การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

เรื่องพระสมเด็จจะตอบอย่างไงดีนะ 5555

ตอบตามความจริงก็จะรับไม่ได้

ตอบตามความคาดหวังก็ไม่ใช่วิธีทางของเรา

ไม่ตอบดีกว่า ให้คนในนี้ตอบก็ได้เรื่องเด็กๆดูพุทธคุณ

มีคนดูได้ไม่ต่ำกว่า 20 คน ในนี้

 

เจ้าของกระทู้ข้างบนเค้าให้ไปเป็นหมอดูช่วยคน หาเวลาว่างไปทำด้วยนะเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่บอก

ช่างมันเถอะคนจะมายังไงก็ตามมันก็พอมีบุญมาบ้าง ถึงได้มาเจอ บอกมันไปแล้วไม่ทำก็ช่าง เรื่องของกรรมเก่าเค้า

ไม่ต้องทุกข์ต้องเก็บมาเป็นอารมณ์ ช่วยได้ตามที่ช่วย แล้วเอ็งจะดีเอง 55555

 

อาทิตย์นี้ได้ไป ใส่บาตร ถวายสังฆทาน ทำบุญเลี้ยงพระ นำบุญมาฝากทุกท่านครับ

 

ขอถามด้วยคนค่ะ

ฝัน กะ นิมิตร กะ มโนยิทธิ กะ อุปทาน แยกอย่างไร แบ่งเวลามั๊ย ของจริง ต้อง กลางวัน/กลางคืน ช่วงเวลา สั้น/ยาว
แล้ว ไม่มีสติ สัมปชัญญะ แก้อย่างไร
ส่วนเรื่องขี้เกียจ แก้อย่างไร (อันนี้ไม่ถาม เดี๋ยวจะโดน ไม่ใช่น้อย 555)

ขอบคุณค่ะ _/\_

 

เพิ่งอ่านได้ 3 หน้า 128-130 รู้สึกน่าสนใจ เด๋วย้อนกลับไปเริ่มอ่านหน้าแรกก่อน แล้วมาคุยด้วยนะคะ ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลด้วยค่ะ

 

*****

การเพ่งเทียน จนเกิดภาพดวงไฟวิ่งไป สีส้ม สีแดง ได้ประโยชน์อย่างไร จะพัฒนาการเห็นนี้อย่างไรคะ อย่าบอกว่า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปนะ" ขอมากกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

การเพ่งเทียนก็ได้ประโยชน์ คือได้นิมิตติดตา ถ้ามีสติแยกสีแยกอารมณ์รู้กระทั่งสีไหนอารมณ์อะไร

แต่ดูท่าจะนั่งไปหงุดหงิดไป นั่งไปลำคานไป สมาธิรวมบ้างหลุดบ้าง กว่าจะนั่ก็ข้อแม้เยอะ จะนั่งก็คิดเยอะ

ฝันคือไม่มีสติ แต่ถ้าฝันของผู้มีอภิญาคือลาง คือเทวดามาหา คือสัยยาเก่า นิมิตคือสิ่งที่เห็นโดยอำนาจจิตร

โมนมยิทธิไม่อย่าพูดของดแล้วกันไม่คาบเกี่ยว จิตนาการของคนอื่นคือมโนการนึกคิดล่วงหน้า ของเอ็งคือเพ้อเจ้อ

 

เอาบุญมาฝากครับ

วันนี้ไปไหว้พระ 9 วัด (อยุธยา) มาครับ

ขอพยายมราช ช่วยเป็นพยาน กุศล และ บุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้
ขอให้ ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา ญาติสนิท มิตรสหาย เจ้ากรรมนายเวร
เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าข้าวเจ้าของ เทวดา อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ
พระทรงบ้าน พระทรงเมือง เท้ามหาราชทั้งสี่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่ได้เอ่ยนาม
รวมถึงผู้ดูแลปกป้องตัวข้าพเจ้า ให้มีส่วนกับผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำ ให้ได้รับกุศลและบุญ
เฉดเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ ขอทุกท่านร่วมอนุโมทนา

 

ขอแสดงความคิดเห็นมั่งครับ

โกเอ็นก้า ระบบปฏิบัติการทางจิตที่ใช้สติเฝ้าดูลม และรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ

ตามสภาวะที่เป็นจริง โดยไม่มีการปรุงแต่งหรือใส่ผงชูรสใดใด


สติกับสมาธิเป็นพี่น้องฝาแฝด 55555 พออยู่บ้านเดียวกัน เลยทำให้จิตมีความละเอียด เป็นทิพย์

จิตมีความสว่าง ส่งกระแสไปภายนอกก็มี ภายในก็มี


นิมิต แสง สี เสียง วิญญาณ ฯลฯ ส่วนที่ไม่จริงมักจะเกิดจากเสัญญาความจำได้หมายรู้ ที่สั่งสมมาแต่อดีต

หรือแต่เดะเด็ก จากการเรียนเขียนอ่าน การบอกเล่าเก้าสิบ หรือแม้แต่อาหารที่กิน พอสติเผลอนิดไม่อยู่ใน

อารมณ์กรรมฐาน จิตเกิดความคิด เกิดการปรุงแต่งเหตุการณ์นั้นๆโดยไม่รู้ตัว เรียกอุปทานจิต มั๊ง


ส่วนที่เป็นเรื่องจริงพอเชื่อถือได้ น่าจะเกิดตอนมีสติเข้มแข็ง จิตไม่ส่งออกนอก คือรู้อยู่ในกรรมฐานนั้น

แต่อยู่ดีดี มีนิมิตที่เป็นแสง สี เสียง หรือคน สัตว์สิ่งของ เทพยาดาผุดขึ้นมาแสดง ทั้งที่ใจไม่สั่งมา

วิธีการพิสูจน์ที่ดีคงต้องรอวันเวลา หรือมีการจดบันทึกเหตุการณ์ หรือให้ผู้ที่ฝึกได้สูงกว่าหรือเท่าเทียม

ดูรู้เหตุการณ์ว่าตรงกันไหม (เห้อ! กุหนอ พิมพ์ช้า)


อสุภะคือชิ้นส่วนที่เน่าเหม็น ที่ถูกหนังอันเต่งตึงปกปิดความโสโครกอยู่ภายใน เป็นกรรมฐานของผู้มีแวว อิอิ

ที่จะก้าวเข้าสู่แดนอริยะ เป็นกรรมฐานที่ไถ่ถอนความยึดติด และเป็นกรรมฐานกึ่งวิชากสินสิบ ที่สามารถสร้าง

อภิญญาสมาบัติ เมื่อฝึกเป็นอนุโลมปฏิโลม (บังคับได้ดังใจ)


ขอรีบสรุปครับจะไปนอน...น่าจะคนละอย่างกับตาที่สามครับ...หลายภาพที่ปรากฏคงเป็นอุคคหนิมิตครับ

 

ที่ฝึกกันอยู่ในกระทู้นี้ก้คือกุญแจไงครับ

(เฉพาะบทที่ 1 ก็เหลือรับประทาน)

ฝึกไม่จบ ไม่สำเร็จไม่ได้ ไม่ใช่ของแท้ครับ

ใครฝึกแล้วเห็น แล้วรู้เอง เห็นเอง ไม่มีใครมาบอก

ได้กุญแจแท้ชัวร์ๆ

 

ขอบคุณในคำตอบ

ก่อนอื่นต้องขอแก้ความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ในตัวอาจารย์โกเอ็นก้าเสียก่อน เพราะท่านไม่ไช่แด่มีลูกศิษย์
เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ท่านมีลูกศิษย์อยู่ทั่วโลก
ประเ็ด็นที่หนึ่ง
ท่านไม่ไช่พระ ท่านเป็นฆาราวาส ท่านเป็นชาวอินเดีย แต่มาเกิดที่พม่า
ท่านมาศึกษาธรรมะ กับท่านฮูบาขิน ซึ่งก็เป็นฆาราวาสชาวพม่าเหมือนกัน
แล้วท่านโกเอ็นก้า ก็นำธรรมของอาจารย์ท่าน ไปเผยแพร่อยู่ ทั่วโลก

ประการที่สอง
แนวคำสอนของท่านโกเอ็นก้า
เป็นแนวคำสอน ที่เ้น้นการทำอานาปานสติในเบื้องตัน แล้วเน้นการปฎิบัติวิปัสนาอย่างเข้มข้น
ในเวลาที่เหลือ
แนวคำสอนของท่าน ปฎิเสธ การถอดจิตและการสร้างนิมิต โดยสิ้นเชิง
แนวคำสอนของท่าน ให้ปฎิบัติ อยู่กับความเป็นจริง ก็คือ กาย และ ลมหายใจที่เป็นปัจจุบัน
ไม่ให้ อยู่กับ อดีต หรืออานาคต เน้นอยู่กับกาย เพราะเป็นสิ่งที่หลอกเราไม่ไ้ด้
ทำได้ก็คือได้ ทำไม่ได้คือไม่ได้ พิสูจน์ได้

แด่การถอดจิตและสร้างนิมิต มันเป็นนามธรรม ที่พิสูจน์ไม่ได้
แนวคำสอนของท่าน เน้นในเรื่องของดู เวทนาที่เกิดกับกาย
โดยพิจารณา ความรู้สึกทีเกิดกับกาย ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า และจากเท้าจรดศริษะ
ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่มีอดึต และอนาคต

ดู คือ ดูเวทนาที่เกิดกับกาย ในปัจจุบันขณะ
รู้ คือ รู้อยู่กับความเป็นจริง ว่้่ามันก็เป็นแค่ อนิจจัง ทุกขัง อนิจจา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป
วาง ก็คือ ให้ทรงอยู่ในอุเบกขา ก้บในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น กับกายและจิตนี้

สิ่งที่สำนักนี้เน้น มากที่สุด ก็คือ อุเบกขา
การวางอุเบกขา การพัฒนาอุเบกขาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

อาจารย์ที่ควบคุมการอบรม ก็เ็ป็นทั้งพระ และฆราวาส
เที่ยวนี้ก็เข้าไปสอบถามปัญหาท่าน เกี่ยวกับนิมิต ที่เกิดขึ้น
ทั้งภายนอกและภายใน ท่านก็ให้ตัดทิ้ง ไม่ให้สนใจ
ถ้าเราวางเฉยเดี๋ยวก็หายไปเอง และท่านเองก็ไม่มีประสบการณ์
แบบที่เราเป็น นิมิตนอกกายเราไม่ว่ากัน แต่นิมิตในกาย
บางที่ก็เป็นปริศนาธรรมให้เราได้พิจารณา ก็หลายเรื่อง
เมื่อพิจารณาไป ภาพก็เปลี่ยนไป เราก็เข้าใจในธรรมมากขึ้น
ทำให้เห็นความสำคัญของสมถะทีมีผลต่อความก้าวหน้าในการพิจารณาวิปัสนา
ทำไห้รู้ว่า เราจะพัฒนาอุเบกขาให้ ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นได้อย่างไร

 

อนุโมทนาในบุญด้วย น้อง noom

 

ขอบคุณมากครับ คุณมังกรบูรพา
กระจ่างขึ้นมาเยอะเลย

 

ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วฮาก๊ากเลย 555
อยากจะเอาดี อยากจะได้ดี เหมือนคนอื่นเค้า แต่ก็รู้ตัวเองว่า ขี้เกียจก็ปานนั้น ขี้สงสัยก็ปานนั้น ไม่มั่นใจอีกต่างหาก ไม่รู้ ไม่เห็น เหมือนคนอื่น...

แต่ก็นั่งๆ ไป เพราะเหมือนกิจวัตรประจำวัน แล้วก็หาข้อ มาอ้าง ไม่สบายมั่งละ โน่น นี่ นั่น :d แล้วก็ชอบขอๆๆๆๆๆๆ

ขอให้เจอครูบาอาจารย์ มาสอน ขอให้เข้าใจคำสอนนั้น ขอให้ครูบาอาจารย์ท่านอดทนกะลูกศิษย์ ที่สอนยาก สอนเย็น คนนี้ สาธุ...

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ทุกคน รวมถึงผู้หวังดีทั้งหลาย

 

ขอยกมือถามด้วยคนนะคะ
ในความคิดของตัวเราเอง ที่เกิดจากจิตปรุงแต่งให้คิดเรื่องนู้น เรื่องนี้(ไร้สาระ)
คิดเพ้อเจ้อ จนทำให้เราเครียดไปเองนี่ จะมีวิธีรับมือยังไงดีคะ

 

นั่งสมาธิมาตั้งนานเพิ่งจะรู้เอาวันนี้ว่านั่งถึงฌานสี่มาตั้งนานแล้วแต่เอาไปใช้ไม่เป็น

 

การที่นั่งสมาธิโดยกำหนดเอาจิตมาเพ่งที่เหนื่อริมฝีปากก็ถือเป็นกสินไม่ใช่อานาปนสติแล้ว
และอีกอย่างถ้าโดยทั่วไปการอานาปนสติสิบวันจิตจะเกิดสัดสาย ไม่น่าที่ใครจะมานังอานาปนสติได้และยิ่งดูจิตร
ของคุณแล้วน่าจะไม่เปอนาปนสติได้เกินครึ่งช.ม. ไม่ได้ดูถูกแต่เห็นสัญญาเก่า

 

อะไรคือญาน4 แน่ใจแล้วหรือ

 

ทำไมคนชอบหาข้ออ้างไปปฏิบัติธรรม ธรรมสร้างได้ทุกที่ เกิด
ได้ทุกตอน ถ้าเราทำให้เกิดได้ทุกที่นั่นแหละคือความก้าวหน้า
ดั่งเมื่อพุธกาล พระพุทธองถามท่านอานนท์ว่าดูก่อนอานนท์ท่านเจริญมรณานุสติวันละกี่หน
พระอานนท์ตอบว่าข้าพระพุทธเจ้าเจริญวันละ200หนพระเจ้าค่ะ พระพุทธองค์บอกไม่พอ
พระอานนท์เลยบอกว่าข้าพพุทธเจ้าจะเจริเพิ่มเป็น500หน พระพุทธองก็บอกไม่พอ
พระอานนท์เลยบอกว่าจะเพิ่มเป็น1000หน พระองค์ก็บอกไม่พอ พระอานนท์ก็ทูลถามว่าเท่าไรจึงจะพอ
พระพุทธองค์ท่านบอกไว้ว่า ทุกลมหายใจเข้าออก
ทุกที่ที่ทำให้เกิดธรรม ทุกลมหายใจระรึกในธรรม บุคคลนั้นไม่หางเราตถาคต

 

สาธุเจ้าค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ รู้สึกไม่ก้าวหน้าสักที