แวะมาเตือนว่าไม่ต้องกลัวผี ที่น่ากลัวกว่าผี คือเทวดามิจฉาทิฐิ ที่ทำตัวเป็นเทวบุตรมาร แล้วก็อะไรก็ตามที่แลดูศักสิท วิเศษ ที่มาปรากฏ จะในนิมิตร...
ถามแยะจัง.......................................
ทำไมไม่อธิบายตั้งแต่อวิชชาไล่มาตามลำดับละครับ
“ปฏิจสมุปบาท ข้อที่ว่าวิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูปนั้นแล ในนามรูปก็มีทั้งวิญญาณและสังขาร...
เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆเลยนะ
คิดไปไหนครับ คิดเองเออเองนะ ผมไม่รู้ไม่เกี่ยวในเรื่องที่คุณคิด
เคยได้ดูได้ฟังวัดนาป่าพงครั้งหนึ่ง ก็ทำนองว่ายึดพุทธวจนะ นั้นแหละ แต่พอเปิดโอกาสให้ผู้ฟังถาม มีท่านหนึ่งถามว่าอะไรคือ "เช่นนั้นเอง"...
2ชาติผิดคำพูด ขาก แล้วกลืนซะ:boo:
บัณฑิตไม่อิ่มในธรรม
ไม่อยากเป็นสกิทามี อนาคามีหรือ คงไม่ใช่ละะมังครับ โสดาบันย่อมปราถนาอริยะทรัพย์ที่สูงยิ่งขึ้นไปแน่เพราะรู้ชัดแล้วว่าอริยะทรัพย์เป็นอย่างไร...
แล้วไม่เคยเจอมนุษย์ดีๆบ้างหรือครับ ก่อนอื่น มนุษย์นั้นเป็นสัตว์จริงๆครับ ที่จริงเป็นได้ทุกอย่าง ทั้งเดรัชฉาน สัตว์นรก เปรต อสูรกาย...
ขนโคกับเขาโค
อวิชชา แปลว่าความไม่รู้ในทุกอย่าง ทุกอย่างที่ว่าก็คือ นาม-รูปนั้นเอง เพราะทุกอย่างก็ไม่พ้นไปจาก นาม-รูป ก็แปลว่า อวิชชาในปฏิจจสมุปบาท...
โฮดี้ ที่นี้กระผมจะมาขยายความนะขอรับ ก่อนอื่น กระผมจะชี้ที่ผิดก่อนนะขอรับ เพราะอวิชชาเป็นเหตุ จึงมีสังขาร (ร่างกาย,ตัวตน,ขันธ์ ๕)...
ทำไมไม่มีคำแปลความหมายของอวิชชาละครับ?? อวิชชาความไม่รู้ ในปฏิจจสมุปบาทนี้ อวิชชาไม่รู้ในอะไรครับ??
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา