การปฏิบัติธรรมของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 4 พฤษภาคม 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,767
    กระทู้เรื่องเด่น:
    64
    ค่าพลัง:
    +225,412
    (((((000.jpg

    การปฏิบัติธรรมของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9


    ในขณะที่สนทนาปราศรัยกันในด้านธรรมะจึงได้ถามว่า

    พระมหาบพิตรเอาเวลาที่ไหนมาเจริญพระกรรมฐาน วันทั้งวันไม่มีเวลาพัก กลางคืนก็ดึกอย่างนี้

    พระองค์ก็ตรัสว่า ปกติมันก็ดึกอย่างนี้เสมอแล้วก็เหนื่อยอย่างนี้ทุกวัน เวลาจะเซ็นหนังสือก็ใช้เวลา 6 ทุ่มเป็นเวลาเซ็นหนังสือ ถ้าเซ็นหนังสือเสร็จก็ใช้เวลาตีหนึ่งบ้าง ตีสองบ้างเจริญพระกรรมฐาน เป็นอันว่าการเจริญกรรมฐานของพระองค์ใช้เวลาดึกมาก และเป็นเวลาใกล้สว่างจึงได้เสด็จบรรทม

    การเจริญกรรมฐานของพระองค์เมื่อได้ทูลถามแล้วก็ตรัสว่า ผมใช้เวลาอย่างนี้ เวลาที่ต้องการจิตสงัดผมตั้งเวลาด้วยการฟังเสียงเทปปิด คือเทปที่เปิดไปไม่มีเสียงเปิดหนึ่งหน้าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เสียงเทปดังแกรกก็ทราบว่าเวลานี้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
    ถ้าต้องการหนึ่งชั่วโมงก็ใช้เทปเส้นยาวให้ได้เวลาหนึ่งชั่วโมง หรือเวลาสองชั่วโมงก็ใช้เทป 2 หน้าบ้าง เทปเส้นยาวถึง 2 ชั่วโมงบ้าง เมื่อได้ยินเสียงเทปปิดดังแกร๊กก็ได้ทราบว่าเวลานี้ถึงเวลาที่จะพัก

    แต่ทว่าในเวลาที่พระองค์ทรงเจริญสมาธิก็ดี ใช้ปัญญาพิจารณาพระกรรมฐานในด้านวิปัสสนาหรือในด้านสมถะก็ดี พระองค์สามารถควบคุมกำลังจิตของพระองค์ได้ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการทำฌานมีความคล่องแคล่วมาก คือคล่องจนกระทั่งการตั้งเวลาไม่ต้องใช้สัญญาณ ตั้งใจว่าเข้าสมาธิเวลานี้จะออกสมาธิเวลาเท่าใด ก็สามารถออกได้ตรงเวลาตามพระราชประสงค์

    อันนี้เป็นจริยาวัตรอันหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความสนพระทัยในด้านเจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าหากว่าบรรดาญาติโยมทั้งหลายจะถามว่าพระองค์ศึกษาจากใคร พระองค์ไหนเป็นอาจารย์ของพระองค์

    ตอนนี้พระองค์เคยตรัสให้ทราบตอนที่พบกันเมื่อปี พ.ศ. 2518 ที่ จ.สงขลา ตอนนั้นพระองค์ตรัสว่าการศึกษาของพระองค์เอาจากทุกๆด้านและอาจารย์ทุกองค์
    คือว่าอาจารย์แต่ละองค์ก็ตามที่ศึกษามาก็ต้องศึกษาจากความรู้ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเหมือนกัน

    การทำอย่างนี้บรรดาท่านทั้งหลายเป็นการถูกต้อง จงอย่าถือว่าอาจารย์ไหนดีเสียแต่ผู้เดียว จงเลือกสรรเอาแต่เพียงว่าอาจารย์ทุกอาจารย์มีความรู้ดีมีความสามารถดีเหมือนกัน แต่ทว่าความรู้ความสามารถ หรือวิชาวิทยาการที่ท่านให้เราส่วนไหนที่เราพอใจถูกอัธยาศัยของเราจุดไหน เราปฏิบัติตามนั้น นี่ประการหนึ่ง

    อีกประการหนึ่งพระองค์ตรัสว่าเวลาเดินที่เสด็จพระราชดำเนิน เรียกว่าเดินเล่นข้างๆบริเวณพระราชฐาน เวลาจะเดินไปพระองค์ก็ทรงเปิดเทปเจริญพระกรรมฐาน ฟังไปด้วย ถ้าต้องการจะเดินครึ่งชั่วโมงก็ฟังหน้าเดียว ต้องการเดินหนึ่งชั่วโมงก็ฟังสองหน้า ต้องการเดินสองชั่วโมงก็ฟังเทป 4 หน้าแล้วก็คิดตามไปด้วย

    ในยามว่างจากภารกิจพระองค์ใช้เทปธรรมะที่ได้ไปจากอาจารย์ต่างๆฟังอยู่เสมอไม่ยอมให้จิตว่างจากธรรม

    นี่เป็นปฏิปทาอันหนึ่งที่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านจะมีความหวังในการเจริญพระกรรมฐานจะให้มีผล ถ้าหากว่านำเอาพระราชจริยาวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปใช้

    อาตมาเห็นว่ามีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เสด็จบรรทมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ดี
    ทั้ง 2 พระองค์นี้เวลายามว่างข้าราชบริพารบอกว่าจะเดินผ่านห้องของทั้ง 2 พระองค์แล้วจะได้ยินเสียงเทปธรรมะอยู่ตลอดวัน เว้นไว้แต่เวลานั้นไม่มียามว่างมีพระราชภารกิจอื่นก็ต้องงดการฟังเทป

    และอีกจุดหนึ่งเวลาที่จะเสด็จบรรทมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ดี ทรงฟังเทปจนกว่าจะหลับไป สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า บางคราวผมปล่อยให้หลับไปตามเสียง แต่บางคราวผมก็บังคับไม่ให้หลับมันก็ไม่หลับ ตั้งใจว่าจะฟัง 2 หน้าจึงจะหลับ พอฟัง 2 หน้าครบก็หลับ

    บางคราวก็ตั้งใจว่าจะฟัง 4 หน้าก็บังคับไม่ให้มันหลับ ฟัง 4 หน้าจบแล้วก็หลับ บางคราวทดลองดูว่าฟังเพียงครึ่งหน้าหลับ ตั้งใจไว้อย่างนั้น พอฟังถึงครึ่งหน้าก็หลับทันที จริยาอย่างนี้ชื่อว่าน้ำพระทัยของพระองค์ตกอยู่ในกระแสของธรรมตลอดเวลา


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 112 เดือนมิถุนายน 2533 หน้า
    30-32)
     

แชร์หน้านี้

Loading...