya12

    yaya12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +182
    ขออนุญาตโพสข้อความน่ะค่ะ พูดถึงวันที่ 21 ก็ให้นึกแปลกใจเหมือนกันค่ะ เพราะพยามจะโพสตอบกระทู้นี้ตั้งหลายครั้งก็มีเหตุให้ไม่สามารถตอบได้สักครั้ง ไม่ใช่ไม่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์น่ะค่ะ จบเอกคอมพิวเตอร์ แต่พึ่งมาโพสได้เมื่อวันที่ 21/6/13 คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่เลย(หรือว่าคิดไปเองก็ไม่ทราบค่ะ) แล้วเมื่อคืนก็ดึงพลังจักรวาล ปรากฏว่าพลังที่ดึงมาเป็นรูปหัวใจค่ะ สัมผัสได้ (ณ.ที่ตรงนี้ที่แห่งนี้เราไม่ได้บ้าน่ะค่ะแต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ) เมื่อดึงมาจนเต็มก็เลยแผ่พลังไปให้คนในครอบครัวที่เรารักทุกคนเลยค่ะ รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายที่ได้อ่านข้อความนี้ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมด้วยน่ะค่ะ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยน่ะค่ะ
     
  9. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .

    มันมีอีกข้อความหนึ่ง จากไกอา ที่ผมอ่านเจอ และก็กะว่าจะแปลให้ท่านได้อ่านด้วย
    ที่พูดถึงธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และพูดถึง "จิตวิญญาณของธาตุ" ทั้ง 4 นี้ด้วย
    สรุปคร่าวๆก็ประมาณว่า ธาตุเหล่านี้มีจิตวิญญาณคอยควบคุมอยู่ในมิติที่ 4
    ดังนั้น ถ้าเรารู้แบบนี้แล้ว และถ้าเราสื่อสารไปถึงจิตวิญญาณของธาตุเหล่านี้อยู่เสมอๆแล้ว
    พวกเขาก็จะช่วยในเรื่องสุขภาพอนามัยของเราได้ด้วย

    และเมื่อใดก็ตาม ที่ระบบภายในของเรา คือธาตุทั้ง 4 ของเรา
    ทำงานกันอย่างสอดประสานกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
    ระบบต่างๆภายนอกตัวเรา ก็จะได้รับอิทธิพลในด้านบวกไปด้วย โดยอัตโนมัติ
    เพราะว่าจิตวิญญาณของธาตุทั้ง 4 นั้น นอกจากจะควบคุมธาตุในกายเราแล้ว
    ยังควบคุมธาตุนอกกายเราด้วย..

    ท่านบอกว่า "คุณจะสามารถควบคุมอะไรได้ ก็ต่อเมื่อคุณรู้ว่ามันมีอยู่เท่านั้น"
    ซึ่หมายความว่า ถ้าเราไม่รู้เลยว่าธาตุทั้ง 4 ก็มีจิตวิญญาณครองอยู่
    แล้วเราจะไปสื่อสาร หรือ ควบคุมพวกมันได้อย่างไร

    ไกอาบอกว่า ถ้าระบบภายในเราสมบูรณ์แบบแล้ว เราเดินบนดิน ดินก็ตอบสนอง
    เราไปใกล้น้ำ น้ำก็จะเงียบสงบ เราไปตรงไหน ธาตุที่อยู่ตรงนั้น
    ก็จะตอบสนองในด้านบวกเสมอ สัตว์ต่างๆก็จะอยากเข้ามาใกล้เรา
    ต้นไม้ใบหญ้าที่เราปลูก ก็จะเจริญงอกงามเป็นอย่างดี ซึ่งจะตรงข้ามกันคนที่ไม่สมดุล



    แบบนี้พอจะใกล้เคียงไม๊ครับ โพสท์ไว้เมื่อ 02-02-2013, 01:26 PM
    มนตราเบอร์ 415 จากกระทู้นักรบแสง หน้า 21
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2.306574/page-21

    Code:
    
    [I]เขียน พฤหัส 31 มค. 56 11.12 น.
    ที่หลังศาล แม่พระ ธรณี[/I]
    
    [COLOR="Blue"][SIZE="4"]"ธรณี นี่นี้ เป็นพยาน"[/SIZE][/COLOR]
    
    ....ขอบใจ ให้น้ำ นะนาค
    เมฆมาก มังกร ต้อนให้
    ฝนมา พาชุ่ม ฉ่ำใจ
    เรือกสวน นาไร่ ได้กิน
    
    ....ดินแล้ง แห้งคลาย กลายชุ่ม
    ดินนุ่ม นวลได้ คล้ายฝัน
    ดินชุ่ม ชื้นพืช ตื่นพลัน
    ดินลั่น ปั้นไม้ ให้โต
    
    ....น้ำโผล่ พ้นพื้น คืนชล
    น้ำล้น หลากให้ ได้ฝัน
    น้ำมา พาชน ชื่นบาน
    น้ำลั่น ฉันมา หาเธอ
    
    ....ลมเพ้อ เพราะเธอ เรียกหา
    ลมมา หาใคร ใจฝัน
    ลมรีบ รุดหน้า มาพลัน
    ลมลั่น หลั่นล้า ร่าเริง
    
    ....ไฟเพลิง เผาพระ อาทิตย์
    ไฟติด เผาไหม้ ไล่หนาว
    ไฟใจ เผาจิต ชนชาว
    ไฟเรา เป่าดับ ลับไป
    
    ....ขอบใจ ให้กับ สรรพสิ่ง
    แอบอิง อาศัย สุขสันต์
    โอบอ้อม ล้อมทรวง ซาบซ่าน
    แสนสุข สำราญ ซ่านทรวง
    [COLOR="blue"][SIZE="4"]
    กระต่ายป่า ข้างวัด / สีปาด[/SIZE][/COLOR]
    
    
    น่าจะเรียกได้ว่าสื่อสารกับธาตุทั้งสี่ได้นะ ว่ามั้ย
    โดยเฉพาะลมกับน้ำ พักนี้ได้คุยกันบ่อยเลยล่ะครับ


    ดังนั้น สิ่งที่เรา ผู้ซึ่งกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหลาย
    จะต้องทราบไว้ก็คือ "ให้ไหลไปตามกระแส" อย่าไปฝืนกระแส
    ซึ่งกระแสในที่นี้ ผมเองก็ไม่เคลียร์นัก แต่ต่างมิติเขาบอกแบบนี้แหละครับ
    และเขาก็อธิบายต่อประมาณว่า กระแสที่ว่านี้
    ก็คือกระแสพลังงานที่โอบล้อมทุกสรรพสิ่งอยู่ อะไรราวๆนั้นแหละครับ
    ถ้าทางพุทธเรา จะเรียกว่ากระแสธรรมได้ไหมนะ?


    เราว่าน่าจะเป็นกระแสของสภาพแวดล้อมล่ะมั้ง นะ
    คือให้ปรับตัวได้ตามสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว
    คล้อยตามธรรมชาติและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ ทันที อย่างกลมกลืน
    ตามเคล็ดวิชา "จิ้งจกเปลี่ยนสี" น่ะครับ 555


    ท่านมิคาเอลเคยบอกไว้ว่า เวลาเราไปมีสัมพันธภาพกับใครเขาไว้
    เราก็มักจะส่งสายป่านพลังงานจากจักระที่ 4 ของเรา
    ออกไปเชื่อมโยงกับจักระที่ 3 ของคนผู้นั้น
    ดังนั้น ถ้าเมื่อใดที่เราอยากจะให้มันจบลง ก็ให้เราจินตนาการไปว่า
    เห็นสายป่านแห่งแสงสว่างอันนั้น เชื่อมโยงอยู่ระหว่างเรากับเขา
    แล้วจากนั้น ก็ให้จินตนาการว่า เราจับกรรไกรมาตัดสายใยรักนั้น ให้ขาดหลุดลอยไป
    แล้วเขาหรือเธอผู้นั้น ก็หลุดลอยห่างหายไปจากเราไกลลิบตา ในบัดดล

    ผมก็ใช้วิธีนี้อยู่ครับ วันนี้ก็ใช้ไปหลายครั้งแล้ว
    คือทุกครั้งที่มีความคิด-ความทรงจำอะไรเกี่ยวกับสัมพันธภาพที่ว่านี้
    โผล่ขึ้นมาหละก็ ผมก็จะตัดฉับทันที


    เทคนิคการตัด เราก็เคยใช้เหมือนกันนะ ขอบอก
    ตัดเลย ตัดเลย ชับชับชับ ตัดให้ขาดเลย ชับชับชับ
    ฮัมเป็นเพลงเลยล่ะ ขาดกระเด็นได้เร็วดี แต่ก็ยังช้ากว่า
    เทคนิคการคุมเวทนา ด้วยอานาปา หมวดที่ 2
    ซึ่งใช้ตัดเวทนาได้ดี ใช้ควบกับวิชาปฏิจจะสมุบปบาท

    หรือเทคนิคช่างหัวมันก็ดีนะ เราชอบใช้บ่อยๆ เจ๋งเป้ง
    ถ้าชำนาญแล้ว สามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายสถานการณ์มากๆ
    แลกเปลี่ยนกันนะ

    ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  10. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตะก่อนผมชอบเอากรอบมาครอบตัวเองครับ อยู่ในนั้นรู้สีกดีและปลอดภัย ไม่มีอะไรมารบกวน ปลอดภัยอยู่ในกรอบของผม.แต่ทว่า.ผมคิดผิด..
    (ปัจจุบัน..กรอบแตกแล้วครับโดนผมทุบทิ้ง แล้วก็กระทืบซ้ำ55555
    ปล.ผมมีไอดอลลครับ ไอดอลลของผมคือคนที่ผมรัก.(ความดีชนะทุกสิ่ง)
     
  11. Love&Peace

    Love&Peace Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +86
    เพิ่งหายป่วย เป็นไข้ ปวดหัว นอนซมมา 2 วัน 20-21 มิย เกี่ยวกับ solstice หรือเปล่าเนี่ย
    ถ้าไม่มีอกหักวันนั้น วันนี้คงไม่ได้มีโอกาสมาพบข้อความอันมหัศจรรย์เหล่านี้ ที่นี้หรอก :cool:
     
  12. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เมื่อคืนฝันมีความหมายดีๆอยู่ short หนึ่งครับ
    ฝันว่าเห็นพวกเราหลายคน หลายกลุ่ม ซึ่งในนั้น
    ก็มีคุณ mead และ ผมด้วย กำลังเตรียมตัว
    เพื่อจะริเริ่ม project ใหม่ๆอะไรบางอย่างของตัวเอง
    ที่สร้างสรรค์มากขึ้นอยู่

    ในฝันผมเห็นคุณ mead กำลังจะออกแบบอัญมณีหลายชิ้น
    แต่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง รู้แต่หลายชิ้น และเห็นแค่โครงร่างของมันเท่านั้น
    ดูเหมือนผมกับคุณ mead จะคุยกันในฝันนะครับว่า
    ผมบอกคุณ mead ว่า..ประมาณว่า..

    "พวกเราก็รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าปี 2013 นี้ เป็นปีแรกเริ่มของยุคใหม่
    ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น พวกเราส่วนใหญ่ก็เลย
    ยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆกันจริงจังมากนัก
    เพราะว่าต่างคนต่างก็กำลังรอคอย และ จับตาดูความเป็นไปของปีนี้อยู่

    แต่พอย่างเข้าช่วงครึ่งหลังของปีนี้แล้ว พวกเราก็เลยเริ่มขยับกันแล้ว
    คือจะพากันริเริ่มทำโครงการอะไรใหม่ๆของใครของมันกันแล้ว"


    สังเกตว่า "วันที่" ที่ผมฝัน (ฝันช่วงเช้าของวันที่ 1/7/13)
    กับความเป็นเป็นไปในชีวิตจริงของผม มันจะเกี่ยวข้องกันด้วยนะครับ
    หรืออาจเรียกว่า เกี่ยวข้องกันเสมอด้วยซ้ำไป
    เหมือนใครมาช่วยจัดคิวให้พวกมันอยู่อย่างนั้นแหละ

    ในฝันผมเองก็กำลังเดินตระเวณหาซื้ออุปกรณ์สำหรับทำดอกไม้ประดิษฐ์อยู่
    ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไมนะ แต่ดูเหมือนว่าผมอยากจะได้ดอกไม้ดอกโตๆ
    และสีครีม อม ชมพู ด้วย อะไรประมาณนั้น

    ส่วนคุณ mead ก็ได้ร่างเค้าโครงของอัญมณีเอาไว้แล้วหลายชิ้น
    และแต่ละชิ้นก็โตเท่าฝ่ามือนี่แหละครับ ใหญ่มาก สงสัยจะราคาแพงนะเนี่ย

    และใน "ความรู้สึก" ในฝัน คือมองไม่เห็นหนะนะครับ แค่รู้สึกว่า
    พวกเราหลายคน ก็กำลังกุลีกุจอหาอุปกรณ์ และ/หรืออะไรแบบนั้น
    เพื่อริเริ่มโครงการใหม่ๆของตัวเองอยู่เช่นเดียวกัน...

    ก็นับว่า เป็นเรื่องที่ดีนะครับ..และผมก็เชื่อว่า ฝันนี้ กำลังสะท้อนให้เห็น
    ถึงความเป็นไป ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ ของพวกเราเองอยู่หนะครับ

    ดังนั้น ใครที่คิดจะทำอะไรใหม่ๆดีๆ ก็เริ่มต้นลงมือได้แล้วนะครับ อิอิ..

    ;aa8;aa8;aa8
    ......................................
     
  14. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    โอว... ดีจัง...
    เพราะเมื่อวานนี้... พึ่งจะปลื้ม... ที่มีโอกาสได้ทำที่พักเล็ก ๆ ไว้ในพุทธสถานสำหรับตัวเอง
    จริง ๆ ด้วย ... ว่าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว
    แต่ด้วยหลาย ๆ อย่าง .... ไม่เอื้ออำนวย... ก็เลยตัดใจเลิกคิดเลยดีกว่า ....
    ปรากฎว่า... อยู่ ๆ ก็มีโอกาสได้ทำเมื่อวานนี้เอง จูนกับเรื่องของวันเวลาที่คุณชยุตพูดไว้.... น่าทึ่งมากเลย :)
    (ข้างล่างเป็นภาพจากรีสอร์ทนะ แต่ของจริงที่ทำก็ประมาณนี้)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kuti.jpg
      kuti.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.4 KB
      เปิดดู:
      76
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2013
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เข้ามาอ่านแล้วอึ้งเลยครับ ฝันนี้ไม่ธรรมดาเลยครับคุณชยุต
    ยังไงก็ขอให้ทุกคนพบสิ่งดีๆ มีแต่ข่าวดีๆๆที่ทำให้เราทุกคนมีความสุขนะครับ:cool:



    ขอเล่าฝันเมื่อคืนอีกหน่อยนะครับ
    ฝันไปว่าได้เดินทางออกจากเมืองหลวงกับเพื่อนๆหลายคน ไปนอกเมืองที่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆเลย
    ทุกๆคนต้องเดินแถวเรียงหนึ่งข้ามสะพานไม้แคบๆเล็กๆ ที่จมอยู่ในน้ำ ราวครึ่งๆตัวคน
    สะพานก็ยวบๆ..ยิ่งเดินไปยิ่งเงียบลงๆ.....
    มองลงไปในน้ำก็เห็นศรีษะหินรูปหน้าคนขนาดยักษ์เหมือนอารยธรรมโบราณๆ
    แหงนมองสวนขึ้นมาบนผิวน้ำ อยู่ทั้งสองฝั่งดูน่าเกรงขามมาก...

    สักพักก็ไปถึงบ้านไม้ชั้นเดียวหลังนึงสภาพโล่งๆ ดูสงบเงียบ ลมพัดเย็นๆ
    มีคนนำทาง พาพวกเราที่เดินทางมาถึง ไปพบใครคนนึง เค้านั่งอยู่
    เห็นปุ๊บก็ เอ๊ะ หน้าเหมือนคุณแม่เราจัง....ท่านบอกว่าไม่ใช่หรอก
    เราเป็นใครก็ได้ ที่เธออยากให้เป็น.....ท่านก็พูดไปยิ้มไป....และก็มีอะไรอีกหลายอย่างที่ท่านบอกมา
    แต่ก็จำได้ไม่หมด เลือนๆไปน่ะครับ....ขากลับก็ชะโงกดูในน้ำอีกครั้ง
    ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนจากหินทึบตันไปเป็นวัสดุที่โปร่งใสขึ้นด้วยครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  16. neung xcm

    neung xcm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +874
    พี่มี๊ดผมขอบคุณพี่มากๆนะครับ วันก่อนพี่เข้ามาย้ำผมในฝันเรื่อง "ความรักความเมตตา" น่ะครับ จิตใจของพวกพี่ประเสร็ฐมากๆครับ พวกพี่ทั้ง 2 เป็นอาจารย์ของผมนะครับ ถึงพี่ชยุตจะไม่ให้ผมเรียกอาจารย์ก็เหอะ อิอิ ^_^

    ปล.ผมที่เคยใช้ชื่อ light worker ที่ถูกแบนไปแล้วน่ะครับ ที่ตอนนั้นผมทะเลาะกับตาโปรเซดอนแล้วพี่ทั้ง 2 ช่วยเคลียร์ให้น่ะครับ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2013
  17. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ดาวโลกกำลังสะอาดขึ้นเรื่อยๆนะครับ อิอิ
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    เราเข้ามารู้จักกันเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ต้องเรียกจารย์หรอกนะ
    เรียกว่าธรรมมะจัดสรรค์ดีกว่าครับ พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น
    อีกไม่นานครอบครัวต่างมิติก็จะลงมาสนทนาพูดคุยกับพวกเรากันอีกมากมาย
    โขคดีที่สุดแล้วล่ะครับที่ได้เกิดมาทันยุคนี้....พลาดไปน่าเสียดายออกครับ ^^
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คิดถึงคุณ axzon นะครับ....
    คิดถึงเพื่อนๆห้องวิทย์โนวา อนาลัย ทุกๆคนด้วย
    พี่นักเขียน สบายดี....กำลังเป็นนักวิทย์ นักทดลองอยู่ในแลปส่วนตัวครับ
    คุณเดรด เล่าให้ฟังว่า....ว่าพี่เค้าจะเปิดให้ดาวน์โหลดหนังสือทุกเล่มฟรีครับ
    เอาไว้เสร็จเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบในกระทู้นี้นะครับ ใครยังมีหนังสือไม่ครบบอกต่อๆกันได้ครับ
    .
     
  20. neung xcm

    neung xcm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +874
    อ่อครับ ผมรอวันนั้นมานานแระ สงสัยพวกเขาคงจะงานยุ่ง เลยเลื่อนการเปิดตัวอย่างอลังการไปก่อน แต่ผมคิดว่าคงจะอีกไม่นานแน่นอนครับ น่าจะเปิดเผยในช่วงที่เหมาะสมที่สุดอย่างที่เขาว่าแหละครับ และผมก็เชื่อว่าตอนนี้พวกเขาลงมาแปลงกายเหมือนมนุษย์ทั่วๆไปเพื่อลงมาทำงานภาคพื้นดินแล้วหล่ะครับ (ไม่ใช่ผมนะ ผมเป็นคนธรรมดา แต่แค่เรียนรู้สิ่งต่างๆตามที่พวกเขาได้ทิ้งเอาไว้น่ะครับ ถูกบ้างผิดบ้าง มั่วปะปนกันไป เพื่อค้นหาน่ะครับ อิอิ)

    ปล.อย่างที่พี่ว่าแหละครับ พวกเราเกิดมาช่วงท้ายประวัติศาสตร์มนุษยชาติพอดี หวังว่าผมคงไม่เป็นอะไรตายก่อนนะ - -"
     

แชร์หน้านี้

Loading...