ไทยแชมป์รถประหยัด วิ่ง3พันกม.ใช้แค่ 1ลิตร

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>ไทยแชมป์รถประหยัด วิ่ง3พันกม.ใช้แค่ 1ลิตร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ไทยแชมป์รถประหยัด วิ่ง3พันกม.ใช้แค่ 1ลิตร
ขส.ทบ.สร้างชื่อคว้ารางวัลชนะเลิศรถประหยัดเชื้อเพลิง 2 ปีซ้อนที่ญี่ปุ่น ระบุเป็นรถขนาด 125 ซีซี ใช้น้ำมัน 1 ลิตรวิ่งเกือบ 3,000 กม. ด้านรองเสนาธิการทหารบกเสนอผลิตรถยนต์ยี่ห้อ " พญานาค" และ "อยุธยา1-2" ใช้ในไทย

กองทัพบกประสบความสำเร็จจากการชนะเลิศในการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงในต่างประเทศ ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม โดย พล.ท.ม.ล.กิติมาศ สุขสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารบก ฝ่ายส่งกำลังบำรุง กล่าวว่า ภายหลังที่บริษัท ฮอนด้าได้จัดการแข่งขัน ฮอนด้า อีโคโนมี เพาเวอร์ เรซซิ่ง (Economy Power Racing) ครั้งที่ 25 ณ สนามแข่งขัน ทวินริง โมเตกิ เมืองโทจิกิ ประเทศญี่ปุ่น ในการจัดแข่งขันครั้งนี้ ทีมไทยได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันจากโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล (ขส.ทบ.) ซึ่งเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันกับสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับอุดมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ทั่วประเทศทั่วโลก 490 ทีม

โดยการแข่งขันจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน-4 ตุลาคม โดยทีมจากโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล (ขส.ทบ.) ซึ่งเป็นตัวแทนการแข่งขันของประเทศไทยได้รางวัลชนะเลิศ ในการประหยัดเชื้อเพลิง โดย ขส.ทบ.ได้ส่งรถขนาด 125 ซีซี เข้าร่วมการแข่งขัน ปรากฏว่าสามารถทำลายสถิติได้ 2,979.58 กิโลเมตรต่อลิตร คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศรถประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด

นอกจากนี้ยังได้รับโล่นิว ชาเลนเจอร์ (New Chalenger) สำหรับผู้ที่สามารถทำลายเกณฑ์ประหยัด 2,500 กิโลเมตรต่อลิตร โดยรถที่ประดิษฐ์และได้รางวัลครั้งนี้ เป็นการสร้างขึ้นในวงเงิน 1 แสนบาท ตามเกณฑ์ที่ผู้จัดได้ตั้งไว้

สำหรับการคัดเลือกเด็กที่เข้าร่วมแข่งขันมีทั้งหมด 7-8 คน จะคัดเลือกให้เหลือเพียง 1-2 คน ต้องมีทักษะเบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์อย่างดี ซึ่งมีอายุ 19-20 ปี ก่อนเข้าร่วมแข่งขันต้องมีการฝึกซ้อมประมาณ 2-4 เดือน ที่สำคัญน้ำหนักรถยนต์เพียง 40 กิโลกรัม และน้ำหนักคนขับเพียง 40 กิโลกรัมเท่ากัน ถ้าน้ำหนักคนขับมากกว่ารถไม่ได้ เพราะจะเสียการทรงตัว

พล.ท.ม.ล.กิติมาศ กล่าวอีกว่า สำหรับรางวัลชนะเลิศรถประหยัดพลังเชื้อเพลิงของทีม ขส.ทบ.ถือว่าเป็นการชนะเลิศที่ทำลายสถิติรถประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ครั้งแรกที่ชนะเลิศเป็นการแข่งขันครั้งที่ 24 ซึ่งสามารถทำลายสถิติ 1,917 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยทีม ขส.ทบ.พร้อมถ้วยรางวัลและโล่ทำลายสถิติ จะเดินทางกลับถึงไทยในวันอังคารที่ 4 ตุลาคม เวลา 21.30 น. โดยสายการบินทีจี 677

"นับว่าเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่งของชาวไทยและกองทัพบก รวมถึงกรมการขนส่งทหารบก ที่สามารถคว้ารางวัลได้ 2 ปีติดต่อกัน ถือว่าไทยเราประสบความสำเร็จในด้านการผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังเป็นความภาคภูมิใจของประเทศชาติที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ แม้แต่ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยยังไม่สามารถเอาชนะเราได้ การแข่งขันครั้งนี้ถือว่ามหาศาลมากที่คว้ารางวัลได้อีก รางวัลที่ได้เทียบกับเงินไม่ได้เลย เพราะถ้วยรางวัลที่ได้ถือเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา" พล.ท.ม.ล.กิติมาศ กล่าว

ทั้งนี้ การแข่งขันนี้ประเทศญี่ปุ่นได้มีการจัดมาแล้ว 20 กว่าปี โดยบริษัทฮอนด้าเป็นเจ้าภาพใหญ่ โดยมีกติกาคือ ต้องประดิษฐ์รถเอง แต่มีข้อจำกัดคือ ต้องทำความเร็วเฉลี่ย 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

"ครั้งนี้ที่ประเทศไทยชนะได้ ไม่ใช่ชนะที่ตัวบุคคล แต่เป็นการชนะเพราะการทำงานเป็นทีม เป็นทีมที่สามารถทำงานด้วยกัน ถ้าในอนาคตประเทศไทยจะประกอบรถยนต์ได้อย่างดี ภายใต้ยี่ห้อพญานาค และยี่ห้ออยุธยา 1 กับอยุธยา 2 แข่งขันได้อย่างสบาย" พล.ท.ม.ล.กิติมาศ กล่าว

นอกจากนี้ รางวัลชนะเลิศรถประหยัดเชื้อเพลิงของทีมโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล (ขส.ทบ.) ในครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยในการแข่งขันครั้งที่ 24 ปี 2547 ได้ทำสถิติไว้ที่ 1,917 กิโลเมตรต่อลิตร

อนึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับรถประหยัดเชื้อเพลิง ส่วนโครงสร้างตัวรถกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันต้องสร้างโครงรถขึ้นเอง ต้องมีล้ออย่างน้อย 3 ล้อขึ้นไป รูปแบบการแข่งขัน กำหนดให้รถที่เข้าแข่งขันใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดเดียวกัน ซึ่งผู้จัดการแข่งขันเป็นผู้จัดให้ และแข่งขันในสนามที่มีระยะทางเท่ากันประมาณ 16 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ยในการแข่งขันต้องไม่ต่ำกว่า 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถที่วิ่งได้ครบระยะทางการแข่งขัน จะทำการวัดผลหาค่าประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำหนักน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนแข่งและหลังแข่ง เพื่อเปรียบเทียบหาส่วนต่างที่หายไป หลังจากนั้นจะนำน้ำมันที่ใช้ไปมาคำนวณกับค่าความถ่วงจำเพาะและระยะทางที่ใช้ในการวิ่ง เพื่อให้ได้ค่าประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงออกมามีหน่วยเป็น กิโลเมตรต่อลิตร รถคันใดสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขัน สูตรคำนวณ อัตราสิ้นเปลือง (กิโลเมตรต่อลิตร) = ระยะทางในการวิ่ง (เมตร) X ค่าความหนาแน่น (กรัมต่อซีซี) น้ำหนักเชื้อเพลิงที่ใช้ไป (กรัม)

ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับรถประหยัดเชื้อเพลิงลักษณะพิเศษของรถแข่งตัวถังของรถประดิษฐ์ลู่ลมได้หลักอากาศพลศาสตร์ ทำด้วยวัสดุอะลูมิเนียมเบาแข็งแรง มีขนาดที่เหมาะสม มีความปลอดภัยในการใช้งาน มีมุมล้อที่ดี และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

จุดเด่นของระบบเครื่องยนต์ที่มีความแรงแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพิเศษ ใช้ระบบคาร์บูเรเตอร์ขนาดเล็ก ติดตั้งอุปกรณ์สไลด์วาล์วลดการสูญเสียเชื้อเพลิงขณะดับเครื่องยนต์ แนวความคิดในการประดิษฐ์รถ ออกแบบรถเป็นระบบน็อคดาวน์ สามารถถอดแยกชิ้นส่วนต่างๆ ได้ และตัวรถมีความสะดวกที่จะทำการพัฒนาตัดแต่งเพิ่มเติมได้ง่าย นักเรียนมีโอกาสแสดงออกทางด้านงานฝีมือได้อย่างเต็มที่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>