ขอเชิญ ไปกราบพระอริยสงฆ์สุปฎิปันโนสิงห์บุรียุคนี้ หลวงพ่อฉาบ มังคโล วัดศรีสาคร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย TEERAYUTH, 13 กันยายน 2009.

  1. watz2009

    watz2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +96
    ได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อฉาบหลายหนครับ หลวงพ่อท่านใจดี คุยเก่ง ชอบเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟัง พระเกจิที่ยังมีชีวิตอยู่ของสิงห์บุรีก็เหลือแต่หลวงพ่อฉาบกับหลวงพ่อจรัญนี่แหละครับ
     
  2. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    เชิญร่วมบุญผ้าป่าวัศรีสาคร จ.สิงห์บุรี

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญทอดผ้าป่า สมทบทุนสร้างโรงครัว วัดศรีสาคร


    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]
    [​IMG] IMG_4827-1.JPG (49.73 KB, 400x268 - ดู 40 ครั้ง.)
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image021.jpg
      image021.jpg
      ขนาดไฟล์:
      167.9 KB
      เปิดดู:
      1,831
    • image024.jpg
      image024.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.1 KB
      เปิดดู:
      288
    • image031.jpg
      image031.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.9 KB
      เปิดดู:
      150
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  4. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    ประวัติหมอชีวกโกมารภัจจ์

    [​IMG]
    หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นบุตรของนางสาลวดี หญิงนครโสเภณี ในเมืองราชคฤห์ ตำแหน่งหญิงนครโสเภณีนั้นเป็นนามตำแหน่งที่ทางราชการบ้านเมืองของแต่ละเมืองแต่งตั้งให้ สำหรับคุณสมบัติของสตรีที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นหญิงนครโสเภณีนั้น จะต้องมีรูปร่างสวยงามที่สุดเล่นดนตรีได้ ขับร้องได้ ฉลาดในการรับแขก และต้องได้รับการคัดเลือกจากบรรดาเศรษฐีคหบดีและเจ้านายชั้นสูง
    ธรรมเนียมของหญิงนครโสเภณีนั้น เมื่อมีครรภ์จะงดรับแขกจนกว่าจะคลอดลูก และหากคลอดลูกเป็นหญิงจะเลี้ยงไว้เพื่อสืบทายาท หากเป็นชายจะให้คนอื่นเลี้ยงหรือนำไปทิ้งที่ใดที่หนึ่งเพื่อให้คนทั่วไปได้พบเห็นและเก็บเอาไปเลี้ยง
    เมื่อนางสาลวดีคลอดบุตรเป็นชาย จึงให้คนนำไปทิ้งที่กองขยะ เจ้าชายอภัยราชกุมาร ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าพิมพิสารทราบข่าวจึงเก็บมาเลี้ยงไว้ และตั้งชื่อว่า ชีวก (ผู้มีชีวิตอยู่) และมีนามต่อท้ายว่า โกมารภัจจ์ (ผู้ที่พระราชกุมารนำไปเลี้ยงไว้)ชีวก
    โกมารภัจจ์ได้ศึกษาวิชาแพทย์ที่สำนักทิศาปาโมกข์ เมืองตักกศิลาใช้เวลาศึกษาอยู่นานถึง 7 ปี จนสำเร็จวิชาแพทย์ ได้กลับมายังเมืองราชคฤห์ ระหว่างทางที่จะกลับ ได้ทำการรักษาเศรษฐี คหบดี และคนทั่วไป จนคนเหล่านั้นหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนมาก เมื่อท่านกลับมาถึงเมืองราชคฤห์ ก็ได้นำรางวัลค่าตอบแทนที่ได้รับถวายเจ้าชายอภัย ผู้ทรงเป็นบิดาเลี้ยงซึ่งเจ้าชายก็มอบคืนให้พร้อมกับสร้างบ้านพักแก่ชีวก โกมารภัจจ์ในพระราชวังนั้นเอง
    คราวหนึ่ง พระเจ้าพิมพิสารประชวรพระโรค “ภคันทลาพาธ” (โรคริดสีดวงทวาร) ชีวกโกมารภัจจ์ก็ได้ถวายการรักษาจนหายจากการประชวร พระองค์ได้โปรดให้เป็นแพทย์หลวงประจำพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนข้าราชการฝ่ายใน และได้พระราชทานสวนมะม่วงให้เป็นสมบัติด้วย ซึ่งต่อมาชีวก โกมารภัจจ์ ก็ได้ถวายสวนมะม่วงนั้นให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกทั้งหลาย
    หมอชีวก โกมารภัจจ์ ได้ถวายการรักษาแด่พระพุทธเจ้าเมื่อคราวทรงพระประชวรท่านจึงได้ถวายตัวเป็นแพทย์ประจำพระพุทธเจ้าและได้ให้การรักษาแก่พระสงฆ์ผู้อาพาธด้วย ท่านยังเป็นอุบาสกที่ดีคนหนึ่ง นอกจากจะถวายการรักษาพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ และประชาชนทั่วไปแล้ว ท่านมักหาเวลาเข้าเฝ้าทูลถามปัญหาข้อข้องใจในธรรมะจากพระพุทธเจ้าอยู่เสมอพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ ยกย่องหมอชีวก โกมารภัจจ์ ว่าเป็นอุบาสกผู้เลิศในด้านมีความเลื่อมใส เป็นหมอที่เสียสละและบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ชื่อเสียงและเกียรติคุณจึงรุ่งโรจน์อยู่กระทั่งทุกวันนี้ และในวงการแพทย์แผนโบราณ ได้ให้ความเคารพนับถือท่านว่า เป็น”บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ”

    คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
    1. เป็นผู้มีความเสียสละ หมอชีวก โกมารภัจจ์ ได้ทำการรักษาคนทั่วไปด้วยความเสียสละเป็นอย่างยิ่ง ท่านไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ท่านยังได้รับหน้าที่เป็นแพทย์หลวง และแพทย์ประจำตัวของพระพุทธเจ้า ดูแลรักษาการอาพาธของพระสงฆ์ ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงเป็นที่รักของปวงชนทั่วไป
    2. เป็นแบบอย่างที่ดี แพทย์แผนโบราณให้ความเคารพนับถือหมอชีวก โกมารภัจจ์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมกับฐานะ ให้การรักษาผู้เจ็บป่วยโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพนับถือผู้มีพระคุณ เช่นเมื่อท่านได้รับค่าตอบแทนจากการรักษาก็นำไปถวายเจ้าชายอภัยเพื่อบูชาพระคุณ เป็นต้น

    คาถาบูชาหมอชีวกโกมารภัจจ์

    [​IMG]

    คาถาบูชาบรมครูแพทย์หมอชีวกโกมารภัจจ์

    ตั้งนะโม ๓ จบ
    โอมนะโมชีวะโก สิระสา อะหัง การุณิโก
    สัพพะสัตตานัง โอสะถะ ทิพพะมันตัง ปะภาโส สุริโย จันทัง โกมาร
    ภัจโจ ปะกาเสสิ บัณฑิตโต สีเมธะโส อะโรคะยา สะมะนาโหมิ

    คำอธิฐานก่อนกินยา
    (จุดธูปเทียนแล้วอธิฐานว่า)
    ขออัญเชิญเดชะบารมี พระมหาอิทธิฤทธิ์
    บรมครูแพทย์ชีกวกโกมารภัจจ์
    จงมาประทานยาทิพย์และประสิทธิ์ประสาทให้โรคหายทันใจ
    สวาหะ นะอะ หะวะโรคา พยาธิ วินาศสันติ​










    <!-- END Content --><!-- Sidebar --><!-- END Content --><!-- Sidebar -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  5. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    พิธีบวงสรวง และ เททองหมอชีวก โกมารภัจจ์

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5246-1.JPG
      IMG_5246-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      102
    • IMG_5263-2.JPG
      IMG_5263-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      65.6 KB
      เปิดดู:
      85
    • IMG_5260-1.JPG
      IMG_5260-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      77.2 KB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_5246-2.JPG
      IMG_5246-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      163 KB
      เปิดดู:
      1,486
    • IMG_5242.JPG
      IMG_5242.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.8 KB
      เปิดดู:
      1,485
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2011
  6. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถึงว่าละครับพี่ผมไปทำงานที่ สิงห์บุรีตอนต้นเดือน ป้ายโฆษณาติดไว้ทั่วเมืองเลย

    อยากไปงานเททองด้วยแต่ติดงานไปไม่ได้ครับ ได้ชมรูปก็ยังดี:cool:
     
  7. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    พิธีบวงสรวง และ เททองหมอชีวก โกมารภัจจ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5308.JPG
      IMG_5308.JPG
      ขนาดไฟล์:
      122.6 KB
      เปิดดู:
      87
    • IMG_5333.JPG
      IMG_5333.JPG
      ขนาดไฟล์:
      154.3 KB
      เปิดดู:
      101
    • IMG_5334.JPG
      IMG_5334.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.6 KB
      เปิดดู:
      82
    • IMG_5342.JPG
      IMG_5342.JPG
      ขนาดไฟล์:
      107.1 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_5352.JPG
      IMG_5352.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.4 KB
      เปิดดู:
      99
    • IMG_5384.JPG
      IMG_5384.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113 KB
      เปิดดู:
      98
  8. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    เชิญร่วมบุญกันครับ

    ขอเชิญร่วม ปฏิสังขรณ์ หลวงพ่อทรัพย์หลวงพ่อสิน พระอัฏฐารสคู่เดียวในโลก อายุ 700 กว่าปี
    <!-- google_ad_section_end -->
    http://palungjit.org/threads/เธ‚เธญ...-เธเธงเนˆเธฒเธ›เธต.281873/page-2#post4446250

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]



    ประวัติ



    หลวงพ่อสิน หลวงพ่อทรัพย์ และประวัติวัดประโชติการาม



    ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี



    **************

    ประวัติวัดประโชติการาม (เดิมชื่อวัดประชด)
    ในอดีตกาลนานมาแล้ว ตามตำนานได้แจ้งว่ามีสัตว์หนึ่งมีลักษณะคล้ายสิงห์ อาศัยในถ้ำคูหา อยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งวิหารพระพุทธไสยาสน์ สิงห์ตัวนี้ได้ไปหากินแขวงเมืองชัยนาท ไปพบบุตรีของเศรษฐีผู้หนึ่ง (ไม่ปรากฎชื่อ) มีความปฏิพัทธ์รักใคร่ในนางนั้นเป็นกำลัง เมื่อได้ทีจึงรวบรัดนางนั้นขึ้นหลังพามายังคูหาแห่งตน และได้สมสู่เป็นสามีภรรยาด้วยกันมาช้านานก็มีครรภ์ ครั้งถึงกำหนดก็คลอดบุตรชายเป็นมนุษย์ บิดามารดามีความชื่นชมยินดีเป็นที่สุด และขนานนามบุตรว่า สิงหนพาหุ ครั้งสิงหนพาหุเจริญวัยขึ้น เมื่อสิงห์ผู้เป็นบิดาไปเที่ยวหาอาหารในป่า สิงหนพาหุก็ไปเที่ยวด้วยเสมอ แต่หาทราบไม่ว่าสิงห์นั้นเป็นบิดาของเธอ วันหนึ่งได้โอกาสจึงอ้อนวอนตามมารดาว่าบิดาของข้าพเจ้าคือใคร มารดาจึงตอบเป็นนัย ๆ ว่าวันนี้เจ้าไปเที่ยวกับใครคนนั้นแหละคือบิดาของเจ้า สิงหนพาหุเมื่อทราบชัดว่า สิงห์นั้นเป็นบิดาของตนตามคำมารดาบอก ก็เกิดความโหมนัสน้อยใจ คิดละอายแก่เพื่อนมนุษย์ ด้วยว่าบิดาของตนเป็นสัตว์เดรจฉาน เหตุนี้เองจึงทำให้สิงหนพาหุคิดเห็นผิดเป็นชอบ คอยหาโอกาสที่จะประหารชีวิตบิดาเสีย ครั้งวันหนึ่งคิดเห็นอุบายอันเหมาะสม ที่จะทำลายชีวิตบิดาได้แล้ว ก่อนจะไปป่าจึงขอให้มารดาห่ออาหารให้พ่อหนึ่งแล้วเดินทางเข้าสู่ป่า พร้อมกับสิงห์ผู้เป็นบิดา พบสัตว์ฝูงหนึ่งที่ใกล้บริเวณต้นโพธิ์ สิงห์จึงให้บุตรคอยอยู่ใต้ต้นโพธิ์นั้น ตอนออกเที่ยวจับสัตว์ในป่าเพลินอยู่ ฝ่ายสิงหนพาหุคอยบิดาอยู่ เมื่อไม่เห็นบิดากลับมาจึงขึ้นต้นโพธิ์ตระโกนร้องเรียก เมื่อบิดากลับมาถึงแล้ว จึงจัดอาหารให้รับประทานภายใต้ต้นโพธิ์ สิงหนพาหุถืออาวุธแอบหลังคอยทีอยู่ พอได้ทีก็ฟันคอบิดาขาดตายในที่นั้นจึงตัดกิ่งโพธิ์คลุมศพบิดาไว้ในสถานที่นั้น ๆ จึงมีนามว่าโพธิ์ตระโกนตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ครั้งเสร็จจากการทำลายชีวิตบิดาแล้ว จึงกลับมายังคูหาแจ้งความตายที่ตนได้ปลงชีวิตบิดาแก่มารดาทุกประการ นางมีความเศร้าโศกร่ำไห้ถึงสามีมิวายวัน ครั้งวายโศกแล้ว จึงปรึกษากับสิงหนพาหุ จะปลงศพบิดาเจ้าที่ไหนจึงจะสมควร ได้รับตอบว่าควรจะปลงศพที่โคกจันทร์ซึ่งเป็นบริเวณใกล้คูหา เป็นอันตกลงนำศพมาทำฌาปนกิจที่โคกจันทร์บัดนี้ สถานที่นั้นก็ยังมีปรากฎอยู่ ครั้งปลงศพเสร็จแล้ว สิงหนพาหุจึงอาราณนาพระเถรานุเถระทั้งหลายให้มาประชุมพร้อมกัน ในสถานที่สมควรแห่งหนึ่งแล้วจึงเรียกถามว่า บัดนี้ข้าพเจ้าได้พิจารณาโทษที่กระทำผิดต่อบิดานั้นแล้ว จะกระทำอย่างไรดีจึงจะพ้นโทษนั้นได้ พระสงฆ์ทั้งหลายจึงบอกว่าควรจะสร้างพระพุทธรูปและกุฏิวิหารถวายเป็น สังมิการาม แด่พระสงฆ์ทั้หลาย ผู้มาแต่จาตุทิศทั้งสี่นั่นแหละเห็นว่าจะเป็นบุญกุศลช่วยบรรเทาบาปกรรมอันหนักยิ่งของท่านได้บ้าง สิงหนพาหุจึงได้เริ่มก่อสร้าง พระพุทธไสยาสน์ขึ้นองค์หนึ่ง เอาทองคำโคสมกำยาว 1 เส้น ทำเป็นแกนพระพุทธรูปได้สร้างทับคูหาไว้ และสร้างกุฏิวหารเป็น พระอารามสำเร็จบริบูรณ์ จึงได้มีการประชุมพระสงฆ์ ฉลองถวายปัจจัยไทยธรรมครั้งเสร็จแล้ว จึงเรียนถามพระสงฆ์อีกวาระหนึ่งว่า ด้วยเดชะอำนาจกุศลสมภาร ที่ข้าพเจ้าได้ก่อสร้างพระพุทธรูปและพระอารามนี้ จะพ้นโทษได้หรือยัง พระสงฆ์จึงบอกว่า อาจเป็นอานิสงส์ช่วยได้บ้างแล้ว ครั้งต่อมาสิงหนพาหุ จึงได้จัดสร้างพระอารามขึ้นที่ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ทำลายชีวิตบิดาถึงแก่กรรมอีกแห่งหนึ่ง จึงได้นามว่า วัดสะบาป บัดนี้ยังปรากฏอยู่ แต่ร้างเสียแล้ว ครั้งสร้างวัดสะบาปแล้วมาสร้างวัดกึ่งโยชน์ ปัจจุบันเรียกว่า วัดยวด อยู่บนถนนสายสิงห์บุรี บางระจัน มีพระนั่งอยู่สององค์สิงหนพาหุกลัวว่าบาปยังไม่สิ้นไปจึงมาสร้างขึ้นอีกวัดหนึ่งชื่อ วัดประชด เพื่อให้บาปพ้นไปเพื่อเป็นการชดเชยหรือประชดให้ จึงได้สร้างพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติขึ้น 2 องค์ และได้ขนานนามว่า หลวงพ่อสิน สูง 3 วา 3 ศอก 5 นิ้ว ส่วนองค์หลังขนาดนามว่า หลวงพ่อทรัพย์ สูง 6 วา 7 นิ้ว และด้านหลังมณฑกหลวงพ่อสร้าง ได้สร้างพระมหาเจดีย์ใหญ่องค์หนึ่ง แต่บัดนี้ได้ทรุดโทรมหักพังเหลือแต่ซาก เมื่อทางคณะกรรมการวัดได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถหลังปัจจุบัน ก็ได้ช่วยกันถมดินและเศษอิฐ ซึ่งสลักหักพังมาถมพื้นอุโบสถให้สูงเสมอกับวิหารหลวงพ่อทั้งสององค์ แต่น่าอัศจรรย์ตรงกลางพระเจดีย์ไม่มีใครสามารถทำลายได้ คงปล่อยให้เป็นโคกสูงอย่างนั้นเอง จนกระทั่งวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปี พ.ศ.2496 พระอธิการปั้น ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่วัดยาว ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี ได้ครุ่นคิดอยู่เสมออยากจะมาเที่ยววัดประชดเหลือเกิน บังเอิญวันดังกล่าวก็มีโอกาสได้มา ก็เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก จนพระอธิการปั้นไม่สามารถกลับวัดได้ จนเวลาบ่าย 6 โมงเย็นจึงหาย พระอธิการปั้นจึงได้เข้าไปนมัสการหลวงพ่อสิน และหลวงพ่อทรัพย์ แล้วก็ออกเดินทางไปด้านหลังหลวงพ่อทรัพย์จะออกถนนเหลือยแถไปทางด้านพระเจดีย์ ซึ่งตอนนั้นเป็นดินอยู่ แลเห็นพระพุทธรูปยืนอยู่บนโคกดิน ดังนั้น ท่านจึงเกินไปตั้งใจจะไปเอาพระพุทธรูป พระพุทธรูปนั้นก็จางหายไป เห็นแต่ไหใบใหญ่มีฝาปิดโผล่อยู่บนผิวดิน จึงเข้าไปเอาปลายร่มกระทุ้งดู เห็นฝาเปิดไหอยู่จึงเข้าใจว่าคงจะเป็นกรุพระหรือของมีค่าแน่นอน จึงรีบไปบอกพระภายในวัดประชดนี้ให้มาดู แล้วช่วยกันลอกขุดดู (พระขณะนั้นมีพระเต่า พระฉ่ำ พระหยวก พระแหยม และนายปลั่งซึ่งกำลังเป็นนาคอยู่) ในขณะที่ขุดนั้นได้เกิดปาฏิหาริย์ เสียงดัง แต่ก็ไม่พบอะไร เมื่อตั้งสติดีแล้ว ก็ช่วยกันยกไหซึ่งมี 4 หูแบบโบราณ เมื่อเปิดฝาออกดูก็พบพระเครื่องปางต่าง ๆ มากมายและตอนกลาง ๆ ไหก็มีพระบูชาปางต่าง ๆ หลายสิบชนิด กำไรข้อมูลแบบทองคำ ทองเหลือง แหวนแบบหนวดกุ้งอย่างเก่ามากมาย พระจึงให้มรรคทายกไปแจ้งเรื่องให้ ท่านเจ้าคุณสิหราชมุนี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี วัดสังฆราชาวาส เมื่อพระคุณเจ้ามาถึงวัดประชด ก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจดูพระและจำนวน และได้นำออกให้ประชาชนเช่าเพื่อนำรายได้ไปสมทบในการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เทพื้นและช่อฟ้าหน้าบรรณและทำฝาผนัง และแท่น พระประทาน ขณะนี้ยังเหลือแต่ไห 4 หู ซึ่งสำหรับใส่น้ำพระพุทธมนต์ประจำวัดเป็นประจำมีความศักดิ์สิทธิ์ ตามความปรารถนาของผู้ขก ฝาไหนั้นขณะที่ได้กรุใหม่ ๆ มีประชาชนมาชมกันมากก็เอาฝาเปิดวางไว้ข้างไฟ ได้มีเด็กชายเบี้ยว ชัยศิลป์จะเข้าไปดูในไห ดูไม่ถึงเหยียบไปบนฝาไห แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์ล้มลงเดินไม่ได้ หลวงพ่อฟุ้ง อุตตโม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดสะเดา ขณะได้กรุพระท่านมาช่วยบัญชางานที่วัดประชดด้วย และท่านได้ตั้งเจตนาว่าจะนำพระบูชาและพระเครื่องไปให้คนเช่าและจำนำเงินมาสร้างพระเจดีย์แทนเจดีย์องค์เก่า และท่านได้บอกบิดามารดาของเด็กชายเบี้ยวให้มาขอขมา และอาราธนาน้ำมนต์ที่โอ่งนั้นไปให้เด็กดื่ม และอาบ เด็กชายเบี้ยวก็หายเป็นปกติเดินได้ในวันนั้นเอง
    วัดประชดนี้สร้างมาประมาณหลายร้อยปีแล้วคงจะเป็นสมัยสุโขทัย เพราะได้พิจารณาสิ่งปรักหักพัง และองค์พระพุทธรูปและลวดลายฝาผนัง และทรุดโทรมมาแต่ครั้งใดไม่มีใครสันนิษฐานได้ถูกต้อง เพราะเมื่อข้าพเจ้าจำความได้ และได้รับคำบอกเล่าจากญาติผู้ใหญ่ว่า หลวงพ่อสินองค์หน้าน้น ซุ้มวิหารและกำแพงพังเหลือแต่องค์หลวงพ่อสิน องค์ท่านเอนจวนจะล้ม ในขณะนั้นมีสามเณรที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ใต้วัดประชด ได้ไป จำพรรษาและเรียนภาษาบาลีที่วัดมหรรณ์ กรุงเทพฯ ได้ขึ้นมาเยี่ยมญาติโยมเห็นว่าองค์หลวงพ่อจะล้ม จึงได้ชักชวนญาติโยม เอาไม้เสามาค้ำองค์หลวงพ่อไว้ แล้วได้ตั้งสัตย์อธิษฐานว่าถ้าต่อไปข้าพเจ้าประกอบอาชีพอะไร ถ้าร่ำรวยจะกลับมาสร้างวิหารให้หลวงพ่อ ก็เป็นจริงเพราะสามเณรองค์นั้นคือ ท่านมหาสม พ่วงภักดี ได้ทำการค้าหนังสือเกี่ยวกับ พระธรรมวินัย และพระไตรปิฎก จนมีเงินพอจะปฏิสังขรณ์องค์หลวงพ่อได้ ก็มาสร้างวิหารที่องค์หลวงพ่อสิน ดังที่ปรากฏอยู่ในทุกวันนี้ และท่านมหาสม ก็ดำเนินกิจการเจริญรุ่งเรืองและได้ทำการเฉลิมฉลองและได้ทำการเปิดกรุ รูปเหรียญ หลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน โดยได้อาราธนาพระเกจิอาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณเมื่อ พ.ศ.2502 โดยมีหลวงนฤนาท ประไพ เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ และท่านพระครูเกศีวิกรม (หลวงพ่อพูล) วัดสังฆราชาวาส สิงห์บุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีท่านเจ้าคุณสิงหปุราจารย์ (หลวงพ่อลพ) วัดโบสถ์ อินทร์บุรี หลวงพ่อเปิ่น เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ หลวงพ่อเชน เจ้าอาวาสวัดสิงห์ หลวงพ่อสาด วัดเสาธงทอง หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา ได้ร่วมกันทำพิธีปลุกเสก ซึ่งพระคุณเจ้าทุกองค์ก็ได้ล่วงลับไปหมดแล้ว และเหรียญที่ได้กระทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ได้จัดจำหน่ายแก่ประชาชน เพื่อนำรายได้มาบูรณะซ่อมแซมกุฏิ ส่วนเหรียญที่เหลือ หลวงพ่อพูล ได้รวบรวมไปเก็บไว้ที่วัดสังฆราชาวาสเหรียญนี้มีคนนำไปใช้ได้ผลดีทางเมตตามหานิยม ค้าข้าย หาลาภ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ป้องกันภัยได้ดีมาก จนประชาชนเข้าใจว่าเหรียญนี้ได้หมดสิ้นไปแล้ว และทางวัดก็ไม่เคยได้สร้างเหรียญชนิดนี้อีกเลยจนเมื่อ พ.ศ.2516 ข้าพเจ้าได้ไปอาราธนาพระครูบรรสารวิจิตร เจ้าคณะอำเภอเมืองสิงห์บุรีองค์ปัจจุบัน ไปเป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ ท่านเจ้าคณะอำเภอได้มอบเหรียญหลวงพ่อสินและหลวงพ่อทรัพย์ซึ่งมีอายุมาร่วม 35 ปี รุ่นเก่ามาให้ประชาชน จึงได้ทราบว่าหลวงพ่อพูลนำไปเก็บนั้น ยังอยู่ไม่หมด และเป็นเหรียญรุ่นนั้นรุ่นเดียว บัดนี้ทางวัดได้นำมาให้ประชาชนได้เช่า ตั้งแต่วันทำพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ ถ้าใครจ้องการก็ไปติดต่อคณะกรรมการวัดได้ทุกเวลา ช้าไปอาจจะหมดก็ได้








    หลวงพ่อสิน หลวงพ่อทรัพย์

    ประวัติและอภินิหารหลวงพ่อสิน หลวงพ่อทรัพย์
    ในขณะนี้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลและใกล้กับวัดประโชติการาม ซึ่งมีความเคารพและเชื่อมั่นในหลวงพ่อสินและหลวงพ่อทรัพย์ที่จะช่วยปิดเป่าความทุกข์ร้อนของท่าน ด้วยการอาราธนาศีลจากหลวงพ่อสินองค์หน้า และเราก็ไปขอพรจากหลวงพ่อทรัพย์ ท่านที่ต้องการสิ่งใดก็สมความปรารถนา เช่นที่ได้มีปรากฏมาแล้ว ได้แก่การค้าขาย ก็นำโชคลาภมาให้และช่วยปัดเป่าภัยอันตรายต่าง ๆ ตลอดจนการเจ็บปวดโรคปัจจุบันก็ได้หายในชั่วพริบตาทุกวันนี้มักจะได้เห็นการแก้บนเป็นประจำส่วนมากประชาชนมักพูดกันว่า ถ้าใครบนด้วย ใบศรี หัวหมู ข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม ประทัด หลวงพ่อชอบมากได้ผลทันตาเห็น
    หลวงพ่อทรัพย์มีความสูง 6 วา 7 นิ้ว หลวงพ่อสินสูง 3 วา 3 ศอก 5 นิ้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  9. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">ตัวอย่าง ลูกอม ที่เสร็จแล้ว
    รอให้แห้งสนิท และจะนำมาตอกโค้ด
    และใส่ถุงที่มีกระดาษเขียนว่า
    ลูกอม อธิฐานจิตโดยหลวงพ่อฉาบ
    วัดศรีสาคร ขณะนี้ต้องรอให้ปั้นใด้จำนวนหนึ่ง
    และทำการตอกโค้ดและใส่ถุง และจะนำมาให้หลวงพ่อ
    ท่านอธิฐานจิตอีกที่ก่อนที่จะแจกหรือนำมาให้บูชากัน
    ก็ต้องรอหลวงพ่อท่านครับ อดใจอีกนิด แต่ที่ใด้ยินมาล่าสุด
    หลวงพ่อท่านบอกว่า ลูกอมนี้ใครพกติดตัวไว้ดี แคล้ว คลาด
    ปลอดภัย เงินทองไม่ขาดมือ ใครมีกูไว้ไม่จน
    รอกันอีกซักนิดครับ ตอนนี้ลูกอมที่ปั้นเสร็จแล้วเก็บไว้ในห้องนอนของหลวงพ่อ

    [​IMG] </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]
    [​IMG] IMG_5601.JPG (60.9 KB, 414x420 - ดู 244 ครั้ง.)
    [​IMG]
    [​IMG] IMG_5602.JPG (60.16 KB, 420x397 - ดู 239 ครั้ง.)

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext id=modified_344470 vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    เอ จะใช่หลวงตาฉาบ องค์เดียวกันหรือป่าวเนี่ย

    ผมไปกราบท่าน เพราะหลวงพ่อองค์นึงที่กาญจนบุรี ท่านแนะนำให้ไปกราบ

    ผมเองก็ไปกราบหลวงตาฉาบโดยที่คิดว่า หลวงพ่อคงเคยเจอกัน รู้จักกันมาก่อน

    แต่พอไปกราบหลวงตาฉาบพูดให้ท่านฟังว่า มากราบท่านได้อย่างไร

    ท่านก็บอกเลยว่า ท่านไม่เคยรู้จักหลวงพ่อที่กาญจนบุรีมาก่อน ผมก็งงว่าเอ

    แล้วหลวงพ่อที่แนะนำมาท่าน รู้ได้ยังไง พอไปถามท่านก็เลย อ๋อ

    คิดว่าท่านคงไม่เคยเจอกันทางกายเนื้อ แต่กายทิพย์นี่ก็ไม่แน่
     
  11. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    เสร็จแล้ว บอกผมด้วยนะคร้าบ สนใจมากๆ
     
  12. พฤศจิกา

    พฤศจิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +3,046
    น่าสนใจครับของหลวงพ่อฉาบผมยังไม่มีเลยครับ
     
  13. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
  14. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
  15. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8939-2.JPG
      IMG_8939-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      198.3 KB
      เปิดดู:
      1,150
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2011
  16. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    หลวงพ่อท่านมีดำริ สร้างวิหารคต ที่บริเวณโคกโบถเก่า
    โดยที่ ภายในโดยรอบ หลวงพ่อท่านจะนำพระพุทธรูป
    ประจำวัน มาตั้งให้บูชา
    ตัววิหารนี้ มีหลังคามุงกระเบื้องสี ฝ้าเพดานบุด้วยไม้สัก
    งบประมาณการสร้าง 11 ล้านบาท

    http://www.sittloungpormhui.com/board/index.php?topic=38689.0
     
  17. putsudsoi

    putsudsoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +8,395
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร

    ตัวผมเองได้ไปกราบทำบุญกับหลวงพ่อมาประมาณหนึ่งปี แต่ได้เจอประสบการณ์กับหลวงพ่อมาหลายต่อหลายเรื่องเล่ากันได้เป็นวันๆ หลวงพ่อฉาบเป็นครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือมากและระลึกถึงท่านอยู่เสมอทุกวัน

    ตอนผมบวชเรียนอยู่ที่วัดมะนาวหวาน จ.อ่างทอง ผมยังมีโอกาสไปกราบท่านที่วัดศรีสาครถึงสามครั้ง ได้พบกับพี่ยุทธครั้งแรกก็ตอนผมบวชอยู่ในวันที่หลวงพ่อท่านลงจากกุฏิมาเยี่ยมชมศาลาฯ นับว่าเป็นบุญของผมที่ได้อยู่ในวันที่หลวงพ่อลงจากกุฏิ

    เมื่อเช้าวันที่11เมษายนที่ผ่านมาผมฝันถึงหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ในฝันผมกราบเรียนท่านไปว่าพระอุปัชฌาย์ของผมท่านละสังขารแล้ว ในฝันท่านยิ้มและตอบผมกลับมาว่าท่านทราบแล้ว ในฝันผมกราบเรียนถามท่านว่าหลวงปู่เสียนท่านมาบอกหลวงพ่อเหรอครับ ท่านยิ้มแล้วบอกว่าใช่ ในฝันผมกราบเรียนถามท่านต่อไปว่าหลวงพ่อกับหลวงปู่เสียนคุยกันทางจิตตั้งแต่สมัยที่ผมยังบวชอยู่ใช่มั๊ยครับ ท่านยิ้มแล้วตอบว่าใช่

    ผมตื่นขึ้นมาเลยรีบไปกราบทำบุญกับหลวงพ่อ นำผ้าไตรจีวรไปถวายท่าน ขอให้ท่านแผ่เมตตาจิตอุทิศถวายแก่หลวงปู่เสียน ปภากโร ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของผมที่ท่านเพิ่งละสังขารไปเมื่อวันที่3เมษายนที่ผ่านมา ท่านถามถึงพระอุปัชฌาย์ของผมเป็นประจำทุกครั้งที่ผมไปกราบท่านตั้งแต่สมัยที่ผมยังบวชจนผมสึกมาเกือบปี จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านคงเคยคุยกันแต่ไม่ใช่ทางกายเนื้อ (หลวงปู่เสียนเองก็เคยถามผมว่าแกไปกราบหลวงพ่อท่านว่าไงมั่งอยู่หลายครั้ง)

    ผมอยากจะขอเชิญชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านให้มาร่วมบุญกับหลวงพ่อฉาบท่านนะครับ

    ขอโมทนาสาธุกับพี่น้องทุกท่านด้วยครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  18. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    ขอเชิญร่วมงาน มุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 7รอบ 84 พรรษา พระครูมงคลนวการ หลวงพ่อฉาบ มังคโล

    วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555


    กระทู้นี้ครับ

    ขอเชิญร่วมงาน มุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 7รอบ 84 พรรษาหลวงพ่อฉาบ

    http://www.sittloungpormhui.com/board/index.php?board=115.0

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  19. TEERAYUTH

    TEERAYUTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    5,056
    ค่าพลัง:
    +7,851
    เชิญร่วมงาน มุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 7รอบ 84 พรรษา พระครูมงคลนวการ หลวงพ่อฉาบ มังคโล

    วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555


    กระทู้นี้ครับ

    ขอเชิญร่วมงาน มุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 7รอบ 84 พรรษาหลวงพ่อฉาบ

    http://www.sittloungpormhui.com/boar...hp?board=115.0

    [​IMG]
     
  20. ชายชุดขาว

    ชายชุดขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    4,007
    ค่าพลัง:
    +12,706
    อนุโมทนาด้วยครับ ผมคงไม่ได้ไปร่วม แต่จะไปวันเสาร์ที่ ๑๕ ก.ย. กับคณะรวม 20 คน (รถตู้ ๒ คัน)

    เดือนก่อนฝันถึงหลวงพ่อฉาบ ท่านได้มอบมีดเทพศาสตราโบราณที่พบในพระเจดีย์เก่าให้ หลายเล่ม

    ฝันนี้คงดีไม่น้อยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...