กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    รุ่่นนี้ผมไม่ทราบจำนวนครับ แต่ท่าน 9@Phonlee

    หาช่างเลี่ยมดีๆหน่อยนะครับ เนื้อลาน และแตกง่ายครับ
     
  2. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    เฮ้อ ช่วงนี้หลังจากป่วย แล้ว รู้สึกเหมือนมี สนามแม่เหล็กพุ่งจากหัวใจ ไปหน้าผากทะลุข้างบน
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +4,716

    57.....อยู่หน้า
    5555

    ถ้าคนที่มีโชค...คงได้เฮ

    คนอับโชค...ถูกกิน

    ส่วนผมสนใจหวยๆบ้าง...แต่ไม่มาก
    ซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ดี
    อย่างก่อนหวยออก1วัน
    ...อ่านหนังสือเพิ่งรู้ว่า...
    หลวงตาม้าอายุ 75 ปี
    คือแค่รู้...ไม่ได้คิดว่าจะต้องเอามาซื้อหวย
    ...แต่ดันไปซื้อตัวอื่นแทน
    ลป.ดู่ งวดก่อนๆ85ควรเจ็บใจ...ตั้งใจซื้อแต่ลืม

    ...55 ปีชงสำคัญไฉน
    ผมโดนมาแล้วเกือบเต็มปี


    (มีเรื่องนิดเดียว...แต่จำเป็นต้องเล่าละเอียดให้ฟัง)
    เผื่อช่วยลุ้นด้วยว่า "แล้วทำไมไม่เป็นแผลหรือยุบ"
    ...ส่วนตัวผมก็สงสัยคาใจจนถึงวันนี้

    ซินแซทุกสำนัก(ตามคลิปที่ดูมา)
    ...บอกปีนี้เป็นปีชง
    ผมก็ไปแก้ชงตามศาลเจ้าพ่อเสือแห่งใหม่ตั้งแต่มกราต้นปี
    รถยนต์ต้นปีโดน3+ครึ่งปีหลัง3
    เท่ากับ 6 ครั้ง...มีทั้งแผลใหญ่ และแผลเล็กที่ต้องทำสี

    แถมล่าสุด 10วันที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ
    ...ก่อนตี5...ที่บ้านญาติ
    ฟ้ายังมืดสนิทหักเลี้ยวตีวงแคบไป
    ประตูหลังด้านข้าง ไปเบียดกับกิ่งไม้ขนาดข้อมือ(น่าจะเรียกตอกิ่งเพราะถูกตัดสั้นแค่เมตร ปลายแหลมยื่นออกมา ตรงโคนตอใหญ่เท่าแขน)
    ...จนรถสะดุดเหมือนถูกดึงให้หยุด
    นาทีนั่นผมจึงเหยียบเบรคด้วยตามสัญชาตญาณ
    พอเปิดประตูรถออกมา...ตกกะใจ
    ว้าวพระเจ้าช่วย...รอยต้องยาวยุบแน่นอน
    ...มองไม่ชัดเพราะมืด
    ตอกิ่งเบียดคาอยู่ที่ตัวถังรถแบบแน่นเอี๊ยด
    แล้วจะถอยหลังเดินหน้าอย่างไง...จนใจ
    ถอยหลังเดินหน้า...
    ...รอยขูด"เลขเด็ด"ก็จะใหญ่และชัดขึ้น
    พอดีในรถมีกรรไกรตัดกิ่งเล็ก
    ก่อนลงมือตัด...
    ดึงตอกิ่งสุดแรงแล้วเอาผ้าทบหลายชั้นหนาๆรองไว้
    ทั้งตัดทั้งหมุนกรรไกรรอบๆตอกิ่ง...
    อย่าง...สุดแรงเกิดหลายครั้งแล้วยังไม่ขาด
    จะขาดได้ไง...ตอกิ่งแข็งมากเท่าข้อมือ
    ...กรรไกรตัวเล็กนิดเดียว
    งัด ง้างสุดแรงก็ไม่ได้ผล(ไปคนเดียว)
    พอค่อยๆปล่อยมือ
    ตอมันก็ยังคงเบียดตัวถังชิดสนิทแน่นเอี๊ยดตามเดิม
    (ต้นพญาเสือโคร่งตอกิ่งแข็งมากๆ)
    สุดท้ายบังเอิญในรถมีเชือกไนล่อนเส้นใหญ่
    จึงผูกตอกิ่งนั่นไว้ แล้วดึงโยงไปกลางลำต้น
    ใช้วิธีค่อยๆชักกะเย่ออย่างสุดแรงเกิด
    ...สักครู่เห็นผ้าหลุดลงมาที่พื้น
    (ผ้าที่รองตัวถังไว้...มิใช่กางเกงหลุด)
    พอคาดเดาว่ากิ่งตอห่างจากตัวถังรถสักนิ้วสองนิ้ว
    จึงรีบมัดผูกกับลำต้นให้แน่น(เพราะดึงไม่ไหวแล้ว)
    แล้วขับรถถอยหลังหักโค้งเล็กน้อย...ออกมาได้
    สิ่งแรกที่ทำคือ...ไปดูแผลก่อน...
    มืดมาก...ร้อนรนมาก...จนหาไฟฉายไม่เจอ
    พออาศัยแสงเล็กน้อยจากรถ
    ...เดาๆว่าน่าจะมีแผลเล็กๆน้อยๆเท่านั่น
    โอ้ย...โล่งใจ โล่งอก
    (ด้วยความสงสารประกันและอายด้วยจิงๆ)

    จึงยกมือไหว้ไป...ประมาณว่า...
    "ขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เสียเวลาไปครึ่งชม.
    เพราะต่อนี้ไประหว่างทางต้องแคล้วคลาดปลอดภัย"
    (อ่านแล้วคงไม่สงสัยว่า...ทำไมผมต้องพูดเช่นนี้)

    พอไปถึงปั้ม...ฟ้าสว่าง
    ...ลงรถไปส่องดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
    ก้มมองสูงต่ำ ซ้ายขวา...อย่างไง
    เฮ้ยแปลกดี...ไม่มีแผลแม้เพียงเล็กน้อยเลย

    แปลกแต่จริง...จึงเกิดขึ้นครั้งที่ 2
    ณ ที่เดิมๆแห่งนี้...เวลาเดิมๆ
    เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน(จำปีผิดต้องขออภัย)
    เวลาตี 5...ระยะทางประมาณ 100เมตร
    เปิดหน้าต่าง...หันหัวมองหลังแล้วขับถอยหลัง
    (น้ำค้างเยอะ กระจกหลังและข้างมองไม่เห็น)
    (ขอเตือนด้วยครับ...อย่าขับเช่นนี้)
    (เพราะท่าของร่างกายเปลี่ยนไป...
    ความเคยชินในการใช้เท้าต่างกัน)

    พอใกล้ถึง50เมตร จะเหยียบเบรคเพื่อชะลอ
    เผลอกลับไปเหยียบคันเร่งอีก
    พอตกใจ...ทำอะไรไม่ถูก
    รถกลายเป็นถอยหลังอย่างเร็ว
    จนตกใจสุดขีด..ควบคุมรถไม่ได้
    พอแค่เมตรเศษๆจะชนเสาปูนตรงประตู
    ...ขาไปเหยียบเบรคมั่วๆโดยไม่รู้ตัว
    ไม่แน่ใจว่าเป็นสัญชาตญาณที่เกิดขึ้นมั่วๆ
    หรือเป็นเบรคออโต้จากสิ่งที่มองไม่เห็น

    ...ที่แปลกและคาใจคือ
    เหตุเกิดใกล้ๆที่เดิมๆ และเวลาใกล้เคียงทั้ง 2 ครั้ง
    ...มีต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้ๆต้นนึง
    ...ก้อยกมือท่วมหัว...ไหว้สิครับ
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +4,716
    เอาข่าวนี้มาให้อ่าน
    เพื่อให้เห็นว่า
    ถ้าไม่มีโชค...แทงอย่างไง...ก็กินเรียบ
    "ปลงเสียเถิด"


    543
    5(555...ขำๆ)
    4(ซี้คือตายหงายหลัง...สำเนียงจีน)
    3(เข้าป่าไป...สำเนียงจีน)

    เออ....57 พอถูไถ


    ********************************************

    คอหวยรอคอย "เงินปากนาค" ที่คำชะโนด งวดนี้มาแล้ว "เลขเด็ด" สวย 543

    ข่าวสังคม
    ไทยรัฐออนไลน์1 พ.ย. 2562 07:30 น.
    SHARE
    dFQROr7oWzulq5FZYRqL59Mi8amGbYZgoEKEmj1y94Jx1NY0BMs8MgWxCt7I9xMc7pZ.jpg
    ระวังอย่าหลุดโค้ง คอหวยรอคอย "เงินปากนาค" ที่คำชะโนด งวดนี้มาแล้ว "เลขเด็ด" สวย 543

    เมื่อวันที่ 31 ต.ค.62 ที่ผ่านมา หน้าศาลพญานาคราชพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา วังนาคินทร์ เกาะคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีประชาชนมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในคำชะโนด และต้องแวะไปที่ต้นมะเดื่อยักษ์เพื่อส่องหาเลขเด็ด

    Dtbezn3nNUxytg04OYSHlXmYPRxY2TnJi5QGDSFOBKB2gj.jpg
    บางคนเห็น 57, 59 บ้าง ขณะที่เลขเด็ดที่พ่อจ้ำทำขันน้ำมนต์ไว้ซึ่งถือว่าเป็นขันสุดท้ายรอบนี้ ต่างคนก็ส่องหาเลขเด็ดกัน บางคนบอกว่าเลข 6 กับ 9 ชัดมาก แต่บางคนเห็นเป็น 63 แล้ว ก็แล้วแต่โชคใครโชคมัน

    สำหรับยอดเงินปากนาคประจำวันที่ 31 นั้น ยอดเงินบริจาคที่ปากนาค ครั้งนี้ได้ยอด 64,543 บาท พอแจ้งตัวเลขแล้วคอหวยนำกล้องมือถือมาถ่ายกระจายข่าวให้เพื่อนๆ เป็นเลขเด็ด



    ขอขอบคุณที่มา...
    ไทยรัฐออนไลน์
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    จริงของท่านนาย ผมมีเลขอยู่กับตัวแต่ไม่เอาเลย
    ทะเบียน 5771 ผมก็ไม่ซื้อ 555
    ถ้าไม่มีโชค...แทงอย่างไง...ก็กินเรียบ
    "ปลงเสียเถิด"
     
  6. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    แบบนี้อ่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • index.jpg
      index.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.5 KB
      เปิดดู:
      153
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    Higtmax ช่วงนี้เหยียบดินหรือหญ้าด้วยเท้าเปล่า
    บ่อยๆหน่อย จะได้ไม่คั้นเหนือคั้นตัว...
     
  8. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    บางทีมันก็สบายตัว บางทีก็เหมือนซุปเปอร์ไซย่า
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +4,716
    จุดพลิกเปลี่ยนในชีวิต 'เบญฟีเวอร์'
    • วันที่ 27 ม.ค. 2562 เวลา 11:34 น.
    3Line
    0Comment
    464f64fc4c7c43a4b9a978dab71bceb8-jpg.jpg

    เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
    ภาพ อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

    บางเรื่องราว หากไม่เกิดกับตัวเอง ก็คงพูดเหมือนกันว่าเหลือจะเชื่อ เรื่องราวต่อไปนี้คนเล่าขอให้ผู้อ่านโพสต์ทูเดย์อ่านอย่างมีวิจารณญาณ ขอให้อ่านอย่างมีหลักมีข้ออรรถข้อธรรมนำมาพิจารณาแยกแยะ ก็เชื่อว่าทุกท่านจะได้เห็นในสิ่งที่ต้องการเห็น ได้พบเจอในสิ่งที่ต้องการพบเจอ

    เรื่องของจุดพลิกเปลี่ยนในชีวิต ที่มาในรูปของโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องราวของหญิงสาวขี้โรคที่เปลี่ยนพลิกชะตาแห่งตน จากสุขภาพแย่มาก กลายมาเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง สำคัญกว่านั้น คือสุขภาพจิตใจจิตวิญญาณที่ได้กลับมาด้วย อีกปณิธานตั้งมั่นแห่งชีวิต ที่จะได้ทำงานเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนาจนกว่าจะหาไม่

    6ecbfaff4a8a4a80af2a3cd1770855be-jpg.jpg

    “เบญฟีเวอร์” คือผู้หญิงคนนั้น

    เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบวันละสังขารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา (17 ม.ค. 2533) ครูบาอาจารย์ผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นพระสุปฏิปันโนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ลูกศิษย์ลูกหาผู้เคารพเลื่อมใสมากันเป็นจำนวนมากที่สถานสวดมนต์สาขาพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) บางเขน ที่นี่เองที่เราได้พบกับเบญฟีเวอร์

    เบญฟีเวอร์ (benfever) คือใคร ก็ต้องบอกว่า เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตั้งใจปฏิบัติบูชา รับใช้พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดสะแก และศิษย์หลวงปู่ดู่ ได้แก่ หลวงตาม้า วรงคต วิริยธโร แห่งวัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่ สำหรับชื่อเบญฟีเวอร์เรียกขานในหมู่ญาติธรรม ใช้ชื่อตัวคือ เบญ ส่วนนามสกุลละไว้ จงใจไม่เปิดเผย ส่วน “ฟีเวอร์” คือความปรารถนาที่อยากให้ธรรมะเผยแพร่และแผ่ไปในหมู่ชน

    เบญฟีเวอร์เล่าถึงตัวเองว่า ขี้โรคมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านเป็นครอบครัวคนจีน ที่ยึดการไหว้เจ้าเป็นสรณะ มีเข้าวัดบ้างพอเป็นธรรมเนียม แต่ก็เป็นการเข้าวัดเพื่อกราบไหว้ขอพร มิได้มีแก่นแกนการปฏิบัติอันใด ถึงกระนั้นในวัยเด็ก ก็ต้องถือว่าเป็นเด็กที่ชอบสวดมนต์ ทั้งๆ ที่สวดแล้วมีอาการ “แปลกๆ” ในแบบที่ใครเห็นต้องอ้าปากค้าง

    ee082a6af3244d129f9096a3a288999e-jpg.jpg

    “ที่ชอบสวดมนต์ก็ชอบเอง ไม่มีหรือคิดอะไรเป็นพิเศษ สิ่งที่พิเศษหรือจะพูดให้ถูกคือสิ่งแปลกประหลาด ที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อสวดมนต์ จะมีอาการตัวสั่นพั่บๆๆๆ เหมือนที่เราเห็นคนตัวสั่นเวลาทรงเจ้าเข้าผี เจ้าเข้าทรง ผีเข้าร่าง”

    วัยเด็กเรียนหนังสือที่โรงเรียนราชินี อายุ 13-14 ปีก็เริ่มสวดมนต์ แต่ตัวจะสั่นจนครูทักและเพื่อนๆ กลัว เป็นการสวดมนต์ที่ทุกคนทักว่า ช่างน่ากลัวน่าหวั่นใจกระไร นอกจากจะสั่นเทิ้มไปทั้งร่างกายแล้ว ก็มีอาการเหมือน “เลื้อย” ร่างกายท่อนบนประหนึ่งไหลเลี้ยวได้ เลื้อยไปเลื้อยมาลงไปกองพับรวมกันอยู่ที่ด้านหน้า ควบคุมตัวเองไม่ได้

    เบญเรียกพ่อว่า ปะป๊า เรียกแม่ว่า หม่าม้า ทั้งคู่กราบไหว้พวกร่างทรงมาแต่เดิม โดยมีจิตศรัทธาเชื่อถือเช่นนั้น กับเชื่อตามร่างทรงที่คุ้นเคยกันว่า อาการแบบนี้หมายถึงลูกสาวถูกร่างทรง มีองค์เทพอย่างนั้นอย่างนี้มาประทับตามที่ร่างทรงอ้าง จากนั้นก็ให้ไปรับขัน อันเป็นศัพท์เฉพาะแวดวงทรงเจ้า ที่เมื่อรับขันแล้ว ผู้รับก็จะเป็นร่างทรงของเจ้าองค์นั้นตลอดไป หายเจ็บหายไข้

    “เมื่อก่อนเบญเจ็บออดแอด เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เจ็บป่วยบ่อย ประเภทสามวันดีสี่วันไข้ ร่างกายอ่อนแอผ่ายผอม ปวดหัวตลอดเวลา บางทีก็ปวดหลังมาก เดินตากแดดตากฝนไม่ได้ แค่นิดเดียวนี่กลับมาบ้านก็ไข้ขึ้นแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตคือความยากลำบาก หายใจแต่ละทีจะเหมือนมีมีดมากรีดที่กลางอก ต้องค่อยๆ หายใจเบาๆ แผ่วๆ เพื่อไม่ให้เจ็บหัวใจมาก”

    c52fb8960c764328b88792b9df0f4e90-jpg.jpg

    เบญฟีเวอร์เล่าว่า เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ น่าจะเกี่ยวข้องกับบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตัวของเราป่วยหรือเปล่า ก็แอบคิดแบบนั้นบ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่คิดอะไรมาก สวดมนต์เพราะอยากสวดทั้งที่ตัวสั่น ลืมถามไปว่า ได้รับขันหรือไม่ หากการสวดมนต์ได้ท่องบทพระพุทธคุณตามปกติ (อิติปิโส) ได้สวดต่อไปอย่างไม่อินัง ปรากฏว่า ผลการเรียนดีขึ้น จากเด็กที่เคยได้เกรด 1.2 จะตกมิตกแหล่ ก็กลายเป็นเกรด 3.9

    จากเด็กที่ร่างกายอ่อนแอ สติปัญญาต่ำ ท่องอ่านอะไรก็ไม่จดจำ เทอมหนึ่งตกทีละ 8 วิชา กลายเป็นเด็กที่ขยับมาเรียนรู้ได้ อ่านหนังสือก็พอจะพากเพียรเข้าหัว ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาที่ไม่เคยเข้าใจสิ่งที่เรียนได้เลยหรือได้ก็น้อยมาก จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เทอมสุดท้ายด้วยเกรดเกือบ 4 แต่นั่นไม่ทันแล้วเพราะเกรดเฉลี่ยโดยรวม (ม.1-ม.3) ต่ำมาก ครูแนะนำให้ไปศึกษาต่อที่อื่น

    เบญเรียนต่อที่โรงเรียนกรุงเทพการบัญชี แต่ก็เป็นไปภายใต้คำแบ่งรับแบ่งสู้ของสถาบันที่อนุญาตให้เข้าเรียนว่า ถ้าเรียนอ่อนอย่างนี้ ต่อไปหากเกรดไม่ถึงมาตรฐานที่กำหนด ก็ต้องขอให้ออกไปเรียนที่อื่นนะ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับที่เบญได้รู้ว่า การสวดมนต์ทำให้เธอมีสติและมีปัญญาที่ดีขึ้น นั่งสมาธิได้ ไม่เลื้อยอีก

    การทำสมาธิในเวลาต่อมาใช้หลักดูลมหายใจ พุท-โธ ก็ถือว่าก้าวหน้า การเรียนดีขึ้นโดยลำดับ จิตใจดีขึ้นโดยลำดับ มีกำลังกายกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป แต่แล้วก็เกิดเหตุ เมื่อ “ปะป๊า” ซึ่งป่วยเป็นโรคไต จู่ๆ เกิดอาการปัจจุบันต้องหามส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน เบญตามไปที่โรงพยาบาล ทันได้ปอกผลไม้ให้ปะป๊ากินเป็นครั้งสุดท้าย

    “เบญไม่เคยเข้าครัวหรือจับมีดทำอาหาร แต่ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ปอกผลไม้ให้ปะป๊ากิน ผลไม้ที่ปอกกลายเป็นผลไม้เละๆ เพราะเราปอกไม่เป็น ปอกให้ป๊ากิน แล้วป๊าก็กิน ป๊าเสียใน 3 ชั่วโมงถัดมา”

    e48ad5d7f321447cbfa3c0a14bd0c927-jpg.jpg

    เบญขณะนั้นอายุเข้าเบญจเพส รู้สึกเสียใจที่สุดที่ปะป๊ามาเสียชีวิต ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกทลายลงตรงหน้า พ่อลูกรักกันแค่ไหนแต่ถึงที่สุดก็ไม่อาจยื้อยุดฉุดรั้ง ต้องปล่อยให้เป็นตามที่เป็นไป ญาติคนนั้นคนนี้พากันพูดว่า เห็นปะป๊ามาหาที่บ้านบ้าง หรือมายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าง แต่ไม่อาจเข้ามา ใบหน้าคล้ำดำมีเงามืด ก็จิตตกกันไปหมด

    “อยากรู้ว่า ปะป๊าไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร เบญอยากรู้มาก อยากรู้ขนาดที่ว่า แทบทำอะไรไม่ได้เลย”

    ในช่วงนั้นได้ไปดูการทำนายทายทักตามที่ต่างๆ แม้การทรงเจ้าที่ครอบครัวคุ้นเคยก็ดูไม่ขาด แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่าปะป๊าไปไหน จนเมื่อกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ได้แนะนำผู้รู้ที่ดูและรู้ได้ ผู้เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงตาม้า โดย “ผู้รู้” ได้ทักเบญถึงถ้อยคำหรือสำนวนที่ปะป๊าเท่านั้นที่จะพูด บอกกล่าวในบางเรื่องที่เบญกับปะป๊าเท่านั้นที่รู้กัน 2 คน ชอบทำชอบกินอะไรตอบถูกหมด 99%

    “ก็ทำให้เชื่อว่า เราได้มาเจอกับคนที่เป็นสะพาน และเชื่อมต่อไปถึงปะป๊าได้จริง ได้ถามหลวงปู่ดู่ผ่านผู้รู้ท่านนั้นว่า ปะป๊าอยู่ที่ไหน เป็นยังไงบ้าง คำตอบที่ได้ทำให้เย็นเยียบ จับขั้วหัวใจ เพราะท่านตอบว่า ปะป๊าเป็นสัมภเวสี ล่องลอยอยู่ระหว่างบ้านกับโรงพยาบาล”

    หญิงสาวผู้ชะตาพลิกผันเล่าต่อไปว่า นี่มันอะไรกัน นี่หรือการตอบแทนของการที่ครอบครัวเราได้ประพฤติปฏิบัติไหว้เจ้าทุกปี ปะป๊าไหว้เจ้าปีละ 4 ครั้ง แต่ละครั้งหมดเงินเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ที่สุดได้เป็นสัมภเวสี ลอยไปลอยมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลที่เสียชีวิต ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า จากนี้ไปจะต้องทำอย่างไรเพื่อผลดีที่สุดสำหรับปะป๊า

    759630000147471bb13d07b2bc910a22-jpg.jpg

    “หลวงปู่” แนะนำผ่านผู้รู้ให้สวดมนต์คาถาจักรพรรดิ์ ซึ่งเป็นคาถาที่มีทิพยอำนาจปรับภพภูมิแก่ผู้วายชนม์ได้ จากนั้นมาจึงถือปฏิบัติสวดคาถาจักรพรรดิ์เป็นลมหายใจแห่งตน เพื่ออุทิศบิดา แต่ขณะที่สวดมนต์ให้ปะป๊านั้น ก็เหมือนกับได้สวดให้ตัวเองด้วย ภายใน 1 เดือน อาการเจ็บป่วยของตนที่เป็นมาแต่เดิม ก็ทุเลาเบาบางอย่างเห็นได้ชัด

    จากที่ตั้งสัจจะสวดคาถาจักรพรรดิ์ให้บิดา หญิงสาวสวดมนต์ตลอดเวลาที่สวดได้ ช่วงหนึ่งเดือนที่ว่านี้เป็นขณะเดียวกับที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต เบื่อและเลิกกินยาที่กินมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าครั้งสุดท้ายขอทำเต็มที่ สวดเต็มที่ ตายเป็นตาย ก็กลายเป็นหายจากโรค ทุกอาการที่เป็นมาตั้งแต่เด็กปลาสนาไปภายใน 1 เดือนที่สวดมนต์คาถาบทนี้

    “มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่หัวใจของเบญ”

    ต่อมาได้รู้จักการแผ่บุญ รู้จักที่มาที่ไปของบุญ (และกรรม) ดีขึ้น ก็สวดจักรพรรดิ์แผ่บุญตลอดมา อาศัยบารมีหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า เพื่อส่งต่อบุญไปให้ปะป๊า และเพื่อเปลี่ยนภพภูมิให้ดีขึ้น ปะป๊าทุกวันนี้ “สว่างขึ้น” เบญกำหนดจิตบอกให้ปะป๊ะรู้ว่าขอให้ติดตามบารมีของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าตลอดไป กับขอให้ตามอนุโมทนาบุญกับเบญไปชั่วชีวิต

    จากที่เจ็บหัวใจเหมือนมีดกรีดอก ก็ไม่เจ็บหัวใจอีกต่อไป จากที่เคยมืดมนหนทาง ก็ “สว่าง” จากนี้ไป เบญฟีเวอร์ปวารณาตัวว่าเธอจะขอรับใช้พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า จัดทำและแจกจ่ายพระผงพิมพ์จักรพรรดิ์ (พระพุทธรูปปางพระมหาจักรพรรดิ์) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้กระทั่งสถานสวดมนต์สาขาพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) แห่งนี้ ก็ถือกำเนิดจากดวงจิตที่อาสานี้

    8417f585e4b6400db68fc0847230aaa6-jpg.jpg

    สถานสวดมนต์สาขาพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) กรุงเทพฯ เบญฟีเวอร์ได้ตั้งความปรารถนาไว้เมื่อ 12 ปีก่อน ได้กราบเรียนหลวงตาม้าด้วยวาจาว่าจะสร้างวัด ถ้าสร้างสำเร็จ จะขออัญเชิญพระแก้วแดงองค์ใหญ่จากกุฏิเก่าท่านมาประดิษฐาน หลวงตาม้าตอบว่า “ได้ ถ้าสร้างสำเร็จ” และแนะนำให้อธิษฐานขอเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดู่ ปรากฏว่าสำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี

    เบญฟีเวอร์วัย 39 ปี ตั้งสัจจะที่จะอุทิศตัวช่วยงานหลวงปู่หลวงตาตลอดไปทุกภพทุกชาติ เผยแพร่รูปลักษณ์คำสอนของท่านอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทำเต็มที่โดยไม่หวังลาภสักการ แม้ลาภคนนิยมก็ไม่หวัง ยึดหลักทำฟรีอย่างเดียว พระผงจักรพรรดิ์แจกฟรี และสถานสวดมนต์ฯ ก็เชิญมาปฏิบัติบูชาหลวงปู่หลวงตาโดยไม่ต้องกำเงินมาแม้แต่หนึ่งบาท

    “บาทเดียวก็ไม่เอา ที่นี่ไม่รับบริจาคเป็นส่วนตัว ไม่จัดจำหน่ายวัตถุบูชา ใครที่มีจิตศรัทธาช่วยสนับสนุนก็หย่อนตู้ด้วยตัวเองที่หน้าเคาน์เตอร์ แต่ไม่ต้องให้เป็นส่วนตัวกับเบญฟีเวอร์ ขออนุญาตไม่รับ”

    เรื่องการทำพระผงแจกผู้มีจิตศรัทธา เคยมีผู้ต่อว่าเพราะเห็นเป็นสีกาแต่มายุ่งขิงเรื่องสร้างพระ หากเจ้าตัวมองว่า ได้ปรึกษาครูบาอาจารย์ซึ่งอนุญาตให้ทำได้ โดยเมื่อเป็นเรื่องการสร้างศรัทธาในวงกว้าง และถือปฏิบัติเช่นเดียวกับ “สูตร” ที่หลวงตาม้าได้ให้โอวาทไว้ ก็ถือว่ามีฤทธิ์มีอานุภาพเท่ากับที่หลวงตาทำแจกเอง พระผงที่ทำขึ้นนี้แจกฟรีทั่วโลก

    “เพราะเบญเคยได้รับมาก่อน ทั้งในเรื่องของปะป๊าด้วย และเรื่องการสวดมนต์หายโรคด้วย ก็อยากส่งต่อให้คนอื่นๆ ในช่วงแรกคนต่อต้านว่า ทำไปก็ไม่รอดหรอก แต่ก็ทำต่อเนื่องมากว่า 10 ปีแล้ว ไม่มีเงิน แต่ก็ทำมาได้ถึงวันนี้”

    สิ่งที่ทำทั้งหมด เพียงอยากให้ญาติธรรมทั้งหลาย ได้พบได้เจอสิ่งดีๆ เหมือนกับที่เธอเคยได้พบ เหมือนกับที่เธอเคยได้เจอ เห็นผลวันนี้คือความชื่นใจในความดีงามความบริสุทธิ์ หวังเพียงหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่หลวงตาจะได้ขจรขจายสืบไป ทุกวันนี้เบญฟีเวอร์เป็นผู้นำสวด-อธิษฐานและดูแลสถานสวดมนต์สาขาพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) เขตบางเขน กรุงเทพฯ 



    ขอบคุณที่มา....
    https://www.posttoday.com/life/healthy/578317
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    อัพเดท 73524554_766923620387867_6806660623057813504_n.jpg
     
  11. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    มาวันนี้รู้เหมือนเส้นสนามแม่เหล็กจะค่อยๆ เบา นุ่ม ล่ะครับ
     
  12. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    ตแนฝัน ไม่สบาย ได้ยินเสียงคนคุยว่า นฤมล เทวาด้วยครับ
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +4,716
    73524554_766923620387867_6806660623057813504_n-jpg.jpg

    โมทนา สาธุ

    ไม่ทราบว่า.....
    จะนำไปประดิษฐาน ณ ที่ใดครับ
     
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +4,716
    การสร้างและ ถวายพระพุทธรูป มีอานิสงส์อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
    nintara1991
    26 June 2018



    %E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99-1.jpg

    การสร้างและถวาย พระพุทธรูป มีอานิสงส์อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
    ขอนำเสนอเกร็ดกี่ยวกับอานิสงส์แห่งการถวายและสร้าง พระพุทธรูป แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องของอานิสงส์ ขอเกริ่นความเป็นมาของ พระพุทธรูป เพื่อเป็นความรู้เสริม

    ความเป็นมาของพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุด คือ ตำนานพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ เนื้อหามีอยู่ว่า

    “ครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงระลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ จึงโปรดให้ช่างหลวงแกะพระพุทธรูปจากไม้แก่นจันทน์หอม เพื่อที่จะให้พระพุทธรูปนี้เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ให้พระองค์ทรงรู้สึกว่าพระพุทธเจ้ายังประทับอยู่

    หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จจากเทวโลกแล้ว ทรงเยี่ยมเยือนพระเจ้าปเสนทิโกศล จึงทรงพบพระพุทธรูปแก่นจันทน์นี้ในราชนิเวศของพระเจ้าปเสนทิโกศล

    พระพุทธรูปนั้นแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการลอยออกจากแท่นที่ประดิษฐาน แต่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เหตุการณ์นี้เป็นที่มาของพระพุทธรูปปางห้ามพระแก่นจันทน์อีกด้วย”



    %B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5.jpg
    พระพุทธรูปปางห้ามพระแก่นจันทน์
    ต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชอัญเชิญพญากาฬนาคราชมายังพระราชฐาน ทรงวินวอนให้พญานาคเนรมิตพระรูปของพระพุทธเจ้าให้พระองค์ได้ชมเชยพุทธลักษณะของพระมหาบุรุษ

    พญากาฬนาคราช คือพญานาคผู้อยู่ทันพระพุทธเจ้าทั้ง 4 ในคัมภีร์ระบุว่า พญานาคตนนี้นอนหลับมาตั้งแต่สมัยของพระ กกุสันธพุทธเจ้า จะตื่นขึ้นต่อเมื่อถาดทองคำอธิษฐานของพระพุทธเจ้าจมลงสู่นาคพิภพ และเป็นเช่นนี้มาจนถึงสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 4 คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)



    3.1.jpg

    พญากาฬนาคราช
    ดังนั้นพญากาฬนาคราชจึงเป็นผู้ที่เคยพบพระพุทธเจ้ามาแล้วถึง 4 พระองค์ เมื่อพญากาฬนาคราชเนรมิตพระพุทธรูปขึ้นจากความทรงจำ เทพยดาทั้งหลายพากันจ้องมองพระพุทธรูปนั้นโดยไม่กระพริบตา อันเกิดจากความปลื้มปีติในความงามของพระพุทธรูปเป็นเวลา 7 วัน การกระทำของเทวดาเหล่านี้ เป็นการบูชาด้วยดวงตา หรือที่เรียกว่า ถวายเนตร

    การบูชาเช่นนี้พระพุทธเจ้าเคยกระทำต่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ หลังจากตรัสรู้แล้วทรงจ้องมองต้นพระศรีมหาโพธิ์โดยไม่กระพริบพระเนตรเป็นเวลาถึง 7
    วัน
    การสร้างพระพุทธรูปจากข้อมูลในคัมภีร์พบว่า การสร้างพระพุทธรูปขึ้นมานั้น เพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้า การระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง เรียกว่า “พุทธานุสติ” อานิสงส์จากพุทธานุสติคือ การส่งเสริมให้จิตเป็นกุศล สะอาด ผ่องใส ยังมีความเชื่ออีกว่า ผู้สร้างจะมีอวัยวะครบ 32 ประการ หลังจากสิ้นอายุขัยแล้วจะเกิดเป็นเทวดามีรัศมีโชติช่วง

    การถวายพระพุทธรูปมีอานิสงส์ คือ เป็นการส่งเสริมให้ผู้พบเห็นได้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ส่งเสริมให้ผู้อื่นมีจิตที่เป็นกุศล ส่งเสริมให้ผู้อื่นมีพุทธานุสติ

    ดังนั้นแฮร์รีสัน ฟอร์ดและครอบครัวจะได้อานิสงส์จากการถวายพระพุทธรูปคือ ส่งเสริมให้ผู้อื่นได้มีจิตเป็นกุศลจากการมีพุทธานุสติ คือการระลึกพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ นั้นเอง ขออนุโมทนาบุญกับครอบครัวฟอร์ดอีกครั้ง



    ข้อมูลจาก Wikipedia, Tnews และ 84000.org

    รูปจาก Wikipedia และ ข่าวสด

    Photo by Alexandre Chambon on Unsplashพญากาฬนาคราช


    ขอบคุณที่มา....
    https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/85742.html
     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    นำไปประดิษฐานที่ วัดป่าบัวเฉลิมพระเกียรติ บ้านทรายทอง ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ครับท่าน9

    ผมมีอะไรสงสัยในใจไม่รู้ว่าใครในนี้ให้คำตอบผมได้ไหม ผมตั้งใจจะสร้างพระให้ครบ 5 พระองค์ในชาตินี้ นั้นคือ นะโมพุทธายะ แต่คนปั้นได้รับการสื่อมาว่าให้ปั้นตามที่เบื้องบนกำหนด
    จึงกลายเป็น
    โม ธา พุท ยะ นะ แทนถอดมาได้เป็น 24351 ซึ่งองค์สุดท้ายที่ท่าน9 มอบปัจจัยไว้คือพระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 องค์สุดท้ายหลังจากพระศรีฯเสร็จแล้ว

    ***ขยายความ***
    โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน หรือ ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ 21 ใช้ในการปลุกเสกให้เกิดพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี

    ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม หรือ วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ 7 ใช้ด้านการล่องหน กำบังตน

    พุท หมายถึง พระกัสสปะ ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ หรือ เตโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ 6 ใช้ในการขับไล่สิ่งอัปมงคล หรือสะเดาะเคราะห์

    ยะ หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.5000) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ 10

    นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ หรือ อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ 12 ใช้ในการปลุกเสกให้เกิดพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

    เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง 5 ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า 56
    ---------------------------------------------------------------------------
    ความแปลกระหว่างที่สร้าง
    คือนิมิตรฝันไปว่า นั่งกระบะสีขาวไปกับคนปั้น ระหว่างทางเจอซอมบี้ผู้หญิงแต่ก็รอดมาได้ คนปั้นบอกว่าจะพาไปบ้านเขา แต่ผมจำได้ว่าบ้านเขาไม่ใช่ทางนี้ ทางที่เป็นป่าเขาทึบ สุดท้ายทะลุไปเจอหมู่บ้านนึง ชาวบ้านยิ้มแย้มออกมาต้อนรับผมอย่างดี และยายคนนึงเดินออกมา ผมจำได้ว่าเป็นญาติฝั่งแม่ แกถามว่าแม่ไม่มาด้วยหรอ ผมบอกว่าไม่มาครับ และยายแกก็ขอเบอร์แม่ผมไป พอตื่นมา ผมไปบอกแม่และไปดูเบอร์โทรศัพท์แม่ ลงด้วย 097 และเบอร์ใหม่ผมที่ได้จากทรูลงท้ายด้วย 197 ผมเลยไปซื้อหวย ตัดสองตัวด้วย เลยได้ 197 กับ 97 เพราะหวยออก 197 เต็มๆ
    ความแปลกในวันขนพระ
    ในเวลาตี 4 ผมได้กลิ่นธูปหอมคลุ้งมากในห้องนอน ผมก็นึกในใจใครจะมาบอกอะไร บอกมาเลย ผมคิดในใจนะ แต่ก็ไม่มีอะไร และผมก็นอนต่อ พอตื่นมาก่อนตื่นฝันว่า มีคนมาบอกว่าในสระน้ำมีคนตาย ลำดับที่ตายมี 1,3,5,7,11 รวม 5 คน ผมเลยงงว่าเลขอะไร เลยไปเล่นหวยฮานอย 135 711 และตัดเล่น 11 ปรากฏว่าหวยฮานอยออก 911 ถูกอีก
    ความแปลกอีกอย่างคือ รถขนพระเป็นสีขาวตามที่ผมฝันไว้แรกๆๆ ซึ่งประหลาดใจมาก ก่อนที่จะทราบว่ารถที่ขนพระสีอะไร ผมได้ฝันว่ามีชายชุดขาว (ก่อนที่อ.นพจะโผล่มา) มาบอกว่าหลังจากนี้จะมีคนมาบอกเองว่าต้องทำอะไรบ้างจาก ท้าวสักกะเทวราช ตื่นมา พออี 2 วันรู้เลยว่ากระบะที่มาขนสีขาว หุหุ
     
  16. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ผลงาน 42662784_2046652082021622_6294464040475295744_n.jpg 54519704_2306300569390104_6243277127047708672_n.jpg 54525845_2306300486056779_5035141670367133696_n.jpg 73524554_766923620387867_6806660623057813504_n.jpg พระพุทธเจ้าทั้ง 4 ครับ
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ลำดับการเรียงธาตุ
    ที่เริ่มจากธาตุดินก่อน
    ที่เอามาลงนั้น
    มีการไล่ตามลำดับ
    ในการสรรเสริญผู้ที่
    อยู่เบื้องหลังและ
    ผู้สนับสนุนการใช้ธาตุต่างๆ
    ตามการสรรเสริญในวิชาเดินธาตุในดง
    ของท่านทึ่เคยเป็นสาวกพระพุทธฯองค์ปัจจุบันเลยครับ
    คือจะสรรเสริญ
    ท่านที่ใช้ชื่อ
    พรหมมาในธาตุดิน
    อินทรา ในธาตุน้ำ
    นารายยะ ในธาตุไฟ
    อิสรา ในธาตุลม

    ประมานนี้
     
  18. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ธาตุอากาศนี้ใครผุ้ใดหรอครับ
    สาธุในความรู้ครับ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    คือ ครูบาร์อาจารย์ภายนอกท่านต่างๆ พลังงานภายนอกทั้งหมด
    แล้วแต่ว่า จะเป็นท่านใดๆครับ
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ขอบคุณครับอ.นพ เมือคืนก็มีคนมาบอกหวยอีกแหละ เด๋วดูว่าจะโดนไหม 555+
     

แชร์หน้านี้

Loading...