การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

และที่เขียนมานะเป็น มโนเป็นวจี หรือเป็นกายกรรมละ

 

เห็นจารย์บาสออกทีวีที่ s channel ออกตอนล่าสุด
ถือร่มอยู่ข้างหลัง ร่วมรายการ
ตอนเจองูหลามนะครับ..
ิอิอิ

เมื่อไหร่จะออกทีวีเต็มๆ บ้างครับ..

 

ช่วงนี้ก็ยังนั่งสมาธิ สลับกับ เพ่งเทียน

หลังๆมาเวลานั่งสมาธิ หรือ ก่อนนอนตอนเข้าสมาธิ รู้สึกเหมือน

แน่นๆๆ แน่นบีบเราไปเรื่อยๆ ถ้าถอนลงมาก็หาย

ตอนเพ่งเทียน บางทีเหมือนไฟจะไหม้ของบนโต๊ะ มันกลายเป็นไฟอะคับ

ยังทำให้ขยาย ย่อเล็กไม่ได้คับ

ไม่เข้าใจตรงที่เวลาเพ่งเทียนแล้วมันติดเป็นลูกกลมๆแล้ว ให้เพ่งที่เทียนต่อหรือว่า

เพ่งที่ลูกกลมๆ หรือ ในวงขาวๆของเปลวเทียนคับ

 

ส่งการบ้านค่ะ

นับวันยิ่งทำไม่เป็น ยิ่งทำ...ยิ่งคิดฟุ้งซ่าน ยิ่งหาทางแก้ ยิ่งวุ่นวาย...นั่งไม่ได้นานก็เลิก เพราะยิ่งพยายาม ยิ่งไปกันใหญ่...

ขอตั้งหลักก่อนค่ะ...แล้วจะหาที่ไปดีๆ ไปอบรมซะ ท่าจะดีกว่า

 

จิตก็เป็นอย่างนั้น สงบเป็นธรรมดา ฟุ้งเป็นธรรมดา จิตเรามีทั้งฟุ้งและสงบ จึงจะเป็นธรรมชาติของจิต

จะฝืนให้มีด้านเดียวก็คงผิดธรรมดา เราฝึกก็ต้องให้รู้ ดู และ วางจึงจะเกิดปัญญาครับ

 

ขอบคุณค่ะ ที่เตือน ที่สอน...

*****

เมื่อเช้า ว่าจะเล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟังที่เตือนตัวเอง... เผื่อคนอื่นจะได้คิดด้วยว่า......
เวลาขับรถ มักจะใจร้อน เผลออยู่บ่อยๆ...เผลอหงุดหงิด โมโห...แซงแล้วขอมองหน้าหน่อย...."ขับช้าแล้วอยู่ขวา ไม่รู้ร้อน รู้หนาวเหมือนฉันขับอยู่คนเดียวในโลกรึไง" "โห...ยูเทิร์นได้ ทำไม ไม่ ยูเทิร์น รถอยู่ตั้งไกล"
พอคิดได้ก็นะเออ...เคยอ่านของหลวงพ่อฤาษี ท่านสอนว่า เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินใคร...ใครดี ใครเลว...เรื่องของเขา กรรมของเขา แต่ถ้าเราไปว่าเขานั่นละ กรรมของเรา แล้วที่เราไปติเขานะ แสดงว่าเรายังไม่ดี" ทีนี้ก็คิดว่า เราอย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานไปวัดคนอื่น...ใครดี...ใครเลว..ใครทำได้...ใครทำไม่ได้ คนเราไม่เท่ากัน...พอคิดได้ทัน ก็หยุดความคิดนั้น...:d

 

ส่งการบ้านค่ะ

เช้าวันนี้ นั่งบทที่ 3
ลมหายใจเบา ไม่ค่อยฟุ้ง
นั่งต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกมีความสว่างทางด้านซ้ายมากกว่า ด้านขวามีเงาดำอยู่เล็กน้อย
ดูไปอีกสักพัก ก็สว่างไปทั่ว เงาดำทางด้านขวาหายไป
วันนี้จะสงบ นิ่ง มากกว่าฟุ้งค่ะ (ฟุ้งแป๊บเดียว ก็กลับมานิ่งเหมือนเดิม)

ขอบคุณค่ะ

 

อันนี้ผมว่าพี่ไม่เข้าใจ ต้องลบกวนพี่หมูมาอธิบายหน่อยไหมครับ

 

ส่งการบ้าน

พยายามนั่งอยู่ทุกวัน ช่วงตี 5 ซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่ขี้เกียจก็ก่อนนอนด้วย

เวลานั่ง ก็นิ่งๆ ปรกติทุก ๆ วัน หรือไม่ได้สนใจอาการที่มันเกิดขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้

บางทีนั่งแล้วรู้สึกนานเชียว แต่ดูเวลาก็แป็บเดียว

บางทีก็รู้สึกได้แค่แป็บเดียวต่ออีกหน่อยละกัน แต่พอดูเวลาก็นั่งนานแล้วนี่หน่า

ไม่รู้จิตวิ่งไปไหนมาไหนบ้าง เพราะไม่เห็นอะไร 555 (ไม่มีไรหวือหวา)

หรือว่าจะเห็นแต่ก็วางตรงนั้นเลย ก็ไม่รู้อีกนั่นหละ(ตกลงจะรู้ไรมะเนี้ย อิอิ)

เอาเป็นว่า ทำทุกวันละกัน มีอะไรจะให้เพิ่มเติมหรือเปล่าจ๊ะ

จบรายงานเพียงเท่านี้จ้า

 

มาส่งการบ้านครับ
สองวันก่อน สวดมนฆ์ บท๓ หลุดๆหลงๆหลับๆตื่นๆไม่ค่อยได้เรื่องเลยครับ ตอนนี้ผมแพ้อากาศอยู่เลยเล่นเอาผมงอมเลยครับ
เมื่อคืนนี้ ตอนสวดมนฆ์ยังหลับไปเลยครับ ตื่นมาก็งงๆ นึกว่านั่งนานพอสมควร ได้แค่สี่สิบนาทีเองครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ บาสครับ

 

ส่งการบ้านค่ะ

ตื่นมาสวดมนต์ ตอนเช้า นั่งสมาธิแป๊บนึง...ดีกว่าเมื่อวาน คิดฟุ้งซ่านยังมีอยู่ แต่น้อยลง... นั่งได้ประมาณ 20 นาที (เอง)

 

จับหงายกระดองก็แล้ว
ถอดกระดองก็แล้ว
ยังไม่สำเร็จ จะทำอย่างไรดี หนอ

ยังงี้ มันต้องผ่าดัด ดูโครงสร้าง ภายใน
มันไม่เกี่ยวกับภายนอก แน่ๆเลย
ถึงโยนิโส ไม่สำเร็จ

มันมาจากภายในล้วนๆ โดยสภาพของ จิตเอง
ทำไม ตับมันใหญ่มากๆ
ถึงว่าซินะ ถึงได้มีพลังมากมาก
ทำให้ฟุ้งซ่านง่าย

เอ่อ ที่ประหลาด ทำไม ห้วเต่า ถึงเล็กจัง น่าคิดนะ
ไม่สมกับ ตัวเลย
ทำศัลยกรรมดีไหม ตับมันใหญ่ไป เอาไปใส่ ใ้ห้ห้วโตขี้นดีไหม
หรือเอาไปเพิ่ม ที่คอให้ยาวขื้น จะได้เห็นหาง ของตัวเองดีไหม

โอเค เช็ดเสร็จแล้ว ไม่ทำดีกว่า เด๋ียวน้องเขาเจ็บ สงสาร สงสาร
ทำการบ้านที่อาจารย์สั่งมาดึ กว่า

คำพูด ที่หลวงพ่อฤาษี ที่น้องเต่ายกมา ท่านพูดถูกต้องหมด แต่น้องเข้าใจได้
เพียงสามสิบเปอร์เซ็นเท่านั้น และก็คนละประเด็น กับอารมณ์ ที่น้องเล่ามา
พี่คงไม่อธิบาย เพราะเมื่อ วันหนึ่ง ที่สติสัมปชัญญะ เรามากขึ้น
เราจะเข้าใจ สิ่งที่หลวงพ่อพูดทั้งหมด

แต่ก็ดีใจ ที่น้องเต่า เริ่มที่จะระงับอารมณ์ได้ มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้จิตน้องเต่าก็เหมือน น้ำทีขุ่น อยู่ตลอดเวลา แต่เราไมรู้
พร้อมที่จะตอบโต้ได้ตลอดเวลา ในทุกเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การงาน เพื่อนฝูง หรือคนรอบตัว

เพราะฉนั้น จะไม่เหมาะมาก กับเรื่อง การพิจารณา เพราะมันจะยิ่งทำให้เราฟุ้งมากเข้าไปอีก
ต้องฝึกสติ อย่างเดียวไปก่อน งดการพิจารณาไปสักระยะหนื่ง

การฝึกสติที่ดี คือการฝึกอานาปาสติควบคู ไป่กับกายด้วย
เช่น ฝึกลมหายใจกับโยคะ ฝึกลมหายใจกับชี่กง ฝึกอะไรก็ได้ ทีีมีอานาปานสติ ประกอบ

ถ้าฝึกอานาปาล้วน เดี๋ยวจะฟุ้งเร็ว และไม่เกิดประโยชน์

การฝึกปฎิบัติแบบของอาจารย์ ก็ดี น้องเต่า ลองท่อง บริกรรมให้ช้าลง สลับ กับบริกรรมเร็ว
ฝึกเดืนลมให้ช้าลง ในการหายใจเข้าและออก
เต่าเป้นสัตว์ที่หายใจได้ลึกมาก เอาของดีของตัวเอง เอามาใช้
ยิ่งหายใจได้ลึกมากเท่าไหร่ สติก็จะตั้งมั้นได้เร็วเท่าน้ัน

เพื่อเรียกสติ ให้มั่นคงก่อน การดู รู้ เอาไว้ทีหลัง และอีกอย่างที่สำคัญ
อยากให้น้องเต่า เห็นผลเสียของน้ำขุ่น ว่ามันน่ากล้วขนาดใหน

ตอนนี้มันยังไม่ส่งผลอะไรกับ ตัวเรามากนัก ทางด้านสุขภาพ
เพราะเรายังอายุยังน้อย แต่มันกำลังสะสมอยู่ในร่างกายเราแบบภัยมืด
ในทุกครั้งที่เรามีอารมณ์โกรธ หงุดหงิด หรือเก็บกด
ถ้าคนที่ฝีกสัมปชํญญะ มาเก่งๆ
เขาจะเห็นกระบวนการ การสะสมของอารมณ์ ในแต่ละจุดในร่างกาย จากน้ำขุ่น เป็นโคลน เป็นดิน (เนื้องอก ซีสต่าง)

พอเราย่างเข้า ห้าสิบ เป็นช่วงที่ เลือดจะไป ลมจะมา คือหมดประจำเดือน
จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ทำไม คนเราพอเริ่ม เข้า ห้าสิบ โรคถึงถามหามากมาย เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
แต่หารู้ไม่ว่า ม้นเป็นผลมาจากอารมณ์ของเรานั้นแหล่ะ เป็นส่วนใหญ่
กรรม ก็คือการกระทำ ไม่ทำ(อารมณ์เสีย หงุดหงิด เก็บกด ทนกับอะไรไม่ได้)
กรรม (ทางกายคือสุขภาพ ทางจิตคือนำ้ขุ่น) ก็ไม่เกิด
เปลี่ยนวิถีคิด วิถีจิต และพฤติกรรมใหม่
อะไร อะไร ก็จะดีขึ้น

 

ส่งการบ้านครับ

ครั้งแรกครับสวดมนต์ตามที่อาจารย์บอกนั่งนับลมเข้าออก100ไม่นิ่งครับมีเรื่องคิดเข้ามาเป็นระยะนับพุธโทได้10ครับหยุดปวดหลังตัวสั่นเป็นระยะครับพักประมาณ30นาทีนั่งใหม่นับลมได้100มีเรื่องคิดน้อยลงนับพุธโทได้100มีคิดเรื่องงานบ้างต่อด้วย เกษา โลมา นขา ทันตา ตโจ 100 หยุดพิจรณาสังขารไม่เที่ยงและแผ่เมตตา

 

ขอบคุณ พี่หมู ที่อุตส่าห์ มาตอบ มาเตือนกัน นะคะ
คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าจะเริ่ม บทที่ 1 ใหม่ เป็นศิษย์ใหม่ รอบสอง ซะดีมั๊ง 555

 

นั่งใหม่ๆเวทนาจะเกิดแรงมาก นิ่งไม่นิ่งเป็นอารมณ์ของจิดให้พิจรณาก็ได้ ก็จะดีครับ

 

ส่งการบ้านค่ะ

นั่งตอนเช้า หลังจากเว้นไป 2 วัน เพราะมีแขกมานอนที่บ้าน...

นับ 1-50
ท่องพุทโธ 1-100
ท่องบทสวดสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ...

โดยรวมๆ สงบดีค่ะ ไม่ค่อยฟุ้งซ่าน นั่งจนเมื่อยแล้วขอเวลานอก เปลี่ยนท่านั่งแป๊บนึง แล้วนั่งต่อ ทีนี้เหมือน ข้างในมันโคลงๆ กระเพื่อม ไงไม่รู้ค่ะ เหมือนมีคลื่นในทะเล ก็นั่งต่อไป สักพัก แม่มาเคาะประตูเรียก เลยต้องออกมาต่อ รอบ 3 หน้าหิ้งพระอีกรอบ

ขอโทษ อาจารย์ด้วยค่ะ ที่พี่นอกคอก... ถ้าไม่ถูก...ไม่ควรก็ว่ามาละกันนะคะ :d

****น้องใหม่ ให้ทำตามบทเรียนนะคะ อย่าเอาอย่างพี่****

 

มือใหม่ครับ

จะเริ่มบทที่2เอาอะไรเปป็นตัววัดครับอยากทราบไว้ก่อนนะครับ

 

ถ้าให้ผมตัดสินก็อีกยาวครับ นั่งบทที่1ไปก่อนครับ

 

อ.บาสครับ
ตอนผมนั่งเวทนา ปวดขา ปวดแขนก็เกิดบ้าง
แต่มันจะเลอออกมาตลอดเลยครับ

 

ปรกติครับผมก็เป็นครับ