10 หายนะของโลกอีก 70 ปีข้างหน้า ตามแนวคิดนักวิทยาศาสตร์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ในทศวรรษที่ผ่านมามี เหตุการณ์ร้ายๆ มากมายที่เกิดขึ้นกับโลกทั้ง ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ อย่างเช่น แผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ คร่าชีวิตมนุษย์หลายแสนคนในเอเชีย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์อย่างการก่อการร้ายด้วยการจี้เครื่องบินโดยสารพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์หลายพันคนเสียชีวิต

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วันสิ้นโลก
    <O:p></O:p>
    โลกจะอวสานอย่างไร บ้างเชื่อว่าโลกจะถึงกาลอวสานแบบไม่ทันตั้งตัว บ้างทำนายว่าชีวิตบนโลกจะตายอย่างช้าๆ ขณะที่พวกมองโลกแง่ดีหน่อยเชื่อว่า ถึงอย่างไรก็คงหาทางเอาชนะปัญหาได้โดยวิวัฒนาการไปสู่สายพันธุ์อื่นๆ <O:p></O:p>
    เซอร์มาร์ติน รีส์ ศาสตราจารย์ด้านจักรวาลวิทยา นักดาราศาสตร์ประจำราชสำนัก และยังเป็นนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นผู้ประพันธ์เรื่อง Our Final Century ด้วย เขาให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกังวลใจของมนุษย์ในเรื่องนี้ว่า มนุษย์มีโอกาส 50-50 ที่จะผ่านศตวรรษที่ 21 ไปโดยไม่มีภยันอัตรายใดๆ มาแผ้วพาน
    <O:p></O:p>
    "หายนะทางธรรมชาติบางอย่าง เช่น แผ่นดินไหว อุกกาบาตพุ่งชนโลก ยังคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เหมือนที่เป็นมา ขณะที่ภัยคุกคามอื่นๆ อันเป็นผลจากโลกาภิวัตน์เริ่มหนักหน่วงขึ้น แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องพิจารณาภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ด้วยเช่นกัน" เซอร์มาร์ตินกล่าว
    <O:p></O:p>
    ถ้าเป็นเช่นนั้น ภัยร้ายแรงที่สุดที่คุกคามมนุษยชาติคืออะไร แล้วเราจะรับมือได้หรือไม่ ต่อไปนี้เป็นการสอบถามความคิดเห็นของ 10 นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอันตรายที่น่ากลัวที่สุดเขาคิดว่าจะเกิดขึ้นกับโลก และสังคมจะได้รับผลกระทบอย่างไร ต่อมาจะเป็นการประเมินภัยคุกคามเป็นสองแนวทาง
    <O:p></O:p>
    อันดับแรกเป็นโอกาสที่จะเกิดภัยคุกคามในช่วงอายุขัยของเรา (ในช่วง 70 ปีข้างหน้า) และประการที่สอง เป็นระดับอันตรายที่จะมีผลต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์หากเกิดหายนะภัยขึ้นมา (คะแนนเต็ม 10 หมายถึงระดับที่ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ ลงมาจนถึงระดับ 1 หมายถึงแทบจะไม่มีผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์เลย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1. การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    นิค บรูค ผู้ช่วยวิจัยอาวุโสจากศูนย์วิจัยสภาพเปลี่ยนแปลงของอากาศไทนดัล ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยอีสต์แองเจียล สหราชอาณาจักรอังกฤษ ให้ความเห็นว่า
    <O:p></O:p>
    "ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ปัญหาภาวะเรือนกระจกจะทวีความรุนแรงขึ้น และอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย <?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:METRICCONVERTER w:st="on" productid="2 องศาเซลเซียส">2 องศาเซลเซียส</ST1:METRICCONVERTER> อากาศร้อนระดับนี้ถือว่าสูงกว่าที่โลกเคยเผชิญเมื่อหนึ่งล้านห้าแสนปีก่อน สิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นอาจทำให้อากาศในหลายภูมิภาคของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงประชากรโลก
    <O:p></O:p>
    และทำให้ระบบสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันพังทลายไปทั่ว ตามมาด้วยการอพยพของผู้คนจำนวนมหาศาล และเกิดปัญหาขัดแย้งจากการแย่งชิงทรัพยากร เนื่องจากพื้นที่ที่เหมาะกับการดำรงชีวิตของมนุษย์จะเริ่มเหลือน้อยลง ผมไม่คิดว่า อากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ไปหรอกนะ แต่แน่นอนว่ามันจะทำให้เกิดการสูญเสียอย่างหนัก"
    <O:p></O:p>
    - โอกาสที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นมากกว่า 2 องศาเซลเซียสในอีก 70 ปี (เป็นระดับที่พิจารณาว่าเป็นอันตรายต่อสหภาพยุโรป) : เป็นไปได้สูง <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 6
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2. การเสื่อมสภาพของเทโลเมียร์
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    เรนฮาร์ด สตินด์ล แพทย์จากมหาวิทยาลัยเวียนนา บอกว่าสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์มี "นาฬิกาแห่งวิวัฒนาการ" อยู่ในตัวเวลาของนาฬิกาชีวภาพนี้จะเดินผ่านจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นการเดินถอยหลังจนถึงเวลาที่นำไปสู่ยุคสูญพันธุ์อย่างเลี่ยงไม่ได้
    <O:p></O:p>
    "เทโลเมียร์สเป็นส่วนปลายที่ปิดโครโมโซมมีอยู่ในสัตว์ทุกตัว ถ้าไม่มีเทโลเมียร์สแล้ว โครโมโซมอาจไม่มั่นคง แต่ละครั้งที่เซลล์แบ่งตัวมันจะไม่ก๊อบเทโลเมียร์สอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และตลอดชั่วอายุของเราเทโลเมียร์สจะหดสั้นลง สั้นลง เนื่องจากเซลล์เพิ่มจำนวนตัวเอง ในที่สุดแล้ว เมื่อมันหดสั้นจู๋ เราก็เริ่มมีโรคที่เกี่ยวกับชราภาพมาคุกคาม อย่างเช่น มะเร็ง อัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบ
    <O:p></O:p>
    "อย่างไรก็ดี การหดสั้นของเทโลเมียร์สไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่จนตายเท่านั้น แต่ทฤษฎีของผมคือ ความยาวของเทโลเมียร์สที่ส่งผ่านจากคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งก็ยังมีขนาดหดสั้นลงด้วยเช่นกัน
    <O:p></O:p>
    สะท้อนถึงกระบวนการชราภาพของแต่ละคน และเมื่อเทโลเมียร์สถูกส่งผ่านมาเป็นพันรุ่นมันจะเริ่มกร่อนจนถึงระดับวิกฤติ เมื่อถึงวันนั้นเราจะพบว่าโรคที่เกี่ยวกับคนชราจะระบาดไปทั่วตั้งแต่อายุยังน้อย จนสุดท้ายจะทำให้เกิดภาวะประชากรขาดแคลน การกร่อนของเทโลเมียร์สอาจใช้อธิบายการสูญพันธุ์ของมนุษย์บางสายพันธุ์ได้ อาทิ นีแอนเดอร์ธัล โดยไม่ต้องเอาปัจจัยภายนอกอย่างการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมาพิจารณา"
    <O:p></O:p>
    โอกาสที่จะเกิดภาวะประชากรลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้น้อย
    <O:p></O:p>
    ระดับอันตราย : 8
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3. การระบาดของเชื้อไวรัส
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ศาสตราจารย์มาเรีย แซมบอน นักไวรัสวิทยาและหัวหน้าห้องปฏิบัติการเชื้อไข้หวัดใหญ่ของสำนักงานป้องกันสุขภาพแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ มองว่า "เมื่อปลายศตวรรษก่อน เกิดการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง 4 รอบ พร้อมกับการระบาดของเชื้อเอชไอวีและซาร์ส การระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกจะเกิดขึ้นทุกรอบร้อยปี และคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดอย่างน้อยอีกครั้งในอนาคต ณ ขณะนี้
    <O:p></O:p>
    เชื้อที่สร้างความหวาดวิตกมากที่สุดคือเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช 5 ที่ระบาดในไก่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าไวรัสตัวนี้เรียนรู้วิธีการส่งเชื้อจากคนสู่คนแล้ว การระบาดจะแพร่ลามไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปี ค.ศ. 1918 ได้คร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้ว 20 ล้านคน ภายในปีเดียว มากกว่าคนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งด้วยซ้ำไป หากเกิดการระบาดอีกครั้งตอนนี้ก็คงส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่า"
    <O:p></O:p>
    "ไวรัสไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่ว่าจะฆ่าทุกชีวิตที่มันเข้าไปอาศัยอยู่ ดังนั้น จึงไม่สามารถทำลายมนุษย์จนสูญพันธุ์ แต่มันจะส่งผลกระทบรุนแรงเป็นเวลาหลายปีทีเดียว เราไม่สามารถเตรียมตัวได้อย่างสมบูรณ์เพื่อรับมือกับผลที่เกิดจากน้ำมือธรรมชาติ โดยเนื้อแท้แล้ว ธรรมชาติเป็นผู้ก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพตัวจริง"
    <O:p></O:p>
    โอกาสที่จะเกิดการระบาดของไวรัสในอีก 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้สูง <O:p></O:p>
    ระดับอันตราย :3
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    4. การก่อการร้าย
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ศาสตราจารย์พอล วิลคินสัน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาประจำศูนย์ศึกษา
    การก่อการร้าย และความรุนแรงด้านการเมือง มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ สหราชอาณาจักร ให้ทัศนะว่า
    <O:p></O:p>
    "สังคมทุกวันนี้มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายมากยิ่งขึ้น เพราะกลุ่มที่อาฆาตมาดร้ายสามารถหาวัสดุที่จะนำมาใช้ก่อการได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีและความวชาญในการสร้างอาวุธทำลายสูง การก่อการร้ายที่ส่งผลให้เกิดการล้มตายเป็นจำนวนมากในปัจจุบันคืออาวุธชีวภาพ และอาวุธเคมี การปล่อยเชื้อบางอย่างเป็นจำนวนมากๆ อย่างเช่น แอนแทรกซ์ ไวรัสฝีดาษ อาจส่งผลกระทบอย่างมหาศาล และการติดต่อสื่อสารระหว่างพรมแดนในยุคใหม่จะทำให้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว
    <O:p></O:p>
    "ในสังคมเปิด ซึ่งเราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ เราไม่สามารถจะหยุดยั้งการจู่โจมได้เลย และมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเกิดการโจมตีขึ้นสักแห่งในโลกในชั่วอายุของเรานี้"
    <O:p></O:p>
    โอกาสที่จะเกิดการโจมตีด้วยการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในช่วง 70 ปีหน้า : เป็นไปได้สูงมาก <O:p></O:p>
    ระดับอันตราย : 2
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    5. สงครามนิวเคลียร์
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    พลอากาศเอกลอร์ด การ์เดน โฆษกกระทรวงกลาโหมประจำพรรคเสรีประชาธิปไตยแห่งสหราชอาณาจักร และผู้แต่งหนังสือเรื่อง Can Deterrence Last ?
    <O:p></O:p>
    "ในเชิงทฤษฎีแล้ว สงครามนิวเคลียร์อาจทำลายความรุ่งเรืองของมนุษย์ แต่ในทางปฏิบัติ ผมคิดว่าอันตรายดังกล่าวอาจผ่านพ้นไปแล้ว ปัจจุบัน มีจุดที่อาจก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์อยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ตะวันออกกลาง อินเดีย-ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ แน่นอนว่าเกาหลีเหนือเป็นจุดที่น่าวิตกมากที่สุด <O:p></O:p>
    เนื่องจากมีกองทัพรูปแบบเก่าพร้อมจะลั่นไกก่อสงครามได้โดยไม่ตั้งใจ แต่ผมอยากที่จะเชื่อว่ายังมีอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์อยู่ เนื่องจากเราได้พัฒนาระบบระหว่างประเทศที่ยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์
    <O:p></O:p>
    "ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ในระดับโลกนั้นต่ำมาก แม้ว่ายังมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีประเทศนอกคอก หรือพวกหัวรุนแรงอยู่ก็ตาม" <O:p></O:p>
    - โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้ต่ำ <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 8
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    6. อุกกาบาตชนโลก
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    โดนัลด์ เยาแมนส์ ผู้จัดการสำนักงานโครงการวัตถุใกล้โลกของนาซา จากห้องปฏิบัติการระบบขับเคลื่อนไอพ่นในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ มีความเห็นว่า "ความเสี่ยงที่เราจะตายจากอุกกาบาตพุ่งชนเปรียบคร่าวๆ เหมือนกับโอกาสที่เราจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก อุกกาบาตที่จะทำให้ความรุ่งเรืองของมนุษย์ต้องสูญสิ้นนั้นต้องเป็นอุกกาบาตที่มีขนาดกว้าง หรือยาวประมาณ <ST1:METRICCONVERTER w:st="on" productid="1.5 กม.">1.5 กม.</ST1:METRICCONVERTER> <O:p></O:p>
    เราคาดกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกล้านปีโดยเฉลี่ย อันตรายที่เกี่ยวข้องกับอุกกาบาตชนโลกนั้นรวมถึงปริมาณฝุ่นจำนวนมหาศาลที่ลอยขึ้นไปในอวกาศจนปิดกั้นไม่ให้แสงแดดส่องลงมาบนพื้นโลกนานหลายสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลต่อต้นไม้และพืชไร่ ที่ค้ำจุนสิ่งมีชีวิต
    <O:p></O:p>
    อาจจะเกิดไฟไหม้ทั่วโลกอันเป็นผลมาจากความร้อนพุ่งออกมาจากใต้พื้นโลก และยังเกิดฝนกรดที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก ผลกระทบดังที่เอ่ยมานี้แม้จะเกิดในช่วงระยะเวลาสั้น ดังนั้น สิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับตัวเองได้ดีที่สุดอย่างแมลงสาป และมนุษย์ เป็นต้น ยังมีชีวิตอยู่รอดได้"
    <O:p></O:p>
    - โอกาสที่โลกจะถูกอุกกาบาตพุ่งชนใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้ปานกลาง <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 5 <O:p></O:p>

    7. หุ่นยนต์ครองโลก
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ฮันส์ โมราเวก ศาสตราจารย์จากสถาบันหุ่นยนต์ มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ในเมืองพิตต์สเบิร์ก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ระบบการควบคุมด้วยหุ่นยนต์มีความสลับซับซ้อนในการประมวลผลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกปี หรือทุกสองปี แต่ความซับซ้อนของมันตอนนี้ยังอยู่ในระดับแค่สัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นต่ำ แต่ในอีก 50 ปีข้างหน้าความสามารถในการคิดซับซ้อนของหุ่นยนต์จะไล่ตามทันมนุษย์ ภายในปี ค.ศ. 2050 ผมทำนายว่า จะมีหุ่นยนต์ที่มีพลังสมองทัดเทียมมนุษย์ โดยจะสามารถคิดในเชิงนามธรรม และแสดงความเห็นได้
    <O:p></O:p>
    "เครื่องจักรที่มีสติปัญญาเหล่านี้เราจะเป็นคนเลี้ยงดู และมันจะเรียนรู้ทักษะของเรา รับรู้เป้าหมายและคุณค่าของเรา และเราอาจรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ หุ่นยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ดูแลเราในบ้านเท่านั้น
    <O:p></O:p>
    แต่ยังสามารถทำงานที่ซับซ้อนที่ปัจจุบันจำเป็นต้องอาศัยความสามารถของมนุษย์ เช่น การวินิจฉัยโรค และการให้คำแนะนำในการรักษา หรือบำบัด หุ่นยนต์จะเป็นทายาทสืบทอดของมนุษย์ และจะเสนอโอกาสที่ดีที่สุดให้เรากลายเป็นอมตะได้โดยการถ่ายโอนข้อมูลของตัวเราเองไปใส่ไว้ในหุ่นยนต์ที่มีความสามารถล้ำหน้า"
    <O:p></O:p>
    - โอกาสที่จะมีหุ่นยนต์ที่มีความสามารถทางปัญญาเป็นเลิศใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้สูง <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 8
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    8. แรงระเบิดจากรังสีคอสมิกจากการระเบิดของดาว
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    เนียร์ ชาวีฟ อาจารย์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยฮิบรู ในเยรูซาเล็ม อิสราเอล กล่าวว่า ทุกสองสามทศวรรษ ดาวขนาดใหญ่ที่อยู่ในจักรวาลทางช้างเผือกจะหมดพลังงานและเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งเรียกว่า ซูเปอรโนวา รังสีคอสมิก (อนุภาคพลังงานระดับสูงอย่าง รังสีแกมมา) จะแผ่รังสีออกไปทุกทิศทาง
    <O:p></O:p>
    และถ้าโลกอยู่ในวิถีของรังสี จะทำให้เกิดยุคน้ำแข็งขึ้น ถ้าโลกมีอากาศที่หนาวเย็นอยู่แล้ว รังสีคอสมิกจากการระเบิดของดาวอาจทำให้โลกกลายเป็นไอติม และอาจทำให้สัตว์สายพันธุ์ต่างๆ สูญพันธุ์ โลกมีความเสี่ยงสูงเมื่อโคจรผ่านเกลียวของดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดซูเปอร์โนวามากที่สุด การระเบิดซูเปอร์โนวาจะเกิดขึ้นทุก 150 ล้านปี
    <O:p></O:p>
    ดัชนีบ่งชี้สภาพอากาศยุคบรรพกาลแสดงให้เห็นว่าโลกเคยผ่านยุคน้ำแข็งมาแล้ว โดยพบน้ำแข็งจำนวนมากที่ขั้วโลก และน้ำแข็งหลายชิ้นมีอายุอยู่ในช่วงดังกล่าว
    <O:p></O:p>
    "เราใกล้จะโคจรออกจากเกลียวแขนซากิตทาริอุส-คารินาของดาราจักรทางช้างเผือก และโลกควรมีสภาพอากาศร้อนขึ้นในสองสามล้านปี แต่ในอีก 60 ล้านปี เราจะเขาไปสู่เกลียวแขนเพอร์ซีอุส ยุคน้ำแข็งก็จะกลับมาอีกครั้ง" <O:p></O:p>
    - โอกาสที่โลกจะเผชิญกับซูเปอร์โนวาใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้น้อย <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 4
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    9. ภูเขาไฟระเบิด
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ศาสตราจารย์ บิล แมคกุยรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติเบนฟิลด์จากมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอน และยังเป็นสมาชิกคณะทำงานศึกษาภัยธรรมชาติของโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ พูดถึงเรื่องนี้ว่า "โดยเฉลี่ยแล้วทุก 50,000 ปี โลกจะเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง
    <O:p></O:p>
    ซึ่งจะส่งเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ถูกพ่นออกมาจะปกคลุมพื้นที่ราว 1,000 ตารางกิโลเมตร ทวีปที่อยู่ใกล้เคียง จะเต็มไปด้วยเถ้าถ่าน และก๊าซซัลเฟอร์จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นม่านกรดซัลฟูริกคลุมรอบโลก ทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องลงมายังพื้นโลกได้ กลางวันจะดูไม่ต่างไปจากกลางคืนวันเพ็ญ <O:p></O:p>
    "ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ ขึ้นอยู่ว่าเกิดขึ้นที่ไหน และก๊าซลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศนานแค่ไหน เมื่อประมาณ 26,500 ปีมาแล้ว ภูเขาไฟเตาโปของนิวซีแลนด์เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
    <O:p></O:p>
    ทว่าความเสียหายครั้งสำคัญจากภูเขาไฟระเบิดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ คือภูเขาไฟ โทบา บนเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เมื่อ 74,000 ปีก่อน เนื่องจากเกิดระเบิดใกล้กับเส้นศูนย์สูตรทำให้ก๊าซกระจายไปยังซีกโลกเหนือและใต้อย่างรวดเร็ว เมื่อศึกษาแกนน้ำแข็งทำให้รู้ว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว 5-6 ปีหลังจากนั้น โดยพื้นที่แถบเส้นทรอปิคมีสภาพเย็นเป็นน้ำแข็ง
    <O:p></O:p>
    "โอกาสที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่เป็นไปได้มากกว่าอุกกาบาตขนาดใหญ่ชนโลก 12 เท่า แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในชั่วอายุคนปัจจุบันนี้มีเพียง 0.15% ส่วนสถานที่ที่ควรจับตาดูคือ บริเวณที่เคยเกิดระเบิดในอดีต เช่น เยลโล่สโตน ในสหรัฐ และโทบา แต่พื้นที่บริเวณอื่นในโลกที่น่ากังวลมากกว่าคือ อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดรุนแรงในพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างเช่นบริเวณป่าฝนอะเมซอน"
    <O:p></O:p>
    - ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดรุนแรงใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้สูงมาก <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 7
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    10. โลกจะถูกหลุมดำดูด
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ริชาร์ด วิลสัน ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์จากศูนย์วิจัยมัลลินก์ครอดต์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า ประมาณ 7 ปีก่อน ห้องปฏิบัติการแห่งชาติบรูคเฮฟเวนในนิวยอร์กได้สร้างเครื่องชนไอออนหนักที่เรียกว่า Relativistic Heavy Ion Collider ขึ้นมาเนื่องจากมีความกังวลว่า สสารที่มีความหนาแน่นอาจก่อรูปขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในสมัยนั้นจัดว่าเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างขึ้นมา
    <O:p></O:p>
    เพื่อให้ไอออนทองคำชนกันด้วยแรงมหาศาล ซึ่งอาจทำให้เกิดความหนาแน่นพอที่จะทำให้เกิดหลุมดำขึ้นมาได้จากพลังที่ดูดสสารข้างนอก ห้องแล็บบรูคทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่า เครื่องเร่งปฏิกิริยาตัวใหม่นี้จะทำให้เกิดหลุมดำขึ้นและทำให้โลกอวสานได้หรือไม่
    <O:p></O:p>
    "เมื่อดูจากข้อมูลที่เราได้ศึกษาจากหลุมดำที่อยู่นอกอวกาศ เราได้ทำการคำนวณเพื่อศึกษาว่าเครื่องเร่งอนุภาคของบรูคเฮฟเวนจะสามารถทำให้เกิดหลุมดำได้หรือไม่ ซึ่งเราค่อนข้างแน่ใจว่า การทดลองในห้องแล็บจะไม่ทำให้เกิดหลุมดำ และโลกจะไม่ถูกกลืนหายไปจากการชนของอนุภาคเหล่านี้ <O:p></O:p>
    - โอกาสที่โลกจะถูกหลุมดำกลืนใน 70 ปีข้างหน้า : เป็นไปได้น้อยอย่างยิ่ง <O:p></O:p>
    - ระดับอันตราย : 10


    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    www.artsmen.net




    บทความแนะนำโดยคุณคณานันท์


    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3468313", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ


    การอ่านกระทู้"ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่"

    ให้ได้กุศล

    ยามเป็นข่าวที่เกิดภัยพิบัติตามสถานที่ต่างๆนั้น เราก็เจริญเมตตา แผ่เมตตาจิตให้กับผู้ประสพทุกข์ประสพภัยเหล่านั้น

    แผ่บุญแผ่เมตตาปรับภพภูมิให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ด้วยจิตเมตตา

    เจริญวิปัสนาญาณให้จิตเราเห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ของบ้านเมือง ที่แปรปรวน มีความเสื่อมความแตกดับไปในที่สุด

    น้อมนำเข้ามาสู่หัวใจของเรา เพื่อความไม่ประมาทในชีวิตเป็นมรณานุสติ จิตปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย ทรัพย์สินทั้งหลาย

    อันเป็นการเจริญปัญญาทางธรรมให้จิตรอดพ้นจากภัยแห่งสัสารวัฏฏ์นี้ไปได้

    ในขณะเดียวกันในมิติทางโลก เราก็ใช้ปัญญาพิจารณาต่อไปว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเรา ครอบครัวเรา บ้านเมืองเรา เราจะมีวิธีป้องกัน หลบหลีก แก้ไขสถานการณ์อย่างไร

    อันเป็นปัญญาทางโลกที่พาให้เราและครอบครัวรอดพ้นจากภัยพิบัติไปได้เช่นกัน

    พึงเจริญมุทิตาจิต กดอนุโมทนาบุญให้กับผู้โพสต์ที่ท่านเสียสละเวลานำข่าวสารมาแจ้งให้พวกเราได้ทราบด้วยเมตตาและปรารถนาดีไม่อยากให้เราประมาท อยากให้ทุกๆคนรอดจากภัยพิบัติกัน

    โมทนากับเมตตาและเจตนาดีของผู้โพสต์ไม่ใช่กดโมทนากับข่าวหายนะอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดกัน

    และหากมีปรากฏความไม่เข้าใจ หรือกระแสจิตอันไม่เกิดกุศล

    ก็ยิ่งทำให้เราฝึกจิตให้เป็นอุเบกขารมณ์ พร้อมกับการเจริญเมตตาจิตอันเป็นปรมัตถ์บารมี นั่นคือ

    "การให้อภัย" ด้วยจิตอันกรุณาสงสารจากหัวใจเราอย่างแท้จริง

    เมื่อวางจิตถูก การเสพข่าวสารอันแม้เป็นข่าวร้าย ข่าวลบก็ไม่อาจทำให้จิตเราเศร้าหมอง

    กลับกลายเป็นการฝึกจิต ฝึกใจ ฝึกสติปัญญา ไปพร้อมๆกัน


    เวลามีน้อยทำทุกสิ่งให้เป็นกุศลครับ<!-- google_ad_section_end -->
    __________________

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2010
  2. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ขอบคุณข้อมูลดีๆอีกเช่นเคยครับ
     
  3. ิbilliboy

    ิbilliboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +273
    ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
     
  4. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    10 หายนะของโลกอีก 70 ปีข้างหน้า ตามแนวคิดนักวิทยาศาสตร์<!-- google_ad_section_end -->


    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    วันสิ้นโลก

    1. การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
    ก็มีผลไปตามเหตุที่สร้างกันไว้ไง... ยุติธรรมดีแล้ว

    2. การเสื่อมสภาพของเทโลเมียร์
    เรื่องนี้ make sense เกินไป...

    3. การระบาดของเชื้อไวรัส
    ก็ร้อนขึ้นซะขนาดนี้นี่จ๊ะ... ไอ้ที่แข็งมานาน พอละลาย มันก็ออกมาอาละวาด
    พวกที่พลิ้วอยู่เป็นปกติ มันก็พัฒนาศักยภาพตัวเองขึ้นมาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ไวรัสของมัน ก็เหมือนๆสิ่งมีชีวิตทั่วไปแหละ พอมันเก่งขึ้น มนุษย์ก็พัฒนาตามด้วยเหมือนกัน การกระทำที่ขัดขวางกระบวนการพัฒนาภูมิคุ้มกันไวรัสในมนุษย์ก็คือการกินยาที่เป็นเคมี สารสังเคราะห์ และการกินยามากจนเกินไป เพราะทำให้กระบวนการเรียนรู้ของร่างกายเพื่อปรับสภาวะในการอยู่รอดนั้นตกงาน
    ทนได้ก็ทน กินยาแต่น้อย หรือไม่กินเลยได้ยิ่งดี... ดีที่สุดคือการป้องกัน
    จิตใจเบิกบาน บริหารการใช้งานของร่างกายให้สมดุลย์ ทั้งทางโภชนาการและการใช้งาน... เป็นยาที่ดีที่สุด

    4. การก่อการร้าย
    สังคมโลกที่ใจแคบ เบียดเบียนกัน มันก็ต้องเป็นแบบนี้อ่ะ

    5. สงครามนิวเคลียร์
    ปัจจุบันนี้... เรื่องนี้ออกจะล้าสมัยไปแล้ว
    ทั่วโลกรู้พิษภัยของมันดี
    คนที่อยากใช้จริงๆก็ลงจากตำแหน่งไปแล้ว... ขนาดอยากใช้ แถมบ้าพลัง มันยังไม่กล้าใช้เลย
    เชยแล้วล่ะ แค่กั๊กเอาไว้วางท่าไปยังงั้นแหละ

    6. อุกกาบาตชนโลก
    แค่หินก้อนใหญ่น่ะ... ชิวๆ

    7. หุ่นยนต์ครองโลก
    ไม่มีพลังงานจิตสิงสู่ควบคุม... ก็เป็นแค่เพียงวัตถุธาตุ
    หมดสิทธิ์ เสียใจด้วยนะเผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ พวกท่านไม่ได้สิทธิ์ดังกล่าว


    8. แรงระเบิดจากรังสีคอสมิกจากการระเบิดของดาว
    ไกลเกินกังวล

    9. ภูเขาไฟระเบิด
    จำเป็นต้องเกิดต้องเป็น... เป็นขั้นตอนสำคัญในการ Improve ดาวโลก

    10. โลกจะถูกหลุมดำดูด
    หลุมดำก็มีเป้าหมายของการเป็นไปและเดินทางโคจรอย่างมีกลไกของหลุมดำ
    ไม่ได้สะเปะสะปะไปเรื่อย
    ถ้าจะมั่วมาโดนดาวโลกน่ะ... โดนไปนานแล้ว
    ขำว่ะ... นักวิทยาศาสตร์กลัวโลกถูกหลุมดำดูด





    โลกยังไม่แตกในเร็ววันนี้หรอกน่า... แต่ปรับตัวเองอยู่ กระบวนการก็คงจะทำให้ความเป็นอยู่อันแสนสบายของมนุษย์ยุคอิเล็คโทรนิคส์ถูกรบกวนทำลายไปบ้าง
    เดี๋ยวก็ชิน มันไม่ปุบปับจนเกินไป ค่อยๆปรับทั้งโลกทั้งสิ่งมีชีวิต
    ปรับรุนแรงก็ตายหมดอ่ะดิ... เลยต้องปรับแบบผ่อนส่ง ยังปราณีกันอยู่บ้าง
    ใครทนไม่ไหวก็ต้องไปก่อน ใครเจอส่วนที่ปรับเข้มข้นก็เสียสละกันนิดนึง เพื่ออนาคตที่สดใสกว่า

    สบายกันมาพอสมควรแระ สบายกันแบบล้างผลาญ ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะสบายแล้วเบียดเบียนกัน มันก็ต้องเรียนรู้แบบนี้แหละ... พอเห็นว่าจะลำบากเข้าหน่อยล่ะก็ ทำตื่นเต้นกังวล แล้วตอนล้างผลาญพลังงานฟอสซิลกัน ไม่เห็นกังวลกันสักเท่าไหร่เลย จะประหยัดไฟก็เพราะจะประหยัดเงินในกระเป๋าตนเอง
    ต่อไปนี้ต้องเปิดมิติความประหยัดให้จริงใจกันหน่อย
    มิติใหม่
    ประหยัดไฟ... เพราะต้องการรักษาทะนุถนอมโลกนี้ให้สมดุลย์อยู่นานๆ
    ประหยัดไฟ... เพราะต้องการเก็บรักษาโลกให้ลุกหลานตนเองที่สืบพันธุ์เอาไว้ได้อยู่ได้ใช้

    รักลูกหลานจริงๆ... ก็ต้องเก็บโลกที่สภาพดีๆเอาไว้ให้พวกเขา ไม่ใช่เก็บเงิน
    มีเงินแต่ไม่มีปัจจัยสี่ให้ซื้อ หรือมีสิ่งที่ต้องการแต่กระดาษที่ถืออยู่มันใช้ไม่ได้...
    ก็คงต้องกินเงินเป็นอาหาร
    ใช้เงินทำฝาบ้าน มุงหลังคา
    ใช้เงินรักษาโรค เอามาละลายน้ำแล้วสมานแผล
    ใช้เงินมาทำเสื้อผ้า เออ... อันนี้ท่าจะดูหรูหราดี

    รักลูกหลานกันจริงจังหน่อยนะครับท่านมนุษย์ยุคอิเล็คทรอนิคส์ทั้งหลาย... กิ๊วๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2010
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    อย่าให้ความกลัวมีอำนาจเหนือกว่า กฎแห่งกรรม

    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เเน่นอน
     
  6. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขาดข้อ 11 ครับ

    11. มนุษย์ต่างดาวยึดครองโลก หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2010
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ภัยทางธรรมชาตินั้นมีแน่นอน
    แต่คงไม่ถึงวันสิ้นโลกหรอกนะคะ
    พระพุทธศาสนายังอีกยืนยาว
     
  8. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ
     
  9. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    มันก็เป็นไปตามกฏของธรรมชาติ..กฏของไตรลักษณ์อีกนั้นแหละ..ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร
    ความตายก็ธรรมชาติ...แต่การใช้ชีวิตให้รู้ลึกซึ้งแล้วมีความหมายสำคัญกว่าในวัน...สำคัญกว่าจะไปคิดเรื่องพรุ่งนี้
     
  10. oplenine

    oplenine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +44
    ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้นได้....

    ตามหลักที่..ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป เป็นธรรมดา....
     
  11. zodiacs

    zodiacs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +107
    สุดท้ายก็ไม่พ้นความตายกันทุกคน ทำดีวันละนิด จิตแจ่มใส
     
  12. ตั้มศรีวิชัย

    ตั้มศรีวิชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +1,847
    ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
     
  13. yommatood

    yommatood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +1,298
    สรรพสิ่งล้วนอนิจจัง
     
  14. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,941
    ทุกอย่างเป็นธรรมดาและธรรมชาติ
     
  15. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    วันนี้มาแนะนำวิธีทำบุญ กันนะคะ..........
    คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานมาแล้ว ทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญ มันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธี ชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญใน สรวงสวรรค์ แล้วพากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสอนสั่งกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอน กรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็เลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้ เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่ เทวดาที่ดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศบุญ ก็ไม่เฉพาะเจาะจงอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยมีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็น เทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย
    บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของแก่ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะ เกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไป เบื้องบนแล้วสะสม เป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้น จึง
    ****ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร /ถวายของให้สงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญ ในทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนพระสวด ยถาสัพพี**** เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯ อย่างที่เคย ปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจาง หายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของ เทวดา ภูต-ผี-ปิศาจ-ครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน


    บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานก่อน เช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย
    (เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่ม ภาวนาได้เลย หลังลากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรง ยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักจะรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะเตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบ เหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงแต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิต ของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับ บุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง นั่นเอง
    บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลที่ตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า
    บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษา ศีลนี้ จึงถึงแก่....................”

    หรือในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การช่วยเหลือคน การได้ทำ ประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที ฯลฯ
    เอาเป็นว่าแค่นี้เเล้วกันนะคะเพราะยาวมาก เพราะอันนี้เคยใส่ลิ้งลงไปให้คลิ๊กแล้ว แต่เข้าดูไม่ได้ ก็เลยต้องเผยแพร่เช่นนี้ ขอให้รวยๆกันทุกคนนะคะ ความครัวมีแต่ความสุขความเจริญ.......[​IMG]
     
  16. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ธรรมชาติให้เรา 2 ด้านเสมอ เมื่อมีได้ย่อมสลายได้ เมื่อสลายได้ย่อมเกิดได้ เมื่อมีทุกข์ได้ ย่อมหมดทุกข์ พระพุทธองค์ทรงสอนเราถึงทางพ้นทุกข์ไว้แล้ว เราจะเดินตามที่ท่านสอนไปสู่ความว่างในโลกแห่งจิต หรือจะอยู่เป็นทุกข์ในโลกแห่งวิทย์ ย่อมเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง
     
  17. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    ลืมกิเลสไปอีกอย่างหนึ่ง
     
  18. pasawan

    pasawan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +20
    10 หายนะของโลกอีก 70 ปีข้างหน้า ตามแนวคิดนักวิทยาศาสตร์ ตอบกระทู้

    อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ ........พร้อมแล้วทุกสิ่งอย่าง ครับ .............
    สาธุ .................................
     
  19. apple_lin

    apple_lin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +704
  20. ฤาษีตาไฟ

    ฤาษีตาไฟ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    ข้อ2 ผมว่ามันบังเอิญ ตรงกับ ลำดับการเสื่อมของศีลธรรมเเละอายุเฉลี่ย ของมนุษย ในทางพุทธศาสนานะครับ ที่ทุกๆ100ปี อายุคนจะลดลง1ปี เเต่ไม่ได้สูญพันธ์เเบบที่เค้าคิดอะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...