เพื่อการกุศล ขอเชิญร่วมสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีอุบลกับ ลป.ญาท่านสวน วัดนาอุดม (รับวัตถุมงคล) 2

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย Noo Norway, 9 มกราคม 2011.

  1. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    คราวหนึ่งในหลวงป่วย สมเด็จย่าก็ป่วย
    ไปอยู่ศิริราชด้วยกัน แต่อยู่คนละมุมตึก
    ตอนเช้าในหลวงเปิดประตู แอ๊ด...ออกมา
    พยาบาลกำลังเข็นรถสมเด็จย่าออกมา
    รับลมผ่านหน้าห้องพอดี


    ในหลวงพอเห็นแม่
    รีบออกจากห้องมาแย่งพยาบาลเข็นรถ


    มหาดเล็กกราบทูลว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องเข็น
    มีพยาบาลเข็นให้อยู่แล้ว


    ในหลวงมีรับสั่งว่า
    แม่ของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น
    เราเข็นเองได้


    [​IMG]


    นี่ขนาดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นกษัตริย์
    ยังมาเดินเข็นรถให้แม่


    ยังมาป้อนข้าว ป้อนน้ำให้แม่ ป้อนยาให้แม่
    ให้ความอบอุ่นแก่แม่ เลี้ยงหัวใจแม่


    ยอดเยี่ยมจริงๆ เห็นภาพนี้แล้วซาบซึ้ง


    ในหลวงเฝ้าสมเด็จย่าอยู่จนถึงตี 4 ตี 5


    เฝ้าแม่อยู่ทั้งคืน จับมือแม่
    กอดแม่ ปรนนิบัติแม่


    จนกระทั่ง "แม่หลับ..."
    จึงเสด็จกลับ


    พอไปถึงวัง เขาโทรศัพท์มาแจ้งว่า
    สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์


    ในหลวงรีบเสด็จกลับไปศิริราช
    เห็นสมเด็จย่านอนหลับตาอยู่บนเตียง


    พระพักตร์ในหลวงตรงกับหัวใจแม่


    "ขอหอมหัวใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย"


    ซบหน้านิ่งอยู่นาน
    แล้วค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้น
    น้ำพระเนตรไหลนอง


    ต่อไปนี้....จะไม่มีแม่ให้หอมอีกแล้ว


    เอามือกุมมือแม่ไว้


    มือนิ่มๆ ที่ไกวเปลนี้แหละ


    ที่ปั้นลูกจนได้เป็นกษัตริย์


    เป็นที่รักของคนทั้งบ้านทั้งเมือง
    ชีวิตลูก แม่ปั้น


    มองเห็นหวีปักอยู่ที่ผมแม่


    ในหลวงจับหวี ค่อยๆหวีผมให้แม่


    หวี...หวี...หวี...หวี


    ให้แม่สวยที่สุด แต่งตัวให้แม่


    ให้แม่สวยที่สุด


    ในวันสุดท้ายของแม่...


    [​IMG]


    เป็นภาพที่ประทับใจอาจารย์ที่สุด...


    เป็นสุดยอดของลูกกตัญญู...


    หาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว


    ที่มา:
    คัดลอกมาจากหนังสือเรื่อง
    หยุดความเลว..ที่..ไล่ล่าคุณ
    โดย พ.อ. (พิเศษ)ทองคำ ศรีโยธิน
    เว็ปพลังจิตดอทคอม


    ในหลวงของเรา...มหากษัตริย์ยอดกตัญญู<!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  2. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    [​IMG]

    “พระอรหันต์อยู่ในบ้าน”

    สมเด็จโตท่านเป็นยอดนักเทศน์ ท่านเทศน์ได้จับใจคนฟัง ธรรมเทศนาของท่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องนั่งแปลไทยให้เป็นไทย เพราะท่านใช้คำไทยตรงๆ เป็นภาษาพื้นๆ ที่คนทั่วไปได้ฟังก็เข้าใจ เป็นที่นิยมของชนทุกชั้น

    ฟังไปก็สนุกเพลิดเพลิน และยังได้คติธรรม ไม่ง่วงเหงาหาวนอนเหมือนนั<WBR>กเทศน์ท่านอื่นๆ

    สมเด็จโตท่านได้เล่าว่า มีคราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ให้<WBR>แสดงธรรม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู<WBR>่หัว ได้เสด็จออกมาท่ามกลางเหล่าขุ<WBR>นนาง ข้าราชการ และข้าราชบริพาร ครั้นพอพบหน้าท่านเจ้าผู้<WBR>ครองแผ่นดินก็ทรงสัพยอกว่า “ท่านเจ้าคุณ เห็นเขาชมกันทั้งเมืองว่าท่<WBR>านเทศน์ดีนักนี่ วันนี้ต้องขอพิสูจน์หน่อย”

    สมเด็จโตทรงทูลว่า “ผู้ที่ไม่เคยฟังในธรรม ครั้นเขาฟังธรรม และได้รู้เห็นในธรรมนี้แล้ว เขาก็ชมว่าดี ขอถวายพระพร มหาบพิตร” และวันนี้อาตมาจะมาเทศน์เรื่อง “พระอรหันต์อยู่ในบ้าน”

    ฝ่ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้<WBR>าอยู่หัวและเหล่าขุนนาง ข้าราชการและข้าราชบริพารต่างก็<WBR>มีความสงสัย เพราะเคยได้ยินแต่ว่าพระอรหันต์<WBR>ท่านจะอยู่ในถ้ำ ในป่า ในเขา ในที่เงียบสงัดหรือที่วั<WBR>ดวาอารามเท่านั้น แต่ทำไมสมเด็จโตจึงกล่าวว่<WBR>าจะเทศนาเรื่องพระอรหันต์อยู่<WBR>ในบ้าน ในขณะที่ทุกคนพากันคิดสงสัยอยู่<WBR>นั้น ฝ่ายสมเด็จโตทรงทราบด้วยญาณวิถี<WBR>ของทุกคน

    ท่านจึงขยายความต่อไปว่า จิตพระอรหันต์เป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านละจากความโลภ ความหลง ไม่ยินดียินร้ายในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยม หากใครได้ทำบุญกับพระอรหันต์แล้<WBR>วไซร้ ก็ถือได้ว่าเป็นลาภอันประเสริ<WBR>ฐที่สุด บุญที่ได้ทำกับท่านจะให้<WBR>ผลในชาติปัจจุบันทันที ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า ทุกๆ คนจึงมุ่งเสาะแสวงหาแต่พระอรหั<WBR>นต์ที่อยู่นอกบ้าน แต่ไม่เคยมองเห็นพระอรหันต์ที่<WBR>อยู่ในบ้านเลย

    ทุกๆ คนที่นั่งฟังเทศนาอยู่ในที่แห่<WBR>งนั้น ต่างทำสีหน้างุนงงไปตามกัน เพราะไม่เข้าใจความหมาย สมเด็จโตจึงเทศนาต่อไปว่า “พระอรหันต์ คือ พระผู้ประเสริฐ คนเราทั้งหลายพยายามค้นหาพระผู้<WBR>ประเสริฐ เพียงหวังที่จะยึดท่าน เกาะผ้าเหลืองท่าน เกาะหลังของท่าน เพื่อให้ท่านพาไปสู่ความสุข แม้ว่าท่านจะอยู่ไกลสุดขอบฟ้า คนเราก็ยังอุตสาห์ดั้นด้นดิ้<WBR>นรนไปหา เพียงหวังเพื่อยึดเหนี่ยวและบู<WBR>ชาท่าน แต่พระที่อยู่ภายในที่ใกล้ตัวที<WBR>่สุดกลับมองข้าม มองไม่เห็นเหมือนใกล้เกลือ แต่กลับไปกินด่าง อันน้ำใจของพ่อ แม่ ที่ให้ต่อลูก มีแต่ความบริสุทธิ์ ไม่คิดหวังสิ่งตอบแทน เช่นเดียวกับน้ำใจของพระอรหันต์<WBR>ที่ให้ต่อมนุษย์ ก็มีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน

    พ่อแม่จึงเปรียบเสมือนพระอรหั<WBR>นต์ของลูก ท่านมีน้ำจบริสุทธิ์ต่อลู<WBR>กมากมายนัก ท่านเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่อยู่<WBR>ในท้องของท่าน ทนทุกข์ทรมานร่วมเก้าเดือนบ้<WBR>างสิบเดือนบ้าง แต่ท่านก็ไม่เคยปริปากบ่นสักนิด มีแต่ความสุขใจ แม้ลูกเกิดมาแล้วพิกลพิการ หูหนวก ตาบอด ท่านก็ยังรักยังสงสาร เพราะท่านคิดเสมอว่านั้นคื<WBR>อสายเลือด ถือว่าเป็นลูก ไม่เคยคิดรังเกียจและทอดทิ้ง แต่ท่านกลับจะเพิ่มความรั<WBR>กความสงสารมากยิ่งขึ้น ครั้นตอนที่เราเป็นเด็กเล็กๆ ก็ซุกซนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราเคยหยิก เคยข่วน ทุบ ตี เตะ ต่อย กัด หรือด่าทอพ่อแม่ต่างๆ นานา เพราะความไร้เดียงสา ท่านก็ไม่เคยโกรธเคือง กลับยิ้มร่าชอบใจเพิ่มความรั<WBR>กความเอ็นดูให้เสียอีก แม้เราจะเป็นผู้ใหญ่รู้ผิดชอบชั<WBR>่วดี แต่บางครั้งด้วยความโกรธ ความหลง เราก็ยังทุบตีหรือด่าทอท่านอยู่ แทนที่ท่านจะโกรธหรือถื<WBR>อโทษเอาผิดต่อเรา ท่านกลับยอมนิ่งเฉย ยอมที่จะทนรับทุกข์เพียงฝ่ายเดี<WBR>ยว ยอมเสียน้ำตา ยอมเป็นเครื่องรองรับมือ รับเท้า และปากของเรา

    สำหรับลูกแล้ว ท่านเสียสละให้ทุกอย่าง ท่านให้อภัย ในการกระทำของเราเสมอ เพราะท่านกลัวเราจะมีบาปติดตัว จึงยอมที่จะเจ็บ ยอมทุกข์เสียเอง ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะรักเรา และหวังดีต่อเราอย่างจริงจั<WBR>งและจริงใจ เหมือนพ่อแม่ ท่านเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็<WBR>กจนเราเติบใหญ่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และกำลังทรัพย์ให้แก่เราอย่<WBR>างมากมาย จนไม่อาจประมาณค่าเป็นตัวเลขได้ ทั้งนี้เพราะมันมากมายจนเกินกว่<WBR>าจะประมาณค่าได้ และในบางครั้ง ลูกหลงผิดเป็นคนชั่วด้วยอารมณ์<WBR>แห่งโทสะ เป็นคนเมาขาดสติ ก่อกรรมทำเข็ญเป็นที่เดือดร้<WBR>อนแก่ชาวบ้าน ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในสายตาของท่านแล้ว เมื่อมีภัยสู่ลูก ก็ยังโอบไปปกป้องรักษา ช่วยเหลือลูกอย่างเต็มกำลัง และสุดความสามารถ ยอมเสียทรัพย์สินและเงินมากมาย เพื่อให้ลูกได้พ้นผิด ถึงแม้ว่าในบางครั้งลูกต้องถู<WBR>กจองจำหมดแล้ว ซึ่งอิสรภาพด้วยอาญาแห่งแผ่นดิน ก็คงมีแต่พ่อแม่เท่านั้นที่<WBR>คอยหมั่นดูแลไปเยี่ยม ไปเยียน คอยส่งน้ำส่งข้าวปลาอาหาร คอยให้กำลังใจแก่ลูก ให้ต่อสู้กับความเจ็บปวด และทุกข์ทรมานของจิตใจที่ลูกได้<WBR>รับ และรอนับเวลาที่ลูกจะกลับมาสู่<WBR>อ้อมกอดอีกครั้งหนึ่ง

    น้ำใจที่มีต่อลูกเช่นนี้ เปรียบเท่ากับน้ำใจของพระอรหั<WBR>นต์โดยแท้ พ่อแม่จึงเป็นพระอรหันต์ในบ้<WBR>านของเราจริงๆ ทำไมพวกท่านจึงไม่คิดที่จะทำบุ<WBR>ญกับพระอรหันต์ที่อยู่ในบ้<WBR>านของท่านเล่า

    สำหรับลูก ถึงแม้พ่อแม่จะเป็นโจร เป็นคนชั่วใจสายตาของบุคคลอื่น แต่สำหรับลูกแล้ว ท่านเสียสละได้ทุกอย่างไม่ว่<WBR>าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง แม้แต่ชีวิตท่านก็สามารถเสี<WBR>ยสละให้ลูกได้ พ่อแม่มีลูกนับ 10 คนเลี้ยงดูมาเติบใหญ่ แต่ลูกทั้ง 10 คน กลับเลี้ยงดูพ่อแม่เพียง 2 คนไม่ได้ ชอบเกี่ยงกันเพราะลูกเหล่านั้<WBR>นกำลังลืมคำว่า พระคุณของพ่อแม่

    ยามที่พ่อแม่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เราควรที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ โดยการซื้ออาหารการกิน ซื้อเสื้อผ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน เข้าวัดเข้าวา อะไรก็ตามที่ทำแล้วให้ท่านมี<WBR>ความสุข ก็ควรทำให้ท่าน ดูแลความทุกข์สุข และเลี้ยงดูจิตใจท่าน เชื่อฟังในโอวาทคำเตือนของท่าน คำพูดคำจาที่จะพูดกับท่านก็ต้<WBR>องระมัดระวัง เพราะคนแก่นั้นใจน้อย ต้องรักษาน้ำใจท่านไว้ ด้วยคำพูดที่นิ่มหู ฟังดูแล้วไม่ทำให้ท่านไม่สบายใจ ไม่ปล่อยทิ้งให้ท่านอยู่อย่างว้<WBR>าเหว่ คอยเอาใจใส่ปรนนิบัติดูแลท่<WBR>านอย่างใกล้ชิด แต่คนส่วนมากมักจะทำบุญให้พ่<WBR>อแม่ เมื่อยามที่ท่านตายจากเราไปแล้ว เพราะนั่นคือการพลาด และเป็นการพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุ<WBR>ดในชีวิตของเราเอง ซึ่งความจริงแล้ว เราควรที่จะทำบุญให้กับพ่อแม่<WBR>ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้กตัญญู<WBR>กตเวที

    ขอให้สาธุชนทั้งหลายผู้มาได้ฟั<WBR>งธรรมในวันนี้ จงกลับไปทำบุญกับพ่อแม่ผู้เป็<WBR>นพระอรหันต์ในบ้าน การทำบุญแบบนี้จะได้อานิสงส์ทั<WBR>นตาเห็นในชาติปัจจุบัน บุญที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน คือบุญที่ทำกับพระอรหันต์ผู้<WBR>ประเสริฐ แต่พระอรหันต์ที่อยู่นอกบ้าน พวกท่านไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่<WBR>าองค์ใดจริงหรือไม่จริง แต่ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด และเป็นของจริง และบูชาได้อย่างแน่นอน ไม่เคยเห็นผู้ใดเลยที่มีความกตั<WBR>ญญูกตเวทีต่อพ่อแม่แล้ว ต้องพบกับความวิบัติไม่เคยมี มีแต่จะทำมาหากินอาชีพอะไร ก็จะเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้<WBR>งปวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ มีแต่ความสุข อายุยืนยาวตายตามกาลเวลา

    ขอให้ท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่<WBR>นี้ จงใช้สติและพิจารณาในเรื่<WBR>องราวต่างๆ ที่อาตมาได้เทศนาให้ฟังในครั้<WBR>งนี้ให้ดี แล้วประโยชน์และความสุข ก็จะบังเกิดแก่ท่านทั้งหลาย อย่างทันตาเห็น เอวัง...ก็มีด้วยประการฉะนี้ ขอถวายพระพร

    ฝ่ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้<WBR>าอยู่หัว เหล่าขุนนางข้าราชการและข้<WBR>าราชบริพารทั้งปวง ได้ฟังคำเทศนาของสมเด็จโตจบลง บ้างน้ำตาก็คลอเบ้าทั้งสอง บ้างน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาสุดที่<WBR>จะกลั้นได้ ด้วยความรู้สึกรักสงสาร และคิดถึงพระคุณพ่อแม่ขึ้นมา อย่างจับจิตจับใจ อย่างที่ไม่เคยมีความรู้สึกเช่<WBR>นนี้มาก่อนเลย

    เจ้าผู้ครองแผ่นดินแห่<WBR>งสยามประเทศ จึงตรัสด้วยพระสุรเสียงอันสั่<WBR>นเครือ ปนน้ำพระเนตรว่า “ท่านเจ้าคุณท่านเทศน์ได้จั<WBR>บใจยิ่งนัก และขอให้ทุกคนจงกลับไปทำบุญกับ พ่อแม่ผู้เป็นพระอรหันต์เถิด”

    ที่มา:หนังสืออมตธรรม สมเด็จโต
     
  3. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    เมื่อหลายวันที่แล้วหนูได้รับการส่งต่อเมลล์มาจากพี่โก๋ (ธรรมประทีป) อ่านแล้วเห็นว่าเป็นบทความที่ดีมีประโยชน์เลยขอนำมาฝากพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกท่านค่ะ

    รถโดนกรีดยาง

    คำถามหนึ่งที่คนทั่วไปชอบถามเวลาเจอหน้า คือ ผมโกรธบ้างหรือไม่ ผมก็จะยิ้มๆ และตอบว่า เรายังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมต้องมีความโกรธ แต่โชคดีไม่บ่อยนัก และเวลาโกรธส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกทางกาย ทางวาจา คือ ความโกรธยังไม่ล้นออกมาทางคำพูดและการกระทำ ยังพอควบคุมหรือมีสติเห็นทัน ส่วนใหญ่มักจะเห็นใจที่เดือดอยู่ปุดๆ จะปุดมากปุดน้อย ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์นั้นๆ
    โชคดีที่ระยะหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีอาการปุดๆ ในใจเลย นานๆ จะเกิดสักที คนที่จะสามารถทำให้ผมโกรธได้ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เรียกว่าต้องเป็นครูสอนธรรมะระดับเทพเชียวล่ะ

    หลายปีก่อน มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราได้ ‘เห็น’ ความโกรธชัดเจนที่วิ่งเข้ามาเยือนจิตใจ บ่ายวันหนึ่งผมต้องไปงานศพกะทันหัน ไม่ได้ทราบก่อนล่วงหน้าจึงไม่ได้เตรียมใส่ชุดดำ คนขับรถก็ลาพอดี จึงต้องขับรถกลับมาที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป ปกติที่ออฟฟิศมีที่จอดรถประจำ ปรากฏว่าวันนั้นมีคนอื่นมาจอดรถในที่ของผมเองและของบริษัทหมด วนรถอยู่นานพอสมควรเลยตัดสินใจจอดในที่ของคนอื่น เพราะเห็นว่าว่างๆ อยู่ คิดในใจว่าขออนุญาตจอดสัก 10 นาที วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อกลับมาคงไม่เป็นไร เจ้าของที่คงยังไม่มา

    พอเปลี่ยนเสื้อกลับมาที่รถ ปรากฏว่ามีรถคันหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของที่จอดนั้น มาจอดขวางรถเราเอาไว้ แถมยังเข้าเกียร์ล็อคไว้อีกต่างหาก เลื่อนไม่ได้ ตอนแรกกะว่าจะวิ่งไปหายามให้ช่วยไปเชิญเจ้าของรถมาเลื่อนให้ แต่เกรงว่าจะไปงานศพไม่ทัน เลยตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ไป คืนนั้น กว่าจะสวดศพเสร็จ กว่าจะรํ่าลาเจ้าภาพก็ดึกพอสมควร ผมก็นั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้าน ลืมเรื่องรถไปเลย

    เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเดินมาที่รถซึ่งจอดเอาไว้เมื่อคืน ตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น เพราะยางรถแบนแต๋ดแต๋ติดพื้น 2 ล้อเลย พอเห็นยางรถแบนเท่านั้น ความโกรธก็วิ่งเข้ามาในใจอย่างรวดเร็วและรุนแรง เป็นอาการบางอย่างที่ไม่เคยเห็นอยู่ในใจ แต่พอเรามีสติเข้าไป ‘เห็น’ ความโกรธที่วิ่งเข้ามา ก็หายไปโดยฉับพลัน ความโกรธไม่มีเลย ใจกลับเป็นปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกมากกับตัวเอง ส่วนใหญ่จะโกรธกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่า อย่าโกรธ อย่าโกรธ แต่พอเผลอแว็บ ความโกรธก็จะวิ่งเข้ามาสู่ใจ แต่พอมีสติเข้าไปเห็นทันความโกรธเท่านั้น ความโกรธเงียบหายไป จำได้ว่าโกรธอยู่เพียง 3-5 วินาทีเท่านั้น เร็วมากๆ แล้วความโกรธก็หายไป ไม่รู้หายไปไหน ไม่กลับมาอีก สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ระหว่างที่ขึ้นลิฟท์จากชั้นที่จอดรถมาบนออฟฟิศ เราเกิดปัญญาบางอย่างที่จะจัดการกับเหตุการณ์นี้ด้วยสติ เป็นปัญญาที่ปกติตัวเองจะไม่สามารถคิดได้ขนาดนั้น มันเหมือนเป็นอาการสว่างวาบแล้วเกิดปัญญา ประมาณนั้น!

    พอถึงออฟฟิศ ผมก็สั่งเลขาฯ ให้ไปตรวจสอบว่า เจ้าของรถทะเบียนคันที่จอดรถขวางผมคือใคร แล้วช่วยจัดดอกไม้ให้หน่อย เดี๋ยวจะเอาดอกไม้ไปให้เขา เลขาฯ ผมก็สงสัยทำไมต้องเอาไปให้ เขามากรีดยางรถผมแท้ๆ ไม่ใช่แค่เลขาฯ เท่านั้นที่โกรธแทน พนักงานทั้งออฟฟิศโกรธกันหมด พนักงานวิ่งส่งเอกสารวิ่งมาเลย บอกว่านายๆ เดี๋ยวผมจะเอาไม้ไปทุบกระจกรถมันดีไหม ยามของอาคารก็วิ่งขึ้นมาบอกว่า คนที่กรีดยางรถผมเป็นฝรั่งเจ้าของบริษัททัวร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เขาทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว โดนกันหมด ทั้งกรีดรถ กรีดยางรถ โดนกันประจำ เขาเป็นคนนิสัยแบบนี้ ผมบอกทุกคนว่า ใจเย็นๆ รถผมเอง ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร อย่าโกรธนะ..

    แล้วผมก็เอากระเช้าดอกไม้ขึ้นไปที่ออฟฟิศเขา ซึ่งตลกมากเพราะอยู่ตรงกันข้ามกับสำนักพิมพ์ดีเอ็มจีซึ่งผมเช่าไว้คนละชั้นกับออฟฟิศบริษัทประชาสัมพันธ์ คิดอยู่ในใจว่า อืม..ออฟฟิศอยู่ตรงข้ามกัน อยู่ชั้นเดียวกันแท้ๆ ยังมาทำกันขนาดนี้! ผมพยายามจะขอพบเขา แต่เขาไม่ออกมาพบ ส่งจีเอ็มคนไทยและพนักงาน 2-3 คนยืนทำหน้าถมึงขึงขังกันอยู่หน้าออฟฟิศ แล้วถามผมว่าคุณใช่ไหมจอดรถทับที่เจ้านายเขา โวยวายกันใหญ่ แต่เขาคงไม่รู้ว่านายเขากรีดยางรถผม ผมไม่ได้รับเชิญให้นั่ง และได้รับการยืนยันว่านายเขาไม่ออกมาพบแน่นอน ปล่อยให้ยืนถือดอกไม้อยู่อย่างนั้น ผมยืนอยู่สักพักหนึ่งเห็นว่าคุณฝรั่งคนนั้นไม่ออกมาแน่ เลยอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกน้องเขาฟัง พอทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเปลี่ยนท่าที เชิญให้ผมนั่ง ดูเหมือนว่าตกใจที่นายเขามากรีดยางรถเรา

    ผมบอกว่าตั้งใจเอาดอกไม้มาขอโทษเจ้านายคุณ สำหรับสิ่งที่ผมผิดพลาดในการจอดรถทับที่ของเขาเมื่อบ่ายวานนี้ แต่ผมมีเหตุจำเป็น คือ ต้องรีบไปงานศพ และที่จอดรถของผมและของบริษัทฯ มีรถจอดเต็มทั้งหมด และสิ่งที่อยากขอร้องคือ เราอยู่ในตึกเดียวกัน น่าจะพูดกันดีๆ ไม่น่าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ หากเขาไปทำกับคนอื่นคงเดือดร้อน แต่สำหรับผม ผมไม่เดือดร้อน มีคนคอยดูแลเอารถไปเปลี่ยนยางได้ อย่างไรก็ตาม ผมฝากคำขอโทษไปถึงนายคุณด้วย พูดจบแค่นั้น ผมก็ขอตัวลงมาทำงาน ปรากฏว่าก่อนเที่ยงวันเดียวกัน เลขาฯ และทีมงานเฮกันลั่นออฟฟิศ เพราะได้รับตะกร้าผลไม้ใหญ่มากพร้อมแชมเปญยี่ห้อแพงจากฝรั่งคนนี้ (เสียดายไม่ดื่ม!) เลขาฯ หัวเราะมากกว่าคนอื่น เพราะสารภาพว่าไม่ได้สั่งดอกไม้ แต่ไปเอากระถางต้นไม้ในครัวมาผูกโบว์ โชคดีที่มีฝีมือเลยออกมาสวยงามพอให้ผมถือไปมอบให้เขาได้ ลงทุนไม่ถึงร้อยบาท แต่ได้รับกลับคืนมามากกว่าหลายเท่า

    แต่สิ่งที่ผมถือว่าเป็นรางวัลแท้จริง คือ ข้อความในจดหมายที่แนบมา (อุตส่าห์ส่งสาส์นรัก Love Note มาด้วย) เขาบอกว่าทุกครั้งที่เขาได้ ‘สั่งสอน’ คนไทยที่ไม่มีระเบียบวินัย ชอบมาจอดรถในที่ของเขา และไปทำแบบนี้ จะรู้สึก ‘สะใจ’ เหมือนว่าได้ Give them a lesson! คือให้บทเรียนกับคนที่ไม่มีวินัยแบบนี้ ยิ่งมีการมาโวยวายกันมากเท่าไร เขายิ่งรู้สึกสะใจมากขึ้นว่าบทเรียนที่ให้ไปนั้นได้ผล ทำให้คนไทยสำนึก แต่เขาบอกว่า ผมมาแปลกที่เอาดอกไม้มาขอโทษ แถมยังอธิบายเหตุผลด้วย และได้เห็นตัวอย่างว่า ผมก็ไม่โกรธที่มีคนอื่นมาจอดรถทับที่ผม ทั้งที่สองบริษัทฯ ผมดูแล้วน่าจะมีที่จอดมากกว่าบริษัทเขาบริษัทเดียว สรุปแล้ว เขารู้สึกสำนึกว่าไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ เขารู้สึกไม่ดีและอยากขอโทษ เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกแบบนี้

    ในย่อหน้าสุดท้าย เขาบอกว่าในฐานะที่ผมทำบริษัทประชาสัมพันธ์ เขาก็เป็นบริษัททัวร์ชั้นนำ ขอมาเป็นลูกค้าได้หรือไม่ สรุปว่า จากการที่เราเจอเหตุการณ์แย่ๆ เราสามารถพลิกให้คนสำนึกได้ด้วยตนเอง และยังแถมมาเป็นลูกค้าอีก เป็นอานิสงส์ของสติจริงๆ ผมไม่ได้รับเขามาเป็นลูกค้า ไม่ใช่ว่ากลัวจะโดนอะไรอีก แต่เผอิญตอนนั้นเรามีลูกค้าเต็มมืออยู่แล้ว และหลังจากนั้น เหตุการณ์การกรีดยางรถ กรีดรถรอบคันในที่จอดรถของอาคารก็ไม่มีอีกต่อไป...

    ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
    ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ
     
  4. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    หนูได้แจ้งบอกบุญญาติธรรมทั้งนอกเว็บและในกระทู้ รวมทั้งทาง pm ด้วยและได้รับการแจ้งกลับร่วมบุญมาตามนี้ค่ะ

    คุณ Noo Norway 575 บาท

    คุณ Steffany + Vebjørn 250 บาท
    คุณ prakaidao 2,625 บาท
    คุณ Little Dragon 399.99 บาท
    คุณ bat119 500 บาท
    คุณ OPhtUYh 100 บาท
    คุณ medhaphat 1,000 บาท
    คุณ คนกันเอง 200 บาท
    คุณ ชายชุดขาว 75.65 บาท
    คุณ พรรณารัตน์ 1,050 บาท

    รวมทั้งสิ้น 6,775.64 บาท

    ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้นะคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    [​IMG]
    [​IMG]

    "พระราชินีท่านมีบุญมากแล้ว ก็ยังทำบุญอีก
    พวกเรามีบุญน้อยแล้วยังไม่รีบทำบุญ ประเดี๋ยวบุญหมดน๊ะ..!!!!!!!!!"

    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
     
  6. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
     
  7. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ถึงช่วงนี้ "หลวงพี่พระประชิต" (ผู้ดูแลรับผิดชอบในการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีอุบล) จะไม่ได้พำนักอยู่ที่วัดนาอุดมเป็นประจำ แต่ท่านก็เดินทางมาดูแลควบคุมการก่อสร้างเป็นระยะเสมอมาค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
     
  9. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    วันนี้เพื่อนหนู (คุณเกตุกนก เลิศจารุพงศ์ และคณะ) ได้นำข้าวสารและอาหารแห้ง รวมด้วยปัจจัยส่วนหนึ่งไปถวายแด่ทาง "วัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี" เดี๋ยวหนูจะนำรูปภาพมาให้ชมและร่วมอนุโมทนาบุญกันนะคะ
     
  10. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ท่านรอง charoen.b ได้เม้นไว้ในอีกกระทู้นึงค่ะ... เรื่องแบบนี้จะตัดสินด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้แต่พิสูจน์ได้ด้วยความศรัทธาเป็นแน่แท้...
     
  11. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  12. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    วันนี้หนูได้ดูคลิปรายการคนค้นฅน
    ชั่งสะท้อนกับสถานการณ์ของประเทศไทยในตอนนี้มากเลย
    หากนักการเมืองและข้าราชการแผ่นดินเป็นอย่างนายอำเภอท่านนี้สักครึ่งนึง
    ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าไปไกลกว่านี้อีกหลายเท่าเลยทีเดียว
    อยากให้ทุกท่านได้รับชมกันค่ะ อย่างน้อยก็จะได้ชื่นใจว่าชาติไทยไม่มีวันสิ้นคนดี

    KonKonKon 25 Aug 12_1 - นายอำเภอ(ของ)คนจน - YouTube

    KonKonKon 25 Aug 12_2 - นายอำเภอ(ของ)คนจน - YouTube

    KonKonKon 25 Aug 12_3 - นายอำเภอ(ของ)คนจน - YouTube

    KonKonKon 25 Aug 12_4 - นายอำเภอ(ของ)คนจน - YouTube
     
  13. เภสัชสำราญ

    เภสัชสำราญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +366
    วันนี้โอนเงินโครงการติดตั้งไฟแล้วครับ

    [​IMG]
     
  14. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    รับทราบตามนั้นค่ะ... แจ้งผิดกระทู้แต่ไม่เป็นไร... เดี๋ยวหนูจะไปอัพเดทให้ในกระทู้นั้นค่ะ

    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับคุณ pmc007 ที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วยนะคะ... สาธุ...
     
  15. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    [​IMG]
     
  16. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    วันนี้ขอนำธรรมะเบาๆมาฝากกันค่ะ

    [​IMG]
     
  17. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    [​IMG]
     
  18. vaspa222

    vaspa222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +715
    กราบหลวงปู่สวนครับ
    ดีครับพี่หนูสบายดีนะครับพี่
     
  19. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ดีค่ะ... พี่หนูสบายดีและยังทำตัวเป็นลูกหลานที่ดีของหลวงปู่เสมอมาและจะทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์ที่ดีของหลวงปู่เรื่อยเสมอไปด้วยค่ะ
     
  20. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ในวันที่ 01.09.55 นี้โครงการที่หนูได้ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญก็จะสำเร็จเสร็จสิ้นลงอีก 1 งาน นั่นคืองานถวายรอยพระพุทธบาท 4 รอยจำลอง + ทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อร่วมสร้างศาลาพระพุทธเจ้า 3 กาล ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ สุพรรณบุรี ซึ่งการบอกบุญในครั้งนี้ได้ยอดปัจจัยร่วมบุญประมาณ 100,000 กว่าบาท

    ขอเชิญร่วมสร้างรอยพระพุทธบาท 4 รอยจำลอง รับวัตถุมงคลหลากหลายครูบาอาจารย์ น.46

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    โครงการนี้มีญาติธรรมทั้งเก่าและใหม่มากมายหลายท่านมาร่วมด้วยช่วยกันในหลายๆรูปแบบ ทั้งร่วมด้วยปัจจัย ร่วมด้วยวัตถุมงคลของที่ระลึกและร่วมด้วยการช่วยเป็นสะพานบุญต่ออีกที อานิสงส์ผลบุญที่จะได้ในครั้งนี้สูงมาก เป็นงานบุญที่หาโอกาสทำได้ยาก มีผู้คนมากราบไหว้รอยพระพุทธบาทนี้กี่ครั้งก็ตาม เราทุกท่านผู้สร้างถวายย่อมได้รับอานิสงส์ผลบุญมากตามจำนวนครั้งนั้นๆ ถือเป็นบุญที่ยืนยาว

    ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น "รอยพระพุทธบาท 4 รอย" ซึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าที่ได้ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว 4 พระองค์ เมื่อเราได้ร่วมบุญในส่วนนี้ก็เปรียบเสมือนว่าเราได้พยายามเดินตามรอยพระพุทธบาทของพระองค์ท่านแล้ว เป็น 1 ใน 3 ของวิธีการบำเพ็ญบารมีเพื่อให้เข้าถึงความหลุดพ้นจากวัฏจักเวียนว่ายตายเกิด นั่นคือ "การทำบุญในส่วนของทาน" ก็ขอให้ทุกท่านเร่งทำในส่วนนี้ให้มากยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆนะคะ

    ในเมื่อเราได้พยายามเดินตามรอยพระพุทธบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งได้ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว เรามาร่วมกันเดินตามรอยพระมหาโพธิสัตว์ผู้ซึ่งยังมีชีวิตอยู่กันบ้างดีมั้ยคะ หนูเชื่อว่าพระมหาโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในยุคนี้มีมากมายหลายท่าน แต่ปุถุชนคนทั่วๆไปอาจจะรับรู้ได้ยาก เพราะบารมีเราเข้าไม่ถึงบารมีของท่านทั้งหลายเหล่านั้น และท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่ค่อยจะเปิดเผยตัวสักเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าท่านจะเมตตาเปิดให้รับรู้ได้เป็นบางคนบางกรณีเท่านั้น แต่พระมหาโพธิสัตว์ที่หนูกล่าวถึงนี้ท่านได้แสดงถึงบุญญาบารมีและความเมตตาอันเปี่ยมล้นในใจให้คนไทยทั้งประเทศและชาวต่างชาติได้รับรู้เป็นที่ประจักษ์แก่ตาและแก่ใจมานานหลาย 10 ปีแล้ว นั่นคือ "ในหลวง" พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยนั่นเอง ตลอดการครองราชสมบัติของพระองค์ท่านเป็นเวลา 60 กว่าปีมานี้ท่านได้ทำให้ปวงชนชาวไทยเห็นแล้วว่าท่านพูดจริงทำจริงดั่งที่ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์<WBR>แห่งมหาชนชาวสยาม"

    ในหลวงท่านเป็นผู้ที่มากด้วยบุญญาบารมีและพระปรีชาสามารถในทุกๆด้านทั้งทางโลกและทางธรรม พระอริยสงฆ์องค์เนื้อนาบุญมากมายหลายท่านได้กล่าวยอมรับและยกย่องสรรเสริญพระองค์ท่านตามนั้น วันนี้หนูขอเอ่ยยกตัวอย่าง 2 องค์ที่เห็นได้ชัดเจนคือ "หลวงตามหาบัว" ท่านได้เคยกล่าวถึงประเทศไทยและในหลวงเอาไว้ดังนี้

    "ในแต่ละยุคสมัยจะมีพระผู้ทรงคุณวิเศษคอยแผ่เมตตาปกปักรักษาโลกมาโดยตลอด ส่วนจะช่วยคุ้มครองโลกได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับบุญบารมีของท่านแต่ละองค์ที่ได้เคยสั่งสมมาในยุคก่อน พระที่รักษาคุ้มครองโลกก็คือ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ต่อจากหลวงปู่มั่นก็คือ "องค์พระหลวงตานี่เอง"

    "พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นมีส่วนช่วยค้ำโลกมากนะ หลวงตาไม่ได้ช่วยองค์เดียว แต่พระอริยบุคคลในสายหลวงปู่มั่นนี่ช่วยกันหมดทุกองค์ แผ่เมตตาช่วยโลกอยู่ทุกวันทุกเวลา พระอริยบุคคล (ทุกระดับตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงอรหันต์) สายหลวงปู่มั่นเรานี่ที่จะช่วยโลกได้ ต้องมีพรรษา 40 ขึ้นไป หาไม่แล้วจะจมน๊ะ (บารมีไม่เพียงพอ)


    "ส่วนประเทศไทยเรานี้ ในหลวงค้ำไว้ 60 เปอร์เซ็นต์ หลวงตาค้ำไว้ 40 เปอร์เซ็นต์นะ"

    มีต่ออีกค่ะ...<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...