!!เปิดกรุ!! วัตถุมงคลพระเกจิ-ธาตุกายสิทธิ์-หลากหลายสำนัก"หลักร้อย-ไม่ด้อยพุทธคุณ"

-ขอจองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

พระปิดตาหล่อโบราณ รุ่นแรก เนื้อโลหะผสม หลวงพ่อยุ้ย วัดอุทัยธาราม(วัดบางกะปิ) ปี พ.ศ.2485 วัดบางกะปิ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลยสี่แยกอโศก ไปเล็กน้อย มีป้ายเล็กๆเขียนไว้ว่า "วัดอุทัยธาราม(บางกะปิ)" จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุภายในวัด สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างในราวต้นๆ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่วัดนี้มีของดีอยู่ 2 อย่าง คือ

1.พระเนื้อตะกั่วสนิมแดง รูปทรงสามเหลี่ยม มีฐานผ้าทิพย์ดูคล้ายๆ กับพระวัดสามปลื้ม
2.พระปิดตาหล่อโบราณ รุ่นแรก หลวงพ่อยุ้ย

ท่านผู้สร้าง พระปิดตาหล่อโบราณ วัดบางกะปิ นี้ก็คือ พระหลวงตาแก่ๆองค์หนึ่ง ชื่อว่า หลวงพ่อยุ้ย ท่านเป็นคนพื้นเพกรุงเทพฯ ท่านไม่มียศถาบรรดาศักดิ์อะไร เมื่อบวชเรียนแล้วก็อยู่จำพรรษาที่ วัดบางกะปิ หลวงพ่อยุ้ย ท่านถือธุดงค์วัตร จาริกไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อบำเพ็ญเพียรหาทางหลุดพ้น ท่านธุดงค์ไปจนถึงประเทศพม่า การธุดงค์ไปในดินแดนอันไกลแสนไกล ท่ามกลางป่าเขา ป่าดงดิบ ถิ่นทุรกันดาร ที่เต็มไปด้วยภยันตรายต่างๆมากมาย มีทั้งสัตว์ร้ายและโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าท่านไม่ดีจริง หรือเก่งจริง ท่านคงไม่ได้กลับมาแน่ๆ ดังนั้นท่านคงต้องมีวิชาดี และเก่งพอตัว จึงสามารถเดินธุดงค์องค์เดียวในป่าลึกได้ ต่อมาเมื่อประเทศเข้าสู่สภาวะสงคราม ประมาณ ปี พ.ศ.2484 - 2485 ท่านได้สร้าง พระปิดตาหล่อโบราณ ออกแจก ทหารหาญ แบบให้ฟรีๆนั้น ท่านคงต้องรู้อยู่แก่ใจตัวเองแล้วว่า พระปิดตา ของท่านต้องดี ต้องเข้มขลังแน่ จะสามารถคุ้มครองป้องกันอันตรายต่างๆได้ ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่สร้างออกแจกจ่ายให้เหนื่อยแรงเปล่าๆแน่ หลวงพ่อยุ้ย ท่านเสาะหา รวบรวม เศษทองเหลือง ฝาบาตร ทัพพี ขัน และโถเก่าๆ ที่แตกหัก นำมาหล่อหลอมให้เป็นแผ่นโลหะ เอามาลงอักขระเลขยันต์ด้วยตนเอง แล้วนำกลับมาเทหล่อ สูบเตาเอง จนได้พระปิดตาหล่อโบราณ และปลุกเสกเดี่ยวด้วยตนเอง เสร็จแล้วก็นำออกมาแจกจ่ายให้แก่ ทหาร และประชาชนทั่วไป แบบฟรีๆ

ลักษณะขององค์พระ จะเป็น พระปิดตามหาอุดแบบรูปลอยองค์ มีหูในตัว ทรงชะลูด มีมือปิดที่ทวารทั้งเก้า ตรงบริเวณท้อง มีอักขระเป็นตัว “อุณาโลม” ด้านหลัง มีอักขระว่า อะ ระ หัง เป็นเนื้อโลหะออกเนื้อทองเหลือง ถ้าผ่านการใช้ ผิวจะกลับเป็นสีน้ำตาลเข้ม บนพระเศียรทำเป็นห่วงกลม ที่ปลายห่วงทั้ง ๒ ข้างมีรอยติดหุ่นเทียนเป็นปากปลิง มีรอยตะเข็บที่ด้านข้าง และรอยตัดชนวนที่ก้นทุกองค์ ส่วนมากแล้วจะไม่มีการตะไบแต่ง หล่อมาสภาพพระเป็นอย่างไรก็ปล่อยให้อย่างนั้น

พุทธคุณของพระปิดตา หลวงพ่อยุ้ย วัดบางกะปิ มีประสบการณ์เล่าขานต่างๆ มากมาย คนแก่ๆ ในแถบนั้นเคยเล่าให้ฟังว่า “ มีเด็กเล็กในละแวกนั้น พ่อแม่เอา พระปิดตา หลวงพ่อยุ้ย ให้แขวนเดี่ยว พลัดตกลงไปในคลอง ปรากฏว่าเด็กคนนั้นไม่จมน้ำ กลับลอยตัวได้เองและรอดชีวิตมาได้ ” ส่วนเรื่องเขี้ยวงาก็หายห่วง “ ถ้าเป็นหมา ยื่นน่องให้กัดได้เลย ” เคยมีคนที่ห้อย พระปิดตา หลวงพ่อยุ้ย โดนหมากัดจนจมเขี้ยว แต่ไม่เข้าเลย
ในสมัยก่อนนั้น เคยมีคนอาราธนา พระปิดตา หลวงพ่อยุ้ย เอาใส่ในปากปลาช่อน แล้วออกแรงเอามีดฟันเสียปลาตัวบี้แบน เกร็ดกระจาย แต่คมมีดไม่ระคายผิวหนังของปลาเลย พระปิดตา หลวงพ่อยุ้ย วัดบางกะปิ จึงนับได้ว่าเป็นพระปิดตาที่มีพุทธคุณสูงมาก

XXXบูชาแล้วXXX

 

คชสิงห์ เนื้อไม้แกะ หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร เทพเจ้าวาจาศักดิ์สิทธิ์ วัดบางน้ำวน ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร “แก่นขนุนไม้มงคลนาม หนุนนำเสริมส่งโชคชะตาราศี ยกสองขาตะบปเหยื่อมีฤทธี สมศักดิ์ศรีเกจิขลังขมังวาจา” จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เป็นจังหวัดชายทะเล ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน หลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า ในอดีตมีชุมชนใหญ่เรียกว่า "บ้านท่าจีน" ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา ปี 2099 พระองค์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยกบ้านท่าจีนขึ้นเป็น เมืองสาครบุรี เพื่อเป็นหัวเมืองสำหรับเรียกระดมพลเวลาเกิดสงครามและเป็นเมืองด่านหน้า ป้องกันผู้รุกรานทางทะเล พระเกจิอาจารย์ในอดีตที่เกิดในยุคเดียวกันของจังหวัดสมุทรสาคร คือ หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ ,หลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม, หลวงพ่อแขก วัดบางปลา ,หลวงพ่อแก้ว วัดนางสาว โดยเฉพาะหลวงปู่รอด พระเกจิอาจารย์มงคลนาม ซึ่งได้รับฉายาว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ผู้มีวาจาอันศักดิ์สิทธิ์”

หลวงปู่รอด พุทฺธสณฺโฑ หรือ พระครูรอด พุทฺธสณฺโฑ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางน้ำวน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต มีพุทธาอาคม เช่น เมตตามหานิยม วิชาคงกระพันชาตรี วิชาทำธงกันฝน ป้องกันฟ้าผ่า วิชาเสกของหนักให้เบาดั่งปุยนุ่น วิชาทำตะกรุด วิชาทำผ้ายันต์บังไพร วิชาแพทย์แผนโบราณ ฯลฯ วิชาที่ท่านเรียนกับพระอุปัชฌาย์แค ก็คือ เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี นอกจากท่านจะเรียนวิทยาคมแล้ว ท่านก็ยังเรียนวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย จนเป็นที่ไว้ใจของพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่พระอุปัชฌาย์แคมรณภาพลง ท่านก็ได้รับการนิมนต์จากชาวบ้านขอให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนภายหลังท่านได้ออกธุดงค์ ไปยังประเทศพม่าเพื่อศึกษาวิชาให้แก่กล้าเป็นเวลาหลายปี

คชสิงห์หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน สมุทรสาคร หนึ่งในสุดยอดคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ที่สร้างวัตถุมงคลยอดนิยมหลายชนิด เล่ากันว่าดวงตาของหลวงปู่รอดนั้นเป็นแววเหมือนดั่งมีกงจักรอยู่ภายในดวงตา ในสมัยนั้นไม่มีใครกล้าจ้องตากับท่าน คชสิงห์ แห่งวัดบางน้ำวนนั้นนับเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเครื่องรางที่หายากมากมานานแล้ว ตั้งแต่อดีต ตกทอดมาถึงปัจจุบันนี้ ยิ่งหายากแบบทวีคูณ มีหมุนเวียนอยู่ในวงการน้อยมากจนแทบจะนับตัวได้ โดยสร้างจากไม้ขนุน และจะมีศิลปะการแกะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะประจำสำนัก อย่างชัดเจน คือ ”ศิลป์ผมม้า อ้าปากคำรามห้ามอาวุธ ยกสองขาตะบปเหยื่อมหาอำนาจ มีสร้อยสังวาลย์คล้องคอ มีกำไรข้อเท้าหลัง แกะมีอวัยวะเพศอย่างชัดเจน” คชสิงห์ หลวงปู่รอด มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์หางติด (ไม่มีการเซาะร่อง ระหว่างหางกับหลัง) กับ พิมพ์หางลอย (มีการเซาะร่อง ระหว่างหางกับหลัง สำหรับร้อยคล้องคอได้) และสามารถแบ่งตามขนาดได้ 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก (1-1.7 cm) , ขนาดกลาง (1.8-2.4 cm) , และขนาดใหญ่ (2.5 cm ขึ้นไป) นอกจาก นั้นยังมีเครื่องรางของขลัง เช่น ชูชก ถือว่าเป็นต้นตำหรับเป็นตำนานที่ได้นำไม้ที่เป็นมงคลมาแกะ เช่น ไม้ขนุน งาช้าง แกะเป็นชูชก ส่วนงาท่านจะนำเอางากำจัด งากำจาย งากระเด็น ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นของคงทนสิทธิ์ มีดีอยู่ในตัวไม่มีอะไรมาทำให้เสื่อมสลายได้ นอกจากกฎแห่งกรรม สิงห์ หรือ ราชสีห์ ก็เป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ผู้ที่จะมีอำนาจให้ยั่งยืนก็ใฝ่หาสิงห์หลวงปู่รอด ปัจจุบัน วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเหรียญหล่อ เหรียญปั๊ม เครื่องรางของขลัง วัตถุที่เป็นมงคล เช่น ผ้ายันต์ หรือตะกรุด หรือแผ่นยันต์หัวเสา ก็เป็นที่นิยมปรารถนาของศิษยานุศิษย์และบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่รอด เมื่อได้มาแล้วพกพาอาราธนาติดตัวก็จะรอดพ้นจากภัยพิบัตินานัปการ รอดพ้นจากความยากความจน รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และที่สำคัญรอดพ้นจากความทุกข์ ทั้งกายและใจ ตรงกันข้ามจะดลบันดาลให้มีความสุข ความเจริญ มี อายุยืนยาวนานตลอดกาลนาน คุณลักษณะพิเศษ ของท่าน มีคุณลักษณะพิเศษหลายประการ ได้แก่ ๑. ดวงตาท่านเป็นวาวเหมือนดังกงจักรอยู่ในตารูปกลม ใสดุจเพชรตาแมว ไม่มีใครกล้าจ้องหน้ากับท่านเพราะมีอำนาจซ่อนเร้นอยู่ในนัยน์ตา ๒. ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทให้ได้ แต่จะไม่ยอมรับลาสิกขากับผู้ใด หากจะลาสิกขาให้ไปลากับพระรูปอื่น เพราะถือว่า ท่านบวชของท่านมาจะไม่ทำลายจากพระสู่ฆราวาสเด็ดขาด ๓. ท่านจะไม่ยอมลอดของต่ำ เช่น ใครมานิมนต์กิจ ถ้าเป็นบ้าน ๒ ชั้น ท่านจะไม่ยอมลอดไต้ถุนบ้านขึ้นไปชั้นบน ต้องใช้บันไดพาดขึ้นทางหน้าต่าง ปาฏิหาริย์ หลวงปู่รอด มีเรื่องเล่ากันมากมายเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ ได้แก่

๑. เมื่อถึงงานประจำปี ปีใดเกิดมีเมฆฝนทำท่าว่าจะตก ท่านจะเสกธงฝังตะกรุดแล้วให้ชักขึ้นเสา พอธงขึ้นสู่ยอดเสา กลุ่มเมฆก็เคลื่อนไปทางอื่น ทุกคนในงานเห็น ทำให้น่าอัศจรรย์ ๒. เรื่องวาจาสิทธิ์ คราวหนึ่งมีคนมาพักที่วัด มียุงชุมมากขนาดมาเป็นกลุ่ม ๆ กัดจนนอนไม่ได้ หลวงปู่สั่งให้ไปนอนในอุโบสถ บอกไม่มียุง เมื่อเข้าไปนอนแล้ว ยุงไม่กัดแม้แต่ตัวเดียว น่าอัศจรรย์

๓. สิงห์กลายเป็นเสือ ป้องกันคนลักขโมยของหน้ากุฏิหลวงปู่ วันหนึ่งมีคนมาลักขโมยของที่หน้ากุฏิหลวงปู่ เห็นเสือเดินอยู่หน้ากุฏิเกิดความกลัวจึงหนีไป

๔. เรื่องกระสุนคด ครั้งหนึ่งมีเด็กวัดนัดชกต่อยกันที่ทุ่งนา หลวงปู่แผ่เมตตาจิตเห็น จึงยิงลูกกระสุนคดออกไปทางหน้าต่างไปโดนหัวเด็กที่มีเรื่องถึงกับหัวโน เด็ก ๆ ก็แยกกลับ

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

พระสมเด็จฐานโต๊ะ 3 ชั้น เนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี ปี 2532 (หลังยันต์หล่อจากพิมพ์ ปัจจุบันองเก่าทันยุคหลวงพ่ออุ้น หายากมาก และเล่นหาราคาสูง)

วัตถุมงคลเนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ หรือ “แร่ไหลดำ” ถือเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่ออุ้น เทพเจ้าแห่งวัดตาลกง ผู้สร้างสรรค์ “พระสมเด็จเหม็น” อันลือเลื่อง เนื่องจากยังไม่เคยเห็นมีพระเกจิอาจารย์ท่านใดสร้างมาก่อน มีหลายพิมพ์ เช่น พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระสมเด็จขี่เสือใหญ่, เสือเล็ก ,พระสมเด็จฐานสิงห์ พระสมเด็จสามชั้น ,พระสมเด็จคะแนน, นางกวัก พระสิวลี และปลัดขิกฯลฯ

แร่เขาพรหมชะแง้ เป็นเพียงสินแร่ ก่อนจะสร้างเป็นพระพิมพ์ได้ ต้องมีกรรมวิธีหลอมเหลว การที่จะหลอมเหลวก็ต้องมีสูตร ถ้าทำไม่ถูกสูตร ก็จะกลายเป็นผงธุลี เหมือนเผาหินทำปูนขาว หลวงพ่ออุ้น มีวิชาในการหลอมที่เรียกว่า “วิชาการเล่นแร่แปรธาตุ” โดยใช้วัสดุกำกับด้วยไสยเวทย์ มนต์คาถา อาคมกำกับ เมื่อสามารถหลอม ทำให้แร่เหลวเป็นน้ำแล้ว ก็หล่อเป็นวัตถุมงคล องค์พระพิมพ์ต่าง ๆ ได้ ส่วนการปลุกเสกด้วยเวทมนต์ ก็จะเกิดพลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัตถุธาตุกายสิทธิ์ที่มีสรรพคุณในตัวเอง บวกกับพลังอิทธิคุณของหลวงพ่ออุ้น จึงมีพุทธคุณสูงส่งครอบจักรวาล ประดุจดังเหล็กไหลเลยเชียว (ตกและแตกได้เหมือนเนื้อเมฆพัตร)

ในอดีต “แร่เขาพรหมชะแง้” วิเศษศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ลุงแฉ่ง อินทโณ บ้านอยู่ ทุ่งเขาพรหมซะแง้ ได้ไปที่วัดตาลกง เห็นเม็ดแร่ของหลวงพ่ออุ้นเม็ดหนึ่ง จึงได้ขอหลวงพ่อ แล้วท่านหยิบให้ทันที ใส่กระเป๋าเสื้อติดตัวไปหาหมอที่คลีนิค “หมอแย้ม” คลีนิคในตลาดเพชรบุรีได้ตรวจรักษา แล้วฉีดยาให้ลุงแฉ่ง ฉีดจนเข็มงอก็ฉีดไม่เข้า ถามว่ามีของดีอะไรติดตัวมา ให้เอาออก ลุงแฉ่งบอกว่าไม่มี แล้วหมอก็ฉีดยาให้ใหม่ ปรากฏว่าเข็มงออีก ทีนี้ลุงแฉ่งก็สงสัย คงจะเป็นเม็ดแร่ ที่ขอมาจากหลวงพ่ออุ้นแน่ ๆ ก็เลยเอาออก ปรากฏว่าคราวนี้หมอฉีดยาอย่างสะดวกสบาย บรรดาลูกหลานของลุงแฉ่งรู้เรื่องเข้า ก็ไปถามหลวงพ่ออุ้น ท่านบอกว่า แร่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์วิเศษในตัว ไปอธิษฐานขอมาจากถ้ำเขาพรหมชะแง้ ที่ข้างบ้านโยมแฉ่งน่ะแหละ ต่อมาลูกหลาน และลุงแฉ่งได้ไปเก็บเม็ดแร่ ที่ยังมีหลงเหลืออยู่ประปรายตามพื้นดินข้างเขา นำมาเก็บรักษาไว้ ทั้งได้เคยนำติดตัวไปฉีดยา (ก็ไม่เห็นปรากฏว่า เข็มฉีดไม่เข้า เหมือนกับเม็ดที่รับมาจากหลวงพ่ออุ้นเลย)

เรื่องนี้มีข่าวรู้ไปถึง หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง ท่านก็มาดูที่เขาพรหมชะแง้ เพื่อเอาแร่ไปทำวัตถุมงคล ไม่ปรากฏว่ามีเศษเม็ดแร่แม้เพียงเล็กน้อย ให้เหลืออยู่ตามพื้นดินเลย จึงทำพิธีบวงสรวงขอขุดแร่ และขอให้แร่ได้ปรากฏ แต่ก็ไม่ยอมปรากฏให้เห็น ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งหลวงพ่ออุ้นไปนั่งสมาธิขอ เป็นเหตุให้หลวงพ่อจ้วน ต้องเดินทางไปขอแร่จากหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกงไปส่วนหนึ่ง ผู้เขียนอิทธิปาฏิหาริย์ของแร่ ได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุ้น ขอรายละเอียด ท่านเมตตาเล่าเรื่องราวของแร่ถ้ำเขาพรหมชะแง้ให้ฟังว่า

“ถ้ำเขาพรหมชะแง้” นี้ เป็นภูเขาลูกหนึ่งที่ขึ้นอยู่กลางทุ่งนา สมัยที่ยังไม่ได้บวช คือ ครั้งเป็นฆราวาส เคยไปที่เขาลูกนี้ ภายในภูเขา มีถ้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านเชื่อกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่า เขาลูกนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งลี้ลับจะปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ เช่น เห็นงูใหญ่มีหงอน มีลำแสง ได้เคยไปพบเห็นแร่สีดำอมเขียว มีสนิมเหล็ก ติดอยู่ที่ผิวอยู่ในถ้ำ

ครั้นต่อมาเมื่อมาบวชเรียนแล้ว ได้เคยไปดูอีกครั้ง ปรากฏว่าที่จุดนั้น ไม่ปรากฏมีแร่เหมือนดังเดิมอยู่เลย แล้วปล่อยให้เรื่องผ่านไปถึง ๓๐ ปี หลังจากนั้นได้เล่าเรียนวิชาต่าง ๆ มาแล้ว ก็อยากทำวัตถุมงคลไว้แจกญาติโยม ที่มาทำบุญสร้างอุโบสถ จึงเดินทางกลับไปค้นหากับพระลูกวัด ก็หาไม่พบ แล้วนั่งลงบริกรรมอธิษฐานขอแร่จากเขา เทวดาที่ปกปักรักษาสถานที่ ขอให้พบแร่เอาไปทำวัตถุมงคลตามจุดประสงค์เถิด

หลังจากนั้นกลับไปวัด ต่อมาคืนหนึ่ง ฝนตกหนักลงแรง กระทั่งรุ่งเช้า มีชาวบ้านแถบนั้นมานิมนต์ไปฉันเพล เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนนี้ฝนตกใหญ่ ลมแรง มีหินกลิ้งมาจากข้างเขา เป็นลูกดำ ๆ แล้วได้เดินทางไปดู ปรากฏว่า พบแร่ชนิดเดียวกับที่เคยพบมาแล้ว จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด ส่วนหนึ่ง หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง ได้มาขอไป และ หลวงพ่ออุ้นได้นำไปทำเป็นพระสมเด็จขี่เสือ (มีประสบการณ์มาก) ส่วนที่ยังเหลือเก็บไว้สร้าง พระปิดตามหาอุด และพระพิมพ์ต่าง ๆ อีกหลายพิมพ์ หลวงพ่ออุ้น ยังได้พูดว่า มีคนมาได้ลายแทงสมบัติที่เขาถูกนี้ และมาหาแร่ที่เขาลูกนี้มาก แต่มีน้อยรายจะได้ไป

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

พระสมเด็จฐานผ้าทิพย์ (เนื้อผงแร่พระธาตุสิวลี) ปี 2556 หลวงพ่อชำนาญวัดเขาบ่อทอง จ.ระยอง 1 ใน 100 องค์เท่านั้น (สร้างเเค่ 100 องค์ โดยหลวงพ่อชำนาญ ปภัสสโร วัดบ่อทอง จ.ระยอง หลวงพ่อจัดสร้าง เเละปลุกเสกเอง พุทธคุณจึงไม่ต้องพูดถึง เกินบรรยายจริง และนิยมเล่นหากันมานานหลายปี ท่านเป็นศิษย์ทายาทสายเวทย์วิทยาคม จากหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง ระยอง และหลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทองธาราม ระยอง ผู้ขอเหล็กไหลจากเทวดาสร้างพระเครื่องลือเลื่องในด้านสุดเหนียว)

พระปลัดชำนาญ หรือหลวงพ่อชำนาญ ปภสสโร เจ้าอาวาสวัดบ่อทอง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ท่านบวชและจำพรรษาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำเขาชะอางค์โอน อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง จนกระทั่งวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ท่านจึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดพลงช้างเผือก ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่นั่น ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็น พระปลัด ชื่อพระปลัดชำนาญ ปภสสโร ฐานานุกรมของพระครูประภัทรวิริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2549 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลเนินฆ้อ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2550 ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดบ่อทอง และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมาจนถึงปัจจุบัน

หลวงพ่อชำนาญ วัดบ่อทอง ท่านเป็นเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ดัง และเก่งมากในยุคปัจจุบันของภาคตะวันออก วัตถุมงคลของท่านนั้น จะสร้างออกมาในโอกาสต่างๆ ซึ่งสร้างจำนวนไม่มาก สร้างน้อย หลักร้อยบางรุ่นมีราคาสูง เนื่องจากสร้างเองจากวัด วัดสร้างเองทุกอย่าง และท่านไม่ค่อยสร้างซ้ำแบบเดิม (มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น สวยงาม เข้มขลัง ด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ) จึงทำให้แต่พระแต่ละรุ่นเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์เป็นอันมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ทุกรุ่น ลูกศิษย์สายนี้รู้ดี และต่างตามเก็บเข้ารัง อนาคตหายากที่สุด (ชนิดที่เรียกว่า แขวนเดี่ยว เที่ยวเจ็ดย่านน้ำ)

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

นางกวัก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ ระยอง รุ่นผูกพัทธสีมา ปี 2517 พร้อมเลี่ยมเดิมจากวัด พระชุดนี้ถือว่า คือพระเครื่องของหลวงปู่ทิม ที่ทันหลวงปู่ และได้หลวงปู่ปลุกเสกอีกรุ่น ที่ราคายังไม่สูง แต่ออกโดยตรงวัดละหารไร่ (พิมพ์กลมนี้ หายากมากๆ)

พระเครื่องที่ทันหลวงปู่ทิมทุกรุ่นราคาสูง มากด้วยพุทธคุณ ที่เรารู้กันมาช้านาน หรือพุทธศิลป์ก็ตาม ในการจะได้ครอบครอง ปัจจุบันแทบหารุ่นที่ราคาหลักพันปลายๆได้ยากมาก เพราะความต้องการของตลาดที่สูง คนพื้นที่ก็หวงแหน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าใช้มากๆ พอหาได้มีให้เห็น ซึ่งหลวงปู่ทิมปลุกเสกเองกับมือ ทันแน่นอน และรุ่นนี้อยู่ในหนังสือของหลวงปู่ทิมด้วย ส่วนมากเป็นพระได้เลี่ยมเดิมมาจากวัด สภาพสมบูรณ์ ไม่มีแตกหักใดๆทั้งสิ้นรุ่นนี้ราคายังไม่สูง แต่อนาคตไกลแน่นอน เก็บได้ยาวๆ ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าเก็บไว้บูชา เด่นทางเมตตา ทำมาค้าขาย แขวนหน้ารถไว้ปลอดภัยหายห่วง พระชุดนี้จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2517 ที่ระลึกเนื่องในงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต พระอุโบสถวัดระหารไร่ จังหวัดระยอง มีการจัดพิธีปลุกเสก พร้อมกับการประกอบพิธีในการผูกพัทธสีมา โดยมีองค์หลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธานในพิธี และปลุกเสกพร้อมคณะสงฆ์วัดละหารไร่ 1.นางกวัก (พิมพ์ใหญ่และเล็ก) 2.พระสังขจายน์ 3.สิงห์ (พิมพ์ใหญ่และเล็ก) 4.พระพุทธ 5.พระพุทธชินราช 6.พระนาคปรก 7.ชุดพระประจำวัน เป็นต้น

เหรียญรูปไข่ เนื้อทองแดงผิวไฟ หลวงพ่อรักษ์ “หลังพระราม-พระลักษณ์” วัดน้อยแสงจันทร์ จ.สมุทรสงคราม พ.ศ.2519 หนึ่งในทำเนียบเหรียญนิยม ท่านเป็น ศิษย์เอกหลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขต ของเมืองสมุทรสงคราม คนแม่กลองนับถือหลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์กันมากๆ (พระเกจิย่านแม่กลองและมหาชัย ถ้าไม่เก่งจริง คงไม่มีใครนับถือกัน ท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อสุด วัดกาหลง แต่คนละจังหวัด เอาเป็นว่าจะหาพระที่หวังพึ่งพระพุทธคุณจริงๆ เหรียญหลวงพ่อรักษ์ แห่งวัดน้อยแสงจันทร์ ถ้าผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกจากท่าน ใส่แล้วไม่ต้องห่วง นานๆจะมีสวยๆ ผิวมันส์ๆ ซักเหรียญมาให้ชม )

เหรียญหลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ยุคแรกๆ มักมีรูปโยมพ่อ โยมแม่ หรือคนที่ท่านนับถือ หรือพระอุปัชฌาย์ อยู่ในเหรียญเสมอ เพราะท่านเป็นพระที่มีความกตัญญูสูงมาก เหรียญที่เป็นที่นิยมสุดของท่าน น่าจะเป็นเหรียญพระลักษณ์-พระราม เป็นรูปท่านนั่งเต็มองค์มีหนุมานแบกอยู่ ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันกับหลวงพ่อรักษ์ ที่มีชื่อเสียงก็มีหลวงพ่อช้าง พระพิมลธรรม(นาค)วัดอรุณราชวราราม ผู้สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสืออันโด่งดัง เชือกขอดหรือชายผ้าขอดยอดมหาอุด และก็หลวงพ่อสอน พุทธิสาร ผู้สร้างพระผงพระพุทธลิ้นทองที่หายาก มีขนาดเท่ากับพระวัดปากน้ำ

หลวงพ่อรักษ์ ฐิตธมฺโม เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อช้างที่วัดเขียนเขต และเรียนกรรมฐานเพิ่มเติมจาก ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ (เจิม คุณาบุตร) ที่วัดเกตมวดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.สมุทรสาคร เมื่อท่านกลับมาอยู่ที่วัดน้อยแสงจันทร์เพื่อโปรดโยมมารดาที่ ชราภาพ ในขณะนั้นหลวงพ่อพูนเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เมื่อหลวงพ่อพูนมรณภาพ ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อ เพราะท่านมีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยอายุพรรษากาล (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันกับหลวงพ่อรักษ์ ที่มีชื่อเสียงก็มีหลวงพ่อช้าง พระพิมลธรรม(นาค) วัดอรุณราชวราราม ผู้สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสืออันโด่งดัง เชือกขอดหรือชายผ้าขอดยอดมหาอุด และก็หลวงพ่อสอน พุทธิสาร ผู้สร้างพระผงพระพุทธลิ้นทองที่หายาก มีขนาดเท่ากับพระวัดปากน้ำ)

หลวงพ่อรักษ์แห่งวัดน้อยแสงจันทร์องค์นี้จัดเป็นเกจิขลังอาจารย์ดังผู้มี “ดี” อย่างแท้จริง ท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคลทุกรุ่นด้วยตัวท่านเองเพียงลำพัง ไม่มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกแต่อย่างใด แม้ท่านจะจากไปในปี ๒๕๓๘ ด้วยวัย ๘๖ ปี แต่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านยังเหนียวแน่น ในจำนวนวัตถุมงคลของท่านหลายรุ่นหลายแบบทั้งเนื้อผง รูปหล่อ และเหรียญ หลายรุ่นหลายวาระ ตั้งแต่เหรียญรุ่นแรก ปี ๒๕๐๖ ด้านหลังเป็นพระพุทธชินราชเนื้ออัลปาก้า อันเป็นที่นิยมและแสวงหาด้วยสูงประสบการณ์อย่างครบถ้วนทั้งแคล้วคลาดและคงกระพัน

หลวงพ่อรักษ์ท่านเป็นบุตรผู้มีกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีอย่างยิ่ง โยมพ่อโยมแม่ของท่านจึงได้รับการปั้นรูปเอาไว้ในที่บูชาและอัญเชิญประดับหลังเหรียญของท่านเพื่อเป็นมงคลแก่ผู้บูชา เหรียญทุกรุ่นของท่านมีประสบการณ์เล่าขานกันอย่างไม่รู้จบ ไม่เพียงแคล้วคลาดและคงกระพัน ที่เชื่อขนมกินได้ ตามสำนวนโบราณที่เล่าขานกันมาว่า ทั้งเหนียวและแคล้วคลาดแบบแมลงวันไม่ได้กินเลือด จึงจัดเป็นเหรียญดีเหรียญเด่นเหรียญเก่าที่มีค่านิยมและยังพอแสวงหากันได้ หลวงพ่อรักษ์ ฐิตธมฺโม เป็นพระนักพัฒนาและมีความรู้ทางด้านเวทวิทยาอาคม อีกทั้งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพร้อมด้วยศีลจริยาวัตร ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาควรแก่การกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง สังขารของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย

พระปิดตาลอยองค์ เนื้อผงคลุกรัก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา ปี 2540 (สร้างขึ้นในโอกาสที่ระลึกอายุครบ 7 รอบ 84 ปี ของหลวงปู่ทิม) เจ้าตำรับลูกอมชานหมากคุณวิเศษ ท่านได้ใช้เมตตาและบารมีในการปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยอิทธิเวทพุทธาคมอย่างลึกล้ำ ยากที่จะเสมอเหมือน ตามตำรับตำราของบูรพาจารย์ของท่าน ซึ่งคุณวิเศษนี้ เกิดจากเนื้อหมากและน้ำหมากของหลวงปู่ทิม มีครบทุกด้าน แล้วแต่ผู้ใช้จะปรารถนา เมื่ออธิษฐานสิ่งใดๆ ก็จะได้ดังใจหวังทั้ง เมตตา แคล้วคลาด ปลอดภัย ครบถ้วน

เอกลักษณ์เฉพาะตัวในการอธิษฐานจิตลงสู่วัตถุมงคลของหลวงปู่ ที่เน้นเมตตาโชคลาภนำหน้า และแฝงพุทธคุณทางแคล้วคลาด คงกระพันไว้เบื้องหลัง ในยามคับขัน เมื่อเมตตาเอาไม่อยู่อานุภาพในเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ก็จะเข้าคุ้มครองป้องกันทันที ท่านจึงมักพูดกับลูกหลานเสมอว่า “วัตถุมงคลของท่านใช้ได้ทุกทาง ให้อธิษฐานเอา มีเรื่องอะไรให้คิดถึงท่าน บอกกล่าวท่าน “

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เป็นสุดยอดเกจิอีกองค์ของเมืองกรุงศรีอยุธยา แม้ท่านจะมรณภาพไปเมื่อปี 2552 แต่ร่างของท่านกลับไม่เน่าเปื่อย เส้นผม-เล็บ กลับงอกเสมือนว่าท่านมีชีวิตอยู่ นั่นย่อมแสดงถึงอภิญญาของพระสงฆ์ที่บริสุทธิ์ทั้งวัตรปฏิบัติและธรรมอันสูงส่ง สมัยท่านมีชีวิตอยู่จะมีศิษยานุศิษย์จากทั่วทุกสารทิศแห่แหนมานมัสการท่านไม่เว้นแต่ละวัน ท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาสูงมาก เหล่าศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสท่านรู้ดี ท่านได้รับการยกย่องเสมือนเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาอีกองค์หนึ่งเฉกเช่นหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระอาจารย์ของท่าน สำหรับวัตถุมงคลของท่านสร้างมามากมายหลายแบบ แต่ที่เป็นสุดยอดของท่านหนึ่งในนั้นก็คือ "ชานหมาก" นั้นเอง

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

ขุนเเผน "ดันดะ" หลวงพ่อชำนาญ วัดบ่อทอง จ.ระยอง (เนื้อแร่เหล็กไหล สูตรหลวงปู่ก๋วน ผู้เป็นอาจารย์) หลังเรียบ ปี 2565 (ดันให้รุ่งดันให้รวย หลวงพ่อท่านได้สร้าง เเละปลุกเสกเอง เเจกให้เเก่ญาติโยม จัดสร้างเพียง 200 องค์) พุทธคุณไม่ต้องพูดถึง ที่สุดเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ การเงินการงานให้มั่นคง และแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีตำรับเนื้อแร่เหล็กไหล ตอนปลุกเสกหลวงพ่อนั่งสมาธิปลุกเสกกลางเเดด เวลาผ่านไปไม่นานได้เกิดฝนตก เเต่หลวงพ่อท่านไม่ไหวติงยังนั่งปลุกเสกต่อไป (1 ใน 200 องค์ น้อยมากๆ โดยหลวงพ่อชำนาญ ปภัสสโร วัดบ่อทอง จ.ระยอง หลวงพ่อจัดสร้าง เเละปลุกเสกเอง พุทธคุณจึงไม่ต้องพูดถึง เกินบรรยายจริง และนิยมเล่นหากันมานานหลายปี ท่านเป็นศิษย์ทายาทสายเวทย์วิทยาคม จากหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง ระยอง และหลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทองธาราม ระยอง ผู้ขอเหล็กไหลจากเทวดาสร้างพระเครื่องลือเลื่องในด้านสุดเหนียว)

พระปลัดชำนาญ หรือหลวงพ่อชำนาญ ปภสสโร เจ้าอาวาสวัดบ่อทอง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ท่านบวชและจำพรรษาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำเขาชะอางค์โอน อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง จนกระทั่งวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ท่านจึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดพลงช้างเผือก ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่นั่น ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็น พระปลัด ชื่อพระปลัดชำนาญ ปภสสโร ฐานานุกรมของพระครูประภัทรวิริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2549 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลเนินฆ้อ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2550 ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดบ่อทอง และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมาจนถึงปัจจุบัน

หลวงพ่อชำนาญ วัดบ่อทอง ท่านเป็นเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ดัง และเก่งมากในยุคปัจจุบันของภาคตะวันออก วัตถุมงคลของท่านนั้น จะสร้างออกมาในโอกาสต่างๆ ซึ่งสร้างจำนวนไม่มาก สร้างน้อย หลักร้อยบางรุ่นมีราคาสูง เนื่องจากสร้างเองจากวัด วัดสร้างเองทุกอย่าง และท่านไม่ค่อยสร้างซ้ำแบบเดิม (มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น สวยงาม เข้มขลัง ด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ) จึงทำให้แต่พระแต่ละรุ่นเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์เป็นอันมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ทุกรุ่น ลูกศิษย์สายนี้รู้ดี และต่างตามเก็บเข้ารัง อนาคตหายากแน่นอน องค์นี้เป็นเนื้อแร่เข้ามูล “ขี้เหล็กไหล” ตามสูตรตำรับหลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทองธาราม ระยอง

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

ขอจองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

ลูกอมผงพรายกุมาร บรอนซ์ฝุ่น พิเศษมีจาร มีโค๊ด หลวงปู่ทิม - หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสกพิธีใหญ่ ปี 2517 ออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี มวลสาร ลูกอมหลวงปู่ทิม ออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ จะมีส่วนผสมของผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม, ผงอิทธิเจ, ผงตรีนิสิงเห, ผงปัถมัง, เส้นเกศาหลวงปู่ทิม, เศษสายสิญจน์, น้ำมันลูกประคำ, น้ำมันพระเจ้าตาก, พระผงที่แตกหักชำรุด, และผงพุทธคุณของหลวงปู่บุญมี นำมาบดผสมให้เข้ากัน เนื่องจากตะกรุดโทนมีน้อย ผงพุทธคุณผสมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมเหลือเยอะ จึงนำมาหุ้มที่ตะกรุดโทน แล้วส่วนที่เหลือนำมาปั้นเป็นลูกอมแล้วทาบอร์น บางเม็ดก็จะมี อาทิ เส้นเกศา, เศษสายสิญจน์, ตอกโค๊ตคล้ายเลข ๓ และฝังตะกรุดสาริกา ติดมาอยู่บ้างปะปนกันไป ขนาดของลูกอมก็จะมีหลายขนาด บางเม็ดก็จะมีขนาดเท่ากำปั้น ลักษณะของลูกอมวัดโพธิ์สัมพันธ์ เนื้อจะแน่นและแกร่งกว่าวัดละหารไร่ และบอร์นจะคนละโซนกับวัดละหารไร่ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีพิธีพุทธาภิเษกขึ้น จะมีอยู่ 2 วาระ วาระที่ 1 ปี 2517 ปลุกเสกหมู่ที่วัดโพธิ์สัมพันธ์ โดยมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ,หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ,หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า, หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ,หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ,หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า และยังมีเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมายที่เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีนี้ พระเครื่อง วัตถุมงคลของวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิมท่านนั่งปรกปลุกเสกติดต่อกันเรื่อยมา สรุปว่าเรื่องพุทธคุณสุดยอดไม่เป็นสองรองใคร

พระนางพญา แร่บางไผ่ วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี ปี 2539 (พิมพ์เล็ก) องค์พระมีขนาดเล็กกะทัดรัด น่ารัก เหมาะกับเด็ก สตรี หรือผู้ที่ชื่นชอบสะสมพระขนาดเล็ก สวยคลาสสิคเข้มขลัง พระนางพญาแร่บางไผ่ ได้นำรูปแบบของพระยอดนิยม 3 องค์ มารวมกันในองค์เดียวกัน คือ

1. รูปทรงทั้งหมดขององค์พระ เป็นแบบพระผงสุพรรณ
2. องค์พระช่วงบนตั้งแต่หน้าอก คอ จนถึงเศียร เป็นแบบสมเด็จวัดระฆัง คือ ไม่มีหน้าตา หู จมูก ปาก หน้าเกลี้ยงมน
3. องค์พระช่วงล่างตั้งแต่หน้าอกลงมา จนถึงส่วนฐาน แขน ขา รูปทรงเหมือนพระนางพญากำแพงเพชร ศิลปะสุโขทัย เหมือนผู้หญิงที่มีรูปร่างงดงาม (หน้าผลมะตูม อกตึงผึ่งผาย เอวบางร่างน้อยเหมือนผู้หญิง)

พระรุ่นนี้หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ (ปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดบ้านไร่) และมีพิธีพุทธาภิเษกที่วัดนครอินทร์ ในวันที่ 6 เมษายน ปี 2539 โดยมีพระที่นั่งปรก ปลุกเสกดังนี้

• หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง
• หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
• หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
• หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฎร์บำรุง (ศิษย์หลวงปู่สรวง)
• หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
• หลวงพ่ออินทร์ วัดบ้านบัว
• หลวงพ่อผล วัดเชิงหวาย
• หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม
• พระอาจารย์สมศักดิ์ วัดนครอินทร์
และพระสงฆ์วัดชนะสงคราม 4 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ตลอดพิธี

แร่บางไผ่ เป็นแร่ศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ในตัว โบราณจารย์ท่านว่าถ้านำมาสร้างวัตถุมงคล ประจุพุทธาคมที่เข้มขลัง ยิ่งทวีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น มีพบที่คลองบางคูลัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แห่งเดียวเท่านั้น นักเลงสมัยก่อนใช้แค่ก้อนแร่บางไผ่เลี่ยมพกติดตัว ยังเกิดประสบการณ์มากมายในด้านคงกระพันชาตรี โดยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของแร่บางไผ่เอง จัดเป็นพระเครื่องที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

รูปหล่อนั่งเสือรุ่นแรก "หลวงพ่อเที่ยง" วัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ใต้ฐานอุดกริ่ง โค๊ด “อุ” สภาพสวย ในพื้นที่ก็หายากแล้วนะ น่าเก็บสะสม เพราะเป็นรูปหล่อรุ่นแรก ที่วัดจัดสร้างแท้ๆ หลวงพ่อเที่ยง ในอดีตท่านเคยเป็นครูสักยันต์ โดยเฉพาะ (ยันต์เสือเผ่น) ของท่านเป็นที่ล่ำลือในหมู่ศิษย์ของท่านว่า ดุดัน มหาอำนาจ หนังเหนียวเป็นยิ่งนัก ท่านสำเร็จวิชาหัวใจเสือสมิง ประสบการณ์ พระเครื่องของ หลวงพ่อเที่ยง เป็นที่กล่าวขานมานาน ว่ามีพลานุภาพสูงแคล้วคลาด นิรันตรายเป็นเลิศ

หลวงพ่อเที่ยง วัดเขากระโดง ท่านเป็นพระเกจิที่โด่งดังในบุรีรัมย์ ดังทางด้าน “ตะกรุดหนังเสือ” เป็นอย่างมาก มีคนเคยลองยิงแล้ว ยิงไม่ออก ซึ่งท่านห้ามว่าไม่ให้ลองของท่าน แต่ก็มีคนลอง สุดท้ายเจอดี ต้องวิ่งกลับมาหาหลวงพ่อเพื่อขอขมาต่อท่าน พระครูสัจจานุรักษ์ (เที่ยง "อารมณ์" ปภงฺกโร) วัดพระพุทธบาทเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รูปหล่อนั่งเสือนี้ บูชามาตอนที่เข้าไปกราบนมัสการท่านที่วัด สภาพผิวหิ้ง ไม่ผ่านการใช้ 20 กว่าปีแล้ว

XXXบูชาแล้วXXX

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199

 

จองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

พระสมเด็จพิมพ์ "ยันต์ตุ๊กตา" หลังพญาเต่าเรือนใหญ่ เนื้อผงพุทธคุณล้วน หลวงพ่อคร้าม วัดพระเงิน บรรจุกรุ หลวงพ่อคร้าม วัดพระเงิน จ.นนทบุรี หรือ เจ้าอธิการคร้าม อินทสโร พระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากอีกรูปหนึ่งของเมืองนนท์ เป็นเจ้าอาวาสที่วัดพระเงิน เมื่อปีพ.ศ. 2454 เป็นต้นมา จนถึงท่านมรณภาพ เมื่อปีพ.ศ. 2487 สิริรวมอายุ 100 ปี นับว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าอีกองค์หนึ่งทีเดียว จากคำบอกเล่าจากคนแถบวัดพระเงิน หลวงพ่อคร้ามท่านดุมาก ใครมาทำอะไรที่ไม่ดีในวัด ท่านตีไม่เลี้ยง จึงไม่มีใครกล้ามาทำอะไรที่ไม่ดีเพราะเกรงกลัวท่าน

หลวงพ่อคร้าม ท่านสำเร็จวิชา “ยันต์เต่าเรือน” ที่มีอานุภาพเด่นทางเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ขนาดคนที่จะโดนตัดสินคดีความ(แต่ไม่ได้ทำผิดจริง) ขอบารมีจากวัตถุมงคลของท่าน ศาลยังเมตตายกฟ้อง หรือบางรายพลิกกลับมาชนะคดีจนเป็นที่กล่าวขานกันมามากมาย ท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลของท่าน ในราวปี 2435 เป็นต้นมา ตั้งแต่สมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบางค้อ พระของท่านส่วนมากเป็น พิมพ์พระสมเด็จ และพิมพ์อื่นๆ ที่วงการยอมรับ อีกไม่กี่พิมพ์ เช่น พระสมเด็จหลังยันต์เต่าเรือน หลังยันต์นะมหาอุตม์ หลังยันต์ตุ๊กตา หลังยันต์น้ำเต้า และหลังเรียบ เนื้อหา มวลสารพระของท่านที่นิยมเล่นหากันมีด้วยกัน 5 เนื้อ คือ

1.เนื้อผงคลุกรัก (เนื้อนี้หายากที่สุด) แต่กลับพบว่าเห็นมากในสนามพระ
2.เนื้อผงยา (เนื้อนี้ก็หายากอีกเช่นกัน) พบน้อย
3.เนื้อผงขาว (เนื้อผงพุทธคุณ) กลับพบว่าหายากมากสุด เนื่องจากเป็นพระที่ส่วนมากพบเจอบรรจุกรุ
4.เนื้อผงใบลาน
5.เนื้อดินผสมผง

วัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณเป็นที่ล่ำลือ เด่นทางด้าน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาด เป็นเยี่ยม ในสมัยก่อน วัตถุมงคลของท่านนั้น เป็นของดีที่ถูกซ่อนเร้นมานาน เนื่องจากขาดการประชาสัมพันธ์ แต่วัตถุมลคลของท่านก็ได้รับความนิยมอย่างเงียบๆ มานานแล้ว ซึ่งต่างกับในปัจจุบัน วัตถุมงคลของท่านเป็นที่ต้องการของนักสะสมรุ่นใหม่ๆ ก็เพราะว่าพุทธคุณของวัตถุมงคลของท่านนั้นเอง ทำให้ผู้ที่เคยบูชาวัตถุมลคลของท่านพูดคุยบอกเล่ากันในโลกของ Social Media ว่าเมื่อนำไปบูชาแล้วเป็นที่เมตตามหานิยมแก่บุคคลทั่วไป เป็นมหาโชค มหาลาภ อีกทั้งทางด้านคงกระพันชาตรี ก็ไม่เป็นสองรองใคร

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นนั้น ว่ากันว่าสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.๒๔๗๕ ท่านเป็นพระที่สำเร็จผง ท่านใช้ผงว่านและผงปูนมาปั้นเป็นแท่ง แล้วเขียนยันต์ต่าง ๆ แล้วลบผงนั้นรวบรวมเอาไว้สำหรับทำพระเครื่อง ซึ่งท่านจะเป็นผู้แกะแม่พิมพ์เอง มีชาวบ้านที่มีฝีมือช่วยท่านแกะบ้าง พระเครื่องที่ท่านสร้างไว้นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนในท้องที่ เนื่องจากมีประสบการณ์สูงมาก โด่งดังควบคู่กันมากับพระของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา แต่การสร้างพระของหลวงพ่อคร้าม มีจำนวนน้อยมากๆ พบเห็นได้ยากยิ่ง เป็นของดีที่ถูกซ่อนเร้นมานาน ได้รับความนิยมจากนักเล่นนักสะสมพระรุ่นเก่าๆมานมนานแล้ว ด้วยเหตุของเนื้อหามวลสารของพระ และประสบการณ์เรื่องพุทธคุณขององค์พระนั่นเอง

XXXบูชาแล้วXXX

 

พระปิดตา เนื้อชินตะกั่ว หลวงพ่อปา วัดโบสถ์ หลวงปู่ศุข ร่วมปลุกเสก ปี 2450 ของดีที่ราคาย่อมเยา (ใช้ดูพระเนื้อชินตะกั่วของหลวงปู่ศุขได้) หลวงพ่อปา วัดโบสถ์ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ท่านเป็นพระเกจิในยุคเดียวกันกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพราะโบสถ์ที่สร้างในสมัยหลวงพ่อปาเป็นเจ้าอาวาสสร้างในปี พ.ศ.๒๔๑๒ แต่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อาวุโสอ่อนกว่าหลวงพ่อปาสองปีประวัติของท่านเกือบจะสุญหายไปแล้วท่านเป็นพระดีที่คนรุ่นหลังๆไม่ค่อยรู้จัก

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและได้รับความนิยมคือ เหรียญหล่อชินราช เนื้อชินตะกั่ว หลังมีรอยจารทุกเหรียญ และมีสองพิมพ์ พระปิดตาเนื้อชินตะกั่ว ตะกรุดนางคลอด และพระพิมพ์เนื้อผสมผง พุทธคุณดีด้านเมตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย

พระปิดตาหลวงพ่อปา วัดโบสถ์ เมื่อกล่าวถึงพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสรรคบุรี ไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระครูวิมลคุณากรหรือหลวงปู่ศุข เกสโรแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ผู้สร้าง เหรียญที่ถูกจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเหรียญพระสงฆ์ยอดนิยมของเมืองไทย หลวงปู่ศุขท่านเป็นอมตะเถราจารย์ผู้เรืองวิทยาคมองค์หนึ่ง ผู้เป็นอาจารย์องค์แรกของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทั้งนี้เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่ศุขได้ถูกกล่าวขวัญเอาไว้มากมายจนกลายเป็นตำนานยอดเกจิแห่งลำน้ำสิงห์ เมืองชัยนาท แต่ยังมีเกจิร่วมยุคกับหลวงปู่ศุขอีกองค์หนึ่ง มีพรรษาสูงกว่าหลวงปู่ศุขถึง 2 พรรษา เป็นสหธรรมิกแลกเปลี่ยนวิชากัน ที่สำคัญเป็นยอดพระเกจิอาจารย์อีกรูปที่สำคัญของเมืองนี้ และท่านคือ หลวงพ่อปลา วัดโบสถ์ ชัยนาท

หลวงพ่อปา วัดโบสถ์อ.สรรคบุรีจ.ชัยนาท ท่านเป็นเกจิยุคเดียวกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่สำคัญท่านเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์องค์สำคัญของ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ซึ่งหลวงพ่อกวยท่านได้วิชาจากหลวงพ่อปามาหลายวิชา หลวงพ่อปา ท่านเป็นสหธรรมิกของ หลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า แต่มีอาวุโสกว่าหลวงปู่ศุข 2 ปี เล่ากันว่าวิชาอาคมของท่านนั้นไม่เป็นรองหลวงปู่ศุขเลย พระเครื่องที่หลวงพ่อสร้าง บางพิมพ์ถูกเล่นหาเป็นของหลวงปู่ศุข เนื่องจากศิลปะคล้ายๆ กับพระเครื่องของหลวงปู่ศุข และสร้างในยุคไล่เลี่ยกัน โดยวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง และได้รับความนิยมมากได้แก่ เหรียญหล่อชินราชเนื้อตะกั่ว, พระพุทธข้างรัศมีเนื้อตะกั่ว และพระปิดตาเนื้อตะกั่ว เป็นต้น

การสร้างพระปิดตาของหลวงพ่อปา ท่านจะนำเอาตะกั่วถ้ำชาเท่านั้น ที่จะหลอมเป็นเนื้อพระ ก่อนที่จะหลอมตะกั่ว หลวงพ่อได้ลงอักขระยันต์เสียก่อนรอบหนึ่ง จากนั้นหลวงพ่อก็เอาตะกั่วมาแผ่ให้เย็นลง แล้วท่านก็ลงอักขระยันต์ซ้ำอีก จากนั้นก็นำไปหลอมใหม่อีก แล้วท่านก็นำมาแผ่ใหม่อีกครั้ง แล้วก็ลงอักขระยันต์ทำอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกหลายครั้ง จนท่านเห็น มีความศักดิ์สิทธิ์ แล้วหลวงพ่อก็จะเอาตะกั่วเทลงในกระทะ ตะกั่วร้อนละลายได้ที่ดีแล้ว ท่านก็จะใช้ตระแกงตักเทลงเบ้าพิมพ์ เมื่อองค์พระเย็นลง แข็งตัวได้ที่แล้ว ก็คว่ำพิมพ์ลง เพื่อเทองค์พระที่หลอมลง แล้วใช้มีดธรรมดาตกแต่งให้สวย ดูเรียบร้อย สวยงาม

พระภควัมบดีหรือพระปิดตานับเป็นเครื่องรางที่ชาวสยามนับถือมาแต่โบราณ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในชุดเครื่องรางยอดนิยม สมัยก่อนเขาไม่ได้ใช้แขวนกัน เขาเพียงแต่นำพระภควัมแช่น้ำมันหอม หรือน้ำมันงา แล้วเอาน้ำมันนั้นทาตัวไป ก็เป็นแคล้วคลาดคงทน เมตตามหานิยมแล้ว พระปิดตาเป็นเครื่องรางสำคัญที่สร้างได้ยากมาก พระปิดตาของหลวงพ่อปา วัดโบสถ์ ท่านพิถีพิถันทุกขั้นตอนการสร้าง ประกอบกฤตยาคมที่ท่านอธิษฐานจิต ทำให้พระปิดของท่านมีอานุภาพเป็นที่ประจักษ์ และได้รับความนิยมมาช้านาน ประกอบกับพระเครื่องของหลวงปู่ศุขมีราคาแพงขึ้นไปทุกที คนเลยมาเช่าหาของสหธรรมิกร่วมยุคกับท่าน ซึ่งก็ล้วนแต่มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

XXXบูชาแล้วXXX

 

กุมารทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม(บ้านแค)ชัยนาท ปี ๒๕๒๑ เนื้อตะกั่ว พิมพ์ใหญ่ รุ่นนี้มีประสบการณ์มาก "กุมารทองของหลวงพ่อกวยน่ะเขามีหูทิพย์ ตาทิพย์ ออกมาให้เห็นได้ ช่วยค้าขายได้ เตือนภัยได้ เก่งกว่าเขาหมด"...คำพูดของหลวงพ่อแป๊ว วัดดาวเรือง

(กุมารทอง)...หลวงพ่อกวย ท่านปลุกเสกโดยปลุกธาตุตั้งธาตุขึ้นมา รุ่นนี้ออกในงานฝังลูกนิมิต ปี 2521 ทางวัดสั่งมาให้หลวงพ่อปลุกเสก รวมกับวัตถุมงคลแบบอื่นๆในปีนั้น ที่บางอย่างราคาไปไกล แบบสุดโต่งแล้วก็มี เช่น เหรียญหลังยันต์ , เหรียญหลังหนุมาน , สมเด็จแดงหลังตัวหนังสือ เป็นต้น

หลวงพ่อกวย ชุตินธฺโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท ยอดพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจาย ในระยะเวลา 20 ปีมานี่ (พระอภิญญาในยุคปัจจุบันองค์หนึ่ง ของอ่างทองเคยพูดว่า ท่านเป็นหน่อเนื้อของสมเด็จโตมาเกิด เพื่อสงเคราะห์คนนักนิยมพระเครื่อง ไม่มีใครไม่รู้จักท่าน พระเครื่องที่ท่านปลุกเสกให้ดีแล้ว มีพุทธคุณสูงใครมีไว้ "ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าใคร") พระของท่านใช้ได้ผลดี แก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาทุกคน ศิษย์ท่านตั้งตัวเป็นเศรษฐีได้ เพราะใช้พระท่านก็มาก หลายคนได้ดีเป็นเจ้าคนนายคนเพราะพระท่าน และหลายคนอีกเช่นกัน รอดตายกลับมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ ก็เพราะพระเครื่องของท่านเช่นกัน

คุณวิเศษของหลวงพ่อนี้ มีหลักฐานผู้ที่ได้วิชาไปดังนี้ นายเฉือน ปั้นสน คนหนองแขม สามารถขอดชายผ้า ยิงไม่ออก, หมอเฉลียว เดชมา ได้วิชาตีไม่เจ็บ, เสือผ่าน อ้นฉ่ำ, หมอแจ๋ ได้วิชาบังไพรหายตัวได้, หลวงตาจิ๊ด สามารถเสกหินลอยน้ำได้, นายยุทธ ยิ้มจู เรียกมดลงรูได้, นายแดง สว่างศรี ได้คาถาหัวใจแมลงป่อง สามารถจับแมลงป่องได้ไม่ต่อย, นายชัย คนทางวัดค้างคาว ได้คาถาหัวใจนาคราช สามารถจับงูได้งูไม่กัด อาจารย์เหวียน มณีนัย คนท่าทอง สามารถผ่าไม้รวกได้ด้วยมือ, อาจารย์ตี๋ สำนักสงฆ์ เขาเขียว นั่งบนน้ำได้, อาจารย์เม่า บีบถ้วยแบบถ้วยสังคโลก ให้ปากถ้วยรวมเข้ามาหากันได้, ใช้มีดบังฟันก็ทำได้ ขนาดศิษย์ของท่านยังทำได้ เชื่อขนมกินได้เลยว่า ตัวท่านผู้เป็นอาจารย์ย่อมทำได้มากกว่านั้นแน่นอน

-คุณวิเศษของหลวงพ่อ
๑ เป็นผู้มีลาภ...หลวงพ่อเป็นพระที่อุดมลาภ ท่านได้ปฏิบัติตนเหมือนพระเวสสันดร, ปฏิบัติตนเหมือนพระสีวลีเถระ, เหมือนพระสังกัจจายน์ ชอบทำทานเป็นที่สุด และยังได้ติดต่อกับพระสิวลีได้ แม้ที่กระถางธูปท่าน ท่านก็ทำธงพระสิวลีบูชาอยู่ ท่านสวด คาถาบูชาทุกวัน ทำให้ท่านเป็นพระที่อุดมลาภ มีคนมาขอหวยท่าน ถ้าท่านเห็นว่าพอมีโชคลาภท่านจะเขียนให้ตรง ๆ เลย กับคนใกล้ชิดกับท่าน ถ้าไปไหนด้วยกันถามท่านว่าเลขไหนดี ท่านจะบอกออกไปเลย แม้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ท่านยังเขียนเลขไว้ในฝ่ามือ ถ้าใครมีโชคมีลาภมาเยี่ยมท่าน ท่านจะแบมือให้ดู แม้มรณภาพไปแล้ว ใครบูชารูปท่านอยู่ ขอโชค ขอลาภจากท่าน ท่านให้ได้ จะให้เลย มีคนถูกหวยเพราะบูชารูปท่าน มีเป็นร้อยคน บางคนได้ส่งเงินมาทำบุญมูลนิธิ ตก ๑ หมื่นบาท เพราะถูกหวยจากการขอพรท่าน มีคนถูกหวยกันมาก ชนิดไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ผมเคยไปวัด มีคนมาแก้บน ชื่อเรณู บ้านอยู่ทางวัดค้างคาว ถูกหวยติดต่อ กัน ๑๘ งวด เกี่ยวกับการที่ท่านเป็นผู้อุดมลาภนี้ เมื่อมีคนบูชารูปท่าน จะปรากฏว่ามีความสุข ความเจริญ ซื้อง่าย ขายคล่อง สมกับคำพรของท่านที่เคยให้แก่ศิษย์ไว้คือ "ขอให้อย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าเขา”

๒. เป็นผู้คงแก่เรียน...หลวงพ่อเป็นพระที่ชอบศึกษาค้นคว้า เรียนมามากไม่ว่า ตำรายา, ตำรายันต์, คาถาอาคม เรียนมาแทบทุกยันต์ ปัจจุบันตำรายาของท่านที่ท่านเรียนเอาไว้ จดใส่สมุดเล่มหนา ๆ เอาไว้ตกเกือบ ๑ ร้อยเล่ม ตำรายันต์ต่าง ๆ มีเก็บไว้เป็นตู้ จดเองกับมือ คาถายาว ๆ ท่องได้หมด เครื่องราง ทำได้เกือบทุกชนิด ทำได้ขลังด้วย ไม่ว่าจะเป็น แหวนแขน, ตะกรุด, เชือก คาดเอว, ผ้ายันต์, กุมารทอง, รัก-ยม ฯลฯ วัตถุมงคลรุ่นแรก ๆ ท่านทำเองกับมือด้วย เช่นพระหินแกะ, กระเบื้องแกะ, กุมารทอง กระดูกผีแกะ ท่านยังเคยทำ ตัว พ.พาน ที่ทำจากก้านธูปพันด้วยสายสิญจน์ มอบให้ศิษย์ใกล้ชิด คือ หมอเฉลียว เดชมา, กับนายที ทำให้ไว้คนละตัว เมื่อหมอเฉลียวถามท่านว่าหลวงพ่อทำเป็น น่าจะทำออกแจกมาก ๆ หลวงพ่อตอบว่า "เอาไว้ให้หลวงตาเย็น เอาไว้ สร้างโบสถ์มั่ง ไปทำซะหมดทุกอย่างได้อย่างไร" หลวงพ่อยังสามารถทำเครื่องรางของขลังได้อัศจรรย์ คือ สามารถเตือนภัยได้ สิ่งนั้น คือ แหวนแขน สามารถเตือนภัยรัดแขนได้ ไม่ปรากฏมีมาก่อน สรุปได้คือ หลวงพ่อเป็นพระที่ชอบศึกษาทางอาคมมาก ไม่ว่า วิชาตำรายา, ตำรายันต์, อาคม ที่ปรากฏชื่อของครูบาอาจารย์เจ้าของยันต์ เจ้าของอาคม ที่มีอยู่เป็นหลักฐานยืนยันได้ และเป็นที่รู้จัก คือ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง, หลวงอิ่ม วัดหัวเขา, หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน, หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ฯ เฉพาะที่เป็นยันต์ต่าง ๆ กันภัย กันปืน, ค้าขาย, เมตตา, กันกระทำ, หายตัว, กันยมฑูต, กันเพลี้ย, กันหนอน, ยันต์ปลุกให้ตื่น ฯ เฉพาะที่เป็นยันต์ต่าง ๆ ที่หลวงพ่อเรียนมา มีหลายร้อยยันต์ ท่านได้เขียนผ้ายันต์ เอาไว้ยันต์ละ ๑-๒ ผืน ได้ผ้ายันต์ถึงหลายร้อยผืน แม้แต่อาคมแปลก ๆ ท่านก็เรียนเอาไว้ ที่เด่นที่สุด คือ คนปวดหัว ปวดท้อง ถ้าไปบอกท่าน ท่านจะเอามือบีบนิ้วโป้งท่าน ปรากฏว่าคนปวดหัวปวดท้องหาย คนจะออกลูก จะให้สามีปวดแทน ท่านก็ทำได้ นับว่าหาได้ยาก แม้วิชาชั้นสูงสุด เช่น ผูกหุ่นพยนต์ เป็นสัตว์ต่าง ๆ เสกก้านกล้วยเป็นงูเขียว, วิชาเสือสมิง, วิชาแปลงร่างเป็นจระเข้หลวงพ่อก็ทำได้

๓. เป็นผู้มีดวงจิตมหัศจรรย์...หลวงพ่อเป็นพระที่มีเมตตาต่อศิษย์ต่อคนทั่วไป เมื่อหลวงพ่อฝึกจิตจนได้หูทิพย์, ตาทิพย์ เมื่อทราบว่าศิษย์ หรือผู้เคารพนับถือ ตกทุกข์ได้ยาก เดือดร้อน ขอโชคขอลาภ เมื่อท่านทราบถ้าช่วยได้จะช่วยทันที ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องไกลเรื่องใกล้ หรือเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าช่วยได้จะช่วยเลย ไม่ลังเล ถ้าเป็นเรื่องดี เรื่องค้าเรื่องขายยิ่งชอบช่วย จิตของท่านกว้างไกลมาก แม้อยู่ต่างประเทศก็ช่วยได้ เคยมีศิษย์ของท่านไปรบที่ลาว ถูกล้อมอยู่ ท่านเคยถอดจิต เดินนำหน้าศิษย์ฝ่าวงล้อมออกไปได้ เพียงแค่ร้องขอให้ท่านช่วย บางคนตัดรูปท่านในหนังสือเอาไปบูชา รูปไม่ได้ปลุกเสก ขอพรต่อท่าน ซื้อหวยถูกได้ บางคนได้ขอพรต่อรูปท่านในหนังสือยังถูกหวยได้ บางคนก็ไปสมัครงาน เขารับวุฒิ ปวส. แต่ศิษย์ท่านจบวุฒิ ปวช. คือ วุฒิต่ำกว่า ได้บอกเล่าท่าน ปรากฏว่าเขารับ ซึ่งแปลกมากทั้ง ๆ ที่วุฒิ ปวส. ก็มีตัวให้เลือก เรื่องจิตของท่านที่เมตตาศิษย์ และคนทั่วไปนี้ เมื่อท่านสร้างวัตถุมงคล ท่านจึงไม่มีข้อห้าม ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะดี หรือบ้า จะประกอบอาชีพอะไร ก็บูชาของท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง, ดารา, ผู้หญิงใช้ได้หมด ผู้ชายจะเป็นเสือเป็นโจร หรือเป็นพวกรถไฟ, เรือเมล์, ลิเก, ตำรวจ, ก็ใช้ได้ เพราะจะทำให้ผู้นั้นได้ประพฤติปฏิบัติเป็นคนดีขึ้นในเวลาต่อมา สรุปคือ หลวงพ่อเป็นผู้มีลาภ, มีวิชาดี, มีเครื่องรางดี, มีจิตดี

ให้บูชา 300 บาท (รวมจัดส่ง)

***คุณ Nantana จอง***

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
หมายเลขบัญชี 403 - 454907- 0
ชื่อบัญชี อุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 097 931 9199