การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ส่วนผมนั่งไปปวดหลังไปครับ เหอ ๆ :'(

ปวดเบื้องขวามาก ๆ บางวันย้ายไปฝั่งซ้าย โฮๆ

แต่ส่วนมากจะปวดทางฝั่งขวามากกว่า ทำไงถึงจะหายละเนี้้ยๆ

ขอนั่งปวดขาอย่างเดียวได้มั้ยครับๆๆๆ :''(

 

ขอบคุณ คุณอามังกร และ คุณ noolegza ค่ะจะลองกำหนดรู้ดูค่ะ เหมือนกับเราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา คือรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ตอนนี้ลองทำดูค่ะ มันเหมือนช่วยให้เราไม่คิดฟุ้งซ่านด้วยใช่มั้ยค่ะ เหมือนเราดูตัวเองพูดกับตัวเองตลอดหรือเปล่า ว่าตอนนี้เราทำอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ
ขอส่งการบ้านด้วยค่ะอาจารย์บาส
เมื่อคืนได้นั่งบทที่๑ เวลาประมาณเที่ยงคืน นั่งสงบ ดิ่งดีมากเลยค่ะ บางทีสงบมากก็รู้สึกกลัว กลัวว่าจะได้เห็นอะไรซะงั้น แต่ความกลัวก็ดีขึ้นแต่ก่อนเยอะมากมายค่ะ ได้ยินเสียงอะไรก็รีบอุทิศ แผ่ ให้โล้ดด:VO จะได้ไม่ต้องมาก๊อกแก๊ก บ่อยๆ และไม่อยากลืมตามาแล้วเจอค่ะ แต่ก็ไม่วายเพราะได้ยินเสียงเหมือนมีคนตีฮีทเตอร์(เครื่องทำความอุ่นในบ้าน) ดังจนสะดุ้งทั้งตัว พอแผ่ให้เสร็จ รู้เลยว่าใจเริ่มไม่เป็นสุข แต่ก็สู้จนภาวนาได้จบ ถึงแม้จะเร่งๆไปบ้างค่ะ
และของวันนี้ บทที่๑ ได้เปลี่ยนที่นั่งใหม่ เป็นชั้นล่างของบ้านค่ะ สามารถมองเห็นข้างนอกได้ เป็นกระจก ตอนจะนั่งไม่กลัว แต่พอนั่ง ไอ้โน่น ก็ก๊อกแก๊ก ตลอด จนจิตเรามันฟุ้งเล็กๆ เลยไม่นิ่งแบบเมื่อคืนค่ะ จิตก็ไม่นิ่ง นับผิด นับถูก ต้องเริ่มใหม่บ่อยๆ
แต่มีช่วงหนึ่งก่อนจะแผ่เมตตา และ อุทิศ ได้เห็นเหมือนไฟเทียน๒ดวงแวปเข้ามาค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

ยินดีในบุญครับ สาธุ.........

 

ขอบคุณทุกคนจ้า ที่เป็นกำลังใจให้...พี่มังกร อาเห็ดหอม กิ๊ก หนุ่ม คุณที่คาดผม

เลือกทางเดินแล้ว ก็ต้องสู้ต่อแหละจ้า...เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยเช่นกันค่ะ

******

ส่งการบ้านค่ะ...แต่ส่งไม่ถูก ลืมหมดแล้ว
อาจารย์จะว่าไรก็ว่ามาค่ะ....น้อมรับ แต่บางครั้งไม่พร้อมรับ 555 ขอเวลาตั้งหลักก่อนนะ

 

มีงูมาเยือน งูมาเยื๊อน... งูมาเยือน... อ่ะ... งูมาเยือน

http://palungjit.org/threads/พญานาค-อภิญญา-กับ-ภัยพิบัติโลก.262289/

 

ยินดีในบุญครับ สาธุ..สาธุ..สาธุ

 

หากผมบอกให้คุณจิดาเลิกกลัวและวิตกกับเสียง ที่คุณได้ยิน (หูกระทบเสียงใจปรุงแต่ง)

ก็คิดว่าคงไม่ได้ผลครับ เพราะสภาวะจิตตอนนั้น เกิดความตระหนกและหวั่นไหว เอาอย่างนี้ครับ


เปลี่ยนความกลัวของคุณให้เป็นการฮึดสู้ เพียรเร่งสติให้กล้าแกร่งขึ้น จับอารมณ์ให้แนบแน่น ตั้งสติ

นับองค์กรรมฐานให้ถึง 100 นับให้สำเร็จ และนับให้ได้


การที่พวกเรามานั่งฝึกกันอย่างนี้ ได้สวดมนต์ได้นั่งภาวนา ถึงผิดบ้างหลุดบ้าง ไม่ใช่สิ่งสำคัญครับ

แต่ที่อยากจะบอกน้อง ๆ คือ จะเกิดสนามพลังงานที่มองไม่เห็น แผ่ปกคลุมพวกคุณ และสิ่งอื่นสิ่งใด

ที่เป็นอกุศล จะเข้ามาไม่ได้ครับ


การแผ่เมตตา ควรแผ่เมื่อสิ้นสุดการทำกรรมฐาน ไม่ควรแผ่ระหว่างที่กำลังนั่งครับ

 

อ่านแล้ว เห็นข้อความแล้ว ตอนบ่ายผมแผ่เมตตาออกไปแล้ว

ถึงได้ทราบว่า กระแสเมตตาเป็นพลังเย็นรวมที่ฝ่ามือ คงไม่ผิดหรอก

เอ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

.....นั่งอยู่เรื่อยๆค่ะ
- อารมณ์และอาการยังคงเดิมๆ บางวันออกกำลังกายเต็มที่ ...บางวันนิ่งๆเรียบๆ บางครั้งก้อปนๆกัน..ออกกำลังครึ่งนึง-เรียบๆนิ่งๆครึ่งนึง ...บางทีก้อเกร็งในกายแบบใจจะขาดดิ้น..ช่วงนี้เป็นแบบนี้ โดยรวมๆยังคงวนๆเวียนๆในอาการเดิมๆ..ค่ะ

 

เมื่อคืนฝันว่า โดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป เลยร้องเีรียกทั้งอาจารย์วิษณุ และอาจารย์สุวิ เฮ้อ ท่าจะโดนตำหนิอีกเรา...

ส่งการบ้านค่ะ

นั่งบทที่ 1 ตอนเช้า ตี4 ไม่รู้จะเล่ายังไง รู้สึกหน่วงๆ กลางหลัง คิดถึง บทสวดหลวงพ่อโต "เบื้องหลังพระโกณฑัญญะ สถิตจิตสา" ที่หน่วงๆ หายไปวูบนึง แล้วกลับมาอีก

จบดีกว่า จำไม่ได้ เขียนไม่ถูก...เหมือนที่กิ๊กเคยว่า เขียนแล้วเปลี่ยน เอาเป็นว่า ยังทำการบ้านอยู่ค่ะ

 

วันไหนว่างมานั่งคุยกันดีกว่าครับ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ต้องมาปรับนิดนึงนะ

 

รับทราบค่ะ
อาจจะลางานวันเสาร์ ขอดูอีกทีค่ะ

 

โอ้.....

บรรยากาศ อึมครึม เหมือน อากาศข้างนอกเลย

ครึ้มฟ้าครึ้มฝน จะเปียกก็ไม่เปียก หน้าหนาวก้มีฝนตก

อาจารย์ ก็ดูอยู่ห่างๆ อย่าง ห่วงๆ

ส่วนลูกศิษย์ ก็ต่าง ละวาง

อ.สอนได้ผลจริงๆ (ดู รู้ ละวาง) น่าภูมิใจ.....

 

มันไม่ไ้ด้ละวางหรอกพี่ มันแค่คิดว่าไม่อยากถือไว้ ถือมากๆมันหนัก 55+

 

สวัสดีตอนเช้าอาจารย์และพี่ๆน้องๆค่ะ

ช่วงนี้ปฏิบัติไม่เต็มที่เท่าไร่เพราะทำงานจนดึกดื่น
เลยนั่งไม่ค่อยครบบทเลยมาสารภาพผิดซะหน่อยค่ะ

แต่ว่ารู้สึกมีอะไรบางอย่างมาแวบๆอยู่เรื่อยก็ได้แต่ดูรู้ตามที่อาจารย์ว่าไว้ อาจวางยากหน่อย^^

อาจารย์มีอะไรก็ว่ากล่าวหนูได้ค่ะ ขอน้อมรับโดยดุษฎี ขอบพระคุณค่ะ

 

ส่งการบ้านค่ะ

เมื่อคืนสวดมนต์วันพระ...ยาวไปหน่อย ความง่วงเริ่มมา ความขี้เกียจเริ่มมา ก็ฮึดอยู่ 2 ครั้ง สวดจนจบ ทีนี้พอเริ่มนั่ง ทั้งง่วงทั้งปวดกลางหลัง ปวดมากกว่าทุกวัน ฝืนได้ไม่นาน ก็ลาพระไปนอนสมาธิ...ดูท่าจะดีกว่า

เช้ามา นั่งก็ไม่ค่อยสงบ เผลอเป็นคิดเรื่องงาน เรื่องโน้น เรื่องนี้ คิดว่าวันนี้คงไม่ค่อยได้บุญเท่าไหร่ เลยอุทิศให้แค่หมาป่วย ปลาป่วย ที่บ้าน คิดอยู่ว่าน่าจะอุทิศให้ตัวเองด้วย 555 จะได้มีความสุขมั่ง

ช่วงนี้ความอดทนน้อย อุเบกขาน้อย ขี้เกียจสูง แต่ก็พยายามทำทุกวันค่ะ

 

ส่งบ้าง
วันไหนไม่เหนื่อยมาก ก็นั่งได้จนจบบทไม่หลับไปก่อน
แต่ถ้าวันไหนเหนื่อนก็ นั่งไปสักพักก็เหลือแต่คำภาวนาอย่างเดียวไม่นับเลข หัวก็สัปหงก ต้องคอยดึงขึ้นมา แต่แปลกดีพอคิดว่าไม่ไหวแล้วออกจากสมาธิ ก็หายง่วงซะยังงั้นเลย

 

เข้าเวปไม่ได้ตั้งสองอาทิตย์มั้ง เพิ่งจะเข้าได้วันนี้ครับ ตามอ่านซะตาแฉะเลย
Happy New Year 2011 ครับ
มีคุณมังกรมาช่วยอาจารย์ บาสด้วยอีกคนแล้ว คุณมังกรหายไปตั้งนาน วันก่อนยังสงสัยคิดว่าไปฝึกมังกรสบัดหางแน่เลย
ยินดีในบุญกับทุกๆท่านครับ
มาส่งการบ้านครับ ยังปฏิบัติอยู่ทุกวันครับ
สวดมนฆ์ บท๓ อาการก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีอาการเจ็บปวดหรือฝุ้งซ่าน คือเงียบๆไปตลอดครับ เมื่อวันก่อนมีเสียงปืนแก็บดังทางด้านขวาทำเอาผมเซไปด้านซ้ายเลยครับ
ขอบพระคุณ อาจารย์ บาสครับ

 

ในที่สุดก็มีคนนั่งปวดหลังเหมือนกันกับผมแล้ว เหอ ๆ :d (จะโชคดีหรือโชคร้ายกันนเนี้ยยะ! )

มีวิธีทำไม่ให้ปวดหลังครับ (แก้ปัญหาเฉพาะหน้า)

เมื่อเราขณะนั่งไปถ้าเผื่อมีอาการปวดหลังขึ้นมา ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ นั่งไปภาวนาไปเรื่อย

ไม่ต้องไปใส่ใจอาการ รอจน....รอ...รอ....จนอาการปวดขาเริ่มมานั่นแหล่ะ

อาการมันจะปวด ๆๆๆๆ ป๊วด ๆๆ ปวดเรื่อย ๆ หนักเบา ๆ สลับกัน นานหน่อยอาการปวดเสียดแทงกระดูกก็จะเข้ามา (ขอบอกว่าตรงนี่มามันโ--รรรปวดดดด(eek) แต่ก็ทน)


พอเริ่มแรกมีความปวดเข้ามา ก็เข้าสู่โหมด เวทนานุสสติ(หนึ่งในมหาสติปัฏฐานสี่)

เปลี่ยนโหมดทันที เชื่อเถอะครับอาการปวดขามันจะปวดหนักกว่าอีก 555
เฮ้ย..นี่มันหนีเสือปะจระเข้นี่หว่าpig_cryy

VS

เราก็ใช้สติจับอาการปวดขาไว้ อย่าให้ขาดช่วงครับ แล้วอาการปวดหลังก็จะหมดรู้สึกไป

มันก็....

ปวดอยู่แร่ะครับ แต่ปวดขามันมากกว่า ก็เลยกลบการปวดหลังไป :'(

แล้วส่วนวิธีแก้การปวดขาหล่ะ อันนี้ค่อยมาพิจารณากันอีกที(smile) มีพุทธพจน์ของ

พระศาสดาบอกไว้อยู่ ครับและหลวงพ่อจรัลท่านก็เทศน์เน้นบ่อย ๆ ด้วย และผมก็โพสต์

บอกเป็นนัยๆไปแล้วด้วยครับตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ย้อนกลับไปหลายหน้าอยู่ เหอ ๆ

แค่นี่แหล่ะ....

ขอให้ธรรมจงปรากฏแก่ทุก ๆ ท่านในที่นี่ด้วยเถิด.....

สาธุๆๆ

 

วันนี้ขอพูดเรื่อ ดู รู้ ละวางแล้วกัน

การเราประกอบ ด้วยหู ตา จมูก ลิ้น กาย เป็น อายตนะภายนอกและภายใน ได้เห็น ขันธ์5

รูป เวทนา สังขาร ให้เรารับรู้ ดู และใช้ โยนิโสมนสิการคือพินิจพิจรณาโดยแยบคายภายในจิต

ที่กำลังเป็นสมาธิ ด้วยการพิจารณา โลกธรรม 8 ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สรรเสริฐ นินทา

ทุกข์ สุข เมื่อดูและรู้ ก็คือละวางโดยใช้ขันติและอุเบกขาเป็นตัววาง แต่ไม่ใช่วางเฉย ที่ประกอบมาทั้งหมด

อยู่บนพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทั้งหมด คือต้อง ดู รู้แล้วจึงวาง ไม่ใช่มาถึงก็วาง

ถ้าเราไม่รู้แล้ววาง เหมือนกับเราจะไม่รู้เลยว่าน้ำที่อยู่ในแก้วเราร้อน ถ้าเราไม่เคย กินน้ำเย็นครับ