"แหลมทองสุวรรณภูมิเมือพระองค์ทรงพุทธพรรษาที่ทรงผนวชได้ 25 พรรษา"

ประเทศไทย มีประวัติ กระเบื้องจาร ไว้เป็นหลักฐาน
ยืนยันว่าไทย ในชื่อว่าไทยลว้า อยู่กันมาที่นี้ 8,000 ปี กว่าแล้ว เป็นผู้ให้กำเนิดสถาปัตยกรรมแลงอิฐปูนขาว เป็นผู้ให้กำเนิดประเพณีกราบไหว้

ฟ้อนรำ ผ้านุ่งห่ม วัฒนธรรมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ตั้งหนังสือ ลายสือไทย กฎหมาย จับช้างม้าวัวควายใช้งาน รู้จักทำเงินทองแร่วัตถุหินดินเผา และ

รู้บุกเบิก รู้กระทั้งมาตราส่วนต่าง ๆ ตั้งชื่อทิศทางกาลเวลา และตั้งคำพูดคำไทยไว้แล้ว ได้ต่อสู้ป้องกันตัวเป็นไทยมาได้ตลอดระยะกาล 8,000

ปี กระทั้งปัจจุบัน ได้รับพระพุทธเจ้า พระอรหันตสงฆ์ ตลอดกระทั่งรักษาพระพุทธศาสนามาแล้ว 2,500 ปี กว่า และด้วยระยะกาลอันยืนยาว

นานนั้น ไทยลว้าและลาว ได้คู่บ่า คู่ไหล่ ผลิตสิ่งต่าง ๆอันเป็นไทย ไว้เป็นสมบัติตกทอดตลอดมาถึงกาลปัจจุบัน

การสร้างพระพุทธรูป(เดิมเรียกว่าพุทธนิมิต) พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงนิมิต พระรูปของพระองค์เอง ซึ่งเป็นการกระทำพระรูปให้ปรากฎ ทำให้พระพุทธรูป นั้น ก่อนกำเนิด ขึ้น ครั้งพระองค์ทรง มีพระชนม์อยู่ ก่อนแล้วครับ

ลำดับกษัตรย์
พระเจ้าพิมพิสารเสวยราชขสมบัติหรือครอบอยู่ 52 ปี สิ้นพุทธพัสสา 37
พระเจ้าอชาตสัตตุ ครอง 24 ปี สิ้น พ.ศ.16
พระเจ้าอุทัยภัททิย ครอง 16 ปี สิ้น พ.ศ.32
พระเจ้าอนุรุทธ ครอง 18 ปี สิ้น พ.ศ. 40
พระเจ้ามุณฑ ครอง 8 ปี สิ้น พ.ศ.48
พระเจ้านาคทัสสกะ ครอง 24 ปี สิ้น พ.ศ. 72
พระเจ้าสุสุนาคอำมาตย์ ครอง 18 ปี สิ้น พ.ศ. 90
พระเจ้ากาลาโสกราช ครอง 28 ปี สิ้น พ.ศ.118
พระราชพี่น้อง 10 องค์ ของพรเจ้ากาลาโสกราช ครอง 22 ปี สิ้น พ.ศ.140
พระราชานันท 9 องค์ ครองได้ 22 ปี สิ้น พ.ศ.162

พระเจ้าจันทคุตต (จันทรคุปต) ครอง 24 ปี สิ้น พ.ศ. 186(พระเจ้าอเล็กซันเดอร์มหาราช ประสูติ)
พระเจ้าพินทุสาร(บิดาพระเจ้าอโศกมหาราช) ครอบ 28 ปี สิ้น พ.ศ.214

พระเจ้าอโสกปราบจลาจล(พระเจ้าอโศกมหาราช) จาก พ.ศ.214-218 จึงราชาภิเศกครองอยู่40 กว่าปี (พระเจ้าโลกลว้า หรือ โลกนลว้าราชธิบดี กษัตริย์สุวรรณภูมิแหลมทอง ครองเมือง พ.ศ.220 และได้ส่งกองกำลังไปช่วย พระเจ้าอโศกมหาราช ปราบจลาจล ซึ่งเป็นสหาย)

(พระเจ้าอเลกซันเดอร์มหาราชสิ้นพระชนม์ พ.ศ. 219 พระชนมายุได้ 33 พรรษา จึงประสูติ พ.ศ.186 ฉะนั้น
องค์พระเจ้าอโศกมหาราชทรงมีอำนาจ หลัก พระเจ้าอเลกซันเดอร์มหาราช สิ้นพระชน แสดงได้ว่า อยู่คนละสมัยครับ)
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

เราจะไม่พูดถึงยุคขุนสรวงกับขุนนางสาง ไม่พูดถึงยุคแถน ยุคแผน ยุคแมน ซึ่งเป็นยุค ชาดก หรือยุกก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งไทยเรามีบันทึกจดจำกันมามากว่า 8,000 ปี ขึ้นไป แต่จะพูดถึงยุคเริ่มต้นประวัติศาสตร์ คือมีศักราชใช้เป็นครั้งแรก เรียกว่า ศักราชปีอิน
ใช้ศักราชปีอนมากประมาณ 4,150 ปี จึงเปลี่ยนศักราชใหม่เรียกว่า
ศักราชปีโล นี้เองเป็นการเริ่มต้น เมืองทอง(สุวรรณภูมิ) ขึ้นที่พื้นที่จังหวัดราชบุรี ในพื่นที่จังหวัดนี้เอง เรามีการย้ายที่ตั้งเมือง อยู่หลายครั้ง เช่นตั้งที่ เขางูบ้าง ที่บ้าคูบัวบ้าง ย้ายไปย้ายมา
ดูจากหนังสือประวัติเมืองราชบุรี ที่ทางจังหวัด เคยพิมพ์ขึ้นพบหลักฐานแสดงว่าเคย เป็นเมืองใหญ่มาก่อนอย่างมากมาย และมีการขุดค้นพบซากกำแพงเมือง อาณาเขต ทั้งที่เขางู และคูบัว เอาเป็นว่าผู้ตั้งศักราชปีโล 1 ขึ้นนี้ชื่อ พ่อขุนโลลาย พระอัครเทวีชื่อ ขุนหญิงโห่มาดี
ท่านสร้างเมืองทองขึ้นก่อนเสร็จแล้วฉลองเมืองเปลี่ยนศักราชปีอืนมา เป็นศักราชปีโล 1

ตอนเปลี่ยนนั้นศักราชปีโล 1170 ปี พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธพรรษาที่ทรงผนวชได้ 25 พรรษาแล้ว

การที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งสมณฑูตมา เผยแพร่ กันนั้น ที่นั้นต้องมีเมือง หรือมีประชากรให้เผยแพร่ก่อน ครับ งั้นไม่ข้ามน้ำข้ามทะเล มาเผยแพร่ ครับ

ศาสนาพุทธเข้ามาในประเทศไทย เมื่อครั้ง พระพุทธองค์ทรงผนวชได้ 25 พรรษาแล้วและทาง พระปุณณมหาเถรเจ้า ได้เชิญ พระเจ้าทับไทยทอง (กษัตริย์เมืองสุวรรณภูมิ) ไปเฝ้า จนได้ดวงตาเห็นธรรม ห่างจาก พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งสมณฑูต มากว่า 200 ปี ครับ
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

พระเจ้าทับไทยทอง สิ้นพระชนม์ พ.ศ.12 รูปจำลอง สมัยแหลมทองสุวรรณภูมิ ครับ สร้างมาเป็น พันปี ครับ
จารึกกระเบื้องจาร เขียนเล่าว่า
ขุนทัพไทยทอง พ่อเมือง สุวรรณภูมิ จอมคนชาวว้าเมียชื่อ งามตาเรืองฟ้า มีลูกชายชื่อ ทองจอมฟ้า ลืองามอินข่าวพุทธถอหู(สาสนจากพระเจ้าพิมพิสาร)แล้วท่านเดินทางเรือ ไปราชคฤหพบจอมมคธ ชื่อ พิมพิสาร เข้าเผ้านนท พาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ทรงแสดง อนุปุพพิกถา และธัมมจักกัปวัตตนสูตร ให้เข้าใจแจ้งชัด เหนธัมมได้โสดาอริยบุคคลในพุทธศาสนา
ขุนทับไทยทอง ผู้เจ้าในถิ่นแดงไทย สุวรรณภูมิ ท้าวกลับถึงบ้านเมืองแล้ว เริ่มเผยแพรความรู้ บุญมุนี ท่านมาดอมกัน แสดงธัมมมัคผล ในเมืองสุวัณณภูมิ และพวกสุนาปรันต แล้วสร้างอุโบสถอารามชื่อ วัดปุณณาราม ดำงอริยสงฆ์ แล้วมอบเถรบุณ <STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>


<HR width="95%">

<TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=1><TBODY><TR><TD class=attachheader align=middle width="100%" colSpan=2>10.jpg</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%">คำจำกัดความ:</TD><TD class=attachrow width="75%"><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=attachrow></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%">ขนาดไฟล์:</TD><TD class=attachrow width="75%">53.96 กิโลไบต์</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%">เข้าชม:</TD><TD class=attachrow width="75%">7 ครั้ง</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><HR width="95%">

_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

เริ่มสมัยสุวัณณภูมิ

พระเจ้าทับไทยทอง สิ้นพระชนม์ พ.ศ.12

พระเจ้าทองจอมฟ้าราชโอรส พ.ศ.73

พระเจ้าลือเลอลว้า (พ่อขุน)

พระเจ้าโลกลว้า หรือ โลกนลว้าราชธิบดี ครองเมือง พ.ศ.220 พระเจ้าอโศกมหาราช(เป็นสหาย)

พระเจ้าตะวันอธิราชเจ้า ราชโอรสพระเจ้าโลกลว้า (เจริญวัฒนธรรมสุด ๆ มีการเดินทางไปรับฟังพุทธองค์สั่งสอนธรรม)

ขุนเดือนเด่นฟ้าขอมพิษณุ(เดือนเด่นฟ้า และ ดาวเด่นฟ้า) พ.ศ.272 (สร้างเมืองนครศรีธรรมราชครั้งแรก)มีทัพเรือ โรงเรียนทัพเรือ และกองกำลังที่ยิ่งใหญ่

หลังจากนี้ กษัตริย์สุวรรณภูมิ องค์สุดท้าย
พระเจ้าจันทรภาณุ ครองสุวรรณภูมิ เมื่อ พ.ศ.1000
ออกศึก ชมพูทวีป พ.ศ.1020 ไปเป็นมหาราชในเมืองอินเดีย
ให้ขุนหาญบุญไทย น้องชาย ดูแลเมือง

พระเจ้าจันทรภาณุ มีบุตร 2 คน (ก่อตั้งเมืองใหม่)
1.ขุนอินไสเรนทร (องค์ท้าวจตุคาม)
2.ขุนอินเขาเขียว (องค์ท้าวรามเทพ)

ขุนอินไสเรนทร-ขุนอินเขาเขียว ขึ้นปกครองเมืองนครศรีธรรมราช พ.ศ.1027 ใช้ชื่อเมืองว่า ศรีวิชัยสุวัณณภูมิ

ขุนหาญบุญไทย ได้ครองสุวรรณภูมิ พ.ศ.1030-1035 และก็ย้ายไปสร้างเมืองใหม่ที่ หน้าเขางู จ.ราชบุรี

ทำให้เมืองแยกออกเป็น 3 กลุ่ม
1.ศรีวิชัยธัมมราช (นครศรีธรรมราช) ขุนอินไสเรนทรสร้าง พ.ศ.1023-1026
2.ราชพลี (สุวัณณภูมิ) ขุนหาญบุญไทย สร้าง พ.ศ.1030-1035
3.ไทยทวาลาว (เถือมทองนครปฐม) ขุนฟ้าเมืองไทย สร้าง พ.ศ.1112-1122(ก่อนทำการย้ายเมืองไปตั้งเป็นกรุงสุโขทัย)
<STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

ขึ้นยันต์ครับ เรียกว่า พระเจ้าเปิดโลก
ให้เขียนยันต์ ใส่ในมือ แล้ว ว่าคาถา "พุทโธโลกะสังมิ"
* ธะวิรุณยะกำบังสะระณังคัดฉามิ*
*ตันโตสีละสมาธิ ธะตันติจิวะรัง* <STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>

<HR width="95%">​

<TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=1><TBODY><TR><TD class=attachheader align=middle width="100%" colSpan=2>18.jpg</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> คำจำกัดความ:</TD><TD class=attachrow width="75%"><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=attachrow></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> ขนาดไฟล์:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 3.16 กิโลไบต์</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> เข้าชม:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 2 ครั้ง</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

<HR width="95%">
<HR width="95%">​

<TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=1><TBODY><TR><TD class=attachheader align=middle width="100%" colSpan=2>17.jpg</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> คำจำกัดความ:</TD><TD class=attachrow width="75%"><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=attachrow></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> ขนาดไฟล์:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 26.63 กิโลไบต์</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> เข้าชม:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 2 ครั้ง</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เปิดโลกคล้ายกับ การทำสังเค เป็นการบอก 3 ภพ หรือ พระเจ้าเปิดโลก ครับ
พ่อท่านคล้ายท่านก็มีครับ
ท่องไม่ยาว ครับ แล้วแต่สูตร ขอ ใครครับ แล้วจะ พยายามหามาให้ ศึกษา เพราะพ่อท่านหรีด ท่านท่องให้ฟังครับ
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

กราบขออนุญาตอาจารย์ผู้ว่าวิชาพระเวทย์ ณ ที่นี้ด้วย
เรื่อง นี้เป็นการออกเสียงนะครับ หี = ฮี
การว่าภาษา ก็จะออก ทะลึง ครับ ผมได้ฟัง จาก หลายท่าน อาจารย์จะว่า แนวทะลึง นิด ๆ คับ ว่าแล้วขลัง เรียกใช้ได้ตลอดครับ
www.khuntalebuddha.com <STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>

<HR width="95%">​

<TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=1><TBODY><TR><TD class=attachheader align=middle width="100%" colSpan=2>19.jpg</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> คำจำกัดความ:</TD><TD class=attachrow width="75%"><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=attachrow></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> ขนาดไฟล์:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 46.38 กิโลไบต์</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> เข้าชม:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 1 ครั้ง</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

<HR width="95%">
<HR width="95%">​

<TABLE class=attachtable cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=1><TBODY><TR><TD class=attachheader align=middle width="100%" colSpan=2>20.jpg</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> คำจำกัดความ:</TD><TD class=attachrow width="75%"><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=attachrow></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> ขนาดไฟล์:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 23.55 กิโลไบต์</TD></TR><TR><TD class=attachrow width="15%"> เข้าชม:</TD><TD class=attachrow width="75%"> 1 ครั้ง</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>


</TD></TR></TBODY></TABLE>
นำมาฝากขั้นรายการครับ
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล
www.khuntalebuddha.com

 

ขออนุญาต ท่านอาจารย์ผู้ว่าพระเวทย์ มนต์ เกาะเพชร วัดขนอมเหนือ
ด้วยศรัธาต้อง คาถา พระเวทย์ มนต์ เลขยันต์
นำมาเพื่อป้องกัน การเสื่อมสลาย ของดีจะสูญหาย
กราบอนุญาต ณ ที่นี้

ด้วยการเขียนขึ้นมาเอง จะได้เป็นการศึกษา ให้ความสนใจตั้งใจ ในการปฏิบัติที่แท้จริง จะไม่ถ่าย แต่ผมจะใช้ การเขียนมือ ขึ้นใหม่ เพื่อความถูกต้อง ในการปฏิบัติครับ ไม่ผิดครูใครครับ ผิดถูกอยู่ที่ผู้เขียนทั้งสิ้น หากผิดพลาดไปการใด กราบขออภัยพี่ ๆ เพื่อนมา ณ ที่นี้ด้วย

ยันต์ใช้สำหรับคนป่วยดีครับ

 

ต้นตะกูลไทยที่มีสายพันธ์สืบสานมา ไม่ใช้มาจาก ต่างดาวที่ไหน...ครับ
พระเจ้าโลกลว้า หรือ โลกนลว้าราชธิบดี ครองเมือง พ.ศ.220 พระเจ้าอโศกมหาราช(เป็นสหาย)
เป็นบิดาพระตะวันอธิราชเจ้า
ลักษณะ
มือขวาและมือซ้ายงอนิ้วกลางเป็นวง มัชฌิมาปฏิปทา

แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล
www.khuntalebuddha.com

 

<CENTER>ประชาสัมพันธ์ </CENTER>

ท่านใดจะร่วมทำบุญบูชาเหรียญ พ่อหลวงวัดขนาย เนื้ออาปาก้า เหรียญมีโค๊ด ทุกเหรียญมีเลข ทุกเหรียญครับ ราคาบูชา ณ วัดขนาย ทำบุญ 499บาท ท่านใดสนใจเก็บไว้บูชา ก็ คลิ๊กรวมบุญ สั่งได้นะครับ ค่าจัดส่ง 50 บาท ด้วยครับ ชื่อบัญชี ชาคริต นาคพันธุ์ 808-0-03744-2 กรุงไทย ครับ ส่วนรุ่นอื่น ๆ พิมพ์อื่น ผมแล้วจำไม่ได้มีอะไรบ้าง จำได้รุ่นนี้เพราะบูชามา ก็เลยมาชวน เพื่อน ๆ พี่ ๆ ครับคิดว่าเป็นเหรียญที่น่าเก็บ เหรียญหนึ่งครับ เป็นพระพิมพ์ปี 2549 แต่ปลุกเสกออกในปี 2551 ครับ เนื้องานใช้ได้ถึงจะออกราคาตรึงไปนิด แต่งานดีครับผมก็เลยเก็บไว้ 1 เหรียญ เลยฝากมาบอกเพื่อน ๆ พี่ ๆที่สนใจ เพราะผมจะเข้าไปที่วัดในอาทิตย์หน้า จึงถือโอกาสบอกบุญครับ (พร้อมแจ้งที่อยู่หน้ากระดานด้วยนะครับ)(คลิ๊กชมภาพครับ) /ต่อพ่อขุนทะเล ​

 

วันนี้ผมนำ เกี่ยวกับ ด้านเมตตา มหานิยม ทางด้าน เป็นการลงใบรักซ้อน ,และ ใบรัก
ยันต์ใบรักซ้อน และ ยันต์ใบรัก เป็น 2 แบบ
**ยันต์ใบรักซ้อน**
"คุณคุนะอาคัตฉัยยะ อาคัตฉับหิ โอมสิ"" เมชิเนเทปะริปาถาทุติสะยะเนกะ"
รักซ้อน โบราณ******ใช้******* ไม่หมดครับ พอเป็นพิธี *****เพราะไม่ดี มาก กว่าดี

**เอายันต์ใบรัก ดีกว่ามีคนเข้าศึกษากันบ้างแล้ว**


**ยันต์ใบรัก**
เสกใบรัก
ถ้าหากเรารักผู้หญิงคนใด ให้หาใบรักซ้อน เขียนชื่อนามสกุลใส่ในใบรักนั้น แล้วเสกเป่าด้วยคาถาบทนี้ 3 ครั้ง แล้วซุกไว้ใต้หมอนที่เรานอน ในไม่ช้าก็จะทำให้หญิงนั้นมีจิตใจ หลงใหลเมตตาสงสารเรา และก็จะกลายเป็นความรักต่อไป
o โอม อิทถี อี ............................
ม-งจะต้องรักกู ม-งจะร้อนใจ ทนอยู่มิได้
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
นะมะอะอุ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา
เอหิพะหูชะนา เอหิจงมา นะโมธัมมายะ
นะโมสังฆายะ เอหิจิตตัง ปิยัง มะมะ
ข้อห้ามสำหรับคาถาบทนี้ หากว่าเราไม่ต้องการจริงจัง เพียงแต่จะทำหลอกเขาล่ะก็ อย่าได้ทำอย่างเด็ดขาด หากเขาตามมาแล้ว จะต้องเลี้ยงดู อยู่กันกันตามประสาสามี ภรรยาตลอดไป ห้ามมิให้ทอดทิ้งเขา และถ้าหากเป็นภรรยาของคนอื่น ที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว ห้ามใช้คาถานี้อย่างเด็ดขาด อาจจะเกิดพิบัติขึ้นกับตัวเองได้
ถ้าหญิงจะเอาไปใช้ก็ได้นะแต่เปลี่ยนตรงอี เป็น ไอ้ คำว่าเมียหมายถึงแต่งงานแล้ว ถ้าเป็นแฟนกันอยู่ยังไม่แต่งเขียนได้สำหรับวัยรุ่น นะ แต่ดูข้อห้ามให้ดีนะคับ ถ้าใครไม่ทำตามข้อห้ามผมจะสาปแช่งให้ ร่ม จม ตลอดไป

ตามที่ใครใช้แล้วเป็นภัย จะเข้าตัวครับ

***ตามด้วยเขาว่าให้แก้อย่างนี้****
ทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน

ตามความเชื่อโบราณ พิธีกรรมนี้จะจัดหาใบรักซ้อนมา 2 ใบ และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำพิธี เช่น น้ำมันจันทน์ ขน สายสิญจน์ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด มาสวดเรียกจิตให้รัก และเขียนชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิดลงในใบรัก และกำหนดจิตวาดรูปคนนั้นลงในใบรักจากนั้นบริกรรมคาถา…..


****วิธีแก้****

นำรูปถ่ายของสามีมาทำการสวดบริกรรมคาถา ดึงจิตกลับมาที่หน้าหิ้งพระ โดยเขียนชื่อตัวเราประกบกับสามี และสวดคาถา ดังนี้


อิติปิโส 9 จบ (และสวดคาถาไล่ลูกเสน่ห์ต่อ)


นะเนโม สุคะโต อะติตา จะนะโม สุคะโต

ปัจจุปันนา จะนะโม สุคะโต อนาคะตา ปัจจะพุทธา

นะมามิหังฯ สัพเพ เทวา ยักขา

ปริตาปะโร อัคคะเนวา ชาเมตะยะ มะนุสสา

สัพเพโกทา วินาสันติ ทะสาตันจะ ปิยังมุกคะ

ปัตโต สะเนโห สัพเพชะนะ

ปะระชาญะ มหาโภโค มหายะโส โพยะสะเต

วินาสสันติฯ (9 จบ)

แล้วนำชื่อประกบกันไว้ใต้พระจะดีขึ้นแล

ไม่แน่ใจให้ผู้รู้ผู้ชำนาญเป็นผู้แนะนำจะดีที่สุดครับ "ร้ายมากกว่าดี"
ใช้เพื่อการศึกษาเท่านั้นครับ

 

คณะผู้เผยแพร่ธรรม
ครั้งนั้นผู้คนที่มีศรัทธาต่อพระโสรเถระและอย่ากมาเมืองทอง สมัครมาเป็นจำนวนมาก แต่ท่านเลือกเอาทั้งหญิงชายเพียง 38 คนเท่านั้น ที่ปรากฎชื่อในจารึก เช่น อตุลยะ อปัจจะ และเมียชื่อ อุตลยา เป็นอิสสรพรหมณ์ นอกนั้นมี เขมกอุบาสก อนีฆาอุบาสิกา เป็นต้น
ส่วนสงฆ์ท่านเลือกล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ มีจำนวนครบ 5 รูป เป็นคณะ ที่จะให้การอุปสมบทได้ และสวนพระปาติโมกข์ได้ มีนามตามลำดับดังนี้
1.พระฌานียะมหาเถระ
2.พระอุตตระมหาเถระ(เจ้าของตำราที่ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชใช้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก)
3.พระภูริยะมหาเถระ
4.พระมูนียะมหาเถระ
รวมทั้งท่านพระดสณเถระเองด้วยเป็น 5 ท่าน
จากนั้นก็ได้เดินทางโดยทางเรือ แวะพักที่เมืองช้างค่อมหรือนครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อมายังเมืองทองสุวรรณภูมิถึงเมื่อเดือนอ้าย ขึ้น 14 ค่ำ พุทธกาลล่วงแล้วได้ 235 ปีฉลู
พระเจ้าโลกละว้าราชาธิบดี พร้อมด้วยขุนหญิง (พระราชินี) ข้าราชบริพารฝ่ายใน ฝ่ายนอกมหาชนพากันไป ต้อนรับเป็นอันมาก ด้วยความชื่นชมยินดี
โดย หนังสือพุทธศาสนาในตำนานสุวรรณภูมิ
ไทยสะกอ [/b]
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

พระสวยครับกรรมการกดมือรุ่น ราชันสยาม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

 

หลัง

 

คลิก

 

คลิก

 

นำหลักย่อยมาให้ เพื่อนๆ
การเตรียมตัว
ขันครู ตั้งไว้บูชาครูขณะที่ลงยันต์ โดยการลงยันต์นั้น จะต้องผ่าน กระบวนการ 4 อย่าง คือ พินทุ,สัมผุส,สัมผัส,และปัจจัย
เรื่องนี้ผมว่าเป็นเรื่องสำคัญ ในการ ดำเนินการ เรียกว่า หลักการ ที่ทาง ครูบาอาจารย์ ได้ตั้งไว้ เป็นกรอบในการเขียน
1.พินทุ คือ การจรดเหล็กจารลงที่แผ่นทอง เป็นต้นเพื่อจะลงอักขระ ตัวใตตัวหนึ่งของยันต์ที่เราจะลง
เช่น "นะ" ก็ว่า นะ กาโร โหติ (นะ)
2.สัมผุส คือ การเขียนให้อักขระปรากฏ ให้ว่าแล้วเขียนให้เป็นตัวอักขระชัดเจนด้วยตัว "นะ" ให้ว่าต่อจาก พินทุ ดังนี้ครับ (นะ กาโร โหติ) นะ สัมภะ โว (นะ) จงมาบังเกิดเป็น "นะ"
3.สัมผัส คือ เมื่อ พินทุ และสัมผุส แล้ว ก็ให้อ่าน ทบทวนดูว่า ลงตัว "นะ" ถูกต้องหรือไม่ (เป็นการทบทวนการเขียนครับ) ไม่ใช้ลงตัวนะแต่ไพล่ ไปลงตัว "มะ"
4.ปีจจัย เมื่อผ่านพินทุ,สัมผุส,และสัมผัส แล้ว ก็มีการปลุกเสก เอง หรือให้ผู้อื่นปลุกเสกอย่างละกี่คาม 7 คาม 9 คาม 108 คาม แล้วแต่ครูบาอาจารย์จะกำหนด สั่งตามตำรา ที่ร่ำเรียนมา จึงจะเสร็จครบถ้วน ขบวนการ

ยันต์ที่ต้องมี
1.ยันต์หัวใจพระเจ้า 5 พระองค์ คือ นะ โม พุท ธา ยะ
2.ยันต์หัวใจธาตุ 4 คือ นะ มะ พะ ธะ
3.ยันต์หัวใจพระธาตุกรณี คือ จะ ภะ กะ สะ
4.ยันต์หัวใจแก้ว 4 ดวง คือ นะ มะ อะ อุ
ที่เคยว่าไปแล้วเืมื่อต้น ๆ

ที่ต้องมีก็แผ่นทองคำ,แผ่นทอง,แผ่นเงิน ,แผ่นตะกั่ว,ไม้มงคล,ใบลาน,ผ้า ฯ

ที่ต้องมีขาดไม่ได้ครับ เหล็กจาร หรือ ดินสอจาร หรือ แท่งผง

ส่วนตัวผลเอง ยังปฐมวัย ก็ยังคง คัดตัวอักษรอยู่ครับ ยังไม่สามารถ ดำเนินการตามที่ กล่าว เพราะ ผมเป็นคนที่ ปฏิบัติ ไปแบบไม่เร่งรีบ ทำไปเรื่อย ๆ แต่ทำทุกวันครับ ผมก็ยัง หัดคัด อักษร สระ ต่าง ๆ ครับ เหมื่อนเขียน ก,ข,ค ไปกับเด็ก ๆ ครับ

เรื่องการค้นคว้าเพิ่มเติมผม ก็ทำต่อไปเรื่อย ๆ ครับ จะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ดีกว่าไม่ทำเอาเลย นะครับ
ผมก็ขอเสนอแนะ ว่า่ท่านใดที่ สนใจ ผมให้พวกพี่ ๆ เพื่อนๆ เขียน ตัวอักษร สระตามผม ผมว่า วัฒนธรรมไทยเดิม จะไม่สูญหาย ครับ

ภาษาอื่น ๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่ง หรือ ญี่ปุ่น เกาหลี ผมคงไม่เอา เพราะว่าใจไม่ไปครับ คนเรียนมากแล้วครับ ให้รุ่นเด็ก ๆ เรียนไปดีกว่า

ท้ายนี้ขอให้พี่ ๆ เพื่อน ๆทุกคนมีความสุขในการ ค้นคว้าฝึกฝน การเขียนขอม พร้อม ๆ กันนะครับ อันไหนจะให้ผม ค้นคว้าเพิ่มเติมก็ เขียนมาบอกนะครับ จะพยายามหาให้ได้มาที่สุดครับ
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

พระเจ้าตะวันอธิราช แหลมทองสุวรรณภูมิ
มือขวาถือคนโท มือซ้ายถือขัน หมายถือ เที่ยวหลั่งน้ำอมตธรรมสร้อยทำเป็นรูปตะวันทรงกลดช่อ รีบอกพระนาม

 

ยันต์เมียรัก(ping)

 

ด้วยความว่า กล่าวเรื่อง เลขยันต์ และได้ กล่าวถือ ตัวอักษร"นะ" ก็ให้ตัวอย่าง ตัวนะที่เรียก กันว่า"นะ"แต่จริง ๆ เป็นตัวเขียนที่ คล้ายตัว "นะ" ซึ่งมีอาจารย์ได้นำไปใช้ และเกิดผลดี มีความหมาย และที่มา น่าสนใจครับ
มาจากคำ อักษรตัวแรก ของ โลกที่ ท่านมหาพรหม ได้เห็น จากดอกบัว 5 ดอก นะ โม พุท ธา ยะ เกินขึ้นบนโลกนี้ มีการใช้และการเขียนที่ มีแบบแผน ครับ
มีหลักการชัดเจน การลากเส้น ชักเส้น ว่าคาถา และ ระบุ
ผมเห็นว่าหลาย ๆ คนคง เคยเห็นแต่ไม่รู้เรียกกันว่าอะไรบ้างผมก็นำมาให้ชมดู ครับเพราะในหนังสือ นะ 108 ก็มีบอกไว้หมดครับ ใครไม่ได้อ่าน ผมก็จะขึ่้นใ้ห้อ่านกันเรื่อย ๆ ตามแบบ เด็กฝึกหัด นะครับไม่ว่ากันนะครับ