"โลกันตนรก" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

#โลกันตนรก

"....โลกมนุษย์นี้เปรียบเสมือนโลกันตนรก นี่ไม่ผิดนะลูกพ่อนึกตรึกตรองดู เรานึกของเรา สัตว์โลกในโลกมนุษย์นี่จะเรียกว่าโลกันตนรกก็ไม่ผิดนะ ถ้าพระพุทธเจ้าไม่อุบัติขึ้นมาให้แสงสว่าง เหมือนพระอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างกับโลกนี่ โลกันตนรกชัด ๆ เลยนะนี่ โลกมนุษย์นี่นะ อันนี้แยกแยะมาถึงไม่มีในตำรา ไม่มีในคำบัญญัติ แต่หลวงปู่อุปมาอุปมัยนะเปรียบเปรยนะ
เปรียบเปรยให้ลูกทราบนี่ โอ้..มันโลกันตนรกจริง ๆ

"โลกันตะ" คือความมืดบอด นรกที่ไม่เคยมีแสงสว่าง จะรู้แสงสว่างตัวนั้นก็คือ เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น,เข้าปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา,ประสูติออกมา, แล้วก็บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ไล่กันไปนี่นะ โลกันตนรกที่ว่าจะสว่างได้ อันนี้ถ้าเปรียบลักษณะนั้นก็ไม่ผิดนะ โลกมนุษย์เราก็เหมือนกับโลกันตนรกไม่ผิดนะ ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ามาให้แสงสว่างแล้ว รับรองว่าโลกันตะตลอดกาลเลยนี่ ขนาดพระพุทธเจ้านี้อุบัติขึ้นให้แสงสว่างกับสัตว์โลก มันก็ยังหูหนวกตาบอดอยู่นั่น แนะ ถ้าใช้คำว่าโลกันตะก็ไม่ผิดนะ โลกันตะคือความมืดบอด ถ้าจะพูดถึงก็ไม่ผิดถ้าจะพูดหน่ะ คงไม่มีท่านมหาแหวเข้ามาอีกนะ อันนี้เพียงอุปมาอุปมัย เข้าใจอยู่ว่ามนุษย์คือสุคติภูมิ ที่เป็นรูปเป็นร่างมนุษย์เราคือสุคติภูมิ เป็นกามภพ ที่พุทธเจ้าอุบัติขึ้นก็คือสุคติภูมิตัวนี้ ก็คือมนุษย์ แต่ว่าลักษณะเปรียบเปรยมันก็ไม่ผิด อ๋อ..มนุษย์นี่ก็โลกันตนรกชัด ๆ นั่น ถ้าพระพุทธเจ้าไม่อุบัติขึ้นให้แสงสว่างกับมนุษย์นี่ มนุษย์ก็จะเป็นโลกันตะ อยู่แบบนี้ คือความมืดบอดอยู่อย่างนี้ นั่น นี่แหละมนุษย์จึงคอยพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ๆ กัปนั้นกัลป์นั้น นั่น แต่ถ้าบางกัปบางกัลป์ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นล่ะ นั่น ก็ยังมีแสงสว่างกับพระปัจเจกพุทธเจ้า นี่ ๆ แหละจึงเรียกว่าโลกันตะ โลกันตนรกจริง ๆ นี่มนุษย์เรานี่อาศัยพระพุทธเจ้า อาศัยจิตพระอรหันต์ จึงจะทำให้มนุษย์มีแสงสว่างขึ้น ความมืดบอดของมนุษย์ของสัตว์โลกมันมีอย่างนี้ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นให้แสงสว่างเหมือนกับพระอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างกับโลกใบนี้เลย นี้ว่าโลกันตนรกไม่ผิดนะ ถ้าพระพุทธเจ้าไม่อุบัติขึ้นล่ะพวกเราก็มืดมนอนธกาลกันต่อไป นั่น..."

พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓
วัดป่าห้วยริน จังหวัดขอนแก่น