โค้งร้อยศพเฮี้ยนจัด! ชาวบ้านผวาแห่ทำบุญ

โค้งร้อยศพเฮี้ยนจัด! ชาวบ้านผวาแห่ทำบุญ



ภาพประกอบข่าว

ชาวบ้านผวาโค้งร้อยศพ ที่โค้งเหมืองผ่า จ.เชียงใหม่ เชิญ เกจิดัง เจ้าพิธีกรรมไสยศาสตร์ ทำพิธียกเลิกระบบตัวตายตัวแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ส.ค.)ที่บริเวณทางโค้งเหมืองผ่าหรือโค้งปากท่อ จุดบริเวณหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแก้วสา ถ.โชตนา ต.ริม เหนือ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีพิธีกรรมทางศาสนา และพิธีสูดถอนวิญญาณเร่ร่อนรอเกิด ตามความเชื่อของชาวบ้านโดยทาง ชาวบ้านได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา พระครูสิริศีลสังวร หรือ ครูบาน้อยเตชปัญโญ เจ้าอาวาส วัดศรีดอนมูล อ.สารภีเชียงใหม่ และเชิญเจ้าพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์ลี้ลับ ชื่อดัง คือ นายสถาพร ช่างสมบูรณ์ หรือ อ.สถาพร อดีตพระจอมขมังเวทย์ มาทำพิธีแผ่เมตตา และพิธีสูดถอนดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตขอให้บรรดาวิญญาณผีตายโหงที่เกิด จากอุบัติเหตุต่างๆไม่ว่าจะถูกรถชนตายจำนวนมากในแต่ละปี และถูกทำร้ายตายลอยน้ำมาติดอยู่ใต้ทางโค้งแห่งนี้ ให้ไปผุดไปเกิดหรือย้ายไปยังจุดอื่นและจะได้ยกเลิก "ระบบตัวตายตัวแทน" บนทางโค้งอันตรายแห่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่จะทำพิธีนี้ทาง พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผบก.ภ.จว.ลำพูน ที่เป็นเจ้าของหมู่บ้านแก้วสา ได้ติดตั้งป้ายทางเข้าหมู่บ้าน และขยายเส้นทางเพื่อให้ดูสะอาดเรียบร้อยและงามตา ได้มีการเชิญอาจารย์สถาพร ช่างสมบูรณ์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านพิธีกรรมและสถานที่ให้เกิดมงคลขึ้น เมื่ออาจารย์สถาพรได้เดินทางมาดูบริเวณทางโค้งแห่งนี้แล้วและได้มีการเข้ามา สมาธิเพ่งดูพบว่ามีวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดจำนวนมาก จึงได้แจ้งว่าสมควรอย่างยิ่งที่จะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณเหล่านี้กลับไปยังภพ ที่ควรจะไป จึงได้ประกอบพิธีขึ้นมาโดยนำหัวหมู อาหารหวานคาว นานาชนิดมาตั้งโต๊ะทำพิธีร้องขอให้กับเทพาอารักษ์ เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวร และได้จัดพิธีให้กับเหล่าผีตายโหงที่จุดดังกล่าวด้วย พร้อมกับทำพิธี เชิญวิญญาณออกไปเพื่อเป็นการยกเลิก "ระบบตัวตายตัวแทน" ยังจุดดังกล่าว

อาจารย์ สถาพร ได้ทำพิธีสูดถอนวิญญาณ พบว่าบริเวณที่วางเครื่องเซ่น มีหัวหมู ไก่ต้มและขนมคาวหวาน มีวิญญาญอยู่บริเวณนี้เพียง 3 ดวง แต่ฝั่งตรงข้ามถนนกลับมีดวงวิญญาณจำนวนนับสิบยืนมองการทำพิธีในครั้งนี้จึง ได้ถือโอกาสทำพิธีสูดถอนหรือให้ย้ายสถานที่ออกไปและได้ทำพิธีบอกกล่าวกับดวง วิญาณว่าถึงได้ดับขันธ์มาเป็นเวลานานแล้วน่าจะไปผุดไปเกิดหรือเดินทางไปยัง ภพที่ดี หลังจากที่อาจารย์สถาพร ได้ทำพิธีทางฆาราวาสเสร็จสิ้น พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อยเตชปัญโญ พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ได้ทำพิธีทางสงฆ์โดยทำน้ำมนต์ปะพรมให้กับชาวบ้านและแผ่เมตตาให้กับดวงวิณญาณ ที่ล่วงลับไปแล้ว ณ จุดดังกล่าว โดยมีชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม มาร่วมพิธีดังกล่าวจำนวนนับ 100 คน พิธีการใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทำพิธีบริเวณโค้งเหมืองผ่า นั้น เพราะโค้งแห่งนี้เป็นโค้งอันตรายมาก รถที่วิ่งมานั้นจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ประกอบกับทางเข้าหมู่บ้านแก้วสา นั้นเป็นจุดที่อยู่ตรงทาง โค้งพอดี ตนและชาวบ้านได้เคยหาทางแก้ไขต่าง ๆ ทั้งขยายปากทางเข้าหมู่บ้าน ร้องขอตำรวจ สภ.แม่ริม นำป้ายสัญญาลักษณ์ต่าง ๆ มาตั้งเพื่อเตือนและห้ามชาวบ้านที่จะออกจากหมู่บ้านห้ามเลี้ยวขวา แต่ก็ยังไม่วายที่จะเกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้ง เพราะปากทางเข้าหมู่บ้านเหมืองผ่า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านแก้วสา ก็อยู่ตรงโค้งด้านสันโค้งเหมือนกัน ต่อมามีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า ช่วงกลางคืนมักจะพบคล้ายกับคนที่เสียชีวิตยืนอยู่ตามขอบถนนบริเวณโค้งถนนและ ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านจำนวนมาก เหมือนกับจะร้องขออะไรสักอย่าง บ้างก็นั่ง บ้างก็ยืน บ้างก็กวักมือเรียก

"บ่อยครั้งที่ชาวบ้านได้ยินเสียงโหยหวน มาจากปากทางเข้าหมู่บ้านทั้งสอง แห่งทั้งหมู่บ้านแก้วสา และหมู่บ้านเหมือง ผ่า ตนจึงได้ไปเชิญอาจารย์สถาพร มาช่วยดู ซึ่ง ก็ได้บอกว่าเป็นสถานที่โค้งอันตราย มีระบบ "ตัวตายตัวแทน" พวกที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนก็จะเฝ้าที่ถนนแห่งนี้รอการมาเปลี่ยน ต้องเป็นผีตายโหงที่อดๆ ยาก ๆ ของที่ญาติพี่น้องทำบุญมาให้นั้นก็ไม่ค่อยถึง พอนานไปญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตก็ลืมเลื่อนและเลิกทำ ทำให้ผีพวกนี้ต้องลำบากจึงร้องขอกับคนที่สัญจรไปมาทั้งสองหมู่บ้านนี้" ตนจึงได้ขอคำแนะนำและได้ทำพิธีขึ้นดังกล่าวตามอาจารย์สถาพร บอก และนิมนต์พระเกจิชื่อดัง มาแผ่เมตตาให้กับดวงวิณญาณที่ล่วงลับ"ผบก.ภ.จว.ลำพูน กล่าว

โค้งร้อยศพเฮี้ยนจัด! ชาวบ้านผวาแห่ทำบุญ

 

อ่านเเล้วขนลุกเลยค่ะ มาทำพิธีก็ดีเเล้ว เเต่ควรปรับปรุงทางด้านการขับรถของผู้คนด้วยว่าอย่าประมาทในโค้งอันตราย

 

ใช่คับ น่ากลัวมาก แต่ผมว่าทางโค้งทุกโค้ง อันตรายหมดแหละคับ ไม่เคยเจอทางตรงอันตราย ซักที จริงปะ

 

แก้อีกวิธีหนึ่งคือ

ให้วิศวกรออกแบบยกโค้งใหม่ เพราะว่าทางพุทธศาสตร์แก้ได้ผลทางจิตวิทยา เท่านั้น

แต่ . . .

ในทางวิศวกรรมคือการออกแบบยกโค้งใหม่เพื่อให้รถสามารถเข้าโค้งได้ด้วยความเร็วมากขึ้น


อันนี้แถวบ้านผมก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันขั้นแรกใช้พุทธศาสตร์เพื่อผลทางจิตวิทยา(จิตใจชาวบ้าน) แล้วก็วิศวกรรมแก้ปัญหาพื้นทาง เท่านั้นปัญหาก็ลดลงมากๆเลยครับ

ลองไปปรึกษาวิศกรดูครับแก้ได้ไม่ยากแต่ปัญหาเรื่อง งบประมาณเท่านั้นเอง


ปล.ในความคิดผมน่ะ

 

ขอให้ไปสู่ภพที่ดีครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ๆ
ในส่วนบุญกุศลที่ทุกท่านได้ทำและ
ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญ
ทุกอย่างให้กับดวงวิญญาณ
ทุกดวงได้รับเท่ากัน
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ​

 

การกระทำดังกล่าว น่าจะสร้างขวัญให้คนท้องที่เท่านั้น
แต่ไม่น่าจะลดอุบัติเหตุลงได้
เพราะทางโค้งอันตราย ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปรับปรุงโค้งให้อันตรายลดลง
การแก้ไขเบื้องต้นคือเพิ่มป้ายทางโค้ง ให้เห็นชัดเจน เน้นเวลากลางคืน ต้องเห็นแต่ไกล ถี่ ๆ จนถึงทางโค้ง
ไฟแสงสว่าง สำคัญมาก อาศัยไฟชาวบ้านไม่ได้ ตจว. แค่เย็น ๆ ก็มืดมากแล้ว
ขับรถเชียงใหม่ ไปเชียงรายทางโค้ง ขึ้น ลง ลาด ชัน และมืดมากตามที่บอก
การจัดช่องทางวิ่งสำคัญ เฉพาะคนต่างถิ่น อาจจะไม่ทราบ
มีการบีบลดเลนส์จาก 2 เหลือ 1 เมื่อพ้นโค้งบ้าง ก่อนถึงโค้งบ้าง
วิ่ง 2 ช่องทางอยู่ดี ๆ
เส้นแบ่งเลนส์บีบให้เหลือ 1 ช่องทาง ให้ฝั่งกลับกันเป็น 2 ช่องซ่ะอย่างงั้น
ใครไม่เคยขับเองในเวลากลางคืนจะไม่รู้ว่ามันอันตรายมาก ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขับมาบ่อย ๆ
การตีเส้นแบ่งเลนส์ ให้เห็นชัดเจน และเพิ่มอุปกรณ์ที่ให้ทำให้ใช้ความเร็วสูง ไม่ได้ น่าจะช่วยให้จำนวนอุบัติเหตุลดลง
(ขอยกเว้นไม่พูดเรื่องเมาแล้วขับ)
​

<center></center>

 

ขอคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดาครูอาจารย์ คุณความดีทุกๆประการ และกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้สะสมมาตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน ได้โปรดช่วยให้ทุกดวงวิญญาณในที่นั้นไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ.

 

ผมเคยนั่งรถเมลล์เเดงไปอำเภอปาย โค้งเยอะมาก เจ็ดร้อยกว่าโค้ง คนขับต้องชำนาญทาง บ้านเมืองเรามัวเเต่ทำทางโค้งอ้อมนั้นอ้อมนี้ เมืองนอกเขาเจาะภูเขาลอดอุโมงค์ ลดทางโค้งตั้งเยอะครับ

 

juti..jutung..arahung..juti. naka.

 

วิทยาศาสตร์ก้อเอาตามวิทยาศาสตร์หากันเข้าไปแต่จบไม่เป็น ทำเรี่ยทำราดทำอะไรก้อไม่รู้ทำหมูทำหมามันจบเป็นไม่ต้องใช้เงินไม่ต้องใช้อะไรไม่ต้องเรียกใครมาไม่ต้องทำเพิ่มไม่ร้อน

 

ให้ตำรวจมาตั้งด่านตรงทางโค้งสิ สร้างป้อมตำรวจใหญ่ ๆ ไว้ตรงนั้นเลย ตั้งกรวยยางควบคุมความเร็วไว้ เปิดไฟสว่าง ๆ ผีเผอจะพลอยหายหมด

 

ลักษณะนี้จะเจอบ่อยช่วงถนนที่ขึ้นลงภูเขา บางครั้งไม่คุ้นเส้นทางทำเอางงๆเหมือนกัน

 

ตำรวจก็เสียวเป็นเหมือนกันน่ะครับ ไหนทั้งความเร็วจากรถ ไหนจากสิ่งที่มองไม่เห็น เหรอดวงดีเห็นขึ้นมา แล้วก็บ้ายบ่ายป้อมจ๋า ตร.ไปก่อน

 

พูดยากเนอะ เรื่องพวกนี้...สิ่งที่เค้าทำให้..มันก็เหมือน ทำให้อุ่นใจไปว่า...ไม่มีวิญญาณ มาป้วนเปี้ยนแถวนี้อีก...หรือมีก็น้อย...แต่ นานๆ ไป ...เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิม...ต้องอัญเชิญ ต้องเซ่นไหว้เหมือนเดิม...ถ้าจะแก้ปัญหาให้เด็ดขาด...ก็เป็นอย่างที่ท่านอื่นๆกล่าวหล่ะครับ..แก้ปัญหาเรื่องโค้งถนน...สัญญาณเตือน...ป้ายบอกทาง....ติดไฟสว่าง...ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ...อีกมากมาย ที่มันเป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน...ท้ายที่สุด...แก้ที่คน...ถ้าไม่ขับรถเร็ว จนคุมรถไม่ได้...หรือไม่มักง่าย ขับรถย้อนศร...คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้หรอก...ขับช้าลงซักนิด...ทำตามกฏจราจรซักหน่อย...มันก็ถึงเหมือนกันนั่นแหละ..

 

เมื่อเรารู้ว่ามันโค้งอันตราย เราก็ขับช้าๆสิ ถึงโค้งก็เบาๆ หยุดดูก่อนก็ได้
(บางคนขับกลางคืนไม่กล้าหยุด แถมยิ่งเร่งขับใหญ่)หากเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งเสี่ยง
ต่อการเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น (ต้องใช้จิตสำนึกของผู้ขับขี่) ถึงจะปลอดภัย จะได้ไม่เป็นศพต่อไป ขณะเดียวกันผ่านจุดนั้นแผ่เมตตาให้เหล่าวิญญาณที่บริเวณนั้นก็ดีนะเราว่า

 

........โค้งมันไม่อันตรายหรอกครับ มันก็อยู่ของมัน.....

 

ไปสู่สุขคติเถอะครับอย่าได้มีเวรต่อกันเลย

 

คนที่ตาย เขาก็มีกรรม เราก็มี ไม่แน่ วันพรุ่งนี้เราก็อาจต้องตายเพราะกรรมเก่า เช่นเดียวกับเขา

 

ขอถามผู้รู้หน่อยครับ ผมสงสัยว่าถ้าคนทำแต่ความดีมีศีลทานภาวนาแต่ต้องมาจบชีวิตที่สถานที่แบบนี้ เค้ายังจะต้องเร่ร่อนไม่ได้ไปตามภพภูมิที่ควรจะไปหรือเปล่าครับ แล้วอีกคำถามคือผีตายโหงเค้าจะต้องวนเวียนอยู่ที่นั่นจนกว่าจะครบอายุไขเลยหรือเปล่าครับ