ไสบาบา เรื่อง ความเป็นพระเจ้าของบาบา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย saisiam, 8 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. saisiam

    saisiam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +14
    "ไสบาบา เป็นพระเจ้าหรือ ?"

    ผู้ใดเพ่งพิจารณาปัญหาในข้อนี้ ก็จะต้องดำดิ่งลึกลงไปเสาะหาความจริงเกี่ยวกับการประกาศตนเป็นพระเจ้าของไสบาบา และสิ่งที่จะได้พบก็มีแต่เพียง ความแน่ใจว่าการประกาศของพระองค์ เป็นวิทยาศาสตร์

    ในการตรัสถึงเรื่องความเป็นพระเจ้าของพระองค์ พระองค์ทรงตรัสว่า

    "ศักติของฉัน ความลึกลับของฉันไม่มีใครสามารถเข้าใจได้
    ไม่ว่าผู้ที่พยายามเข้าใจนั้นเป็นใคร

    แม้จะใช้เวลานานสักเท่าใดและด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม"



    ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๑๙๔๐ พระองค์ทรงประกาศเป็นครั้งแรก ต่อหน้าบิดาและมารดาว่า


    "ฉันคือไสบาบา ฉันมาเพื่อปลดเปลื้องพวกเธอให้พ้นจากความทุกข์ยาก
    จงทำบ้านให้สะอาดและบริสุทธิ์"


    ต่อมาก็ถึงวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ซึ่งเหล่านักบุญ ฤาษี นักปราชญ์ทั้งหลายมาคอยดูด้วยความอยากรู้ ในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๑๙๔๐ พระองค์ทรงประกาศท่ามกลางมหาชนว่า


    "ฉันไม่ใช่สัตยาของท่านอีกต่อไปแล้ว ฉันคือไส มายาได้หายไปแล้ว
    ผู้เลื่อมใสในตัวฉันกำลังเรียกร้องต้องการฉันอยู่ ฉันมีงานที่จะต้องทำ"


    ในการชุมนุมสาธารณะที่เมืองกัว ที่ซึ่งพระองค์ได้เปิดเผยความลับของการเกิดทั้ง ๓ ชาติ คือการเกิดเป็นท่านเชอร์ดิ , สัตยาไส และเปรมมาไส ตามที่พระศิวะได้ทรงประทานพรให้แก่ฤาษีภรัทวาช พวกที่ไม่เชื่อก็คงจะหัวเราะเยาะว่าเป็นเรื่องนิยาย พระองค์ไม่เคยทรงขอให้ใครเชื่อโดยไม่สอบสวนหาข้อเท็จจริงด้วยตนเองเสียก่อน พระองค์ตรัสถึงพวกที่ไม่เชื่อและคอยถากถางว่า

    "ถ้าเธอยอมรับฟังฉันและพูดว่าใช่ ฉันก็จะตอบว่า ใช่
    แต่ถ้าเธอปฏิเสธและพูดว่าไม่ ฉันก็จะสะท้อนเสียงของเธอว่า ไม่
    จงมาตรวจสอบ มาดู มาฟัง
    แล้วจงเชื่อและยอมรับ เพราะนั่นเป็นวิธีที่เธอจะได้ประโยชน์จากฉัน"


    พระดำรัสนี้มีแง่ที่น่าสนใจคือ คนที่จะยอมรับต้องเปิดใจเข้าไปหา เพราะ "ไสไม่ใช่วิชาที่สอบในมหาวิทยาลัย แต่ไสเป็นสิ่งที่ใช้ในการสอบของจักรวาล" ผู้ที่ไม่เชื่อจะก้าวลึกเข้าไปในไสตามลำดับ ซึ่งเขาก็จะทวีความเชื่อมากขึ้น แต่จะยังคลอนแคลนอยู่ เพราะยังติดอยู่กับสิ่งที่เคยนับถือมาแต่ก่อน มาถึงตอนนี้ไสบาบาจะแนะนำว่า


    "จงนับถือพระเจ้าที่เธอเลือกไว้ต่อไป ตามแนวทางที่เธอถนัด
    แล้วเธอจะเข้ามาใกล้ฉันทีละน้อย ทั้งนี้เพราะนามทั้งปวง
    ล้วนคือนามของฉัน และรูปทั้งปวงก็คือรูปของฉัน"


    ผู้เลื่อมใสนับไม่ถ้วนที่ได้รับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น จากการที่ได้เห็นพระเจ้าของเขาปรากฏอยู่ในไสแล้ว เขาจะก้าวสู่ขั้นที่เป็น ผู้ที่เชื่อและยอมรับว่าไสบาบาเป็น "ซารวา เทวตา สวรูป" (สรรพเทพที่อยู่ในรูปของไส)

    แม้จะอยู่ในขั้นนี้แล้ว พระองค์ก็ยังทรงเตือนว่า


    "เธอยังฟังฉันพูดไม่จบ ฉันบอกว่า ฉันเป็นพระเจ้า
    และก็จะบอกว่า เธอก็เป็นพระเจ้า ข้อแตกต่างของเรามีเพียงแต่ว่า
    ฉันรู้ว่าเธอและฉันเป็นพระเจ้า แต่เธอไม่รู้ ฉะนั้น อย่ากังวลถึงการอวตารของฉันเลย
    จงกังวลถึงความจริงแท้ของเธอดีกว่า"


    บาบาใช่ว่าจะพอพระทัยแต่เพียงให้ผู้เลื่อมใสยอมรับว่าพระองค์เป็น "ซารวา เทวตา สวรูป" พระองค์ทรงแนะนำพวกเขาให้ก้าวขึ้นอีกขั้นหนึ่งในการฝึกปฏิบัติทางจิตวิญญาณอีก จนกระทั่งได้เข้าถึงสภาวะของความเป็นหนึ่งเดียวกันในจักรวาลทั้งหมด ในที่สุดผู้เลื่อมใสก็จะก้าวถึงขั้นที่ ๔ คือเป็นผู้ที่มีศรัทธาอย่างแน่นแฟ้น พวกเขาจะรับใช้พระองค์ด้วยความมั่นใจและเรียบง่าย พวกเขาเปิดหัวใจออกอย่างเต็มที่ เพื่อรับพรจากพระองค์ ในทัศนะของพวกเขานั้น พระเจ้าได้สำแดงพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าแล้วอย่างครบถ้วน สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือ เรื่องที่เกี่ยวกับ สัตยัม ชีวิม ซุนดารัน (ความจริง ความดี ความงาม) ซึ่งเป็นรูปที่แท้จริงของพระองค์ อันเป็นรูปของความรักที่ไม่สิ้นสุด พระองค์ทรงแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยทรงตรัสว่า


    "จงเห็นตัวเธอเองในฉัน เช่นฉันที่เห็นตัวฉันเองในพวกเธอทุก ๆ คน
    ฉันรักเธอก็คือฉันรักตัวฉันเอง ถ้าเธอรักตัวเธอ นั่นก็คือ เธอรักฉัน"


    มีวิธีทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้เราตระหนักถึงความรักอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระผู้เป็นเจ้าได้นั่นคือ จงรักพระองค์อย่างที่พระองค์รักเรา

    Prof.I.S.RAO Department of Statistics
    Utkal University Bhubaneswar [Orissa]

    จากหนังสือ พบพระเจ้าที่อินเดีย แปลจากหนังสือ God Lives in India หน้าที่ ๑๕๖-๑๕๘
     

แชร์หน้านี้

Loading...