ทุกคนเข้ามาทางนี้คราบ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เปรมจะทำดี, 16 พฤษภาคม 2010.

  1. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    คงจะยากนะครับ เพราะพระนิพพานเป็นดินแดนที่ไม่มีอะไรเลย เป็นสถานที่ของคนหมดเชื้อหมดกิเลส ว่างเปล่า..........
     
  2. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,516
    เอ่อ เรื่องจาม
    ขอแนะนำให้น้องทำการทดสอบด้วยตนเอง

    พี่ลองมาแล้ว
    คือ
    พอจาม ๑ โทรเช็คเพื่อนเลยว่าเอ็ง แก ทูนหัวหรือคุณ ได้นินทาเราหรือเปล่า
    (จริงนะพี่ถามเพื่อนคนไหนทุกคนตอบว่าใช่นินทาแกอยู่พอดี้เลย)

    พอจาม ๒ ก็ตรวจสอบเหมือนเดิม ว่าคนโน้นนี้คิดถึงชั้นอยู่ละสินะ
    (อันนี้อาจมีเจ้าหนี้หรือญาติเพื่อนก็ตามสบาย)

    สำหรับการทดลองนี้
    สามารถสรุปได้ว่า
    เปลืองสตางค์ค่าโทรศัพท์
    เพื่อนทุกคนรู้หมดว่าเรามีจินตมยปัญญาญาณ(ภาษาตามพงศาวดาร)เป็นโรคอุปาทาน(ภาษาจิตแพทย์)หรืองมงายประสาทแดก(ชาวบ้านพูดกัน) โรคคิดไปเอง
    ๓ พบว่าเมื่อรู้ว่ามีคนนินทาก็ดีคิดถึงก็ดี พี่ก็ไม่รู้ว่าจะนำความที่รู้นี้ไปทำอย่างไรต่อดี เพราะจะนินทาตอบก็กลัวเหนื่อย จะคิดถึงเค้าบ้างก็ปกติก็เป็นคนคิดถึงแต่ตนเองเป็นที่ตั้ง


    พี่หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าการทดลองของพี่นี้จะมีประโยชน์และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจมหาศาลให้น้องทำการวิจัยค้นคว้าในเรื่องต่อๆไปเช่น จิ้งจกทัก(พี่ก็ทักมันตอบมั่ง) ตุ๊กแกร้อง เป็นต้น

    แล้วเราค่อยมาคุยกันนะน้องนะ

    ปล. เนื่องจากพี่เป็นผู้มีจินตมยปัญญาญาณเมื่อพบคำว่า คราบ พี่จะนึกถึงคราบเหงื่อไคลเปื้อนเปรอะต่างๆไปด้วย แล้วพี่ก็คิดต่อไปว่าเอ๊ะหรือน้องจะรวยเรียนโรงเรียนนานาชาติ(มิใช่โรงเรียนวัดแบบเรา)ถึงได้ภาษาไทยไม่แข็ง แรงไม่มี โรคภัยเบียดเบียน
     
  3. Barame

    Barame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +250
    อนุโมทนาด้วยนะครับ
    ท่านต้นละคงอีกนานนะ เห็นบอกว่า ปรารถนาขน( 12,500 อสงไขย) นิครับ
    แอบไปอ่านกระทู้ท่านมานะครับ อิอิ ไม่ว่ากันนะ
     
  4. Barame

    Barame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +250
    นึกถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ
    ผมจบป.ตรี มาผมเองก็ลืมเหมือนกันนะครับ ( แบบว่าไม่ค่อยได้ใช้บ่อยๆๆนะครับ )
     
  5. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,516
    ใช่จ้ะ คนอื่นอาจไม่คิดแต่เราคิดถูกผิดไม่รู้ รู้แต่ว่าจริง แต่แน่นอนว่าเราก็เคยพูดผิด เขียนผิด พิมพ์ผิด คิดก็ผิด ทำก็ผิด
    และแน่นอนอีกเช่นกันว่า ยามว่างยังนิสัยไม่ดีจับผิดคนอื่นอีกด้วย
    เลยต้องข่มใจสุดฤทธิ์จับผิดตัวเองบ้าง ฮ่ะ
     
  6. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เรื่องพระนิพพานแล้วแต่คนจะคิดนะครับ

    ถ้าตามความเชื่อของลูกศิษย์วัดท่าซุง

    พระนิพพานมีทุกอย่างที่เราต้องการครับ

    และเป็นสถานที่ซึ่งกิเลสไม่สามารถทำอะไรได้

    เพราะมีสติรู้เท่าทันกิเลสครับ

    โมทนา

    ปล. ผมเชื่อว่านิพพานไม่สูญครับ
     
  7. Barame

    Barame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +250
    โมทนาครับ
    ดีแล้วที่รู้ตัวเองนะ อิอิ (k)(k)
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ กราบอนุโมทนาครับ
    ขอให้ท่านจงมีความสุขกับ " ที่มีทุกอย่างที่เราต้องการ " ในพระนิพพาน ครับ

    ปล.......
    พระพุทธเจ้าตรัสบอกลักษณะของพระนิพพาน​
    อรหันต์" ชนเหล่าใดไม่มีตัณหาเพื่อเกิดในภพใหม่ (และไม่มีตัณหาเพื่อเกิด) ในโลกไหน ๆ
    คือในโลกนี้หรือในโลกอื่น ไม่มีคติเพราะละขันธ์อันเป็นไปในโลกนี้ได้เด็ดขาด ชนเหล่าใดละชาติ (การเกิด) และมรณะ (การตาย) ไม่มีส่วนเหลือ ชาตินี้มีในที่สุด (การเกิดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย) ภพใหม่ไม่มี (การเกิดในที่ไหนๆจะไม่มีอีก) "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 พฤษภาคม 2010
  9. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ตามบุญฤทธิ์ที่สร้างมาครับ

    ก็ขอให้คุณต้นละสมความปรารถในการบำเพ็ญพระโพธิญาณนะครับ

    โมทนา
     
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ขอให้ท่านมีความสุขกับ บุญฤทธิ์ ที่ท่านสร้างมานะครับ สาธุ
     
  11. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,516
    อันที่จริงก็ไม่รู้ตัวเองตลอดหรอกจ้ะมีหลงลืมตามแบบผู้มีธุลีในดวงตานั่นเอง
    นอกจากตนเตือนตนแล้วมีมิตรหรืออมิตรมาเตือนก็นับว่าเป็นกำไรชีวิตเชียวนะ
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนา พระพุทธองค์กล่าวไว้ถูกแล้วครับว่า

    ผู้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานจะไม่มีการ "เกิด" และ "ตาย" อีกต่อไปครับ
    พระนิพพานเป็นดินแดนที่กิเลสไม่สามารถทำอันตรายได้อีกต่อไป
    เพราะมีสติ รู้เท่าทันกิเลส หรือ จะกล่าวได้ว่า หมดสิ้นกิเลสก็ได้ครับ

    โมทนา
     
  13. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    " ขอเชิญร่วมทริปเที่ยวที่วัดท่าซุง & บ้านสบายใจ ในวันวิสาขบูชา ศ.28 พ.ค.53 (เข้าร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์) "
    พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสะเดาะเคราะห์ ด้วยเหรอครับ ????? ทุกวันนี้มีอะไรแปลกๆๆๆๆๆ มากจังเลยเนอะ อยากเดาะมั้งจัง เผื่อว่าจะพ้นกรรมมั้ง อิอิอิอิอิ :cool:
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ลองอ่านดูนะครับ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ท่านเคยตอบไว้ครับ

    การสะเดาะเคราะห์<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->มีหนังสือพิมพ์เขาเขียนโจมตีว่า การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาไม่ใช่พระพุทธศาสนา อาตมาขอยืนยันว่าพระพุทธศาสนาคือต้นตำรับการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคืออายุวัฒนะกุมาร

    [​IMG]

    พ่อแม่ของอายุวัฒนะกุมารเป็นพราหมณ์ พาลูกไปหาเพื่อนที่เป็นพราหมณ์ด้วยกัน เพื่อนท่านนั้นมีอภิญญา พอว่ากล่าวเรื่องธุระเสร็จเรียบร้อยก็ลากลับ พอพ่อลา เพื่อนพราหมณ์ก็ให้พรว่า "อายุวัฑฒโก จงเป็นผู้มีอายุ" พอแม่ลาก็ให้พรว่า "อายุวัฑฒโก" แต่พอลูกลาบ้าง กลับเงียบ พ่อของอายุวัฒนะกุมารก็สงสัยว่าเป็นเพราะอะไร จึงถาม พราหมณ์ที่เป็นเพื่อนบอกว่า "ลูกเธอจะสิ้นชีวิตภายใน ๗ วัน อวยพรไปแล้วไม่มีผล ก็เลยไม่รู้จะอวยพรไปทำไม" คนเป็นพ่อก็ตกใจ ถามว่า "มีวิธีแก้ไขหรือไม่?" พราหมณ์ที่เป็นเพื่อนจึงบอกว่า ตัวท่านเองไม่รู้วิธีแก้ไข แต่พระสมณโคดมน่าจะรู้ ให้พาลูกไปกราบพระสมณโคดมจะดีกว่า

    ตรงนี้เราจะต้องเห็นความดีของท่านสองประการ
    ประการแรกก็คือ ท่านมีทิพจักขุญาณชัดเจนถึงขนาดว่ากล่าวอะไรที่ไม่ตรงความจริงไม่พูด

    ประการที่สอง ไม่หวงลูกศิษย์ ไม่หวงพรรคพวก แนะนำให้ไปกราบพระพุทธเจ้า

    พราหมณ์สองสามีภรรยาก็เลยพาลูกไปกราบพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าเหมือนกัน พอพ่อกราบพระพุทธเจ้าก็ให้พร "อายุวัฑฒโก จงเป็นผู้เจริญด้วยอายุ" พอแม่กราบก็ให้พร "อายุวัฑฒโก ขอจงเป็นผู้เจริญด้วยอายุ" พอลูกกราบก็เงียบ แม่ก็นั่งร้องไห้เพราะตรงกับที่พราหมณ์คนแรกได้กระทำ

    พ่อจึงได้ถามพระพุทธเจ้าว่ามีวิธีแก้ไขหรือไม่? พระพุทธเจ้าท่านบอกว่ามี ให้ตั้งปะรำ ปูผ้าขาว วงสายสิญจน์ แล้วนำกุมารน้อยนั่งอยู่กลางปะรำ นิมนต์พระสงฆ์ไปเจริญพระปริตรตลอด ๗ วัน ๗ คืน พระพุทธเจ้าถามว่า ทำได้หรือเปล่าพราหมณ์ พราหมณ์ก็บอกว่าทำได้ แล้วพราหมณ์ก็จัดแจงทำพิธีดังกล่าว

    พอถึงวันที่ ๗ พระพุทธเจ้าเสด็จเอง คราวนี้ในเรื่องของเทวทูต หรือเราเรียกพระกาล การที่ท่านจะมาเอาใครไป ท่านจะมีวาระเฉพาะของท่าน ถ้าพ้นวาระนั้นไปก็ไม่สามารถจะเอาไปได้ เพราะผิดมารยาทผิดธรรมเนียม พอวันสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าท่านเสด็จเอง พรหมเทวดาผู้ใหญ่มากันมาก เทวทูตท่านเป็นระดับผู้น้อยก็รออยู่ข้างนอก พระพุทธเจ้าท่านก็นั่งจนเลยเวลา พอเลยเวลาก็บอกว่า คราวนี้ลูกของพราหมณ์ไม่เป็นอะไรแล้ว จะเป็นผู้ที่เจริญด้วยอายุถึง ๑๒๐ ปี เลยตั้งชื่อใหม่ว่าอายุวัฒนะกุมาร

    ถ้าเราพิจารณาตรงนี้เราจะเห็นว่าเรื่องของการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ พระพุทธศาสนามีบอกไว้ชัดเจนมาก

    ที่มา : http://palungjit.org/threads/การสะเดาะเคราะห์.235164/
     
  15. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    อยากเป็นเด็กวัดนี้จัง
    จะได้เจออะไรแปลกๆๆๆๆ อิอิ
    ปล.....ที่ว่าแปลกคือ พลวงพ่อฤาษีท่านเทศน์ว่า ท่านบำเพ็ญมา ๑๖ อสงไขย แล้วทำไมหลวงพ่อถึงสอนถึงเรื่องเดาะเคราะห์ บารมีขนาดนั้นต้องพึ่งเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ
    องค์พระทศพลพระองค์ปัจจุบันบำเพ็ญแค่ ๔ อสงไขย เอง อิอิ
    อ่านให้สนุกก็พอนะครับ ไม่มีเจตนาปรามาสหลวงพ่อเลยนะ
     
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    การสะเดาะเคราะห์เป็นการนำ "บุญ" มาแทรก เพื่อให้วาระ "บาป" เลื่อนออกไป แต่ยังไงเราก็ต้องรับบาปครับ เพราะเป็นกฎแห่งกรรม

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเลยสอนให้ทำบุญหนีบาป โดยหมั่นทำบุญเรื่อย ๆ เพื่อให้วาระบาปเข้ามาแทรกได้ยาก หรือ ถ้าทำดีมากจนเกินพอก็ไปพระนิพพานเลยครับ

    ก็มาตอบให้เข้าใจครับ

    โมทนา
     
  17. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    หนีไม่ได้หรอกครับ แทรกก็ได้แค่แทรกครับ อิอิ
    พระพุทธเจ้า ( กรรม ๑๒ อย่าง ) และพระโมคคัลลานะ ( โจร ๕๐๐ ทุบ )
    ต้องรับก่อนค่อยไปนิพพาน หนีไม่ได้เลย ครับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2010
  18. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    เป็นบุพกรรมของลูกพราหมณ์
    ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปนะครับ ( เป็นเรื่องพุทธวิสัย )
    ไม่เรียกว่าเดาะเคราะห์หรอกนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 พฤษภาคม 2010
  19. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เรื่องการสะเดาะเคราะห์ส่วนหนึ่งจะเชื่อมโยงกับดวงดาว และเกี่ยวกับโหราศาสตร์ครับ ทั้งนี้ในพิธีสะเดาะห์เคราะห์จะเน้นการทำบุญใหญ่ คือ กรรมฐานหมู่ครับ ซึ่งคนที่มาร่วมพิธีจะมีกำลังใจเต็มในการทำความดีครับ
    เมื่อจิตคิดแต่สิ่งดี ๆ ก็จะชักนำสิ่งดี ๆ เข้าหาตนครับ

    เรื่องการบำเพ็ญบารมีนั้น ผมไม่ขอตอบละกันครับ เพราะตอบแล้วยาว
    ลองถามคุณต้นละดูก็ได้ครับว่า ปรารถนาแบบวิริยะธิกะ แบบพิเศษ จะเกิดอีกนานแค่ไหนครับ

    สำหรับที่บอกว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำบำเพ็ญบารมีมา 16 อสงไขย (เต็มแล้ว) รอเกิดอีกไม่กี่ชาติก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น การลาพุทธภูมิของหลวงพ่อฤาษีมีสาเหตุ แต่ผมขอไม่พูดละกันครับ เพราะเป็นความเชื่อเฉพาะกลุ่ม

    แต่หลวงพ่อฤาษีท่านย้ำอยู่เสมอว่า

    "คนอื่นมองท่านเป็นพระพุทธเจ้า ไม่เป็นไร
    แต่ถ้าท่านคิดว่าตนเองเป็นพระพทุธเจ้าเมื่อไหร่ ถือว่าท่านเลวมาก"

    ปัจจุบันมีพุทธภูมิบางคน เข้าใจผิดคิดว่า ตัวเองมีบารมีมากกว่าพระพุทธเจ้า
    บางคนเชื่อว่า ตนเองบำเพ็ญมา 16 อสงไขย ก็คิดว่าตัวเองเก่งกว่าพระพระพุทธเจ้า แต่ในความเป็นจริงนั้น แตกต่าง เพราะวิธีปฏิบัติของแต่ละคนต่างกัน

    พระพุทธเจ้า แบบปัญญาธิกะ จะมีสาวกทุกแบบ
    ทั้งคนดี คนไม่ดี คนฉลาด และคนโง่

    ส่วนแบบอื่นก็จะต่างกัน โดยเฉพาะแบบวิริยาธิกะ
    ซึ่งคนชั่วจะไปเกิดในเขตพระศาสนาของท่านไม่ได้เลยครับ

    ผมตอบเยอะแล้วครับ ลองหาอ่านดูครับ ในเว็บมีเยอะแยะครับ

    โมทนา
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คุณเข้าใจผิดแล้วครับ พระพุทธเจ้า และพระโมคคัลลานะ
    พระองค์ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่จะต้องเกิดครับ

    ถ้าไปอ่านพุทธประวัติดูจะเข้าใจครับ ลองไปอ่านดูนะครับ

    ส่วนที่บอกว่า ทำบุญหนีบาป คือ มีความดีมากจนบาปไล่ตามไม่ทันครับ

    ในแต่ละเรื่องมีเหตุผล และมีข้อธรรมในการอธิบายที่แตกต่างกันครับ
    ต้องศึกษาดู แล้วจะเข้าใจครับ

    โมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...