10 ข้อแนะนำป้องกันมะเร็ง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 16 เมษายน 2010.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    คำแนะนำเบื้องต้นในการป้องกัน มะเร็ง โดย Doctor San<table class="bordercolor" width="90%" align="center" bgcolor="#000000" cellspacing="1"><tbody><tr><td><table class="messagebox" style="background-color: rgb(239, 255, 234);" width="100%" bgcolor="#efffea" cellpadding="2" cellspacing="0"><tbody><tr><td>10 ข้อแนะนำป้องกันมะเร็ง
    คนส่วนใหญ่คิดว่าเรา ไม่มีทางป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มะเร็งที่เป็นสาเหตุของการตายสามารถควบคุมปัจจัยก่อโรคได้ 35 % ของคนที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งมีภาวะโภชนาการที่ไม่ดีพอ อีก 30% มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ต่อไปนี้เรามีแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งมาเพื่อคุณ

    1.หาก คุณได้รับการตรวจร่างกาย จะด้วยตรวจประจำปี หรือเมื่อมีอาการไม่สบายใดๆ คุณอย่าลืมที่จะบอกให้หมอทราบถึงประวัติการเป็นมะเร็งในครอบครัวของคุณ (ถ้ามี) เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้หมอวินิจฉัย และเกาะติดกับอาการที่อาจบ่งชี้โรคได้ดีขึ้น และเท่าทันหากว่าคุณมีโอกาสเสี่ยง

    2. หากว่าคุณเคยเป็นมะเร็ง ไม่ว่าที่ใดมาก่อน คุณก็มีโอกาสเป็นมะเร็งขึ้นมาได้อีกมากกว่าคนปกติ ดังนั้นต้องระวังเรื่องสุขภาพให้มาก โดยเฉพาะวิถีการใช้ชีวิต อาหารการกิน รวมถึงจิตใจให้ผ่องใสสม่ำเสมอ

    3. ปรับปรุงเรื่องอาหารการกิน ซึ่งคุณต้องเข้าใจก่อนว่าไม่มีอาหารชนิดใดเพียงชนิดเดียวที่สามารถป้องกัน มะเร็งได้ แต่การกินอาหารไขมันต่ำ อาหารเส้นใยสูงอย่างผลไม้ ผักหลายๆ ชนิด ก็สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะที่มีวิตามินเอ ซี อี และเบต้าแคโรทีนสูง อย่าลืมลดการกินอาหารย่างเกรียม เกลืออาหารรมควัน และอาหารหมักดองลงด้วย

    4. ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นโทษโดยตรงที่ทำให้เกิดมะเร็งในช่องปาก มะเร็งกล่องเสียงคอหอย หลอดอาหาร ตับ ลำไส้ และเต้านม ดังนั้นเพื่อจำกัดความเสี่ยงคุณควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์ หรือจะลองเริ่มต้นลดปริมาณดูก็ไม่ควรดื่มเกิน 4 แก้วต่อสัปดาห์

    5.ลด น้ำหนักลง เพราะความอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก

    6. หยุดสูบบุหรี่ เพราะยาสูบเป็นเหตุแห่งมะเร็งปอด และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ไต ตับอ่อน

    7. ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ ร่างกายกระฉับกระเฉงอยู่เสมอ จะทำให้ความเสี่ยงต่อมะเร็งลดน้อยลง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าออกกำลังกายให้ได้ 5 วัน ต่อสัปดาห์จะดีเยี่ยม

    8. ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยเฉพาะใช้ครีมกันแดด SPF 35 ขึ้นไป และควรเลี่ยงแสงแดดช่วงเวลาสิบโมงเช้าถึงบ่ายสามโมงเย็น

    9. หลีกเลี่ยงจากสิ่งแวดล้อมที่ก่อมลพิษ ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น ใยหิน (Asbestos) และ Carcinogen ที่ใช้กันในงานก่อสร้างอาคารบ้านเรือน สารเคมีที่ใช้ในบ้าน เช่น ยาฆ่าแมลง ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันรถยนต์ต่างๆ เป็นต้น

    10. คอยหมั่นสังเกต และตรวจความผิดปกติของร่างกายตัวเองเป็นประจำ และตรวจสุขภาพประจำทุกปี

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  2. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    อาหารผิดธรรมชาติเพียงวันละ ๑ คำ ก็เพียงพอ ที่จะก่อให้เกิดโรคได้อย่างเรื้อรัง


    อาหารผิดธรรมชาติเพียงวันละ ๑ คำ ก็เพียงพอ ที่จะก่อให้เกิดโรคได้อย่างเรื้อรัง
    ปัจจุบันมีคนจำนวนมาก ที่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก โดยคาดไม่ถึง หรือไม่รู้มาก่อนว่า ในเนื้อสัตว์นั้นเป็นแหล่งสะสมสารพิษมากมาย โรคต่างๆ ที่คนทุกวันนี้เป็นกัน ล้วนมีต้นเหตุมาจาก อาหารเป็นพิษ “การกินเนื้อสัตว์จึงเท่ากับเป็นการกินเชื้อโรคเข้าไปโดยตรงนั่นเอง โอกาสที่จะป่วย ก็ย่อมมีอยู่ทุกลมหายใจ”
    พิษจากสารเคมีปนเปื้อนตกค้าง เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ สารฮอร์โมน เร่งการเจริญเติบโต ฮอร์โมนเร่งให้มีไขมันมาก ยาฆ่าแมลง ฟอร์มาลิน
    สารชีวภาพในเนื้อสัตว์ ได้แก่ โคเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัว กรดยูริค พยาธิต่างๆ เป็นต้น
    สารพิษเหล่านี้จึงนำความหายนะมาสู่ผู้บริโภค ทำให้ป่วยเป็นโรคเรื้อรังและหายยาก ได้แก่ โรคหัวใจ, มะเร็ง, ความดันโลหิตสูง, ไขข้ออักเสบ, โรคเบาหวาน, ตับแข็ง ตับอักเสบ, นิ่วในไต, นิ่วในถุงน้ำดี, ฝีพุพอง, มะเร็งลำไส้, กระดูกพรุน, เหนื่อยง่าย, โรควัวบ้า, สมองเสื่อม, หลอดเลือดสมองตีบ, อัมพาต, อวัยวะภายในอักเสบ, ริดสีดวงทวาร ฯลฯ แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว
    นอกจากนี้ ยังแก่เร็วและอายุสั้นอีกด้วย…
    ทันทีที่คุณบริโภคเนื้อสัตว์ ก็เหมือนเปิดไฟเขียว ให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญ เข้ามาก่อร่างสร้างที่ อยู่ในตัวคุณ หนึ่งในนั้นคือ… โคเลสเตอรอล ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจอันดับหนึ่ง พบมากในส่วนต่างๆ ของสัตว์ โดยเฉพาะสมอง เลือด ไขมัน และเครื่องในสัตว์
    การเสนอแต่ด้านดีของแหล่งโปรตีน จากเนื้อสัตว์ ทำให้คนจำนวนมากหลงใหลได้ปลื้ม กับการกินเนื้อสัตว์อย่างไม่บันยะบันยัง เนื้อสัตว์จะมีไขมันแทรกอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ากินมาก แต่ใช้ไม่หมด ร่างกายก็แปลงเป็นไขมันอยู่นั่นเอง ทำให้เกิดโรคอ้วน ความดันเลือดสูง โรคหัวใจ คนที่เป็นมากๆ ก็อาจมีไขมันอุดตันเส้นเลือดสมอง เกิดโรคอัมพาตได้
    สัตว์เหล่านี้เป็นพาหะในการแพร่เชื้อเป็นอย่างดี เนื้อสัตว์ที่วางขายตามท้องตลอด สังเกตดูยังไงๆ ก็ดูไม่ออก ว่ามีเชื้อโรคปะปนอยู่ ผู้บริโภคเนื้อสัตว์จึงกลายเป็นเหยื่อ ของเชื้อโรคเหล่านี้
    มะเร็งเป็นโรคที่รักษายาก และคนไทยก็ป่วยเป็นมะเร็งกันมาก จนกลายเป็นแฟชั่นฮิตติดอันดับ ๒ รองจากโรคหัวใจ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสัตว์ได้ติดเชื้อมะเร็งมา ก่อนที่จะถูกฆ่า แต่พ่อค้าหัวใส ตัดเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้องอก หรือส่วนที่เป็นมะเร็งทิ้ง ที่เหลือก็มาวางขายแหกตาผู้บริโภค

    รองศาสตราจารย์ ดร.ไมตรี สุทธจิตต์
    คนไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ด้านบริโภค จากการที่เคยปรุงอาหารเอง และกินอาหารธรรมชาติในท้องถิ่น ตามฤดูกาล ก็จำเป็นต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปมากขึ้น และต้องกินอาหารส่วนใหญ่ ซึ่งผลิตโดย
    อุตสาหกรรม กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ไขมัน และแป้งมากขึ้น แต่ขาดวิตามิน เกลือแร่ที่จำเป็น และกากใยอาหาร
    การเปลี่ยนแปลง ทำให้ประชาชนมีสถิติ อัตราการตายเนื่องจากโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันเกินในเส้นเลือด โรคอ้วน ฯลฯ รวมไปถึงโรคจิตมากขึ้น อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีแนวโน้มว่า จะเพิ่มมากขึ้น จำนวนโรงพยาบาลที่รักษาโรคมะเร็ง ตึกศัลยกรรมโรคหัวใจ และคลินิกรักษาโรคเฉพาะดังกล่าว ก็เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถหยุดโรคเหล่านี้ ได้ เพราะเนื่องจาก เราใส่ปุ๋ยเติมให้กับเชื้อโรคเหล่านี้ทุกวัน นั่นเอง


    มีการใช้สารเคมีร้อยแปดชนิด ทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จากสถิติพบว่า มีการใช้สารเคมีมากที่สุด ในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง มากกว่าในอุตสาหกรรมประเภทอื่น
    เนื่องจาก การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาเคมี และอาหารชนิดพิเศษ อกไก่จะโตผิดปกติ ก้นของเป็ด จะล้นพูนออกมา หมูมีแผ่นหลังที่ยาวผิดธรรมชาติ ในขณะที่วัวมีเต้านมขนาดใหญ่ นักบริโภคเนื้อ สัตว์ทั้งหลาย ท่านเคยคิดบ้างหรือเปล่า ว่าอาการแปลกประหลาดชนิดที่ว่านี้ มันมาจากไหน?
    เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่ และอาหารทะเล เหล่านี้ ก่อนจะมาถึงผู้บริโภค ล้วนปนเปื้อนสารเคมี และฮอร์โมน เมื่อเรารับประทานเข้าไป ก็เท่ากับกินสารพิษเข้าไปโดยตรง ไม่ต่างอะไร กับการฆ่าตัวตายทางอ้อมนั่นเอง
    กองควบคุมโรคติดต่อ ในประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ชาวอเมริกันกว่า ๕๐ ล้านคน กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเคมีปนเปื้อน และยาปฏิชีวนะ ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ และอ่อนแอ
    การนำฮอร์โมน “2B” มาใช้กับสัตว์ เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อเป็นวิธีที่ผิด ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ จะลักลอบทำกันอย่างลับๆ หากผู้บริโภคได้รับฮอร์โมนชนิดนี้เพียงเล็กน้อย จะทำให้พลังหยางใน ร่างกายอ่อนแอลง สตรีไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หากเด็กได้รับสารพิษจากสารนี้ จะทำให้เต้านมโตผิดปกติ
    อาจารย์กนกวรรณ อุโฆษกิจ
     
  3. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    เนื้อสัตวบริโภค เพิ่มความเสี่ยง

    จากผลการสำรวจของสมาคมผู้บริโภค ใน ๑๕ ประเทศได้เปิดเผยว่า… พบยาปฏิชีวนะในเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ จึงเกิดความวิตกกันทั่วไปว่า การให้ยาปฏิชีวนะแก่สัตว์เลี้ยงพร่ำเพรื่อ และมากเกิน ไป อาจก่อให้เกิดภาวะที่คนกินเนื้อสัตว์นั้น จะเกิดการดื้อยา เมื่อเกิดการติดเชื้ออะไรที่ธรรมดา ก็อาจรักษายาก

    สัตว์เหล่านี้ ล้วนกินอาหารที่สกปรก กินสิ่งของที่เหลือทิ้ง เศษขยะที่บูดเน่าในกองขยะ หรือสิ่งสกปรก โสโครก เมื่อเรากินเนื้อสัตว์ ก็เท่ากับว่า เราได้กินสิ่งเหล่านี้เข้าไปด้วยเช่นกัน
    มีคนมากมายที่ชอบรับประทานเครื่องในหมู ไม่ว่าจะเป็นตับหมู หัวใจหมู มันสมอง ลำไส้ ไต ท่านรู้ไหมว่า หมูเหล่านี้กินเศษอาหารที่คนเหลือทิ้งแล้ว น้ำสกปรก น้ำปัสสาวะ และอุจจาระของ มันเอง อาหารที่คนไข้อาเจียน ฯลฯ
    ยังมีคนที่ชอบกินเนื้อสุนัข ก็รู้กันอยู่ว่ามันเติบโตด้วยเศษอาหาร บ้างก็กินอุจจาระ บ้างก็กินซากสัตว์ ที่ตายแล้ว บ้างก็ขุดคุ้ยหลุมฝังศพ กินซากศพจนอ้วนท้วน คนที่กินเนื้อสุนัข ก็ได้รับเชื้อโรค ที่สุนัขกินเข้าไป ด้วย
    สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อเป็ด ไก่ ขอกระซิบเบาๆ ให้รู้ว่า… สัตว์เหล่านี้เลี้ยงตัวเองด้วยการกิน ไส้เดือน ผักเน่า แมลงสาบ มด หนอน ซากหนูที่ตายแล้ว และของเสียจนเติบโต ฉะนั้น เชื้อโรคมากมาย ในสัตว์เหล่านี้ที่มันกินเข้าไป ก็จะแพร่ระบาดมายังผู้บริโภคโดยตรง
    แม้แต่ปลา ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่า เป็นอาหารสุขภาพที่ปลอดภัยชนิดหนึ่ง ก็ยังมีอันตรายซ่อนอยู่คือ มีโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง และสารพิษอื่นอย่างเข้มข้น ซึ่งยืนยันจากการสำรวจอย่างสม่ำเสมอ
    คนเราทุกวันนี้ มีชีวิตอยู่ท่ามกลาง สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ กินอาหารที่มีพิษจากเลือดเนื้อสัตว์ และอาหารดัดแปลงต่างๆ ที่มีพิษ ร่างกายสะสมพิษเข้าไว้ จนในที่สุดก็เจ็บป่วย ทุกคนต่างทราบดีว่า อาหารที่ซื้อกินกันอยู่ทุกวันนี้มีพิษ แต่ทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาบริโภคพิษกัน อย่างไม่สะทกสะท้าน
    ปกติสัตว์เหล่านี้จะขับถ่ายของเสีย ในร่างกายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในกระบวนการฆ่า มันจะเกิดความกลัวสุดขีด และพยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ฮอร์โมนที่เป็นพิษจำนวนมาก จะถูกขับออกมา โดยเฉพาะสาร “อะดรีนาลิน” พิษของฮอร์โมนนี้ จะเข้าสู่กระแสเลือดและเนื้อทุกส่วน แม้ว่าสัตว์เหล่านั้นจะตายไปแล้ว แต่พิษนั้นก็ยังคงอยู่
    ศาสตราจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
     
  4. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    เมื่อมนุษย์มีความโกรธ หรือมีอารมณ์เครียด จะผลิตฮอร์โมน อะดรีนาลิน (Adrenalin) ซึ่งจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำให้ร่างกายเผชิญต่อโอกาส ที่จะเป็นโรคต่างๆ รวมทั้งมะเร็ง แต่ในขณะที่ร่างกายอยู่ในภาวะสงบ สันติ ร่างกายจะผลิตเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน สามารถป้องกันโรคต่างๆ และทำให้สุขภาพแข็งแรง ดังนั้น คนเราควรมีภาวะสงบ สันติตลอดเวลา
    เมื่อสัตว์ตกใจ หรือเกิดความกลัวขึ้นมา ร่างกายก็จะสร้าง อะดรีนาลิน ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยน แปลงสภาพ ทางชีวเคมี สารพิษจากอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ จะทำให้ร่างกายเพิ่มความเป็นพิษ (toxin) และอะดรีนาลินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีโอกาสเกิดโรค ดังนั้น ถ้าต้องการให้ร่างกายมีภาวะที่สงบ และแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อ

    ของเสียต่างๆ ที่สะสมอยู่ในเนื้อสัตว์ จะกลายสภาพเป็นกรดยูริคมากที่สุด เนื้อสัตว์ ๑ กิโลกรัม มีกรดยูริคสูงถึง ๓๐ กรัม เนื้อสัตว์จึงเป็นสาเหตุใหญ่ ที่ทำให้เลือดเป็นพิษ เพราะมีกรดสูง
    คนที่กินเนื้อสัตว์จะมีสาร amyloid เกิดจากการเผาไหม้ของโปรตีน สารนี้จะไปเกาะที่เยื่อประสาน ในร่างกาย สมอง และระบบประสาท ทำให้เกิดการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ และทำให้แก่เร็ว
    การวิจัยในอเมริกาพบว่า หญิงมีครรภ์ที่นิยมรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จะมีสาร ดี.ดี.ที เจืออยู่ในน้ำนมสูงถึง ๙๙% ต่างกับหญิงมีครรภ์ ที่นิยมรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ประเภทพืชผักผลไม้ จะมีสาร ดี.ดี.ที ในน้ำนมเพียงแค่ ๘% เท่านั้น (ดี.ดี.ที เป็นสารพิษ ก่อมะเร็งและโรคตับ พบว่าเนื้อสัตว์สามารถเก็บกักสาร ดี.ดี.ที ไว้ได้ในปริมาณมากกว่า พืชผักผลไม้ถึง ๑๓ เท่า)
    ของเสียจำนวนมาก ที่คั่งค้างในร่างกาย จากการบริโภคเนื้อสัตว์จะถูกขับออกมา ดังนั้น ลมหายใจ จึงมีกลิ่นเหม็น มีกลิ่นตัว และกลิ่นเหงื่อแรงมาก
    การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เหนื่อยง่าย เนื่องจากอวัยวะภายในเสื่อมสมรรถภาพก่อนวัย เราลองมาดู กัน… สิงโต เป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อเป็นอาหาร มันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอน ส่วนลิง เป็นสัตว์ที่กินผลไม้ตามธรรมชาติ มันจะใช้เวลาเพียงวันละ ๖ ชั่วโมงเท่านั้น ในการพักผ่อน
    ในอดีตกระทรวงเกษตรฯ ของอเมริกา ได้มีการส่งเสริมอาหารพื้นฐาน ๔ ชนิดคือ ผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ ธัญพืช ผักและผลไม้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน ได้พิสูจน์แล้วว่า การบริโภคอาหารแบบเก่านั้น เป็นการเพิ่มอัตราการตาย และการเป็นโรคมากที่สุด ต่อมา ในปี ๑๙๙๑ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการประกาศออกมาเป็นทางการว่า อาหารพื้นฐาน ๔ ชนิด อันได้แก่ ธัญพืช ต่างๆ, ผักสด, ผลไม้, เมล็ดพืชและถั่วต่างๆ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

    เนื้อสัตว์… แท้จริงก็คือซากศพดีๆ นี่เอง ปราศจากเอ็นไซม์ที่มีประโยชน์ ร่างกายคือ… แพทย์ ประจำตัว ธรรมชาติคือ… สถานบำบัดให้กายใจแข็งแรง มนุษย์จะต้องใช้พลังงานจากพืชพรรณ ธัญญาหารธรรมชาติมาหล่อเลี้ยง ไม่บริโภคอาหารที่ผ่านการแปรรูป ใส่วัตถุกันเสีย และซากสัตว์
    รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพนิดา ชัยเนตร
     
  5. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    เนื้อสัตว์ยังเป็นแหล่งของแบคทีเรียหลายชนิด ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการทางลำไส้ คือ อุจจาระ ร่วง แต่ปัจจุบันมีการกินเนื้อสัตว์บก และสัตว์ทะเลหลายชนิด ที่การเลี้ยงไม่ถูกต้อง ทำให้มีการติดเชื้อ จากการกินเนื้อวัว หมู ไก่ และอาหารทะเลหลายชนิด ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง
    จากการที่เชื้อแบคทีเรีย สามารถบุกรุกเข้าสู่กระแสโลหิต ก่อให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ ไต ระบบประสาท สมอง เป็นต้น ปัจจุบันพบว่า มีเชื้อโรคกว่า ๒,๐๐๐ ชนิด ที่มาจากสัตว์สู่คน และทำให้เกิดโรครุนแรง มากน้อยต่างกัน

    ข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลาย บทความ
    ที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรีย
    ถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสัตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย
    นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์
    อันน่ารู้นี้ มีแต่เฉพาะ
    วงการแพทย์ ที่หันหลังการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารปลอดเนื้อสัตว์
    ที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรม
    จากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ
    โรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริงจากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
    จากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
    โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากหลายหลาย
    มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก

    สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งโลก (The World Cancer Research Fund (WCRF)
    รายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมูลในเวป
    http://www.dhammajak.net:80/board/viewtopic.php?t=14583]::
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...