กสิณ

..55555+ เอาเถอะๆ เอาที่ตามสบายใจแล้วกัน..

กระผมหวังว่า "คนแบบนี้" เค้าคงไปไหนแล้วก้อไม่รู้นะคับ ขอรับ

^_______^

 

..55555+ กระผมก้อจะรอดู "คนแบบนี้" เค้าจะกลับมาอีกตอนไหน..

คงจะยังไม่ตกนรก หรอกนะคับ ขอรับ ^_____^

 

พูดอารัย ฮง

WM choksila58 ก่อกวนผมขอรับ

 

..55555+ กระผมจะรอดูนะคับ ขอรับ.. ^____^

 

วงการนี้อยู่ยาก น้ำตาซึมเลย

 

คุณ ผู้ใช้ชื่อ choksila58 ขอรับ

ตราบใดที่คุณไม่ยอมรับความจริง ตราบนั้นคุณจะหาความสุขไม่ได้เลย

วันใดที่คุณยอมรับความจริง วันนั้น คุณจะมีความสุขจากภายในตัวคุณเอง

 

เขียน ๒๒.๒๓

ถึงว่าสิ งั้น คิดผิดคิดใหม่ได้นะ เนอะ หึหึหึ
วันก่อนเพิ่งบอกท่านนพไปเอง ว่า
"อย่าเอาไม้สั้น ไปรันขี้" ๕๕๕


กระต่ายป่า แห่งแก๊งค์นาฬิเกร์ / ดร.ดิเรก ผัวประภาพี่ประไพ
.

 

เขียน ๒๒.๒๗

ไม่ต้องทวงครับ ไม่ได้สัญญา จะทวงได้ไง อย่ามั่วดิ ฮิฮิฮิ

ยกเลิกดีลครั้งก่อนละกันนะ บังเอิญเพิ่งคิดได้
ว่าไม่ควรทำตัวแบบ "เกลียดตัวกินไก่ เกลียดปลาไหล กินปลาทู" อ่ะนะ ๕๕๕


โคนันกะโคแนน / หลงทาง เสียเวลา
.

 

ยกเลิกก็ยกเลิก ต่อปากต่อคำชาตินี้ก็ไม่จบ เพราะไม่มีหลักมีเกณฑ์อะไร อยู่ๆก็ทะลุกลางปล่องเป็นบ้องกันชา (เกลียดตัวกินไก่ เกลียดปลาไหล กินปลาทู) ไม่เหมือนถกหัวข้อธรรมะซึ่งเขามีหลัก อย่างนี้ละก็จบภายในชาตินี้แหละ :d

 

เรานี้บ้ากันคนละแบบน้า!

 

เสริชหาโดยพิมพ์ชื่อ นิครนถนาฏบุตร,เชน,ศาสดามหาวีระ นุ่งลมห่มฟ้า....จะเห็นเต็มเลย

เบื้องต้นศึกษานี่ก่อน

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%99


https://www.facebook.com/FakGhost/posts/621906954508938

 

จากการตั้งกระทู้ครั้งแรก เมื่อ 19-06-2015 จนกระทู้นี้ มีความเลื่อนไหวล่าสุด เมื่อ19-09-2015
เป็นกระทู้ที่ยาวนานมาก ร่วม3เดือน ถือว่าเป็นกระทู้ที่ยาวนานมากกระทู้หนึ่ง
มีการถกเถียงกันมากมาย เกี่ยวกับกสิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้จัก ไม่สนใจฝึก เพราะไม่ใช่จริตผม ทำให้นึกถึงสำนวนโบารณที่ว่า รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ
แต่มีการถามที่น่าสนใจคือ "สังขาร" คืออะไร อันนนี้น่าสนใจยิ่ง เพราะเป็นเรื่องของทุกข์โดยตรง

ถ้าสังเกตุดูให้ดีๆ กระทู้นี้ก็มีลักษณะแห่ง สังขาร อยู่เหมือนกัน (คือ เกิดขั้น ตั้งอยู่ ดับไป) ตามแต่เหตุและปัจจัยแวดล้อม

ผมเป็นผู้น้อยสุดๆ ในเวปนี้ นานๆจึงจะแสดงความคิดเห็นซักครั้ง หากกูรูท่านใด อ่านแล้ว ขัดใจ โปรดมีเมตตา อย่ามุ่งเพื่อเอาแพ้-ชนะ กันเลย
เมตตาของพวกท่านจะเป็นคุณธรรมที่ทำให้เวปนี้เย็น โลกนี้เย็น อยู่เย็นเป็นสุข

คุณพี่ มาจากดิน ไม่ได้ถามผม แต่ผมขอลองตอบตามภูมิปัญญาอันน้อยนิด ให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณาตามนะครับ

เท้าความก่อนว่า ...
"พระพุทธเจ้าทรงค้นพบวิธีวิปัสสนาและทำให้หมดทุกข์ได้โดยพระองค์เอง แล้วจึงสอนผู้อื่นให้รู้ตาม" ต้องเข้าใจอันนี้ให้ได้ก่อนจึงจะอ่านบรรทัดต่อไปได้
ผมเคยบอกไปในกระทู้เก่าๆแล้วว่า เพราะพุทธศาสนานั้น ต้องอาศัย "ความเข้าใจ" ถ้าไม่เข้าใจ ทำไปหลายร้อยชาติก็ไม่มีผลอะไร

ที่นี้ "สังขาร" คืออะไร

คำว่า "สังขาร" เท่าที่ผมเจอ มักใช้ อยู่ 2 ส่วน คือ
1. สังขารในภาพกว้าง บางทีอาจเรียกว่ากองสังขารบ้าง หรือ กองทุกข์บ้าง หรือ สังขารทั้งหลายบ้าง หรือ รูปนาม หรือ ขันธ์5 ก็แล้วแต่พระสูตรนั้นๆ เช่น
วะยะธัมมา สังขารา แปลว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เป็นต้น

2. สังขารในขันธ์5 ซึ่งขันธ์5นี้ ขยายออกเป็น กาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือย่อ ให้เหลือ รูป-นาม หรือ จะสรุปให้เหลือแค่ ว่า สมุทัย คำเดียวก็ได้
เหตุที่ผมสรุปว่า สมุทัย นั้น เพราะอาศัยความเข้าใจเอาว่า " สมุยทัยให้ละ" ตามคำแนะนำ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
แล้วในความเป็นจริง มันละ อะไร? ก็คือ ละรูปนาม หรือ ละ ขันธ์5 นั้นแหละ หมดทุกข์ เรียกว่า นิพพาน ก้ได้
ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ในทุกๆพระสูตร มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่นี้ อันนี้ขอพูดในภาพรวม เพื่อความเข้าใจ

ส่วน สังขาร ในขันธ์5 นี้ ตามตำราแปลว่า การปรุง
แล้วปรุงอะไรล่ะ คือ การปรุงของความคิด สังขารในขันธ์5นี้จึงแปลว่า ความคิดปรุงแต่งก็ได้
อันนี้ได้รับคำยืนยันจาก บรมอาจารย์เซนแห่งยุค ท่านหนึ่ง คือ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
ท่านสอนให้ดู ความคิดโดยตรง

สรุป
สังขาร แม้จะมีการใช้งานที่ต่างกัน 2 ส่วนยังที่ยกตัวอย่างมาแล้วข้างต้น แต่มีความเหมือนกัน ตรงที่มันมีลักษณะแห่งไตรลักษณ์ ไม่ใช่ตัวตน
การตามดู ตามรู้เฉยๆ โดยไม่แทรกแซงจิต จึงเป็นภาคปฏิบัติ ในพุทธศาสนา ที่ต่างจากสำนักอื่นๆโดยสิ้นเชิง

ส่วนเมื่อจิตรู้แล้ว พระองค์ยังเตือนว่า ให้วางผู้รู้นั้นลงเสีย โดยผมอ้างอิงบทสวดที่ว่า
อัญญัง ภารัง อะนาทิยะ แปลว่า ทั้งไม่หยิบฉวยเอาของหนักอันอื่นขึ้นมาอีก

ซึ่งหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ก็ได้สอนย้ำตามพระพุทธเจ้าว่า อีกครั้งว่า " พบผู้รู้ทำลายผู้รู้ พบจิตลำลายจิต"

และเหตุแห่งการเกิดเป็นสมุทัยนั้น พระพุทธเจ้าท่านค้นพบว่าเป็น เพราะความไม่รู้ หรือ อวิชชา
ซึ่งมาถึงตอนนี้ หลายท่านคงคุ้นๆ คำนี้ หลายท่านอาจจะเอะใจ ว่าอวิชชาคือกิเลส ลำดับที่10 แห่ง สังโยชน์10 นั่นหรือปล่าว ที่ท่านเอะใจนั้น คือคำตอบที่ถูกต้องแล้วครับ
ถ้าท่านอ่านแล้ว เกิดเข้าใจ เห็นตามได้ นั้นแหละภูมจิตของท่านถึง ปรมัติบารมีสัมปัญโณ แล้ว

ส่วนพี่ๆท่านใด เห็นตามผมว่า หรือเห็นไม่ได้ หรือใครเห็นแย้ง ก็เรื่องปัจจัตตัง ครับ ผมเองไม่ใช่คนเก่งอะไร ไม่มีอะไรจะอวด ไม่คิดจะสู้ใครด้วย จบที่ตัวผมเอง หมดเรื่องกัน

 

"ปุถุชนมองเห็นรูปบ้าง เวทนาบ้าง สัญญาบ้าง สังขารบ้าง วิญญาณบ้าง ว่าเป็นตน แต่ขันธ์ ๕ นั้น จะเป็นตนหาได้ไม่ เพราะสังขารทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา คือ ไร้ตัวมิใช่ตนทั้งสิ้น" สังขารคำแรก หมายถึง เพียงขันธ์หนึ่งในบรรดาขันธ์ ๕ แต่สังขารคำหลัง ครอบคลุมความหมายของสังขตธรรมทั้งหมดที่เป็นไปตามไตรลักษณ์

คำว่าสังขาร นั้น มีที่ใช้ในความหมายต่างๆกันไม่น้อยกว่า ๔ นัย แต่เฉพาะที่่ต้องการให้เข้าใจในที่นี้ มี ๒ นัย คือ สังขารที่เป็นข้อหนึ่ง ในขันธ์ ๕ กับ สังขารที่กล่าวถึงในไตรลักษณ์ เพราะสังขาร ๒ นัยนี้มาในหลักธรรมสำคัญ กล่าวอ้างกันบ่อย และมีความหมายคล้ายจะซ้อนกันอยู่ ทำให้ผู้ศึกษาสับสนได้ง่าย

ยกคำมาดูให้เห็นชัด

๑. สังขาร ในขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

๒. สังขาร ในไตรลักษณ์ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

ต่อที่

สังขาร ๒ (สังขารใน ขันธ์ ๕ กับ สังขารในไตรลักษณ์) - ขันธ์ ๕ - นิพพานคืออะไร ? - Wunjun Group