ขอเชิญร่วมหล่อสร้างพระพุทธโสธร๓๐นิ้วเพื่อสันติสุข

พนง.บมจ.ทีโอทีและคณะร่วมบริจาคอีก380บาท<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>พนง.บมจ.ทีโอทีและคณะร่วมบริจาคอีก380บาท

 

วันนี้นำปัจจัยไปจ่ายค่ามัดจำฐาน12นักษัตร สำหรับ

1.พระหลวงพ่อพุทธโสธรหล่อดินไทยโบราณทั้งองค์ด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ทองแดงเพื่อสันติสุข หน้าตัก30นิ้ว 1ฐาน (ประดิษฐาน ณ ปัตตานี 4จังหวัดภาคใต้ สันติสุขไทย สืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นรัตนตรัยบูชา พร้อมด้วยพระรูป พระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เลิศด้วยปัญญาพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ผู้เลิศด้วยฤทธิ์ พระสิวลี พระอสีติสาวก ผู้เลิศด้วยบริวารและลาภ พระอุปคุตพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ กำลังพิจารณาหล่อพระปิดตาควัมปติไปประดิษฐานอีกองค์ด้วยครับ)

2.สำหรับพระหลวงพ่อโสธรเจโตวิมุติหล่อดินไทยโบราณทั้งองค์ด้วยเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก19นิ้ว 1ฐาน (ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ที่สำนักเจโตวิมุติ ตลิ่งชัน กทม.สืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นรัตนตรัยบูชา)

3.สำหรับพระหลวงพ่อโสธรหล่อดินไทยโบราณทั้งองค์ด้วยเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก19นิ้ว1ฐาน (ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ที่หอสรงน้ำพระ วัดป่าสายหลวงปู่มั่นฯอุดรธานีหรือร้อยเอ็ดสืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นรัตนตรัยบูชา)

เพื่อยกให้ท่านสูงเด่นสง่าปรากฏชัดเป็นที่บูชาแด่ศรัทธาสาธุชนสรรพสัตว์ขึ้นเป็นพิเศษเพิ่มเติมจากปกติ สืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นรัตนตรัยบูชาครับ

รวมเป็นเงินมัดจำ 16,000บาทครับ
คาดว่าจะดำเนินการหล่อได้ภายใน1-2สัปดาห์นี้ ถ้าไม่มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงครับ

ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ

 

วันนี้ได้เห็นองค์หลวงพ่อพระพุทธโสธรหล่อดินไทยโบราณทั้งองค์ด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ทองแดงเพื่อสันติสุข หน้าตัก30นิ้ว งดงามเข้มขลัง พระพักตร์ท่านดูขรึมมีตบะเดชะ ยังศรัทธาให้เกิดแก่ผมได้มากครับ

เสียดายไม่ได้ติดเอากล้องไปถ่ายรูปมาให้อนุโมทนาบุญกุศลบารมีกันครับ
ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ

 

ได้โทรกราบเรียนยืนยันกับพระอาจารย์ยุคลธรณ์ท่านถึงกำหนดวันหล่อฐานพระ ท่านเพิ่งกลับมาจากภาคใต้ ท่านแนะนำให้จัดหล่อพร้อมกันทีเดียวกับองค์ปฐมเงิน หน้าตัก18นิ้วครับ
ในช่วงประมาณออกพรรษา ณ ที่วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรมครับ

กำหนดการหล่อฐานพระทั้ง3ก็จะเป็นช่วงออกพรรษา ครับ
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกันครับ

ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยอันดีงามให้การทั้งหลายสำเร็จเรียบร้อยโดยดีงามด้วยเทอญ


ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ

 

พนักงานทีโอทีร่วมทำบุญอีก360บาท

พนักงานทีโอทีร่วมทำบุญอีก360บาท

 

ดต.หญิงท่านหนึ่งบริจาค300บาท

ดต.หญิงสถานีทุ่งสองห้องท่านหนึ่งบริจาค300บาท

ท่านเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนการหล่อหลวงพ่อโสธร 3ภูมิภาคตั้งแต่ตอนแรกครับ

 

วันอาทิตย์ 10 เมษายน
จะดำเนินการหล่อฐาน 12 นักษัตร ของหลวงพ่อโสธร30 นิ้วร่วมกับฐาน12นักษัตรองค์19นิ้ว2องค์ ณสถานปฏิบัติธรรมเจโตวิมุติ กาญจนบุรี ร่วมกับองค์ปฐม 5.9เมตร1องค์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า2เมตร5องค์ครับ

 

<TABLE class=MainTb border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR class=SubIntroR><TD class=BorderA colSpan=3>รายการเสร็จสมบูรณ์</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>โอนจากบัญชี</TD><!--<td width="100">SAVING-01 </td> <td width="150" class="BorderR">THB 85,003.25</td>--><TD class=RightCL colSpan=2>622-2-02684-8</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้โอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>นาย พีรพงศ์ ชมจินดา </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>เลขที่บัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>006-7-00383-0</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>ธ.กรุงเทพ - BBL</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>MR KUSONMONGK</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>จำนวนเงิน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>40.00</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ค่าธรรมเนียม </TD><TD class=RightCL colSpan=2>20.00</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>วันที่ได้รับยอดเงินโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>18/04/2011 17.30 น.</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>วันที่ตัดยอดเงินจากบัญชี</TD><TD class=RightCL colSpan=2>18/04/2011</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>หมายเลขอ้างอิงรายการ</TD><TD class=RightCL colSpan=2>tmbi7937786</TD></TR></TBODY></TABLE>
ถวายปัจจัยร่วมทำบุญทุกอย่างร่วมหล่อสร้างพระพุทธโสธรเนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตัก 30 นิ้วเพื่อสันติสุขไทย ประดิษฐาน ณ วัด 3 จังหวัดใต้ โมทนาบุญทุกท่านทุกดวงจิต น้อมถวายเป็นพระราชกุศล น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา พุทธะสังมิ นิพพานสุขัง
ปล.ร่วมทำบุญทุกอย่างกับคุณมุ่งใจเต็ม

 

สาธุๆๆ อนุโมทามิครับ คุณao.angsilaด้วยอย่างยิ่งครับ

ขออนุญาตรายงานรายละเอียดโครงการตอนนี้ดังนี้ครับ
ครั้งนี้ได้ดำเนินการหล่อฐาน12นักษัตรทั้ง3 ฐาน พระกริ่งแม่สอนลูก6ช่อๆละ6 องค์ องค์แยก6องค์ตามกำลังวันอาทิตย์ ร่วมกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ณ สถานปฏิบัติธรรมเจโตวิมุติ กาญจนบุรี 5.9เมตร1องค์ (ขณะนี้ทางพระครูวินัยธรพระอาจารย์ยุคลธรณ์ กำลังขยายที่ดินวัด สร้างอุโบสถ ปรับปรุงเสนาสนะวัดจากพื้นที่ป่า สวน นับว่าเริ่มต้นขยายเป็นปฐมการ ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาต่อโอกาสอันเป็นวรมงคลนี้ ติดต่อร่วมบุญกับทางสถานปฏิบัติธรรมทั้งทางที่ตลิ่งชัน กทม. และกาญจนบุณีนะครับ)

ได้ให้ช่างอัญเชิญองค์พระพุทธโสธร30นิ้วที่ยังแต่งไม่้เสร็จมาให้ญาติโยมได้ร่วมเป็นสักขีพยานบุญในรถกะบะใกล้บริเวณหล่อทองผสมด้วยครับ บางท่านอาจสังเกตุเห็นครับ นำกลับไปแต่งองค์พระ รวมทั้งพระอัครสาวกสารีบุตร พระอัครสาวกโมคคัลลานะ พระสิวลีเอตทัคคะเลิศทางลาภและบริวาร พระอุปคุตผู้ปราบพญามาร ปฐวีธาตุนับพันก้อนที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระคณาจารย์กรรมฐานสายต่างๆเพื่อบรรจุในองค์หลวงพ่อพระพุทธโสธร

ครั้งนี้ได้จ่ายค่าดำเนินการหล่อพระนอกสถานที่ 10,000บาทครับ มีเพื่อนศิษย์เก่าสวนกุหลาบ OSK98ร่วมบุญมาประมาณ4,000บาทครับ ถ้าจะมีใครมาเพิ่มเติมทั้งประสงค์จะออกนามก็ดีไม่ออกนามก็ดีผมก็จะสมทบให้ในส่วนนี้นะครับ ในงบประมาณ6พันบาทซึ่งผมปิดไปก่อน ถ้าไม่มีใครบริจาคเพิ่มเติมผมก็ขออนุญาตปิด(มีประโยชน์ไว้เผื่อขาดเหลือตกหล่น จะได้ไม่เกิดหนี้สงฆ์ต่อกระผม บางกระทู้บุญกุศลที่ผมเปิดบางที่มีบางท่านใจบุญกุศลเมตตาร่วมบริจาคมาแล้วไม่ได้แจ้ง มักเป็นจำนวนไม่มากครับ ผมก็อาศัยวิธีเช่นนี้ปิดยอด)ครับ

ส่วนปัจจัยบุญกุศล เฉพาะฐาน12นักษัตร ประมาณ24,000บาท และพระสงฆ์สาวกอีกจำนวนหนึ่งนั้นผมรวบรวมจากหมู่คณะผู้ใจบุญ มีพนง.บมจ.ทีโอทีและเพื่อนๆ เป็นอาทิ เรียบร้อยและดำเนินการจ่ายให้ทางช่างตามขั้นตอนครับ

(นอกจากนั้นฐาน12นักษัตรหลวงพ่อพระพุทธโสธร19นิ้ว2องค์โครงการ3ภูมิภาค ประมาณ 24,000บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆกระผมดำเนินการรวบรวมกับหมู่คณะผู้ใจบุญ และเพื่อนๆ ผมตามขั้นตอน ไม่ต้องห่วงครับ)


ได้ดำเนินการชำระค่าใช้จ่ายการหล่อองค์พระหลวงพ่อโสธรรวมทั้งพระสาวกบางองค์ (ประมาณแสนบาท) โดยพระอาจารย์ยุคลธรณ์ รวบรวมปัจจัยบุญกุศลของพวกเราและของท่านดำเนินการเรียบร้อยแล้วเมื่อวันหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ(ทองคำหนัก30กิโลกรัมครับ) ถ้าหากจะยังขาดเหลือประการใด ท่านใดที่ประสงค์บริจาคร่วมเพิ่มเติม สามารถบริจาคเพิ่มเติมกับพระครูวินัยธรพระอาจารย์ยุคลธรณ์ท่านได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย นอกจากกระทู้นี้ครับ

ปัจจัยบุญกุศลที่ทางสถานปฏิบัติธรรมรวบรวมได้ทั้งผู้มาร่วมบริจาคและในตู้ ในครั้งวันที่10เมษายนนี้ กระผมจึงได้ขอร่วมน้อมถวายพระพุทธศาสนาเป็นรัตนตรัยบูชาร่วมโครงการที่ดินสงฆ์ อุโบสถ เสนาสนะวัด พระพุทธรูป พระสงฆ์อาวุโส พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ ฯลฯ ทุกโครงการ ตามแต่พระอาจารย์ยุคลธรณ์จะพิจารณาตามสมควรแก่ธรรมต่อไปครับ

ขอให้คุณao.angsilaได้ร่วมบุญกุศลทั้งโครงการ ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามขอให้สำเร็จสมความปรารถนา และขอเชิญทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญกุสลโดยดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ

ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาทุกท่านมาไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับ

 

ขั้นตอนต่อไปของโครงการนี้คือหา ราวเทียนหงส์ กระถางธูปสิงห์ แจกันดอกไม้คู่ ทองเหลือง น่าจะอยู่ที่ประมาณ 4-7พันบาทครับ ใครสนใจจะร่วมบุญก็แสดงความประสงค์ได้นะครับ

สำหรับตั่งไม้ประดิษฐานพระสาวก4องค์ประมาณ5-7 นิ้วยังไม่ได้กำหนดรายละเอียดครับ

กำลังหารูปพระอสีติสาวก พระควัมปติ ที่เชี่ยวชาญในการกำจัดภัยพิบัติ ไปร่วมประดิษฐานด้วยเป็นองค์ที่5ครับ ยังหาไม่ได้ ท่านใดมีข้อแนะนำขอเชิญนะครับ

 

ขอขอบคุณข้อความดีๆที่ได้ช่วยมาเผยแพร่ในกระทู้นี้และขอให้ผลบุญนี้จงบังเกิดปรากฏแก่ผู้ที่คิดดี กล่าวดี ปฏิบัติดี ด้วยเทอญ.........สาธุ.........สาธุ.........สาธุ

และขอแจ้งข่าวสารแก่ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ด้วยครับ
วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่จะถึงนี้ เป็นวันคล้ายวัดเกิดของหลวงพ่อจรัญ และปีนี้เป็นปีพิเศษคือ เป็นวันคล้ายวันเกิด ครบ ๗ รอบ (๘๔ พรรษา )ของหลวงพ่อครับ ลูกศิษย์ลูกหาท่านใด หรือผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อ เชิญร่วมทำบุญได้ที่วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี ครับ... และขออนุโมทนาบุญกุศลบารมีกับทุกท่านด้วย ...สาธุ สาธุ สาธุ

 

http://palungjit.org/posts/5243129

 

ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูป มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ปฐวีธาตุ ฯลฯ
ในวันจันทร์เพ็ญวิสาขบูชา 4มิถุนายน2555พระพุทธชยันตีจันตรีฤกษ์ จันทร์ซ้อนจันทร์ พรหมประสิทธิ์ฯลฯ
ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญกุศลโดยดีงามครับ

 

สาระสำคัญของเรื่อง

1. วันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 นับเป็นปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ 2,600 ปี โดยที่ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาต่างกำหนดให้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองถวายเป็นพุทธบูชาในช่วงเทศกาลสัปดาห์วันวิสาขบูชาอย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งนิยมเรียกว่างานฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 เป็นพิเศษ โดยคณะสงฆ์และรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพและให้มีคณะกรรมการเตรียมการจัดงานวันวิสาขบูชา ปี 2555 กิจกรรมที่จัดเน้นบูรณาการการศึกษาปฏิบัติ และเผยแพร่หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ทรงสั่งสอนสู่ประชาชนทุกเพศทุกวัยอย่างกว้างขวางรวมถึงกำหนดแนวทางในการจัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา ปี 2555 อย่างถูกต้องเหมาะสมสอดคล้องกับมติมหาเถรสมาคม
2. การจัดงานในนามของรัฐบาลไทย ได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวพุทธนานาชาติรู้จักประเทศไทย ในฐานะเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ขณะเดียวกันจะต้องทำให้ชาวพุทธในเมืองไทยเกิดความตื่นตัวมากขึ้นด้วย โดยมีองค์กรต่าง ๆ ร่วมกันขับเคลื่อนพร้อมทั้งเชิญชวนแขกของรัฐบาลและผู้นำชาวพุทธนานาชาติเข้าร่วมงาน และขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้มีส่วนร่วมในการจัดงานยิ่งใหญ่ โดยกำหนดให้พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นศูนย์กลางการจัดงาน และสถานที่จัดงานอื่น ๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกิจกรรมอย่างเป็นเอกภาพพร้อมเพรียง ในการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า รูปแบบของการจัดจัดงานมี 3 ด้าน ประกอบด้วย
ด้านการศึกษา การเผยแผ่ การปฏิบัติบูชา มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการศึกษา การเผยแผ่ การปฏิบัติบูชา และการมีส่วนร่วมขององค์กรทุกภาคส่วน และประชาชนในการจัดงานฯ โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและกรมการศาสนา เป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบดำเนินการจัดกิจกรรม
ด้านวิชาการ จัดกิจกรรมประชุมสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับพุทธประวัติหลักธรรมคำสอน โดยมีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติในการจัดประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติ และการประชุมสัมมนาวิชาการภาคภาษาไทย โดยให้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนสาขาพระพุทธศาสนา ซึ่งการสัมมนาทางวิชาการ (ภาคภาษาไทย) หัวข้อการสัมมนา เป็นเรื่องราวพระพุทธศาสนากับศาสตร์ต่างๆ
ด้านกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม มีกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับเครือข่าย เช่น มูลนิธิ หอจดหมายเหตุ เป็นต้น จัดหาการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมและการแสดงภาพยนตร์เพื่อเป็นแนวทางส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
โดยการจัดกิจกรรมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในครั้งนี้ เห็นควรให้หน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมโดยใช้งบประมาณของหน่วยงานแต่ละหน่วย หรือใช้งบประมาณจากการระดมทุนภาคประชาชน

3. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน แต่เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้มีไม่เพียงพอกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว และไม่ได้ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการนี้ไว้ประกอบกับเป็นกิจกรรมที่คณะสงฆ์และประชาชนได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
รัฐบาลไทย

Cabinet Watch: รัฐบาลอนุมัติงบฉลองพุทธชยันตี 150 ล้านบาท | Siam Intelligence

 

ในวันเสาร์ที่1กันยายน2555
ได้อัญเชิญหลวงพ่อโสธรสู่สันติสุข หล่อโบราณเททองดินไทยหน้าตัก30นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์แดง แก่ทองแดง ขัดเงาผิวสีชมพูสุกปลั่งดั่งทองคำ
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมปฐวีธาตุสีขาวจำนวนมาก
พร้อมฐาน12นักษัตร พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระสิวลี พระอุปคุต ขนาดประมาณหน้าตัก5นิ้ว
พร้อมฐาน12นักษัตรสำหรับพระประธานหลวงพ่อโสธรเจโตวิมุตติหน้าตัก19นิ้วหล่อโบราณทั้งองค์เนื้อสัมฤทธิ์เขียว (กล่าวกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ให้โชคลาภมาก) สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ
เพื่อร่วมงานพิธีพุทธาภิเษก และหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำหน้าตัก9นิ้ว หลวงพ่อฤาษีลิงดำทองคำหน้าตัก9นิ้ว2องค์ และพระเครื่องทองคำอีกจำนวนมาก ณ วัดป่าเลไลยก์ กาญจนบุรี
แล้วถวายในพระพุทธศาสนา เป็นรัตนตรัยบูชา เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามประกาศในกระทู้นี้ต่อไปโดยดีงามเรียบร้อยแล้วครับ
ในปีแห่งพุทธชยันตี 2600ปี วันสัตตโลหะ โดยดีงามครับ
ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาโดยดีงามครับ

พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง
เมื่อรู้แล้วจักช่วยให้ผู้อื่นรู้ด้วย
เมื่อพ้นทุกข์แล้วจักช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย
เมื่อข้ามโอฆะแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ข้ามโอฆะด้วย

พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ

เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิด้วย

 

เมื่อคืนวันศุกร์ไปรับพระพุทธรูปที่โรงหล่อพระ ยงค์เจริญการช่าง นครปฐม
พระจันทร์ทรงกลดรอรับเป็นเวลานานมาก
เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ก่อนออกเดินทางไปวัดป่าเลไลยก์ กาญจนบุรี พระจันทร์ทรงกลดส่งอีกเช่นกัน
เป็นสิริมงคล แก่ผู้พบเห็นรวมทั้งเหล่าช่างหล่อพระด้วยครับ
ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ

 

ดาบฟ้าฟื้นนั้น ในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่าว่า ต่อมาขุนแผนถวายเป็นพระแสงของสมเด็จพระพันวษาและได้พระราชทางนามว่า “พระแสงปราบศัตรู” ยังปรากฏอยู่ทุกวันนี้

สนใจเรื่องนี้มานานนักหนา แม้ปัจจุบันก็ยังติดตามบรรดาท่านผู้รู้ และผู้ทรงคุณวุฒิที่เขียนกล่าวถึงดาบฟ้าฟื้นอยู่ บางอย่างพอจะรู้และแน่ใจว่าถูกต้องบางอย่างรู้แต่ไม่แน่ใจว่าถูกต้อง และอีกหลายอย่างไม่รู้เลยแบบชนิดมืดแปดด้าน ตึ๊ดตื๋อ จนด้วยเกล้าฯ อยู่จนกระทั่งบัดนี้

ในหนังสือ “คำให้การของชาวบ้านกรุงเก่า” บอกว่าขุนแผนถวายเป็นพระแสงแก่ สมเด็จพระพันวษา แต่ในหนังสือ “ขุนช้าง-ขุนแผน” กล่าวชัดทีเดียวว่า ไม่ได้ถวาย นี่เป็นเรื่องที่รู้ต่างกันออกไป

ปฐมเหตุที่จะเกิด ดาบฟ้าฟื้นอันเป็นอาวุธประจำกายของขุนแผนนั้น เนื่องด้วยขุนช้างกราบบังคมทูลสมเด็จพระพันวษา กล่าวโทษขุนแผนเรื่องปีนกำแพงวังหนีเวร ออกไปหาลาวทองภรรยาที่เมืองกาญจนบุรี ทั้ง ๆ ที่ตนพยายามทัดทานไว้แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ แต่ขุนแผนหาได้เชื่อฟังไม่ แถมดุด่าและจะฆ่าตนเสียอีกด้วย ยังผลให้ ขุนแผนเกือบถูกประหารชีวิตหากทว่า เคยกระทำความดีไปตีเมืองเชียงทองชนะ สมเด็จพระพันวษา จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปเป็นนายด่าน มีหน้าที่รักษาด่านแลคอยระวังเหตุเภทภัย ครั้งใดที่มีศึกมาประชิดติดกรุงศรีอยุธยาจึงจะรับสั่งให้ไปรบ

ส่วนลาวทองนั้นโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานคือตำรวจไปเกาะกุมตัวเอามาไว้ในวังเสีย โดยมีพระราชกระแสรับสั่งดังนี้

ให้เป็นชาวสดึงกรึงไหม
เจ้าขรัวนายผู้ใหญ่ก็รับสั่ง
ให้ลาวทองอยู่ทิมที่ริมคลัง
ปักสดึงกรึงนั่งทุกเวลา

สังเกตไหม ขุนแผนนั้นแต่ก่อนชื่อพลายแก้ว กว่าจะได้เป็นขุนแผนก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดถ้าเป็นวัวก็เรียกว่าเหงื่อตกกีบ ถึงได้เลื่อนยศเป็นขุนแผนแสนสะท้าน ท้ายสุดได้รับพระราชทานเป็นหลวงและพระ นี่เล่าจากความจำนะ อย่าถือเป็นหลักฐานส่วนขุนช้างนั้น แม้จะรับราชการเป็นมหาดเล็กเด็กชา ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นขุน หากทว่า

เมื่อตกฟากฤกษ์พารของหลานชาย
ช้างเผือกมาถวายพระพันวษา
จึงให้นามตามเหตุทั้งปวงมา
หลานรักของเข้าชื่อขุนช้าง

เมื่อลาวทองต้องโทษแทนผัว ตกเป็นพินัยกรรมหลวงเช่นนั้น หัวอกหนุ่มอย่างขุนแผนย่อเปล่าเปลี่ยวใจยิ่ง ทั้งหนุ่มทั้งแน่น ธรรมชาติต้องเรียกร้องโดยไม่ต้องเชื้อเชิญแต่ประการใด อีกอย่างหนึ่งตนเองก็เป็นทหารกล้า จึงคิดหาอาวุธเครื่องรางของขลังให้สมกับชายชาตรี พร้อมผู้ช่วยและยานพาหนะตามวิสัยของหนุ่มไทยในสมัยก่อน แม้ปัจจุบันหนุ่มไกลปืนเที่ยงก็ยังนิยมอยู่อันเป็นนิสัยไทยแท้มาแต่โบราณ

จะตีดาบซื้อม้าหากุมาร ให้เชี่ยวชาญวิชาได้ผ่าศึก
ถ้าสามสิ่งนี้ได้สมใจนึก จะอึกทึกมาอย่างไรก็ไม่กลัว

สามสิ่งที่ขุนแผนต้องการคือ มีดาบ ม้า และกุมารทอง ปรากฎว่าได้กุมารทองก่อนจากนางบัวคลี่ ลูกสาวของนายเดช กระดูดำ หรือ หมื่นหาญชาญไชยกับนางสีจันทร์ จากนั้นจึงต้องการมีดดาบปราบศึก มีดก็ต้องประกอบหรือทำด้วยเหล็ก การหาเหล็กมาตีเป็นมีดดาบยากเย็นขนาดไหน ลองพิจารณาดู

จะจัดแจงตีดาบไว้ปราบศึก ตรองตรึกหาเหล็กไว้หนักหนา
ได้เสร็จสมอารมณ์ตามตำร าท่านวางไว้ในมหาศาตราคม
เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร
หอกสัมฤทธิ์กฤชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เอาเหล็กไหลพร้อมเสร็จหล่อบ่อพระแสง เหล็กกำแพงเหล็กน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่
ทองคำสัมฤทธิ์นากอแจ เงินที่แท้ชาติเหล็งทองแดงดง
เอามาสุมคุมควบเข้าเป็นแท่ง เผาให้แดงตีแผ่แช่ยาผง
ไว้สามวันซัดเหล็กนั้นเล็กลง ยังคงแต่พองามตามตำรา



http://www.thailantern.com/main/boards/index.php?showtopic=2614

 

นั่นคือ คำบอกเล่าของครูแจ้งผู้แต่งกลอนสภาตอนนี้ อันเกี่ยวกับวัตถุที่นำมาประกอบกรรมวิธีตีมีดดาบ ครั้งแรกคิดว่าของประสมทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่ และคิดว่าง่ายมาก ต่อเมื่อพิจารณากันอย่างพินิจพิเคราะห์ จะเห็นได้อย่างชัดแจ้งทีเดียวไม่ใช่ของง่าย ๆ อย่างที่คิดไว้ หรือคาดคะเนมาตั้งแต่เดิม จึงของเสนอข้อคิดเท่าที่พอจะทราบไว้ เพื่อให้ท่านผู้รู้จะได้ช่วยกันพิจารณาอีกครั้งว่า ข้อเสนอต่อไปนี้ผิด หรือ ถูก ที่ถูกนั้นถูกต้องไหตอนนี้แหละที่จะขยายขี้เท่อให้ทราบกันอีก ดังนี้

เหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ น่าจะได้กับ

1. เหล็กที่เป็นโครงสร้างของยอดเจดีย์ที่มีพระธาตุองค์ใหญ่บรรจุอยู่
2. เหล็กที่เป็นโครงสร้างของยอดเจดีย์องค์ใหญ่ที่มีพระธาตุบรรจุอยู่
3. เหล็กที่เป็นโครงสร้างของเจดีย์มหาธาตุ
ขอเลือกเอาข้อ 2 เป็นหลัก จะผิดถูกประการใดไม่ทราบ

เหล็กยอดปราสาททวารา คือ
1. เหล็กที่ยอดประตูที่ทำเป็นทรงปราสาท (ยอดแหลม) อย่างประตูวิเศษไชย กรุงเทพมหานคร
2. เหล็กยอดประตูของปราสาทราชวัง
ขอเลือกเอา 1

เหล็กขนัน ดูออกจะเป็นปัญหาไม่น้อยเลย ว่ากันถึงคำแปลก่อน
ขนัน : คือ ต้นไม้อย่างหนึ่งคล้ายกับต้นขนุน ชื่ออย่างนั้น อนึ่งการทำเมื่อทารกตายในท้องเขาใส่ในหม้อทำเลขยันต์ปิดปากหม้อด้วย เพื่อจะกันมิให้หลอก (อักขราภิธาน ศัพท์ 73)
: น. ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งคู่กับขนุน (ปลัดเล)
: ก. กิน บัง ขวาง เช่น ขนันน้ำ วง ล้อม เช่น ล้อมขนัน ผูก รัด เช่น ขนันศพ. (พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน 2525 พิมพ์ครั้งที่ 1 หน้า 124)
“เหล็กชนันผีพลายตายทั้งกลม” เท่าที่เคยเห็นมา บรรดาสัปเหร่อเขาผูกรัดมัดศพด้วยเชือก ผ้า และสายสิญจน์ไม่เคยเห็นเขาใช้เหล็ก (ลวด) แต่ประการใด จึงตีปัญหาแบบเอากำปั้นทุบดินลงไปว่า เหล็กหรือตะปูปริงที่ตอก หรือเกาะโลงศพผีพลายที่ตายทั้งกลม

เหล็กตรึงโลง คือเป็นตะปูที่ตอกโลงผีนั่นเอง

เหล็กตรึงปั้นลม บ้านทรงไทยนั้นมีปั้นลมอยู่ (บางแห่งเรียกป้านลมคนหูหนักจะฟังเป็นด้านลม) ปั้นลมนั้นเป็นไม้สองแผ่นเข้าประชิดติดกันวางอยู่เหนือ (บน) แป ใช้เหล็กประกับติดหรือตอกไว้ไม่ให้หลุดออกจากบ้าน ความจริงนายช่างที่มีฝีมือสร้างบ้านทรงไทยเขาจะไม่ใช้เหล็กเลย จะใช่สลักที่ทำด้วยไม้อาาจจะเป็นไม้ฝาง ไม้ประดู่ หรือไม้สัก ตอกทั้งสิ้น เคยเห็นช่างฝีมือเขาทำปั้นลม เขาเจาะเป็นรูสี่เหลี่ยม และเดือยสี่เหลี่ยม ระยะพอเหมาะกับไม้ปั้นลมทั้งสองชิ้น เมื่อเอามาประกบกัน เดือยชิ้นหนึ่งจะสอดเข้าไปในรูอีกชิ้นหนึ่งได้อย่างสนิท เหมือนเนื้อไม้แผ่นเดียวกันจะทนกว่าเหล็ก เพราะไม่เป็นสนิมซึ่งทำให้ไม้ผุกร่อนได้ง่าย เนื่องจากตรงนี้จะตากแดด ตากฝน ต้านลมตลอด 24 ชม. เหล็กตรึงปั้นลม คงไม่มีปัญหาอะไร

เหล็กสลักเพชร เป็นเหล็กลิ่มหรือกลอน ที่ทำให้หัวไว้เป็นปุ่ม เมื่อตอกลงไปแล้ว จะถอนยากมาก ช่างบางคนตอกเหล็กชนิดนี้ลงไปจนจมหัว เมื่อจะถอนต้องแซะเนื้อไม้เพื่อให้คีมคีบได้สะดวกจึงจะถอนขึ้น ซึ่งทำให้เนื้อไม้ตรงนั้นมีตำหนิ ไม่สวย

เหล็กหอกสัมฤทธิ์ เห็นท่าจะไม่มีปัญหา เอาหอกที่ทำด้วยสัมฤทธิ์โบราณเขียนสำริดจะเป็นชนิดใบข้าวหรือใบพายก็ได้ อย่าลืมว่า สัมฤทธิ์เป็นโลหะผสม คือ ทองแดงสังกะสี ตะกั่ว ดีบุก เป็นต้น

เหล็กกฤชทองแดง นี่คงไม่ใช่เหล็ก หากเป็นกฤชที่ทำด้วยทองแดงนั่งเองเหล็กพระแสงหัก จะหาได้จากที่ไหนไม่ทราบ ชาวบ้านอย่างเรา ๆ เห็นท่าจะหาได้ยาก พระแสงเป็นอาวุธที่พระเจ้าแผ่นดินท่านทรงใช้อยู่ ที่ขุนแผนเอามาตีมีดดาบจะต้องเป็นเล่มที่หักแล้วด้วย คนเดินดินกินข้าวถุงพลาสติกทั่ว ๆ ไม่มีทางหาได้แน่ ขุนแผนท่านหาของท่านได้อย่างไรไม่รู้

เหล็กปฏัก เหล็กชนิดนี้หาได้ง่ายมาก ไปตามบ้านนอกคอกนา ขอจากชาวบ้านก็ได้ ของจากเด็กเลี้ยงวัวก็ได้ เป็นเหล็กที่ตอกอยู่ที่ปลายไม้รวกที่ตันใช้ตะไบถูให้แหลม สำหรับแทงวัวที่มันดื้อไม่ทำตามคำสั่ง หรือต้องการให้วิ่งเร็ว ๆ อย่างที่ลานวัวระดอก หรือ กระดอก เป็นต้น

เหล็กตะปูเห็ด ไม่ใช่เหล็กตะปูที่ตอกสังกะสีหรือกระเบื้องลอนคู่อย่างหนา ตรานั่น ตรานี่ แต่เป็นเหล็กตะปูที่มีรูปร่างคล้ายกัน แต่ตัวใหญ่กว่า หัวนั้นก็ใหญ่บานเหมือนเห็ด จะเห็นได้ง่ายตามประตูวังเก่า ๆ ตามวัดโบราณ ๆ ก็เคยเห็นเหมือนกัน

เหล็กสลักประตู หาได้ง่าย ๆ ถ้าบ้านโบราณไม่ทำสลักด้วยเหล็ก ก็ต้องทำด้วยไม้ ตามวัดมีเยอะ

เหล็กเบญจพรรณ บอกกันตรง ๆ เลย เหล็กชนิดนี้จนด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมจริง ๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเหล็กชนิดใด เบญจพรรณ ตามรูปศัพท์ก็คือ แดง ดำ เขียว (คราม) เหลือง ขาว เหล็กที่อยู่ในลักษณะห้าสีชนิดนี้เป็นเหล็กชนิดใด หรือว่าเป็นแร่เหล็กที่มีสีดังกล่าวขี้เท่อเต็มทน

มีเรื่องน่าคิดอยู่อย่างหนึ่งคือ เวลาเข้าป่า หรือมักจะได้ยิน นักวิชาการเขาพูดกันว่า ไม้เบญจพรรณ คือไม่รู้ว่าเป็นไม้อะไรเลยจัดอยู่ในพวก “เบญจพรรณ” ไว้ก่อน ดังนั้น “เหล็กเบญจพรรณ” พอจะจัดเป็นพวกเหล็กทุกชนิดที่ไม่รู้จักได้หรือไม่ เข้าขั้นเหล็กต่าง ๆ จิปาถะ ใช่หรือไม่

เหล็กบ้าน เห็นจะเป็นเหล็กตามบ้านทั่ว ๆ ไป คงหาได้ง่าย

เหล็กไหล เล่ากันมาตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นทำนองว่า ผู้ที่จะได้เหล็กชนิดนี้จะต้องแก่ไสยศาสตร์ เล่นแร่แปรธาติหรือผีมาเข้าฝัน อย่างที่เรียกกันว่าผีบอก จากนั้นจึงไปนั่งบริกรรมเอาเทียนชัยไปจุดลนเข้าที่สถานที่ผีบอก เหล็กจะย้อยหรือไหลออกมา นังเลงเล่นพระหากันให้วุ่นไป เขาว่าอยู่ยงคงกระพัน สิ่งนี้ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

เหล็กหล่อบ่อพระแสง คือ เหล็กหล่อที่เอามาจากบ่อพระแสง จ.อุตรดิถต์ กล่าวกันว่า พระแสงทรงของพระเจ้าแผ่นดิน ต้องใช้แร่เหล็กที่บ่อนี้ทำพระแสงทรง จึงได้ชื่อว่าบ่อพระแสง ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ ตรอนตรีสินธุ์ ปัจจุบันก็คือ อ.ตรอน จ.อุตรดิถต์ นั่งเอง จากที่ทางราชการสำรวจแร่เหล็ก เมื่อปี พ.ศ.2527 มีสินแร่อยู่ประมาณ 50 เมตริกตัน มากแค่ไหนก็คะเน ๆ กันเอง

เหล็กกำแพง เหล็กชนิดนี้มีปัญหาขึ้นมาอีก กล่าวคือ เป็นเหล็กที่เมืองกำแพงเพชรหรืออย่างไร ดูตามอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถานเล่ม 6 ภาคผนวก จังหวัดกำแพงเพชร ไม่มีแร่เหล็ก มีแต่หินอ่อนฟลูออไรต์ หรือว่าสมัยโบราณมีอยู่หนาแน่น แต่ถูกบรรดามือดีขโมยขุดกันไปหมดแล้ว เหล็กกำแพงนี้จะตีความหมายเป็นเหล็กที่เป็นโครงร่างตาม วัง วัด บ้าน ได้หรือไม่ หรือว่าเหล็กดังกล่าวจะต้องเป็นเหล็กที่อยู่ หรือนำมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ใช่หรือไม่ เป็นไปได้ไหม หรือจะเอาเคล็ดเกี่ยวกับ พระกำแพง กระมัง เรื่องพระกำแพง นักเลงเล่นพระทุกคนทราบดีว่า มีอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์อย่างไร หลังจากขยายขี้เท่อแล้ว เหล็กชนิดนี้ก็จนด้วยเกล้าเหมือนกัน

เหล็กน้ำพี้ อย่าลืมว่าเหล็กน้ำพี้กับดาบน้ำพี้นั้นต่างกัน เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2532 หรือ 20 ปีมาแล้ว เห็นประกาศในหน้า นสพ. ว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งทำดาบน้ำพี้ราคาเล่มละ 1,000,000 บาท ปัจจุบันเท่าไรไม่ทราบ เหล็กน้ำพี้อยู่ที่ อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์

เหล็กแร่ คงจะเป็นแร่เหล็กนี่เองมีมากที่ จ.ลพบุรี (นี่ว่ากันถึงสมัยโบราณนะ) ส่วนปัจจุบันทางราชการเขาสำรวจกันไปถึงขนาดไหน ไม่ได้ติดตาม


http://www.thailantern.com/main/boar...showtopic=2614

 

ทองคำ ใครไม่รู้จักก็แย่ เป็นของต้องใจของชนทุกหมู่เหล่า ส่วนมีทองเท่าหนวดกุ้งนอนสะดุ้งทั้งคืน นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สัมฤทธิ์ ข้อนี้กล่าวถึงในหัวสข้อที่ 7 จะย้อนกลับไปอ่านอีกครั้งหนึ่งว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง เห็นว่าไม่ผิดกติกาแต่ประการได

นากอแจ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายไว้ดังนี้

อัดแจ : น. เมืองอะแจ อะจีน ก็เรียก

นาก คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาไปอยู่ที่คำอแจ จากนั้นเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว คือเกิดจากการผสมระหว่าง ทอง เงิน ทองแดง ลองพิจารณา คำกลอน “ทองสัมฤทธิ์นากอแจ” ถ้าจะแยกคำทองกับสัมฤทธิ์ออกไป คงเหลือแต่นากอแจ หรือจะแยกคำ นาก อแจ เห็นทีจุยุ่ง เพราะ อแจ ก็คือ อัดแจ นั่งเอง ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก็เป็นชื่อเมือง คำนี้เป็นภาษามาเลย์ หรือ มาลายู เคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่บ้านนอกอันเป็นถิ่นที่เคยอยู่ เรียกม้าตัวโต ๆ ว่าม้าเทศหรือม้าอัดแจ นั่นหมายความว่า เป็นม้าพันธุ์ผสมทางเปอร์เชีย กล่าวกันว่าเมืองอะแจหรืออแจ มีชื่อเสียงทางทำเหรียญกษาปน์ กลอนวรรคนี้ตีความหมายได้หลายอย่าง เช่น ทองคำ สัมฤทธิ์ นาก จากเมืองอแจ หรือทองคำ สัมฤทธิ์ จากที่ไหนก็ได้หากทว่า นาก จะต้องเอามาจากเมืองอแจ และเมืองอแจ อยู่ในประเทศอินเดียใช่หรือไม่ คงจนด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมอีก

เงิน ถ้ามีเงินที่เป็นบาทคงหาซื้อเงินที่เป็นวัตถุได้ง่าย ข้อนี้เห็นที่ไม่เป็นปัญหา

ชาติเหล็ก คงจะเป็นธาตุเหล็กตามวิชาเคมีกระมัง ไม่ใช่เหล็กผสมทั่วไป เอาเป็นว่าคงเป็นต้นตระกูลเหล็กอย่างแน่นอน

ทองแดงดง คงจะเป็นทองแดงที่อยู่ในดงในป่า ไม่ใช่ทองแดงตามบ้าน

ของทั้งหมด 25 สิ่งที่ขุนแผนนำมาผสมกันจนสามารถตีมีดดาบได้ คิดว่าเป็นสิ่งของที่ไม่ใช่หากันได้ง่าย ๆ ถ้าเป็นเรื่องจริง ชั่วชีวิตเห็นท่าจะหาไม่ได้ อย่างเช่น เหล็กไหล กับพระแสงหัก เป็นต้น เมื่อได้สิ่งของเหล่านั้นครบถ้วนแล้วยังจะต้อง

ซัดเหล็กครบเสร็จถึงเจ็ดครั้ง พอกระทั่งฤกษ์เข้าเสาร์สิบห้า
ก็ตัดไม้ขึ้นผูสาลเพียงตา แล้วจัดหาสารพัดเครื่องบัตรพลี
เทียนทองติดตั้งเข้าทั้งคู่ ศรีษะหมูเป็ดไก่ทั้งบายศรี
เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี เอาถ่านที่ต้องอย่างวางในนั้น

พอถึงวรรสุดท้าย “ถ่านที่ต้องอย่าง” ดูจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ถ่านที่ต้องอย่างเป็นถ่านชนิดใดไม่ทราบได้ (ได้ตรวจดูต้นฉบับ คุรุสภาพิมพ์ พ.ศ. 2533 กับฉบับพิมพ์ 2493 มีข้อความตรงกัน) พอถึงปัญหานี้แม้จะนอกเรื่อง ดาบฟ้าฟื้นก็จนด้วยเกล้าอีกเช่นกัน

ช่างเหล็กดีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน
วางสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสำคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี
ครั้งได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์
ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรัดรูปให้เรียวบ่ลาย
ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวถึงศอกกำมาหน้าลูกไก่
เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ
อานดีมิได้มีขนแมวพาด เลื่อมปราดเนื้อเขียวดูคมหนับ
เลื่อมพรายคล้ายแสงแมลงทับ ปลั่งปลาบวาบวับจับแสงตะวัน
ด้ามนั้นทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ จารึกยันต์พุทธจักรที่เหล็กกั่น
เอาผมพรายร้ายดุประจุพลัน แล้วเอาชันกรอกด้ามเสียบัดดล

เป็นอันว่าขุนแผนได้ของต้องใจคือ มีดดาบ แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ มีปัญหาเกิดขึ้นอีกจนได้ ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวถึงศอกกำมาหน้าลูกไก่

กว้างยาวอย่างนี้ต้องใช้มาตราวัดความยาวของไทยเรา อย่าไปใช้มาตราวัดความยาวของอังกฤษเขา มาตราวัดความยาวของไทยเรามีดังนี้
8 ปรมาณู เป็น 1 อณู
8 อณู เป็น 1 ธุลี
8 ธุลี เป็น 1 เส้นผม
8 เส้นผม เป็น 1 ไข่เหา
8 ไข่เหา เป็น 1 ตัวเหา
8 ตัวเหา เป็น 1 เมล็ดข้าว
8 เมล็ดข้าว เป็น 1 นิ้ว
12 นิ้ว เป็น 1 คืบ
2 คืบ เป็น 1 ศอก
4 ศอก เป็น 1 วา
20 วา เป็น 1 เส้น
400 เส้น เป็น 1 โยชน์
8 เมล็ดข้าวเปลือกโบราณจะมีความกว้างประมาณ 2.5-2.8 มม.

ดังนั้น 1 นิ้ว (ไทย) จะมีความยาวประมาณ 2 ซม. ไม่ใช่ 2.5 ซม. ตามมาตราวัดความยาวของอังกฤษ

สำหรับความ กว้าง ยาว ของดาบฟ้าฟื้นนั้นต้องลดไปจากนี้เพราะ “เผาชุบสามแดงแทงตะไบดับเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ” บังคับอยู่ แทงตะไบ เนื้อเหล็กย่อมหายไปบ้างเป็นธรรมดา

วรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน กวีหลายท่านรจนา ประพันธ์ นิพนธ์ทรงนิพนธ์ขึ้น เหตุนี้นี่เอง รายอะเอียดบางอย่างจึงแตกต่างกันไป

เชื่อหรือไม่ ขุนแผนนั้นตายแล้วตายอย่างชนิดที่ไม่มีลมหายใจ แต่ชื่อเสียงและพฤติกรรมของท่านไม่ตาย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป จนสร้าง พระขุนแผน ขึ้น ส่วนขุนช้าง ตลอดเรื่องนี้ (ยังไม่จบป ยังไม่ตาย กำลังมีลมหายใจอยู่ แต่เงียบหายไปจากเรื่อง ไม่มีหลักฐานว่าตาย ขุนช้างมีชื่อเสียงเหมือนกันแต่ออกจะตกตัวงอ คือชื่อเสียมากว่า

จะอย่างไรก็ตาม ทั้งคู่จะเป็นบุคคลที่ไม่ตายไปจากโลกนี้ ตราบเท่าที่ยังมีคนอ่านหนังสือไทยออก หลักฐานที่แสดงว่า ขุนแผนถึงแก่อนิจกรรมแล้วมีดังนี้

หลวงแผนนั้นก็แก่ชราภาพ ตั้งแต่ปราบศัตรูหมู่ทหาร
ถึงกองกรรมที่แกทำมามากประมาณ กำหนดการแกก็ล่วงพิราลัย
ทั้งที่นางแก้วกริยานางลาวทอง เมียทั้งสองก็แก่ถึงตักษัย
ก็ตายสิ้นตามกันเพราะนานไป พ่อแม่ใครลูกได้เผาตามเหล่ามา

เมื่อขุนแผนถึงแก่อนิจกรรมแล้วนางสร้อยฟ้ายังพยาบาทนางศรีมาลาอยู่ จึงยุให้พลายยงซึ่งเป็นบุตรของตนไปฆ่านางศรีมาลา แต่ว่าไม่ตาย เพราะกุมารทองและโหงพรายช่วยกันป้องกันไว้จนพลายเพชร พลายบัว ซึ่งเป็นบุตรนางศรีมาลา พบแม่ของตนที่วัดป่าเรไร และอาฆาตแค้นจะต้องไปฆ่าพลายยงให้จงได้ แม้แม่จะห้ามสักเท่าไรก็ไม่ฟังนางศรีมาลาจนใจ จึงบอกที่ซ่อนดาบฟ้าฟื้นให้พลายเพชรรู้ดังนี้

ยายศรีมาลาได้ฟังคำ ยิ่งเศร้าซ้ำแสนโศกกำสรดศัลย์
เมื่อไม่เอ็นดูแม่นี้แก่ครัน จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้
ไม่เล็งเห็นใครได้เผาผี เมื่อมีฟังแม่นี้ก็จนอยู่
ถึงจะไปบอกให้ชีต้นรู้ ดาบของปู่เล่มหนึ่งนั้นถึงดี
ให้ชื่อเทพศักดาฟ้าฟื้น กินคนกว่าหมื่นไม่นับผี
เอาออกอ่านฟ้าก็ผ่ามาทุกที ซ่อนไว้ที่เขาใหญ่ในโพรงรัก
ปากถ้ำข้างทิศบูรพา เร่งไปพิจารณาให้จงหนัก
ไม่ไกลกันกับกาญจนบุรีนัก เอาไว้ใกล้จักมรณา
ครั้นจะให้ลูกเต้าทั้งปวงไว้ บาปจะติดตัวไปเมื่อภายหน้า
กระซิบบอกออกไว้แก่มารดา ครั้งลูยาอยู่ในครรภ์

ตามหนังสือวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้าง-ขุนแผน” ดาบฟ้าฟื้นมิได้ถวายพระพันวษาแต่ประการใด พลายแก้ว ขุนแผน หลวงแผนพระสุรินทร์ฤๅไชย บอกที่ซ่อนมอบไว้ให้กับนางศรีมาลาลูกสะใภ้ และต่อมาก็ตกถึงพลายเพชร หลานชายด้วยประการฉะนี้
http://www.thailantern.com/main/boar...showtopic=2614

 

คําภีร์มหาศาสตราคม ดาบฟ้าฟื้นของขุนแผน ลุประมาณปีพุทธศักราช 167 เมื่อขุนแผนได้กุมารทองแล้ว เกิดความคิดตีดาบไว้ปราบศรัตรู จึงไปหาเหล็กสําหรับทํามีดตามที่ระบุไว้ ในคําภีร์มหาศาสตราคมมาจนครบถ้วนคือ เอาเหล็กยอดพระเจดีย์มหาธาตุ ยอดประสาททวารามาประสม เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร หอกสําฤทธิ์กริชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตาปูเห็ด พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้ เอาเหล็กไหลเหล็กหล่อบ่อพระแสง เหล็กกําแพงนําพี้ทั้งเหล็กแร่ ทองคําสําฤทธิ์นากอะแจ เงินที่แท้ธาตุเหล็กทองแดงคงยังได้รวมด้วยเหล็กสารพัดบิ่น สารพัดหักอีก108ชนิดมาร่วมด้วย เมื่อได้เหล็กมาพร้อมแล้ว จึงตั้งมณฑลพิธีล้อมด้วยราชวัฏฉัตรธงทั้ง4มุม ตรงกลางตั้งพิธีดาดด้วยผ้าขาว ลงยันต์เพดานทั้งหน้าหลัง แล้วหาเครื่องกระยาสังเวย สําหรับบูชาเทพยดาอารักษ์และครูบาอาจารย์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทอันประกอบด้วย มัจฉะมังษาหาร6ประการ พร้อมเครื่องกระยาบวช ขนมแห้ง ขนมหวานอีกผลไม้9 อย่าง เทียนเงินเทียนทองหนัก4บาท 1 คู่ เมื่อได้วันดีคือวันเสาร์ขึ้น 15 คํา จึงบูชาครูบาอาจารย์และเทพยดาฟ้าดิน จึงเริ่มพิธีตีดาบขึ้นทันที/ เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี เอาถ่านที่ต้องย่างวางในนั้น ช่างเหล็กมีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน วงสายสิญจ์เศกลงเลขยันต์ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์ ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรีดรูปให้เรียวปลาย ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวหนึ่งศอกกํามาหน้าลูกไก่ เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับแล้วลงกั่นดาบข้างแบน ด้วยคาถาบารมีพระพุทธเจ้าคือ อายันตุโภนโต อิธะทานะ สีละเนกขัมมะ ปัญญา สะหะวิริยะขันติ สัจจาธิฎฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะอาวุธานิ/ ลงกั่นดาบด้านสัน ด้วยพระคาถาหัวใจพระยาสมาสดังนี้ นานามุสะระ หะระ บัพพะตะคะรุ กะลิงคะระ สะระธนู คะทาสิโต มาระหัตถา มาระคะนาเอาทองแดงที่ใช้สําหรับห่อหุ้มกั่นดาบมาลงถมด้วยพระคาถา นวหรคุณ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ 108 ครั้ง แล้วลงถมด้วยพระคาถาต่างอีก พระคาถาพุทธนิมิตร์ ลงถม9ครั้ง พุทธัสสะ อิธิพุทธัสสะ พุทธะนิมิตตัง ปฏิมานะพุทโธ ธาตุพุทโธ นิมิตตะพุทโธ กายะพุทโธ สูญญะพุทโธ เอคะตานัง กายะรูปะสูญยัง พุทธะนิมิตตัง อิทธิฤทธิ์พุทธะ นิมิตตังลงถมอีก9ครั้งด้วยคาถา อะสิสัตติ ธนูเจวะ สัพเพเตอาวุทธานิจะ ภัคคะภัคคา วิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ/ ตามด้วยคาถาพรหมสี่หน้าลงถมอีก9ครั้งว่า สหัสสะสีเส ปิเจโปโส สีเสสีเส สะตังมุกขา มุกเข มุกเข สะตังชิวหา ชีวะกัปโป มหิทธิโก นะสักโกติ จะวัณเณตุง/ ตามด้วยคาถาลงถมอีก9ครั้งบารมี30ทัศน์ ว่าอิติปารมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโมลงถมด้วยคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า9ครั้งว่า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิอิโสตังพุทธะปิติอิ/ และตามด้วยอรหันต์8ทิศ9ครั้งว่า อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโลปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา อะวิสุนุสานุติ/ แล้วตามด้วย พุทธังกันตัง ธัมมังกันตัง สังฆังกันตัง พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ/9ครั้ง แล้วลงถมตามด้วยคาถา นะผุด ผัดผิด ปฏิเสวามิ 9 ครั้งแล้วจึงลงประทับด้วยคาถานี้อีกครั้งหนึ่งว่า สัตถาธะนุง อากัตถิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ ( บทนี้เมื่อลงให้ผ่อนลมหายใจออกลงจบเดียว ) กัณหะเนหะ หายใจเข้า พุทธังปัจจุขาด ธัมมังปัจจุขาด สังฆังปัจจุขาด ( หายใจเข้าออก สลับกันไปทีละบท ) สําหรับแผ่นทองแดงด้านหลังนั้นลงประทับด้วยพระคาถานี้ อะระหัง สุคะโต ภะคะวา ลงถม9ครั้ง แล้วตามด้วย นะโมพุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา โนวะปะตานุภาเวนะ มาระเสนา อะติกกันตา มาระนิทรา ทัสสะปาระมิตา ทะมาระนิทรา ปาระชังฆานิทรา ทัสสะปาระมิตา โลหะกันตา นามะเตนะโม มาตาปิตุพุทธะคุณัง สัพพะสัตรูวิธังเสนตุ อะเสสะโต เอวังทัสสะวัณโณ ปฏิฐิตัง จักรวาฬะ สัพพะสัตตานุภาเวนะ มาราโมระอะติกกันตา ทัสสะพรหมมานุภาเวนะ สัพพะสัตรูวินาสสันติเมื่อลงทองแดงห่อกั่นดาบแล้ว จึงเอาเกษร108 และยามุกใหญ่มาบดให้ละเอียด เพื่อบรรจุในด้าม (ยามุกใหญ่คือยาสารพะดอย่าง ) หินซึ่งใช้บดยานั้นลงด้วยพระคาถา มหาโสฬสมงคล ลงถม9ครั้ง ตามด้วยคาถาหัวใจพระธรรมเจ็ดคําภีร์9ครั้ง คาถาพรหมสี่หน้า9ครั้ง คาถาพุทธนิมิต9ครั้ง คาถาพระเจ้า16พระองค์9ครั้ง คาถาอะระหันต์8ทิศ9ครั้ง คาถาบารมี30ทัศน์9ครั้ง คาถาหัวใจสนธิ งะญะนะมะ 9ครั้ง คาถาพระกรณีย์ จะภะกะสะ 9ครั้งขณะบดยาให้ภาวนาพระคาถานี้ งะญะนะมะ จะภะกะสะ อะระหังสุคะโตภะคะวา นะมะพะทะ อิกะวิติ อิสวาสุ นะโมพุทธายะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ปะติลิยะติ พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ จนกว่าจะบดยาเสร็จด้ามมีดให้ใช้ไม้ ชัยพฤกษ์ แกะเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ เขียนคาถาเป็นตัวเลข ลงที่องค์ท่าน ลงเลข3ตรีนิสิงเหที่ปากท้าวเวสสุวรรณ ว่าด้วยสูตรคือ มะอะอุตรีนิสิงเห ลงเลข7ที่ตาทั้งสองของท่านว่าสูตรสะธะวิปิปะสะอุสัตตะนาเค ลงเลข5ที่อกของท่านว่า อาปามะจุปะปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะ ลงเลข4ที่หัวไหล่ทั้งสองของท่านว่า นะมะพะทะจัตตุเทวา ลงเลข6 ที่ขาทั้งสองของท่านว่า อิสวาสุฉอวัชชะราชา ลงเลข5ที่ด้านหลังท่านว่า ทีมะสังอังขุปัญจะ อินทรานะเมวะจะ ลงเลข1 ที่ตาตุ่มทั้งสองข้างว่า มิเอกะยักขา ลงเลข9 ที่ศรีษะท่านว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะนวะเทวา ลงเลข5 ที่แขนซ้ายว่า สหะชะตะตรีปัญจะพรหมาสะหะบดี ลงเลข5 ที่แขนขวาว่า นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง ลงเลข2 ที่ศอกทั้งสองข้างว่า พุทโธทะเวราชา ลงเลข8 ที่สะโพกทั้งสองข้างว่า เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอะระหันตาใช้พระคาถาท้าวเวสสุวรรณลงด้ามมีดให้ทั่วว่า เวสสุวรรโณมหาราชา สัพเพเทวาเสเจวะ อาฬะวะกาทะโย ปิจะขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ เวสสุวรรโณมหาราชา จัตตุโลกะปาลายัสสะสิโน อิติภูตา มหาภูตา สัพเพยักขาปะลายันติ/ลงกระบองท้าวเวสสุวรรณด้วย นะโมพุทธายะ
สิทธิการิยะ ผู้ใดได้มีวาสนามีศาสตราวุธเล่มนี้แล้ว จะประเสริฐทุกประการ ปราบปรามศัตรูและภูติผีปิศาจได้ทุกชนิด แม้เข้าผจญสงครามก็ได้ชัยชนะต่อข้าศึก ใช้สะกดคนเป็นมหาจังงังอย่างแท้จริง ติดตัวไว้สารพัดคงกะพันชาตรีจากอาวุธทั้งปวง เรียกได้ว่าเป็นมีดมหาปราบ/ อนึ่งยาที่เหลือจากการบรรจุด้ามมีดนั้น เอามาผสมกับรักปั้นเป็นองค์พระภควัมบดี(พระปิดตา) ไว้ติดตัวเป็นมงคลอย่างประเสริฐ/ อนึ่งตํารามีดมหาศาสตราคมนี้เป็นของจริง ผู้ที่จะสร้างต้องเป็นสาธุชนคนดี จึงจะมีความเจริญ ถ้าเป็นมิจฉาชนคนชั่วแล้วก็ไม่จักเกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น โบราญจารย์ผู้เป็นเจ้าของตํารานี้ได้สาปแช่งไว้อย่างรุนแรงถ้าผู้มีมีดนี้ทําชั่ว/ ข้าพเจ้าขอลงไว้เป็นวิทยาทานแก่ชนรุ่นหลัง
http://palungjit.org/threads/คาถาลงดาบฟ้าฟื้นของท่านขุนแผนสมัยก่อน.64989/