ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ปี 2555

เพื่อนร่วมงานชวนไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ในวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธุ์ 55 ออกเดินทางจากจังหวัดพิจิตร เวลา 2 ทุ่ม ด้วยรถตู้ มีผู้แสวงบุญไปด้วยกันจำนวน 10 คน
[FONT=&quot][/FONT]
นั่งรถไปจนถึงเวลาเืกือบตี3 แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน....แต่คงใกล้ถึงจันทบุรีแล้วมั๊งเนี่ย เพราะมีภาพถ่ายเขาคิชกูฎให้ดูด้วย

 

เดินทางมาถึงเขาคิชกูฎเวลาประมาณตี 4 กว่าๆ ล้างหน้า แปรงฟัง แถวที่จอดรถตู้นั่นแหละ ด้วยความไม่รู้ว่า เดินไปอีกหน่อย ห้องน้ำเยอะแยะ หลายแห่ง ^^


ล้างหน้า อาบน้ำ (แห้ง) เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง ที่เคยมาเขาคิชกูฎแล้วไปซื้อตั๋วเพื่อเตรียมขึ้นรถ เราก็เดินตามเพราะยังไม่เคยมาเลย นี่ครั้งแรก อิ อิ

 

ได้ตั๋วขึ้นรถช่วงแรกลำดับที่ 678 นี่ขนาดมาถึงตีสี่นะนี่!!!!5555
โอ้...ยังมีเวลาอีกยาวไกล เลยแยกย้ายกันหาของกินกันตามอัธยาศัย

 

อาหารเช้ามื้อแรก ได้กาแฟแก้วละ 15 บาท ขนมที่ซื้อติดมาจากเซเว่น 2 ชิ้น

 

หลังจากดื่มกาแฟ และขนมเรียบร้อย ก็ยังไม่ถึงเวลาขึ้นรถ เพิ่งถึงลำดับที่ 300กว่า โดยฟังเสียงจากคนประกาศซึ่งพูดผ่านไมโครโฟน...ไปไหนดีเนี่ยเรา^^

ถามแม่ค้าว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ก็ชี้ไป ก็ไปตามที่มือชี้5555 เดินไปเรื่อยๆ....

 

เข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็เดินดูร้านค้า ซึ่งมีอยู่เยอะแยะ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ของฝาก กล้วยไม้ป่า

แล้วก็กลับมารอที่เดิม บริเวณที่ซื้อตั๋ว เริ่มทำบุญหยอดเหรียญที่มีอยู่หลายตู้ ซื้อผ้าแดงเพื่อเขียนขอพรได้ 1 อย่าง (เค้าบอกว่า สำเร็จสมปรารถนาแน่นอน^^) ซื้อธูป เทียน ดอกดาวเรือง(ถุงละ 20 บาท)

 

เดี๋ยวมาต่อ^^ ไปธุระก่อนจร้า

 

เวลาประมาณ 7 โมงเช้า ได้ยินผู้ประกาศเรียก บัตรหมายเลข 678 ขึ้นรถคันนี้...

ต้องไว และเตรียมตัวให้พร้อมในการขึ้นนั่งบนรถ เพราะรถขับไว ไปไว ด้วยความรวดเร็ว

 

ผ่านจุดแรกมาด้วยความไว สบายหน่อยเพราะ เข้าไปนั่งในรถกับคนขับ อิ อิ ค่อยยังชั่ว

ทางขึ้นเขานั้น ถ้าไม่ชำนาญการขับรถ อันตรายมาก เป็นมุมหักศอก....เฉียววววววววววมาก ขอบอก^^

และมาถึง จุดขึ้นเขาจุดที่สอง ซื้อตั๋วอีกตามเคย แล้วรอเรียกขึ้นรถ คราวนี้ช้าไปติ๊ด นั่งด้านหลัง เลยรู้รสชาติของชีวิต55555ถ้าจับราวข้างรถไม่ดี หัวทิ่มแน่...เกือบไปเหมือนกัน

 

ลืมบอกไปค่ะว่า ค่ารถต่อละ 50 บาท มี 2 ต่อ รวมคนละ 100 บาท และต่อไปก็เดินทางเท้าขึ้นเขากันละค่ะ^^ สู้ สู้

 

ขอย้อนกลับมาก่อนขึ้นรถนิดนึง ^^

มีพลอยประจำวัน/ปีเกิดชุดละ 40 บาท เพื่อจะได้นำไปโรยที่รอยพระบาทในถุงพลอยมีการบอกถึงขั้นตอนการบูชาด้วย

 

[FONT=&quot]อานิสงส์การกราบไหว้บูชารอยพระพุทธบาท[/FONT][FONT=&quot],พระพุทธหัตถ์และพระบรมสารีริกธาตุ [/FONT]

"[FONT=&quot]บุคคลใด คือคฤหัสถ์หรือนักบวชทั้งหลาย[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งหญิงทั้งชายได้มีใจบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส[/FONT] [FONT=&quot]ในการคัดลอกตำนานเรื่องนี้[/FONT] [FONT=&quot]ด้วยตนเองก็ดีได้มีจิตรำลึกคิดถึงเรื่องราวของตำนานก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ได้สักการะบูชาด้วยสิ่งของต่างๆเป็นต้นว่า ข้าวตอก ดอกไม้ ข้าว[/FONT] [FONT=&quot]ปลาอาหารแก้วแหวนเงินทอง ธูปเทียน ฉัตรเงินฉัตรทองและธง[/FONT][FONT=&quot]ด้วยความเคารพอย่างยิ่งก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ได้จดจำเรื่องราวของตำนานไว้ก็ดีได้บอกเล่าให้ท่านผู้อื่นฟังก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ได้แสดงความเคารพด้วยกาย ด้วยวาจา[/FONT] [FONT=&quot]และด้วยใจก็ดีได้เทศน์ให้คนและเทวดาทั้งหลายฟังก็ดีเมื่อเทศน์หรือเมื่อฟัง[/FONT] [FONT=&quot]ด้วยความเคารพเกิดความเลื่อมใสยินดีในพระ พุทธบาทและพระบรมธาตุ[/FONT] [FONT=&quot]ที่พระพุทธเข้าทรงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จไปเผยแผ่และทรงเหยียบรอยพระพุทธบาท[/FONT] [FONT=&quot]และประดิษฐานพระบรมธาตุไว้[/FONT]

[FONT=&quot]เมื่อครั้งพระยังทรงพระชนม์อยู่ก็ดีและเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไป[/FONT] [FONT=&quot]แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]พระอรหันตสาวกทั้งหลายได้อัญเชิญพระบรมธาตุไปประดิษฐานไว้เพื่อเป็นที่[/FONT] [FONT=&quot]สักการะบูชาของคนและเทวดาทั้งหลายก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]บุคคลชายหญิงคฤหัสถ์และนักบวชทั้งหลายนั้นก็จะได้ผลานิสงส์เป็นอันมาก[/FONT] [FONT=&quot]จนไม่อาจที่จะกำหนดนับได้ ท่านทั้งหลายที่กระทำดังกล่าวมา[/FONT] [FONT=&quot]ได้ชื่อว่าเป็น"อวินิปาตบุคคล"คือบุคคลที่ไม่มีโอกาสได้ไปเกิดในอบายภูมิ[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งสี่มีแต่จะพุ่งดิ่งตรงต่อพระนิพพานเพราะบุคคลผู้นั้นเสมอดังได้รู้ได้[/FONT] [FONT=&quot]เห็นและได้ปฏิบัติอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา[/FONT]


[FONT=&quot]อ้างอิงจากตำนานพระเจ้าเลียบโลก[/FONT]
��¾�оط��ҷ����ʡŪ�ٷ�ջ

 

เพิ่งเคยไปเขาคิชกูฏครั้งแรก ขอแนะนำนิดนึง อาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่จะไปนะคะ เพราะปีนี้เขาคิชกูฎจะปิดวันที่ 24 มีนาคม 55 ยังมีเวลาที่จะเตรียมตัวไปอีกเป็นเดือนค่ะ

1. ที่จอดมีเยอะค่ะ ใกล้ๆร้านค้าเพียบเลย ที่ว่างอีกเยอะ
2. รีบไปซื้อตั๋วก่อนเลยค่ะ แล้วค่อยมานั่งพัก หรือสำรวจร้านค้า เพราะถ้าช้า อาจได้ขึ้นรถเกือบเที่ยงวัน
3. ร้านอาหารเยอะค่ะ ข้าวเช้าทานไปเลยให้เรียบร้อย และเตรียมน้ำเปล่าใส่กระเป๋าไปด้วย เพราะข้างบนขวดละ 25 บาท
4. ห้องน้ำเยอะค่ะ ถามแม่ค้าดู มีที่อาบน้ำด้วยอยู่แถวๆที่มีร้านค้าเยอะๆนั่นละค่ะ
5. เหรียญพกไปเยอะๆ เพราะใช้ตีระฆังแล้วใส่ลงบาตรในแต่ละจุด
6. รีบๆขึ้นไปให้ถึงพระพุทธบาทก่อน แล้ว ขาลงใช้แรงที่เหลือ มาไหว้ก็ยังไม่สาย .....มัวแต่ไหว้รายทางจะหมดแรงเสียก่อน เพราะมีหลายจุดเหลือเกิน
7. รถกระบะต้องต่อ 2 ต่อ กว่าจะถึง ..... ขาขึ้น ให้นั่งด้านใน ขาลงให้นั่งด้านนอก....ไปถึงจะเข้าใจเอง คริคริ..... มันส์ยิ่งกว่า รถไฟเหาะ เพราะ ระบบ safety น้อยเหลือเกิน มือจับไม่แน่นจริงมีสิทธิ์ไปนอนคลุกฝุ่น 5555.... ขอบอก ขอบอก
8. ถ้ามีกล้องไปด้วยขอให้เป็นแบบคล้องคอกันตกหล่น
9. กระเป๋าควรเป็นแบบสายยาว สะพายเฉียง จะได้ไม่หนักมาก แยกเงินเหรียญ แบงค์ แผ่นทอง ธูป เทียน ให้เป็นสัดส่วน หยิบง่าย เพราะขณะขึ้นจะชุลมุนมากๆๆๆๆๆๆ ไม่มีแม้แต่มือจะหยิบเงิน5555เพราะต้องใช้มือเกาะ เหนี่ยว ฯลฯ ถ้าใส่ไปรวมๆกัน จะหาไม่เจอ (โดยเฉพาะพวกกระเป๋าโดเรม่อน...ว่าตัวเองค่ะ หาแผ่นทองไม่เจอ เหรียญอยู่ไหนไม่รู้55)
10. เวลาขอพร ให้ ขอ ข้อเดียวพอ
11. ร่มอย่าเอาไปเลย เกะกะมากๆๆๆๆ ใส่หมวกที่มีสายรัดไปด้วยจะดี โดนลมตีตอนนั่งรถก็ไม่ปลิวหาย
12. เตรียมแผ่นทอง ธูปเทียน สิ่งต่างๆให้พร้อมก่อนขึ้นรถโดยสารด่วน5555 เพราะข้างบนเขาจะราคาแพงกว่า
13. ไหว้พระพุทธบาทเสร็จ อย่าลืมลงไปไหว้ ฤาษีตาไฟ ใต้โขดหิน ถามทางเค้านะ ไปยากอยู่เหมือนกัน
14. ที่ศาลาสร้างใหม่มีการเสกคาถาที่กระเป๋าด้วย ให้เอากระเป๋าที่มีซิปไป รูดซิบให้หมดเพราะเมื่อเสกคาถาแล้ว จะโยนกระเป๋ากลับมาให้เราคอยรับ เสกคาถา.... รวย ไม่รู้เรื่อง........
15. ห้องน้ำมีอยู่หลายจุด สะดวกดี แต่ไม่เคยปวดท้องฉี่เลย เพราะเหงื่อออกเเยอะมาก สงสัยฉี่กลายเป็นเหงื่อแทน

 

มาถึงช่วงขึ้นเขาซะทีเนาะ5555

คนเยอะมากๆๆๆๆๆ บางแห่งยืนอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง ดีว่าpeerakul ไม่มัวเกาะกลุ่ม เพราะถ้ารอๆกัน ช้าแน่ๆ เพราะถึงอย่างไรก็ไปเจอกันบนเขาแน่นอน ไปตายเอาดาบหน้า^^

ก่อนมาเขาคิชกูฎอาราธนาสมเด็จองค์พระปฐมคลุมกาย พระพุทธเจ้าพระสมณโคดมประทับบนศรีษะ หลวงปู่ปานให้เอาไว้ที่หน้าอก หลวงพ่อฤษีอยู่ที่ฐานเหนือสะดือ (ทำตามทีสมเด็จองค์ปฐมท่านตรัส กับหลวงพ่อฤษีท่านกล่าวไว้ว่าเวลาไปไหนอย่าไปคนเดียว ให้ไปกับพระ4องค์) และระหว่างเดินเขานั้น อุทิศบุญให้เทพ พรหมเทวาทุกท่านทุกองค์ ภาวนาคำว่า นะ โม พุท ธา ยะ

 

ในที่สุดก็มาถึงรอยพระพุทธบาทจนได้....เย้ เย้

เริ่มเบียดเสียดคนเข้าไปกราบรอยพระพุทธบาท มีคนนำกล่าวบูชา บอกให้ทุกท่านนั่งอย่ายืน ทุกคนก่อนจะเข้าไปต้องถอดร้องเท้า ถอดหมวก นำแผ่นทองที่เตรียม พลอย ธูป เทียน เงิน ดอกดาวเรื่อง ไปโรยที่พระพุทธบาท กราบ กราบ กราบ ด้วยความปิติอย่างยิ่ง สาธุ

อย่าลืมไปทำบุญที่ธงธรรมจักรด้วยนะคะ คนประกาศบอกว่าใครทำบุญที่นี่จะไม่มีวันจนทุกภพ ทุกชาติ...5555ไม่พลาดอยู่แล้วค่ะ

ปล. การที่จะติดแผ่นทองขอให้ซื้อสีผึ้งไปด้วยค่ะก้อนเล็ก2บาท เพราะถ้าไม่มีสีผึ้งทาที่องค์พระก่อน จะทำให้แปะทองไม่ติดค่ะ

 

อิ่มบุญและปิติ จากการกราบรอยพระพุทธบาทแล้วก็เห็นศาลา ก็เข้าไปนั่งที่ศาลากะเค้าด้วย มีพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านนั่งอยู่ มีวัตถุมงคลให้บูชา มีการเสกคาถาที่กระเป๋าทีเราถือให้ด้วย ให้โยนไปให้คนรับเลยค่ะ เอาไปกองรวมกันไว้ ท่านก็ว่าคาถา เรียบร้อยแล้วก็โยนกลับคืนมา รับกระเป๋ากันเองค่ะ

มองหาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (ได้รับพระบรมฯจากสมเด็จพระสังฆราช) ราคา 1,000,000 บาท ณ ยอดเขาคิชกุฏ ^.^ มองหาไม่พบ ปรากฎว่าเมื่อลงจากเขามา พบเจดีย์ประดิษฐาน ณ บริเวณกลางลานก่อนขึ้นเขานั่นเอง ได้ไปกราบนมัสการและปิดทอง หันมาอีกที...อ้าวเพื่อนหายหมด ไปไหนกันหมดเนี่ย เผอิญจำเบอร์รถได้ ได้ยินผู้ประกาศก็ไปตามเสียง เห็นเพื่อนๆพอดี.......เกือบตกรถซะแล้วเรา5555^^

-ขอทุกท่านที่ได้เข้ามากระทู้นี้อนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ

 

โมทนาบุญด้วยค่ะคุณเอ เล่าเรื่องแบบละเอียดน่าติดตามชมแถมมีภาพถ่ายมาให้ชมด้วย ตนเองยังไม่เคยเลยค่ะ สักวันต้องได้ไปอย่างแน่นอน จะได้เก็บกระทู้คุณเอไว้ อ่านอีทีก่อนไปจ้า โมทนาสาธุบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ และยินดีเป็นอย่างค่ะคุณเจน ^^

 

พระสงฆ์ที่นั่งในศาลาคงไม่ใช่ท่านพ่อเขียน เพราะเท่าที่เห็นพระสงฆ์รูปนั้นยังหนุ่มอยู่ค่ะคุณญ.ผู้หญิง^^