.แม้ใจมีแต่ให้..แต่อยู่ในโลก..ต้องกระทบทั้งรักและชัง.

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมโพธิสัตโต, 31 สิงหาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1664067/[/MUSIC]
    ....................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กันยายน 2011
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [​IMG]


    ฟ้าเบื้องบน

    ..แม้ดูคล้ายจะเปลี่ยนไป


    แต่นั่นเป็นแค่ผลจากแสง ที่อาศัยส่องผ่านมาในความว่างและ กว้างไกลของฟ้า

    และนั่น เป็นแค่มายาไม่เที่ยงแท้ของเมฆ หมอก ที่มาอาศัยท้องฟ้า แสดงตนอยู่



    .กี่คนจะมองทะลุ ไปถึงสภาพที่ว่าง กว้างไกลของท้องฟ้า ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SkyHeart3.jpg
      SkyHeart3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.6 KB
      เปิดดู:
      898
    • kkkkk.jpg
      kkkkk.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.1 KB
      เปิดดู:
      1,086
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 สิงหาคม 2011
  3. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [​IMG]


    ยึดมั่นในอารมณ์รัก(แบบโลก)..
    จนกระทั่งน้อยใจ แค้นใจ ชิงชัง ฯลฯ
    จน กระทำอกุศลกรรมต่อกัน

    แม้อีกฝ่าย จะให้อภัย ไม่ต่อกรรมต่อภพชาติ ...ด้วยรักแท้ ที่เข้าใจ ในสิ่งที่อยู่ฉากหลังของความทุกข์แห่งสรรพสัตว์
     
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    รักจนแค้น ..จากชาดก...



    <!--cached-Sun, 28 Aug 2011 09:10:09 +0000-->ณ พระเชตุวันมหาวิหาร อันร่มรื่นอุดมไปด้วยป่าไผ่

    มีนางภิกษุณีรูปหนึ่ง เป็นบุตรสาวของตระกูลหนึ่งในนครสาวัตถี เห็นโทษภัยในการเป็นฆราวาส แล้วออกบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าศรีศากยมุนี ไปฟังธรรมพร้อมด้วยหมู่นางภิกุษุณี

    ได้เห็นพระพุทธเจ้าทรงมีรูปโฉมอันงดงาม ทรงประทับอยู่เหนือธรรมมาสน์ กำลังทรงแสดงพระธรรมเทศนา

    นางภิกษุณีจากสาวัตถีคิดว่า เมื่อเราได้เวียนว่ายตายเกิดในภพชาติ ได้เคยเป็นภรรยา ของมหาบุรุษผู้นี้หรือไม่ ในทันใดนั้น นางภิกษุณีก็ระลึกชาติได้ว่า เคยเป็นอนุภรรยาของมหาบุรุษนี้ในคราวที่พระองค์ทรงเป็นพญาช้างฉัททันต์
    เมื่อนางภิกษุณีระลึกได้อย่างนั้น จึงหัวเราะเสียงดังด้วยความสุขดีใจเป็นอย่างมาก นางภิกษุณีคิดต่อว่า อันอนุภรรยาภายใต้การดูแลของบุรุษโดยส่วนมากจะมุ่งแต่ประโยชน์ตนเป็นใหญ่ ตามประสาผู้มีน้อย จึงยอมเป็นอนุภรรยา ย่อมอยากครอบครองประโยชน์สุขมาก ย่อมมุ่งแต่ประโยชน์ตนและครอบครัวเดิมของตนไว้ก่อน อนุภรรยาที่มุ่งประโยชน์ต่อสามีผู้ดูแลตนนั้นมีน้อยมาก นางภิกษุณีจึงได้สงสัยว่า เรานี้มีนิสัยมุ่งต่อประโยชน์มหาบุรุษผู้นี้หรือไม่ พอนางภิกษุณีคิดดังนี้ ก็ระลึกได้ต่ออีกว่า ที่จริงแล้ว นางได้กระทำความผิดต่อมหาบุรูษผู้นี้ไว้มาก ผูกแค้นพยาบาทน้อยใจที่สามีไม่ดูแล ไม่รักลำเอียง จ้างนายพรานโสณดรให้เอาลูกศรอาบยาพิษยิงพญาช้างฉัททันต์ สามีในอดีตตาย เมื่อคราวเกิดเป็นพระมเหสี พอนางภิกษุณีระลึกต่อได้อย่างนี้ ก็เศร้าโศก ร้องไห้เสียงดัง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 สิงหาคม 2011
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นแล้วก็ทรงแย้มสรวล หมู่ภิกษุที่นั่งแวดล้อมฟังพระธรรมเทศนาเห็นดังนั้น จึงทูลถามพระองค์ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หมู่ข้าพระพุทธเจ้าสงสัยว่า เหตุใดพระองค์จึงทรงแย้มสรวล พะย่ะค่ะ พระองค์จึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย นางภิกษุณีผู้นี้ระลึกชาติที่เคยเป็นอนุภรรยาภายใต้การดูแลของเราได้ จึงหัวเราะ แล้วระลึกถึงความผิดที่เคยทำต่อเรา ในชาติก่อนได้ เลยร้องไห้ แล้วทรงแสดงฉัททันต์ชาดก คราวที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ เกิดเป็นพญาช้างฉัททันต์
    เมื่ออดีตกาล มีฝูงช้างป่าประมาณ 8000 เชือก อาศัยอยู่บริเวณสระฉัททันต์ในป่าหิมพานต์ มีฤทธิ์เหาะได้ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกของช้างจ่าโขลง เป็นช้างผิวขาวเผือก พอเติบโตเต็มที่ สูง 88 ศอก ยาว 120 ศอก มีงวงดังพวงเงินด้วยผิวกายขาวยาวถึง 58 ศอก งาทั้งคู่ แต่ละข้างวัดโดยรอบที่ฐานได้ถึง 15 ศอก ยาว 30 ศอก มีรัศมีเปล่งประกายออกมาถึง 6 สี
    เมื่อโตเต็มที่พญาช้างฉัททันต์ได้เป็นจ่าโขลง ปกครองช้างทั้ง 8000 เชือก มีจิตศรัทธาบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง 500 องค์ อัครมเหสีของพญาช้างฉัททันต์มี 2 เชือก คือ จุลลสุภัททา และมหาสุภัททา ร่วมปกครองเหล่าช้างทั้งหมด รอบสระฉัททันต์ที่กว้างใหญ่ ไม่มีสาหร่าย จอกแหน หรือ เปลือกตม น้ำใสดังแก้วมณี มีต้นจงกลนีขึ้นปกคลุมล้อมรอบ มีกอบัวหลากหลายพันธุ์ มีทุ่งข้าวสาลีแดงป่าขึ้นโดยรอบ แผ่ปกคลุมโดยรอบไปไกลถึง 16 กิโลเมตร ถัดจากทุ่งข้าวสาลีแดงป่า มีกอตะไคร่น้ำขึ้นสสับกับหมู่ดอกไม้หลากสีสันนานาพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมฟุ่งกระจายไปทั่วป่า ถัดจากป่าดอกไม้ ก็มีป่าแตงโม ฟักทอง น้ำเต้า ป่าอ้อยที่มีขนาดลำต้นเท่าต้นหมาก ถัดจากป่าอ้อยมีป่ากล้วยที่มีผลโตเท่างาช้าง ถัดจากป่ากล้วยก็มีป่าไม้รัง ป่าขนุนหนัง ที่มีผลโตขนาดเท่าตุ่ม ถัดจากป่าขนุนหนัง ก็มีป่าขนุนสำมะลอ ที่มีผลอร่อย ถัดจากป่าขนุนสำมะลอ ก็มีป่ามะขวิด มีพันธ์ไม้ปะปนกันมากมาย ถัดไปก็เป็นป่าไผ่รอบล้อม ภูเขาล้อมรอบป่าไผ่อีกถึง 7 เขา ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเขาสุวรรณปัสส มีต้นไทรใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขากว้างไกลออกโดยรอบไกลถึง 192 กิโลเมตร อีกด้านหนึ่งถ้ำใหญ่ ที่พญาช้างฉัททันต์ มหาสุภัททา จุลลสุภัททาและเหล่าช้างบริวารทั้ง 8000 เชือกสามารถหลบฝนได้
     
  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    เมื่อถึงคราวหน้าไม้รังออกดอกบานสะพรั่ง พญาช้างฉัททันต์ชวนมเหสีทั้งสองพร้อมเหล่าบริวารไปเล่นชมดอกไม้รัง พญาช้างฉัททันต์เอากระพอง(ส่วนนูนเป็นปุ่ม 2 ข้างศีรษะช้าง)ชนไม้รังต้นหนึ่งที่มีออกดอกสพรั่ง กิ่งไม้ร้งแห้งที่มีใบไม้รังเก่า ๆ มีมดแดง ตกใส่ร่างช้างจุลลสุภัททาที่อยู่เหนือลม มดแดงก็กัดนางช้าง แต่นางช้างมหาสุภัททายืนอยู่ใต้ลม เกสรดอกไม้และใบสด ๆ ก็ตกใส่ นางช้างจุลลสุภัททาคิดว่า พญาช้างสามีนี้รักใคร่โปรดปรานนางช้างมหาสุภัททาเท่านั้น จึงทำให้เกสรดอกไม้ตกใส่แต่นาง แต่รังเกียจเรา ทำให้ใบไม้แห้ง และมดแดงตกใส่เรา เราจะแก้แค้นให้สมกับที่ทำเราไว้
    ต่อมา พญาช้างฉัททันต์เดินลงสระฉัททันต์เพื่ออาบน้ำ มีช้างหนุ่ม 2 เชือกใช้งวงกำหญ้าไทรมาให้พญาช้างขัดกาย พออาบน้ำเสร็จจึงให้นางช้างมเหสีทั้งสองลงอาบพร้อมกัน พอนางช้างอาบเสร็จ ก็ขึ้นมายืนเคียงข้างพญาช้างฉัททันต์ที่ยืนรออยู่บนฝั่ง แล้วช้างทั้ง 8000 เชือกก็ลงอาบ เล่นน้ำกัน นำดอกไม้นานาชนิดจากสระมาประดับตกแต่งพญาช้าง แล้วประดับนางช้างทั้งสอง แต่มีช้างเชือกหนึ่งอาบน้ำเที่ยวเล่นไปในสระ พบดอกปทุมใหญ่มีกลีบ 7 ชั้น จึงนำมาให้พญาช้างฉัททันต์ พญาช้างรับแล้วก็โปรยเกสรลงที่กระพองตนเองแล้วยื่นดอกปทุมใหญ่ให้นางช้างมหาสุภัททา อัครมเหสีใหญ่ นางช้างจุลลสภัททาเห็นแล้วคิดน้อยใจว่า พญาช้างนี้ให้ดอกปทุมใหญ่ที่มีกลีบ 7 ชั้นแต่ภรรยาที่รักโปรดปรานแต่ตัวเดียว ส่วนเราไม่ให้ จึงคิดผูกเวรกับพญาช้างอีก
     
  8. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    อยู่มาวันหนึ่ง พญาช้างฉัททันต์ปรุงผลมะซาง เผือก มันด้วยน้ำผึ้งถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง 500 องค์


    นางช้างจุลลสุภัททาได้ถวายผลไม้ที่ตนหาได้แด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง 500 องค์


    แล้วตั้งความปรารถนาในผลแห่งทานนี้ว่า “ ข้าแต่เหล่าพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เจริญ ถ้าข้าพเจ้าตายแล้ว ขอให้เกิดเป็นธิดาในตระกูลมัททราช มีนามว่า สุภัททาราชกัญญา พอเจริญวัยโตเป็นสาวแล้ว ขอให้ได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี เป็นที่รักใคร่โปรดปรานของพระองค์ จนสามารถทำอะไรก็ได้ตามชอบใจ สามารถทูลพระองค์ให้ทรงใช้นายพรานคนหนึ่งมายิงพญาช้างฉัททันต์ตายด้วยลูกศรอาบยาพิษ และให้นำงาทั้งคู่อันเปล่งประกายด้วยรัศมี 6 สีมาได้ด้วย “

     
  9. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    หลังจากนั้น นางช้างจุลลสุภัททาก็ไม่กินอาหารและน้ำเลย จนร่างกายซูบผอมลง ไม่นานก็ตายแล้วไปเกิดในครรภ์ของพระอัครมเหสีของพระราชาแห่งแคว้นมัททราช พอประสูติ มีพระนามว่า สุภัททาราชกัญญากุมารี พระชนกชนนีพาไปถวายแด่พระเจ้าพาราณสีตั้งแต่ยังเด็ก สุภัททาราชกัญญากุมารีเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าพาราณสีอย่างมาก พอโตขึ้นก็ได้เป็นอัครมเหสีปกครองนางสนมทั้งหมื่นหกพันนาง ต่อมาพระนางสุภัททราชกัญญาระลึกชาติที่เคยเป็นนางช้างจุลลสุภัททาได้ พระนางยังทรงมีจิตคิดผูกเวรกับพญาช้างฉัททันต์อดีตสามีอยู่ ทรงดำริว่า ความปรารถนาของเราจะสำเร็จแล้ว ในคราวนี้ที่เราเป็นอัครมเหสีแห่งพระเจ้าพาราณสีนี้ เราจะเอางาทั้งคู่อันเป็นที่รักยิ่งของพญาช้างมา
    ด้วยมารยาแห่งหญิง พระนางก็ทรงแสร้งประชวร มีพระอาการเป็นไข้ เอาน้ำมันทาตัว ทรงผ้าที่ให้เศร้าหมอง ทรงแสดงกิริยาให้น่าสังเวชยิ่งนัก เสด็จเข้าสู่ห้องสิริยาสน์ บรรทมเหนือพระแท่นน้อย
    พระเจ้าพาราณสีเมื่อทรงไม่ทอดพระเนตรเห็นพระนางสุภัททาราชกัญญา จึงตรัสถามมหาดเล็กว่า พระนางสุภัททาไปไหน พอทรงทราบว่า ประชวร จึงเสด็จเข้าไปยังที่ประทับของพระนาง ทรงลูบคลำปฤษฎางค์(หลัง)ของพระนาง แล้วตรัสว่า
    ดูก่อนพระน้องนาง ผู้มีพระสรีระอร่ามงามดังทอง มีผิวพรรณผ่องเหลืองเรืองรอง พระเนตรทั้งสองแจ่มใส. เหตุไรหนอ พระน้องจึงดูเศร้าโศก ซูบไป ดุจดอกไม้ที่ถูกขยี้ ฉะนั้น “
     
  10. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พระนางทรงสดับแล้วตรัสตอบว่า “ ข้าแต่มหาราชเจ้า หม่อมฉันแพ้พระครรภ์ โดยการแพ้พระครรภ์ เป็นเหตุให้หม่อมฉันฝันเห็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่าย. “
    เมื่อพระนางกราบทูลเช่นนี้พระเจ้าพาราณสีเข้าใจโดยทันทีว่า อัครมเสีของพระองค์ทรงแพ้พระครรภ์ อยากได้ในสิ่งที่หาได้ยาก แม้นไม่ได้ ก็คงเศร้าหมองอย่างนี้ จนอาจไม่มีชีวิตที่เป็นสุขได้ แต่ใจพระนางนั้นคงถึงขั้นไม่มีชิวิตอยู่ได้ ด้วยความรักใคร่ในมเหสียิ่งนัก พระเจ้าพาราณสีจึงตรัสว่า
    .
    “ กามสมบัติของมนุษย์เหล่าใดเหล่าหนึ่งในโลกนี้ และในสวนนันทนวัน กามสมบัติทั้งหมดนั้น เป็นของเราทั้งสิ้น เราหาให้เธอได้ทั้งนั้น. “
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พระนางจึงทูลว่า ข้าแต่พระทูลกระหม่อม ความแพ้ท้องของหม่อมฉันแก้ได้ยาก หม่อมฉันจะไม่ทูลให้ทราบก่อนในบัดนี้ ก็ในแว่นแคว้นของทูลกระหม่อม มีพรานป่าอยู่จำนวนเท่าใด ได้โปรดให้มาประชุมกันทั้งหมดเถิดพะย่ะค่ะ กระหม่อมฉันจักทูลให้ทรงทราบ ในท่ามกลางพรานป่าเหล่านั้น. แล้วตรัสว่า
    “ ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ นายพรานป่าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในแว่นแคว้นของพระองค์ จงมาประชุมพร้อมกัน. หม่อมฉันจะแจ้งเหตุที่แพ้พระครรภ์ของหม่อมฉัน ให้นายพรานป่าเหล่านั้นทราบ. "
    พระเจ้าพาราณสีตรัสรับคำ แล้วเสด็จออกจากห้องบรรทม ตรัสสั่งหมู่อำมาตย์ว่า ขอท่านจงตีกลองประกาศเรียกนายพรานป่าทั้งหลาย ที่อยู่ในเขตกาสิกรัฐอันมีอาณาเขตสามร้อยโยชน์( 1 โยชน์ คือ 16 กิโลเมตร ) มาประชุมกัน
     
  12. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ไม่นานหลังจากอำมาตย์ทำตามพระราชโองการแล้ว นายพรานป่าประมาณหกหมื่นคนทั้งแคว้นกาสีต่างก็มาเฝ้าถวายบรรณาการตามแต่จะหามาได้กัน เมื่อพระเจ้าพาราณสีทรงทราบเหล่านายพรานมาพร้อมกันแล้ว จึงประทับยืนอยู่ที่พระบัญชร แล้วชี้พระหัตถ์ตรัสบอกพระนางสุภัททาว่า
    “ ดูก่อนเทวี นายพรานป่าเหล่านี้ ล้วนแต่มีฝีมือเป็นคนแกล้วกล้า ชำนาญป่า รู้จักชนิดของเนื้อ ยอมสละชีวิตเพื่อประโยชน์ของเราได้. “
    พระนางสุภัททาราชกัญญาทรงสดับดังนั้นตรัสเรียกพวกนายพรานแล้ว ตรัสว่า
    “ ท่านทั้งหลาย ผู้เป็นเชื้อแถวของนายพราน ที่มาพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ จงฟังเรา เราฝันเห็นช้างเผือกผ่อง งามีรัศมี ๖ ประการ ฉันต้องการงาช้างคู่นั้น เมื่อไม่ได้ชีวิตก็เห็นจะหาไม่. “
     
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พระนางสุภัททาราชกัญญาทรงสดับดังนั้นตรัสเรียกพวกนายพรานแล้วทรงมีพระราชดำรัสว่า
    “ ท่านทั้งหลาย ผู้เป็นเชื้อแถวของนายพราน ที่มาพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ จงฟังเรา เราฝันเห็นช้างเผือกผ่อง งามีรัศมี ๖ ประการ ฉันต้องการงาช้างคู่นั้น เมื่อไม่ได้ชีวิตก็เห็นจะหาไม่. “
    เหล่าพรานป่าได้ฟังพระเสาวนีย์เช่นนั้น จึงพากันกราบทูลว่า
    “ บิดาหรือปู่ทวด ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ก็ยังไม่เคยได้เห็น ทั้งยังไม่เคยได้ยินว่า พญาช้างที่มีงามีรัศมี ๖ ประการ. พระนางเจ้าทรงนิมิตเห็นพญาช้างมีลักษณะเช่นไร ขอได้ตรัสบอกพญาช้างที่มีลักษณะเช่นนั้น แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด พระเจ้าข้า. “
    (พวกนายพรานไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นพญาช้างฉัททันต์มาก่อนเลย จึงไม่ทราบลักษณะรูปร่าง จึงกราบทูลถามลักษณะของเศวตกุญชรที่งามีรัศมี ๖ ประการ)
    เหล่าพรานไพรถามต่อว่า
    “ ทิศใหญ่ ๔ ทิศน้อย ๔ เบื้องบน ๑ เบื้องล่าง ๑ ทิศทั้ง ๑๐ นี้. พระองค์ทรงนิมิตเห็นพญาช้าง ซึ่งมีงามีรัศมี ๖ ประการ อยู่ทิศไหน พระเจ้าข้า. “
     
  14. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    เมื่อพวกพรานทูลถามอย่างนี้แล้ว พระนางสุภัททาราชเทวีจึงทรงพินิจดูพรานป่าทั้งหมด ทรงทอดพระเนตรเห็นพรานป่าคนหนึ่ง ชื่อโสณุดร ทรงทราบด้วยญาณระลึกชาติได้ว่า เป็นคู่กรรมตามจองเวรพญาช้างฉัททันต์อยู่ รูปร่างแสดงความเป็นพรานป่าเยี่ยมกว่าทุกคน รูปทรงสัณฐานชั่วเห็นแจ้งชัด เช่น มีเท้าใหญ่ แข้งเป็นปมดังก้อนภัตต์ เข่าโต สีข้างใหญ่ หนวดดก เคราแดง ตาเหลือง จึงทรงดำริว่า ผู้นี้จักสามารถทำตามคำของเราได้. แล้วกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตพระเจ้าพาราณสี ทรงเสด็จดำเนินนำพรานโสณุดรขึ้นไปยังพื้นปราสาทชั้นที่เจ็ด ทรงเปิดสีหบัญชรด้านทิศเหนือ แล้วเหยียดพระหัตถ์ ชี้ตรงไปยังป่าหิมพานต์ด้านทิศเหนือ ตรัสว่า
    “ จากที่นี้ตรงไปทิศอุดร ข้ามภูเขาสูงใหญ่ ๗ ลูก เขาลูกสูงที่สุดชื่อ สุวรรณปัสสคิรี มีพรรณไม้ผลิดอกออกบานสะพรั่ง มีฝูงกินนรเที่ยวสัญจรไปมาไม่ขาด. “
    “ ท่านจงขึ้นไปบนภูเขา อันเป็นที่อยู่แห่งหมู่กินนร แล้วมองลงมาตามเชิงเขา. ทันใดนั้น จะได้เห็นต้นไทรใหญ่ สีเสมอเหมือนสีเมฆ มีย่านไทร ๘,๐๐๐ ห้อยย้อย. ใต้ต้นไทรนั้น พญาเศวตกุญชรตัวมีงามีรัศมี ๖ ประการอยู่อาศัย ยากที่ใครอื่นจะข่มขี่จับได้. “
    “ ช้างประมาณ ๘,๐๐๐ มีงาเท่างอนไถ วิ่งไล่เร็วปานลมพัด พากันแวดล้อมรักษาพญาเศวตกุญชรนั้นอยู่ ช้างเหล่านั้นย่อมบันลือเสียงน่าหวาดกลัว. โกรธแม้แต่ลมที่พัดถูกตัว ถ้าเห็นมนุษย์ ณ ที่นั้นเป็นต้องขยี้เสียให้เป็นภัสมธุลี แม้แต่ละอองก็ไม่ให้ถูกต้องพญาช้างได้เลย. “
     
  15. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    <!--cached-Wed, 24 Aug 2011 16:57:44 +0000-->นายพรานโสณุดรฟังพระเสาวนีย์แล้ว หวาดกลัวต่อมรณภัยยิ่งนัก กราบทูลว่า
    “ ข้าแต่พระราชเทวี เครื่องอาภรณ์ที่แล้วไปด้วยเงิน แก้วมุกดา แก้วมณี และแก้วไพฑูรย์ มีอยู่ในราชสกุลมากมาย. เหตุไร พระแม่เจ้าจึงทรงประสงค์เอางาช้างมาทำเป็นเครื่องประดับเล่า. "
    " พระแม่เจ้าทรงปรารถนาจะให้ฆ่าพญาช้าง ซึ่งมีงามีรัศมี ๖ ประการเสีย หรือว่าจะให้พญาช้างฆ่าพวกเชื้อแถวของนายพราน เสียกระมัง. “

    พระนางสุภัททาทวีตรัสคาถา ความว่า
    “ ดูก่อนนายพราน เรามีทั้งความริษยา ทั้งความน้อยใจ เพราะนึกถึงความหลังเข้า ก็ตรอมใจ ขอท่านจงทำตามความประสงค์ของเรา เราจักให้บ้านส่วยแก่ท่าน ๕ ตำบล. “
     
  16. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    <!--cached-Wed, 24 Aug 2011 16:57:44 +0000-->เมื่อพระนางสุภัททาเทวีตรัสบอกความในพระทัยอย่างนี้แล้ว ตรัสปลอบโยนนายพรานโสณุดรให้คลายหวาดกลัวและมีความมั่นใจว่า สหายพรานเอ๋ย ในชาติก่อน เราได้ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่า ขอให้เราเป็นคนสามารถ ที่จะให้ฆ่าพญาช้างฉัททันต์เชือกนี้ เอางาทั้งคู่มาให้ได้. ใช่ว่า ฉันจะฝันเห็นก็หามิได้. ความปรารถนาที่ฉันตั้งไว้ต้องสำเร็จ เจ้าไปเถิด อย่ากลัวเลย.
    เมื่อนายพรานโสณุดรมั่นใจว่าการนี้จะสำเร็จ จึงรับปฏิบัติตามพระเสาวนีย์ของพระนางว่า ตกลงพระแม่เจ้า. แล้วทูลว่า ถ้าเช่นนั้น พระแม่เจ้า โปรดชี้แจงที่อยู่ของพญาช้างฉัททันต์นั้นให้แจ่มแจ้ง แล้วจึงทูลถามต่อว่า
    “ พญาช้างนั้นอยู่ที่ตรงไหน เข้าไปยืนอยู่ที่ไหน ทางไหนเป็นทางที่พญาช้างไปอาบน้ำ อนึ่ง พญาช้างนั้นอาบน้ำอย่างไร ทำไฉนข้าพระพุทธเจ้าจึงจะรู้คติของพญาช้างได้. “
    (หมายเหตุ : คติ คือ ที่ไป)
    ด้วยพระญาณที่ระลึกชาติได้ พระนางสุภัททาจึงตรัสบอกได้อย่างละเอียดว่า
    “ ในที่ๆ พญาช้างอยู่นั้น มีสระอยู่ใกล้ๆ น่ารื่นรมย์ มีท่าราบเรียบ ทั้งน้ำก็มาก สะพรั่งไปด้วยพรรณไม้ดอก มีหมู่ภมรมาคลึงเคล้า พญาช้างลงอาบน้ำในสระนี้แหละ. “

    “ พญาช้างชำระศีรษะแล้ว ทัดทรงมาลัยอุบล มีร่างเผือกผ่องขาว ราวกะดอกบุณฑริก บันเทิงใจ. ให้มเหสีชื่อว่าสัพพภัททา เดินหน้า ดำเนินไปยังที่อยู่ของตน. “
     
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    นายพรานโสณุดรฟังพระเสาวนีย์แล้ว ทูลรับสนองว่า ดีละ พระแม่เจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจักฆ่าช้างนั้นนำเอางามาถวาย.
    พระนางสุภัททาราชกัญญาทรงชื่นชมนายพรานโสณดร แล้วทรงยินดีประทานทรัพย์แก่เขาพันหนึ่งเป็นรางวัลเบื้องต้นก่อน แล้วรับสั่งว่า เจ้ากลับไปเรือนก่อนเถิด อีกเจ็ดวันจึงค่อยมาหาฉัน แล้วไปที่นั่น.
    เมื่อส่งนายพรานป่าไปแล้ว รับสั่งให้ช่างเหล็กมาเฝ้า ทรงบัญชาว่า พ่อคุณ ฉันต้องการมีดพับ ขวาน จอบ สิ่ว ค้อน มีดตัดพุ่มไผ่ เคียวเกี่ยวหญ้า มีดดาบ ท่อนโลหะแหลม เลื่อย และหลักเหล็กสามง่าม พ่อจงรีบทำของทั้งหมดมาให้ฉัน. แล้วรับสั่งให้ช่างหนังมาเฝ้า ทรงบัญชาว่า พ่อคุณ พ่อควรจะจัดทำกระสอบหนัง สำหรับใส่สัมภาระ หนักประมาณหนึ่งกุมภะ ให้เรา. เราต้องการเชือกหนัง สายรัด ถุงมือ รองเท้า และร่มหนัง. พ่อจงช่วยทำของทั้งหมดนี้ มาให้เราด่วนด้วย.
    ช่างทั้งสองรับพระบัญชาแล้วก็รีบทำของทั้งหมดจนเสร็จ แล้วนำมาถวายแด่พระนางสุภัททาเทวี



    พระนางสุภัททาเทวีทรงตระเตรียมเสบียงให้นายพรานโสณุดร ตั้งแต่ไม้สีไฟ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นทั้งหมด บรรจุเครื่องอุปกรณ์ทุกอย่างและเสบียง เช่น สัตตุก้อน ใส่ลงในกระสอบหนัง เครื่องอุปกรณ์และเสบียงทั้งหมดนั้นหนักประมาณกุมภะหนึ่ง.
    ฝ่ายนายพรานโสณุดรนั้นเตรียมตัวเสร็จแล้ว เมื่อครบกำหนดเจ็ดวัน ก็มาเฝ้าถวายบังคมพระนางสุภัททาราชเทวี. พระนางรับสั่งกับนายพรานว่า เครื่องอุปกรณ์ทุกอย่างของเจ้าสำเร็จแล้ว เจ้าจงลองยกกระสอบนี้ดูก่อน.
    นายพรานโสณุดรนั้นเป็นคนมีพละกำลังมากดังช้างสารห้าเชือก จึงสามารถยกกระสอบได้ง่ายมาก คล้ายดังยกกระสอบพลูแล้วสะพายบ่า ยืนเฉยดุจยืนมือเปล่า. พระนางสุภัททาจึงประทานข้าวของแก่พวกลูกๆ ของนายพราน แล้วกราบทูลให้พระราชาทรงทราบ จัดส่งนายพรานโสณุดรไป.



    นายพรานป่าโสณุดรขึ้นราชรถที่จัดเตรียมรอไว้ ออกเดินทางจากพระนคร มีฝูงชนต่างมุ่งดูนายพรานป่านั่งราชรถวิ่งผ่านไป ผ่านย่านหมู่บ้าน นิคมต่าง ๆ ชนบทใกล้เขตป่า เดินเท้าต่อเข้าไปอีกผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ ในป่า เข้าป่าลึกไปอีกจนสุดเขตแดนที่คนไปตั้งบ้านเรือนอยุ่ เป็นระยะทาง 30 โยชน์ ก็ถึงป่ารกชัฏ 18 แห่ง มีป่าหญ้าแพรก ป่าเลา ป่าหญ้า ป่าแขม ป่าไม้มีแก่น ป่าไม้มีเปลือก 6 แห่ง เป็นที่รกชัฏเต็มไปด้วยพุ่มหนาม ป่าหวาย ป่าไม้เบญจพรรณเขตร้อน ป่าไม้อ้อ ป่าทึบซึ่งแม้นงูก็เลี้อยเข้าไปได้ยาก ป่าไผ่ ที่ขึ้นเต็มไปหมดจนนายพรานป่าต้องตัดไม้ทำพองพาดขึ้นไป แล้วตัดยอดไผ่ให้ตกลงเป็นพุ่มแล้วไต่เดินทรงตัวบนยอดพุ่มไม้ที่ทำนั้น ราวกับเดินบนยอดไม้ได้ยังกระรอก
    ป่าที่เต็มไปด้วยเปลือกตมล้วน ๆ ก็ต้องตัดไม้เลียบแห้ง ๆ เป็นท่อน ๆ วางผาดเดินแล้วยกท่อนที่เดินผ่านมาวางผาดเดินต่อไป ราวกับเดินบนโคลนโดยไม่จมได้ยังแมลงน้ำ
    ป่าพรุน้ำล้วน ๆ ก็ต้องต่อเรือโกลนข้ามไป ก็ถึงเชิงผา ก็ต้องเอาเชือกผูกเหล็กสามง่าม ขว้างขึ้นไปให้ติดตามร่องหรือก้อนหินที่มั่นคง แล้วโหนตัว ปีนหน้าผาขึ้นไป พอปีนขึ้นถึงยอดเขาได้ ก็เหวี่ยงเชือกหนังที่มีตาขอลงไปเกี่ยวก้อนหิน ยึดเชือกหนังลงมาผูกที่หลักข้างล่าง แล้วโรยตัวลงไป พอถึงแล้วกระตุกหลักให้หลุด ทำคล้ายแมงมุมชักใยลอยไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 สิงหาคม 2011
  18. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    บางคราวเมื่อขึ้นถึงยอดเข้าได้แล้ว ทางลงลำบากมาก ลมแรงจัด นายพรานป่าก็ต้องใช้เชือกหนังผู้กระสอบหนังพันกระสอบ แล้วใช้เหล็กสามง่ามผูกเชือกเหวี่ยงไปคล้องอีกยอดเขาหนึ่ง เชือกหนังคล้องเชือกที่เหวี่ยงไป แล้วตนเองนั่งในกระสอบโรยตัวสาวไปจนถึงอีกยอดหนึ่ง เหมือนดังนกถลาปีกโฉบลงมา



    นายพรานป่าโสณุดรต้องข้ามเขาถึง 6 ลูก จนมาถึงเขาลูกที่ 7 ชื่อ สุวรรปัสสะอันสูงเด่น ขึ้นเขาลูกนี้จนถึงยอด ซึ่งเป็นที่อยู่ของกินนร ยืนสะพายแล่งคันศรและธนูใหญ่มองลงมายังเชิงเขาอีกด้าน เห็นต้นไทรใหญ่สีเขียว มีย่านไทรห้อยย้อยมากมาย มองไปรอบ ๆ ดุจสัตว์ร้ายที่กำลังหาเหยื่อล่า ไม่ไกลจากตันไทรนัก




    ทันใดนั้นเอง..............................................



    ร่างของช้างเผือกขาวผ่อง สูงใหญ่ งาทั้งคู่มีรัศมีส่องประกาย 6 สี มีช้างประมาณ 8000 เชือก แต่ละเชือกมีงางามงอน ขนาดคันไถ วิ่งเร็วดุจลมพัด แวดล้อม พญาช้างเผือกนั้น ยากที่พรานผู้ใดจะจับได้ นี้คือการเห็นพญาช้างฉัททันต์ครั้งแรกของนายพรานป่าโสณุดร ก็รู้สึกถึงบารมีที่น่าเกรงขามแล้ว ความยากลำบากดังที่พระนางสุภัททาเทวีตรัสไว้แล้ว
    นายพรานป่าเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของพญาช้างฉัททันต์และฝูงโขลงช้างป่า ยืนมองไปรอบ ๆ เห็นท่าน้ำก็ราบเรียบ มีน้ำเต็ม พรรณไม้ดอกป่านานาชนิดนานาพันธ์ล้วนงดงามบานสะพรั่ง ต่างส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรไกล ยั่วยวนชวนหมู่ภมรเที่ยวลอยบินชม จนต้องลงมาเคล้าคลึงดอกไม้ ดูดน้ำหวานจากดอกไม้แล้วก็จากไป ธรรมชาติอันงดงามอย่างนี้ มิอาจทำให้ใจของนายพรานป่าอ่อนโยน มีเมตตาได้ ในใจคิดแต่หาวิธีจัดการฆ่าพญาช้างฉัททันต์ ราวกับเสือร้ายที่คอยซุ่มดักฝูงเหยื่อที่กล้าแข็ง การเผชิญหน้ากันระหว่างนายพรานป่ากับพญาช้างฉัททันต์ในป่านี้คงเกิดขึ้นแน่นอน แต่จะเมื่อไหร่



     
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    นายพรานโสณุดรลอบสังเกตพฤติกรรมของพญาช้างนานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน จึงทราบพฤติกรรมต่าง ๆ ว่า พญาช้างลงอาบน้ำที่ท่าน้ำไหน เมื่อไหร่ พักอยู่ที่ไหน เวลาไหนที่เข้าที่พักแล้วไม่มีบริวารทั้ง 8000 เชื่อกอยู่รอบกาย ใช้เวลาเตรียมสถานที่ ตัดไม้ ทำเสารอไว้ นายพรานโสณุดรต้องรอเวลาช่วงที่ตนสามารถเข้าไปเตรียมการฆ่าพญาช้างได้ตอนช่วงที่พญาช้างฉัททันต์และบริวารช้างไปอาบน้ำกันหมด จึงลอบเข้าไปขุดหลุมตำแหน่งที่พญาช้างพักเอาน้ำราด ปักเสาลงบนหิน ใส่ชื่อ ปูกระดานเลียบไว้ เจาะช่องขนาดคอลอดได้ แล้วโรยฝุ่น เกลี่ยขยะมูลฝอยพลางด้านบนปิดไว้ แล้วทำทางที่เข้าออกของตนได้ เมื่อหลุมเสร็จแล้ว เวลาใกล้รุ่งเช้า จึงคลุมศรีษะ นุ่งผ้ากาสาวพัสตร์อย่างนักบวช ถือธนู พร้อมด้วยลูกศรอาบยาพิษ ลงไปในหลุมดักทำร้าย
    เมื่อพญาช้างฉัททันต์เข้าที่พัก นายพรานโสณุดรลอบยิงศรอาบยาพิษถูกพญาช้างเข้าที่นาภี(สะดือ)แล่นผ่านตัดอวัยวะน้อยใหญ่ สำไส้ ไตจนฉีกขาด ทะลุออกหลังพญาช้างยังมีแรงส่งลอยไปในอากาศได้อีก ปากแผลบริเวณหลังเหวอะหวะ คล้ายถูกคมขวานฟัน เลือดไหลออกทางปากแผลต่อเนื่อง ดังน้ำย้อมผ้าสีแดงไหลออกจาหม้อย้อม พญาช้างอดกลั้นเวทนาที่แรงไม่ได้ จึงส่งเสียงก้องสนั่นไปทั่วป่า ทำให้เหล่าช้างบริวารทั้งหมดทราบว่า พญาช้างมีภัย ต่างพากันวิ่งมายังที่พักของพญาช้าง
     
  20. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    เมื่อพญาช้างอดกลั้นเวทนาได้แล้ว ดูทิศทางที่ลูกศรพุ่งมา พิจารณาก็รู้ว่า จะต้องมาจากเบื้องล่างด้านหน้า จึงจะทะลุเข้าที่สะดือก่อน แล้วแล่นทะลุออกหลังด้านหาง ดังนั้นผู้ยิงเราต้องอยู่ใต้ดินด้านหน้าเรา พญาช้างเกรงว่า ภัยจะเกิดกับนางช้างมหาสุภัททาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พญาช้าง และทราบว่าเหล่าช้างบริวารต่างพากันได้ยินเสียงร้องของตน จะพากันวิ่งมา ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายได้ จึงหันไปบอกนางช้างว่า
    “ น้องรัก ช้างทั้ง 8000 เชือกย่อมค้นหาศัตรูของพี่ ต่างพากันวิ่งไปตามทิศต่าง ๆ สัตว์ป่าในเขตนี้ย่อมเดือดร้อนกัน เจ้ามัวทำอะไรอยู่ที่นี้เล่า “
    นางช้างมหาสุภัททาตอบว่า “ ท่านพี่เจ้าขา ดิฉันยืนคอยพยาบาลปลอบใจท่านอยู่ ขอท่านพี่อดโทษแก่ดิฉันด้วยเถิด “ แล้วทำความเคารพเวียนขวา 3 รอบ แล้วเหาะไปในอากาศ




    เมื่อนางช้างมหาสุภัททาไปแล้ว พญาช้างก็เอาเล็บเท้ากระชุ่นพื้นดิน ทำให้แผ่นกระดานกระดกขึ้น พญาช้างฉัททันต์ก็มองเห็นนายพรานโสณุดรที่ลอบยิงตนพร้อมธนู ก็โกรธจัด จะฆ่านายพรานโสณุดร สอดงวงงามราวกะพวงเงินลงไปจับรัดนายพรานป่าขึ้นมา จึงเห็นนุ่งผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ จึงเกิดสติ ศีลแห่งการไม่เบียดเบียนขึ้น สำนึกแห่งความดีอันยิ่งยวดที่สะสมจนเป็นบารมีธรรมในใจ จนเป็นอุปนิสัย สันดานของพระโพธิสัตว์ที่ผ่านการฝึกอบรมตน เพาะบ่มมานาน ย่อมไม่ทำกรรมอันหยาบช้านั้น ถึงแม้นตนจะถูกทำร้ายได้รับทุกขเวทนาอย่างหนักจนถึงแก่ชีวิตก็ตาม สามารถพิจารณาใคร่ครวญได้ว่า ธงชัยแห่งพระอรหันต์ ไม่ควรที่บัณฑิตจะทำลาย ควรแต่สักการะเคารพอย่างเดียวโดยแท้ จึงวางนายพรานป่าลงด้านหน้า



     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...