9 สิ่งมหามงคล

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย pucca2101, 6 กันยายน 2008.

  1. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>9 สิ่งมหามงคล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชิญสักการะ 9 มหามงคล

    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า การบูชามี 2 อย่างสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

    1. บูชาด้วยวัตถุสิ่งของ มีดอกไม้ธูปเทียนเคารพกราบไหว้ถวายเป็นพุทธบูชา

    2. บูชาด้วยการปฏิบัติ มีการสวดมนต์ นั่งสมาธิเดินเวียนขวา 3-9 รอบพร้อมสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถวายเป็นพุทธบูชา เป็นต้น การบูชาสิ่งที่ควรบูชาเป็นอุดมมงคลสูงสุด ผู้บูชาอยู่เป็นนิตย์ชีวิตย่อมมีความสุขความเจริญ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>1.พระบรมสารีริกธาตุ (พระธาตุ)

    พระบรมสารีริกธาตุ พระอุรังคธาตุ และพระเกศาธาตุ แห่งองค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า พระเดชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์ได้เดินทางไปอันเชิญมาจากประเทศบังคลาเทศถึง 2 ครั้ง คือปี พ.ศ.2517และปี พ.ศ. 2516 ต่อมาได้สร้างพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>2. พระพุทธรูป ภปร. (หลวงพ่อองค์ดำ)

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จมาเททองหล่อ ณ วัดธรรมมงคลเมื่อ พ.ศ. 2517 ประดิษฐาน ณ วิหารชั้น 2 ของพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>3. พระอโศกพยา (หลวงพ่อพันปี)

    เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทราย อายุกว่าพันปีซึงรัฐบาลประเทศบังคลาเทศอันเชิญมาจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เพื่อถวายแด่พระเดชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์ เมื่อพ.ศ. 2519ประดิษฐาน ณ ชั้น 2 ทางทิศตะวันตก ของมหาเจดีย์


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>4. พระอัฏฐาฬส (หลวงพ่ออัฏฐษฬส)

    สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 ความสูง 18 ศอกถวายพระนามว่าพระอัฏฐษฬส โยพระเดชพนะคุณพระเทพเจติยาจารย์จุดประสงค์ เพื่อให้เป็นพระประธาน ทางทิศตะวันออก ประดิษฐาน ณ ชั้น 2 ของพระมหาเจดีย์


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>5. พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ( หลวงปู่มั่น)

    พระเกจิอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นแบบอย่างแห่งการปฏิบัติกรรมฐานในยุคปัจจุบัน แม้ว่าพระอาจารย์มั่นจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่คุณงามความดีที่ท่านได้ทำให้พระพุทธศาสนายังคงอยู่ตลอดไป อยู่ ณ ศาลาราย ชั้น 2 ด้านทิศตะวันออก ของพระมหาเจดีย์



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>6. พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย (หลวงพ่อหยก)

    พระพุทธรูปหยกสีเขียวบริสุทธิ์ใหญ่ที่สุดในโลก แกะสลักจากหยกเขียวน้ำหนักกว่า 32 ตัน โดยช่างฝีมือดีจากอิตาลีใช้เวลาแกะสลัก 12 เดือน สวยสดงดงาม ตรงตามพุทธลักษณะ สร้างขึ้นตามดำริ ของพระเทพเจติยาจารย์เจ้าอาวาธวัดธรรมมงคลที่นิมิตเห็นก่อน นำมาแกะสลักประดิษฐาน ณ ศาลา ภปร.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>7. พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(เจ้าแม่กวนอิมหยก)

    แกะสลักจากหินหยกเขียวบริสุทธิ์น้ำหนักกว่า 32 ตัน ก้อนเดียวกับที่ใช้แกะสลลักพระหยก โดยช่างคนเดียวกันถือว่าเป็นประติมากรรม ที่งดงามน่าอัศจรรย์ยิ่ง สิ่งหนึ่งของโลกตั้งอยู่ ณ ภปร.ชั้น 3


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>8. พระพุทธมงคลบพิตร(หลวงพ่อพุทธมงคล)

    เป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดธรรมมงคล สร้างด้วยศิลปะร่มสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเททองเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2509สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ในขณะนั้น)ทรงถวายพระนามว่า

    พระพุทธมงคลบพิตร วิชิตสรรพโรคาพาธ
    ประสาธ์นสันติสุขสวัสดี ประสิทธิศรีสรรพมงคล
    สกลวิสุทธธรรมโลกอนาถ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>9. พระเมตตาพุทธเจ้า(หลวงพ่อเมตา)

    สร้างขึ้นด้วยการนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าลอยมาจากท้องฟ้ามีพุทธรัศมีเปล่งออกมาจากพระวรกายอย่างงดงาม พระพักต์เปี่ยมไปด้ยความเมตตา ทรงยกพระหัตถ์ประทานพร เมื่อ พ.ศ. 2543 ณ ศูนย์สมาธิเวรุพัชร จ. เชียงรายในกาลต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2544พระเชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์และพระภิกษุสามเณรวัดธรรมมงคล พร้อมด้วยสาธุชนมาร่วมพิธีเททองหล่อมากมายเป็นประวัติการณ์


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ติดต่อได้ที่

    สอบถามโทร 0-2311-3994,0-2332-8226, 0-2311-3903

    วิธีที่1 เดินทางด้วยรถส่วยตัว มาตามถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 101 (ซอยวัดธรรมมงคล)

    วิธีที่2 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่หน้าห้างโลตัสสาขาซอยสุขุมวิท 50 แล้วต่อรถเมล์ขาออกทุกสายมาลงปากซอยสุขุมวิท 101 เข้าสู่วัดธรรมมงคล

    วิธีที่3 เดินทางด้วยรถเมล์มาลงซอยสุขุมวิท 101

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ขอขอบคุณ

    ข้อมูลที่มีคุณภาพ
    จาก วัดธรรมมงคล
    (สถาบันจิตตานุภาพ)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  3. ปิยบุตร

    ปิยบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +6
    อยากมีโอกาสไปกราบสักการะบ้างค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...