ขอเชิญร่วมทำบุญสมทบสร้าง พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2666
งานพิธีตอกเสาเข็ม
พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต




เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

หลวงปู่มั่นท่านเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหาลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง จนทางโลกเขาก็มาพลิกดูประวัติหลวงปู่มั่น สมควรจะได้รับรางวัลของโลกไหม ทางโลกเขาก็ยอมรับว่าหลวงปู่มั่นก็เป็นบุคคลหนึ่งที่สมควรจะได้รับรางวัลสาขานี้ จึงได้รับรางวัลยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ๒ ปีที่ผ่านมา

เมื่อท่านได้รับรางวัลแล้วก็เป็นที่เชิดชูเกียรติประวัติพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น พวกเราในฐานะที่หลานเหลนทั้งหลายที่เกิดมาในยุคของท่าน เราก็ต้องพยายามเชิดชูบูชา นำประวัติเกร็ดประวัติเล็กน้อยที่ท่านได้ทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งใหญ่ทั้งเล็ก เอามาประกาศออกมาเผยแผ่

หลวงพ่อเองในฐานะที่เป็นรุ่นหลาน ไม่ใช่รุ่นลูกนะ ลูกหลวงปู่มั่นคือหลวงตามหาบัว หลวงปู่หล้าที่เคยอยู่กับท่าน แต่เราเป็นรุ่นหลานนะ เราก็มาคิดอยู่ว่า ถ้ารุ่นลูกท่านผ่านไปหมดแล้ว ๗๐ ๘๐ ๙๐ ปี ๑๐๐ กว่าปีผ่านไปแล้ว พวกเราที่เป็นรุ่นหลานก็ ๖๐ ๗๐ จะเข้า ๘๐ รอมร่ออยู่แล้ว ถ้าพวกเราไม่นำแนวปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายของเรา หลวงปู่มั่น มาแนะนำ มาบอกกล่าว มาประดิษฐานให้ลูกหลานได้ศึกษานะ คงจะหมดไป

พวกเราจึงได้คิดเรื่องพิพิธภัณฑ์ แนวปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่พวกเรารัก เคารพนับถือ เลื่อมใส เอามาทำให้เป็นอาคารหรือว่าทำให้เป็นประวัติให้พวกลูกหลานทั้งหลายได้ฟังได้ศึกษาต่อไปภายภาคหน้า

ในใจของหลวงพ่อก็ไม่ได้หนักใจในเรื่องเจดีย์ ถึงยังไงเคยทำมาแล้ว มีแต่สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อก็ไม่ได้หนักใจ แต่จุดที่ว่าจะนำเนื้อหาสาระเเนวปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์แต่ละท่านแต่ละองค์เข้ามาไว้ในพิพิธภัณฑ์หรือว่าไปแนวทางที่ถูกต้อง แนวทางที่เป็นธรรม ไปแนวทางที่อนุชนรุ่นหลังจะได้ศึกษา อันนี้เป็นหลวงพ่อวิตกกังวล เพราะฉะนั้น พวกลูกหลานทุกคนที่เกี่ยวข้องนะ ต้องช่วยกันคิด ต้องช่วยกันกลั่นกรองให้ดีที่สุด ที่จะนำมาเข้าในพิพิธภัณฑ์

เราจะเน้นหนักแนวเดินทางของท่าน แนวทางของท่านในการประพฤติปฏิบัติธรรมของท่าน เราจะไม่เน้นทางอภินิหารนะ เราจะเน้นในการบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญาของท่าน เป็นแนวทางให้กับอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาแล้วนำมาประพฤติปฏิบัติเดินตามแนวแถวที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นพาเดิน เพื่อเป็นคติ เป็นตัวอย่างของอนุชนรุ่นหลังต่อไปภายภาคหน้า นี่แหละ หลวงพ่อเน้นจุดนี้ หลวงพ่อใส่ใจตรงที่จะนำแนวคติธรรม แนวทางปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เป็นศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่นเอามาให้ลูกหลานได้ศึกษา คติธรรมของแต่ละท่านแต่ละองค์ต้องมี

อย่างคุณแม่ชีแก้วนี้ ที่หลวงตารับรองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น คุณแม่ชีแก้วก็บอก โลกนี้โลกหาได้ หาดีก็ได้ หาชั่วก็ได้ หานรก หาสวรรค์ หาคุก หาตาราง หายศถาบรรดาศักดิ์หาได้ โลกนี้หาได้ หาความดีก็ได้ หาความเลวก็ได้ เราได้เกิดมาพบพุทธศาสนา ได้พบพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วควรจะหาคุณงามความดีเข้าสู่ตนเอง สิ่งไหนที่มันไม่ดี ที่มันเลว มันชั่ว อย่าหามาใส่ตนเอง ให้หาคุณงามความดี หาสิ่งที่ดี คิดดี ทำดี พูดดี มาหามาใส่ตนเอง จะมีแต่ความเจริญร่มเย็นเป็นสุขตลอดอนันตกาล

ถ้าเราเกิดมาภพนี้ชาตินี้ก็ทำดี เกิดมาภพหน้าชาติหน้าก็ทำดี ผลที่สุดก็เลยดี ความดีทั้งหลายจะพาเราเข้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองจนถึงมรรค ผล นิพพาน พ้นทุกข์ในวัฏสงสาร ไม่มาเวียนว่ายตายเกิดเพราะความดีนะ ไม่ใช่ความชั่ว ความชั่วมีแต่พาตกต่ำไปเรื่อย ถลำลงไปเรื่อย แต่ความดีมีแต่สูงส่งไปเรื่อย ๆ จนถึงนิพพาน

เพราะฉะนั้นหลวงพ่อเองอยากจะส่งเสริมคุณงามความดี ที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ก็เพื่อเอาคุณงามความดีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาบอกมากล่าว มาเชิดมาชู แล้วให้พวกลูกหลานศรัทธาญาติโยมต่อไปภายภาคหน้าจะได้ยึดเป็นคติตัวอย่าง สำหรับพวกเราจะได้เดินตามแนวแถวที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคยประพฤติปฏิบัติมา

ที่เราสร้างเราไม่ได้มุ่งหวังลาภยศสรรเสริญสุข ต้องการหน้า ต้องการตา ต้องการลาภยศไม่ใช่นะ จะต้องการไปทำไม หลวงพ่อจะเข้าอายุ ๘๐ รอมร่อปีหน้านี่น่ะ เมษาหน้าครบ ๗๙ ปี กระโดดเข้า ๘๐ แล้ว กี่ปีแล้วทีนี้ กี่ปีจากนั้นไป แต่ตอนนี้ก็ยืมคืนยืมวัน ยืมเดือนยืมปีอยู่นะ ไม่ใช่ยืมปี ยืมวันอยู่ เป็นวัน ๆ ไป

อันนี้ก็เล่ากล่าวให้ลูกหลานเป็นคติตัวอย่าง ให้พวกลูกหลานอย่าลืมเจ้าของ อย่าหลงเจ้าของ อย่าผยองพองตน ประกอบคุณงามความดีนะ

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “โลกนี้ยากยิ่งที่จะหาความสุขที่แท้จริง”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๖

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสมทบทุนสร้าง พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ฯ
ณ วัดป่ารวมธรรม ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ อุดรธานี
โดย #หลวงพ่ออินทร์ถวาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์
วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567
ร่วมบุญได้ที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา บัญชี วัดนาคำน้อย
เลขที่ 444-1-443947
โรงทาน พระบัณฑิต 095- 8459227

 

งานทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดป่ารวมธรรม วันที่ ๑๔ มกราคมนี้นะ ศรัทธาญาติโยมลูกหลานนะ ผ้าป่าคราวนี้ก็มีความหมาย เป็นผ้าป่าครั้งแรกที่จะได้ทอดสมทบสร้างพิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่านาคำน้อย

ที่เราจะสร้างพิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นนี้ หลวงพ่อมาคิดมาพิจารณาเหมือนกัน ไม่ใช่หลวงพ่อคิดได้คิดทำนะ หลวงพ่อก็ทบทวนแล้วทบทวนอีก การที่จะทำสิ่งไหนขึ้นมาที่จะเกิดประโยชน์ต่อสาธารณประโยชน์ หลวงปู่มั่นท่านเป็นต้นตระกูลของพระกรรมฐานในยุคนี้สมัยนี้ หลวงปู่มั่นถือว่าเป็นปู่ของพวกเราแล้ว ครูบาอาจารย์ที่เคยอยู่กับท่าน อย่างหลวงตามหาบัว หลวงปู่หล้า หลวงปู่จาม หลวงปู่แหวน ก็ถือว่าเป็นพ่อของเรา เป็นรุ่นลูกของท่าน เราเป็นรุ่นหลาน

ในฐานะที่เป็นหลาน เราก็ได้โยงใยถึงครูบาอาจารย์ท่านเหล่านั้นมากทีเดียว เราในฐานะที่เป็นหลาน ก็พอจะเป็นช่วงระหว่างกลาง ไม่ห่างเกินไป ก็พอรับรู้รับทราบว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านปฏิบัติตนอย่างไร ถ้าหากว่าเราไม่ทำแนวปฏิปทาของครูบาอาจารย์ไว้ก็น่าเสียดายเหมือนกันนะ เพื่อจะให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา ถ้าหากว่าทำเป็นธรรมคำสอน มีคติธรรมของท่านแต่ละท่านแต่ละองค์ขึ้นมา ก็คงจะเป็นประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลังนานเท่านาน

หลวงพ่อมาคิดถึงจุดนี้จึงได้รวบรวมจตุปัจจัย การที่จะสร้างอย่างนั้นไม่ใช่ของสนุกสนานนะ ขนาดเราจะสร้างบ้านให้ตัวเองอยู่หลังเล็ก ๆ ก็ยังต้องใช้สติ ใช้ปัญญา ใช้หัวไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ใช้ทุนไม่ใช้น้อยเหมือนกัน อันนี้จะสร้างพิพิธภัณฑ์ขนาดนี้นะ ไม่ใช่ของสนุกนะศรัทธาญาติโยมลูกหลาน

แต่หลวงพ่อทำไมจึงทำ ก็คิดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ ประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้กับอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา อย่างเมื่อเราสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของหลวงตามหาบัว พอสร้างเสร็จแล้วก็เป็นประโยชน์ ถ้าหลวงพ่อไม่สร้างในยุคนี้สมัยนี้คราวนี้ก็อายุจะเข้า ๘๐ แล้วนะ จะเสร็จหรือไม่เสร็จก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะเสร็จได้ ต่อไปก็แก่ไปเรื่อย ๆ ก็จบ ถึงจุดจบ อันนี้ก็คือชีวิตร่างกายของมนุษยชาติต้องเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถึงยังไงก็ตาม พอที่จะทำได้ เอ้า ทำให้เกิดประโยชน์

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ความในใจทำไมหลวงพ่อถึงต้องสร้างพิพิธภัณฑ์”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๗

ผ้าป่าสามัคคีสมทบในการก่อสร้าง
พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน
สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
(ครั้งที่ ๑)

วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๗
ณ วัดป่ารวมธรรม อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/kLn4BYFiRC8gD7oi6

ร่วมทำบุญได้ที่
บัญชี : วัดนาคำน้อย เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์กรรมฐานฯ
ธ.ไทยพาณิชย์ : 409-5-71221-8

บัญชี : วัดนาคำน้อย เพื่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์กรรมฐานฯ
ธ.กรุงเทพ : 768-7-78959-9

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

หลวงพ่อเอง ในฐานะที่เป็นประธานสงฆ์
หรือว่าเป็น ผู้ดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์
ศรัทธาญาติโยมถึงถวายมากหรือน้อย
หลวงพ่อเองก็ขอบบุญขอบคุณ
ศรัทธาญาติโยมทุกหมู่ทุกเหล่า ที่ได้ร่วมกันสร้าง
พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น
เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วก็ไม่ใช่ของผู้หนึ่งผู้ใด
ไม่ใช่ของหลวงพ่อนะ เป็นของลูกของหลานต่อไปภายภาคหน้า
เหมือนพระธาตุพนม พระธาตุนครปฐม หรือ นครศรีธรรมราช
หรือดอยสุเทพ เชียงใหม่อย่างนั้นแหละ
เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วก็เป็นสมบัติของแผ่นดิน
เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา
มีแต่พวกเราทุก ๆ ท่านร่วมกันก่อสร้างขึ้นมา
คือฝากคุณงามความดี ฝากฝีมือไว้ในแผ่นดิน
พวกเราคิดได้เพียงแค่นั้นแหละ จากนั้นก็ต่างคนต่างไป
อย่างหลวงพ่อไม่ถึงร้อยปีหรอก
หลวงพ่อก็จะไปเหมือนกันนะ ไม่คิดว่าจะอยู่นานเท่านาน
แต่ถึงอย่างไร ก็ฝากคุณงามความดีไว้ในแผ่นดิน
จะไม่ฝากความชั่วช้าเสียหาย
ชั่วช้าลามกไว้ในแผ่นดิน
จะฝากคุณงามความดีไว้ในแผ่นดิน....

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ผ้าป่าพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานฯ"
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗

ร่วมทำบุญได้ที่
บัญชี : วัดนาคำน้อย เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์กรรมฐานฯ
ธ.ไทยพาณิชย์ : 409-5-71221-8
บัญชี : วัดนาคำน้อย เพื่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์กรรมฐานฯ
ธ.กรุงเทพ : 768-7-78959-9

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

พิธีลงนามสัญญาก่อสร้าง
โครงการพิพิธภัณฑ์ปฏิปหาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี วันอังคารที่๒ เมษายน ๒๕๖๗

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

เย็นวันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโกติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

แต่ทีนี้มา มาพิจารณาดูที่เราประชุมกันคราวนี้ พวกผมก็เมื่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงตาก็ประชุมแล้วประชุมอีก หมู่พวกน้องนุ่งไม่รู้หรอก แต่เราหารือกันในกรุงเทพฯ ว่าจะเดินยังไง จะทำยังไง จะหาทุนยังไงในการก่อสร้างในการดำเนินงาน แต่เราก็พยายาม จตุปัจจัยของเราที่ได้มาเก็บหอมรอมริบ เราก็พยายามเก็บงำไว้เหมือนกัน ที่ปัจจัยของเรา ไม่ใช่ของปัจจัยวัดป่าบ้านตาดนะ เป็นปัจจัยวัดของเรา เราได้มาอย่างไร เก็บๆ เหมือนกันที่มันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เราก็พร้อมที่จะควักออกมา เอามาช่วยเอามาใช้เลยเหมือนกับเราเก็บเข้ามาได้ เก็บไว้ในกระเป๋าไว้ก่อน แต่อนาคตหากมีอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องเอาอันนั้นมาใช้ ลักษณะอย่างนั้นล่ะ อันนี้เราก็ปรึกษากับนั่นแหละ แต่ถึงยังไงก็ตาม ผมเองก็ได้ไปปรึกษากับดรเชาว์เป็นต้นแบบ ท่านก็เป็นผู้ทรงคงแก่เรียน ท่านก็สร้างพิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้นมาก่อน

ที่หลวงตามอบหมายให้เป็นประธานในการก่อสร้าง ผมไปทีไรผมไปถาม ผมก็ไป ท่านก็แนะบอกกล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ของครูบาอาจารย์แต่ละองค์ก็คือของแต่ละองค์ จะเป็นของหลวงปู่ฝั้นก็ดี หลวงปู่เทสก์ก็ดี หลวงปู่ขาวก็ดี ก็มีแต่รูปเหมือนอัฐบริขารของท่านอยู่ในตู้ ให้เป็นที่ชมและก็มีหนังสือของท่าน มีแต่คนไปกราบไปไหว้ ไปแล้วก็เคารพคารวะ มันก็เป็นผลดีเป็นสถานที่ถูปารหบุคคล แต่จะให้ความรู้ความฉลาดสติปัญญานั้นน่ะ มันมอง ๆ ดูแล้วก็ ไม่มี เพราะเหตุใด เพราะท่านไม่ได้เขียน ไม่ได้แนะนำเอาไว้ ผลแห่งการปฏิบัติของครูบาอาจารย์แต่ละองค์ที่ท่านเป็นมาอย่างนี้ ที่ท่านให้ความเคารพเลื่อมใสอย่างนี้ ท่านปฏิบัติมาอย่างไร อันนี้เราไม่ได้ชี้แจง เราไม่ได้บอกกล่าว ตามที่จริงน่าจะเป็น น่าจะมีการแนะนำสั่งสอนบอกกล่าว เพราะฉะนั้น เราจึงเน้นเรื่องปฏิปทาขององค์หลวงตามหาบัว ในพิพิธภัณฑ์ก็เน้นแต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ยังไม่เป็นที่พอใจในพิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงตานะ แต่ถึงยังไงก็ได้ในระดับหนึ่ง

ตามที่จริงมันน่าจะมากกว่านั้น ในความคิดนะ ทีนี้เรา ท่านก็บอกว่า ถ้าหากว่าเราไม่ทำในยุคของเราไม่ทำ คือ ยุคของหลวงปู่เสาร์หลวงปู่มั่น ถ้าหากว่ายุคของเรา ท่านอินทร์นี่ห่างไป ไม่ได้ทำเอาไว้ ก็คงจะหลุดไปเลยล่ะ ห่างเหินไปเลยก็คงจะหาผู้คิดทำยาก ผู้ที่จะแนวทาง เพราะเราอยู่ในระหว่างเชื่อมต่อรุ่นใหม่รุ่นเก่า แต่เราก็เป็นหัว เกือบจะว่าหัวรุ่นใหม่ แต่ท่านครูบาอาจารย์เป็นรุ่นเก่า เราจะว่าไปแล้วเราก็เป็นรุ่นลูก เป็นรุ่นหลานหลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์น่ะเป็นรุ่นลูก หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ครูบาอาจารย์หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่หล้าหลวงปู่กงมา ท่านพ่อลี หลวงปู่พรหม ก็ไล่ไปก็เรียงไปมากนะ เป็นลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น แต่ก็ล้วนแล้วเป็นปฏิปทาที่น่าเคารพนับถือเลื่อมใส ผู้คนทั้งหลายในยุคก่อนหน้านี้เขาก็ให้ความเคารพนับถือเลื่อมใสอย่างมาก

พอท่านมรณภาพลงไป ท่านก็ได้สำเร็จ เป็นอัฐิธาตุของท่านได้กลายเป็นพระธาตุให้กับพวกเราทั้งหลายประจักษ์ตาประทับใจ เรามั่นใจว่าท่านเหล่านั้นคือพระอริยบุคคลเป็นพระอรหันต์นะพูดง่าย ๆ นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะประมวลมาอย่างไร อันนี้ก็คือจุดนี้แหละเป็นจุดที่ท่านองคมนตรีด็อกเตอร์เชาว์เขาว่าน่าจะทำเป็นปฏิปทาแนวแถวสายหลวงปู่มั่นนะท่านนะ ถ้าเป็นไปได้นะ เราสนับสนุนท่าน เรื่องการสนับสนุนจตุปัจจัยล่ะ จตุปัจจัยเดี๋ยวคงจะไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจะหาแนวทางช่วย จากนั้นท่านก็แนะนำไปทางบริษัททางมูลนิธิทางกรุงเทพฯ นั่นน่ะ ท่านก็ยื่นมือเข้ามาช่วยนะ ก็หลายเงินพอสมควร แต่หลวงพ่อเองก็ไม่อยากจะพูดอยากจะกล่าวในตัวเงิน แล้วก็บริษัทแต่เมื่อจบลงแล้วจะชี้แจงทีหลัง
พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ผสานใจศิษย์สู่พิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานฯ”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

แต่ถึงยังไงก็ตาม การที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์แนวแถวปฏิปทาแนวแถวสายหลวงปู่มั่นคราวนี้ครั้งนี้นะ เราจะผูกติดกับสถาปัตยกรรมท่านใดท่านหนึ่งนะเราจะคล้าย ๆ ว่าผสมผสานในความคิดของเรา มันจะสำเร็จอย่างไรหรือไม่ มันจะออกมาอย่างไร บางทีมันไม่มีเจ้าตัว เจ้าตนเจ้าตัว จะสำเร็จได้ไหม เราอยากจะให้ศิษย์ยานุศิษของหลวงตา ศิษยานุศิษย์ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ท่านอยู่ ณ สถานที่ใด ผู้ใดก็ตาม เป็นหญิงเป็นชายก็ตาม ที่ได้อ่านประวัติของหลวงปู่มั่น ได้อ่านปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ได้อ่านประวัติของครูบาอาจารย์แต่ละองค์แต่ละท่านที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นอย่างหลวงปู่ชอบ หลวงปู่แหวนอย่างนี้ หรือครูบาอาจารย์แต่ละองค์ ถ้าได้ศึกษาในจุดนั้น อยากจะให้ท่าน ผู้ได้ศึกษาใส่ใจในครูบาอาจารย์ ลงเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นจุดเด่น จุดเด่นของแต่ละองค์ แต่ละท่าน ครูบาอาจารย์แต่ละองค์

จากนั้นก็จะเอามาความรู้เหล่านั้นแหละ จะมารวมกันๆ แล้วเราก็จะได้เค้นออกมาหลาย ๆ คนก็เป็นแนวความคิดออกมา รวมกันเป็นแนวปฏิปทาของครูบาอาจารย์ ท่านถือธุดงค์ยังไง ท่านมักน้อยสันโดษยังไง ท่านแนะนำสั่งสอนอย่างไร ที่ท่านได้สำเร็จมรรคสำเร็จผล สำเร็จมรรคผลที่ไหนอย่างไร ในการที่สำเร็จมรรคผลของท่าน ในธรรมในจุดนั้นท่านคิดยังไงเหล่านี้เป็นต้น

นี่แหละอยากจะให้สรุปแล้วก็คือ อยากจะให้เป็นศิษยานุศิษย์ทั้งหลายมารวมกัน มาในแนวความคิดแนวปฏิปทาหรือว่าในแนวการดำเนินเดินของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ถ้าเราไปผูกติดกับสถาปัตย์หรือคณาจารย์หรือว่าท่านใดท่านหนึ่ง โดยมากพอมอบให้ท่านแล้วโดยมากใครไปแตะไม่ได้ ทีนี้ใครไปแตะไม่ได้เพราะมันจะยุ่งเรื่องของท่าน แต่สรุปแล้วก็แบบอีโก้สูงพวกนั้นน่ะ พวกท่านก็คืออีโก้สูงเราก็ยอมรับนะ แต่ว่าเราคิดว่าหลายหัวคงจะดีกว่าหัวเดียวกระมั้ง

เพราะฉะนั้น เราจึงเป็นแนวความคิดในจุดนี้จุดหนึ่งที่เราจะต้องหาศิษยานุศิษย์หลายกลุ่มหลายหมู่หลายคณะ เราไม่ได้เลือกที่ ไม่ได้เลือกว่าผู้ใดใครให้เขียนเป็นประวัติออกมา เน้นออกมาเลย ในเมื่อห้องนี้เข้าไป ห้องหลวงปู่ขาวอย่างนี้ เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมีเสียงหลวงปู่ขาวเทศน์หรือเสียงบรรยายเป็นเสียงหลวงปู่ หรือแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ในห้องนั้นน่ะเป็นยังไง แล้วก็อธิบายธรรมที่หลวงปู่ได้สำเร็จมรรคสำเร็จผลที่สูงสุดของท่าน ท่านได้มาอย่างไรในวันที่ท่านได้สำเร็จมรรคผลนั้น

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ผสานใจศิษย์สู่พิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานฯ”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

เมื่อสร้างเจดีย์หลวงตาเสร็จแล้ว หลวงพ่อกะมาคิดอีก เอ๊ น่าจะคิดพิพิธภัณฑ์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น คิดว่านี่ มาคิดอยู่วัดป่านาคำน้อยนะลูกหลาน กะเลยติดต่อไปทางองค์มนตรี ดร.เชาว์ เพิ่นกะเห็นด้วยนะ พวกนายช่างวานิชย์ ช่างสมบัติ เห็นด้วยบาดนี่ ดร.เชาว์เพิ่นกะเลยบอกว่า เอ๊ะ คุณสุขุมนี่ มูลนิธิ สุขุโม ถ้าว่าท่านก็มีปัจจัยอยู่ก็มี ๒ ตายาย แกมีเงินมากอยู่ เพิ่นกะบอกว่าถ้าหากจะเฮ็ดหยังที่เกิดประโยชน์กะบอกเพิ่นเด้อ ดร.เชาว์ เอ๊ะ ทางโรงพยาบาลศิริราชเขาก็ถวายไป ๓๐๐- ๔๐๐ ล้าน ทางรามาก็ดี ทางจุฬาก็ดี แล้วกะหลายแห่งที่มอบจตุปัจจัยให้ไป แต่ทางพุทธศาสนานี่กะเดี๋ยวจะทำเรื่องบอกเขาดูซิ เผื่อจะสนใจบ่ ดร.เชาว์ กะเลยทำเรื่องขอไปนะ ขอไป ๑๕๐ ล้านพุ้นเด้ลูกหลาน เขากะอนุมัติออกมา นี่ล่ะหลวงพ่อก็ถ้าอนุมัติออกมา เริ่มเลยล่ะบัดนี่

วัดป่านาคำน้อยที่ตรงข้ามที่เป็นเนิน กะเลยติดต่อประสานทางที่ดิน สปก. ๔-๐๑ กะอนุมัติ ทางรัฐบาลกะอนุมัติให้ ๙๘ ไร่ หลวงพ่อกะเลยเฮ็ดกำแพงก่อน ทีแรกกะบ่คึดว่าสิเฮ็ดดอก พอขออนุญาต ๙๘ ไร่แล้วบาดนี่ เฮาได้แล้วถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิ์เท่ากับ นส.๓ ว่าเถาะไป๋ ใบอนุญาตของทางรัฐบาลออกให้ มีสิทธิ์เท่ากับ นส.๓ อนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร แต่ว่ามีกะมีข้อแม้ในจุดนั้นอีกว่า ในเมื่อได้รับอนุมัติไปแล้ว ผู้ได้รับอนุญาตนั้นต้องทำกิจกรรมภายใน ๖ เดือน ไม่อันใดก็ต้องอันหนึ่ง แปลว่าลงมือทำ แต่ถ้าหากว่าไม่มีทำอะไรเลยภายใน ๖ เดือน ที่ดินจะกลับเป็นของรัฐบาลตามเดิม แปลว่าเข้ากระเป๋าคืนอีกว่าเถาะไป๋ เพราะเจ้าของผู้ที่ขออนุญาตบ่ได้เฮ็ดประโยชน์ หลวงพ่อว่าบ่ได้แหล่ววะ เบิ่งมันมีข้อกฎหมายกำหนด เอ้า ลงมือเฮ็ด เฮ็ดรั้วกะเลยลงมือทำรั้ว กะเลยขอปัจจัยจากสุขุโม ดำเนินมาเพิ่นกะให้มาเลย ๒๐ ล้านว่าเถาะไป๋ กะมาทำต่อมามันเบิดเด้บัดนี่ ต่อมามันเมิด ๒๐ ล้าน ทั้งที่ดินพร้อม ทั้งรั้วพร้อม ทั้งถนนพร้อมว่าเถาะไป๋ กะเลยขออนุมัติอีก ๓๐ ล้าน เพิ่นกะอนุมัติมามื่อวานมื่อก่อนนะ เข้าบัญชียังทันได้ใช้ตัวนี้ นี่กะคือจตุปัจจัยที่หลวงพ่อได้มา กะได้มาเล่ามากล่าวต่อไปอีก

หลวงพ่อกะคิดว่ากำลังทำโมเดลนะลูกหลานนะ โมเดลคล้าย ๆ ว่าเป็นตัวอย่างจะมีการสร้างเจดีย์ย่อม ๆ เจดีย์บ่ใหญ่ดอก จะเน้นทางพิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น สายหลวงปู่มั่นคือหยัง คล้าย ๆ ว่าเป็นอาคารเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์สายหลวงปู่มั่น หลวงพ่อกะเลยบอกคณะทีม คณะกรรมการทางฝ่ายพระ เป็นลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อนี่ล่ะมานั่งประชุมกัน เฮาสิเริ่มต้นแบบได๋ แต่นี่เฮากำลังทำโมเดลออกมา แต่ทางโมเดล อาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ ช่วย ๆ กันออกแบบทั้งพระเจดีย์ ทั้งพิพิธภัณฑ์ ทั้งอาคารนะ แต่ตัวเนื้อหาสาระพิพิธภัณฑ์นั้นหลวงพ่อจะเอาพาพระ เอาพระในวัดนั่นล่ะ แล้วพระที่ออกนอกวัด ผู้เฒ่า พระเฒ่า พระแก่บ้าง พระได้รับการศึกษามารวม ๆ กัน มาออกหัว เฮาสิเฮ็ดแบบได๋

แต่แนวความคิดหลวงพ่อนี่ หลวงพ่อบอกว่า อันดับแรกเราต้องยกบรมครูซะก่อน คือยกพระพุทธเจ้าเป็นต้นศาสดา ต้นศาสนาคือห้องแรกนะ พระพุทธเจ้าออกจากเวียงวังไปอยู่ในป่าถึง ๖ ปี ไปบำเพ็ญอะไรใน ๖ ปีนั้นน่ะ แล้วก็วันเดือน ๖ เพ็ญท่านได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณที่โคนต้นโพธิ์ ตรัสรู้เรื่องอะไร ที่โคนต้นโพธิ์นั้น เรื่องกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ตัวนั้นพระทัยใจของพระองค์รวมสงบเป็นสมาธิ จากนั้นระลึกชาติหนหลังได้ จากนั้นก็มองดูสรรพสัตว์ในโลก การเกิด การตาย การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก จากนั้นพระองค์ก็ชำระพระทัยใจของพระองค์หมดจรดจากกิเลส ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของพระพุทธองค์ อันนี้ก็คือห้องพุทธประวัติ

พูดแบบย่อๆ ในเมื่อหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นได้ศึกษาในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วนำมาประพฤติปฏิบัติ จากนั้นกะออกธุดงค์ตามสถานที่ต่าง ๆ จนเป็นที่พอใจได้รับมรรคได้รับผล ในเมื่อได้รับมรรคได้รับผลแล้วสอนลูกศิษย์ลูกหาอีก มีหลวงปู่ขาว มีหลวงปู่ชอบ มีหลวงปู่แหวน มีหลวงปู่ครูบาอาจารย์ต่างๆ มีหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่พรหม หลวงปู่อิหยังทั้งหมด หลวงตามหาบัว หลวงปู่หล้า คุณแม่ชีแก้ว หลาย ๆ องค์ นี่ล่ะ ทีนี้แต่ละองค์กะคงจะเป็นห้องๆ บัดนี้ ห้องหลวงปู่เสาร์ห้องหนึ่ง หลวงปู่ขาวห้องหนึ่ง หลวงปู่แหวนห้องหนึ่ง หลวงปู่ชอบห้องหนึ่ง หลวงปู่ฝั้นห้องหนึ่ง หลวงตามหาบัวห้องหนึ่ง หลวงปู่หล้าห้องหนึ่ง คุณแม่ชีแก้วอีกห้องหนึ่ง เผลอ ๆ ยังจะเอาหลวงปู่จามอีก

หลวงปู่จามถึงเพิ่นบ่ได้ปรารถนาเป็นพระสาวก เพิ่นกะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต เพิ่นกะบอกว่าเพิ่นสิได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต องค์ที่ ๑๖ จากนี้ไป อันนี้กะคือหลวงปู่จามที่ท่านได้พูดได้กล่าว วิธีการบำเพ็ญโพธิสัตว์เพิ่นบำเพ็ญแบบได๋ เป็นห้องหนึ่งอีกต่างหาก พอเสร็จแล้วกะห้องสรุปหลักธรรมคำสั่งสอนที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ได้ประพฤติปฏิบัติมา บำเพ็ญศีลจั่งได๋ สมาธิจั่งได๋ ปัญญาจั่งได๋ นี่ล่ะคล้าย ๆ ว่าทำเป็นห้อง ๆ เพื่อให้ลูกหลานศึกษาต่อไปภายภาคหน้า อันนี่เป็นแนวความคิดนะ คล้าย ๆ ว่าเป็นลมเป็นแล้งอยู่ว่าเถาะไป๋ มันคิดซะก่อนเด้จึงค่อยเป็นรูปธรรมแม่นบ่ล่ะ อันนี้เป็นนามธรรมคิดซะก่อน

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ก้าวแรกพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานฯ”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

เรื่องพิพิธภัณฑ์พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ที่พวกเราได้ปรารภกันมา ยาวนานพอสมควร ก็กำลังเริ่มทำ หลวงพ่อเองในฐานะที่เป็นหัวหน้า ย้ำกล่าวเตือนพวกเราทุกคน ผู้ที่จะเข้ามาทำงานในจุดนี้ ต้องเป็นผู้หนักแน่น มั่นคง มองไปข้างหน้า งานทุกงานต้องมีอุปสรรค พูดอย่างนั้นได้นะ ถ้างานใหญ่ขนาดนี้ไม่มีอุปสรรคเลย อันนั้นเป็นของแปลก ไม่น่าจะมีเลยว่าอย่างนั้นเถอะ เป็นของแปลก ถ้าหากว่างานมีอุปสรรคอันนั้นเป็นธรรมดา

แต่อุปสรรคจุดนั้น ถ้าหากว่าพวกเราทุกคนมีความมุ่งมั่นมีความตั้งใจ ว่าการทำงานคราวนี้เพื่ออะไร ถ้าต้องการทำงานเพื่อหน้าเพื่อตาเพื่อชื่อเสียง เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ อันนั้นต้องกระเทือนแน่ ๆ ไม่เป็นอย่างอื่น

แต่ถ้าหากว่าเราทำงานเพื่อฝากคุณงามความดี ฝากฝีมือไว้ในแผ่นดิน เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างนั้น ถึงจะมีอุปสรรคยังไงก็ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ เพราะเหตุไร เพราะเราไม่ได้มุ่งหวังอะไร มีแต่ทำด้วยบูชาพระคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระคุณของผู้มีอุปการคุณ ถ้าหากว่าพวกเรามุ่งหวังที่จะต้องได้เท่านั้น รางวัลเท่านี้เท่านั้น อันนั้นจะต้องมีอุปสรรคนเหมือนกับไก่แย่งไส้เดือนกัน ตัวหนึ่งคาบไส้เดือนได้อีกตัวหนึ่งก็ไล่เตะ ลักษณะอย่างนั้น แต่ถ้าหากว่าเรามุ่งหวังทำขึ้นมาเพื่อสาธารณประโยชน์ ก็ไม่รู้จะเตะไปทำไม ทุกคนเขาได้มาแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร

แต่บางท่านบางคนก็อย่างว่าอีกเหมือนกัน อย่างพวกเราท่านทั้งหลาย ถ้าได้ทำงานร่วม หรือว่าอยู่ใกล้ที่หลวงพ่อพาดำเนินเกี่ยวกับเจดีย์พิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงตามหาบัว พวกเราก็คงจะเห็นว่าอุปสรรคจุดนั้นเป็นอย่างไร เขาก็มุ่งหวัง คล้าย ๆ กับว่าไม่อยากจะให้ทำ

ตามที่จริงเจตนาของเราไม่ได้มุ่งหวังอะไร เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จบ เราไม่ได้หวังห้า หวังสิบ หวังร้อย หวังพัน หวังหมื่นจากพิพิธภัณฑ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็มอบให้ ให้ช่วย ๆ กันดูให้ช่วย ๆ กันแล อย่างทุกวันนี้ ช่วย ๆ กันประคับประคอง ดูแลพัฒนา ก็เป็นที่กราบไหว้ของเทวบุตรเทวดา เทวดาเราก็ไม่เห็น แต่มนุษย์เราเห็นแน่ ๆ ล่ะ หลั่งไหลเข้ามากราบคารวะพิพิธภัณฑ์ขององค์หลวงตา

เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็เป็นศักดิ์เป็นศรี เป็นสง่าราศีต่อบรรดาศิษยานุศิษย์ ผู้ที่คัดค้านหัวร้างข้างแตก หายไปไหนก็ไม่รู้ หายเงียบไปไม่เห็นพูดอะไร เพราะเหตุไร เพราะมันเป็นผลออกมาแล้วนะ แล้วก็เป็นสมบัติของจังหวัดเมืองอุดรธานี เป็นสง่าราศีของเมืองอุดรอีกต่างหาก หลวงพ่อที่เดินหน้าลุยทำ หลวงพ่อก็อยู่ในป่านะ ก็ไม่ได้ไปโผล่หน้าให้เห็นทุกวี่ทุกวันเมื่อไร

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “สืบทอดปฏิปทาหลวงปู่มั่นสู่ลูกหลาน”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

การสร้างพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน จะสำเร็จเสร็จสิ้นยังไงนั้นก็ ให้พวกเราติดตามแล้วก็อาศัยศรัทธาญาติโยมทุกหมู่ทุกเหล่า จตุปัจจัยของพวกเราก็ ถ้าจะว่าหวังน้ำบ่อหน้าก็ไม่น่าจะผิดเหมือนกัน เพราะปัจจัยจำนวนนี้จะเป็นเงินจำนวนก้อนใหญ่พอสมควร ที่เราจะต้องทำ แต่คิดว่าหลวงพ่อเองก็มั่นใจว่าพวกเราเป็นพุทธศาสนิกชน พุทธบริษัท ถ้าหากว่าผู้ใดเห็นพร้อมต้องกัน ว่าแนวปฏิปทาของพ่อแม่ ครูบาอาจารย์จะเกิดประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลังต่อไปภายภาคหน้า พวกเราก็ควรจะร่วมกันเสียสละคนละมากคนละน้อย แต่ถึงยังไงก็ไม่ให้ท่านผู้ใดหนักอกหนักใจในเรื่องการกระทำในคราวนี้ เราก็จะมองไปในอนาคตอีกเหมือนกัน

ถ้าเรามีทุนทรัพย์มากเราก็จะใช้ของดี ถ้าหากว่าเราไม่มีทุนทรัพย์มาก เราก็ควรจะใช้แบบธรรมดาให้ผ่าน ๆ ไป แต่เนื้อหาสาระ ธรรมะที่เป็นของพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั้นเราจะคงเดิมไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อไป แต่เรื่องทางด้านวัตถุเราก็จะทำตามที่จตุปัจจัยตามมีตามเกิด

แต่ก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจเป็นที่น่าพอใจที่ท่านดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ดร.แตน แล้วก็พร้อมกับคุณนาย คุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ คุณบี แล้วก็คงจะเป็นวงศาคณาญาติผู้ใหญ่ทุกท่าน คงจะปรึกษาปรารภกันแล้วท่านก็มีจิตศรัทธา เห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อศาสนา เป็นประโยชน์ต่อวงการพระสงฆ์สายปฏิบัติธรรมแนวแถวปฏิบัติขององค์หลวงปู่มั่น

เพราะองค์หลวงปู่มั่นของเราก็ได้รับรางวัลยูเนสโกอย่างที่พวกเราท่านทั้งหลายได้ยิน ที่ผ่านมาปีสองปีที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นมหาเถระผู้ใหญ่ในวงกรรมฐานองค์หนึ่ง เพราะฉะนั้น ท่านจึงได้ปรารภกับหลวงพ่อ ปรารภกับผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อนะว่า จะถวายในงานนี้ ประเดิมในวันนี้นะ ถวายเป็นเงิน ๑๐ ล้านบาทเน้อลูกหลานเน้อ สาธุ

นี่แหละท่านก็นั่งอยู่ที่นี่นะ ฟัง ๆ ดูหลวงพ่อก็เห็นแล้วว่าท่านโอนเข้ามาแล้วอยู่ในธนาคาร ถามผู้จัดการธนาคารกรุงเทพว่า จตุปัจจัยเข้ามาแล้วครับหลวงพ่อ เข้ามาอย่างที่ท่านได้พูดได้กล่าวนะ หลวงพ่อก็จะได้พูดให้พวกเราท่านทั้งหลายได้ฟัง แปลว่าวันนี้ประเดิมได้ ๑๐ ล้าน ถ้าหากว่าได้อย่างท่านมาคนละสิบละสิบนะ หลวงพ่อว่าคงไม่กี่คน พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อก็คงจะเสร็จนะ อันนี้พวกเรามานั่งอยู่นี่ก็คงพันคนอยู่นี่นะ เอาคนละสิบละสิบ คงจะไม่กี่คนมั้งเนาะ พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นของพวกเราก็คงจะผ่านฉลุยนะ นี่ก็เล่า ๆ กล่าว ๆ ให้พวกเราทุก ๆ ท่าน

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “พิธีวางศิลาฤกษ์พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (บ่าย)

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ถ้าหากว่าเราไม่ได้คิดไว้ ไม่ได้ปูทางเอาไว้ พุทธศาสนิกชนหรือว่าทายาทของเราคงจะกุดด้วนขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะนั้นเราพร้อมที่จะปูทางให้ลูกหลานของเราให้ได้ศึกษา ได้ฟัง ได้ปฏิบัติ จากนั้นแนวความคิดของลูกของหลานต่อไปภายภาคหน้ามันจะยืดยาวในหลักธรรมคำสอนของพุทธะ หรือว่าธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

อย่างที่องค์หลวงตาที่ท่านได้พูดได้กล่าวว่า ถ้าหากว่าสร้างพระเจดีย์เราไม่เห็นด้วย ถ้าสร้างลักษณะพิพิธภัณฑ์ นำธรรมคำสอนของเราออกไปประกาศเผยแผ่ ออกไปเขียนให้คนได้ฟังได้ศึกษา อันนั้นจะเกิดประโยชน์นะ อันนี้เราก็ฟังในจุดนี้ เราก็คิดว่าถ้าหากว่าการที่จะทำก็คงจะไม่เหลือวิสัย

แต่ถึงยังไงก็ตาม การสร้างการทำอย่าให้เสียเจ้าของนะ อันนี้ผมขอเตือนไว้ในฐานะที่เป็นหัวหน้า ถ้าพวกเธอท่านทั้งหลายทำไปแล้วเสียพระ เสียศูนย์ในการกระทำ เสียหลักพระธรรมวินัย ไม่อยู่ในหลักพระธรรมวินัย อันนั้นน่าตำหนิ ถ้าว่าน่าเสียใจก็น่าเสียใจ น่าตำหนิ ในการเป็นอยู่อย่างนั้น การกระทำนั้น

เพราะฉะนั้น พวกท่านทั้งหลายให้ดูให้แลกัน ถ้าหากว่าท่านองค์ใดก็ตามออกนอกลู่นอกทางไม่ไหว ผมไม่ได้ต้องการวัตถุนะ ผมต้องการพระมากกว่า ให้ออกไป ให้ไปศึกษาปฏิบัติเอาตัวซะก่อน ถ้ามันไม่ไหว ถ้าหากว่าจะสู้ไหว เออเอา ดูแลช่วย ๆ กัน ได้ทั้งหลักธรรมวินัย ได้ทั้งคดีโลก ได้ทั้งธรรมทางด้านจิตใจ ทางด้านจิตใจก็โดดเด่น ทั้งภายนอกก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วหน้า

เห็นไหมเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของหลวงตา ในเมื่อผมสร้างไปแล้วผมเสียไหม ผมคิดว่าผมมั่นคงนะ ไม่มีอะไร เจดีย์ของหลวงตาก็สง่างามเป็นที่ยอมรับ เป็นที่เชิดชู สมปณิธานที่องค์หลวงตาที่ท่านได้ตั้งเอาไว้ว่า ให้นำเอาธรรมคำสอนของเราออกมาประกาศ เผยแผ่ เราก็เน้นใจจุดนั้นนะ อันนี้ก็เล่ากล่าวให้พวกลูก ๆ หลาน ๆ น้อง ๆ ทั้งหลายให้ช่วย ๆ กันคิดนะ

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “สืบต่อรักษาข้อวัตรปฏิบัติพระวัดป่า”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (บ่าย)

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย